Beranda / รักโบราณ / มาเฟียสาวทะลุมิติเป็นนางร้ายในนิยายจบแล้ว / บทที่ 1 วันไหว้บรรพบุรุษที่ไม่จำเป็นต้องมีนาง

Share

บทที่ 1 วันไหว้บรรพบุรุษที่ไม่จำเป็นต้องมีนาง

last update Terakhir Diperbarui: 2025-12-11 07:44:32

บทที่ 1

วันไหว้บรรพบุรุษที่ไม่จำเป็นต้องมีนาง

เช้าวันนี้อากาศสดใส แสงแดดอุ่นส่องลอดผ่านกิ่งเหมยที่ผลิบานผ่านหน้าต่างเข้ามา อวี้เซียนยืนอยู่ริมหน้าต่าง มองออกไปยังลานที่ไร้ผู้คน เข้าวันที่สามแล้วแต่วันนี้ไม่เหมือนเคย เสียงฝีเท้าเบาๆ ดังขึ้นจากหย้าประตูเรือน บ่าวสาวนางหนึ่งก็มาถึงพร้อมถาดมื้อเช้า ท่าทางของอีกฝ่ายดูเหมือนถูกบังคับเต็มหน้า

“คุณหนูรอง...บ่าวนำอาหารเช้ามาให้เจ้าค่ะ”

น้ำเสียงนั้นทั้งเกรงกลัวทั้งรังเกียจในคราวเดียวคงเพราะภาพจำเมื่อวานที่นางจงใจแสดงอำนาจอย่างน้อยก็ได้ผล

อวี้เซียนปรายตามอง “บ่าวส่วนตัวข้าไปไหน ทำไมไม่มาทำหน้าที่?”

บ่าวผู้นั้นชะงัก มือสั่นจนเกือบทำถาดหล่น “หมายถึง...ซูม่านหรือเจ้าคะ ก็ยังอยู่ แต่ตอนนี้ไปอยู่ฝ่ายซักล้างแล้วเจ้าค่ะ...บ่าวเช่นนั้นมีบุญแล้วที่ไม่ถูกตีตาย มะ--”

“ข้ารู้แล้ว เจ้ากลับไปได้ตอนที่ข้ายังอารมณ์ดีอยู่”

คำพูดเรียบง่ายแต่แฝงแรงกดดันจนอีกฝ่ายกลืนคำที่จะพูดต่อลงคอ รีบวางถาดแล้วเผ่นออกไปแทบไม่ทัน

อวี้เซียนมองชามข้าวในถาด  ข้าวขาวกับผักต้มไม่กี่ชิ้น เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ใส่ใจจะปรุงให้นางกินจริง ๆ ไว้เดี๋ยวไปหากินที่ครัวเองจะดีกว่าบัดนี้บ่าวส่วนตัวของอวี้เซียนคนเดิมยังติดอยู่ในหัว

ซูม่าน...

บ่าวผู้นี้ภาพจำที่เคยอ่านในนิยายจงรักภักดีพอตัว ติดตามรับใช้ใกล้ชิดและทำตามสั่งเจ้านายตลอดไม่ว่าเรื่องดีหรือร้าย หากยังมีชีวิตอยู่ก็ดีแล้ว  นั่นคือคนเดียวที่นางอาจดึงเข้ามาเป็นพรรคพวกได้ไม่ยากนัก

นางเปลี่ยนชุดเป็นผ้าฝ้ายเรียบที่ยังพอสะอาด เดินออกจากเรือนโดยไม่ลังเล แดดยามสายเริ่มแรงขึ้นเหมาะแก่การตากเสื้อผ้าเป็นที่สุด นางเดินเลียบทางเดินหินไปยังส่วนถัดจากเรือนตนเข้ามา เสียงน้ำซัดในอ่างดังอยู่ไกล ๆ ปนเสียงตะโกนของเหล่าบ่าวสาวที่ทำงานอย่างแข็งขัน

“รีบหน่อยสิซูม่าน! หรืออยากให้ข้าไปฟ้องว่าข้าเห็นเจ้าอู้!”

หัวเราะเย้าไล่ตามมา ผ้าเปียกฟาดใส่แผ่นหลังสตรีร่างผอมที่ก้มซัก หล่อนสะดุ้งน้อย ๆ แต่ยังไม่กล้าเงยหน้า

อวี้เซียนหยุดมองอยู่ครู่หนึ่ง แววตาเรียบเฉียบเหมือนน้ำที่กำลังกลายเป็นน้ำแข็ง ก่อนจะก้าวเข้าไปกลางลาน

“พอได้แล้ว”

น้ำเสียงไม่สูง แต่ชัดจนลานเงียบวาบ

บ่าวสองคนที่รังแกอยู่ชะงัก มองหน้ากันแล้วหลุดหัวเราะหยันทันใด

“อ้าว นี่คุณหนูรองกระนั้นหรือ ยังกล้าออกมาจากเรือนท้ายอีกหรือเจ้าคะ”

นางไม่ตอบ เพียงเดินเข้าหาช้า ๆ จนระยะห่างหดสั้น ทำให้สองคนตรงหน้ามีปฏิกิริยาโต้ตอบยกมือขึ้นผลัก มือของนางก็จับข้อมือนั้นหมุนพลิกย้อน ก่อนเบี่ยงตัวเล็กน้อย เสียงอุทานหลุดจากลำคอเจ้าของแขนก่อนร่างนั้นจะเสียหลักล้มลงบนพื้น ฝุ่นปลิวขึ้นเป็นวง

“ข้ามารับ บ่าวของข้า คืน”

เสียงซุบซิบรอบลานดับลงเหมือนเตาถ่านโดนฝน นางก้มเก็บผ้าที่ตกในมือหญิงร่างผอม ส่งคืนให้

“ลุกขึ้น”

ซูม่านค่อย ๆ เงยหน้า ตาแดงวาวด้วยไอแสบร้อน “คุณหนู...”

“ไม่ต้องพูดมาก ตามข้ามาเดี๋ยวนี้”

บ่าวพวกนี้ไม่คนามือลูกสาวมาเฟียที่เรียนศิลปะการต่อสู้มาไว้ป้องกันตัวเองหรอก

นางจูงมือคนของตนออกจากลานซักผ้า รองเท้าทั้งสองคู่สัมผัสดินเป็นจังหวะ เสียงผู้คนด้านหลังค่อย ๆ ไกลออก จนกระทั่งรอบกายมีเพียงแค่สองคน ซูม่านที่ยังคงก้มหน้าเอ่ยเสียงเบาจนแทบไม่ได้ยินใด

“คุณหนู โปรดปล่อยบ่าวก่อนเถิดเจ้าค่ะ หากบ่าวกลับไปตอนนี้ท่านจะลำบากนะเจ้าคะ”

“ชั่งข้าลำบากเถอะ อย่างไรก็คงไม่แย่ไปกว่านี้แล้ว...” นางยังไม่ชะลอฝีเท้า “ข้าไม่ปล่อยให้คนของข้าซักผ้าจนมือแตกเลือดซึมเช่นนี้หรอก เอาแรงเจ้ามาทำงานให้ข้าจนตายเสียดีกว่า”

ซูม่านก้มมองฝ่ามือแตกแห้งของตนก่อนน้ำใสเอ่อขอบตาอย่างห้ามไม่ได้ “แต่บ่าว...”

“พอ” นางขัดเบา ๆ น้ำเสียงเรียบแต่มีความนุ่มนวลประคองอีกฝ่ายอยู่ “ในหีบที่เรือนข้ามีสมุนไพรอยู่ กลับไปทาเสีย ตอนบ่ายข้าจะกลับไปเจ้าอย่าคิดมาก”

ซูม่านพยักหน้าเบา ๆ ทว่าความอุ่นแปลก ๆ เริ่มซึมเข้าสู่สีหน้า ซูม่านนั้นเชื่อฟังจนน่าตกใจ นางไม่เอ่ยถามว่าทำไมนางไม่กลับไปด้วยเพียงนิ่งเงียบแล้วค้อมศีรษะก้าวจากไปอย่างว่าง่าย

อวี้เซียนยืนมองจนลับตา ปัดฝุ่นบนแขนเสื้อเบา ๆ จากนั้นหันสู่ทางไปเรือนหน้าของจวนหลิน แดดยามเว่ยทาบสีทองบนหลังคาไผ่ ลมอุ่นพากลิ่นธูปมาสัมผัสปลายจมูก นางยกมือบังแสง มองเส้นควันลอยเลื้อยด้วยความครุ่นคิด

“กลิ่นธูปแรงนัก วันนี้มีงานใด?”

เท้าก้าวมาไกลกว่าที่ตั้งใจเสียอีก นางเพียงอยากสำรวจพื้นที่ไว้เผื่อเอาตัวรอดในอนาคตกลับได้ยินเสียงสวดบรรพชนลอยมากับลม เมื่อเดินตามไปจึงเห็นผู้คนในชุดทางการเรียงหน้าศาลใหญ่ ฉับพลันจึงนึกขึ้นได้ว่าวันนี้อาจเป็นวันสำคัญ...

วันไหว้บรรพชนประจำปี...

เสียงพึมพำเบาบาง ดวงตาหรี่เล็กน้อย เพื่อความสงบสุขของตนเองนางจำเป็นต้องหลบหลีก แต่สายตาก็สบเข้ากับคนในขบวนตระกูลหลินที่เพิ่งออกจากศาล

หลินเจิ้งหาวเดินนำ ใบหน้าเคร่งขรึมกดอากาศให้แน่นขึ้น ตามด้วยเหมยอันหนิงฮูหยินเอกที่เคียงข้างอย่างสงบ อวี้เยี่ยนนางเอกในนิยายในชุดฟ้าอ่อนกิริยาอ่อนโยนตามหลัง อวี้หนิงบุตรสาวคนเล็กสุดในชุดชมพู นางผู้เป็นบุตรสาวอนุแต่ทำตัวอย่างกับเป็นบุตรสาวของฮูหยินเอก สตรีนางนี้ยามหันมาเห็นอวี้เซียนก็หยักยิ้มมุมปากอย่างลืมปิดบังทันใด

คิ้วของหลินเจิ้งหาวขมวดมุ่นไม่แพ้หนวดที่คางเลย

“อวี้เซียน เจ้ากล้ามาเพ่นพ่านในวันเช่นนี้หรือ?!”

อวี้เซียนเมื่อเลี่ยงไม่ได้ก็ปะทะมันเสียเลย นางประสานมือคำนับเล็กน้อยพอตามมารยาทก่อนเอ่ยตอบ

“ข้ามิอาจมาร่วมเพราะท่านพ่อไม่ได้เชิญเจ้าค่ะ ข้าเพียงเดินพักเล่นสายตา--”

อวี้หนิงแทรกยิ้มหวานก่อนอวี้เซียนเอ่ยจบเสียอีก “พี่อวี้เซียนคงอยากไหว้บรรพชนกระมังเจ้าคะ ช่างบังอาจหวังเมตตาทั้งที่ทำให้ตระกูลขายหน้าที่สุดอย่างไม่เจียมตัวยิ่งนัก”

อวี้หนิงผู้นี้เกิดจากเมียอนุจึงเก่งเรื่องการพ่นวาจาเช่นนี้ นางพยายามตามติดอวี้เยี่ยนตั้งแต่เด็กจนตอนนี้กลายเป็นที่คุ้นตาคนไปแล้วว่าสองคนต้องไปไหนด้วยกัน

นางหันช้า ๆ “ข้ามิได้มาขอเมตตาใครเช่นใครบางคนหรอก หนิงเอ๋อร์ ...ก่อนให้ใครยอมรับน่ะก็ต้องให้ตัวเราเองยอมรับสิ่งที่ตนเป็นก่อนเจ้าไม่คิดเช่นนั้นหรือ?”

รอยยิ้มบางเฉียบทำให้สีหน้าของอวี้หนิงชะงักงันทันใด การที่นางถูกเอ่ยถึงโดยตรงนั้นราวกับว่าหมายถึงนางเสียอย่างไรอย่างนั้น ไหนจะคำพูดคำจาที่ดูซับซ้อนยากเข้าใจอีกเล่า

 “หึ พี่หญิง ท่านพูดราวกับท่านสูงส่งนักแหละ มิใช่ว่าท่านควรอยู่แต่ในเรือนตามคำสั่งท่านพ่อหรือไรเล่า!”

“พอก่อน วันนี้เป็นวันดี อย่าทำให้มัวหมองเลยพี่รอง น้องสี่ ท่านพ่อเจ้าคะลูกว่าให้พี่รองเข้าไปไหว้บรรพชนสำนึกตนเสียหน่อยก็ดีนะเจ้าคะ”

อวี้เยี่ยนเอ่ยเบากลิ่นหวานของคำพูดเหมือนกลีบดอกไม้ แต่ในคำอ่อนโยนนั้น กลับเป็นต้นเหตุให้ใครบางคนโมโหขึ้นมาได้

อวี้เซียนเอียงศีรษะเล็กน้อยมองสบตาอวี้เยี่ยนที่ดูแล้วไม่ได้ตั้งใจจุดประกายอะไรได้ก่อนจะเอ่ยตัดบทก่อน

“ไม่จำเป็น ข้าเพียงบังเอิญเดินผ่านก็เท่านั้น ไม่มีอันใดแอบแฝง”

ชายวัยกลางหนึ่งเดียวเม้มปากแน่นความขุ่นคลอในดวงตาทันใด “ข้าคิดว่าถูกกักบริเวณจะทำให้เจ้าสำนึกได้บ้าง ทว่าเห็นทีจะยังไม่เรียนรู้เสียที!”

ก่อนที่บรรยากาศจะเลวร้ายไปมากกว่านี้ เสียงฝีเท้าเร็วรวดของคนรับใช้ผู้หนึ่งดังขึ้นแทรก!

“ท่านเจ้าตระกูล ม้าเร็วจากฝ่าบาทมาถึง ขอให้ท่านเข้าเฝ้าด่วนขอรับ”

หลินเจิ้งหาวชะงักสีหน้าเปลี่ยนไปสีหน้าตึงขึ้นทันตา

“เข้าเฝ้าด่วนหรือ? เตรียมรถม้า ข้าจะออกเดี๋ยวนี้”

เขาเดินผ่านพวกนางไปโดยไม่เหลียวหลังแม้แต่น้อยราวกับเรื่องการโต้เถียงเมื่อครู่ไม่เคยเกิดขึ้น...

อวี้เซียนหมุนตัวกลับ เดินช้าไปตามทางที่แสงแดดบ่ายโรยผ่าน ใบเหมยร่วงแตะไหล่แล้วปลิวหล่นค้างไว้ นางปัดใบไม้ออกจากเสื้ออย่างแผ่วเบา ดวงตาสงบนิ่ง ทว่าลึกลงไปประกายเล็ก ๆ

...บิดาผู้นี้เลวร้ายยิ่งกว่าที่นักเขียนบรรยายไว้เสียอีก เห็นได้ชัดว่าเขาเห็นเรื่องใดสำหรับกว่า

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • มาเฟียสาวทะลุมิติเป็นนางร้ายในนิยายจบแล้ว   บทที่ 4 พระรองกับนางร้าย

    บทที่ 4พระรองกับนางร้าย“พระราชโองการนี้...ช่างประหลาดนัก”คำพูดของอวี้ซินเฉือนผ่านความเงียบอย่างเฉียบคม ทุกสายตาเงยขึ้นแทบพร้อมกัน เหมือนถูกแรงบางอย่างดึงไว้“ฝ่าบาทจะพระราชทานสมรสให้ข้าที่ชื่อเสียงเสื่อมเสีย ทั้งที่หากจะให้สองตระกูลเชื่อมสัมพันธ์กันไว้อย่างที่ว่าก็มีน้องสามที่หมั้นหมายกับคุณชายใหญ่อี้เหวินอยู่แล้วไม่ใช่หรือ อีกทั้งข้าก็ยังเป็นคนตระกูลเดียวกัน เหตุใดต้องให้ข้าแต่งอีก การให้ตระกูลไป๋รับสะใภ้จากตระกูลหลินถึงสองคน...ไม่ชวนให้สงสัยอย่างนั้นหรือ?”น้ำเสียงของนางนิ่งราวน้ำในบ่อลึก แต่แรงสะท้อนกลับหนักพอจะทำให้คนฟังหายใจติดขัดอนุฮวาเสียนที่ขวัญอ่อนจากการเห็นดาบทาบคอเมื่อครู่สีหน้าเปลี่ยนวูบก่อนโพล่งเสียงสูงอย่างอดไม่อยู่ทันใด“คุณหนูรองช่างกล้าสงสัยและลบหลู่ราชโองการเช่นนี้หรือ! พูดสามหาวถึงเพียงนั้นได้อย่างไรจะให้ตระกูลเราตายตกไปตามเจ้าหรือ!”อวี้เซียนปรายตามองช้า ๆ แววตาเย็นจนคนถูกมองหดคอถอยล่นไม่กล้าดังเดิม“ข้าเพียงสังสัยเท่านั้น หากไม่คิดอันใดเลยตระกูลหลินมีหรือจะรอดชะ--”“เงียบ!” หลินเจิ้งหาวตวาดเขาลุกขึ้นยืนหันหลังให้กับอวี้เซียน “จวนหลินจะไม่ขัดราชโองการ!”อวี้เซี

  • มาเฟียสาวทะลุมิติเป็นนางร้ายในนิยายจบแล้ว   บทที่ 3 พระราชโองการที่นางไม่อยากได้

    บทที่ 3พระราชโองการที่นางไม่อยากได้บุรุษที่ลงมาจากหลังม้ายืดตัวตรง เส้นผมดำเปียกแนบข้างแก้มแต่เจ้าตัวก็ยังคงดูดี หยดน้ำฝนไหลจากขมับผ่านแนวกรามคม ริมฝีปากบีบแน่น เงียบ บรรยากาศรอบข้างแผ่กำจายเต็มไปด้วยอำนาจจนแม้แต่อวี้เซียนยังเผลอกลั้นหายใจชั่วขณะแสงไฟส่องผ่านม่านฝนกระทบใบหน้าคม ดวงตาของเขาเยือกเย็น...เย็นเสียจนคล้ายมองสิ่งที่เขารังเกียจมากที่สุดอวี้เซียนเปลี่ยนจากสีหน้าดีใจฉายความไม่เข้าใจชั่วครู่ที่เห็นว่าแววตาเขาเปลี่ยนเป็นเช่นนี้ แต่บัดนี้ไม่มีเวลาให้ไขข้อสงสัยอวี้เซียนต้องรับขอความช่วยเหลือเสียก่อน“ท่าน...” อวี้เซียนขยับปากน้ำเสียงแผ่วไปบ้างเพราะหอบเหนื่อยแต่ชัดถ้อยพร้อมระบุชี้ไปทางที่ตนจากมา “ช่วยข้าไล่คนพวกนั้นไปทีพวกนั้นจะทำร้ายข้า”ทว่าบุรุษตรงหน้ากลับไม่ขยับ ไม่พูดใดใด เพียงยังมองนางนิ่ง สายตานั้นเย็นราวคมมีด เดี๋ยวขมวดคิ้วเดี๋ยวกัดฟันแน่น“ได้ยินหรือไม่ ข้าขอแค่ให้ช่วยที ข้าจะถูกพวกมันทำร้ายแล้ว ชะ--”พูดยังไม่ทันจบเขาขยับออกไปเหวี่ยงตนเองขึ้นบังคับม้า แล้วก็ทำท่าจะจากไปด้วยซ้ำหากไม่เพราะเขาเปลี่ยนท่าทำให้ม้าตัวโตยกสองขาขึ้นขู่ไปจากพวกอันธพาลจากวิ่งจากไปแทบมาทันแทน คว

  • มาเฟียสาวทะลุมิติเป็นนางร้ายในนิยายจบแล้ว   บทที่ 2 ใครบ้างไม่เกลียดชังนาง

    บทที่ 2ใครบ้างไม่เกลียดชังนางยามเซิน(15.00 – 16.59 น.) ท้องทั่วฟ้าเมืองหลวงยังไม่มืดนัก แสงแดดปลายวันลอดผ่านเมฆหม่นเป็นริ้วอ่อนหลินอวี้เซียนผลักบานประตูไม้หลังเรือนท้ายจวนออก ลมชื้นอ้าวพัดปลายผมให้ไหวเบาทำให้รู้ได้เลยว่าหากนางไม่รีบไปรีบกลับอาจต้องเจอกันฝนที่สาดเทแน่ อวี้เซียนอยู่ในชุดผ้าฝ้ายสีเทาเรียบ ใบหน้าคลุมผ้าบางปิดครึ่งล่าง มีเพียงดวงตาคมที่สะท้อนแสงอ่อนจากฟ้าวันนี้ทั้งจวนมัวอยู่กับงานเลี้ยงหลังพิธีบรรพชน ไม่มีใครทันเห็นว่านางออกมาหรอก นางใช้ทางลับที่สำรวจและเจอได้จากวันก่อน ลัดเลาะเงียบสู่ถนนด้านนอกลมหอบกลิ่นขนมนึ่งมายังปลายจมูก ทำให้หัวใจที่นิ่งมานานกระเพื่อมขึ้นเล็กน้อย คล้ายได้หายใจคล่องอีกครั้งในโลกที่ไม่คุ้นเคยตลาดบนถนวนพลันคึกคัก ผู้คนขวักไขว่ เสียงเร่ขายสินค้าปะทะกันเป็นจังหวะ ชา เครื่องหอม ผ้าแพร เครื่องประดับ ละลานตาไปหมด นางก้าวช้า ๆ ทอดสายตามองรอบด้าน ใบหน้าหลังผ้าคลุมซ่อนรอยยิ้มบาง ๆอวี้เซียนหยุดหน้าร้านสมุนไพร กลิ่นรากแห้งและใบยาที่ตากแดดจนควันอุ่นอบอวลอยู่เต็มอากาศ“แม่นาง สนใจยาชนิดใดหรือ?” พ่อค้าชราเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร“ขอดูก่อน” เสียงนางเรียบ “ร้

  • มาเฟียสาวทะลุมิติเป็นนางร้ายในนิยายจบแล้ว   บทที่ 1 วันไหว้บรรพบุรุษที่ไม่จำเป็นต้องมีนาง

    บทที่ 1วันไหว้บรรพบุรุษที่ไม่จำเป็นต้องมีนางเช้าวันนี้อากาศสดใส แสงแดดอุ่นส่องลอดผ่านกิ่งเหมยที่ผลิบานผ่านหน้าต่างเข้ามา อวี้เซียนยืนอยู่ริมหน้าต่าง มองออกไปยังลานที่ไร้ผู้คน เข้าวันที่สามแล้วแต่วันนี้ไม่เหมือนเคย เสียงฝีเท้าเบาๆ ดังขึ้นจากหย้าประตูเรือน บ่าวสาวนางหนึ่งก็มาถึงพร้อมถาดมื้อเช้า ท่าทางของอีกฝ่ายดูเหมือนถูกบังคับเต็มหน้า“คุณหนูรอง...บ่าวนำอาหารเช้ามาให้เจ้าค่ะ”น้ำเสียงนั้นทั้งเกรงกลัวทั้งรังเกียจในคราวเดียวคงเพราะภาพจำเมื่อวานที่นางจงใจแสดงอำนาจอย่างน้อยก็ได้ผลอวี้เซียนปรายตามอง “บ่าวส่วนตัวข้าไปไหน ทำไมไม่มาทำหน้าที่?”บ่าวผู้นั้นชะงัก มือสั่นจนเกือบทำถาดหล่น “หมายถึง...ซูม่านหรือเจ้าคะ ก็ยังอยู่ แต่ตอนนี้ไปอยู่ฝ่ายซักล้างแล้วเจ้าค่ะ...บ่าวเช่นนั้นมีบุญแล้วที่ไม่ถูกตีตาย มะ--”“ข้ารู้แล้ว เจ้ากลับไปได้ตอนที่ข้ายังอารมณ์ดีอยู่”คำพูดเรียบง่ายแต่แฝงแรงกดดันจนอีกฝ่ายกลืนคำที่จะพูดต่อลงคอ รีบวางถาดแล้วเผ่นออกไปแทบไม่ทันอวี้เซียนมองชามข้าวในถาด ข้าวขาวกับผักต้มไม่กี่ชิ้น เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ใส่ใจจะปรุงให้นางกินจริง ๆ ไว้เดี๋ยวไปหากินที่ครัวเองจะดีกว่าบัดนี้บ่าวส่วนตัวขอ

  • มาเฟียสาวทะลุมิติเป็นนางร้ายในนิยายจบแล้ว   บทนำ

    บทนำ“ไม่ว่าเจ้าจะเสแสร้งแกล้งทำอย่างไร…ก็ไม่มีใครหลงกลเจ้าแล้ว หลินอวี้เซียน!”คำพูดนั้นราวกับฟ้าผ่า กลืนหายไปพร้อมสายฝนและลมกรรโชกที่พัดซัดปลายผมให้เปียกชื้น ความหนาวชอนไชถึงกระดูก นิ้วเรียวบนเตียงเก่ายกขึ้นคว้าอากาศราวกับไขว่หาความจริง แต่ก่อนจะคว้าได้ ลมหายใจกระตุกวูบก่อนร่างบนเตียงนั้นสะดุ้งตื่นโดยพลันแสงเช้าสางส่องลอดช่องฝาไม้ผุ กลิ่นฝุ่นและความชื้นตีจมูก นางนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนหายใจยาว กลืนแรงสะท้านจากฝันร้ายให้จมหาย หัวใจยังเต้นแรงจนรู้สึกถึงจังหวะในอกที่สั่นระรัว ผ้าห่มขาดวิ่นโอบกายไม่มิด ลมเย็นแทรกเข้าทุกช่องไม้ ไม่มีสิ่งใดในเรือนนี้บ่งบอกว่าเป็นถึงชีวิตของคุณหนูรองเลยวันนี้คือวันที่สองที่จีน่า เหวิน ลืมตาในร่างหลินอวี้เซียน ตั้งแต่เมื่อวานไม่มีบ่าวแม้คนเดียวมาเหยียบเรือนนี้ เสียงท้องร้องทักเตือนยิ่งชัด นางกัดฟันสูดลมหายใจลึก กลืนความหิวลงคออย่างคนที่รู้ดีว่าไม่มีทางเลือกอื่นครั้งแรกที่ตื่นขึ้น นางยังหลงคิดว่าตนอยู่ในฉากถ่ายละคร ทุกสิ่งดูสมจริงเกินไป จนได้พบหีบข้างหมอนและสมุดบันทึกเล่มนั้น เมื่อเปิดอ่านทีละหน้า หัวใจกลับหนักขึ้นทุกบรรทัด เสียงสาปแช่งและแค้นเคืองของหลินอว

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status