วันต่อมา..
"วันนี้ต้องเข้าสู่โหมดทำงานแล้วเหรอเนี่ย" เสียงบ่นงึมงำดังเล็ดออกจากริมฝีปากของร่างบางที่นอนเกลือกกลิ้งอยู่บนเตียงเพราะรู้สึกขี้เกียจน้อย ๆ ตั้งแต่เรียนจบมาปีกว่าเธอก็ไม่เคยทำงานเลยได้แต่เที่ยวเตร่ไปวัน ๆ หากไม่ใช่เพื่ออิสระเธอก็คงไม่ยอมทำงานหรอก "สู้ ๆ ยัยหงส์รีบทำให้สำเร็จจะได้จบ ๆ ไปหลังจากนั้นค่อยลั้นลาต่อก็ได้" เธอสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่เรียกแรงฮึบสู้ให้ตัวเองแล้วดีดตัวลุกลงจากเตียงอาบน้ำแต่งตัว หลังจากจัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อยก็คว้ากุญแจบึ๊กไบค์คู่ใจเดินออกจากห้องไป "รถฉันไปไหนเมื่อวานฉันจอดตรงนี้นะ" คิ้วสวยขมวดยุ่งเหยิงเมื่อเดินมายังลานจอดรถของคอนโดแล้วไม่เห็นรถของตัวเองจอดอยู่ เธอจำได้ดีว่าเมื่อวานจอดอยู่ตรงนี้ ดวงตากลมโตกวาดมองไปทั่วลานจอดรถแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่วี่แววรถของเธอ "บ้าเอ๊ย! รถหายไปไหน" เสียงหวานสบถออกมาด้วยความโมโหก่อนจะนึกเอะใจเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นมาเฟียหนุ่มที่เดินยกยิ้มมุมปากตรงมาหาเธอ เท้าเล็กรีบก้าวเดินไปหาร่างสูงอย่างไม่รอช้า ก่อนเปล่งเสียงถามอย่างโมโห "ฝีมือพี่ใช่ไหม พี่เอาหรอกหงส์ไปใช่ไหม" "อย่ามากล่าวหากันลอย ๆ" "หงส์ไม่ได้กล่าวหาไม่ใช่พี่แล้วจะเป็นใคร" ดวงตากลมโตจ้องมองใบหน้าคมคายเขม็งแม้เขาจะปฏิเสธ แต่เธอก็ไม่ปักใจเชื่อเพราะเมื่อวานตอนเธอขับรถบิ๊คไบค์มาถึงคอนโดเขาก็ต่อว่า และสั่งห้ามเมื่อเธอไม่ยอมก็พานทะเลาะกันยกใหญ่ยังดีที่ลูกน้องของเขาห้ามไว้ "เอารถหงส์คืนมา" "ฉันเอาไปเผาทิ้งแล้วเธอจะตามไปเก็บเศษเหล็กไหมละ" มาเฟียหนุ่มเอ่ยตัดปัญหาเพราะรู้สึกรำคาญเสียงแวด ๆ ของหญิงสาวถึงจะรู้ว่าเขาเป็นคนทำคนอย่างเธอก็ทำอะไรเขาไม่ได้อยู่ดี และเขาก็ไม่ได้เผารถตามที่พูดแต่ถ้าบอกว่ารถยังอยู่เธอจะเซ้าซี้ไม่เลิก เอาจริง ๆ เขาก็เป็นเด็กหนุ่มรุ่นใหม่มองว่าผู้หญิงก็สามารถทำอะไรได้เหมือนผู้ชาย แต่ต้องอยู่ในขอบเขตไม่ใช่สุดโต้งแบบเธอ หากเธอขับรถอย่างระมัดระวังเขาก็จะไม่ห้ามเลยสักนิดแต่นี่อะไรกันขนาดเขาเตือนไปเมืื่อวานเธอก็ยังดื้อรั้นตกตอนกลางคืนเขาเลยสั่งให้ลูกน้องแอบมาเอารถของเธอไปเก็บที่โกดัง "นั้นมันรถที่หงส์ซื้อนะพี่มีสิทธิ์อะไรมาทำแบบนี้" หงส์ฟ้าถึงกับปรี๊ดแตกเมื่อได้ยินคำตอบจากปากร่างสูง ดวงตากลมโตจับจ้องใบหน้าคมด้วยความโกรธ เขามีสิทธิ์อะไรมาทำลายของของเธอกันขนาดพ่อแม่เธอยังไม่เคยทำ แต่ดูเหมือนอีกคนจะไม่ได้สะทกสะท้านอะไรเลย หนำซ้ำยังไหวไหล่ยกยิ้มมุมปากอย่างผู้เหนือกว่า "สิทธิ์ที่ฉันเป็นคนดูแลเธอไง" "หงส์โตแล้วไม่จำเป็นต้องให้พี่มาดูแล" "โตแต่ตัว สมองเหมือนเด็กสิบขวบ นิสัยกร้าวร้าว ดื้อ เอาแต่ใจ" "หงส์จะเป็นยังไงก็เรื่องของหงส์" ทั้งสองโต้เถียงกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ก่อนหงส์ฟ้าจะต้องโกรธจนตัวสั่นเมื่อได้ยินประโยคนั้นจากร่างสูง มือเล็กกำเข้าหากันแน่จนเส้นเลือดปูดข่มอารมณ์ไว้ไม่ให้ตัวเองวิ่งเข้าไปตะบั้นหน้าคมคาย แล้วหมุนตัวเดินออกจากตรงนั้นด้วยความเร็ว "จะไปไหนกลับมาขึ้นรถ วันนี้เธอต้องเริ่มงานเป็นวันแรก" เสียงทุ้มตะโกนตามหลังร่างอรชรที่เดินกระเฟียดกระฟัดออกไปดื้อ ๆ ด้วยความงุนงง "หงส์มีปัญญาไปเองได้" คนถูกเรียกหยุดเดินหันกลับไปตอบด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ จากนั้นก็ก้าวเดินต่อเพื่อออกไปเรียกรถแท็กซี่ริมถนนใหญ่เพราะไม่อย่างร่วมทางไปกับเขาวันเวลาหมุนเวียนดำเนินมาจนถึงวันที่มาเฟียหนุ่มกับหงส์ฟ้าแต่งงานกัน ตอนเช้าเป็นพิธีหมั้น พิธีแต่งงานแบบจีน และจัดงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสตอนเย็นที่โรงแรมงานเลี้ยงเลี้ยงฉลองมงคลสมรสของทั้งสองถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โตที่โรงแรมชื่อดังใจกลางเมืองฮ่องกงสมกับฐานะของสองตระกูลมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ ภายในงานถูกตกแต่งอย่างหรูหราด้วยฝีมือของออแกไนซ์เซอร์และเวดดิ้งแพลนเนอร์ชื่อดังระดับประเทศซึ่งทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีจนงานเลี้ยงฉลองเสร็จสิ้นลง"อ่อยย!..เมื่อยขาจัง" หงส์ฟ้าในชุดแต่งงานสีขาวแบรนด์ดังสั่งตัดเย็บพิเศษราคาครึ่งล้านล้มตัวลงนอนแผ่หลาบนเตียงร้องโอดครวญออกมาเบา ๆ หลังจากพ่อแม่ออกไปแล้วในห้องเหลือแค่เธอกับสามีป้ายแดง"หึ" มาเฟียหนุ่มที่กำลังถอดเสื้อสูทออกหลุดยิ้มออกมาอย่างนึกเอ็นดู ก่อนฟาดสูทไว้บนพนักเก้าอี้แล้วเดินไปนั่งลงบนเตียงยกขาเรียวขึ้นมาวางบนตักถลกกระโปรงชุดแต่งงานขึ้นไปกองบนขาอ่อนใช้มือบีบนวดไปตามเรียวขาสวยเบา ๆ เพื่อให้เมียสาวรู้สึกดีขึ้น"ขอบคุณค่ะ" ใบหน้าหวานผงกขึ้นขอบคุณผู้เป็นสามีด้วยรอยยิ้มหวาน ก่อนวางศีรษะราบกับเตียงเหมือนเดิมแล้วค่อย ๆ หลับตาลงด้วยความรู้สึกผ่อนคลาย ฝีมือนวดของสามีเธอ
หลายวันต่อมา.."สวัสดีครับป๊าม๊า" มาเฟียหนุ่มกล่าวทักทายว่าที่พ่อตาแม่ยายที่นั่งอยู่ในห้องโถงอย่างนบน้อมพร้อมหย่อนสะโพกนั่งบนโซฟาฝั่งตรงข้ามทั้งสอง สรรพนามที่เขาเรียกพ่อแม่ของหญิงสาวเปลี่ยนไปเพราะทั้งสองสั่งให้เขาเรียกเหมือนบุตรสาวโดยให้เหตุผลว่าอีกไม่นานเขาก็จะเข้ามาเป็นลูกเขยของตระกูลหวงเฟยหงแล้ว"จ้ะ" พีชยิ้มรับ ส่วนหวงเฟยหงเพียงพยักหน้ารับน้อย ๆ ก่อนจะพูดขึ้น "ม๊าไปดูฤกษ์แต่งงานกับซินแสมาแล้วนะเร็วสุดคือเดือนหน้า""โอเคครับผมจะได้โทรบอกป๊ากับม๊า" มาเฟียหนุ่มพยักหน้ารับระบายยิ้มออกมาอย่างมีความสุขวันที่เขารอคอยใกล้จะเป็นจริงแล้ว"แล้ววันนี้จะมารับน้องไปไหนล่ะ" หวงเฟยหงพยักหน้ารับพร้อมถามต่อ"ปะ..""ไปช้อบปิ้งค่ะ" ไม่ทันที่มาเฟียหนุ่มจะได้ตอบอะไรเสียงของหงส์ฟ้าที่เพิ่งเดินลงมาจากชั้นสองก็ดังแทรกขึ้น มาเฟียหนุ่มขมวดคิ้วเป็นปมหันไปมองทางต้นเสียงด้วยแววตาตำหนิเพราะแฟนสาวพูดโกหกพ่อแม่ความจริงวันนี้เธอชวนเขาไปดูการแข่งรถต่างหาก"ผมกับน้องจะไปดูการแข่งรถครับ" เขาละสายตาจากแฟนสาวหันกลับมาบอกพ่อแม่ของเธอตามความจริงเพราะไม่อยากร่วมโกหกหากผู้ใหญ่ทั้งสองรู้ความจริงภายหลังคงไม่ไว้วางใจเขาแน่เผล
2 วันต่อมา..หงส์ฟ้านั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างห้องด้วยแววตาเศร้า หลังจากกลับมาจากอิตาลีผู้เป็นพ่อก็ไม่ยอมให้เธอออกพ้นบริเวณคฤหาสน์เลยเพราะกลัวว่าเธอจะบินกลับอิตาลี แถมยังยึดโทรศัพท์ไปอีกเพื่อไม่ให้เธอติดต่อกับมาเฟียหนุ่มเวลาผ่านไปแค่สองวันแต่มันช่างแสนยาวนานสำหรับเธอ เธอรู้สึกคิดถึงและเป็นห่วงมาเฟียหนุ่มมากไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง หรือถอดใจยอมแพ้เสียแล้วนี่ก็ผ่านมาสองวันแล้วแต่ยังไม่เห็นเขาโผล่มาสักที"เฮ้อ" เธอถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ก่อนสลัดความคิดฟุ้งซ่านออก แล้วลุกเดินออกจากห้องลงไปยังชั้นล่างเพื่อหาอะไรกินเพราะรู้สึกหิว"กล้ามากนะที่มาเหยียบถึงที่นี่" ทว่าเธอก็ต้องหน้านิ่วคิ้วขมวดเมื่อได้ยินเสียงดุดันของผู้เป็นพ่อดังแว่วมาจากด้านนอก หันไปถามแม่บ้านที่กำลังเดินผ่านไปด้วยความสงสัย "ข้างนอกมีเรื่องอะไรกันเหรอคะ""ไม่รู้ใครมาค่ะเป็นผู้ชายชื่อริว ๆ อะไรนี่แหละค่ะกำลังทะเลาะกับคุณหวงเฟยหงอยู่น.." ไม่ทันที่แม่บ้านจะได้พูดจบหงส์ฟ้าก็รีบวิ่งออกไปทันทีพอจะเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นคนที่มาก็คงเป็นมาเฟียหนุ่มนั่นเองดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อเดินออกมาเห็นภาพตรงหน้าที่ผู้เป็นพ่อยื
@คฤหาสน์คาร์เตอร์"พี่จะคุยเรื่องของเรากับป๊าจริงเหรอคะ หงส์ว่าอย่าเพิ่งเลย" หงส์ฟ้าหันไปเอ่ยกับมาเฟียหนุ่มที่นั่งข้าง ๆ ด้วยสีหน้าเป็นกังวลหลังจากรถจอดลงหน้าคฤหาสน์คาร์เตอร์เพราะเขาบอกว่าเมื่อกลับมาจะบอกเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับเขาให้ผู้เป็นพ่อรับรู้ ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไงก็พร้อมน้อมรับ เธอกลัวเหลือเกินกลัวว่าผู้เป็นพ่อจะผิดหวังในตัวเธอและขัดขว้างไม่ให้แต่งงานกับมาเฟียหนุ่ม"ไม่ต้องกังวล..ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไงฉันก็จะยอมรับและเอาชนะอุปสรรคทุกอย่างให้ได้" มาเฟียหนุ่มยื่นมือไปกอบกุมมือเรียวแล้วบีบเบา ๆ เชิงปลอบประโลมพร้อมกับโน้มหน้ากดจูบหนัก ๆ บนหน้าผากมนด้วยความรักใคร่ "ค่ะ" หงส์ฟ้าระบายยิ้มอ่อน ๆ มองสบตาหนุ่มคนรักด้วยแววตาลึกซึ้งแม้ในใจจะรู้สึกกังวล แต่ก็เชื่อมั่นในตัวคนรักว่าเขาจะสามารถผ่านทุกอย่างไปได้ด้วยดีทั้งสองมองสบตากันอย่างลึกซึ้งเนินนานหลายนาที ก่อนมาเฟียหนุ่มจะละสายตาออกเปิดประตูลงจากโดยมีหงส์ลงตามไปติด ๆ จากนั้นก็พากันเดินเข้าไปในคฤหาสน์หงส์ฟ้าลอบกลืนน้ำลายเหนี่ยว ๆ ลงลำคออึกใหญ่ใจเต้นระรัวราวกับกล้องชุดเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อนั่งอยู่ในห้องโถงกับพ่อของมาเฟียหนุ่มด้วย
วันต่อมา..แสงแดดยามแปดโมงเช้าสาดส่องผ่านหน้าต่างกระจกเข้ามากระทบร่างเปลือยเปล่าของสองหนุ่มสาวที่นอนกอดกันภายใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ปลุกให้ทั้งสองรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา"อื้อ" หงส์ฟ้าส่งเสียงครวญครางในลำคอเบา ๆ เพียงแค่ขยับตัวเล็กน้อยก็รู้สึกระบมกลางกายสาวเป็นอย่างมากเพราะหลังจากปรับความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้วคนเจ้าเล่ห์ก็รังแกเธอทั้งคืนไม่ยอมหยุดไม่รู้ว่าเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนกันทำเอาน้องสาวของเธอบวมช้ำไปหมด"อ๊ะ!" ร่างอรชรสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจเมื่อจู่ ๆ ร่างสูงที่นอนซ้อนหลังเลื่อนมือที่พาดบนเอวคอดขึ้นมาบีบเคล้นเต้าอวบของเธออย่างแรง"หงส์เจ็บนะ" ใบหน้าหวานเอียวไปต่อว่าคนด้านหลังที่นอนอมยิ้มอย่างอารมณ์ดีด้วยแววตาดุพลางแกะมือหนาออกจากเต้าอวบ ทว่าคนหน้ามึนหาได้สนใจเสียงดุไม่กลับฝังจมูกลงบนซอกคอระหงสูดดมกลิ่นกายหอม ๆ พร้อมบดเบียดความเป็นชายที่แข็งขืนกับบั้นท้ายกลมกลึงมือก็บีบเคล้นเต้าอวบไปด้วย"พี่เซริวหยุดนะ..เมื่อคืนพี่ก็รังแกหงส์จนไม่ได้นอนยังไม่พออีกเหรอ" เสียงหวานร้องท้วงด้วยความไม่พอใจเลื่อนมือลงไปดันสะโพกหนาที่กำลังบดเบียดก้นให้ออกห่าง"ก็เมียน่ากิน..กินยังไงก็ไม่อิ่มครับ" แรงเพียงน้อยไม่ได้
วันต่อมา.."เรือใครกัน" หงส์ฟ้าที่นั่งดื่มด่ำกับบรรยากาศยามเช้าบนชิงช้าใต้ต้นไม้ริมชายหาดพึมพำอย่างแปลกใจเมื่อเห็นเรือสปีดโบ๊ทแล่นตรงมายังชายหาดซึ่งไม่ใช่เรือของเพื่อนสาวที่เพิ่งออกไปเมื่อชั่วโมงก่อนแน่นอนเพราะเรือคนละสีกันดวงตาคมจับจ้องเรือที่ค่อย ๆ แล่นเข้ามาจอดริมชายหาดไม่วางตา ก่อนเธอจะต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นคนในเรือที่กำลังลุกขึ้นยืนใจดวงน้อยพานกระหน่ำเต้นไม่เป็นจังหวะ "พี่เซริว"เมื่อตั้งสติได้ก็รีบลุกขึ้นเดินกึ่งวิ่งไปที่บ้านด้วยความเร็วไม่อยากเห็นหน้ามาเฟียหนุ่มเพราะยังรู้สึกเคือง ๆ เขาอยู่ที่รวมหัวกับผู้เป็นพ่อโกหกเธอแม้จะไม่ได้รู้สึกโกรธมากเหมือนวันแรกแล้วก็ตามหมับ! ทว่าเธอก้าวเท้าเดินได้สามสี่ก้าวเท่านั้นก็ถูกมาเฟียหนุ่มพุ่งมากอดจากด้านหลังไม่รู้ว่าเขามาถึงตัวเธอตั้งแต่เมื่อไรกัน"จะหนีไปไหนอีก" มาเฟียหนุ่มกอดรัดร่างอรชรไว้แน่นราวกับกลัวว่าเธอจะหายไป ขณะที่คนถูกกอดพยายามออกแรงดีดดิ้นให้หลุดจากวงแขนแกร่งสุดแรงปากก็ร้องบอกด้วยความไม่พอใจ "ไม่ได้หนีแต่ไม่อยากเห็นหน้า""เกลียด" เธอเน้นคำว่าเกลียดเสียงดังลั่นยังคงออกแรงขัดขืนร่างสูงไม่เลิก "ปล่อยนะอย่ามายุ่งกับหง