ตอนที่ 7 วายป่วง
ดวงตากลมโตที่ฉ่ำน้ำตาคลอหน่วยของวาดฝันเบิกกว้างขึ้นราวกับเด็กน้อยไร้เดียงสา ทว่าในแววตากลับฉายชัดถึงความมึนเมาไม่ได้สติ วาดฝันดันร่างของตัวเองขึ้นยืนแม้จะซวนเซไปบ้างก็ตาม ก่อนจะวิ่งปรี่โซซัดโซเซตรงไปหาภูทัชด้วยความเร็ว
“คุณภูทัช! คุณแฟนขา...” เสียงหวานเอ่ยเรียกชื่อชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้ไม่ชัดถ้อยชัดคำ หากแต่คำว่า ‘คุณแฟนขา’ กลับดังก้องกังวานไปทั่วลานจอดรถ วาดฝันในร่างที่ไร้เรี่ยวแรงโซซัดโซเซตรงเข้าไปหาภูทัชอีกครั้งอย่างรวดเร็ว ไม่สนใจสายตาใครต่อใครที่เริ่มจับจ้องมายังพวกเธอด้วยความสนใจระคนประหลาดใจ
ภูทัชที่กำลังยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหูเพื่อเตรียมตัวจะคุยธุระสำคัญถึงกับชะงักฝีเท้าลงในทันที ดวงตาคมเข้มละจากคู่สนทนาปลายสาย เขาหันมามองตามเสียงเรียกอย่างใคร่รู้ เมื่อเห็นว่าเป็นร่างบางของวาดฝันที่วิ่งปรี่ตรงเข้ามาหาเขา ภูทัชก็เลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยความฉงนระคนสนใจ
ไม่ทันที่ภูทัชจะได้เอ่ยถามสิ่งใด ร่างนุ่มนิ่มของวาดฝันก็พุ่งเข้าซบลงบนแผงอกกว้างของเขาเสียแล้ว ก่อนที่สองแขนเรียวเล็กจะยกขึ้นโอบรัดรอบร่างสูงใหญ่อย่างแนบแน่น ใบหน้าแดงก่ำด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ซบลงบนอกแกร่งอย่างออดอ้อน
“คุณภูทัช! ฉันชอบคุณ...” วาดฝันพร่ำเพ้อออกมาอย่างคนไร้สติ
การกระทำและคำสารภาพรักของวาดฝัน ทำเอาภูทัชถึงกับยืนตัวแข็งทื่อราวกับถูกสาปให้กลายเป็นหิน เขาอึ้งไปกับท่าทีที่เปลี่ยนไปราวฟ้ากับเหวของสาวน้อยตรงหน้า กวางน้อยแสนบอบบางไร้เดียงสาที่เขาเพิ่งจะรู้จักเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ เหตุใดเวลานี้ถึงได้กลายร่างเป็นหญิงสาวขี้เมาที่ไร้สติสัมปชัญญะไปได้ถึงเพียงนี้ ทั้งท่าทางเหนียมอายและขี้อายก่อนหน้านี้เล่า หายวับไปกับตาราวกับเปลี่ยนเป็นคนละคนทีเดียว
“ยายฝัน! แกทำบ้าอะไรของแกเนี่ย” เสียงตวาดดังลั่นของเหมือนแพรดังขึ้น ทำลายภวังค์ความคิดของภูทัชลงในทันที เขาละสายตาจากร่างบางในอ้อมกอด หันไปมองตามเสียงเรียกอย่างหงุดหงิดใจ
“ยายฝัน! แกปล่อยคุณภูทัชเดี๋ยวนี้เลยนะ” เหมือนแพรรีบสาวเท้าเข้าไปหาวาดฝันอย่างรวดเร็ว พยายามดึงร่างของเพื่อนสาวออกจากร่างสูงของภูทัช
แต่ทว่าวาดฝันในตอนนี้กำลังเมามายไม่ได้สติ เธอไม่ยอมปล่อยภูทัชง่ายๆ วาดฝันยังคงกระชับอ้อมแขนกอดรัดร่างของเขาไว้อย่างแน่นหนึบราวกับกลัวว่าเขาจะหายไปต่อหน้าต่อตาของเธออีกครั้ง
“ไม่ปล่อย! ฉันจะไม่ปล่อยคุณแฟนของฉันไปไหนอีกแล้ว...” วาดฝันโวยวายเสียงดัง แม้เหมือนแพรจะพยายามดึงยื้อเพื่อนสาวออกมาก็ตาม
ภูทัชเพียงยืนมองหญิงสาวสองคนที่คนหนึ่งกอดรัดตัวของเขาเอาไว้แน่น ส่วนอีกคนก็พยายามฉุดดึงร่างบางออกจากตัวของเขาให้จงได้
ภูทัชหัวเราะหึๆ ออกมากับภาพเหตุการณ์วุ่นวายตรงหน้าด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก ในใจของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งประหลาดใจ ทั้งขบขัน และบางที...สายตาที่มองร่างบางในอ้อมอกตรงหน้าอาจจะมีความรู้สึกบางอย่างที่มากกว่านั้นซ่อนอยู่ก็เป็นได้
ในช่วงสายของวันใหม่แสงแดดลอดผ่านผ้าม่านสีขาวสาดส่องเข้ามาในห้องนอน วาดฝันค่อยๆ ขยับเปลือกตาที่หนักอึ้งอย่างยากลำบาก หัวของเธอราวกับถูกค้อนทุบอย่างแรงจนทำให้ปวดหนึบไปทั่ว
“โอ๊ย…” วาดฝันครางออกมาเบาๆ ยกมือขึ้นกุมขมับด้วยความทรมาน ความทรงจำสุดท้ายของเธอคือภาพแสงสีเสียงในผับ “The Babylon” และรสชาติหวานอมเปรี้ยวซ่าของค็อกเทลแก้วที่เท่าใดก็ไม่อาจนับ หลังจากนั้น…ทุกอย่างก็ดับวูบไป
วาดฝันพยายามลุกขึ้นนั่งบนเตียงอย่างช้าๆ ร่างกายของเธออ่อนแรงราวกับไปวิ่งมาราธอนมาอย่างไงอย่างงั้น เธอรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบหมุนคว้าง เคมีในร่างกายกำลังตีกันอลหม่าน เพื่อบรรเทาอาการปวดหัว วาดฝันตัดสินใจลุกจากเตียง เดินโซซัดโซเซไปยังนอกห้องนอน หวังจะหาอะไรดื่มให้ชื่นคอสักหน่อย
เมื่อพ้นประตูห้องนอนออกมา ภาพแรกที่ปรากฏแก่สายตาคือภาพของเหมือนแพรที่กำลังนั่งก้มหน้าก้มตากินข้าวต้มอยู่โต๊ะกลางห้อง
“ตื่นแล้วเหรอ แม่คุณแม่ทูนหัว” เสียงประชดประชันของเหมือนแพรดังขึ้นทันทีที่เห็นวาดฝันเดินออกมาจากห้องนอน น้ำเสียงของเพื่อนสาวแฝงไปด้วยความเหนื่อยหน่ายระคนขบขัน
วาดฝันพยุงร่างอันอ่อนแรงทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ดวงตากลมโตมองเพื่อนสาวอย่างอ้อนวอนขอความเห็นใจ
“แพร…ปวดหัวจัง” วาดฝันบ่นออกมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่า พลางยกมือขึ้นนวดไปที่ขมับอย่างต้องการให้ความปวดบรรเทาลง
“สมน้ำหน้า...ก็เมื่อคืนเล่นดื่มเข้าไปซะขนาดนั้นนี่นา กว่าฉันจะลากแกกลับห้องได้ เล่นเอาแทบแย่ทีเดียว” เหมือนแพรบ่นอุบอิบ แต่ก็ไม่ลืมที่จะเลื่อนชามข้าวต้มมาตรงหน้าเพื่อนรัก “กินข้าวต้มรองท้องสักหน่อยจะได้ดีขึ้น”
วาดฝันรับชามข้าวต้มพร้อมมองเพื่อนสาวอย่างขอบคุณ เธอตักข้าวต้มคำแรกเข้าปาก รสชาติอ่อนๆ ของข้าวต้มร้อนๆ ช่วยให้ร่างกายของเธอรู้สึกดีขึ้นมาได้บ้าง
“เมื่อคืน…เกิดอะไรขึ้น...ฉันจำอะไรไม่ได้เลย” วาดฝันเอ่ยออกมา ขณะยกช้อนเข้าปาก
เหมือนแพรเงยหน้าขึ้นมองหน้าวาดฝันด้วยสายตาที่ยากจะอธิบาย ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“ยายฝันเอ๊ย! เมื่อคืนแกเมาได้แบบวายป่วงมาก เมาแบบ…” เหมือนแพรเว้นช่วงคำพูดไปเล็กน้อย ราวกับกำลังรวบรวมคำพูดที่จะอธิบายความวายป่วงของเพื่อนสาวเมื่อคืน
“เมาแบบไหน…” วาดฝันถามเสียงแผ่ว เริ่มรู้สึกใจคอไม่ดีกับท่าทีตรงหน้า
“เมาแบบ…ประกาศก้องให้โลกรู้ว่าชอบผู้ชายที่เพิ่งเจอกันเมื่อคืนไงเล่า” เหมือนแพรพูดออกมาเสียงดังฟังชัด ดวงตาจ้องมองวาดฝันอย่างไม่กะพริบ
“แค่กๆๆ” วาดฝันถึงกับสำลักข้าวต้มคำโตที่เพิ่งตักเข้าปากออกมาทันที ดวงตาเบิกกว้างอย่างตกตะลึง “เมื่อกี้…แกพูดว่าอะไรนะ”
“ฉันบอกว่าเมื่อคืนแกเมาแล้วไปตะโกนลั่นบอกรักคุณภูทัชหน้าหล่ออะไรนั่นจนคนอื่นเขารู้กันทั่วเมืองแล้ว” เหมือนแพรพูดซ้ำอีกครั้ง คราวนี้เน้นย้ำทุกคำพูด ราวกับต้องการที่จะตอกย้ำความจริงอันน่าอับอายให้กับเพื่อนสาวได้รับรู้
วาดฝันเบิกตากว้าง จ้องมองเหมือนแพรอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง หัวใจของเธอเต้นแรงขึ้นมาทันที ความทรงจำอันน้อยนิดเริ่มไหลย้อนกลับมาในหัวสมอง ภาพร่างสูงใหญ่ของภูทัชที่ถูกเธอโอบรัดไม่ยอมปล่อยกับคำสารภาพรักที่ดังกระหึ่มลั่นลานจอดรถ…”โอ๊ย...ฉันอยากเขกหัวตัวเองให้ตายไปเลย”
ตอนที่ 39 เรื่องราวที่น่ายินดีภายในห้องนอนที่เงียบสงบ แสงไฟสีอ่อนจากโคมไฟข้างเตียงทอประกายอ่อนโยน ขับเน้นบรรยากาศอบอุ่นที่แผ่กระจายอยู่ทั่วห้อง ภูทัชกำลังนั่งพิงหัวเตียง มือข้างหนึ่งถือหนังสือเล่มหนา อีกข้างวางอยู่บนตักอย่างสบายใจ ดวงตาคมกริบกำลังจดจ่ออยู่กับตัวหนังสือ แต่หูยังคงได้ยินเสียงฝีเท้าของวาดฝันที่เดินเข้ามาใกล้วาดฝันเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าของชายหนุ่ม ก่อนจะย่างเท้าก้าวขึ้นมาบนเตียงนอนนุ่ม จากนั้นเธอจึงล้มตัวลงซุกไซร้ร่างบางเข้าไปในอ้อมแขนของเขา ร่างบางแนบชิดกับชายหนุ่มราวกับต้องการให้เขารับรู้ถึงความอบอุ่นจากตัวเธอ ใบหน้าของเธอซุกลงที่อกของเขา ลมหายใจร้อนผ่าวเป่ารดไปตามสาบเสื้อ แทรกซึมเข้าไปปะทะกับผิวกายหนา สัมผัสอันชวนให้ฟุ้งซ่านทำให้ภูทัชถึงกับละสายตาจากหนังสือ เขาโน้มตัวก้มมองร่างบางตรงหน้าด้วยความเอ็นดู“ฝัน...เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมวันนี้ถึงอ้อนพี่เป็นพิเศษ” ภูทัชถามออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน มือใหญ่เอื้อมไปลูบศีรษะของเธออย่างแผ่วเบา ลมหายใจเริ่มหอบถี่เมื่ออยู่ใกล้ชิดกับร่างบางตรงหน้าวาดฝันช้อนตาเงยหน้าขึ้น ดวงตาคู่สวยเป็นประกายระยิบระยับ เธอลอบกลืนน้ำลาย นิ่งเงียบไปสักค
ตอนที่ 38 แต่งงานแสงอาทิตย์ยามเย็นสาดส่องลอดผ่านกระจกบานใหญ่ของร้านอาหารหรู สาดแสงสีทองอ่อนโยนลงมาต้องพื้นไม้ขัดมันสะท้อนเป็นเงาวูบไหวไปตามจังหวะของเปลวเทียนที่ประดับอยู่ตามโต๊ะอาหาร ภายในร้านอบอวลไปด้วยบรรยากาศโรแมนติก เสียงไวโอลินบรรเลงคลอเบาๆ แทบกลมกลืนไปกับเสียงพูดคุยของคู่รักที่กำลังดื่มด่ำกับมื้อค่ำสุดพิเศษภูทัชจูงมือวาดฝันเดินเข้ามาภายในร้าน ฝ่ามือของเขากอบกุมมือเล็กของเธอแน่นราวกับไม่อยากปล่อยไปไหนวาดฝันเหลือบตามองชายหนุ่มข้างกายอย่างสงสัย วันนี้ภูทัชดูต่างไปจากทุกวัน เขาดูตื่นเต้นเป็นพิเศษ แม้จะพยายามทำตัวเป็นปกติ แต่เธอก็ยังจับสังเกตถึงความผิดปกตินั้นได้“พี่ภู...ทำไมวันนี้ดูแปลกๆ ไปนะ...พี่ภูมีอะไรพิเศษหรือเปล่าคะ” วาดฝันถามเสียงแผ่วเบา ดวงตากลมโตไหวระริกด้วยความสงสัยภูทัชหันมายิ้มให้เธอ รอยยิ้มของเขาอ่อนโยนและอบอุ่นกว่าทุกครั้ง “มีสิครับ... วันนี้เป็นวันที่พิเศษที่สุดในชีวิตของพี่”คำพูดของเขาทำให้หัวใจของวาดฝันเต้นรัว แม้จะไม่รู้แน่ชัดว่าเขาหมายถึงอะไร แต่เพียงแค่เห็นแววตาของเขาที่เต็มไปด้วยความมั่นคงและเปี่ยมไปด้วยความรัก เธอก็รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะหลอมละลายทั้งส
ตอนที่ 37 ขอรางวัลแสงไฟสีส้มสาดส่องจากเสาไฟข้างทางทอดเงาสะท้อนเข้ามาในรถยนต์คันหรู เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มเบา ๆ คลอเคลียไปกับเสียงลมหายใจของคนสองคนที่อยู่ภายในวาดฝันนั่งตัวเกร็งอยู่ด้านข้างชายหนุ่มพลางใช้มือกอบกุมชายกระโปรงของตัวเองแน่นอย่างไม่กล้าแม้แต่จะปรายตามองคนข้างกาย คำหยอกล้อของณภพทำให้เธออดที่จะคิดฟุ้งซ่านขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ สัมผัสอันเร่าร้อนในค่ำคืนก่อนวนเวียนเข้ามาภายในหัวจนเธอนึกอยากจะเขกหัวตัวเองเสียให้ได้ภูทัชหันมามองหญิงสาวด้วยสายตาพราวระยับ รอยยิ้มบางยกยิ้มขึ้นมาอย่างเจ้าเล่ห์ ชายหนุ่มพอจะเดาอารมณ์ของหญิงสาวได้ดีว่าตอนนี้เธอกำลังคิดฟุ้งซ่านอะไรอยู่ภายในหัว “คิดอะไรอยู่หรือ” เสียงทุ้มเอ่ยแซวขณะที่มือหนายื่นไปแตะแก้มนวลเบาอย่างหยอกเย้าวาดฝันสะดุ้งเฮือกจะภวังค์ เธอม้วนอายจนรีบเบือนหน้าหนีออกไปทางกระจก หญิงสาวพยายามปรับลมหายใจให้กลับมาเป็นปกติตามเดิม พร้อมสลัดความคิดฟุ้งซ่านออกจากหัวอย่างรวดเร็ว “เปล่าค่ะ...ฝันแค่รู้สึกง่วง” หญิงสาวรีบแก้ตัวออกมาเบาๆ โดยไม่ยอมสบสายตาของเขาเลยแม้แต่น้อยภูทัชหัวเราะหึ ๆ อย่างนึกเอ็นดู ชายหนุ่มไม่พูดอะไรออกมาให้หญิงสาวได้อับอายอีก เ
ตอนที่ 36 ปรับความเข้าใจภูทัชกระแอมไอออกมาอย่างรู้สึกเก้อเขิน ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องเพื่อพูดคุยอย่างจริงจังอีกครั้ง “ภพ...ครั้งนี้ต้องขอบคุณนายมากที่ช่วยฝันไว้” ภูทัชเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง เขาต้องการที่จะขอบคุณณภพจากใจจริง“พี่ภูไม่ต้องขอบคุณผมหรอก ผมเต็มใจอย่างยิ่ง” ณภพตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ท่าทีที่แต่เดิมดูขี้เล่นแปรเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมาวาดฝันมองณภพด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย เธอรู้สึกขอบคุณชายหนุ่มตรงหน้า และรู้สึกปล่อยวางความขลาดกลัวภายในใจลงได้แล้วในที่สุด“ภพ...ฉันขอโทษนะ...และขอบคุณภพด้วย” วาดฝันกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เริ่มสั่นเครือ“ฝัน...ขอแค่ฝันปลอดภัย ภพเต็มใจอย่างยิ่ง” ณภพย้ำชัดให้หญิงสาวคลายความกังวล “แต่ว่า...” น้ำเสียงของเขาเริ่มแผ่วลง เมื่อเขาอยากจะเริ่มต้นขอโทษหญิงสาวอย่างจริงจังอีกครั้ง“ภพ...ทุกอย่างมันผ่านไปแล้ว...ฝันไม่โกรธภพแล้วล่ะ...ต่อไปฝันหวังว่าพวกเราจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้” วาดฝันย้ำชัดกับความคิดของตนเอง เธอไม่ต้องการรื้อฟื้นความหลังที่เจ็บปวดเพื่อทำร้ายกันและกันอีกต่อไปแล้ว“ฝันให้อภัยภพแล้วเหรอ” ภพถามย้ำอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่ดูยินดียิ่
ตอนที่ 35 ปกป้อง“เปรี้ยง...” เสียงปืนดังสนั่นก้องกังวานไปทั่วโกดังร้าง ณภพวิ่งออกมาขวางวาดฝันเอาไว้อย่างไม่คิดชีวิต สัญชาตญาณสั่งการให้ชายหนุ่มเบี่ยงกายเข้าขวางวิถีกระสุนพร้อมกางมือปกป้องหญิงสาวเอาไว้ให้ปลอดภัยจากรัศมีกระสุนณภพใช้ร่างกายของตนเองเข้าบังหญิงสาวเอาไว้ กระสุนแล่นทะลุเข้าที่หน้าอกของณภพ เลือดสีแดงสดไหลทะลักออกมาเปรอะเปื้อนเสื้อสูทสีเทาของเขา ร่างของเขาทรุดตัวลงกับพื้นอย่างช้าๆ ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความเจ็บปวด แต่ก็ยังคงจ้องมองวาดฝันด้วยความเป็นห่วง“กรี๊ด...” วาดฝันกรีดร้องเสียงดัง เธอทรุดตัวลงนั่งด้านข้างของณภพ สองมือโอบกอดร่างหนาเอาไว้แนบกาย น้ำตาไหลอาบแก้มอีกครั้งอย่างไม่เชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าจะเป็นความจริง เธอโกรธแค้นณภพมาเป็นเวลานาน ชายหนุ่มที่ทำให้เธอหวาดกลัวและหลีกหนีต่อโลกใบนี้ แต่ครั้งนี้เขากลับเสี่ยงชีวิตเข้าปกป้องเธอเอาไว้ เธอรู้สึกเจ็บปวดระคนสับสนในใจอย่างรุนแรงภูทัชรีบเข้ามาประคองวาดฝันเอาไว้อีกทาง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาจะไม่ยอมให้เธอต้องตกอยู่ในอันตรายอีก ชายหนุ่มยกมือขึ้นเป็นสัญญาณ ดวงตาแดงก่ำราวกับพยัคฆ์ร้ายที่พร้อมจะเข่นฆ่าศัตรูให้ตายไปลงต่
ตอนที่ 34 ต่อรองภูทัชยืนประจันหน้ากับสาริน สายตาคมกริบจับจ้องอีกฝ่ายอย่างไม่ลดละ แม้ในใจจะเดือดดาลเพียงใด เขาก็ต้องควบคุมอารมณ์ให้มั่นคง ชายหนุ่มรู้ดีว่าหากเผลอทำอะไรไปโดยไม่คิดให้รอบคอบ วาดฝันอาจจะตกอยู่ในอันตรายได้ “ฉันจะแน่ใจได้อย่างไรว่าวาดฝันอยู่ที่นี่...แกพาเธอออกมาให้ฉันเห็นก่อน แล้วพวกเราค่อยเจรจากัน” ภูทัชพูดเสียงดังต่อรองออกไป เขาต้องพยายามพลิกสถานการณ์เพื่อให้กลับมาเป็นต่อขึ้นมาได้บ้างสารินหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความสะใจที่เห็นท่าทีที่ดูร้อนรนของศัตรูคู่แค้นตรงหน้า “ภูทัช...ฉันจะให้นายได้เห็นคนรักของแก...ฮ่าๆ...ฉันไม่คิดเลยว่าวันนี้จะมาถึง...วันที่นายจะต้องมาวิงวอนขอร้องฉัน...วันที่นายมีจุดอ่อนให้ฉันเหยียบย่ำ” สารินพูดออกมาอย่างนึกสะใจสารินมองชายหนุ่มที่เคยเป็นเสี้ยนหนามในชีวิตเขามาตลอดด้วยความยินดีที่ในที่สุดก็ได้เห็นภูทัชมี ‘จุดอ่อน’ เสียที เขาต่อกรกับภูทัชเพื่อขึ้นเป็นหนึ่งเดียวมานาน แต่เพราะภูทัชระวังตัวอย่างมาก ซ้ำยังมีลูกน้องฝีมือดีมากมาย ทำให้ภูทัชกลายเป็นกระดูกที่ขวางทางอำนาจของเขามาโดยตลอด แต่ไม่นึกว่าบัดนี้เขาจะมีจุดอ่อนที่เป็นเพียงหญิงสาวที่ดู
ตอนที่ 33 ลักพาตัวความมืดมิดปกคลุมไปทั่วบริเวณสวนหลังงานเลี้ยง มีเพียงแสงไฟสลัวจากสองข้างทางสอดส่องไปตามทางเดินยาว วาดฝันที่กำลังวิ่งหนีด้วยความตื่นตระหนก หัวใจของเธอเต้นแรงราวกับจะหลุดออกมาจากอก ในเวลานี้หญิงสาวตื่นกลัวจนไม่รู้ว่าเธอควรจะไปทางไหนดี มีเพียงสัญชาตญาณที่สั่งให้เธอวิ่งหนีออกมาเพียงอย่างเดียว น้ำตาไหลนองอาบสองแก้ม มือบางปาดไล้น้ำตาบนใบหน้าจนเครื่องสำอางเปรอะเปื้อนเป็นแถบเมื่อวาดฝันวิ่งไปได้สักพักใหญ่ เธอก็หยุดชะงักลง หญิงสาวหันซ้ายหันขวามองไปตามทางเดินที่เธอจากมา เมื่อไม่เห็นร่างของณภพ เธอก็ค่อยๆ ผ่อนแรงลงด้วยความเหนื่อยหอบในระหว่างที่วาดฝันกำลังรวบรวมสติอีกครั้ง มือบางที่สั่นเทาก็รีบเปิดกระเป๋าเพื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แต่แล้วจู่ๆ เธอก็รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างมากระทบที่ใบหน้า ผ้าเช็ดหน้าผืนบางโปะมาที่จมูกของเธอจากทางด้านหลังวาดฝันเบิกตากว้าง พร้อมดิ้นรนขัดขืนอย่างสุดกำลังอีกครั้งด้วยความหวาดกลัว แต่แล้วภาพตรงหน้าก็ค่อยๆ พร่าเลือน ร่างของเธอทรุดลงก่อนที่สติของเธอจะดับวูบลงไปในที่สุดวาดฝันหายตัวไปเป็นเวลานานมากแล้ว ณภพที่พยายามออกตามหาหญิงสาวไปทั่วบริเวณแต่กลับไม่พบเธ
ตอนที่ 32 ชนะประมูลแสงไฟระยิบระยับส่องประกายไปทั่วห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ เสียงดนตรีบรรเลงคลอเป็นจังหวะ สร้างบรรยากาศหรูหราและมีชีวิตชีวา ผู้คนในชุดราตรีและสูทหรูหราเดินไปมา พูดคุยและหัวเราะกันอย่างคึกคักบริษัทของภูทัชและทรงกลดได้รับคัดเลือกในการประมูลโครงการกาสิโนขนาดใหญ่ที่พวกเขาทั้งสองต่างทุ่มเททั้งกำลังกายและกำลังทรัพย์ให้กับโครงการนี้ พวกเขาจึงจัดงานเลี้ยงฉลองชัยชนะนี้ขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลองให้กับความสำเร็จครั้งสำคัญของพวกเขาที่ไม่ใช่เพียงแค่ธุรกิจเท่านั้น แต่ยังหมายถึงอำนาจและอิทธิพลของพวกเขาในวงการนี้อีกด้วยภูทัชในชุดสูทสีน้ำตาลชวนให้ดูหล่อเหลาและสง่างาม ควงคู่มากับวาดฝันในชุดราตรีสีครีมที่ขับเน้นรูปร่างงดงามของเธอ ทั้งสองดูเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยกวาดฝันพยายามยิ้มแย้มให้กับแขกเหรื่อที่เข้ามาร่วมแสดงความยินดีกับพวกเขา แม้ว่าเธอจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับงานเลี้ยงที่มีคนแปลกหน้าเยอะแยะสักเท่าไหร่ แต่งานเลี้ยงดังกล่าวเป็นความภาคภูมิใจของคนที่เธอรักทั้งสองคน นั่นทำให้วาดฝันพยายามฝืนตัวเองอย่างสุดกำลังระหว่างงานเลี้ยงที่จัดขึ้น ภูทัชเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องพบปะและพูดคุยกับแขกเหรื่อในงาน แต
ตอนที่ 31 กันและกันเมื่อภูทัชเห็นว่าวาดฝันพร้อมสำหรับตัวเองแล้ว เขาก็ค่อยขยับกายขึ้นคร่อมร่างบางเอาไว้อย่างแนบชิด สองขาสอดแทรกดันแยกต้นขาอ่อนให้เปิดกว้าง จากนั้นชายหนุ่มจึงค่อยๆ แทรกความเป็นชายของเขาเข้าไปในร่องหลืบที่บัดนี้ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำหวานที่ไหลเยิ้มออกมาภูทัชกดแก่นกายเข้าไปได้เพียงครึ่งหนึ่ง ร่างบางก็เกร็งสั่นด้วยความเจ็บปวดที่ได้รับ “อ๊ะ...” วาดฝันครางออกมาเบาๆ ร่างกายเริ่มประท้วงจากความเจ็บแปลบที่แล่นริ้วไปทั่วร่างกายภูทัชชะงักค้างนิ่งอยู่อย่างนั้น เขากัดฟันข่มกลั้นความคับแน่นที่บีบรัดแก่นกายของเขาจนแทบจะระเบิด ชายหนุ่มโน้มหน้าพรมจูบไปทั่วใบหน้าหวานอย่างต้องการปลอบโยน มือใหญ่เริ่มลูบไล้ บีบคลึงไปตามจุดสัมผัสอ่อนไหวเพื่อให้ร่างบางผ่อนคลายลงอีกครั้ง“ฝัน...อย่ากลัว...พี่จะพยายามไม่ทำให้ฝันเจ็บ...อดทนหน่อยนะคนดี” ภูทัชปลุกปลอบหญิงสาวตรงหน้าอย่างใจเย็น แม้ว่าตอนนี้ร่างกายของเขาแทบแตกเป็นเสี่ยงๆ แล้วก็ตามวาดฝันที่เริ่มผ่อนคลายลง ความเจ็บปวดค่อยๆ จางหายไป แทนที่ด้วยความรู้สึกเสียวซ่านเข้ามาแทน ร่างบางเริ่มขยับตัวเข้าหาชายหนุ่ม สองมือโอบวาดกอดรัดรอบลำคอของเขาเอาไว้แน่นภูทัชใช้จั