เทพทัตขับรถมอเตอร์ไซค์สีน้ำเงินซีดพ่วงข้างเข้าไปจอดในสวนทุเรียนก่อนจะเดินตรงเข้าไปด้านใน
“รับดี ๆ นะพี่ ฉันจะโยนลงไปแล้ว!”
“นายหญิงระวังตกนะครับ”
ปึ้ก!
“เฮ! นายหญิง เก่งมาก!”
ไม่ต้องหายากว่าเมียตัวน้อยของเขาอยู่ที่ไหน เพราะเสียงเล็กดังเจื้อยแจ้วอยู่ไม่ไกลพร้อมกับเสียงเฮลั่นจากคนงานในสวน ราวกับกองเชียร์เกาะติดขอบสนามบอลโลกถูกยกมารวมไว้ที่นี่
ชายหนุ่มย่างสามขุมเข้าไปหยุดอยู่ใต้ต้นทุเรียนสูงตระหง่านก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองร่างอันแสนคุ้นเคยที่กำลังเกาะลำต้นทุเรียนเป็นลิงเป็นค่างอยู่ด้านบน
“ใครให้เมียกูขึ้นไปปีนต้นทุเรียน เดี๋ยวจับเสียบด้วยหนามทุเรียนให้หมด!”
เมื่อเห็นการปรากฏตัวของเจ้าของไร่ที่ตวาดลั่นด้วยความหงุดหงิด กลุ่มกองเชียร์ด้านล่างต่างพากันแตกฮือหนีกระจัดกระจายกันไปคนละทางประหนึ่งผึ้งแตกรัง
“เอามานี่!”
เทพทัตแย่งกระสอบป่านมาจากคนงานที่รอรับลูกทุเรียนอยู่ด้านล่างแล้วเงยหน้าขึ้นไปจ้องเมียตัวน้อย ซึ่งกำลังก้มลงมองเขาตาปริบ ๆ จากด้านบนพร้อมกับทุเรียนลูกเท่าหัวในมือ
“โยนทุเรียนลงมา แล้วเธอก็ลงมาด้วย”
มือเรียวกวักไหว ๆ บอกลูกลิงตัวน้อยส่งทุเรียนในมือให้เขาแล้วปีนกลับลงมายังพื้นดิน
“คุณรับได้ใช่มั้ยคะ”
“เล็งดี ๆ ถ้าเล็งไม่ดีฉันจะลงโทษเธอให้หนักกว่าเมื่อคืน 3 เท่า”
เสียงสั่งการแข็งกระด้างทำเอาคนงานรอบข้างเสียวสันหลังวาบ ในหัวของพวกเขาจินตนาการไปต่าง ๆ นานาว่านายหญิงคนใหม่อาจโดนหวดด้วยแส้ ไม่ก็ทุบด้วยไม้หน้าสามแน่ ๆ
ไม่อย่างนั้นคงไม่ลำบากมาขอปีนต้นทุเรียนแบบนี้หรอก
“จะโยนแล้วนะคะ”
ปึ้ก!
บุญแก้วทำปากยู่ก่อนจะโยนทุเรียนลงมาด้านล่าง เธอรู้ดีว่าการ ‘ลงโทษ’ ที่เขาพูดหมายถึงอะไร
เพราะถูกอีกฝ่ายจัดหนักในห้องน้ำเมื่อคืนเล่นเอาเธอสลบเหมือด ตื่นเช้าขึ้นมายังปวดเนื้อปวดตัวไม่หาย แต่นั่นก็ไม่อาจยับยั้งการปีนต้นทุเรียนของเธอได้
“คุณรับลูกทุเรียนได้คล่องจังเลยค่ะ”
ปีนลงจากต้นไม้ใหญ่สู่พื้นได้อย่างปลอดภัย ร่างเล็กก็เดินเข้ามาชมคนรับลูกทุเรียนได้อย่างคล่องแคล่ว แต่นั่นไม่ได้เรียกแววตาซาบซึ้งหรือดีใจจากคนตัวสูงเลยแม้แต่น้อย เขามองเธอนิ่งแต่กลับแฝงไปด้วยความเหนื่อยอ่อน
“ก็ฉันเป็นเจ้าของสวนทุเรียน แล้วเธอล่ะเป็นใคร ชาติก่อนเกิดเป็นลิงรึไง”
“แหะ ฉันเคยรับจ้างปีนต้นทุเรียนกับพ่อสมัยมัธยมน่ะค่ะ”
หญิงสาวเผยรอยยิ้มแห้งเมื่อโดนเจ้าของสวนพูดตอกกลับมา ก็จริงของเขา เธอก็ดันไปถามอะไรโง่ ๆ ชายหนุ่มเป็นเจ้าของสวนทุเรียน อย่างไรเขาก็ต้องศึกษาการเก็บเกี่ยวผลผลิตมาบ้าง
“มัธยมกับตอนนี้ไม่เหมือนกัน”
“ไม่เหมือนกันยังไงคะ?”
“ก็ตอนนี้เธอเป็นเมียฉันแล้ว ฉันยังไม่อยากเป็นหม้าย!”
“ก็ฉันอยากทำงาน ฉันสอบถามค่าจ้างของพี่ ๆ คนสวนหลายคนแล้ว งานปีนเก็บลูกทุเรียนได้ค่าจ้างเยอะ...”
บุญแก้วเอ่ยเสียงอ่อยเมื่อน้ำเสียงของเขาเริ่มแข็งกระด้างขึ้นอย่างกับพ่อกำลังดุลูกสาววัยสองขวบ
“เธอเป็นเมียฉัน ยังไงฉันก็ต้องให้เงินเธอใช้อยู่แล้ว ถ้าอยากทำงานก็ไปทำงานบ้านกับป้าไพ”
“ฉันทำงานอื่นควบกับงานบ้านไปด้วยได้ค่ะ”
เทพทัตถอนหายใจแรงเมื่อคนตาแป๋วตรงหน้าเอาแต่เถียงคำไม่ตกฟากเพราะอยากทำงาน ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนขยันขันแข็งเท่าเมียของตนมาก่อน
“ฉันให้เธอมาเป็นเมียไม่ใช่คนงาน ถ้าอยากใช้แรงมากก็มานี่!”
หมับ!
มือแกร่งคว้าเอาข้อมือเล็กแล้วลากออกจากสวนทุเรียนไป
คนงานละแวกนั้นต่างนึกสงสารนายหญิง ไม่รู้ว่าจะโดนเจ้านายลากไปทรมานอะไรบ้าง พวกเขาต่างคิดภาพนายหญิงถูกใช้แรงงานให้แบกกระสอบปุ๋ย ยกถังน้ำหมัก ตัดหญ้า ขุดคลอง หรือไม่ก็ล้างทำความสะอาดขี้วัวขี้ควาย
ไม่มีใครรู้ว่า ‘ใช้แรง’ ที่เจ้านายของพวกเขาหมายถึง ไม่ได้เกี่ยวกับการทำงานในไร่ที่ทุกคนกำลังทำ
แต่เป็นการทำงานในไร่ของพวกเขาแค่สองคน
ปึ้ง!
เทพทัตเหวี่ยงร่างเล็กลงบนเตียงก่อนจะขึ้นคร่อมไว้ไม่ให้เจ้าตัวคิดหนี
“คุณจะทำอะไรคะ!”
“ก็พาเมียใช้แรงไง”
“แต่ฉันเพิ่งไปปีนต้นทุเรียนมา มีแต่เหงื่อ”
“งั้นก็ไปอาบน้ำด้วยกัน”
พรึบ!
เขาลุกขึ้นยืนก่อนจะอุ้มเอาร่างเล็กเข้าไปในห้องน้ำด้วยกัน นั่นทำให้บุญแก้วถอนหายใจออกมาด้วยความปลง
“จะพาฉันจับปลาข่ออีกเหรอคะ”
“เปล่า เห็นเธออยากเก็บทุเรียนนัก เดี๋ยวจัดให้”
เก็บทุเรียน? ในห้องน้ำ?
บุญแก้วไม่เข้าใจสิ่งที่สามีในนามพูดถึง จนกระทั่งเสื้อผ้าบนเรือนกายถูกปลดเปลื้องลงตะกร้า
ปั้ก! ปั้ก! ปั้ก!
“อ๊ะ อ๊ะ อื้ออ!”
เสียงเนื้อกระแทกเนื้อดังประสานกับเสียงครางกระเส่าลั่นห้องน้ำเมื่อท่อนความเป็นชายถูกส่งผ่านเข้ามาด้านในร่างกายของหญิงสาวไม่ยั้ง มือเล็กค้ำยันกับกำแพงกระเบื้องสีเทาที่เดียวกับเมื่อคืน
“หนะ…ไหนบอกจะพาเก็บทุเรียนไงคะ นี่มันทุเรียนพันธุ์อะไรกัน!”
เสียงหวานเอ่ยประท้วงพลางหอบเหนื่อยอย่างหมดแรง คำถามของเธอทำให้ริมฝีปากเรียวที่กำลังพรมจูบอยู่ตรงซอกคอหอมขยับขึ้นมาคลอเคลียใบหูขาว ก่อนเสียงทุ้มจะกระซิบกระซาบคำตอบที่บุญแก้วไม่อยากรู้
“ทุเรียนพันธุ์ผัว”
และแล้วความปรารถนาของพวกเขาก็เป็นจริง เทพทัตและบุญแก้วมีลูกชายตัวน้อยด้วยกันหนึ่งคนชื่อว่า ‘บุญใต้ อนันไชยเดช’ ลูกสาวรูปร่างหน้าตาเหมือนแม่ ส่วนลูกชายเองก็ถอดแบบมาจากผู้เป็นพ่อเป๊ะ ๆ และที่สำคัญนิสัยยังเหมือนกันอีกต่างหาก เวลาล่วงเลยผ่านมาจนบุญเหนืออายุ 12 และบุญใต้อายุ 9 ขวบ เวลาไปซื้อของพี่สาวกับผู้เป็นแม่มักหายจ้อยเข้าร้านพวกของจุ๊กจิ๊กน่ารักกันเป็นชั่วโมง ปล่อยให้ลูกชายกับผู้เป็นพ่อยืนรอด้านหน้าจนขาเป็นตะคริว แม้พี่สาวจะดูเป็นผู้หญิงห้าว ๆ แต่เธอก็ยังชอบของน่ารักไปตามวัย “พ่อ ใต้เมื่อยแล้วอะ ตอนไหนแม่กับเหนือจะออกมา” “เหนื่อยก็ต้องอดทน การจะเป็นมาเฟียเราต้องมีร่างกายที่แข็งแรง ยืนแค่นี้จะเป็นไรไป” “มาแล้ว น่ารักมั้ย” สองพ่อลูกยืนขาแข็งอยู่หน้าร้านนานนับชั่วโมง สุดท้ายคนที่พวกเขารอคอยก็เดินออกมาเสียที บุญใต้มองตุ๊กตาหมีแพนด้าโง่ ๆ ในมือพี่สาวก่อนจะถอนหายใจ เขาอยากจะบ้า ถ้าวันหนึ่งมีแฟนแล้วต้องมายืนรอสาวจนปวดขาเหมือนพ่อ เขาไม่ขอมีหรอก แค่พี่สาวคนเดียว บุญใต้ก็ปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว
ฟุบ! คู่สามีภรรยาทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่มพลางมองท้องฟ้ายามค่ำคืนด้านนอกประตูกระจกใส พวกเขาถูกบุพการีทั้งสองบ้านไล่ตะเพิดมาฮันนีมูน แต่จริง ๆ คือให้มาทำหลานอีกคนให้พวกท่าน ไม่ติดไม่ต้องหันหลังกลับ โดยเรื่องนี้เจ้าเหนือเป็นคนต้นคิด เด็กแสบชอบนักการถูกตามใจจากผู้หลักผู้ใหญ่ และไม่ต้องฝึกซ้อมหนักกับผู้เป็นพ่อ แค่เห็นหน้าเทพทัตเด็กหญิงตัวน้อยก็กรอกตามองบนรอแล้ว เด็กฉลาดและเจ้าเล่ห์เกินวัยคิดแผนการให้ผู้เป็นพ่อไปฝึกซ้อมหนัก ๆ กับแม่ของตนดีกว่า แบบนั้นเจ้าเด็กก็จะได้ทั้งน้องมาเป็นเบ๊ พ่อได้เพื่อนและเลิกยุ่งกับตน แถมยังได้กินของอร่อยไม่อั้นจากทั้งย่าและทวดอีก “วิวสวยเนาะ” เทพทัตเอ่ยขึ้นแหวกความเงียบ แต่พอหันไปมองดวงหน้ามนกลับเห็นภรรยาคนสวยถอนหายใจออกมา “สวย แต่บนนี้อาหารไม่ถูกปากเท่าไหร่เลย” บุญแก้วย่นหน้าด้วยความรู้สึกเซ็ง ๆ วิวด้านบนสวยก็จริง แต่ถ้าต้องมากินข้าวต้มหรืออาหารตามสั่งทั่วไป เธอรู้สึกว่ามันไม่ค่อยคุ้มกับการมาเที่ยวทั้งทีเท่าไรนัก “งั้นเหรอ ทำไมเมียพูดเหมือนอ่านใจผัวออกเลย” ใบหน้าคมก
บุญแก้วได้แต่ลอบถอนหายใจเมื่อตนปล่อยลูกสาวไว้กับผู้เป็นสามี ลูกสาววัยเตาะแตะโตขึ้นอย่างมหัศจรรย์ (ประชด) บุญเหนือเปลี่ยนไปเป็นคนละคน จากที่เคยเล่นตุ๊กตาและอยากเป็นเจ้าหญิง ตอนนี้กลับกลายเป็นเด็กห้าวคนหนึ่ง หากมีใครมาแหย่เข้า หมัดน้อย ๆ พร้อมสวนกลับไปทันที ก็สามีของเธอเล่นสอนศิลปะการต่อสู้ให้ลูกสาวตัวกะเปี๊ยกทั้งหมด ไม่ว่าจะมวย เทควันโด ยูโด ยิงปืน ไม่รู้จะสอนให้ลูกไปเป็นนักรบหรืออย่างไร “ย่า!” เสียงเล็กร้องดังมาจากสนามมวยกลางโรงยิมส่วนตัวพร้อมกับร่างเล็กของลูกสาว ซ้อมกับพ่อมาตั้งแต่เช้าจนสายยังไม่หยุดพักจนแก้มกลมขาวขึ้นสีแดงอย่างน่าเอ็นดู “วันนี้พอแค่นี้เถอะค่ะ” “เอางั้นก็ได้ครับเมีย” ร่างสูงหันมาพยักหน้าให้เมียก่อนจะยกมือขึ้นบอกลูกสาวให้หยุดพักได้ “เหนือ วันนี้พอแค่นี้ก่อนลูก” โครม! พอได้ยินเสียงสั่งหยุดจากพ่อ เด็กตัวเล็กวัย 4 ขวบพลันทิ้งตัวลงอย่างเหนื่อยล้า “วันนี้แม่ทำของโปรดลูกด้วยน้า” “กลับบ้านกันเถอะค่ะ!” บุญแก้วหลุดหัวเราะอย่างขบขันเจ้าของดวงตากลมส่องประ
3 ปีผ่านไป~ “เชิญครับองค์หญิง” มือใหญ่ผายมือไปทางประตูรถก่อนจะมีเด็กผู้หญิงตัวกลมจิ๋วก้าวขึ้นไปนั่งตรงเบาะด้านหลังของรถซีดานหรู ใบหน้าเล็กเชิดขึ้นจนมงกุฎบนหัวเอียงกะเท่เร่ “คิก ๆ” บุญแก้วในร่างอวบอั๋นกว่าเมื่อก่อนหลุดขำสามีของตนแล้วเดินขึ้นมานั่งบนเบาะข้างลูกสาว ปัง! “ออกรถเลยคิน!” ร่างสูงก้าวขึ้นมานั่งตรงเบาะข้างคนขับพลางสั่งการผู้เป็นลูกน้อง “อุบ!” แทนที่มันจะตอบรับคำสั่ง เจ้าตัวกลับหุบปากกลั้นขำจนหน้าดำหน้าแดง “มึงจะขำ มึงก็ขำออกมาดังๆ!” เทพทัตถอนหายใจแรงอย่างปลงตกกับโชคชะตา “ว้ากกกกกกกกกก ฮ่าๆ” แล้วลูกน้องเขาก็ขำจริง ขำแบบไม่เกรงใจใบหน้าเคร่งขรึมของเขาเลยแม้แต่น้อย “ขำมากมั้ย เดี๋ยวแม่งตัดลิ้นไปให้กากิน” “ชู่! อย่าเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้ลูกสิคะ” เสียงห้ามดังขึ้นมาจากด้านหลังเหมือนกองเซนเซอร์ มือขาวของภรรยาปิดหูเล็กทั้งสองข้างของเด็กหญิงในชุดกระโปรงเจ้าหญิงฟูฟ่อง นั่นทำให้เทพทัตหายใจแรงออกมาอีกครั้ง ผู้ชายตัวโตอย่
บุญแก้วมองตามควันโขมงจากธูปที่ปักอยู่เต็มกระถางบูชาหน้าสำนักหมอดูชื่อดังท้ายหมู่บ้านของตน สำนักหมอดูแม่ทองย้อยที่เดียวที่เดิม ซึ่งมีผู้คนต่อแถวยาวรอคิวอย่างมีความหวัง และแม่สามีของเธอก็เป็นหนึ่งในนั้น “คุณแม่พาแก้วมาที่นี่ทำไมเหรอคะ” “ก็พามาดูดวงน่ะสิจ๊ะว่าตอนไหนแม่จะได้อุ้มหลาน” ลูกสะใภ้ลอบถอนหายใจ เธอกับสามีเคยมีอะไรกันแบบไม่ใส่ถุงหนึ่งครั้ง แต่ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีลูกน้อยมาเกิด ตอนอยู่กับอดีตสามีคนแรกเธอก็ท้องยากแบบนี้ หญิงสาวไปตรวจเพื่อเช็กให้แน่ใจว่าตนเข้าข่ายภาวะมีบุตรยากหรือไม่มาแล้ว แต่หมอกลับบอกว่าร่างกายของเธอปกติ ไม่มีปัญหา แล้วอะไรกันที่มันมีปัญหา? แม่หมอทองย้อย...จะให้คำตอบได้จริง ๆ อย่างนั้นหรือ “อยู่ในหมู่บ้านของหนูแก้วเลย หนูเคยมาดูดวงกับแม่หมอบ้างมั้ยลูก แม่นรึเปล่า” แม่ย่าที่ได้ยินกิตติศัพท์ของแม่หมอทองย้อยมาจากคนอื่นเอ่ยถามไถ่ลูกสะใภ้ที่กำลังยืนขบคิดกับคำทายทักเมื่อหลายเดือนก่อน จะว่าแม่นไหมน่ะหรือ แม่หมอทักว่าตนจะได้ผัวรวยเป็นลูกครึ่ง สรุปได้ผัวรวย ล
“จะโอนให้ฉันจริง ๆ เหรอคะ” บุญแก้วมองสามีตาปริบ ๆ ไม่รู้ว่าวันนี้เขาเป็นอะไรถึงได้ใจป้ำขึ้นมาผิดปกติ “อืม เอาไปหมดเลย” เทพทัตลากภรรยาตัวน้อยออกจากบ้านตั้งแต่เช้าเพื่อมาจดทะเบียนสมรสใหม่ ทั้งยังโอนอสังหาริทรัพย์ที่ตนถือครองทั้งหมดให้เธออีกต่างหาก ทรัพย์สินทุกอย่างเขารื้อออกมาหมดเพื่อยกให้เธอ ไม่รู้มันเกิดอะไรขึ้นกับผู้เป็นสามีกันแน่ถึงได้ตื่นมากลายเป็นสายเปย์เกินเหตุขนาดนี้ “โอนให้เมียหมด จะได้ไม่มีคนมาแย่งผัวไปเพื่อหวังฮุบเอาสมบัติอีก” “แล้วไม่กลัวฉันชิ่งหนีเหรอคะ” “ถ้าเธออยากให้ผัวกลายเป็นขอทานข้างถนนก็ลองดู” บุญแก้วหลุดยิ้มกับคำพูดของคนด้านข้าง ที่แท้ก็กลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอยนี่เอง “นั่นน่ะสิคะ ใครจะอยากได้ผู้ชายที่มีแค่ตัวกับเสื้อแถมปุ๋ยกัน” “ถึงจะมีแค่ตัว แต่พกปลาข่อใหญ่นะครับ” เพียะ! “พูดอะไรเนี่ย” “หรือเมียจะเถียงว่ามันไม่เร้าใจ?” มือเล็กตีแขนอัดแน่นไปด้วยมัดกล้ามเมื่อสามีเริ่มเปิดประเด็นเรื่องใต้น้ำ... “อะฮึ่ม! ผมว่าเจ้าหน้าที่น่าจะรอนา