ณ งานแฟชั่นโชว์
เวลา 18.00 น. "ยินดีด้วยนะมึง โชว์มึงดีมากเลยได้ A แน่นอน" โมเน่เอ่ยกับเวนิสทันทีเมื่อโชว์จบลงพร้อมกับยื่นช่อดอกไม้แสนสวยเพื่อเป็นการแสดงความยินดีให้แก่เพื่อนรักของเธอ "ขอบใจนะเพื่อนรัก เดียวกูเคลียร์วิชานี้เสร็จวันศุกร์ไปปาร์ตี้กันไหมกูเลี้ยงเอง" เวนิสเอ่ยขึ้นพร้อมกับยิ้มดีใจที่งานของเธอจบลงด้วยดีและมีเหล่าอาจารย์ต่างชื่นชมโชว์ของเธอ "ไม่ได้ว่ะ กูต้องกลับไทยแล้วแด๊ดดี๊เรียกให้กลับด่วน" โมเน่เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าและน้ำเสียงเสียดาย "ทำไมรีบกลับจัง มีปัญหาไรรึป่าว" "แด๊ดดี๊บอกสาขาที่ฝรั่งเศสมีปัญหาเลยจะรีบไปดู" "น่าเสียดายจัง ไม่เป็นไรมึงเดียวค่อยเจอกันที่ไทยกูก็จะกลับสิ้นเดือนนี้" "กรี๊ด จริงหรอ" โมเน่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงดีใจสุดขีด โมเน่เองกลับไปก็กลัวเหงาเช่นกันเพราะนอกจากเวนิสที่เป็นเพื่อนกับเธอมาตั้งแต่อนุบาลเธอก็ไม่มีเพื่อนที่ไหน ด้วยนิสัยเอาแต่ใจไม่ยอมใครของพวกเธอและไม่อยากสุงสิงกับใครเลยคบกันมาแค่สองคนมาตลอด "จริงสิยะ" "งั้นคืนนี้เราไปดินเนอร์กันเบาๆ เพื่อเป็นการฉลองที่เราสองคนจบแล้วดีไหม" "ได้ มึงเลือกร้านเลยเดียวกูเคลียร์สถานที่คืนเขาก่อน" เวนิสเอ่ยพร้อมทั้งหันไปมองยังสถานที่จัดงานที่ตอนนี้กำลังเริ่มทยอยเก็บกันแล้ว "ได้จ๊ะเพื่อนรัก" โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมกับยิ้มแฉ่งก่อนจะเดินไปนั่งเลือกร้านรอเพื่อนรักของเธอ ณ ราชอาณาจักรไทย "ถึงสักทีเมื่อยชะมัด" ร่างบางที่พึ่งเดินลงมาจากเครื่องบินเอ่ยขึ้นพร้อมกับบิดขี้เกียจไปมาเมื่อเหยียบถึงพื้นดินถึงเเม้ว่าเธอจะนั่งชั้นเฟิร์สคลาสมาแต่การเดินทางที่ยาวนานก็ทำให้เธอรู้สึกเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวมากเช่นกัน "คุณหนูครับทางนี้ครับ" สมชายคนขับรถประจำบ้านที่มารอรับโมเน่เอ่ยขึ้นก่อนจะรีบเดินไปช่วยเธอขนสัมภาระ "แด๊ดดี๊กับหม่ามี๊ไม่มารับฉันหรอ? " โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมกับมองหาพ่อกับแม่ของเธอทันที "พวกคุณท่านยังประชุมไม่เสร็จครับเลยให้ผมมารับคุณหนูแล้วพวกท่านจะไปรอที่บ้าน" สมชายเอ่ยขึ้นขณะเข็นกระเป๋าเดินตามหลังเธอออกไปยังที่จอดรถ "เห้อ~ " ร่างบางที่ได้ยินคำตอบของสมชายก็ถอนหายใจออกมาอย่างผิดหวังก่อนจะเดินขึ้นรถไป "คุณหนูจะไปที่ไหนก่อนไหมครับ" "ไม่ ฉันอยากกลับบ้านเลย" "ครับ" หลังจากรับคำสั่งจากเจ้านายสมชายก็ออกรถตรงไปยังบ้านทันที ณ บ้านโสภาสิริ "คุณหนูกลับมาแล้วค่ะคุณท่าน" ช้อยแม่บ้านเก่าแก่เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นรถที่สมชายขับไปรับคุณหนูกำลังแล่นมาจอดยังหน้าประตูบ้านหลังใหญ่ "โมเน่ของแด๊ดดี๊" ก้อง ก้องเกียรติ โสภาสิริ ที่ได้ยืนรอลูกสาวของตนอยู่ที่ประตูหน้าบ้านเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงดีใจเมื่อเห็นว่าลูกสาวสุดที่รักกลับมาบ้านแล้ว "แด๊ดดี๊ หม่ามี๊คิดถึงจังเลยค่ะ" โมเน่ที่เห็นพ่อกับแม่ยืนรออยู่หน้าประตูบ้านก็รีบลงจากรถและเอ่ยขึ้นก่อนจะรีบเดินไปกอดพวกท่านทั้งสอง "หม่ามี๊ก็คิดถึงโมเน่ที่สุดเลยลูก" พลอย คุณหญิง ไพริน โสภาสิริ เอ่ยขึ้นพร้อมกับสวมกอดลูกสาวอันเป็นที่รักทันทีด้วยความคิดถึง "กินอะไรมารึยังลูก" ก้องเกียรติเอ่ยขึ้นพร้อมกับลูบหัวลูกสาวตัวเองอย่างเอ็นดู "ยังเลยค่ะ โมเน่คิดถึงอาหารฝีมือยายช้อยที่สุดเลยค่ะ" โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมทำน้ำเสียงและสายตาออดอ้อนช้อยแม่บ้านเก่าแก่ที่เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่เด็กยามพ่อและแม่ของเธอยุ่งอยู่กับงานจนแทบไม่มีเวลาให้ เธอจึงรักช้อยเหมือนกับคนในครอบครัวเธอคนหนึ่ง "วันนี้ช้อยเตรียมแต่ของโปรดคุณหนูไว้ทั้งนั้นเลยค่ะ" ช้อยเอ่ยขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม เธอเองก็คิดถึงคุณหนูของเธอเช่นกันใครจะว่าคุณหนูของเธอเอาแต่ใจนิสัยเสียแค่ไหนแต่เธอเป็นคนเลี้ยงล้วนรู้ดีกว่าใครว่าจริงๆ แล้วคุณหนูของเธอเป็นคนยังไง "ลูกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ จะได้ลงมาทานข้าวเดียวแด๊ดดี๊มีเรื่องงานจะคุยด้วย" ก้องเกียรติเอ่ยพร้อมกับยิ้มให้ลูกสาวของตนพร้อมกับที่แม่ของเธอคลายอ้อมกอดออก "อะไรกันคะโมเน่พึ่งจะกลับมาเองนะ" โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมทั้งทำสีหน้านอยพ่อของเธอที่เธอพึ่งกลับมาก็จะให้ทำงานเสียแล้ว "โอ๋ๆ ก็พรุ่งนี้แด๊ดดี๊กับหม่ามี๊ต้องไปร่วมงานเลี้ยงสมาคมเลยอยากพาโมเน่ไปให้รู้จักนักธุรกิจคนอื่นไงลูก" "แต่ว่า.." "ไม่มีแต่โมเน่ ไปเปลี่ยนชุดนะลูกจะได้มาทานข้าวกัน" ยังไม่ทันที่เธอจะเอ่ยจบผู้เป็นแม่ของเธอก็แทรกพูดขึ้นมาก่อน "ก็ได้ค่ะ" โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมทั้งทำหน้านอยและเดินขึ้นไปยังห้องนอนเพื่อที่จะเปลี่ยนชุด - 40 นาทีผ่านไป - "อิ่มจังเลยค่ะ กินข้าวที่ไหนก็ไม่อร่อยเท่ายายช้อยทำ" โมเน่เอ่ยขึ้นอย่างเอาใจพร้อมกับลูบพุงตัวเองที่พึ่งจะกินข้าวจานที่สามหมดไป นานแล้วที่เธอไม่ได้กินอาหารไทยที่ถูกปากแบบนี้หนำซ้ำยายช้อยยังทำแต่อาหารโปรดของเธอไว้รอทั้งนั้น มีทั้ง แกงเขียวหวานไก่ หมูเค็ม ปูผัดผงกะหรี่ ปลาทับทิมนึ่งมะนาว หมูสร่ง ไก่ทอดเปรี้ยวหวาน จะไม่ให้เธอเติมข้าวก็คงเป็นเรื่องแปลก "ปากหวานไม่เปลี่ยนเลยนะคะคุณหนูเดียวช้อยไปเอาบัวลอยไข่หวานของโปรดคุณหนูมาให้นะคะ" ช้อยที่ได้ยินที่โมเน่ชมก็ยิ้มแก้มแทบปริพร้อมทั้งรีบเดินกลับไปยังหลังครัวเพื่อที่จะเตรียมขนมหวานมาเสิร์ฟ "เอาล่ะมาเข้าเรื่องงานกันเลยนะ" ก้องเกียรติเอ่ยหลังจากที่พึ่งวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะ "ค่ะ" โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมกับตั้งใจฟังที่ผู้เป็นพ่อกำลังจะพูด "ที่แด๊ดดี๊บอกว่าเดือนหน้าแด๊ดดี๊กับหม่ามี๊ต้องไปดูงานที่ฝรั่งเศสอาจจะเลื่อนไปเร็วขึ้นเพราะทางนั้นค่อนข้างมีปัญหา" "แต่โมเน่พึ่งกลับมาเองนะคะจะทิ้งโมเน่ให้อยู่คนเดียวหรอลูกน้องแด๊ดดี๊เยอะแยะก็ให้ทำแทนไปสิ" "มันเป็นปัญหาที่แด๊ดดี๊ต้องไปจัดการเองแด๊ดดี๊จะสั่งงานไว้ให้โมเน่งานหนึ่งได้ไหมลูกถ้าโมเน่ทำได้แด๊ดดี๊มีรางวัลใหญ่ให้" "งานอะไรหรอคะ" โมเน่เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นและแววตาเป็นประกายเมื่อได้ยินคำว่ารางวัลใหญ่ "ตอนนี้โรมแรมของเราคู่แข่งค่อนข้างที่จะเยอะถึงโรงแรมเราจะเป็นโรงแรมเก่าแก่และมีฐานลูกค้าอยู่แล้วแต่เดียวนี้โรมแรมใหม่ๆ ที่พึ่งเปิดตัวก็ดึงลูกค้าเราไปมากเช่นกัน" ก้องเกียรติเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าเคร่งเครียด จริงอยู่ว่าโรงแรมของเขาเป็นโรงแรมหรูเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงมานานนับรุ่นต่อรุ่นแต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปก็ทำให้เกินการเเข่งขันมากขึ้นด้วยเช่นกัน "แล้วทำไมเราไม่จ้างพวกดาราดังๆ หรืออินฟลูเอนเซอร์ดังๆ มารีวิวให้ล่ะคะเงินจ้างแค่นั้นไม่สะเทือนขนหน้าแข้งเราเลยด้วยซ้ำ" "วิธีแบบนั้นโรงแรมไหนเขาก็ทำกับนะจ๊ะลูกโรงแรมเราก็เคยทำ" คุณหญิงไพรินเอ่ย "แล้วแบบนี้เราจะทำยังไงดีล่ะคะ" "แด๊ดดี๊กับหม่ามี๊ได้ข่าวมาว่าบริษัท GR ที่เป็นบริษัทที่ส่งออกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผลิตไวน์หรูระดับโลกอย่างไวน์ le raisin blanc มาเปิดบริษัทลูกที่ไทยและจะมีงานเปิดบริษัทอาทิตย์หน้าถ้าเราดิวกับเขาได้แล้วให้เขาส่งไวน์ le raisin blanc ที่ผลิตมาจำนวนจำกันต่อปีให้แค่โรงแรมของเรา..." ก้องเกียรติเอ่ยขึ้นก่อนจะหยุดและหันไปมองทางลูกสาวของตนว่าเข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อไหม "โรงแรมของเราก็จะเป็นที่จับตามองจากบรรดาเหล่าเศรษฐีจากทั่วโลกมากขึ้น" โมเน่เอ่ยขึ้นอย่างเข้าใจความหมายของผู้เป็นพ่อ แต่เดิมฐานลูกค้าที่มาพักโรงแรมของที่บ้านเธอส่วนมากมักจะเป็นคนมีเงินและคนใหญ่คนโตเพราะด้วยการตกแต่งการบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่างทำให้ห้องพักมีราคาที่ค่อนข้างสูงแต่ถ้ายิ่งได้บริษัท GR ส่งไวน์หรูอย่าง le raisin blanc ที่ผลิตปีหนึ่งไม่ถึงร้อยขวดให้โรงแรมเธอที่มีสาขาอยู่แทบจะทั่วโลกก็จะยิ่งเรียกเหล่าบรรดาเศรษฐีได้มากขึ้นอย่างไม่ยากเลย "ใช่จ๊ะ เพราะอย่างงั้นหม่ามี๊กับแด๊ดดี๊เลยอย่างให้ลูกดิวกับมิสเตอร์ดราก้อนให้สำเสร็จ" "มิสเตอร์ดราก้อน" โมเน่เอ่ยทวนชื่ออีกครั้งอย่างนึกตะหงิดใจ "ใช่จ๊ะ มิสเตอร์ดราก้อนเป็นลูกชายคนโตของบริษัท GR อายุน่าจะมากกว่าลูกสัก 4 - 5 ปี " "ถ้าลูกปิดดิวนี้ได้แด๊ดดี๊เตรียมรางวัลไว้ให้ลูกสาวคนสวยแล้วหรือโมเน่จะเลือกเองก็ได้" "แด๊ดดี๊พูดแล้วนะคะ แล้วงานที่โรงแรมล่ะคะแด๊ดดี๊ก็รู้ว่าโมเน่โง่จะตายจบมาได้เพราะเงินแด๊ดดี๊กับหม่ามี๊ทั้งนั้น" "ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอกระหว่างที่แด๊ดดี๊ไม่อยู่จะให้สิธากลับมาดูแลแทนให้ก่อน โมเน่เเค่เข้าไปเซ็นเอกสารเล็กๆ น้อยๆ ก็พอ" ก้องเกียรติเอ่ยถึงผู้ช่วยคนสนิทที่ตอนนี้เขาส่งไปดูแลสาขาที่ดูไบ "หรือโมเน่จะหาลูกเขยเก่งๆ ฉลาดๆ มาให้หม่ามี๊กับแด๊ดดี๊ก็ได้นะลูก" "โมเน่จะไปหาจากไหนล่ะคะ สู้ให้โมเน่หาแฟนให้โมเน่เอาเงินไปจ้างคนที่เก่งๆ มาบริหารแทนดีกว่า" "มิสเตอร์ดราก้อนไงหม่ามี๊เคยเจอเขาครั้งนึงหล่อมากเลยนะลูกข่าวเสียหายก็ไม่เคยมี เดียวอาทิตย์หน้าตอนงานเปิดบริษัทของเขาที่ไทยหม่ามี๊พาไปแนะนำ" "แด๊ดดี๊ก็ไม่ติดนะถ้าเป็นมิสเตอร์ดราก้อนแด๊ดดี๊คงจะเบาใจเรื่องงานขึ้นเยอะเลย ฮ่าๆ " ก้องเกียรติเอ่ยอย่างหยอกล้อกับลูกสาวของตน "แด๊ดดีอะ แค่บริหารงานเองเดียวโมเน่จะทำให้ดู" โมเน่เอ่ยขึ้นพร้อมกับทำหน้าบึ้งตึงก่อนจะตักขนมหวานที่แม่บ้านพึ่งเอามาเสิร์ฟให้เขาปากณ คลับ GDภายในผับหรูใจกลางเมืองที่ตอนนี้เปิดเพลงดังกระหึ่มและเเสงไฟระยิบระยับที่สาดส่องไปมาบรรดาหนุ่มสาวนักท่องราตรีต่างขยับร่างกายและปล่อยใจไปตามจังหวะของเสียงเพลง"ดื่มอีกแก้วสิครับ" แอสตันเอ่ยขึ้นพร้อมกับยื่นแก้วไปจ่อปากของหญิงสาวร่างอรชรที่กำลังใช้แขนเรียวกอดคอเขาหลวมๆ จากทางด้านหน้าและขยับเรือนร่างไปตามเสียงเพลง"ซีเรียจะไม่ไหวแล้วนะคะ" ซีเรียเอ่ยออกมาเพราะว่าตอนนี้เธอรู้สึกเมามากแล้ว"ไหวสิครับอีกแก้วนะ" แอสตันเอ่ยพร้อมกับค่อยๆ รินเหล้าในแก้วใส่ปากของซีเรียช้าๆอึก~"จะมอมซีเรียหรอคะ" ซีเรียเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าแดงก่ำหลังกลืนเหล้าที่แอสตันป้อนจนหมดแก้ว"ผมอยากให้เราสนุกกันก่อน" แอสตันเอ่ยขึ้นพร้อมทั้งค่อยๆ ใช้ฝ่ามือหนาลูบเอวบางของเธอไปมาและจ้องมองหญิงสาวที่ตอนนี้ดูเหมือนจะเมาได้ที่แล้ว"อยากสนุกไม่ต้องมอมหรอกค่ะซีเรียเต็มใจสนุกกับคุณ" ซีเรียเอ่ยขึ้นพร้อมกับดึงคอของร่างสูงให้โน้มลงมาสบตากับเธอก่อนจะประกบริมฝีปากเรียวเล็กเข้ากับริมฝีปากหนาอย่างหนักหน่วงซีเรียใช้เรียวลิ้นเล็กของเธอแทรกเข้าไปยังโพรงปากของแอสตันก่อนจะใช้ลิ้นของเธอเกี่ยวพันลิ้นของเขาอย่างดูดดื่มสัมผัสของซีเรียนั้นแอสต
- บนรถ -เท้าหนักของแอสตันเหยียบคันเร่งจนหมดไมล์เพื่อที่จะรีบไปง้อสายน้ำกับเรื่องที่เกิดขึ้นคลืด คลืด~"ใครมันโทรมาตอนนี้วะเนี้ย" แอสตันสบดออกมากับตัวเองก่อนจะกดรับสาย"ฮัลโหลครับ""ที่ไหนครับ""ครับ"แอสตันเอ่ยจบก็กดตัดสายทิ้งทันทีพร้อมกับเลี้ยวรถไปยังอีกเส้นทางนึงณ บริษัท XXXแอสตันที่พึ่งขับรถเข้ามาจอดยังบริษัทของนายอธิวัฒน์ก็ถอดหายใจออกมาทันที"เห่ออ คนยิ่งรีบๆ " เเอสตันเอ่ยขึ้นก่อนจะเปิดประตูเดินลงจากรถไป"สวัสดีค่ะคุณแอสตัน ท่านอธิวัฒน์รออยู่ชั้นบนค่ะเดียวดิฉันนำทางให้นะคะ" พนักงานตอนรับที่อยู่ด้านหน้าไม่ไกลจากประตูเอ่ยทักทายแอสตันที่เดินหน้าบอกบุญไม่รับเข้ามาภายในบริษัท"ขอบคุณ" แอสตันเอ่ยพร้อมกับเดินตามหลังพนักงานไปขึ้นลิฟติ๊ด!"ถึงแล้วค่ะ" พอลิฟเปิดมาถึงชั้น 67 พนักงานก็เอ่ยบอกแอสตันเพราะพ้นจากหน้าประตูลิฟไปก็เป็นประตูขนาดใหญ่ที่หน้าห้องเขียนว่าห้องประธานบริษัทแล้วก๊อกๆ"เข้ามา" เสียงทุ่มที่ดูดุดันน่าเกรงขามของนายอธิวัฒน์เอ่ยขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูแกร็ก~"มาแล้วหรอ เชิญนั่งๆ เราคงมีเรื่องคุยกันยาว" นายอธิวัฒน์ที่เงยหน้าจากกองเอกสารตรงหน้าเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าเป็นแอส
- วันต่อมา -ณ ร้านเค้กแห่งนึงในห้างหรูร่างระหงของซีเรียที่ใส่แบรนด์เนมราคาหลักล้านตั้งแต่หัวจรดเท้าเดินไปหยุดที่ร้านเค้กแห่งนึงในห้างก่อนจะอ่านชื่อร้านอีกครั้งเพื่อความแน่ใจก่อนจะเดินเข้าไปนั่งเธอกวาดสายตาไปทั่วจนไปเจอกับหญิงสาวร่างบางที่กำลังเดินถือเมนูมาทางเธอ"นี่นะหรอ สายน้ำ" เธอเอ่ยขึ้นเมื่อสายน้ำเดินมาหยุดอยู่ตรงโต๊ะเธอและวางเมนูให้"คะ? " ร่างบางสายน้ำเอ่ยถามขึ้นอีกครั้งอย่างฟังไม่ชัด"หน้าตาก็งั้นๆ ""คงจะหวังรวยทางลัดสินะ" ซีเรียเอ่ยพร้อมทั้งใช้สายตาเหยียดเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า"คุณพูดอะไรของคุณ" สายน้ำเองก็รู้ดีว่าเธอเป็นใครแต่ไม่คิดว่าคนระดับซีเรียจะมาหาเรื่องเธอที่ร้านเค้กแบบนี้"ฉันให้นี่นะมันคงมากกว่าเงินที่เธอไปนอนอ้าขาทั้งเดือนอีกนะ" ซีเรียเอ่ยขึ้นพร้อมกับถอดที่คาดผมแบรนด์หรูที่ประดับด้วยเพชรวางไว้บนโต๊ะ"ฉันไม่เข้าใจที่คุณพูดค่ะ ถ้าจะมาหาเรื่องก็เชิญออกไปด้วยค่ะ" สายน้ำเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบ"อย่ามาตอแหล! " ซีเรียเอ่ยขึ้นเสียงดังลั่นจนคนรอบๆ เริ่มจะหันมามอง"ฉันรู้นะว่าแกรู้ว่าฉันเป็นใคร""ฉันไม่สนใจหรอกค่ะว่าคุณเป็นใครแต่กรุณาพูดจาให้เกียรติกันด้วย" สายน้ำพยายามเ
"ผมกำลังให้ลูกน้องตามสืบให้อยู่ครับว่าใช่คนของคุณอธิวัฒน์รึป่าว" ธนินเอ่ยขึ้น"เส้นใหญ่ขนาดนี้ต้องเป็นมันอยู่แล้วล่ะ" แอสตันเอ่ยพร้อมทั้งวางเอกสารในมือลงก่อนจะเอ่ยขึ้นและนั่งหมุนเก้าอี้ไปทางหน้าตาบานใหญ่พร้อมกับหลับตาลงอย่างใช้ความคิดก่อนจะเอ่ยขึ้น"ธีระบอกพี่เรื่องไอพิศุให้ด้วยและก็ออกไปก่อนมีอะไรคืบหน้าก็รีบมาบอกฉัน""ครับ/ครับ" ธนินและธีระเมื่อได้ยินคำสั่งของแอสตันต่างคนก็ออกไปจากห้องทันทีหลังจากที่ทั้งสองออกไปได้ไม่นานแอสตันก็กดโทรสั่งไปหาโรม"ฮัลโหลไอโรม"(มีอะไรโทรหากูแต่เช้า) โรมเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงงัวเงียเหมือนคนพึ่งตื่น" เช้าเชี้ยไรจะ 10 โมงแล้ว ""ลุงมึงช่วงนี้อยู่ไหมวะ"(ไม่นะเห็นบอกจับฉลากได้กิ๊ฟวอชเชอร์ไปเที่ยวอังกฤษกับป้าขึ้นเครื่องเมื่อวานนี้เอง)"อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้น"(มีอะไรป่าววะ)"ไอพิศุมีคนประกันตัวออกมาแล้ว"(หะ!! ได้ยังไงเดียวกูรีบโทรไปบอกลุงให้)"เออเค ขอบคุณมากนะ" แอสตันเอ่ยจบก็วางสายจากโรมไปทันทีก่อนจะหันเก้าอี้หมุนกลับมาที่โต๊ะตามเดิมก๊อกๆแกร็ก~"ไอพิศุออกมาแล้วหรอ" พอร์ชที่พึ่งเคาะประตูห้องก็เปิดประตูเข้ามาอย่างร้อนใจโดยที่แอสตันยังไม่ทันได้เอ่ยอนุญา
(จากเสือกลายเป็นหมาแล้วหรอวะเพื่อน)(ฮ่า ฮ่า ฮ่า)ดีเดย์เอ่ยขึ้นพร้อมกับได้ยินเสียงหัวเราของเพื่อนๆ คนอื่นของเขาดังรอดเข้ามาในสายด้วย"อย่าให้มึงมีเมียบ้างแล้วกันกูจะล้อยันลูกบวชเลย"(ถ้ากูมีเมียกูก็ต้องเป็นใหญ่เว้ย ไม่มีวันง้อเหมือนมึงกับไอธามหรอก)"กูจะคอยดู แค่นี้แหละกูรีบ" แอสตันเอ่ยพร้อมกับกดวางสายและรีบขับรถตรงไปยังหอพักของสายน้ำณ หอพักของสายน้ำก๊อกๆ"อีกแล้วหรอ? " สายน้ำที่พึ่งอาบน้ำเสร็จเอ่ยขึ้นมาก่อนจะกรอกตามองบนและจำใจเดินไปเปิดประตูแกร็ก~"สายน.." ยังไม่ทันที่แอสตันจะพูดจบประโยคประตูห้องของสายน้ำก็เปิดห้องเขามองดูร่างบางหัวจรดเท้าที่นุ้งแค่ผ้าเช็ดตัวสีขาวผืนเดียวมาเปิดประตูห้องให้เขาพร้อมกับกลืนน้ำลายลงคอดังฮึก!"จะเข้ามาไหม? ""เข้าครับเข้า" แอสตันเอ่ยพร้อมกับรีบแทรกตัวเข้ามาในห้องของร่างบางพร้อมกับปิดประตูอย่างไว"นี่เธอแต่งตัวแบบนี้เปิดประตูให้คนอื่นบ่อยไหม" แอสตันเอ่ยถามขึ้นอย่างจับผิด"ถ้าจะพูดมากก็ออกไป""พี่หวงนิ""ฉันไม่ใช้ของนาย""ก็ได้ๆ ..คิดถึงจัง" แอสตันเอ่ยขึ้นพร้อมกับเข้าไปสวมกอดร่างบางพร้อมกับสูดดมกลิ่นกายหอมๆ ของเธอที่เขาโหยหายมาหลายวันก่อนจะค่อยๆ บรรจ
เวลา 17.15 น.ณ ร้านอาหารฝรั่งเศษหรูใจกลางเมือง"รอนานไหมครับพอดีผมติดงาน" แอสตันที่พึ่งมาถึงเอ่ยถามซีเรียที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว"ไม่นานเลยค่ะซีเรียก็พึ่งมาถึง ซีเรียสั่งไว้ให้แล้วนะคะแอสตันอยากได้อะไรเพิ่มไหม" ซีเรียเอ่ยตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม"เอาแค่ที่คุณซีเรียสั่งก็พอแล้วครับ ว่าแต่วันนี้คุณซีเรียนัดผมมีอะไรรึป่าวคะ" แอสตันเอ่ยพร้อมกับนั่งลงยังเก้าอี้ตรงข้ามกับเธอ"อะไรกันคะ เดียวนี้ซีเรียอยากเจอแอสตันต้องมีเรื่องอะไรด้วยหรอ" ซีเรียเอ่ยพร้อมทำแสร้งสีหน้าน้อยใจ"ป่าวครับสำหรับคุณซีเรียผมว่างเสมอ" แอสตันเอ่ยพร้อมกับรีบคว้ามือของเธอมากุมเอาไว้"ซีเรียเห็นว่าตั้งแต่งานหมั้นแอสตันก็ไม่ติดต่อมาเลย""ขออนุญาติเสิร์ฟนะคะ" ยังไม่ทันที่แอสตันจะได้เอ่ยตอบบริกรหญิงก็ทยอยนำอาหารที่สั่งมาเสิร์ฟให้พวกเขา"ช่วงนี้งานผมยุ่งๆ โกดังที่คลับก็ถูกไฟไหม้""ตายแล้ว แล้วเสียหายมากไหมคะ" ซีเรียเอ่ยตอบแอสตันด้วยสีหน้าตกใจเล็กน้อย"ไม่เท่าไหร่ครับ ส่วนมากจะเป็นพวกเฟอร์นิเจอร์ที่ไว้ปรับปรุงผับนี้ก็พึ่งสั่งล็อตใหม่มาแทน" แอสตันเอ่ยตอบกลับซีเรียพร้อมกับหยิบแก้วไวน์มาดื่ม"แอสตันไม่เป็นไรก็ดีแล้วค่ะ ซีเรียก็คิดว่าแ