Share

บทที่ 2035

Auteur: โมเนโต้
คำพูดง่าย ๆ เช่นนี้ทำให้ทั้งมอร์ตันและเจอรัลด์ตกตะลึง ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ และปากของพวกเขาก็อ้าค้าง

มอร์ตันหัวเราะแห้ง ๆ รำพึงกับตัวเองว่าบรู๊คอาจเสียสติไปแล้ว ทำไมบรู๊คถึงพูดอะไรไร้สาระเช่นนี้ออกมา? เฟนด์และเวสลีย์ประลองเดิมพันกันไปแล้ว และเฟนด์… เอาชนะเวสลีย์ได้งั้นเหรอ? ช่างไร้สาระอะไรเช่นนี้!

ทว่าสายตาแปลก ๆ ที่พวกเขาได้รับทำให้มอร์ตันชะงักไปโดยไม่รู้ตัว ในขณะที่เขากำลังจะปฏิเสธ

เจอรัลด์โพล่งขึ้น “นี่นายว่ายังไงนะ? เฟนด์จะเอาชนะเวสลีย์ได้ยังไง?” สีหน้าของเขามืดลงเมื่อเขาได้เบาะแสบางอย่าง เขาก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว

ศิษย์ภายนอกทุกคนรอบตัวพวกเขาได้ยินอย่างชัดเจน และทุกคนก็ได้ยินสิ่งที่บรู๊คพูด แต่ไม่มีใครปฏิเสธสิ่งที่เขาพูด และไม่มีสายตาแปลก ๆ มองมาที่เขาด้วย นั่นหมายความว่าบรู๊คไม่ได้ปั้นน้ำเป็นตัว เขากำลังพูดความจริง

แม้แต่คนที่โง่ที่สุดก็ยังรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ

มอร์ตันและเจอรัลด์กลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัวขณะที่พวกเขามองไปที่เฟนด์ด้วยสายตาที่ต่างออกไป ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมคนรอบข้างถึงมองพวกเขาราวกับตัวตลก ในที่สุดพวกเขาก็ตระหนักได้ถึงจุดผิดปกติในคำพ
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application
Chapitre verrouillé

Related chapter

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2036

    “ศิษย์อาวุโสเซเยอร์ ผมเชื่อว่าคุณเป็นคนที่มีความยุติธรรมและปราศจากอคติ จริงอยู่ที่ตอนแรกเรามีเรื่องทะเลาะวิวาทกับเขา แต่ก็ไม่มีอะไรเกินเลยไปมากกว่านั้น แม้ว่าหมอนั่นจะไม่พอใจ แต่เขาก็น่าจะคำนึงการสนับสนุนที่คุณมีต่อศิษย์พี่เวสลีย์ไว้บ้างและไม่ควรโจมตีเขารุนแรงเช่นนี้ ทักษะยุทธของธาตุวิญญาณทำให้ผู้คนบาดเจ็บสาหัส ผู้ชายคนนั้นไม่สนใจอะไรและทำร้ายศิษย์พี่เวสลีย์โดยตรง บาดแผลตามร่างกายของเขาสามารถรักษาให้หายได้โดยง่าย แต่บาดแผลพี่อยู่ในจิตวิญญาณของเขาไม่สามารถรักษาได้ในระยะเวลาอันสั้น!”นัยน์ตาแห่งความโกรธฉายแววผ่านนัยน์ตาสูงวัยของศิษย์อาวุโสเซเยอร์ ขณะที่เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย แต่ความโกรธดังกล่าวก็หายไปในไม่ช้า “ผู้ชายคนนี้ไม่เพียงแต่แข็งแกร่งเท่านั้น แต่เขายังมีอารมณ์ร้ายอีกด้วย ในฐานะผู้อาวุโสของตำหนัก ฉันจะลงไม้ลงมือกับเหล่าศิษย์ไม่ได้ แต่ถ้าฉันปล่อยให้ผู้ชายคนนี้พัฒนาตัวเองต่อไป สักวันหนึ่งเขาจะเหยียบหัวฉันไปด้วย”ชายผู้มีดวงตารูปสามเหลี่ยมรีบกล่าวเสริมคำพูดของอีกฝ่าย "ใช่แล้วล่ะครับ! ศิษย์อาวุโสเซเยอร์ หมอนี่น่ะจองหองมาก ไม่เพียงแค่นั้น ผมคิดว่าเขาทั้งหยิ่งยโสและเป็นพวกยอมหักไม่ยอมงออี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2037

    กลิ่นของชาที่หอมกรุ่นอบอวลไปทั่วพื้นที่ แต่เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ได้สนใจว่าชาจะมีกลิ่นที่ดีเพียงใด โนเอลพูดด้วยความอับจนหนทาง “สุดท้ายแล้ว เราก็ต้องทำสงครามกัน แต่สงครามปะทุขึ้นเร็วอย่างนี้ได้อย่างไร? ศิษย์น้องเฟนด์นายคิดที่จะเข้าร่วมสงครามครั้งนี้ด้วยหรือไม่? หากนายฆ่าศัตรูในระหว่างการต่อสู้ได้นายจะได้รับคะแนนสะสมเป็นจำนวนไม่น้อยเลย”คนหลายคนมองไปที่เฟนด์เป็นตาเดียวเมื่อพวกเขาได้ยินสิ่งที่โนเอลพูด เฟนด์ส่ายหน้าในทันที “จริงอยู่ที่ผมสามารถจะได้รับคะแนนสะสมไม่น้อย แต่หากผมรับงานนี้และออกจากตำหนักไปฆ่าคนจากอีกฝ่าย ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของผมผมไม่มั่นใจเลยว่าตัวเองจะปลอดภัย เราต่างก็รู้กันดีว่าสมาชิกของเผ่าปฐมหายนะเองก็ต้องการกำจัดสมาชิกจากตำหนักของเรา แต่แม้แต่สมาชิกในตำหนักนี้ก็ต้องการให้ผมตายด้วยเหมือนกัน”ผู้คนรอบตัวเขาเงียบลงทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่เฟนด์พูด พวกเขาสามารถระบุความนัยที่ซ่อนอยู่เบื้องคำพูดของเฟนด์ได้ แม้ว่าเฟนด์จะมีพรสวรรค์สูงกว่าคนอื่น ๆ แต่เขาก็ได้สร้างศัตรูมาจำนวนไม่น้อย หลายคนจะลงมือกับเฟนด์ด้วยความอิจฉาริษยา เวสลีย์และคนอื่น ๆ จะไม่ยอมให้เขาเติบโตอย่างแข็งแกร่

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2038

    ผู้ช่วยแชปแมนนำป้ายหยกประจำตัวสีแดงเรืองแสงออกมา ทั้งขนาดและวัสดุที่ใช้ล้วนดีกว่าป้ายหยกประจำตัวของศิษย์ทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด ชื่อ 'เมย์นาร์ด เซเยอร์' เขียนอยู่บนนั้น และแม้ว่าเฟนด์จะไม่รู้จัก เมย์นาร์ด แต่เขาก็เดาได้ว่านั่นคือป้ายหยกประจำตัวของศิษย์อาวุโสเซเยอร์จากนั้น ผู้ช่วยแชปแมนก็หยิบหยิบกระดาษสีเหลืองที่มีอักษรรูนหลายตัวเขียนอยู่ และวางไว้ตรงหน้าเฟนด์ “ฉันต้องการให้นายเซ็นเอกสารโอนกรรมสิทธิ์นี้”เฟนด์ชำเลืองมองไปที่โนเอลที่ยืนอยู่ด้านข้างแต่ตรวจไม่พบสิ่งแปลกปลอมในสีหน้าของเขา ดังนั้นเขาจึงเซ็นชื่อในกระดาษซึ่งลุกเป็นไฟทันทีหลังจากที่เขายกปากกาขึ้น สิ่งนี้ทำให้เขาตะลึงเล็กน้อย“ในตำหนักของเรามีกฎว่าไม่สามารถโอนคะแนนสะสมให้กันได้หากอีกฝ่ายไม่สมัครใจ หากนายต้องการโอนคะแนนสะสม นายต้องเซ็นชื่อในกระดาษโอน หลังจากลงนามในกระดาษโอนคะแนนแล้ว จะสามารถโอนคะแนนไปยังป้ายหยกประจำตัวของนายได้” ผู้ช่วยแชปแมนอธิบายอย่างเฉยเมยหลังสิ้นคำอธิบาย ป้ายหยกประจำตัวของเฟนด์ก็เริ่มเรืองแสงเล็กน้อย เฟนด์ตรวจดูคะแนนบนป้ายหยกด้วยพลังจิต และตามที่คาดไว้ คะแนนการสนับสนุนที่เป็นศูนย์ก่อนหน้านี้ของเขาเพิ่มขึ้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2039

    เฟนด์พยักหน้าและพูดว่า “ใช่ แค่สิบสี่วัน ผมมีแผนที่จะใช้คะแนนสะสมสิบคะแนนที่เหลือกับอย่างอื่น”เฟนด์คุ้นเคยกับความมืดที่เหนียวเหนอะหนะ และเช่นเคย เขาไม่ได้ขอให้โนเอลเลื่อนระดับความยากระดับห้า เขามั่นใจว่าเขาจะสามารถบ่มเพาะตัวเองภายใต้ความยากระดับห้าได้อยู่แล้ว แต่ความจริงก็คือความจริง ระดับห้านั้นถือว่ายากสำหรับเขาแต่หลังจากการบ่มเพาะครั้งก่อน เฟนด์ได้เข้าใจเรื่องหนึ่ง การถูกกระตุ้นที่แรงขึ้นไม่ได้แปรผันตามความเร็วของความก้าวหน้าในการบ่มเพาะตน เขาควรรักษาสมดุลโดยทำให้แน่ใจว่าคลื่นกระแทกวิญญาณจะไม่แรงหรืออ่อนเกินไป และในความยากระดับสี่ก็นับว่าเป็นระดับที่เหมาะสม หลังจากอัญเชิญประตูเรียงเนตรแล้ว เฟนด์ก็รู้สึกได้ถึงการกระตุ้นที่คุ้นเคยทันทีที่คลื่นกระแทกวิญญาณซัดเข้าใส่เขา เมื่อนั้นการฝึกของเขาจึงเริ่มต้นขึ้นครั้งนี้ เขาตั้งใจจะควบรวมดาบวิญญาณเล่มที่สี่ให้ได้ เวลาล่วงเลยไปและยิ่งเขาฝึกฝนมากเท่าไหร่ การฝึกก็ยิ่งยากขึ้นเท่านั้น หลังจากผ่านไปสี่วัน เขาเพิ่งจะสามารถควบแน่นดาบวิญญาณเล่มที่สี่ได้เพียงสองในสามส่วนเท่านั้นภายใต้สถานการณ์ปกติ สองในสามส่วนก็หมายความว่าความสำเร็จอยู่ไม่ไกล

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2040

    วันเวลาผ่านไปผ่านไปและสิ่งเดียวที่จะไม่เปลี่ยนแปลงก็คือความมืดอันดำสนิท ไม่ยากที่จะจินตนาการว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อสงครามระหว่างตำหนักสองกษัตริย์และเผ่าปฐมหายนะเริ่มขึ้น แม้ว่าเขาจะไม่ได้วางแผนที่จะเข้าร่วมแนวหน้า แต่ไม่ช้าก็เร็วเขาจะต้องเข้าร่วมเพื่อคะแนนสะสม เขาจะต้องเผชิญกับการทดสอบแบบไหนในเวลานั้น เขาก็ไม่แน่ใจในตัวเองนัก สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือการปรับปรุงระดับการบ่มเพาะของเขาอย่างต่อเนื่องเท่านั้นมีเพียงแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น เขาจึงจะสามารถปกป้องตัวเองในสงครามได้ แม้ว่าเขาจะต้องพบกับสถานการณ์ที่อันตราย แต่ด้วยพลังที่เพียงพอ เขาก็จะอยู่รอดได้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเฟนด์จึงอดทนฝึกฝนต่อไปแม้ว่าเขาจะเหนื่อยล้าทั้งกายและใจก็ตามหลังจากรวบรวมดาบวิญญาณเล่มที่สี่สำเร็จในวันที่หก เขาก็เริ่มควบแน่นดาบวิญญาณเล่มที่ห้าทันที เขาวางแผนที่จะใช้เวลาที่เหลือในการควบแน่นดาบวิญญาณเล่มที่ห้าให้เสร็จสมบูรณ์ เขายังคงได้เวทย์อัญเชิญ และคลื่นกระแทกวิญญาณโดยรอบยังคงถาโถมใส่เขาราวคลื่นยักษ์วันเวลาผ่านไปและกับล่วงเข้าถึงวันที่สิบสอง ดาบวิญญาณเล่มที่ห้าถูกควบรวมไปได้แล้วกว่าสองในสามส่วน แต่ปัญหาเด

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2041

    เขาหยิบโอสถสองเม็ดออกมาจากมัสตาร์ด ซี๊ด โอสถสองเม็ดลอยอยู่เหนือฝ่ามือของเขา เม็ดหนึ่งมีสีแดงอ่อน ๆ และเขารู้สึกได้ถึงพละกำลังที่เพิ่มขึ้นหลังจากได้ดมกลิ่นของมัน ในขณะที่โอสถอีกเม็ดเปล่งแสงสีดำออกมา เพียงแค่วางยานี้ไว้ใต้ปลายจมูก เขาก็รู้สึกสดชื่นและฟื้นคืนพลังโอสถทั้งสองชนิดนี้คือโอสถซานหยวนและโอสถทะลวงวิญญาณ หลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เฟนด์ก็ใส่โอสถทั้งสองนี้เข้าไปในปาก ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกถึงพลังงานที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายที่ด้านนอกประตูเรียงเนตร โนเอลนั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้ เขาส่ายหน้าและฮัมเพลงเบา ๆ เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ในหอเจตสิกจะผัดเปลี่ยนเวรกันทุก ๆ ห้าวัน วันนี้โนเอลกลับมาทำหน้าที่อีกครั้ง ปกติแล้ว ยิ่งศิษย์มีแรงจูงใจมากเท่าใด เขาก็จะใช้เวลาในการฝึกฝนมากขึ้นเท่านั้น แม้ว่าสภาพแวดล้อมของเขาจะไม่เอื้ออำนวยให้เขาทำเช่นนั้นก็ตามอย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่าโนเอลไม่มีแรงจูงใจ เขาแค่อยากจะเพลิดเพลินไปกับเวลาว่างและไม่มีความปรารถนาที่จะบ่มเพาะตัวเอง เขาสั่นศีรษะอย่างแรงและตกอยู่ในภวังค์ขณะได้ยินเสียงที่ดังออกมาจากประตูเรียงเนตรทันใดนั้น เขาก็หยุดสั่น วางเท้าลง และนั่งย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2042

    คุณสมบัติทางยาของโอสถเม็ดนั้นไม่รุนแรง เมื่อเทียบกับโอสถที่เขาได้รับสองเม็ดก่อนหน้านี้ ความแตกต่างของคุณสมบัติทางยานั้นแทบจะต่างกันราวฟ้ากับเหว คุณสมบัติทางยาของโอสถซานหยวนและโอสถทะลวงวิญญาณนั้นเหมือนกับน้ำมันปรุงอาหารที่มีไฟลุกโชน และโอสถฟื้นฟูพลังงานเม็ดนี้ก็เหมือนกับน้ำแร่ที่ไหลรินคุณสมบัติทางยาอ่อน ๆ ค่อย ๆ แทรกซึมผ่านเส้นลมปราณของเฟนด์มันซ่อมแซมบาดแผลของเขาและค่อย ๆ ทำให้เขารู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น สิบห้านาทีต่อมา เขาจึงค่อย ๆ ฟื้นตัวจากร่างกายที่อ่อนแอ“ขอบคุณมาก ศิษย์พี่โนเอล” เฟนด์กล่าวหลังจากยกชาขึ้นจิบแม้ว่าตามกฎแล้ว เฟนด์จำเป็นต้องเรียกโนเอลว่าศิษย์น้อง แต่เขาก็เลือกที่จะไม่ทำเช่นนั้น และเรียกโนเอลในฐานะศิษย์พี่แทน เขารู้สึกว่าการทำเช่นนั้นจะเป็นการให้เกียรติเขามากกว่าหลังจากได้ยินเฟนด์พูดกับเขาเช่นนั้นโนเอลก็หัวเราะเบา ๆ และไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาตบไหล่เฟนด์และพูดอย่างเคร่งขรึม “พอนายเข้าไปฝึกฝนในประตูเรียงเนตรทีไรก็ดูเหมือนจะชอบทรมานตัวเองจนตายทุกที ครั้งนี้ถือเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดของนายแล้ว ฉันได้ตรวจสอบสัญญาณชีพของนายแล้วและพบว่าเส้นลมปราณขอ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2043

    โนเอลพยักหน้า ทำให้เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออก นับตั้งแต่มาถึงทวีปเฮสเทีย เขาได้ยินเกี่ยวกับความบาดหมางกันระหว่างตำหนักสองกษัตริย์และเผ่าปฐมหายนะอยู่เสมอ ทั้งสองฝ่ายต่างมีความแค้นต่อกันมาช้านาน และด้วยเรื่องแหล่งทรัพยากรที่เป็นความลับที่ทำหน้าที่เหมือนชนวนของเหตุในครั้งนี้ ทั้งสองสำนักจึงตั้งตัวเป็นปฏิปักษ์กันและพร้อมจะก่อสงครามตลอดเวลาด้วยเหตุนี้ตำหนักสองกษัตริย์จึงทำการคัดเลือกศิษย์ใหม่มากมายเป็นพิเศษและลดข้อกำหนดในการเข้าร่วมตำหนักลงด้วย แต่หลังจากนั้นพวกเขากลับตัดสินใจที่จะยุติสงครามไปง่าย ๆ อย่างนั้นเหรอ? สีหน้าอ้ำอึ้งของเฟนด์ถูกเขียนไว้อย่างชัดเจนบนใบหน้าของเขา โนเอลและอลันมองหน้ากันและเข้าใจไปโดยปริยายว่าเฟนด์กำลังคิดอะไรอยู่“มันไร้สาระโดยสิ้นเชิงเลยใช่ไหมล่ะ? เราก็พูดไม่ออกเหมือนกัน พวกเขาสั่งให้ยุติสงครามในเช้าวันที่ห้า ซึ่งก็คือประมาณวันที่สามหรือสี่ที่นายอยู่ในประตูเรียงเนตรนั่นแหละ บรรดาศิษย์ ผู้ดูแล และคนอื่น ๆ ที่เข้าร่วมในสงครามถูกเรียกตัวกลับทั้งหมด โชคดีที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย และมีผู้เสียชีวิตเพียง ห้าถึงหกคนเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นทุกคนก็อยู่ในช่วงเริ่มต้นของส

Latest chapter

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2455

    ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบ่มเพาะโอสถของเขา ทั้งสองคนจะทำอะไรตามต้องการก็ย่อมได้ สิ่งนั้นไม่กระทบอะไรกับเขาเลย“ถึงฉันจะดูแคลนหมอนี่ แต่เขาก็ยังกล้าเสมอ เขาก็คงจะมีความสามารถอยู่บ้าง เขาน่าจะผ่านสองขั้นตอนแรกได้อย่างไม่มีปัญหา” เกรย์สันพูดอย่างชัดเจนรูดี้มองไปที่เกรย์สันด้วยรอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าแล้วตอบว่า "นายดูมั่นใจกับหมอนี่มากเลยนะ ฉันจะคิดว่าทุกครั้งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด“ฉันคิดว่าเขาอาจจะไปถึงขั้นที่สองก่อนที่เขาจะล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าถ้าล้มเหลวขึ้นมา เด็กสารเลวคนนี้จะสู้หน้าเราได้ยังไง”เกรย์สันสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขารู้สึกได้ว่าความโกรธของรูดี้ที่มีต่อเฟนด์นั้นลึกซึ้งกว่าของเขามากดวงตาของรูดี้ลุกเป็นไฟ เห็นได้ชัดว่าเขาเกลียดเฟนด์มากเพียงใดเกรย์สันหัวเราะอย่างเย็นชา "แล้วมาดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ฉันคิดว่าเขาน่าจะสามารถไปถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ถ้าเขาสามารถควบรวมอักขระทางยาได้ถึงร้อยเม็ดเขาก็น่าจะมาถึงระดับนั้น"หลังจากที่ทั้งสองพูดเรื่องเหล่านั้นออกมา พวกเขาก็ปิดปากเงียบพร้อม ๆ กับการมองดูเฟนด์โดยไม่พูดอะไรพวกเขามอง

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2454

    ผู้อาวุโสฮอร์สท์กระแอมเล็กน้อยในขณะที่เขาพูดต่อ “หลังจากที่เธอบ่มเพาะโอสถได้สำเร็จแล้ว ให้นำโอสถมาให้ฉันตรวจสอบ พวกเธอจะมีเวลาในการทดสอบทั้งสิ้นแปดชั่วโมง ถ้าเธอไม่สามารถบ่มเพาะโอสถได้ภายในแปดชั่วโมง ก็จะแปลว่าไม่ผ่านการทดสอบ ดังนั้นอย่าได้ช้าเกินไป”พวกเขาทั้งสามพยักหน้าแทบจะพร้อมกัน หลังจากผู้อาวุโสฮอร์สท์ให้คำแนะนำแล้ว เขาก็จัดให้มีคนงานสองสามคนคอยเป็นคนตรวจ มีผู้ดูแลยืนอยู่ด้านหลังทั้งสามคนเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดหลังจากนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็หันกลับมาและไปหาผู้สอบคนอื่น ๆ รูดี้หรี่ตาลง ขณะที่เขาเหลือบมองเฟนด์และพูดว่า "ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการบ่มเพาะโอสถระดับหกคือขั้นตอนสุดท้าย แต่ขั้นตอนแรกก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้านายรู้ว่าทำไม่ได้ ก็อย่าทำให้ต้องสิ้นเปลืองวัตถุดิบเลย ของพวกนี้ล้วนมีราคาค่างวด ต่อให้นายจะขายตัวเองเป็นทาสก็ยังไม่พอให้ซื้อของพวกนี้!”เฟนด์ถอนหายใจออกเบา ๆ หลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาเบื่อเกินกว่าจะอ้าปากพูดด้วยซ้ำ เขาตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อผู้ชายคนนั้นและทุกสิ่งที่จะออกมาจากปากเขา ถึงโต้ตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรอยู่ดี

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2453

    เกรย์สันหรี่ตาลงขณะที่เขามองเฟนด์ด้วยความโกรธเช่นกัน เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ดูเหมือนว่าวันนี้ นายจะมาที่นี่เพื่อหาเรื่องขายหน้าให้กับตัวเองเท่านั้น"หลังจากพูดจบเกรย์สันก็หันหลังกลับและเงียบไป เสียงความขัดแย้งหยุดลง และทุกคนรอบ ๆ ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันผู้อาวุโสฮอร์สท์มองเฟนด์อย่างมีความหมาย ราวกับว่าเขามองเฟนด์ในมุมมองที่ต่างออกไป ทันใดนั้นผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็อยากรู้เรื่องของเฟนด์อย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในขณะนั้นเขาไม่อาจพูดอะไรออกมาได้เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนได้จับกลุ่มกันเรียบร้อยแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็โบกมือแล้วพูดว่า "มากับฉัน!"ทุกคนติดตามผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปเป็นกลุ่ม ๆ ผู้อาวุโสฮอร์สท์เข้าไปในเรือวิญญาณ ภายในเรือเต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังรีบร้อนพวกเขาเดินตามหลังผู้อาวุโสฮอร์สท์ไปอย่างใกล้ชิด เดินลัดเลาะไปตามทางก่อนจะมาถึงห้องกว้างขวางในที่สุด ห้องกว้างขวางมากจนเรียกได้ว่าห้องโถงเลยทีเดียวทันทีที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง ทุกคนก็สามารถสัมผัสได้ถึงรังสีของโอสถที่หนาแน่นรอบ ๆ บรรยากาศ พื้นที่ในห้องนี้ใหญ่เกินพอสำหรับพวกเขาแปดสิบคนเฟนด์ประเมินสถานการณ์เล็กน้อย ห้องนี้ใหญ่พอที่จะรองรับคน

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2452

    พวกเขาถาโถมข้อกล่าวหาและดูหมิ่นมามากเกินไป ถึงเขาจะไม่อยากโต้เถียงกับคนพวกนี้ แต่เขาก็ยังถูกบังคับให้ต้องเงยหน้าขึ้นมาอย่างช้า ๆ อยู่วันยันค่ำเขามองเข้าไปในดวงตาของรูดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน ราวกับเขาเป็นเพียงแมลงในสายตาของรูดี้เฟนด์หัวเราะอย่างเย็นชา “แล้วนายได้ยินเสียงสุนัขที่เห่าดังที่สุดแล้วหรือยังล่ะ?”คำพูดเหล่านั้นสามารถเยาะเย้ยทุกคนที่นั่นได้สำเร็จ เขาเปรียบเทียบกิลเบิร์ตกับสุนัขและเย้ยหยันทุกคนที่ฟังสุนัขตัวนั้นเห่า มันทำให้การแสดงออกบนใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปกิลเบิร์ตเกือบจะลืมความโกรธของตัวเองไปแล้ว เขาไม่อยากจะเชื่ออะไรด้วยซ้ำว่าเฟนด์จะสามารถขจัดคำดูถูกดูแคลนทั้งหมดลงได้ แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นกิลเบิร์ตหันกลับมาจ้องมองเฟนด์ด้วยใบหน้าแดงก่ำจากความโกรธเขาอยากจะตะโกนกลับแต่ถูกรองเหรัญญิกปรามไว้ "ดูเหมือนว่านายจะไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบแล้วสินะ!"ประโยคนั้นเพียงประโยคเดียวก็ทำให้กิลเบิร์ตไม่อาจพูดอะไรออกมาได้อีก กิลเบิร์ตตระหนักได้แล้วว่าเขาได้ทำให้รองเหรัญญิกขุ่นเคืองอย่างหนักหากเขายังคงยืนกรานที่จะต่อปากต่อคำกับเฟนด์ รองเหรัญญิกอาจจะดึงเขาออกไปจริง ๆ แล้วเขาจะ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2451

    “สมองหมอนั่นจะต้องมีอะไรผิดปกติจริง ๆ นั่นแหละ เขาคิดจริง ๆ หรือว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับอีกสองคนที่อยู่ตรงหน้าเขา แค่เพราะไปยืนอยู่กลุ่มเดียวกัน? นั่นน่าจะตลกมากเกินไปหน่อยนะ…”“ฉันนึกว่าการทดสอบจะเข้มงวดและจริงจังเสียอีก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ ทำเอาฉันขำจนปวดท้องเลยล่ะ…”แอนดรูว์ขมวดคิ้วอย่างรู้สึกอับอาย รองเหรัญญิกโกรธจนตัวสั่นหลังจากได้ยินคำพูดของกิลเบิร์ต เขานึกอยากจะพุ่งตัวไปไปตบกิลเบิร์ตสักสองสามครั้งกิลเบิร์ตเพิกเฉยต่อชื่อเสียงของวิมานโอสถอย่างเห็นแก่ตัวที่สุด พวกเขาแทบอยากจะมุดดินหนี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จะเป็นความอัปยศอดสูที่วิมานโอสถไม่อาจจำกัดทิ้งได้รองเหรัญญิกตะโกนออกไปว่า "หุบปากเดี๋ยวนี้! นายกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร ถ้าไม่อยากเข้าร่วมการทดสอบ ก็ไสหัวไปซะ!"รองเหรัญญิกโกรธมาก ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น สีหน้าของเขาดูอดสูอย่างไม่น่าเชื่อ เขายังคิดจะฆ่ากิลเบิร์ตให้ตายเสียเดี๋ยวนี้ เมื่อถูกตำหนิเช่นนั้นก็ทำให้กิลเบิร์ตตระหนักได้ว่าเขาพูดผิดไปถึงกระนั้นก็ไม่มีทางที่เขาจะถอนคำพูดเหล่านั้นกลับคืนมา เขากระแอมเบา ๆ ก่อนที่จะรีบหันศีรษะไปซ้ายทีขวาที อย่างไม่กล้

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2450

    ไม่มีใครรู้ดีไปกว่ารองเหรัญญิกว่าโอสถระดับหกหมายถึงสิ่งใด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วิมานโอสถรับบัณฑิตมาจำนวนนับไม่ถ้วน แต่มีไม่มากนักที่จะได้กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับหกจริง ๆคอนสแตนซ์ยิ้มอย่างมีความหมายขณะที่เขาเอ่ยถาม "รองเหรัญญิกคนนี้มีความสามารถหลากหลายจริง ๆ ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าวิมานโอสถจะมีอัจฉริยะกับเขาด้วย ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย"ริมฝีปากของรองเหรัญญิกกระตุก เขาต้องการอธิบายตัวเอง แต่ถ้าเขาบอกว่าเฟนด์ไม่สามารถสกัดโอสถระดับหกได้ และมีเพียงพรสวรรค์ในการสร้างอักขระทางยาเท่านั้น มันคงจะกลายเป็นเรื่องตลกครั้งใหญ่ และทุกคนคงจะหัวเราะเยาะวิมานโอสถเป็นแน่แต่ถ้าเขายังคงดื้อรั้นต่อไป พอถึงเวลาต้องบ่มเพาะโอสถ เฟนด์ก็จะเปิดเผยความจริงข้อนั้นออกมา เมื่อนั้นความอัปยศอดสูก็จะยิ่งหนักข้อขึ้นเขาถึงกับมือสั่น ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้สึกเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้มาก่อน เขารู้สึกเหมือนกำลังถูกกักขังอยู่ในกำแพงอีกสองด้าน ทุกคนคิดว่ารองเหรัญญิกกำลังวางแผนที่จะใช้ความเงียบเพื่อตอบคำถามเมื่อเห็นกับตาว่ารองเหรัญญิกไม่ตอบอะไรออกมาแต่ทว่าคอนสแตนซ์คล้ายกับจะไม่เ

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2449

    เฟนด์เป็นคนเดียวที่ยังคงยืนอยู่ ขณะนั้นเขาดูคล้ายกับกำลังลังเลและดูเหมือนกำลังรออะไรบางอย่างอยู่ ขณะที่รองเหรัญญิกพูดจบ ผู้อาวุโสฮอร์สท์ก็จ้องมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็นแม้ว่าดวงตาของเขาจะดูเป็นประกายมากขนาดไหน แต่เฟนด์ก็ยังคงรู้สึกถึงความเฉียบคมภายใน ราวกับว่าเขาจะถูกตัดสิทธิ์หากเขาไม่ขยับริมฝีปากของเฟนด์กระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขารีรอต่อไปไม่ได้แล้ว จึงได้แต่เดินไปยังพื้นที่ที่เขาวางแผนไว้ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเฟนด์ไม่ได้ดึงดูดความสนใจใครมากนัก เขาอาจจะเป็นคนสุดท้ายที่ปรากฏตัวขึ้น ไม่มีใครจำเขาได้ ต่อให้เขาจะมาจากวิมานโอสถ แต่นอกจากคนที่เคยพบเขาแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครขณะที่เขาเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกต่อไป ทุกคนก็เริ่มจ้องมองไปที่เขา ใบหน้าของรองเหรัญญิกก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเฟนด์กำลังมุ่งหน้าไปทางใด“ผู้ชายคนนั้นคิดจะไปต่อหลังรูดี้หรือเปล่า? เขาคิดจะพิสูจน์ตัวเองด้วยการกลั่นโอสถระดับหกด้วยหรือ?”“ก็คงเป็นแบบนั้น เว้นแต่เขาจะเป็นคนโง่เง่าที่ไม่ทันได้ฟังกฎการตัดสินให้ดี ไม่งั้นคงไม่เดินไปแบบนั้นหรอก เขาเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยได้ยินอะไรเกี่ยวกับเขาเลย

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2448

    กิลเบิร์ตทำท่าราวกับกลืนแมลงวันเข้าไปสองสามตัว เขาคาดหวังว่ารองเหรัญญิกจะพูดคำเหล่านั้นกับเขาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นว่ารองเหรัญญิกไม่ละสายตามามองเขาเลยแม้แต่วินาทีเดียวรองเหรัญญิกฝากความหวังทั้งหมดไว้กับเฟนด์ราวกับว่ากิลเบิร์ตและแอนดรูว์มาที่นี่เพื่อเพิ่มจำนวนคนเท่านั้นแอนดรูว์มีสีหน้าขมขื่นเช่นกัน ในอดีตเขาขัดแย้งกับกิลเบิร์ตมามากมาย และความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ไม่อาจพัฒนาไปในทางที่ดีได้แต่ต้องขอบคุณเฟนด์ที่ทำให้เขาสามารถวางเฉยต่อความแค้นทั้งหมดที่เคยมีได้แอนดรูว์พูดด้วยใบหน้าที่มืดมน “รองเหรัญญิก ดูเหมือนคุณจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่เฟนด์เลยนะ“แต่คุณก็น่าจะเตือนเฟนด์สักหน่อยว่าต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์ค่อนข้างดี แต่ก็ไม่ควรหยิ่งผยองเกินไป”แอนดรูว์โกรธมากในขณะนั้นและอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องเอ่ยคำดูแคลนที่สุดเช่นนั้นออกมากิลเบิร์ตกล่าวเสริมอย่างรีบร้อนทันที “แอนดรูว์พูดถูก แม้ว่าพรสวรรค์ของเฟนด์จะค่อนข้างดี แต่เขาก็ไม่ควรหยิ่งผยองนัก คำพูดพวกนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเลยสักนิด”เฟนด์ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกคนทั้งสองเหยียบย่ำ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฟนด์ไม่ได้เอ่ยปากเลยสักคำ แล้วเขาจะเอาเวลา

  • มหาเทพ แห่ง สงคราม   บทที่ 2447

    ในตอนแรก คอนสแตนซ์และซีนย์เพียงยืนเคียงข้างกันโดยไม่สนใจเรื่องนี้ พวกเขาต้องการปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินต่อไปอย่างที่ควรจะเป็น แต่เมื่อว่าเกรย์สันและรูดี้เริ่มเถียงกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนก็ถูกบีบให้ต้องทำอะไรสักอย่างพวกเขาถูกบีบให้ต้องแยกรูดี้และเกรย์สันออกจากกัน นั่นก็เพราะ การทะเลาะกันของเด็ก ๆ ควรจะมีขีดจำกัด เพราะหากมันเกินขีดจำกัดไปแล้ว นั่นจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของพวกเขา นี่คือสิ่งที่รูดี้และเกรย์สันเองก็ไม่อยากเห็นเป็นเวลาเกือบสิบห้านาทีแล้ว ผู้อาวุโสฮอร์สท์นั่งบนเก้าอี้ ขณะมองดูการทะเลาะวิวาทและการพูดคุยกันอย่างเฉยเมย เมื่อหมดเวลาเขาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เสียงปรบมือดังขึ้นตอนที่เขาจะพูดว่า "เอาล่ะ หมดเวลาแล้ว ทุกคนต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะพิสูจน์ความสามารถของตัวเองยังไง”“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องบอกอะไรพวกนายทุกอย่างหรอกนะ ตอนนี้ก็แยกออกเป็นกลุ่มเสีย ผู้ที่ต้องการรวมอักขระทางยาจะยืนอยู่ทางทิศตะวันออก“ผู้ที่ต้องการแยกแยะวัสดุสามารถยืนอยู่ตรงกลางได้เลย และหากจะพิสูจน์ตัวเองด้วยกันบ่มเพาะโอสถให้ไปยืนที่ทางทิศตะวันตก“ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องขอเตือนทุกคนก่อน หากทุกคนต้องการ

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status