"ก็ปล่อยสิจับอยู่อย่างนี้ให้เดินไปยังไง" หงส์ฟ้ามองสบดวงตาคมกริบนานนับนาที ก่อนเอ่ยเสียงห้วน เธอเหนื่อยที่ต้องมาทะเลาะกับเขาแล้วหากยังตอบโต้กลับวันนี้คงไม่จบไม่สิ้น วันนี้เธอจะยอมเขาไปก่อนวันหน้าค่อยเอาคืน
"อย่าตุกติกไม่อย่างนั้นโดนดีแน่" มาเฟียหนุ่มชี้หน้าขู่ร่างอรชรเสียงแข็งก่อนคลายพันธนาการออกจากข้อมือเล็ก ขณะที่อีกคนแอบเบะปากกลอกตามองบนด้วยความหมั่นไส้ ดวงตากลมโตจับจ้องใบหน้าคมคายอย่างขุ่นเคืองริมฝีปากเอิบอิ่มเม้มเข้าหากันแน่นจนเป็นเส้นตรงเมื่อเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ลอยเข้ามาในโสตประสาทคิด ๆ แล้วอยากจะกระโดดบีบคอเขาให้หายแค้นเคืองนัก "ทำไมอยากโดนกัดอีกเหรอ" รอยยิ้มร้ายผุดขึ้นประดับมุมปากหนาอย่างรู้ทันเมื่อเห็นท่าทางของอีกคนดวงตาคมกริบจ้องไปยังกลีบปากอวบที่มีรอยแผลจากการกระทำของเขาด้วยแววตาเย้ยหยัน "ทุเรศ!" ทำเอาหงส์ฟ้าโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแผดเสียงด่าด้วยความโมโห แล้วรีบเดินกระทืบเท้าออกจากห้องไป แค่เริ่มต้นยังขนาดนี้ถ้าต้องร่วมทำงานกับเขาทุกวันเธอต้องบ้าตายแน่ ๆ เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าตัวเองคิดถูกหรือคิดผิดที่ตกลงมาทำงานที่นี่ แต่คนอย่างเธอไม่เคยยอมแพ้อะไรง่าย ๆ อยู่แล้วต้องมีสักวันที่เธอจะเอาคืนเขาได้ "ฝากไว้ก่อนเถอะ" มือเรียวกำเข้าหากันแน่นจนเส้นเลือดปูดโปนข่มความแค้นใจเอาไว้ ก่อนเท้าเล็กจะก้าวเดินออกจากโรงแรมด้วยความเร็วเพื่อไม่ให้อีกคนตามทัน ทว่าคนขาสั้นอย่างเธอก็เสียเปรียบขายาว ๆ ของร่างสูงอยู่ดีเขาสาวเท้าเดินไม่กี่ครั้งก็ตามเธอทันแล้ว "จะไปไหนรถจอดอยู่นี่" มาเฟียหนุ่มตะเบ็งเสียงพูดเมื่อร่างอรชรข้างหน้าเดินผ่านรถไป "หงส์กลับเองได้" อีกคนหยุดเดินอัตโนมัติหันกลับไปชูกุญแจรถให้ร่างสูงดูจากนั้นก็เดินต่อทิ้งให้เขามองตามหลังด้วยความสงสัย ก่อนความสงสัยของเขาจะกระจ่างในเวลาต่อมาเมื่อหญิงสาวเดินไปถึงรถบิ๊กไบค์คันหรู "ร้ายใช่ย่อยนิหงส์ฟ้า" เสียงเค้นหัวเราะดังก้องในลำคอหนาเขาประมาทเธอไปจริง ๆ ไม่คิดว่าคลาดสายตาเขาแค่วันเดียวเธอจะซื้อรถมาขับแล้ว ดวงตาคมกริบจ้องมองไปยังร่างอรชรที่กำลังสวมถุงมือแล้วตามหมวกกันน็อคตาไม่กระพริบทุกปฏิกิริยาการขยับตัวของเธอดูมีเสน่ห์ชวนมองอย่างบอกไม่ถูก "นายจะกลับคอนโดเลยไหมครับ" มาเฟียหนุ่มจับจ้องร่างอรชรอยู่อย่างนั้นจนเสียงของลูกน้องดังขึ้นทำให้หลุดออกจากภวังค์ เขาสะบัดศีรษะไล่ความคิดบ้า ๆ ของตัวเองออกแล้วหันกลับไปพูดกับลูกน้อง "ขับรถตามเธอไป" "ครับ" จอห์นพยักหน้ารับแล้วเดินไปขึ้นรถประจำที่นั่งคนขับ ส่วนมาเฟียหนุ่มก็ขึ้นนั่งเบาะด้านหลังจากนั้นรถหรูก็เคลื่อนตัวออกจากโรมแรมตามรถบิ๊กไบค์ของหญิงสาวไปติด ๆ "ขับรถแบบนั้นสงสัยไม่อยากมีชีวิตอยู่บนโลกนี้แล้ว" เขาถึงกับส่ายหน้าอย่างเอือม ๆ เมื่อได้เห็นการขับบิ๊กไบค์ของหญิงสาวที่ซิกแซก โฉบเฉี่ยวแซงรถด้านหน้าไปมาด้วยความเร็ว ใจกล้าบ้าบิ่นเกินผู้หญิงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพ่อของเธอถึงย้ำกับเขานักหนาว่าอย่าให้เธอขับรถบิ๊กไบค์ นึกหนักใจแทนคนเป็นพ่อแม่แถมยังต้องมาลำบากเขาอีกต่างหากวันเวลาหมุนเวียนดำเนินมาจนถึงวันที่มาเฟียหนุ่มกับหงส์ฟ้าแต่งงานกัน ตอนเช้าเป็นพิธีหมั้น พิธีแต่งงานแบบจีน และจัดงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสตอนเย็นที่โรงแรมงานเลี้ยงเลี้ยงฉลองมงคลสมรสของทั้งสองถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โตที่โรงแรมชื่อดังใจกลางเมืองฮ่องกงสมกับฐานะของสองตระกูลมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ ภายในงานถูกตกแต่งอย่างหรูหราด้วยฝีมือของออแกไนซ์เซอร์และเวดดิ้งแพลนเนอร์ชื่อดังระดับประเทศซึ่งทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีจนงานเลี้ยงฉลองเสร็จสิ้นลง"อ่อยย!..เมื่อยขาจัง" หงส์ฟ้าในชุดแต่งงานสีขาวแบรนด์ดังสั่งตัดเย็บพิเศษราคาครึ่งล้านล้มตัวลงนอนแผ่หลาบนเตียงร้องโอดครวญออกมาเบา ๆ หลังจากพ่อแม่ออกไปแล้วในห้องเหลือแค่เธอกับสามีป้ายแดง"หึ" มาเฟียหนุ่มที่กำลังถอดเสื้อสูทออกหลุดยิ้มออกมาอย่างนึกเอ็นดู ก่อนฟาดสูทไว้บนพนักเก้าอี้แล้วเดินไปนั่งลงบนเตียงยกขาเรียวขึ้นมาวางบนตักถลกกระโปรงชุดแต่งงานขึ้นไปกองบนขาอ่อนใช้มือบีบนวดไปตามเรียวขาสวยเบา ๆ เพื่อให้เมียสาวรู้สึกดีขึ้น"ขอบคุณค่ะ" ใบหน้าหวานผงกขึ้นขอบคุณผู้เป็นสามีด้วยรอยยิ้มหวาน ก่อนวางศีรษะราบกับเตียงเหมือนเดิมแล้วค่อย ๆ หลับตาลงด้วยความรู้สึกผ่อนคลาย ฝีมือนวดของสามีเธอ
หลายวันต่อมา.."สวัสดีครับป๊าม๊า" มาเฟียหนุ่มกล่าวทักทายว่าที่พ่อตาแม่ยายที่นั่งอยู่ในห้องโถงอย่างนบน้อมพร้อมหย่อนสะโพกนั่งบนโซฟาฝั่งตรงข้ามทั้งสอง สรรพนามที่เขาเรียกพ่อแม่ของหญิงสาวเปลี่ยนไปเพราะทั้งสองสั่งให้เขาเรียกเหมือนบุตรสาวโดยให้เหตุผลว่าอีกไม่นานเขาก็จะเข้ามาเป็นลูกเขยของตระกูลหวงเฟยหงแล้ว"จ้ะ" พีชยิ้มรับ ส่วนหวงเฟยหงเพียงพยักหน้ารับน้อย ๆ ก่อนจะพูดขึ้น "ม๊าไปดูฤกษ์แต่งงานกับซินแสมาแล้วนะเร็วสุดคือเดือนหน้า""โอเคครับผมจะได้โทรบอกป๊ากับม๊า" มาเฟียหนุ่มพยักหน้ารับระบายยิ้มออกมาอย่างมีความสุขวันที่เขารอคอยใกล้จะเป็นจริงแล้ว"แล้ววันนี้จะมารับน้องไปไหนล่ะ" หวงเฟยหงพยักหน้ารับพร้อมถามต่อ"ปะ..""ไปช้อบปิ้งค่ะ" ไม่ทันที่มาเฟียหนุ่มจะได้ตอบอะไรเสียงของหงส์ฟ้าที่เพิ่งเดินลงมาจากชั้นสองก็ดังแทรกขึ้น มาเฟียหนุ่มขมวดคิ้วเป็นปมหันไปมองทางต้นเสียงด้วยแววตาตำหนิเพราะแฟนสาวพูดโกหกพ่อแม่ความจริงวันนี้เธอชวนเขาไปดูการแข่งรถต่างหาก"ผมกับน้องจะไปดูการแข่งรถครับ" เขาละสายตาจากแฟนสาวหันกลับมาบอกพ่อแม่ของเธอตามความจริงเพราะไม่อยากร่วมโกหกหากผู้ใหญ่ทั้งสองรู้ความจริงภายหลังคงไม่ไว้วางใจเขาแน่เผล
2 วันต่อมา..หงส์ฟ้านั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างห้องด้วยแววตาเศร้า หลังจากกลับมาจากอิตาลีผู้เป็นพ่อก็ไม่ยอมให้เธอออกพ้นบริเวณคฤหาสน์เลยเพราะกลัวว่าเธอจะบินกลับอิตาลี แถมยังยึดโทรศัพท์ไปอีกเพื่อไม่ให้เธอติดต่อกับมาเฟียหนุ่มเวลาผ่านไปแค่สองวันแต่มันช่างแสนยาวนานสำหรับเธอ เธอรู้สึกคิดถึงและเป็นห่วงมาเฟียหนุ่มมากไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง หรือถอดใจยอมแพ้เสียแล้วนี่ก็ผ่านมาสองวันแล้วแต่ยังไม่เห็นเขาโผล่มาสักที"เฮ้อ" เธอถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ก่อนสลัดความคิดฟุ้งซ่านออก แล้วลุกเดินออกจากห้องลงไปยังชั้นล่างเพื่อหาอะไรกินเพราะรู้สึกหิว"กล้ามากนะที่มาเหยียบถึงที่นี่" ทว่าเธอก็ต้องหน้านิ่วคิ้วขมวดเมื่อได้ยินเสียงดุดันของผู้เป็นพ่อดังแว่วมาจากด้านนอก หันไปถามแม่บ้านที่กำลังเดินผ่านไปด้วยความสงสัย "ข้างนอกมีเรื่องอะไรกันเหรอคะ""ไม่รู้ใครมาค่ะเป็นผู้ชายชื่อริว ๆ อะไรนี่แหละค่ะกำลังทะเลาะกับคุณหวงเฟยหงอยู่น.." ไม่ทันที่แม่บ้านจะได้พูดจบหงส์ฟ้าก็รีบวิ่งออกไปทันทีพอจะเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นคนที่มาก็คงเป็นมาเฟียหนุ่มนั่นเองดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อเดินออกมาเห็นภาพตรงหน้าที่ผู้เป็นพ่อยื
@คฤหาสน์คาร์เตอร์"พี่จะคุยเรื่องของเรากับป๊าจริงเหรอคะ หงส์ว่าอย่าเพิ่งเลย" หงส์ฟ้าหันไปเอ่ยกับมาเฟียหนุ่มที่นั่งข้าง ๆ ด้วยสีหน้าเป็นกังวลหลังจากรถจอดลงหน้าคฤหาสน์คาร์เตอร์เพราะเขาบอกว่าเมื่อกลับมาจะบอกเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับเขาให้ผู้เป็นพ่อรับรู้ ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไงก็พร้อมน้อมรับ เธอกลัวเหลือเกินกลัวว่าผู้เป็นพ่อจะผิดหวังในตัวเธอและขัดขว้างไม่ให้แต่งงานกับมาเฟียหนุ่ม"ไม่ต้องกังวล..ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไงฉันก็จะยอมรับและเอาชนะอุปสรรคทุกอย่างให้ได้" มาเฟียหนุ่มยื่นมือไปกอบกุมมือเรียวแล้วบีบเบา ๆ เชิงปลอบประโลมพร้อมกับโน้มหน้ากดจูบหนัก ๆ บนหน้าผากมนด้วยความรักใคร่ "ค่ะ" หงส์ฟ้าระบายยิ้มอ่อน ๆ มองสบตาหนุ่มคนรักด้วยแววตาลึกซึ้งแม้ในใจจะรู้สึกกังวล แต่ก็เชื่อมั่นในตัวคนรักว่าเขาจะสามารถผ่านทุกอย่างไปได้ด้วยดีทั้งสองมองสบตากันอย่างลึกซึ้งเนินนานหลายนาที ก่อนมาเฟียหนุ่มจะละสายตาออกเปิดประตูลงจากโดยมีหงส์ลงตามไปติด ๆ จากนั้นก็พากันเดินเข้าไปในคฤหาสน์หงส์ฟ้าลอบกลืนน้ำลายเหนี่ยว ๆ ลงลำคออึกใหญ่ใจเต้นระรัวราวกับกล้องชุดเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อนั่งอยู่ในห้องโถงกับพ่อของมาเฟียหนุ่มด้วย
วันต่อมา..แสงแดดยามแปดโมงเช้าสาดส่องผ่านหน้าต่างกระจกเข้ามากระทบร่างเปลือยเปล่าของสองหนุ่มสาวที่นอนกอดกันภายใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ปลุกให้ทั้งสองรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา"อื้อ" หงส์ฟ้าส่งเสียงครวญครางในลำคอเบา ๆ เพียงแค่ขยับตัวเล็กน้อยก็รู้สึกระบมกลางกายสาวเป็นอย่างมากเพราะหลังจากปรับความเข้าใจกันเรียบร้อยแล้วคนเจ้าเล่ห์ก็รังแกเธอทั้งคืนไม่ยอมหยุดไม่รู้ว่าเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนกันทำเอาน้องสาวของเธอบวมช้ำไปหมด"อ๊ะ!" ร่างอรชรสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจเมื่อจู่ ๆ ร่างสูงที่นอนซ้อนหลังเลื่อนมือที่พาดบนเอวคอดขึ้นมาบีบเคล้นเต้าอวบของเธออย่างแรง"หงส์เจ็บนะ" ใบหน้าหวานเอียวไปต่อว่าคนด้านหลังที่นอนอมยิ้มอย่างอารมณ์ดีด้วยแววตาดุพลางแกะมือหนาออกจากเต้าอวบ ทว่าคนหน้ามึนหาได้สนใจเสียงดุไม่กลับฝังจมูกลงบนซอกคอระหงสูดดมกลิ่นกายหอม ๆ พร้อมบดเบียดความเป็นชายที่แข็งขืนกับบั้นท้ายกลมกลึงมือก็บีบเคล้นเต้าอวบไปด้วย"พี่เซริวหยุดนะ..เมื่อคืนพี่ก็รังแกหงส์จนไม่ได้นอนยังไม่พออีกเหรอ" เสียงหวานร้องท้วงด้วยความไม่พอใจเลื่อนมือลงไปดันสะโพกหนาที่กำลังบดเบียดก้นให้ออกห่าง"ก็เมียน่ากิน..กินยังไงก็ไม่อิ่มครับ" แรงเพียงน้อยไม่ได้
วันต่อมา.."เรือใครกัน" หงส์ฟ้าที่นั่งดื่มด่ำกับบรรยากาศยามเช้าบนชิงช้าใต้ต้นไม้ริมชายหาดพึมพำอย่างแปลกใจเมื่อเห็นเรือสปีดโบ๊ทแล่นตรงมายังชายหาดซึ่งไม่ใช่เรือของเพื่อนสาวที่เพิ่งออกไปเมื่อชั่วโมงก่อนแน่นอนเพราะเรือคนละสีกันดวงตาคมจับจ้องเรือที่ค่อย ๆ แล่นเข้ามาจอดริมชายหาดไม่วางตา ก่อนเธอจะต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นคนในเรือที่กำลังลุกขึ้นยืนใจดวงน้อยพานกระหน่ำเต้นไม่เป็นจังหวะ "พี่เซริว"เมื่อตั้งสติได้ก็รีบลุกขึ้นเดินกึ่งวิ่งไปที่บ้านด้วยความเร็วไม่อยากเห็นหน้ามาเฟียหนุ่มเพราะยังรู้สึกเคือง ๆ เขาอยู่ที่รวมหัวกับผู้เป็นพ่อโกหกเธอแม้จะไม่ได้รู้สึกโกรธมากเหมือนวันแรกแล้วก็ตามหมับ! ทว่าเธอก้าวเท้าเดินได้สามสี่ก้าวเท่านั้นก็ถูกมาเฟียหนุ่มพุ่งมากอดจากด้านหลังไม่รู้ว่าเขามาถึงตัวเธอตั้งแต่เมื่อไรกัน"จะหนีไปไหนอีก" มาเฟียหนุ่มกอดรัดร่างอรชรไว้แน่นราวกับกลัวว่าเธอจะหายไป ขณะที่คนถูกกอดพยายามออกแรงดีดดิ้นให้หลุดจากวงแขนแกร่งสุดแรงปากก็ร้องบอกด้วยความไม่พอใจ "ไม่ได้หนีแต่ไม่อยากเห็นหน้า""เกลียด" เธอเน้นคำว่าเกลียดเสียงดังลั่นยังคงออกแรงขัดขืนร่างสูงไม่เลิก "ปล่อยนะอย่ามายุ่งกับหง