Share

บทที่ 16

Author: โมเนโต้
”นายน้อยวิลสัน คุณมาทำอะไรที่นี่”

อีวานทักทายนายน้อยของตระกูลวิลสัน ทันทีที่สังเกตเห็นเขา

“คุณพูดอะไรนะก่อนหน้านี้ นายน้อยวิลสัน? ห้าสิบล้าน? คุณยินดีที่จะเสนอห้าสิบล้านเหรียญ ยิ่งกว่าถูกรางวัลอีกใช่ไหม”

ดวงตาของฟิโอน่าเต็มไปด้วยอารมณ์หลากหลาย “คุณพูดจริงใช่ไหม?” เธอพูดออกมา

อย่างหนึ่งที่เรารู้ว่า วิลสันและคาร์ก ต่างก็เป็นตระกูลชนชั้นสูง พูดง่าย ๆ ก็คือพวกเขาร่ำรวยกว่าตระกูลเทย์เลอร์เป็นอย่างมาก

“แน่นอนคุณป้า เราดูเหมือนคนที่กลืนคำพูดของพวกเขาหรือไม่? ผมยังคงเป็นสมาชิกของตระกูลวิลสัน ดังนั้นผมทำตามคำพูดเสมอ!”

นายน้อยวิลสันหัวเราะเบา ๆ ในขณะที่เขาพูด แต่เขาก็ชื่นชมรูปร่างที่สมบูรณ์แบบของเซเลน่า ในเวลาเดียวกัน เขาไม่สามารถห้ามตัวเองไม่ได้ที่จะแอบกลืนน้ำลาย

นายน้อยวิลสันอ้วนมาก มากจนดูเหมือนหมู ไม่เพียงที่เป็นคนตะกละมากเท่านั้น แต่เขาก็มักมากในเรื่องผู้หญิงด้วยเช่นกัน

เขารู้สึกหลงเสน่ห์ทันทีเมื่อได้สบตากับเซเลน่าและความงามที่ไม่มีตัวติบนเธอ เมื่อเขารู้ว่าเธอแต่งงานกับเด็กส่งของบ้าน และตั้งครรภ์ในเวลาต่อมาเขาก็โกรธมาก

ถึงอย่างนั้นความงามของเซเลน่าก็ยังไม่จางหายไปแม้เธอจะคลอดลูกแล้ว เธอดูสวยและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ร่างกายของเธอเปล่งประกายด้วยความเป็นกุลสตรี เขายอมทำทุกอย่างเพื่อให้เธออยู่กับตัวเขา

ยิ่งไปกว่านั้นเซเลน่ายังเป็นที่รู้จักในฐานะหญิงสาวที่สวยที่สุดในเมือง การแต่งงานกับเธอจะเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อและน่าภาคภูมิใจที่ได้มาครองต่อหน้าผู้ชายคนอื่น ๆ

“ดีมาก ฉันจะยึดมั่นในคำพูดของคุณ!”

ฟีโอน่าปรบมือหัวเราะเบา ๆ ขณะที่เธอเดินเข้าไปใกล้เซเลน่า “ได้ยินไหมเซเลน่า” เธอพูด “เฟนด์คนนั้นพูดถึงสิบล้าน นายน้อยวิลสันคนนี้เสนอที่จะจ่ายห้าสิบล้านเหรียญแทนและเขาก็สนใจเธอมาตลอด เท่าที่ฉันเห็นเขาก็ไม่ได้เลวร้ายเกินไป เธอควรใช้ความคิดในการตัดสิน เพียงแค่เธอพยักหน้าแม่จะทำให้เจ้าเด็กเฟนด์คนนั้นออกไปในทันที!”

ทันทีที่เซเลน่าได้ยินคำพูดนั้น เธอเกือบจะหมดสติไปแล้ว เธอแทบจะไม่สามารถแสดงท่าทีที่สงบ ทำได้เพียงแค่มองไปที่รูปลักษณ์ของ นายน้อยวิลสัน แม้ว่านายน้อยคลาร์กคนนั้นจะไม่ใช่ผู้ชายที่น่าพอใจเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยเขาก็หล่อ ชายคนนั้นจากตระกูลวิลสัน ที่ดูอ้วนและหูของเขาใหญ่เกินไป เธอรู้สึกอยากอาเจียนเพียงแค่จ้องมองเขา

แล้วเธอก็เถียงว่า “แม่ นี่มันการแต่งงานของลูกสาวคุณหรือแม่ขายหนูกันคะ? ดังนั้นแม่คิดจะส่งลูกสาวของแม่ให้ใครก็ตามที่เสนอราคาสูงสุด? ทำไมแม่ไม่ประมูลหนูออกไปเลยล่ะ”

เซเลน่ากล่าวเสริมอย่างโกรธ ๆ ว่า “แม้แต่คุณปู่ก็ตกลงที่จะให้ฉันแต่งงานกับเฟนด์และข้อตกลงที่ได้กำหนดไว้ก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำ คุณจะลงมือทำตามใจตัวเองได้อย่างไรและแก้ไขเปลี่ยนแปลงตามที่คุณต้องการเท่านั้นหรือ”

“เซเลน่านั่นไม่ใช่สิ่งที่แม่หมายถึง เฟนด์คนนั้นเป็นเด็กส่งของและเขาเป็นทหารมาได้ไม่กี่ปี แล้วเธอคงไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะสามารถหาทุกสิ่งที่เธอต้องการตอนนี้ได้หรือไม่”

เมื่อเธอพูดจบฟีโอน่าก็ชี้ไปที่เฟนด์ก่อนที่เธอจะพูดต่อว่า “ฉันไม่ได้ดูถูกเขานะ แค่ไม่เชื่อว่าเขาจะสามารถหาเงินได้สามสิบล้านเหรียญในหนึ่งเดือนนี้ใช่หรือไม่? ฮิฮิ! เพียงแค่คุณรอ ถ้าเขาจะไม่สามารถทำเงินได้มากขนาดนั้นหลังจากผ่านไปหนึ่งเดือน ถึงตอนนั้นฉันจะไล่เขาออกจากตระกูลของเรา!”

“เฟนด์ วู๊ดหรือ? ผู้ชายคนนี้คือ เฟนด์ วู๊ดหรอกเหรอ พ่อที่ไร้ค่าของไคลีกลับมาแล้วเหรอ”

นายน้อยวิลสันตกตะลึงพินิจพิเคราะห์เฟนด์อย่างระมัดระวัง "ฮิฮิ ดูเหมือนว่ารูปลักษณ์ของเขาจะเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ดูดีสำหรับเขา” เขาพูด “ เขาแต่งตัวเรียบๆ เขาจะคู่ควรกับเซเลน่าอย่างไร”

“คุณแน่ใจนะว่าพูดแต่เรื่องไร้สาระ!”

เฟนด์จ้องมองเขาอย่างเย็นชา เขาพูดอย่างอ่อนน้อม “นี่คือบ้านของตระกูลเทย์เลอร์ คุณเป็นคนนอกมาทำอะไรที่นี่? ถ้าคุณไม่มีจุดประสงค์ที่นี่ ไสหัวไปซะ!”

“ฮ่า ฮ่า! คำพูดที่ก้าวร้าวเช่นนี้ คุณไม่ทราบหรือไม่ว่าตระกูลวิลสันของเรา มีความสำคัญเพียงใด”

นายน้อยวิลสันพูดเสียงดังแล้วกล่าวเสริมว่า “ฉันมาที่นี่โดยไม่มีจุดประสงค์จริง ๆ เหรอ? ฉันมาที่นี่เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับความร่วมมือของเรากับนายน้อยเทย์เลอร์ บังเอิญมีบางอย่างที่อยากจะทำงานร่วมกันกับเทย์เลอร์!”

ทันทีทีนายใหญ่เทย์เลอร์ ได้ยินคำพูดนั้นเขาก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง เขาพูดว่า “ฮ่า ฮ่า ยินดีต้อนรับเชิญนั่งก่อนนายน้อยวิลสัน!”

“ไม่ไม่เป็นไรครับนายใหญ่ ผมจะคุยกับนายน้อยวิลสันเอง!”

นายน้อยวิลสันมองไปที่อีวานก่อนที่เขาจะพูดด้วยสีหน้าแปลก ๆ “นายน้อยอีวานเกิดอะไรขึ้นกับมือของคุณ ทะเลาะกับใครรึเปล่า ใครกล้าที่จะสู้กับคุณ?”

การแสดงออกของอีวานขมขื่นมากขึ้นเมื่อเขาจ้องมองเฟนด์เขาตอบอย่างเสียงแหบว่า “คนบ้าน่ะ ไม่มีอะไรมาก ฉันแค่ล้อเล่นกับไคลีลูกสาวของเขาและเขาก็มาทุบตีฉันโดยไม่พูดอะไรสักคำ”

ไมเคิลตะลึงหลังจากได้ยินคำพูดนั้น เขาพูดหลังจากมองไปที่ เฟนด์ “โอ้ งั้นมันเป็นของไร้ค่าก็งั้นแหละ คาดไม่ถึงจริง ๆ ว่าเขากล้ามากที่จะตีคุณ เขามีความสามารถ ฉันละยอมนายเรื่องนั้นเลย!”

“ฮ่า ฮ่า ไม่เป็นไร เรามีเดิมพัน เขาบอกว่าหลังจากหนึ่งเดือนในวันเกิดปีที่เจ็ดสิบของคุณปู่ เขาจะจ่ายเงินค่าชดเชยให้ฉันสิบล้านเหรียญ! นอกจากจะมอบค่าสินสอดสิบล้านเหรียญให้กับครอบครัวของเซเลน่า แล้วเขายังให้ของขวัญแก่ปู่มูลค่าสิบล้านเหรียญอีกด้วย!”

“ถ้าเขาล้มเหลวเขาจะเนรเทศตัวเองออกจากตระกูลเทย์เลอร์และหย่ากับเซเลน่า! เขาจะคลานจากตรงนี้ออกไปที่ประตู!”

อีวานส่งเสียงดังและพูดว่า “ใช่แล้วนายน้อยวิลสัน คุณต้องมาดื่มฉลองในช่วงวันเกิดปีที่เจ็ดสิบของคุณปู่ของเรา คุณต้องดูว่าเจ้าเด็กเหลือขอตัวนี้จะคลานออกมาจากประตูหน้าได้อย่างไร!”

“ฮ่า ฮ่า! ได้เลย ระยะทางจากที่นี่ไปประตูหน้าค่อนข้างไกล ฉันเดาว่าเขาจะไม่สามารถใช้เวลาอันน้อยนิดได้!”

นายน้อยวิลสัน ร้องเสียงหลงและมองไปที่เซเลน่า จากนั้นเขาก็พูดว่า “ไม่ต้องกังวลเซเลน่า ที่ฉันมีมากคือเวลาและฉันยินดีที่จะรอคุณ ที่จะมีอิสระอีกครั้งหลังจากที่เด็กเหลือขอคนนี้ถูกเนรเทศจากตระกูลเทย์เลอร์หลังจากนี้หนึ่งเดือนและนั่นหมายความว่าคุณจะเป็นโสด เมื่อถึงวันนั้นอย่าเมินฉันอีก!”

“เอาล่ะ ไปกันเถอะนายน้อยวิลสัน เรายังมีเรื่องสำคัญที่ต้องพูดคุยกัน!”

อีวานมีใบหน้าที่ดูดีขึ้น ตั้งแต่วันที่เขาถูกเฟนด์ทุบตีอย่างโหดร้าย แต่ถ้ามันทำให้เฟนด์สามารถถูกเนรเทศออกจากตระกูลได้มันจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่จะเกิดขึ้น!

เขาเชื่อว่าเฟนด์ จะทำอะไรไม่เป็นนอกจากการเป็นนักเลง เป็นเพียงคำพูดเพื่อรักษาความภาคภูมิใจของเขา เขาสนใจที่จะดูว่าเด็กเหลือขอคนนี้จะทำให้ตัวเองอับอายมากแค่ไหนเมื่อเถึงเวลา

ไม่นานอีวานจากไปพร้อมกับนายน้อยวิลสัน!

“เอาล่ะพวกคุณก็ออกไปได้เช่นกัน อย่าทำให้ฉันผิดหวังในหนึ่งเดือนนับจากนี้!”

นายใหญ่เพิ่งตระหนักว่ากำลังจะออกไปข้างนอกสาย ในขณะที่เขาโบกมือไล่อย่างรีบร้อน

แม้ว่าพฤติกรรมของเฟนด์จะไม่เป็นไปตามความคาดหมายของเขา แต่ความคิดที่ว่าหลานสาวของเขาจะแต่งงานกับชายยากจนซึ่งทำให้เขาอับอาย ทำให้เขายิ่งไม่พอใจมากขึ้น ในขณะนี้ในคฤหาสน์ที่หรูหรา ซึ่งเป็นของชายที่ร่ำรวยที่สุดในเมือง เจมส์ โลเนอร์ กำลังมองไปที่ชายวัยกลางคน หลังจากครุ่นคิดบางอย่างเขาก็พูดว่า “ไอ้เด็กสารเลวที่กลับมาพร้อมกับเทพเจ้าแห่งสงครามลาน่าชื่อว่า เฟนด์ วู๊ด ฉันเดาว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด สำหรับฉันมันน่าสนใจ! ฉันต้องการคำตอบโดยเร็วที่สุด!”

ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเขาคือผู้ช่วยที่มีประสิทธิภาพที่สุดของเจมส์ เขารับใช้ตระกูลโลเนอร์ ได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ

หลังจากที่เขาฟังคำพูดนั้นเขาก็ขมวดคิ้วและพูดว่า “นายท่าน ผมคิดว่าไม่จำเป็นสำหรับสิ่งนั้น แม้ว่าเจ้าเด็กสารเลวคนนั้นจะมีความผูกพันธ์กับเทพเจ้าแห่งสงครามลาน่าอยู่บ้าง แต่เขาก็ไม่มีคุณค่ามากพอที่เป็นประโยชน์สำหรับเราใช่ไหม?”

เมื่อเขาพูดเช่นนั้นเขาก็ยิ้มและพูดว่า “ทำไมเราไม่ตามถอนรากถอนโคลนเพื่อหลอกล่อเทพเจ้าแห่งสงครามผู้ยิ่งใหญ่ นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเรา!”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status