Beranda / LGBTQ+ / มาเฟียกับเมียรับจ้าง (Mpreg) / บทที่ 4 แค่ครั้งเดียว

Share

บทที่ 4 แค่ครั้งเดียว

last update Terakhir Diperbarui: 2025-01-12 14:47:51

บทที่ 4

แค่ครั้งเดียว

            นึกถึงเหตุการ์เมื่อคืนนี้ผมยังคงขนลุกไม่หาย คุณนายให้ผมดื่มน้ำแกงอะไรสักอย่างในถ้วยกระเบื้องสีขาว รสชาติขมมาก แทบอยากจะอ้วกออกมา แต่โดนสั่งห้ามเอาไว้จึงต้องกลืนมันลงไปจนเกลี้ยง แค่นั้นยังไม่พอบังคับให้นั่งอยู่ในวงล้อมสายสิญจน์เพื่อฟังบทสวดประหลาดจากท่านจนจบ ปิดท้ายด้วยการใช้มือตบเบา ๆ ที่หน้าท้องสามครั้งอีกด้วย เสร็จพิธีก็ถูกไล่ให้กลับห้องนอนโดยไม่พูดหรืออธิบายอะไรให้ฟังเลย

            ความวัวไม่ทันหายความควายก็เข้ามาแทรก วันนี้คุณนายวิมลโทรเรียกลูกชายหัวแก้วหัวแหวนให้กลับมาที่บ้านโดยด่วนให้เหตุผลว่าผมไม่สบาย โทรแล้วโทรอีกจนเขารำคาญกระมังเลยต้องกลับมาที่คฤหาสน์ ออฟฟิศกับบ้านเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมงได้ ถ้าถามผมว่าไกลไหมตอบว่าไม่ แต่เหตุผลที่เขาไม่ยอมกลับมานอนค้างที่บ้านคงเป็นเพราะต้องการอยู่กับแฟนสาวอย่างสบายใจกระมัง

            แฟนของคุณนาธานก็คือซอนย่านั่นล่ะครับ เธอเป็นนางเอกซูเปอร์สตาร์ มีชื่อเสียงระดับประเทศ สวยและมีความสามารถ ในทีวีดูเป็นผู้หญิงเรียบร้อยอ่อนหวานแต่ในชีวิตจริงผิดจากหน้ามือเป็นหลังมือ นั่นคงเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณนายวิมลไม่ชอบขี้หน้า ท่านเคยเล่าให้ฟังว่าคุณนาธานพาเธอมาบ้านครั้งหนึ่ง กิริยาวาจาและท่าทางดูเป็นผู้ดีแต่คุณนายวิมลรู้ว่านั่นคือการเล่นละคร ท่านจึงไม่ชอบขี้หน้าตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน หลังจากนั้นได้สั่งว่าห้ามเอาผู้หญิงคนนี้มาเป็นสะใภ้เด็ดขาด

            ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

            “คุณบิวคะ คุณผู้หญิงให้มาเรียนว่าตอนนี้คุณนาธานมาถึงแล้วค่ะ”

            “ขอบคุณครับพี่ปิ๋ว”

            ผมต้องรีบเอากระเป๋าน้ำร้อนมาประคบตามลำตัวและใบหน้าเผื่อเวลาที่เขามาสัมผัสจะได้รู้ว่าผมมีไข้จริง นั่นคือแผนการของคุณนายวิมลที่สั่งเอาไว้ ผมรู้แล้วว่าคุณนาธานได้นิสัยกะล่อนอย่างนี้มาจากใครคงไม่ต้องเดาให้เสียเวลา

            ไม่นานประตูก็ถูกเปิด ได้ยินเสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ผมหรี่ตามองก็เห็นคุณนายวิมลเดินมาพร้อมกับลูกชาย มีพี่ปิ๋วยกชามน้ำมาด้วยอีกต่างหาก จึงรีบปิดเปลือกตาลงอีกครั้ง นอนอยู่บนเตียงในสภาพอิดโรย

            “ทำไมไม่พาไปโรงพยาบาลครับ หรือไม่ก็เรียกหมอมาตรวจก็ได้ ทำไมคุณแม่จะต้องให้ผมมาด้วย” เสียงบ่นดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ

            “เป็นผัวก็ต้องดูแลเมียตัวเองสิ หมอกี่คนก็ไม่หายหรอกถ้าไม่ได้กำลังใจจากคนรัก แกรีบเช็ดตัวให้น้องเลย นอนซมอยู่นานสองนาน กินยาแล้วตัวก็ยังไม่หายร้อน”

            “ให้ปิ๋วทำเถอะครับ ผมทำไม่เป็นหรอก ไม่เคยดูแลใครอย่างนี้มาก่อน”

            “ใครบอก เมื่อตอนที่แม่ไม่สบายแกก็ยังช่วยเช็ดตัวให้เลย นั่งลงแล้วเช็ดตัวให้น้องเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นแม่จะไม่ยอมให้แกกลับไปเด็ดขาด”

            เขาเงียบไปครู่หนึ่งไม่รู้ทำสีหน้าอย่างไรก่อนจะส่งเสียงอีกครั้ง “ก็ได้ครับ งั้นทุกคนออกไปก่อนละกัน”

            “แม่จะอยู่ตรงนี้ ดูว่าแกจะดูแลเมียได้ไหม”

            “โธ่คุณแม่ครับ”

            “เดี๋ยวนี้!”

            ในที่สุดคุณนายวิมลก็เอาชนะจนได้ ผมยังคงนอนนิ่งอยู่บนเตียง รู้สึกได้ว่าตอนนี้มีใครบางคนกำลังสัมผัสที่หน้าผาก ก่อนจะได้รับความเย็นจากผ้าผืนเล็ก ๆ ที่กำลังถูไถไปตามแขน ผู้ชายบ้าอะไรจะมือหนักขนาดนี้ ไม่คิดจะถนอมผมเลยหรือยังไงกัน

            “ตรงซอกคอด้วย เช็ดแต่แขนไข้จะไปลดได้ยังไงกัน”

            “แต่”

            “ไม่มีแต่”

            ผมเองก็อยากจะส่งเสียงห้ามแต่ไม่กล้าขัดใจคุณนายวิมล หัวใจเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อตอนนี้เขากำลังเช็ดตามลำคอให้ วนเวียนอยู่บริเวณนั้นก่อนจะลงมาเรื่อย ๆ จนเกือบจะถึงเนินอก มือที่วางอยู่ใต้ผ้าห่มกำแน่นจนเกร็งไปหมด ในขณะนั้นคุณนายวิมลก็สั่งให้เช็ดลึกเข้ามาเรื่อย ๆ จนเกือบจะถึงยอดอกผมแล้ว ท่านคิดจะทำอะไรกันแน่ ผมเสียหายนะรู้ไหม

            “เอาล่ะแม่พอใจแล้ว แกเฝ้าเมียอยู่ในนี้ห้ามออกไปจนกว่าไข้จะลด หนูบิวคงจะนอนหลับอีกนานเลยล่ะ” ประโยคหลังเหมือนสั่งให้ผมนอนนิ่ง ๆ อยู่บนเตียงทางอ้อม คุณนายคิดจะทำอะไรกันแน่

            หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงปิดประตูห้อง ภายในนี้จึงมีเพียงแต่ความเงียบงัน ไม่รู้ว่าคุณนาธานกำลังทำอะไรอยู่ที่ไหน จะยังคงนั่งอยู่ข้างเตียงไหมนะ

            “ไอ้บื้อเอ๊ย หาความซวยมาให้ฉันจนได้ แทนที่จะได้มีเวลาอยู่กับซอนย่า”

            เสียงนั้นดังอยู่ข้างเตียงจริง ๆ ด้วย ผมจึงต้องหลับตาอยู่อย่างนั้นรอให้เขาเงียบไปพักใหญ่ กำลังจะเปิดเปลือกตาขึ้นจู่ ๆ ก็มีร่างของใครบางคนทิ้งตัวลงมานอนข้างกัน ทำให้ต้องนอนนิ่งอยู่ท่าเดิม จู่ ๆ ก็รู้สึกได้ว่ามีมือใหญ่วางพาดบนตัว รู้สึกได้ว่าเขาขยับตัวเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ รู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ที่กำลังเป่ารดพวงแก้ม ไม่นะ! เขากำลังคิดจะทำอะไรผมกันแน่

            “หน้าตาจืดชืดแต่หุ่นดีใช้ได้เลยทีเดียว ผิวก็เนียนอย่างกับผู้หญิง”

            ตอนนี้แทบไม่ต้องใช้กระเป๋าน้ำร้อนเพราะใบหน้ามันร้อนผ่าวเองโดยอัตโนมัติ เขากำลังอ่านกินผมอยู่แน่ ๆ กำลังใช้สายตาโลมเลียผมอยู่แน่ ๆ แล้วจะทำอย่างไรดี จู่ ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าต้องนอนละเมอ!

            เพี๊ยะ!

            “โอ๊ย! ไอ้บ้าเอ๊ย! เจ็บชะมัด”

            ผมตัดสินใจฟาดมือไปมั่วแต่บังเอิญมันประทับลงที่แก้มเขาอย่างจังจนต้องแอบขำในใจ ทำไมซื้อหวยไม่แม่นอย่างนี้นะ แถมยังดันใบหน้าเขาให้ออกห่างอีกด้วย

            “ออกไปเลย คนไม่ดี คนนิสัยเสีย อย่าเข้ามาใกล้”

            “เป็นบ้าไปแล้วเหรอ ฉันไม่น่ากลับมาเลยจริง ๆ จ้างมาเป็นภาระซะเปล่า”

            เขาบ่นพลางจับข้อมือผมไว้ก่อนพลิกตัวขึ้นมาคร่อมร่าง ด้วยความตกใจจึงลืมตาขึ้นมา เห็นใบหน้าของคุณนาธานอยู่ใกล้แค่เอื้อม เขากำลังจ้องมองอย่างจับผิดจนผมทำหน้าไม่ถูก

            “คะ...คุณจะทำอะไร”

            “ตื่นแล้วเหรอ เล่นละครเก่งจังเลยนะเธอ...แต่ไม่เนียน”

            เขาเอ่ยพลางมองไปยังกระเป๋าน้ำร้อนที่วางอยู่บนเตียง ผมไม่นึกว่าเขาจะขึ้นมานอนบนนี้จึงไม่ได้เก็บไว้ใหดี แล้วทีนี้จะทำอย่างไรจะบอกความจริงเรื่องคุณนายวิมลก็ไม่ได้ด้วยสิ

            “คือ...ผมไม่ได้ตั้งใจ”

            “ไม่ได้ตั้งใจแต่ทำให้ฉันเสียเวลา แกล้งทำเป็นไม่สบายเพื่ออะไรกัน แถมยังละเมอตบหน้าฉันอีก”

            “คือ...ผมแค่รู้สึกเบื่อ ๆ เลยอยากให้คุณพาออกไปข้างนอกบ้างก็เท่านั้น อยู่แต่ในนี้มันอึดอัด”

            “แล้วทำไมไม่โทรหาฉันเอง”

            “มันเป็นแผนของผม ถ้าไม่ทำอย่างนี้ก็ไม่รู้น่ะสิว่าคุณแม่เอ็นดูผมจริงไหม เห็นไหมว่าท่านเป็นห่วงผมจริง ๆ ถึงขนาดโทรตามคุณมาที่นี่ อย่างนี้แล้วคุณก็หายห่วงอยู่กับแฟนคุณอย่างสบายใจได้เลย” ในที่สุดผมก็หาทางออกให้ตัวเองจนได้ และดูเหมือนว่าเขาจะคล้อยตามด้วย

            “ไม่นึกว่าเธอจะฉลาดกับเขาบ้างเหมือนกัน สงสัยต้องมองเธอใหม่ซะแล้วล่ะ”

            เขายกยิ้มมุมปากพลางส่งสายตาแปลก ๆ มายังผม เห็นอย่างนั้นหัวใจมันก็เต้นแรงขึ้น เขาเลื่อนสายตาลงมายังริมฝีปากของผมจึงรีบเม้มเอาไว้ โลมเลียอย่างนี้อย่าบอกนะว่าคิดจะทำมิดีมิร้ายกัน มันไม่อยู่ในข้อตกลงของเราสักหน่อย

            “คุณกลับไปได้แล้ว บอกคุณแม่ว่าผมหายแล้ว”

            “...”

            เขายังไม่ยอมตอบ ส่งสายตาโลมเลียมาอย่างน่าหวาดกลัว แถมยังกลืนน้ำลายลงคออีกด้วย ผมจึงต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อให้ตัวเองลงจากเตียงนี้โดยเร็ว

            “คุณคิดจะทำอะไร อย่าเชียวนะ”

            “มองใกล้ ๆ เธอก็น่ารักใช่ย่อยนะ”

            “บ้า! ผมไม่ได้น่ารักเล้ยยย ผมขี้เหร่จะตาย” พูดเสียงสูงแล้วเอียงหน้าหนีไม่ยอมให้เขาจ้องหน้า แต่ดูเหมือนว่าใบหน้าของผู้ชายคนนี้กลับเคลื่อนลงมาใกล้ยิ่งขึ้นจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ปะทะผิวแก้ม

            จู่ ๆ ผมก็รู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมาเสียดื้อ ๆ ความร้อนรุ่มปะทุออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำไมถึงรู้สึกเกิดความต้องการขึ้นมา อยากให้เขาสัมผัสเรือนกายของตัวเอง อยากกอด อยากจูบ อยากทำอะไรเหมือนที่คนรักพึงกระทำ ดูท่าทางเขาเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน พยายามคลอเคลียตามพวงแก้ม ก่อนจะฉกฉวยริมฝีปากอย่างไม่ทันตั้งตัว รสจุมพิตอันแสนหนักหน่วงได้เริ่มต้นขึ้น เพียงแค่จูบกลับระบายความกำหนัดได้เป็นอย่างดี หากเกินเลยไปกว่านี้ผมคงรู้สึกโล่งมากขึ้น อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดเพราะในวินาทีนี้ผมมิอาจฝืนทนความต้องการได้แล้ว

            “ฉันต้องการเธอ ฉัน...ห้ามตัวเองไม่ไหวแล้ว”

            “ก่อนอะไรมันจะสายเกินไปคุณรีบออกไปจากห้องเถอะนะ รีบออกไปเดี๋ยวนี้!” ยังมีอีกหนึ่งความคิดที่จะหาทางออกให้ตนเอง รักษาพรหมจรรย์เอาไว้ อาการแบบนี้ผมไม่แน่ใจว่าเกิดจากการวางยาปลุกเซ็กซ์หรือไม่ เพราะไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้มาก่อน แต่เมื่อนึกย้อนกลับไปก่อนหน้านี้คุณนายวิมลสั่งให้พี่ปิ๋วนำน้ำส้มคั้นมาให้นี่นา ไม่นะ!

            “ไม่! ฉันจะทำมันต่อ”

            เขาพยายามจะจูบแต่ผมดันใบหน้าเอาไว้ ผลักร่างหนาจนพ้นตัวก่อนลุกขึ้นเดินไปเปิดประตู หากทว่ามันกลับถูกล็อกจากด้านนอกเสียอย่างนั้น นั่นทำให้มั่นใจว่าทุกอย่างมันคือแผนการของคุณนายวิมล หันกลับมาอีกครั้งก็ถูกคุณนาธานกระชากตัวเข้าไปไว้ในอ้อมกอด ส่งริมฝีปากเข้ามาประทับจุมพิตอย่างบ้าคลั่ง มือใหญ่สาละวนอยู่กับการปลดเปลื้องเสื้อผ้าของผม แม้จะจับมือห้ามไว้แต่มิอาจต่อต้านความกำหนัดที่อยู่ในกาย ปล่อยให้เขาทำตามอำเภอใจ

            “อื้อ...คุณนาธาน อ๊า”

            “แค่ครั้งเดียวเท่านั้น ฉันจะไม่ทำมันอีก ครั้งเดียวจริง ๆ” เขาพร่ำบอกข้างใบหูขณะใช้มือใหญ่ลูบไล้แผงอกอย่างเสน่หา

            “เราเป็นผู้ชายด้วยกันนะ มันไม่ควรจะเกิดขึ้น”

            “ตอนนี้ฉันไม่สนอะไรทั้งนั้น ฉันจะชดใช้ให้ คุณแม่ต้องการให้มันเป็นอย่างนี้เราต้องเล่นมันให้สมบทบาท”

            กล่าวแล้วเขาก็อุ้มผมขึ้นมาวางบนเตียงแล้วตามขึ้นมาคร่อมร่างไว้ ตรึงข้อมือไว้เหนือศีรษะ ส่งใบหน้าลงมาซุกไซ้ที่ซอกคออย่างดุดัน ด้วยความรู้สึกที่แปลกใหม่คละเคล้าความหวามไหวทำให้ผมตอบรับความดุดันนั้นอย่างสมยอม เมื่อรู้ว่าผมมีอารมณ์ร่วมแล้วก็ยอมปล่อยข้อมือให้เป็นอิสระ แทนที่จะตบตีหรือผลักตัวเขาออกหากทว่าผมกอดต้นคอหนาไว้อย่างแน่นหนา ในขณะที่ริมฝีปากถูกประกบจูบอย่างดูดดื่มไม่หยุดหย่อน

            เขาเลื่อนตัวลงมาอย่างช้า ๆ ผ่านเนินอกและหน้าท้องอันแบนราบ ในตอนนั้นผมรู้ว่าเขากำลังจะทำอะไร จึงบีบขาทั้งสองเข้ามาด้วยสัญชาตญาณ หากทว่าเขาทำหน้าดุให้แล้วแยกมันออกอีกครั้ง ส่งมือเข้ามาทักทายเจ้าบิวน้อยที่ไม่เคยมีคนได้สัมผัส ผมจำต้องขบริมฝีปากล่างเพื่อไม่ให้มีเสียงเล็ดลอดออกไป นั่นเพราะเขาใช้ปากกับส่วนนั้นจนร่างสั่นเทิ้ม กระตุกทุกครั้งที่ใช้ลิ้นละเลงส่วนหัว รู้สึกดีอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เขาเก่งเรื่องอย่างว่าจนทำให้คนที่ไม่เคยอย่างผมเกิดความประทับใจ จากนั้นเขาก็พลิกตัวขึ้นมาให้ผมทำเช่นนั้นบ้าง แม้จะไม่เคยแต่เขาก็สอนจนผมเริ่มทำได้และคุ้นชินกับมันเป็นอย่างดี

            “ถะ...ถุงยางล่ะ”

            “ไม่มี ปกติก็ไม่เคยใส่”

            “ถ้าอย่างนั้นก็หยุด ผมไม่เชื่อใจคุณ”

            “ฉันไม่มั่ว ไม่มีโรคแน่”

            “ยังไงผมก็ไม่ไว้ใจ”

            “หลั่งข้างนอกก็ได้”

            “ไม่ได้!”

            ถึงจะเกิดอารมณ์มากแค่ไหนก็ยังมีสติมากพอ ผมพยายามใช้ขาดันเขาให้ลงจากเตียงไป ทว่ามาเฟียหนุ่มหล่อกลับโถมตัวเข้ามาโอบกอดไว้ ส่งสายตามายั่วยวนชวนสยิวกิ้ว เคลื่อนใบหน้าเข้ามาคลอเคลีย ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้แผ่นหลังอย่างเสน่หา คิดจะหว่านล้อมผมหรือไงนะ

            “ฉันปลอดภัยแน่ แค่ครั้งเดียวไม่เป็นอะไรหรอกน่า” โทนเสียงอันทรงเสน่ห์นี้ทำให้ผมเคลิ้มตามได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

            “ก็ได้ แต่คุณสัญญาแล้วนะ”

            “ฉันสัญญา”

            เมื่อได้รับอนุญาตแล้วเขาก็เริ่มบรรเลงบทเพลงรักอย่างไว นับเป็นครั้งแรกที่ผมมีอะไรกับผู้ชาย วินาทีที่เขาเอามันเข้ามาเจ็บปวดเหมือนร่างจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ จนต้องขอร้องให้เขาเอามันออกไป คุณนาธานยอมทำตามแต่ก็พยายามดันมันเข้ามาอีกครั้งจนสำเร็จ เขาเล้าโลมช่วยเพื่อให้ผมผ่อนคลาย เมื่อเราเชื่อมต่อกันแล้วเขาก็เริ่มขยับสะโพก

            “อะ...อื้อ...เจ็บ!”

            “เดี๋ยวก็หายเจ็บแล้ว เชื่อฉัน”

            โทนเสียงอบอุ่นและแววตาหวานซึ้งขับกล่อมให้ผมพยักหน้ารับ ยอมอดทนเพื่อให้พายุแห่งความเสน่หานี้จบลงไป ไม่นานความเจ็บปวดก็ทุเลาลง มีความรู้สึกอื่นเข้ามาแทนที่ เสียวซ่าน สนุก ตื่นเต้น เร้าใจ เขาพาผมโลดแล่นท่ามกลางพายุเสน่หาจวบจนจะถึงฝั่งฝัน ในวินาทีนั้นผมทำได้เพียงนอนส่งเสียงร้องครวญครางเพื่อระบายความกำหนัด โดยลืมไปว่าเขาจะต้องหลั่งข้างนอก เราทั้งสองส่งเสียงแข่งกันอย่างไม่มีใครยอมใคร เหงื่อกาฬไหลหลั่งออกมาจนเปียกชุ่มไปทั้งตัว เขาเร่งจังหวะสะโพกเร็วและแรงขึ้นจนในที่สุดก็ถึงจุดหมายปลายทางพร้อมกัน

            “แฮ่ก ๆ เสียวไหม”

            “อื้อ...”

            ผมตอบได้เพียงเท่านั้นเพราะยังคงรู้สึกเหนื่อย ร่างหนายังคงทับทาบบนตัวผม เขายังคงคลอเคลียที่ซอกคอ แต่พอนึกขึ้นได้ว่าเขาได้หลั่งข้างในไปแล้วความตกใจจึงบังเกิดขึ้น

            “นี่คุณ! ไหนบอกจะหลั่งข้างนอก ลุกออกจากตัวผมเดี๋ยวนี้เลย คนไม่รักษาสัญญา”

            “ฉันไม่ได้ตั้งใจ อารมณ์มันพาไป ครั้งเดียวเองน่า อีกอย่างฉันก็ไม่มีโรค กลัวแต่เธอนั่นล่ะ”

            “ผมไม่เคยมีอะไรกับใครจะไปติดโรคมาจากไหนล่ะ คุณนั่นล่ะที่ไม่เคยใส่ถุงยางมีความเสี่ยงกว่าผมตั้งเยอะ” ด้วยความโมโหผมจึงฟาดมือไปที่แก้มเขาอย่างสุดแรง น้ำตาไหลพรากเพราะกลัวว่าตัวเองจะติดโรคจากเขา

            “แล้วไง! เธอเองก็ชอบมัน เธอยอมเองช่วยไม่ได้”

            “ฮึก...ออกไปเลย รีบกลับไปเลย ผมไม่อยากเห็นหน้าคุณ”

            “นี่ห้องนอนฉัน” เขาส่งเสียงดุกลับมา

            “ผมจะไปเอง”

            กล่าวจบก็ลุกขึ้นจากเตียงเก็บเสื้อผ้าที่ทิ้งเกลื่อนขึ้นมาสวมใส่ กำลังจะวิ่งออกไปแต่นึกขึ้นได้ว่าประตูข้างนอกถูกล็อกเอาไว้ แล้วอย่างนี้จะออกไปได้อย่างไร

            “ออกไปสิ” เขาทำลอยหน้าลอยตา นอนค้ำศีรษะอยู่บนเตียงอย่างสะใจที่เห็นผมจนมุม

            “ถ้าผมติดโรคขึ้นมาผมเอาคุณตายแน่!”

            “จริง ๆ แล้วเมื่อหลายวันก่อนฉันก็มีอาการแปลก ๆ นะ มีตุ่มขึ้นตามตัวด้วย กะว่าจะไปหาหมออยู่พอดี” เขายิ้มเจ้าเล่ห์

“อี๋! คุณมันน่ารังเกียจที่สุด ผมเกลียดคุณ!”

“เรื่องนี้ฉันไม่ได้ผิดมันเป็นแผนของคุณแม่ต่างหาก เอาเป็นว่าฉันจะให้ค่าแรงก้อนนึงก็แล้วกัน เราจะได้เลิกแล้วต่อกัน พรุ่งนี้ก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ถ้าเธอติดโรคขึ้นมาฉันจะจ่ายค่ารักษาให้ทุกบาททุกสตางค์”

            “ต่อให้เงินมากองเป็นสิบล้านก็แลกกับสิ่งที่ผมเสียไปไม่ได้หรอก! ถ้าติดโรคจากคุณขึ้นมาชีวิตผมเหมือนตกนรกทั้งเป็นตลอดชีวิตแน่ ๆ ฮือ...”

            “ช่วยไม่ได้” ว่าแล้วเขาก็ทิ้งตัวลงนอนอย่างสบายใจอยู่บนเตียง ผมรีบวิ่งแจ้นเข้าไปล้างเนื้อล้างตัว ล้างกลิ่นคาวของผู้ชายคนนั้นออกไปให้หมด แค่ครั้งเดียวหวังว่าผมคงไม่โชคร้ายถึงขนาดนั้นหรอกกระมัง

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • มาเฟียกับเมียรับจ้าง (Mpreg)   บทที่ 30 อวสาน

    บทที่ 30อวสาน สี่ปีผ่านไป... เรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมาล้วนแต่เป็นประสบการณ์ชีวิต อาจจะมีทั้งดีและร้ายปะปนกันไป ซึ่งได้สั่งสอนให้เราเรียนรู้และสามารถดำเนินชีวิตอย่างมีสติ หากทว่าในบางช่วงเวลาชีวิตของคนเรามักดิ่งลงเหวจนมิอาจปีนป่ายขึ้นมาได้ ต้องทนทุกข์เพราะความคิดด้านมืดของตัวเอง เหมือนเช่นที่ซอนย่าต้องกลายเป็นนางเอกตกอับ ต้องถูกจำคุกในข้อหาจ้างวานฆ่า รับผลกรรมในเรือนจำพร้อมกับคุณคณิน สี่ปีให้หลังชีวิตของผมวุ่นวายมากเพราะบัตเตอร์เติบโตและเข้าเรียนชั้นอนุบาลแล้ว เด็กคนนี้ทั้งดื้อทั้งซน ผิดแปลกจากเมื่อตอนเป็นทารกซึ่งเลี้ยงง่ายมาก แต่ความดื้อความซนกลับทำให้คนเป็นพ่อชอบใจนักแล พาลูกเล่นอะไรที่มันโลดโผน ชอบใช้กำลัง ผมกลัวเหลือเกินว่าโตขึ้นมาจะเป็นนักเลงหัวไม้ ต่อยตีกับคนอื่นไปทั่ว เชื่อแล้วว่าล

  • มาเฟียกับเมียรับจ้าง (Mpreg)   บทที่ 29 กระต่ายน้อย

    บทที่ 29กระต่ายน้อย วันเวลาผันผ่านมาจนถึงหกเดือนแล้ว ชีวิตผมเริ่มเข้าร่องเข้ารอย ส่วนคุณนาธานยังคงเป็นหัวหน้าสมาคมอีธาร์เช่นเคย แต่เขาน่าเกรงขามและมีความโหดเหี้ยมยิ่งกว่าเดิมเสียอีก นั่นเพราะหลังจากได้เปิดตัวผมแล้วมีสมาชิกกลุ่มหนึ่งต่อต้านในความรักของเรา คิดว่าเขาไม่เหมาะจะเป็นหัวหน้าสมาคม การเป็นคนที่น่ากลัวกว่าเดิมมีส่วนทำให้อำนาจที่อยู่ในมือแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ไม่มีคนกล้าต่อต้านเขาแม้แต่น้อย ใช่ว่าผมจะชอบให้เขาเป็นแบบนี้ อยากให้คุณนาธานมีชีวิตที่ผ่อนคลายบ้าง เขาต้องแบกรับทุกอย่างมาโดยตลอด เมื่อกลับมาที่บ้านผมจึงอยากทำให้เขามีความสุขที่สุด ไม่ต้องตีสีหน้าเคร่งขรึมตลอดเวลา บางวันอารมณ์เสียมาจากที่ทำงาน เป็นหน้าที่ของผมต้องทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้น ตาหนูก็โตวันโตคืน โชคดีที่แกเป็นเด็กร่าเริง เลี้ยงง่าย เป็นข

  • มาเฟียกับเมียรับจ้าง (Mpreg)   บทที่ 28 ไม่บ่นสักคำ

    บทที่ 28ไม่บ่นสักคำ “โห่ ฮี่โห่ ฮี่โห่ ฮี่โห่ ฮี่โหยยย ฮิ้ววว” หลังจากเสียงนำขบวนจบลงแล้วก็มีเสียงกลองยาวดังขึ้นทันที วันนี้คฤหาสน์แอนเดสันครึกครื้นเป็นพิเศษ ผมกับแม่อยู่ที่ระเบียงกำลังยืนชมขบวนแห่ขันหมากซึ่งตั้งขบวนอยู่หน้ารั้วบ้าน กำลังเคลื่อนเข้ามาอย่างช้า ๆ โดยมีคุณนายวิมลและป้าสร้อยเดินเคียงข้างเจ้าบ่าวเข้ามา วันนี้คุณนาธานสวมใส่ชุดเจ้าบ่าวซึ่งเป็นชุดไทยประยุกต์ ดูหล่อและมีเสน่ห์มาก เห็นแล้วรู้สึกว่าตัวเองโชคดีจังที่กำลังจะได้แต่งงานกับเขา ถึงจะมีเวลาเตรียมงานแค่ไม่กี่วันแต่ทุกอย่างออกมาเป็นที่น่าพอใจมาก ลืมบอกไปว่าวันนี้คุณอั๋นรับหน้าที่เป็นเพื่อนเจ้าบ่าว ส่วนคุณกายเป็นเพื่อนเจ้าสาวด้วย “หมดทุกข์หมดโศกสักทีนะไอ้บิว จากนี้ฉ

  • มาเฟียกับเมียรับจ้าง (Mpreg)   บทที่ 27 ห้ามใจอ่อนกับใครอีก

    บทที่ 27ห้ามใจอ่อนกับใครอีก “คุณนาธาน! คุณยังไม่ตาย ฮึก...” “นาธานลูกแม่ ฮือ...แม่ไม่ได้ฝันไปใช่ไหม” ผมกับคุณนายวิมลต่างก็เอ่ยด้วยความดีใจ รอยยิ้มและน้ำตาปรากฏขึ้นมาพร้อมกัน ไม่เคยมีเรื่องใดทำให้ผมรู้สึกยินดีมากเท่านี้มาก่อน ตอนนี้เป็นอิสระจากบอดี้การ์ดพวกนั้นแล้วเพราะกลัวคุณนาธานจะส่งลูกตะกั่วมาเอาชีวิต ผมรีบวิ่งเข้าไปสวมกอดเขาด้วยความดีใจ “คนใจร้าย ทำเอาผมแทบจะเป็นบ้าเลยรู้ไหม ฮือ...” “ไม่เอาไม่ร้อง ฉันกลับมาแล้ว” มือหนึ่งของเขายังคงถือปืนสั้น ส่วนอีกมือโอบกอดผมเอาไว้ ลูบเบา ๆ ที่กลางแผ่นหลัง&

  • มาเฟียกับเมียรับจ้าง (Mpreg)   บทที่ 26 เมียข้าใครอย่าแตะ

    บทที่ 26เมียข้าใครอย่าแตะ ข่าวร้ายในวันนั้นสร้างความเจ็บปวดรวดร้าวให้พวกเราเป็นอย่างยิ่ง ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าศพที่ถูกไฟคลอกอยู่ในรถคือคุณนาธานจริง ๆ วันที่รู้ข่าวคุณนายวิมลเป็นลมล้มพับจนต้องหามส่งโรงพยาบาล ส่วนผมนั่งรถไปยังโรงพยาบาลใกล้กับที่เกิดเหตุ กู้ภัยส่งร่างของเขาไปชันสูตรที่นั่น แม้ร้องไห้เสียใจจนไม่มีกะจิตกะใจทำสิ่งใด แต่ผมก็ฝืนตัวเองไปให้เห็นกับตาว่าเป็นเขาจริง ๆ ผมขอร้องคุณหมอตรวจดีเอ็นเอเพื่อให้มั่นใจว่าเป็นเขาจริง แต่เมื่อได้รับของจากเจ้าหน้าที่ซึ่งเก็บมาได้จากจุดเกิดเหตุก็ทำให้ต้องล้มเลิกความคิด มันคือของใช้ส่วนตัวของเขา ไม่ว่าจะเป็นแหวน สร้อย นาฬิกา ของพวกนี้เขาไม่เคยถอดไว้ที่ไหนเลย ไม่มีอะไรจะต้องสงสัยอีกต่อไปแล้ว ยืนทำใจอยู่นานกว่าจะกล้าส่งมือไปเปิดผ้าคลุมศพ เพียงได้เห็นน้ำตามันก็ไหลหลั่ง ผมรีบปิดมันเพราะสภาพศพดูไม่ได้เลยจริง ๆ ภาพนี้คงติดตาผมไปจนวันตาย

  • มาเฟียกับเมียรับจ้าง (Mpreg)   บทที่ 25 ข่าวร้าย

    บทที่ 25ข่าวร้าย หัวใจของผมหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มเมื่อรู้ว่าตาหนูหายตัวไป เราทั้งหมดรีบเดินเข้าไปยังห้องนอนของผม อู่เปลว่างเปล่าไร้เงาของเด็กทารกซึ่งนอนหลับอยู่ เป็นความชะล่าใจของพวกเราเพราะคิดว่าภายในบ้านคงไม่มีใครกล้า แม่กับป้าสร้อยกินข้าวอยู่ในห้องครัว ผมกับคุณนายวิมลสนทนากันอยู่ในห้องนั่งเล่น ใครกันที่กล้าบังอาจลักพาตัวลูกชายผมไป “ตาหนูลูกแม่ ฮือ...” “ตาหนูหลานย่า ใครกันที่มันบังอาจเข้ามาลักพาตัวหลานฉันถึงในนี้!” คุณนายวิมลตะโกนดังก้องไปทั่วทั้งบ้านด้วยความโกรธขั้นสุด ผมทรุดตัวลงนั่งด้วยความเสียใจ เป็นห่วงลูกชายว่าจะโดนคนพวกนั้นทำอะไรบ้าง เมื่อนึกขึ้นได้ว

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status