로그인“วันนี้…เราจะไปจัดการทุกอย่างด้วยกัน” ทุกคำพูดของชายหนุ่มดูหนักแน่นและจริงจังกว่าทุกครั้ง มือแกร่งกอดรัดหญิงสาวเข้ามาหาแผงอกกำยำของตัวเอง เขาใช้วงแขนแกร่งอีกข้างหนึ่งสอดเข้าไปใต้ลำคอระหง ชายหนุ่มนอนกอดรัดร่างอรชรเอาไว้แน่นราวกับกลัวว่าเธอจะหายไปจากเขา “สาไม่อยากให้พี่ต้องทะเลาะกับครอบครัวค่ะ” หญิงสาวตอบกลับไปด้วยสายตาที่วูบไหว เธอสับสนกับความรู้สึกและความคิดของตัวเองในตอนนี้มากๆ มากจนเธอคิดอะไรไม่ออก“ครอบครัวของพี่คือสา” เสียงทุ้มพูดต่ออย่างนุ่มลึก เขาเว้นประโยคชั่วครู่เพื่อดูปฏิกิริยาของหญิงสาว ก่อนที่เขาจะเอ่ยต่อ“ที่ผ่านมา…พ่อของพี่ไม่เคยถามเลยว่าพี่ต้องการอะไร เขาชอบจัดแจงและบงการชีวิตพี่ทุกอย่าง พี่ไม่เคยได้เป็นตัวเองและมีความสุขจริงๆ เลยสักครั้ง จนกระทั่งพี่มาเจอสานี่แหละ พี่ชอบสาตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกัน”“…” ชาลิสาไตร่ตรองคำพูดของชายหนุ่ม เธอพยายามชั่งน้ำหนักคำพูดของเขา แต่เธอไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา “เชื่อพี่สักครั้งนะ” ลูคัสเว้าวอนหญิงสาวอีกครั้ง เขาสังเกตเห็นสายตาที่อ่อนยวบลงของคนตัวเล็ก ชายหนุ่มก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาสักนิดแล้ว“แป๊บหนึ่งนะ” ลูคัสบอกกล่าวกับเธอ ก่อนที่เขาจะค
ทั้งสองคนนิ่งเงียบและมองสบตากันด้วยสายตาที่ดูเจ็บปวดด้วยกันทั้งคู่ ลูคัสเองก็ไม่ได้คิดว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นเช่นกัน เขาคิดว่าหลังจากที่เขาคุยกับโอลิเวียแล้ว เขาก็จะไปพูดคุยกับผู้ใหญ่ต่อ เพราะเขาไม่ต้องการที่จะหมั้นหมายหรือแต่งงานกับผู้หญิงที่เขาไม่ได้รัก จริงอยู่ที่ว่า เมื่อก่อนนี้เขาเป็นคนง่ายๆ อะไรก็ได้ แต่ในตอนนี้เขามีชาลิสาแล้ว เขาอยากอยู่กับเธอ และคนเดียวที่เขาจะแต่งงานด้วยก็คือเธอ“งั้นเราก็พอกันแค่นี้เถอะค่ะ สาไม่รู้มาก่อนว่าพี่มีคู่หมั้นอยู่แล้ว” เสียงหวานสั่นเครือ เธอฝืนพูดแบบนี้เพราะไม่อยากเป็นคนที่ทำผิดศีลธรรม“ไม่! พี่ปล่อยสาไปไม่ได้จริงๆ” ชายหนุ่มจับไหล่แบบบางเอาไว้ทั้งสองข้าง จะให้เขาทำอะไรก็ได้ แต่เขาไม่ยอมเสียชาลิสาไปเด็ดขาด“แต่พี่มีคู่หมั้นอยู่แล้วนะคะ สาไม่มีทางเป็นคนที่ทำร้ายชีวิตใครเด็ดขาดค่ะ” “ชาลิสา เรื่องคู่หมั้น มันเป็นเรื่องของพวกผู้ใหญ่ที่เขาคุยกันไว้นะ พี่ไม่เคยรู้สึกอะไรกับผู้หญิงคนนั้นเลย”“พอเถอะค่ะ” หญิงสาวเลื่อนมือขึ้นมาและพยายามที่จะจับมือแกร่งออกไปจากไหล่ของเธอ แต่เนื่องจากว่าเสียงเอะอะโวยวายของพวกเขาทั้งสองคนที่เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ ทำให้คนแก่ตำแ
ร่างอวบอิ่มที่สวมชุดนักศึกษาเดินออกมาจากด้านในของมหาวิทยาลัยด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เธอกอดอกของตัวเองเอาไว้หลวมๆ พลางลูบแขนตัวเองเบาๆ เหมือนเป็นการปลอบประโลมตัวเอง ดวงตากลมโตของชาลิสาดูสั่นไหวและสับสนหญิงสาวเดินย่างกรายออกมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเธอออกมาจากมหาวิทยาลัย อีวานยืนอยู่ข้างรถยนต์คันหรูเพื่อรอเปิดประตูรถให้ชาลิสาอยู่“ทำไมถึงออกมาช้าจังเลยครับ” คนสนิทของลูคัสเอ่ยถามทันที เมื่อชาลิสาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของเขา“พอดีว่าสาแวะเข้าห้องน้ำค่ะ” เสียงหวานที่สั่นเครือ ดูพยายามปรับให้เป็นปกติ แต่ใบหน้าของหญิงสาวดูซีดเผือดและมีเหงื่อผุดขึ้นมาตามกรอบหน้า“ไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ หน้าดูซีดๆ นะครับ” อีวานสังเกตเห็นและถามหญิงสาวขึ้นมา“ไม่ค่ะ”“ครับ…ขึ้นรถเถอะครับ เจ้านายให้ไปรออยู่ที่ร้านอาหารเลยครับ เดี๋ยวเจ้านายจะตามไป” พูดจบ อีวานเอื้อมมือไปเปิดประตูให้หญิงสาวทันที“ค่ะ” ชาลิสาตอบกลับลูกน้องของลูคัสด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน ก่อนที่เธอจะเดินขึ้นรถไป นักศึกษาสาวนั่งอยู่บนรถพลางครุ่นคิดถึงคำพูดที่ชายแก่เอ่ยกับเธอก่อนหน้านี้“ลูคัส…มีคู่หมั้นอยู่แล้ว” “คะ?” ดวงตากลมโตของเธอสั่นระริก“ฉันบอกเธอแค่นี้แห
คฤหาสน์ตระกูลโลรองต์ชายแก่ร่างกำยำนั่งอยู่บนเก้าอี้ในสวนของคฤหาสน์ที่เขียวขจีไปด้วยหญ้าสีสดใส อากาศในช่วงเช้าของวัน ช่างดูลมลื่นและเย็นสบายจากลมที่พัดผ่านมา อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมของดอกไม้นานาชนิดที่ลอยมากับลม ภายในสวนมีศาลาสีขาวที่พวกเขาเอาไว้นั่งจิบชาชิลๆ อยู่ท่ามกลางสวนสีสันสดใส แต่ทว่าอารมณ์ของลูตินก็ไม่ได้ดูจะสดใสเหมือนกับอากาศสักเท่าไหร่ใบหน้าของลูตินดูเคร่งขรึมและเป็นกังวลเล็กน้อย ถึงเขาจะอายุมากแล้วแต่ใบหน้าของเขาก็ยังไม่ได้ดูแก่มากเท่าที่ควร มือสากยกแก้วชาขึ้นมาจิบเบาๆ ในขณะเดียวกันภรรยาคนสวยของเขาก็เดินย่อตัวนั่งลงตรงข้ามเก้าอี้ของลูตินนันท์นพินมองหน้าของสามีด้วยความสงสัย เธอเห็นสีหน้าที่เป็นกังวลของลูติน จึงเอ่ยถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานปนสงสัยเล็กน้อย“มีอะไรหรือเปล่าคะ” ลูตินเบี่ยงสายตามาสบตากับภรรยาคนสวยอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่เขาจะอ้าปากบอกกล่าวกับภรรยากับสิ่งที่เขาเพิ่งจะได้ยินมา “โอลิเวียบอกว่าเมื่อวานที่ไปกินข้าวกับลูคัสมา…ลูคัสขอให้เธอมาคุยกับพวกเราเรื่องที่จะไม่หมั้นและไม่แต่งงานแล้ว” เมื่อคืนนี้ หลังจากดินเนอร์ของลูคัสกับโอลิเวียจบลง สาวผมทองก็รีบโทรมาเล่าเรื่อง
วันต่อมา@ร้านอาหารสุดหรูหราบนตึกสูงลูคัสเดินเข้ามาภายในร้านอาหารสุดหรูหราพร้อมกับโอลิเวีย เป็นเวลาสองทุ่มของวัน ชายหนุ่มไปรับโอลิเวียที่บ้านของเธอตามที่บอกกล่าวกับพ่อของตัวเองก็เพื่อที่จะพูดคุยกับโอลิเวียให้เข้าใจตรงกันกับเขา เขาอยากจะสะสางทุกอย่างให้ลงตัวเสียทีเมื่อวานนี้ หลังจากที่จัดการเรื่องที่บ้านของชาลิสาเสร็จสรรพแล้ว เขาพาชาลิสากลับเพนท์เฮาส์ทันที และช่วงเช้าชายหนุ่มก็ไปส่งเธอที่มหาวิทยาลัยตามปกติ แต่ช่วงเย็นเขาไม่ได้ไปรับเธอเพราะเขาต้องรีบเคลียร์งานที่ค้างคาอยู่ให้เสร็จเสียก่อน“สวัสดีค่ะ มากี่ท่านคะ” เสียงพนักงานดังขึ้นมา ปลุกให้ลูคัสตื่นจากภวังคจิต ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่กับโอลิเวีย แต่เขาก็ยังคงคิดถึงชาลิสาอยู่ตลอดเวลา“สอง” ชายหนุ่มตอบกลับพนักงานสาวไปด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ“เชิญตามดิฉันมาได้เลยค่ะ” สิ้นเสียงพนักงานสาว เธอจึงผายมือและเดินนำลูคัสกับโอลิเวียไปยังโต๊ะที่ว่างสำหรับสองที่นั่ง“ดีใจจังเลยนะคะที่ได้มาทานอาหารเย็นด้วยกันแบบนี้” โอลิเวีย สาวผมทองเดินเคียงคู่มากับลูคัส เธอยิ้มกว้างออกมาด้วยใบหน้าที่ดูมีความสุขต่างกับชายหนุ่มที่หน้านิ่งไร้ความรู้สึก หญิงสาวพยายามจะเลื่อน
วันต่อมา ลูคัสกับชาลิสาตื่นมาในห้องพักด้วยร่างกายที่เปลือยเปล่าไร้เสื้อผ้าอาภรณ์ทั้งคู่ ลูคัสพาหญิงสาวไปทานอาหารเช้าและไปเดินเล่นต่อที่ชายหาด จากนั้นพวกเขาก็กลับมาที่ห้องพักเพื่อเก็บของกลับบ้านในวันนี้ หลังจากที่ชายหญิงเก็บของจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็ตรงมาที่สนามบินและบินกลับมาที่กรุงเทพทันที“ถ้าพี่ว่าง พี่จะพยายามหาเวลาพาสามาเที่ยวทุกอาทิตย์เลยนะ” ชายหนุ่มบอกกล่าวหญิงสาว ในขณะที่พวกเขากำลังเดินออกมาจากสนามบิน ชายหนุ่มลากกระเป๋าเดินทางทั้งของเธอและของตัวเองทั้งสองใบด้วยท่าทางสบายๆ“ไม่ต้องก็ได้ค่ะ แค่เดือนละครั้งก็พอแล้วค่ะ” ชาลิสาตอบกลับอย่างเกรงอกเกรงใจ “พี่อยากไปเที่ยวกับสา พี่มีความสุขมากๆ เลยนะ”“สาก็เหมือนกันค่ะ” ทั้งสองคนส่งยิ้มให้กันด้วยใบหน้าที่สดใส ชาลิสาเหมือนนึกบางอย่างขึ้นมาได้ เธอจึงเอ่ยเรียกชายหนุ่มขึ้นมา“พี่ลูคัสคะ”“หืมม” ชายหนุ่มตั้งอกตั้งใจฟังหญิงสาว“สาขอเข้าไปที่บ้านหน่อยได้ไหมคะ สาอยากไปดูพวกคนงานคนใช้บ้างนะคะ ว่าพวกเขาเป็นยังไงกันบ้าง”“ได้…เดี๋ยวพี่พาไป” ลูคัสเข้าใจหญิงสาวเป็นอย่างดี เขารู้ว่าเธอเป็นห่วงบ้านและคนงานที่นั่น แต่เขาไม่ยอมให้เธอไปที่นั่นโดยท







