ณ งานแฟชั่นโชว์
เวลา 18.00 น. "ยินดีด้วยนะมึง โชว์มึงดีมากเลยได้ A แน่นอน" โมเน่เอ่ยกับเวนิสทันทีเมื่อโชว์จบลงพร้อมกับยื่นช่อดอกไม้แสนสวยเพื่อเป็นการแสดงความยินดีให้แก่เพื่อนรักของเธอ "ขอบใจนะเพื่อนรัก เดียวกูเคลียร์วิชานี้เสร็จวันศุกร์ไปปาร์ตี้กันไหมกูเลี้ยงเอง" เวนิสเอ่ยขึ้นพร้อมกับยิ้มดีใจที่งานของเธอจบลงด้วยดีและมีเหล่าอาจารย์ต่างชื่นชมโชว์ของเธอ "ไม่ได้ว่ะ กูต้องกลับไทยแล้วแด๊ดดี๊เรียกให้กลับด่วน" โมเน่เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าและน้ำเสียงเสียดาย "ทำไมรีบกลับจัง มีปัญหาไรรึป่าว" "แด๊ดดี๊บอกสาขาที่ฝรั่งเศสมีปัญหาเลยจะรีบไปดู" "น่าเสียดายจัง ไม่เป็นไรมึงเดียวค่อยเจอกันที่ไทยกูก็จะกลับสิ้นเดือนนี้" "กรี๊ด จริงหรอ" โมเน่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงดีใจสุดขีด โมเน่เองกลับไปก็กลัวเหงาเช่นกันเพราะนอกจากเวนิสที่เป็นเพื่อนกับเธอมาตั้งแต่อนุบาลเธอก็ไม่มีเพื่อนที่ไหน ด้วยนิสัยเอาแต่ใจไม่ยอมใครของพวกเธอและไม่อยากสุงสิงกับใครเลยคบกันมาแค่สองคนมาตลอด "จริงสิยะ" "งั้นคืนนี้เราไปดินเนอร์กันเบาๆ เพื่อเป็นการฉลองที่เราสองคนจบแล้วดีไหม" "ได้ มึงเลือกร้านเลยเดียวกูเคลียร์สถานที่คืนเขาก่อน" เวนิสเอ่ยพร้อมทั้งหันไปมองยังสถานที่จัดงานที่ตอนนี้กำลังเริ่มทยอยเก็บกันแล้ว "ได้จ๊ะเพื่อนรัก" โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมกับยิ้มแฉ่งก่อนจะเดินไปนั่งเลือกร้านรอเพื่อนรักของเธอ ณ ราชอาณาจักรไทย "ถึงสักทีเมื่อยชะมัด" ร่างบางที่พึ่งเดินลงมาจากเครื่องบินเอ่ยขึ้นพร้อมกับบิดขี้เกียจไปมาเมื่อเหยียบถึงพื้นดินถึงเเม้ว่าเธอจะนั่งชั้นเฟิร์สคลาสมาแต่การเดินทางที่ยาวนานก็ทำให้เธอรู้สึกเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวมากเช่นกัน "คุณหนูครับทางนี้ครับ" สมชายคนขับรถประจำบ้านที่มารอรับโมเน่เอ่ยขึ้นก่อนจะรีบเดินไปช่วยเธอขนสัมภาระ "แด๊ดดี๊กับหม่ามี๊ไม่มารับฉันหรอ? " โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมกับมองหาพ่อกับแม่ของเธอทันที "พวกคุณท่านยังประชุมไม่เสร็จครับเลยให้ผมมารับคุณหนูแล้วพวกท่านจะไปรอที่บ้าน" สมชายเอ่ยขึ้นขณะเข็นกระเป๋าเดินตามหลังเธอออกไปยังที่จอดรถ "เห้อ~ " ร่างบางที่ได้ยินคำตอบของสมชายก็ถอนหายใจออกมาอย่างผิดหวังก่อนจะเดินขึ้นรถไป "คุณหนูจะไปที่ไหนก่อนไหมครับ" "ไม่ ฉันอยากกลับบ้านเลย" "ครับ" หลังจากรับคำสั่งจากเจ้านายสมชายก็ออกรถตรงไปยังบ้านทันที ณ บ้านโสภาสิริ "คุณหนูกลับมาแล้วค่ะคุณท่าน" ช้อยแม่บ้านเก่าแก่เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นรถที่สมชายขับไปรับคุณหนูกำลังแล่นมาจอดยังหน้าประตูบ้านหลังใหญ่ "โมเน่ของแด๊ดดี๊" ก้อง ก้องเกียรติ โสภาสิริ ที่ได้ยืนรอลูกสาวของตนอยู่ที่ประตูหน้าบ้านเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงดีใจเมื่อเห็นว่าลูกสาวสุดที่รักกลับมาบ้านแล้ว "แด๊ดดี๊ หม่ามี๊คิดถึงจังเลยค่ะ" โมเน่ที่เห็นพ่อกับแม่ยืนรออยู่หน้าประตูบ้านก็รีบลงจากรถและเอ่ยขึ้นก่อนจะรีบเดินไปกอดพวกท่านทั้งสอง "หม่ามี๊ก็คิดถึงโมเน่ที่สุดเลยลูก" พลอย คุณหญิง ไพริน โสภาสิริ เอ่ยขึ้นพร้อมกับสวมกอดลูกสาวอันเป็นที่รักทันทีด้วยความคิดถึง "กินอะไรมารึยังลูก" ก้องเกียรติเอ่ยขึ้นพร้อมกับลูบหัวลูกสาวตัวเองอย่างเอ็นดู "ยังเลยค่ะ โมเน่คิดถึงอาหารฝีมือยายช้อยที่สุดเลยค่ะ" โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมทำน้ำเสียงและสายตาออดอ้อนช้อยแม่บ้านเก่าแก่ที่เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่เด็กยามพ่อและแม่ของเธอยุ่งอยู่กับงานจนแทบไม่มีเวลาให้ เธอจึงรักช้อยเหมือนกับคนในครอบครัวเธอคนหนึ่ง "วันนี้ช้อยเตรียมแต่ของโปรดคุณหนูไว้ทั้งนั้นเลยค่ะ" ช้อยเอ่ยขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม เธอเองก็คิดถึงคุณหนูของเธอเช่นกันใครจะว่าคุณหนูของเธอเอาแต่ใจนิสัยเสียแค่ไหนแต่เธอเป็นคนเลี้ยงล้วนรู้ดีกว่าใครว่าจริงๆ แล้วคุณหนูของเธอเป็นคนยังไง "ลูกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ จะได้ลงมาทานข้าวเดียวแด๊ดดี๊มีเรื่องงานจะคุยด้วย" ก้องเกียรติเอ่ยพร้อมกับยิ้มให้ลูกสาวของตนพร้อมกับที่แม่ของเธอคลายอ้อมกอดออก "อะไรกันคะโมเน่พึ่งจะกลับมาเองนะ" โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมทั้งทำสีหน้านอยพ่อของเธอที่เธอพึ่งกลับมาก็จะให้ทำงานเสียแล้ว "โอ๋ๆ ก็พรุ่งนี้แด๊ดดี๊กับหม่ามี๊ต้องไปร่วมงานเลี้ยงสมาคมเลยอยากพาโมเน่ไปให้รู้จักนักธุรกิจคนอื่นไงลูก" "แต่ว่า.." "ไม่มีแต่โมเน่ ไปเปลี่ยนชุดนะลูกจะได้มาทานข้าวกัน" ยังไม่ทันที่เธอจะเอ่ยจบผู้เป็นแม่ของเธอก็แทรกพูดขึ้นมาก่อน "ก็ได้ค่ะ" โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมทั้งทำหน้านอยและเดินขึ้นไปยังห้องนอนเพื่อที่จะเปลี่ยนชุด - 40 นาทีผ่านไป - "อิ่มจังเลยค่ะ กินข้าวที่ไหนก็ไม่อร่อยเท่ายายช้อยทำ" โมเน่เอ่ยขึ้นอย่างเอาใจพร้อมกับลูบพุงตัวเองที่พึ่งจะกินข้าวจานที่สามหมดไป นานแล้วที่เธอไม่ได้กินอาหารไทยที่ถูกปากแบบนี้หนำซ้ำยายช้อยยังทำแต่อาหารโปรดของเธอไว้รอทั้งนั้น มีทั้ง แกงเขียวหวานไก่ หมูเค็ม ปูผัดผงกะหรี่ ปลาทับทิมนึ่งมะนาว หมูสร่ง ไก่ทอดเปรี้ยวหวาน จะไม่ให้เธอเติมข้าวก็คงเป็นเรื่องแปลก "ปากหวานไม่เปลี่ยนเลยนะคะคุณหนูเดียวช้อยไปเอาบัวลอยไข่หวานของโปรดคุณหนูมาให้นะคะ" ช้อยที่ได้ยินที่โมเน่ชมก็ยิ้มแก้มแทบปริพร้อมทั้งรีบเดินกลับไปยังหลังครัวเพื่อที่จะเตรียมขนมหวานมาเสิร์ฟ "เอาล่ะมาเข้าเรื่องงานกันเลยนะ" ก้องเกียรติเอ่ยหลังจากที่พึ่งวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะ "ค่ะ" โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมกับตั้งใจฟังที่ผู้เป็นพ่อกำลังจะพูด "ที่แด๊ดดี๊บอกว่าเดือนหน้าแด๊ดดี๊กับหม่ามี๊ต้องไปดูงานที่ฝรั่งเศสอาจจะเลื่อนไปเร็วขึ้นเพราะทางนั้นค่อนข้างมีปัญหา" "แต่โมเน่พึ่งกลับมาเองนะคะจะทิ้งโมเน่ให้อยู่คนเดียวหรอลูกน้องแด๊ดดี๊เยอะแยะก็ให้ทำแทนไปสิ" "มันเป็นปัญหาที่แด๊ดดี๊ต้องไปจัดการเองแด๊ดดี๊จะสั่งงานไว้ให้โมเน่งานหนึ่งได้ไหมลูกถ้าโมเน่ทำได้แด๊ดดี๊มีรางวัลใหญ่ให้" "งานอะไรหรอคะ" โมเน่เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นและแววตาเป็นประกายเมื่อได้ยินคำว่ารางวัลใหญ่ "ตอนนี้โรมแรมของเราคู่แข่งค่อนข้างที่จะเยอะถึงโรงแรมเราจะเป็นโรงแรมเก่าแก่และมีฐานลูกค้าอยู่แล้วแต่เดียวนี้โรมแรมใหม่ๆ ที่พึ่งเปิดตัวก็ดึงลูกค้าเราไปมากเช่นกัน" ก้องเกียรติเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าเคร่งเครียด จริงอยู่ว่าโรงแรมของเขาเป็นโรงแรมหรูเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงมานานนับรุ่นต่อรุ่นแต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปก็ทำให้เกินการเเข่งขันมากขึ้นด้วยเช่นกัน "แล้วทำไมเราไม่จ้างพวกดาราดังๆ หรืออินฟลูเอนเซอร์ดังๆ มารีวิวให้ล่ะคะเงินจ้างแค่นั้นไม่สะเทือนขนหน้าแข้งเราเลยด้วยซ้ำ" "วิธีแบบนั้นโรงแรมไหนเขาก็ทำกับนะจ๊ะลูกโรงแรมเราก็เคยทำ" คุณหญิงไพรินเอ่ย "แล้วแบบนี้เราจะทำยังไงดีล่ะคะ" "แด๊ดดี๊กับหม่ามี๊ได้ข่าวมาว่าบริษัท GR ที่เป็นบริษัทที่ส่งออกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผลิตไวน์หรูระดับโลกอย่างไวน์ le raisin blanc มาเปิดบริษัทลูกที่ไทยและจะมีงานเปิดบริษัทอาทิตย์หน้าถ้าเราดิวกับเขาได้แล้วให้เขาส่งไวน์ le raisin blanc ที่ผลิตมาจำนวนจำกันต่อปีให้แค่โรงแรมของเรา..." ก้องเกียรติเอ่ยขึ้นก่อนจะหยุดและหันไปมองทางลูกสาวของตนว่าเข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อไหม "โรงแรมของเราก็จะเป็นที่จับตามองจากบรรดาเหล่าเศรษฐีจากทั่วโลกมากขึ้น" โมเน่เอ่ยขึ้นอย่างเข้าใจความหมายของผู้เป็นพ่อ แต่เดิมฐานลูกค้าที่มาพักโรงแรมของที่บ้านเธอส่วนมากมักจะเป็นคนมีเงินและคนใหญ่คนโตเพราะด้วยการตกแต่งการบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่างทำให้ห้องพักมีราคาที่ค่อนข้างสูงแต่ถ้ายิ่งได้บริษัท GR ส่งไวน์หรูอย่าง le raisin blanc ที่ผลิตปีหนึ่งไม่ถึงร้อยขวดให้โรงแรมเธอที่มีสาขาอยู่แทบจะทั่วโลกก็จะยิ่งเรียกเหล่าบรรดาเศรษฐีได้มากขึ้นอย่างไม่ยากเลย "ใช่จ๊ะ เพราะอย่างงั้นหม่ามี๊กับแด๊ดดี๊เลยอย่างให้ลูกดิวกับมิสเตอร์ดราก้อนให้สำเสร็จ" "มิสเตอร์ดราก้อน" โมเน่เอ่ยทวนชื่ออีกครั้งอย่างนึกตะหงิดใจ "ใช่จ๊ะ มิสเตอร์ดราก้อนเป็นลูกชายคนโตของบริษัท GR อายุน่าจะมากกว่าลูกสัก 4 - 5 ปี " "ถ้าลูกปิดดิวนี้ได้แด๊ดดี๊เตรียมรางวัลไว้ให้ลูกสาวคนสวยแล้วหรือโมเน่จะเลือกเองก็ได้" "แด๊ดดี๊พูดแล้วนะคะ แล้วงานที่โรงแรมล่ะคะแด๊ดดี๊ก็รู้ว่าโมเน่โง่จะตายจบมาได้เพราะเงินแด๊ดดี๊กับหม่ามี๊ทั้งนั้น" "ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอกระหว่างที่แด๊ดดี๊ไม่อยู่จะให้สิธากลับมาดูแลแทนให้ก่อน โมเน่เเค่เข้าไปเซ็นเอกสารเล็กๆ น้อยๆ ก็พอ" ก้องเกียรติเอ่ยถึงผู้ช่วยคนสนิทที่ตอนนี้เขาส่งไปดูแลสาขาที่ดูไบ "หรือโมเน่จะหาลูกเขยเก่งๆ ฉลาดๆ มาให้หม่ามี๊กับแด๊ดดี๊ก็ได้นะลูก" "โมเน่จะไปหาจากไหนล่ะคะ สู้ให้โมเน่หาแฟนให้โมเน่เอาเงินไปจ้างคนที่เก่งๆ มาบริหารแทนดีกว่า" "มิสเตอร์ดราก้อนไงหม่ามี๊เคยเจอเขาครั้งนึงหล่อมากเลยนะลูกข่าวเสียหายก็ไม่เคยมี เดียวอาทิตย์หน้าตอนงานเปิดบริษัทของเขาที่ไทยหม่ามี๊พาไปแนะนำ" "แด๊ดดี๊ก็ไม่ติดนะถ้าเป็นมิสเตอร์ดราก้อนแด๊ดดี๊คงจะเบาใจเรื่องงานขึ้นเยอะเลย ฮ่าๆ " ก้องเกียรติเอ่ยอย่างหยอกล้อกับลูกสาวของตน "แด๊ดดีอะ แค่บริหารงานเองเดียวโมเน่จะทำให้ดู" โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมกับทำหน้าบึ้งตึงก่อนจะตักขนมหวานที่แม่บ้านพึ่งเอามาเสิร์ฟให้เขาปากณ งานแต่งงานที่โรงแรม Patson Tara"สวยมากเลยเพื่อนรักของกู" เอลลี่เอ่ยขึ้นอย่าตื่นตันใจพร้อมกับน้ำตาที่คลอเบ้าเมื่อเห็นสายน้ำอยู่ในชุดเจ้าสาวเปิดไหล่กระโปรงฟูฟ่อง"เริศสุดๆ งานทีไม่มีใครสวยกว่ามึงแน่" เมลเบิร์นก็เอ่ยขึ้นมาอยากรู้สึกตื้นตันที่เห็นสายน้ำในชุดเจ้าสาวเช่นกัน"อีน้ำสวยมาก กูจะได้ใส่ชุดแต่งงานกับเขาบ้างไหมเนี้ย" แอจจี้เอ่ย"มึงโยนช่อดอกไม้มาให้กูนะกูรอรับเอง" บุ้งกี้เอ่ย"โอ้ยอีบุ้งกี้หาผัวก่อนไหม" แมนนี่เอ่ย"อีนี้อย่ามาดับฝันกูได้ไหมเผื่อกูจะได้พบรักกับฝรั่งในงานก็ได้กูเห็นนักธุรกิจต่างชาติเยอะเลย""ตื่นเถอะค่ะอีดอก" เอลลี่เอ่ยขึ้นอย่างหยอกล้อพร้อมกับเสียงหัวเราะมีความสุขของทุกคนในห้องที่ดังขึ้นแกร็ก~"แต่งตัวเสร็จรึยังจ๊ะสาวๆ " เอลิสอยู่ในชุดราตรีที่ดูสง่างามเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับเอ่ยขึ้น"เสร็จแล้วค่ะพี่เอลิซ" เมลเบิร์นเอ่ยขึ้น"เดียวพี่จะฝากน้องคนหนึ่งมาแต่งตัวด้วยนะจ๊ะน่าจะรุ่นเดียวกันกับพวกเธอ""ได้ค่ะพี่" สายน้ำเอ่ยแกร็ก~"มาแล้วมั้ง" เอลิสเอ่ยและหันไปทางเสียงประตูที่กำลังเปิดออกปรากฎเป็นหญิงสาวที่ดูรุ่นราวคราวเดียวกับพอร์ชที่ดูสวยสง่าและผิวพรรณดีหุ่นเพียวสูงโปร่
4 เดือนต่อมาแอสตันและสายน้ำวางดอกไม้ตรงริมฟุตบาทที่รถของพอร์ชตกลงไปก่อนจะทอดสายตามองน้ำทะเลและฟังเสียงคลื่นที่กำลังซัดเข้าฝั่ง"สวยจังเลยเนาะ" สายน้ำเอ่ยขึ้นและหันมามองแอสตันที่ดูเหม่อลอยมองไปยังท้องทะเล"นี้ก็ครบ 1 ปีแล้ว" แอสตันเอ่ย"คิดถึงหรอ""อืม หนูว่าพอร์ชจะอยู่ส่วนไหนของทะเลตอนนี้หรอ"คงจะสบายดีอยู่ที่ไหนสักแห่งแหละ""เรากลับกันเถอะ" แอสตันเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าใกล้จะเย็นแล้วและวันนี้เขามีนัดกินข้าวกับพ่อที่บ้านด้วยณ บ้านอัครกิจภูริสกุลเวลา 18.00 น"สวัสดีครับ/ค่ะ" แอสตันกับสายน้ำที่เดินเข้ามาภายในบ้านเอ่ยขึ้น"มาแล้วหรอลูกไปไหนกันมา" นางภัสสรเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่างลูกชายและว่าที่ลูกสะใภ้เดินเข้ามาในบ้าน"ไปทะเลมากันครับแม่กำลังทำอะไรอยู่" แอสตันเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าแม่ของตนกำลังดูแฟ้มอะไรสักอย่างอยู่"กำลังดูรายชื่อแขกที่จะมาร่วมงานแต่งขอลูกอยู่จ๊ะ""แล้วหนูเลือกชุดเจ้าสาวได้รึยังจ๊ะอีก 3 เดือนเองนะ""ได้แล้วค่ะ" สายน้ำเอ่ยขึ้น"แล้วคุณพ่อไปไหนหรอครับ""อยู่ห้องทำงานเดียวก็คงลงมา""คุณแม่กลับมาแล้วค่า เอลิสแวะไปซื้อกระเป๋าคอลเล็กชั่นใหม่คุณแม่มาให้ด้วยจะได้สะพายคู่กันไงคะมีฝากสา
วันเสาร์ณ บ้านของสายน้ำที่เชียงรายเวลา 13.30 น.รถตู้สีดำคันหรูเข้ามาจอดภายในบริเวณหน้าบ้านสวนของสายน้ำสายน้ำที่เดินนำทุกคนเข้ามาก็เอ่ยเรียกสายฝนน้องสายของเธอทันทีที่เห็นว่าเธอกำลังนั่งเก็บดอกอัญชันให้แม่ไปทำขนม"สายฝน""พี่! มาได้ไงจ๊ะเนี้ย" สายฝนที่เห็นสายน้ำก็เอ่ยถามออกมาอย่างดีใจที่เห็นพี่ของตนมาแบบไม่บอกไม่กล่าวและไม่รู้เรื่องที่พี่ของเธอนั้นจะแต่งงานด้วยสายฝนเป็นเด็กที่ไม่ค่อยจะเล่นโซเชียลสักเท่าไหร่จะเล่นแค่ต้องหาความรู้เท่านั้นบวกกับแม่ของเธอที่วันๆ แทบจะไม่เปิดทีวีเลยจะเปิดแค่ตอน 2 ทุ่มครึ่งที่ละครหลังข่าวมาเพราะต้องการประหยัดไฟถึงสายน้ำจะส่งเงินมาให้เยอะแค่ไหนแม่ของเธอก็ยังคงดำเนินชีวิตเหมือนเดิมแต่แค่ไม่ลำบากเช่นเดิมแล้ว"พี่แอสตันสวัสดีค่ะนั้นคงจะเป็นคุณพ่อคุณแม่พี่แอสตันใช่ไหมจ๊ะส่วนคนสวยๆ คือพี่เอลิส สวัสดีค่ะหนูชื่อสายฝนเป็นน้องพี่สายน้ำ" สายฝนเอ่ยสวัสดีทุกคนด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสจนทุกๆ คนเห็นแล้วก็เอ็นดู"สวัสดีจ๊ะหน้าตาดีทั้งพี่ทั้งน้องเลยนะ" แม่ของแอสตันเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน"ขอบคุณจ๊ะคุณป้าก็สวยมากเลยค่ะ""ปากหวานสะด้วย" พ่อของแอสตันเอ่ยขึ้นพร้อมกับรอ
7 เดือนต่อมาหลังจากที่สายน้ำเรียนจบก็มาช่วยงานของแอสตันที่บริษัทเพราะว่าหลังจากช่วงที่มีข่าวเรื่องนายอภิวัฒน์ออกไปก็ทำให้ของแอสตันกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งและยิ่งใหญ่กว่าเดิมด้วยเพราะตัดคู่แข่งทางการค้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ของนายอภิวัฒน์ออกไปเลยทำให้เขาเป็นเจ้าใหญ่เจ้าเดียวในประเทศบริษัท HIHG CAR ตอนนี้ก็มีแค่แอสตันที่บริหารงานคนเดียวเพราะเขาอยากให้พ่อเขาพักผ่อนด้วยเรื่องสุขภาพด้วยส่วนเอลิสเองก็ไปดูแลโรงแรมที่กำลังขยายสาขาทั่วประเทศจนงานล้นมือไม่มีเวลามาช่วยส่วนพอร์ชนั้นทุกคนก็ยังคงส่งคนออกตามหาถึงจะไร้วี่แววแต่ทุกคนก็ยังคงเชื่อว่าพอร์ชยังคงมีชีวิตอยู่และแอสตันเองก็ไม่ยอมขึ้นรับตำแหน่งประธานบริษัทเพราะหวังลึกๆ ว่าพี่ชายอันเป็นที่รักเขาจะกลับมาในสักวันณ ห้องทำงานของแอสตัน"เหนื่อยไหม" สายน้ำเอ่ยถามร่างสูงที่พึ่งกลับมาจากการไปคุยกับลูกค้า"นิดหน่อย" แอสตันเอ่ยขึ้นพร้อมกับทิ้งตัวนั่งที่โซฟาตัวยาวภายในห้องและหันมามองสายน้ำที่กำลังเอาน้ำมาเสิร์ฟให้เขา"คิดอะไรอยู่" สายน้ำเอ่ยถามแอสตันเมื่อเห็นเข้าจ้องมองเธออยู่"คิดจะไปสู่ขอเธอวันเสาร์นี้" แอสตันเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งคว้าเอวบางของสายน้ำให้มานั่งต
1 เดือนผ่านไปตับ ตับ ตับ"อร๊ายย พี่แอสตัน" สายน้ำครางออกมาเสียงกระเส่าเมื่อเธอถูกร่างสูงพาไปเเตะขอบสวรรค์ในยามเช้าร่างบางในที่อยู่ในชุดนอนที่ตอนแรกกำลังเตรียมอาหารเช้าให้คนตัวสูงแต่ตอนนี้ถูกชายหนุ่มถลกกระโปรงนอนขึ้นมาเหนือเอวแล้วอัดกระแทกแก่นกายมหึมาใส่ซอยถี่ยิบใส่รูสวาทจากด้านหลังอย่างเร้าร้อนในเวลายามเช้าจนเธอเเตะขอบสวรรค์ไปแล้วแต่คนตัวสูงไม่มีทีท่าว่าใกล้จะเสร็จสักที"ครางเรียกพี่อีกที่รัก" แอสตันเอ่ยขึ้นเสียงกระเส่าพร้อมทั้งขยำหน้าอกของเธออย่างมันมือตับ ตับ ตับ"พี่แอสตัน อ้ะๆๆ " ร่างบางครางออกมาพร้อมกับเอามือเกาะขอบเคาน์เตอร์ทำอาหารไว้แน่นเพื่อยึดเหนี่ยว"เอาเธอกี่ทีก็ยังมันเหมือนเดิมเลย ซี๊ด~" ร่างแกร่งครางออกมาพร้อมขบกรามแน่นก่อนจะกระเเทกเข้าออกรูสวาทของเธอให้เร็วและแรงขึ้นตับ ตับ ตับ"อ้ะๆๆๆๆ เร็วอีกน้ำจะเสร็จแล้ว" สายน้ำครางออกมาพร้อมกับเอ้ยขึ้นเสียงกระเส่าให้แอสตันเร่งจังหวะขึ้นเพราะเธอใกล้จะเสร็จสมแล้ว"พึ่งเสร็จไปเองจะเสร็จอีกแล้วหรอ" แอสตันเอ่ยขึ้นเสียงกระเส่าพร้อมทั้งรั้งเอวของร่างบางไว้แน่นเเละเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นตับ ตับ ตับ!!!"พูดมาก บอกให้กระแทกมาแรงอีกก็กระแท
คนตัวสูงที่ได้ยินคำอนุญาติจากคนตัวเล็กก็ยิ้มออกมาทั้งทีก่อนจะประกบปากจูบร่างบางและใช้มือหนาปลดเสื้อผ้าของเธอจนออกหมดและรีบปลดเสื้อผ้าของตัวเองตามทันที"อื้อ~ " สายน้ำครางออกมาเสียงกระเส่าเมื่อถูกปากหนาของแอสตัดดูดยอดลูกเกดของเธอพร้อมกับมือหนาของเขาที่คลึ่งติ่งคริสตัลของเธอไปมาจนรูสวาทเปียกแฉะไปด้วยน้ำเมือกใส"ยังไม่ทันไรแฉะสะแล้วคิดถึงพี่เหมือนกันใช่ไหม" แอสตันเอ่ยกระซิบข้างหูของร่างบางก่อนจะเอนตัวนอนราบลงไปกับโซฟาสายน้ำดันตัวเองลุกออกมาจากโซฟาอย่างรู้งานก่อนจะคร่อมตัวของแอสตันเอาไว้โดยเอาด้านหัวมาจ่อตรงแก่นกายมหึมาของเขาที่ตอนนี้แข็งชูชันของเขาและตรงของสงวนที่เปียกแฉะของเธอจ่อที่หน้าเขาเธอมองไปที่แก่นกายของแอสตันที่มีน้ำเยิ้มออกมาจากหัวเห็ดอย่างคนหิวกระหายมือบางของสายน้ำชักแก่นกายของแอสตันที่มันชี้หน้าเธอขึ้นลงไปมาก่อนจะค่อยๆ"อ่าส์ ที่รักแบบนี้แหละ" แอสตันเอ่ยเสียงกระเส่าทันทีที่สายน้ำเริ่มชักแก่นกายของก่อนจะใช้ปลายลิ้นเรียวเลียติ่งคริสตันของเธอรัวๆ อย่างเสียวซ่านพร้อมกับใช้มือหนาเอื้อมไปบีบขยำหน้าอกเธออย่างมันมือแจ๊ะๆๆปากบางของสายน้ำก็ไม่อยู่นิ่งใช้เรียวลิ้นเลียวนรอบหัวเห็ดของแ