‘บุญแก้ว ทิพย์ลออ’
เป็นเด็กสาวต่างจังหวัดที่สอบได้ทุนเรียนต่อระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยชื่อดังที่กรุงเทพฯ เธอเป็นทั้งเด็กเรียนดีและเป็นดาวคณะเนื่องมาจากหน้าตาอันสะสวยและความสดใสซึ่งถูกส่งผ่านรอยยิ้มพิมพ์ใจของเจ้าตัว
ในระหว่างนั้นก็มีหนุ่มหน้าตาดี เจ้าของรอยยิ้มอบอุ่น คอยมาตามตื๊อตามจีบเธออยู่เป็นปี
เขาชื่อ ‘ธีภพ ธนินวัตถ์’ เรียนคณะนิเทศศาสตร์ รุ่นเดียวกันกับบุญแก้ว และเพราะเขาปฏิบัติกับเธออย่างสุภาพอ่อนโยน หญิงสาวจึงเปิดใจคบกับเขา
พอเรียนจบปุ๊บ แฟนหนุ่มก็ขอเธอแต่งงานทันที
‘พวกคุณทั้งสองคนถูกเสนอชื่อให้เป็นหัวหน้าทีมฝ่ายดูแลลูกค้ารายใหญ่ เก่งกันทั้งคู่เลย มิน่าถึงได้เป็นสามีภรรยา คู่สร้างคู่สมจริง ๆ’
พสิษฐ์ ผู้จัดการแผนกลูกค้าสัมพันธ์เอ่ยชมลูกน้องทั้งสอง แต่ใจจริงเขาชื่นชมเจ้าหน้าที่สาวไฟแรงมากกว่า เพราะเธอเข้ามาทำงานในบริษัทนี้ก่อนผู้เป็นสามี ทั้งยังทำงานคล่องแคล่วจนลูกค้ารายไหนก็เอ็นดู
‘ฉันให้คุณธีภพขึ้นเป็นหัวหน้าทีมเลยค่ะ ฉันทำตำแหน่งเดิมได้’
เสียงหวานเอ่ยขึ้นก่อนใบหน้ามนจะหันไปแสดงความยินดีกับผู้เป็นสามี เธอเป็นคนแนะนำเขาเข้ามาทำงานกับผู้จัดการ และเป็นคนถ่ายทอดเทคนิคติดต่อลูกค้าให้กับเขาด้วยตัวเองแบบไม่มีกั๊ก สุดท้ายธีภพก็ตีคู่ขึ้นมาโดดเด่นเทียบเท่ากับพนักงานรุ่นพี่อย่างเธอ
‘ยินดีด้วยนะ คุณทำได้แล้ว’
‘ขอบคุณนะแก้ว’
ภรรยาผู้รักสามีสุดหัวใจได้แต่ยิ้มแสดงความยินดีและปรารถนาให้เขาเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน
ทว่ากลับไม่เคยนึกถึงตัวเอง
ดาวเด่นที่เคยส่องแสงแพรวพราวกลับริบหรี่ลงเรื่อย ๆ เพราะภาระรับผิดชอบที่เพิ่มมากขึ้น ไหนจะต้องทำงาน ไหนจะต้องทำความสะอาดบ้าน รวมทั้งดูแลสามีและครอบครัวสามีอีก
‘อดทนหน่อยนะแก้ว เดี๋ยวเงินเดือนผมก็เพิ่ม เดี๋ยวเราก็จะสบาย’
ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าไรค่าใช้จ่ายก็ยิ่งเพิ่ม สามีของเธอตัดสินใจซื้อทาวน์โฮมตรงข้ามกับบ้านของครอบครัวด้วยเงินผ่อน ชื่อเจ้าบ้านเป็นชื่อของเขา แต่เงินที่ใช้ส่งในแต่ละงวดกลับเป็นเงินของบุญแก้วทั้งสิ้น
ไหนจะรถเก๋งเงาวับที่เขาออกใหม่เพื่ออัปเกรดตัวเองให้สมกับการเป็นหัวหน้าทีม นั่นทำให้หญิงสาวเริ่มเครียดเรื่องเงินมากขึ้น แต่เธอก็พยายามทำความเข้าใจว่ามันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเขาที่เธอต้องช่วยจ่าย
ทั้งสูทตัดใหม่ นาฬิกาแบรนด์ดัง น้ำหอมราคาแพง และของใช้จิปาถะต่าง ๆ นานา
เธอเข้าใจและก้มหน้าทำงานอย่างตั้งมั่น แต่อยู่ ๆ ผู้จัดการกลับย้ายเธอไปอยู่ทีมอื่น
‘คุณแก้ว ผมเห็นช่วงนี้คุณดูเหนื่อยสะสมเลยย้ายคุณไปอยู่ทีมรับเรื่องร้องเรียนแทน งานสบาย ไม่ต้องออกนอกสถานที่ แค่รับเรื่องจากลูกค้าเท่านั้นเอง’
‘คะ? ค่ะ’
คนถูกเรียกพบถึงกับยืนเอ๋ออยู่กับที่ แต่สุดท้ายหญิงสาวก็น้อมรับตำแหน่งใหม่แต่โดยดี
ตอนแรกเธอก็นึกว่าหัวหน้าเป็นห่วงตนเสียอีก ทว่าจังหวะมันดันประจวบเหมาะกับการรับพนักงานใหม่เข้ามาในแผนกพอดี
‘สวัสดีค่ะ ‘ภริตา พฤธากร’ พี่ ๆ เรียกฉันแค่ ‘ริตา’ ก็ได้ค่ะ จากวันนี้เป็นต้นไป ฉันจะเข้ามาเป็นเจ้าหน้าที่แผนกลูกค้าสัมพันธ์ในทีมของรุ่นพี่ธีภพ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ’
แปะๆๆ
เสียงปรบมือต้อนรับน้องใหม่ผู้มีรอยยิ้มสดใสแจกทั้งแผนกดังสนั่น โดยคนที่ปรบดังที่สุดก็คือ ‘พสิษฐ์ พฤธากร’ ผู้จัดการวัยใกล้เกษียณ หรือพ่อของเด็กใหม่ที่ชื่อริตานั่นเอง
ในขณะที่บุญแก้วเริ่มเสียสุขภาพจิตเพราะต้องรับมือกับอารมณ์ของลูกค้าซึ่งโทรกระหน่ำเข้ามาร้องเรียนหรือแม้กระทั่งด่าทอเธอเสีย ๆ หาย ๆ ลูกรักของผู้จัดการกลับกำลังยิ้มหน้าระรื่นและออกไปทำงานนอกสถานที่กับสามีของเธอ
หญิงสาวไม่เคยเอะใจกับเรื่องนี้มาก่อนเพราะคิดว่าเป็นเพียงการร่วมงานของคนทั้งสองมาโดยตลอด
จนวันนี้...
ก๊อกๆ!
มือบางเคาะลงบนบานประตูโรงแรมห้อง 203 ด้วยใจหวั่นวิตก
หลังเลิกงานเธอก็รีบโบกแท็กซี่ไล่ตามหลังรถของสามีที่เลี้ยวออกมาจากบริษัทกับ...พนักงานน้องใหม่
ใจหนึ่งก็หวาดกลัวสุดขีด อีกใจหนึ่งก็ยังเชื่อมั่นในตัวของสามีที่อยู่กินด้วยกันมาจนถึง 4 ปี ทว่าพอตัวรถเลี้ยวเข้าไปในโรงแรมหรู ความมั่นใจที่มีพลันถูกกลืนกินไปทีละนิดจนมลายหายไปไม่เหลือแม้แต่เศษเสี้ยว
ก๊อกๆ!
“ใครวะ!”
พรวด!
เสียงทุ้มอันแสนคุ้นเคยร้องดังมาจากด้านในก่อนจะได้ยินเสียงฝีเท้าขยับเข้ามาใกล้ กระทั่งประตูบานใหญ่ถูกดึงออกอย่างแรง
“บุญ...แก้ว เธอมาทำอะไรที่นี่”
“ใครเหรอคะพี่ภพ อ๊ะ! พี่บุญแก้ว”
ภาพชายหนุ่มและหญิงสาวในชุดคลุมอาบน้ำสีขาวทำให้คนยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าประตูจุกในอกจนพูดไม่ออก ดวงตากลมเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำใส เรี่ยวแรงทั้งหมดเหือดหายจนขาเรียวแทบทรุดลงกับพื้น
“ภพ! ทำไมคุณทำแบบนี้… ฮึก”
ความเจ็บช้ำของเธอยังไม่จบลงเพียงเท่านั้น แต่มันกลับถูกขยี้ซ้ำอีกครั้งเมื่อเรื่องทั้งหมดถูกนำมาเคลียร์ใจกันที่บ้านต่อหน้าศาลเตี้ย ซึ่งก็คือพ่อแม่ของสามี
“เรื่องทุกอย่างมันก็เริ่มมาจากเธอนั่นแหละ! ถ้าเซ็กซ์เธอไม่ห่วยฉันก็ไม่ต้องทำแบบนี้”
นิ้วเรียวชี้หน้าเธออย่างกล่าวหาราวกับสิ่งที่เขาทำมันถูกต้องแล้ว
“ถ้าเธอดูแลเอาใจใส่ฉันดีกว่านี้ ฉันก็ไม่จำเป็นต้องไปพึ่งพากำลังใจจากคนอื่น แค่เรื่องงานฉันก็เครียดจะตายอยู่แล้ว ยังต้องมาคิดเรื่องของเธออีกรึไง ยัยบ้านนอก!”
“…”
“เธอนั่นแหละไม่ดีเอง จะมาโทษลูกชายฉันได้ยังไง หนูริตาทั้งน่ารักทั้งอ่อนหวาน ไม่เหมือนเธอที่ทั้งจืดทั้งชืด ทำอะไรก็ไม่ได้เรื่อง!”
“คุณแม่รู้จักริตาด้วยเหรอคะ?”
“คะ...ใครจะไม่รู้จัก ลูกสาวของผู้จัดการตาภพ ฉันก็ต้องทำความรู้จักเอาไว้สิ ยิ่งเขาเห็นแววของตาภพแล้วด้วย”
คนที่เอาแต่เงียบท่ามกลางคำด่าทอซึ่งพุ่งเป้ามายังตนเองเอ่ยทักหญิงมีอายุขึ้น เมื่ออีกฝ่ายหลุดพูดชื่อพนักงานใหม่อย่างสนิทสนม
ยิ่งได้ยินเสียงตะกุกตะกักเอ่ยตอบกลับมาบุญแก้วยิ่งเข้าใจเจตนาของครอบครัวนี้
ที่แท้ทุกคนก็รู้เรื่องและชอบพอลูกสาวของผู้จัดการวัยใกล้เกษียณมาตลอด คงเพราะเห็นริตาเป็นใบเบิกทางให้ธีภพขึ้นไปสู่ตำแหน่งใหญ่ ส่วนเธอกลับกลายเป็นคนไร้ประโยชน์ไปเสียแล้ว
“ไม่ต้องมาย้อนถามแม่ฉันอย่างอวดดี สรุปเธอจะเอายังไง! จะหย่าใช่มั้ย!”
“หยะ...หย่า”
“ก็แค่นั้นแหละ พูดอะไรให้มากความ น่ารำคาญ!”
ในขณะที่เธอกำลังนั่งปาดน้ำตาด้วยความเสียใจ เขากลับพูดคำตัดขาดออกมาได้ง่าย ๆ ก่อนจะลุกหนีออกจากวงสนทนาไปด้วยความรำคาญ
จากบ้านทาวน์โฮมที่ตนผ่อนชำระมาหลายงวดกลับกลายเป็นเพียงห้องเช่าสี่เหลี่ยมคับแคบ แม้ดวงตาจะบวมเป่งจากการร้องไห้เจียนจะขาดใจแต่หญิงสาวก็ยังแข็งใจฝืนลุกไปทำงาน
ทว่าบรรยากาศภายในแผนกกลับมาคุและชวนอึดอัดกว่าทุกวัน ไม่มีใครลุกเข้ามาทักทายหรือพูดคุยกับบุญแก้ว ทุกคนทำเหมือนมองไม่เห็นเธอ และทำเหมือนมองไม่เห็นอดีตสามีของหญิงสาวที่ควงแขนรุ่นน้องในทีมมาทำงานอย่างออกนอกหน้า
แต่แล้วผู้จัดการแผนกกลับเป็นคนเดียวที่เรียกเธอไปคุยด้วย
“ผมเข้าใจความรู้สึกของคุณนะ แต่ชีวิตคนเราก็ต้องเดินต่อไป ถ้าคนนั้นไม่ใช่คู่แท้จริงของเรา ก็แค่ถอยออกมาเท่านั้นเอง”
ก็แค่ถอยออกมาเท่านั้นเอง?
ดวงตากลมมองหน้าผู้จัดการอย่างผิดหวังพลางเอ่ยทวนคำพูดของอีกฝ่ายในใจ
เขาเองก็คงรับรู้เรื่องราวพวกนี้มาตลอดและสนับสนุนให้สามีของเธอนอกใจไปคบกับลูกสาวของตัวเองสินะ
แล้วแบบนี้จะให้เธอไปยืนอยู่ตรงไหนในบริษัท มันยังมีพื้นที่ให้เธออยู่อีกอย่างนั้นหรือ
“ฉันขอลาออกค่ะ”
สุดท้ายเจ้าหน้าที่ผู้อุทิศชีวิตเพื่องานก็ต้องยื่นซองขาวเพื่อให้ตนหลุดพ้นออกจากวงจรอันน่าอึดอัด แล้วไปเริ่มต้นใหม่เสียที
‘เรื่องทุกอย่างมันก็เริ่มมาจากเธอนั่นแหละ! ถ้าเซ็กซ์เธอไม่ห่วยฉันก็ไม่ต้องทำแบบนี้’
คำพูดดูแคลนพวกนั้นยังคงวนเวียนอยู่ในหัวจนเธอไม่อาจปีนขึ้นมาจากการกล่าวโทษตัวเองซ้ำ ๆ
เมื่อเห็นอาการของตนช้ำหนักมือเล็กจึงเซิร์ซหาวิธีแก้เฮิร์ตจนไปเจอ ‘การนัดมีสัมพันธ์แบบ One Night Stand’
ในตอนนั้นคนถูกตราหน้าว่าเซ็กซ์ห่วยพลันเกิดความคิดว่าอยากไปปลดปล่อยดูสักครั้ง
เธอไม่มีพันธะหรือสามี จะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอยากประชดรักหรือเสียสติหลังจากเจ็บหนัก อยู่ ๆ คนไม่มั่นใจในตัวเองกลับกำลังนั่งปัดแอปเพื่อหาคู่นอน
แล้วดันใจกล้าไปปัดขวาตรงรูปโพรไฟล์ที่ตัดมาเพียงส่วนหน้าท้องอัดแน่นไปด้วยมัดกล้าม ทั้งยังตกลงนัดเจอกันกับเขาที่โรงแรมในคืนนี้จนเสร็จสรรพ
ก๊อกๆ!
ดวงตากลมก้มลงมองเลขห้องที่อีกฝ่ายส่งมาบอกว่า ‘515’ ก่อนจะเคาะประตูด้วยความตื่นเต้น ดีที่เธอยกแอลกอฮอล์ขึ้นกระดกก่อนมานิดหน่อย ทำให้ความอายลดน้อยลงไปบ้าง ไม่อย่างนั้นคงตัวสั่นเทิ้มมาตั้งแต่หน้าประตูทางเข้าโรงแรมแล้ว
แอ๊ดด~
“มาแล้วเหรอครับ”
ประตูห้องเปิดออกพร้อมกับการปรากฏตัวของชายร่างสูงในชุดสูทสีดำ เขาเอ่ยทักทายเธอเสียงเรียบ ทว่าใบหน้าหล่อเหลาเหมือนฟ้าประทานทำให้บุญแก้วถึงกับยืนตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ก่อนหญิงสาวจะสะบัดไล่ความคิดทั้งหมดออกไปแล้วจดจ่อแค่เพียงเป้าหมายของตนเท่านั้น
“เรามาเริ่มกันเลยดีมั้ยคะ”
มือเล็กดันอกแกร่งเข้าไปด้านในประตูด้วยสายตาดุจนางพญา
วันนี้หญิงสาวจะใส่ให้สุด
อย่างไรเธอกับเขาก็เจอกันแค่คืนนี้เท่านั้น
และแล้วความปรารถนาของพวกเขาก็เป็นจริง เทพทัตและบุญแก้วมีลูกชายตัวน้อยด้วยกันหนึ่งคนชื่อว่า ‘บุญใต้ อนันไชยเดช’ ลูกสาวรูปร่างหน้าตาเหมือนแม่ ส่วนลูกชายเองก็ถอดแบบมาจากผู้เป็นพ่อเป๊ะ ๆ และที่สำคัญนิสัยยังเหมือนกันอีกต่างหาก เวลาล่วงเลยผ่านมาจนบุญเหนืออายุ 12 และบุญใต้อายุ 9 ขวบ เวลาไปซื้อของพี่สาวกับผู้เป็นแม่มักหายจ้อยเข้าร้านพวกของจุ๊กจิ๊กน่ารักกันเป็นชั่วโมง ปล่อยให้ลูกชายกับผู้เป็นพ่อยืนรอด้านหน้าจนขาเป็นตะคริว แม้พี่สาวจะดูเป็นผู้หญิงห้าว ๆ แต่เธอก็ยังชอบของน่ารักไปตามวัย “พ่อ ใต้เมื่อยแล้วอะ ตอนไหนแม่กับเหนือจะออกมา” “เหนื่อยก็ต้องอดทน การจะเป็นมาเฟียเราต้องมีร่างกายที่แข็งแรง ยืนแค่นี้จะเป็นไรไป” “มาแล้ว น่ารักมั้ย” สองพ่อลูกยืนขาแข็งอยู่หน้าร้านนานนับชั่วโมง สุดท้ายคนที่พวกเขารอคอยก็เดินออกมาเสียที บุญใต้มองตุ๊กตาหมีแพนด้าโง่ ๆ ในมือพี่สาวก่อนจะถอนหายใจ เขาอยากจะบ้า ถ้าวันหนึ่งมีแฟนแล้วต้องมายืนรอสาวจนปวดขาเหมือนพ่อ เขาไม่ขอมีหรอก แค่พี่สาวคนเดียว บุญใต้ก็ปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว
ฟุบ! คู่สามีภรรยาทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่มพลางมองท้องฟ้ายามค่ำคืนด้านนอกประตูกระจกใส พวกเขาถูกบุพการีทั้งสองบ้านไล่ตะเพิดมาฮันนีมูน แต่จริง ๆ คือให้มาทำหลานอีกคนให้พวกท่าน ไม่ติดไม่ต้องหันหลังกลับ โดยเรื่องนี้เจ้าเหนือเป็นคนต้นคิด เด็กแสบชอบนักการถูกตามใจจากผู้หลักผู้ใหญ่ และไม่ต้องฝึกซ้อมหนักกับผู้เป็นพ่อ แค่เห็นหน้าเทพทัตเด็กหญิงตัวน้อยก็กรอกตามองบนรอแล้ว เด็กฉลาดและเจ้าเล่ห์เกินวัยคิดแผนการให้ผู้เป็นพ่อไปฝึกซ้อมหนัก ๆ กับแม่ของตนดีกว่า แบบนั้นเจ้าเด็กก็จะได้ทั้งน้องมาเป็นเบ๊ พ่อได้เพื่อนและเลิกยุ่งกับตน แถมยังได้กินของอร่อยไม่อั้นจากทั้งย่าและทวดอีก “วิวสวยเนาะ” เทพทัตเอ่ยขึ้นแหวกความเงียบ แต่พอหันไปมองดวงหน้ามนกลับเห็นภรรยาคนสวยถอนหายใจออกมา “สวย แต่บนนี้อาหารไม่ถูกปากเท่าไหร่เลย” บุญแก้วย่นหน้าด้วยความรู้สึกเซ็ง ๆ วิวด้านบนสวยก็จริง แต่ถ้าต้องมากินข้าวต้มหรืออาหารตามสั่งทั่วไป เธอรู้สึกว่ามันไม่ค่อยคุ้มกับการมาเที่ยวทั้งทีเท่าไรนัก “งั้นเหรอ ทำไมเมียพูดเหมือนอ่านใจผัวออกเลย” ใบหน้าคมก
บุญแก้วได้แต่ลอบถอนหายใจเมื่อตนปล่อยลูกสาวไว้กับผู้เป็นสามี ลูกสาววัยเตาะแตะโตขึ้นอย่างมหัศจรรย์ (ประชด) บุญเหนือเปลี่ยนไปเป็นคนละคน จากที่เคยเล่นตุ๊กตาและอยากเป็นเจ้าหญิง ตอนนี้กลับกลายเป็นเด็กห้าวคนหนึ่ง หากมีใครมาแหย่เข้า หมัดน้อย ๆ พร้อมสวนกลับไปทันที ก็สามีของเธอเล่นสอนศิลปะการต่อสู้ให้ลูกสาวตัวกะเปี๊ยกทั้งหมด ไม่ว่าจะมวย เทควันโด ยูโด ยิงปืน ไม่รู้จะสอนให้ลูกไปเป็นนักรบหรืออย่างไร “ย่า!” เสียงเล็กร้องดังมาจากสนามมวยกลางโรงยิมส่วนตัวพร้อมกับร่างเล็กของลูกสาว ซ้อมกับพ่อมาตั้งแต่เช้าจนสายยังไม่หยุดพักจนแก้มกลมขาวขึ้นสีแดงอย่างน่าเอ็นดู “วันนี้พอแค่นี้เถอะค่ะ” “เอางั้นก็ได้ครับเมีย” ร่างสูงหันมาพยักหน้าให้เมียก่อนจะยกมือขึ้นบอกลูกสาวให้หยุดพักได้ “เหนือ วันนี้พอแค่นี้ก่อนลูก” โครม! พอได้ยินเสียงสั่งหยุดจากพ่อ เด็กตัวเล็กวัย 4 ขวบพลันทิ้งตัวลงอย่างเหนื่อยล้า “วันนี้แม่ทำของโปรดลูกด้วยน้า” “กลับบ้านกันเถอะค่ะ!” บุญแก้วหลุดหัวเราะอย่างขบขันเจ้าของดวงตากลมส่องประ
3 ปีผ่านไป~ “เชิญครับองค์หญิง” มือใหญ่ผายมือไปทางประตูรถก่อนจะมีเด็กผู้หญิงตัวกลมจิ๋วก้าวขึ้นไปนั่งตรงเบาะด้านหลังของรถซีดานหรู ใบหน้าเล็กเชิดขึ้นจนมงกุฎบนหัวเอียงกะเท่เร่ “คิก ๆ” บุญแก้วในร่างอวบอั๋นกว่าเมื่อก่อนหลุดขำสามีของตนแล้วเดินขึ้นมานั่งบนเบาะข้างลูกสาว ปัง! “ออกรถเลยคิน!” ร่างสูงก้าวขึ้นมานั่งตรงเบาะข้างคนขับพลางสั่งการผู้เป็นลูกน้อง “อุบ!” แทนที่มันจะตอบรับคำสั่ง เจ้าตัวกลับหุบปากกลั้นขำจนหน้าดำหน้าแดง “มึงจะขำ มึงก็ขำออกมาดังๆ!” เทพทัตถอนหายใจแรงอย่างปลงตกกับโชคชะตา “ว้ากกกกกกกกกก ฮ่าๆ” แล้วลูกน้องเขาก็ขำจริง ขำแบบไม่เกรงใจใบหน้าเคร่งขรึมของเขาเลยแม้แต่น้อย “ขำมากมั้ย เดี๋ยวแม่งตัดลิ้นไปให้กากิน” “ชู่! อย่าเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้ลูกสิคะ” เสียงห้ามดังขึ้นมาจากด้านหลังเหมือนกองเซนเซอร์ มือขาวของภรรยาปิดหูเล็กทั้งสองข้างของเด็กหญิงในชุดกระโปรงเจ้าหญิงฟูฟ่อง นั่นทำให้เทพทัตหายใจแรงออกมาอีกครั้ง ผู้ชายตัวโตอย่
บุญแก้วมองตามควันโขมงจากธูปที่ปักอยู่เต็มกระถางบูชาหน้าสำนักหมอดูชื่อดังท้ายหมู่บ้านของตน สำนักหมอดูแม่ทองย้อยที่เดียวที่เดิม ซึ่งมีผู้คนต่อแถวยาวรอคิวอย่างมีความหวัง และแม่สามีของเธอก็เป็นหนึ่งในนั้น “คุณแม่พาแก้วมาที่นี่ทำไมเหรอคะ” “ก็พามาดูดวงน่ะสิจ๊ะว่าตอนไหนแม่จะได้อุ้มหลาน” ลูกสะใภ้ลอบถอนหายใจ เธอกับสามีเคยมีอะไรกันแบบไม่ใส่ถุงหนึ่งครั้ง แต่ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีลูกน้อยมาเกิด ตอนอยู่กับอดีตสามีคนแรกเธอก็ท้องยากแบบนี้ หญิงสาวไปตรวจเพื่อเช็กให้แน่ใจว่าตนเข้าข่ายภาวะมีบุตรยากหรือไม่มาแล้ว แต่หมอกลับบอกว่าร่างกายของเธอปกติ ไม่มีปัญหา แล้วอะไรกันที่มันมีปัญหา? แม่หมอทองย้อย...จะให้คำตอบได้จริง ๆ อย่างนั้นหรือ “อยู่ในหมู่บ้านของหนูแก้วเลย หนูเคยมาดูดวงกับแม่หมอบ้างมั้ยลูก แม่นรึเปล่า” แม่ย่าที่ได้ยินกิตติศัพท์ของแม่หมอทองย้อยมาจากคนอื่นเอ่ยถามไถ่ลูกสะใภ้ที่กำลังยืนขบคิดกับคำทายทักเมื่อหลายเดือนก่อน จะว่าแม่นไหมน่ะหรือ แม่หมอทักว่าตนจะได้ผัวรวยเป็นลูกครึ่ง สรุปได้ผัวรวย ล
“จะโอนให้ฉันจริง ๆ เหรอคะ” บุญแก้วมองสามีตาปริบ ๆ ไม่รู้ว่าวันนี้เขาเป็นอะไรถึงได้ใจป้ำขึ้นมาผิดปกติ “อืม เอาไปหมดเลย” เทพทัตลากภรรยาตัวน้อยออกจากบ้านตั้งแต่เช้าเพื่อมาจดทะเบียนสมรสใหม่ ทั้งยังโอนอสังหาริทรัพย์ที่ตนถือครองทั้งหมดให้เธออีกต่างหาก ทรัพย์สินทุกอย่างเขารื้อออกมาหมดเพื่อยกให้เธอ ไม่รู้มันเกิดอะไรขึ้นกับผู้เป็นสามีกันแน่ถึงได้ตื่นมากลายเป็นสายเปย์เกินเหตุขนาดนี้ “โอนให้เมียหมด จะได้ไม่มีคนมาแย่งผัวไปเพื่อหวังฮุบเอาสมบัติอีก” “แล้วไม่กลัวฉันชิ่งหนีเหรอคะ” “ถ้าเธออยากให้ผัวกลายเป็นขอทานข้างถนนก็ลองดู” บุญแก้วหลุดยิ้มกับคำพูดของคนด้านข้าง ที่แท้ก็กลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอยนี่เอง “นั่นน่ะสิคะ ใครจะอยากได้ผู้ชายที่มีแค่ตัวกับเสื้อแถมปุ๋ยกัน” “ถึงจะมีแค่ตัว แต่พกปลาข่อใหญ่นะครับ” เพียะ! “พูดอะไรเนี่ย” “หรือเมียจะเถียงว่ามันไม่เร้าใจ?” มือเล็กตีแขนอัดแน่นไปด้วยมัดกล้ามเมื่อสามีเริ่มเปิดประเด็นเรื่องใต้น้ำ... “อะฮึ่ม! ผมว่าเจ้าหน้าที่น่าจะรอนา