LOGIN“ลี่กลับก่อนนะทุกคน” สาวหมวยดวงตากลมโต ที่มีความงามโดดเด่นรับกับรูปร่างสมส่วนโบกมือลาเพื่อน ๆ
“เดี๋ยวก่อนลี่”
หญิงสาวที่เดินเกือบจะถึงรถมอเตอร์ไซค์ของตัวเองหยุดและหันไปมองคนทัก
“มีอะไรเหรอพี่ขาว” ถามนักมวยดาวรุ่งที่ไม่ได้ขาวสมชื่อแต่ใจดีน่าคบหาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“ทำไมรีบกลับล่ะ พี่ตั้งใจจะพาไปเลี้ยงสุกี้เป็นการตอบแทนที่ช่วยเป็นคู่ซ้อมให้ซักหน่อย”
“พี่ขาวไม่ต้องเลี้ยงลี่หรอก เก็บเงินไว้เถอะ พี่ขาวเคยบอกว่าอยากซื้อรถเก๋งเท่ ๆ สักคันไม่ใช่เหรอ”
“โธ่ลี่ สุกี้มื้อละแค่ไม่กี่บาท พี่เลี้ยงลี่ได้อยู่แล้ว ส่วนเงินเก็บซื้อรถพี่ก็เก็บอยู่เหมือนเดิมนั่นแหละ ให้พี่เลี้ยงหน่อยเถอะนะ พี่อยากใช้เงินเพื่อลี่บ้าง”
คำพูดกับสายตามีนัยยะแอบแฝงของเขานั้น ไม่ได้ทำให้หญิงสาวใจเต้นหรือขัดเขินแต่ประการใด แต่กลับรู้สึกลำบากใจมากขึ้นทุกครั้ง ต่อไปนี้เธอคงต้องเว้นระยะห่างกับเขาให้มากอีกสักหน่อยแล้ว เขาจะได้เลิกสนใจเธอสักที
“เอาไว้วันอื่นนะพี่ วันนี้ลี่มีนัดว่ายน้ำกับเพื่อน ๆ อีก ต้องรีบไปแล้ว” พูดจบก็โบกมือลาพร้อมรอยยิ้มกว้างแล้วเดินไปขึ้นรถ สตาร์ทจากไป
นักมวยดาวรุ่งได้แต่มองตามหญิงสาวที่ตัวเองมีโอกาสได้รู้จักเมื่อประมาณหนึ่งปีก่อนด้วยสายตาละห้อย แค่นี้เขาก็รู้แล้วว่าเธอเจตนาจะเลี่ยง แต่เขาไม่ยอมถอดใจง่าย ๆ หรอกนะ
……………..
สระว่ายน้ำ
“ฉันไม่เข้าใจเตียแกเลยเหม่ยลี่”
หญิงสาวที่ถูกพาดพิงถึงบิดาหันไปมองเพื่อนที่กำลังดูดน้ำอัดลมจากแก้ว
“เตียฉันทำไมวะองุ่น”
“ก็เตียแกให้แกเรียนอะไรแต่ละอย่างโหด ๆ ทั้งนั้นเลย แล้วบางอย่างฉันก็ไม่เห็นว่ามันจะมีประโยชน์อะไรกับแกสักนิด อย่างยิงปืนเนี่ยจะเรียนไปทำไมวะ บ้านเราพกปืนก็ไม่ได้ ขี่ม้าก็เหมือนกัน ให้แกเรียนไปแคสติ้งเป็นนางเอกหนังจีนย้อนยุคเหรอวะ”
“ฮา ๆ ๆ ฮา ๆ ๆ แกอย่ามาว่าเตียฉันนะ เตียให้ฉันเรียนยิงปืนเพื่อที่จะให้ฉันยิงเป้า ปาลูกดอกตามงานวัดได้แม่น ๆ ส่วนขี่ม้าน่ะเรียนเอาไว้เพื่อ.. สงสัยจะให้ฉันไปเป็นนางเอกหนังจีนย้อนยุคอย่างที่แกว่านั่นแหละ” เธอก็ไม่ค่อยเข้าใจบิดาเหมือนเพื่อนว่านั่นแหละ แต่เธอก็ยอมเรียนเพราะสนุกกับมัน และชอบมากกว่าการไปเรียนวิชาตามตำราในห้องเรียน หรือเรียนอะไรที่เป็นหญิงจ๋า
“หุ่นดีแล้วก็สวยอย่างแกเป็นได้แน่ ๆ เหม่ยลี่ ไม่แน่นะ แกไปเรียนต่อที่จีนครั้งนี้อาจจะมีแมวมองมาทาบทามแกก็ได้”
“ฉันไม่เอาหรอกองุ่น ถ้าฉันถูกทาบทามจริง ๆ คงต้องลดน้ำหนักอย่างน้อย ๆ สิบโล ต้องผอมกะหร่องกะแหร่งเป็นกระดูกเดินได้แน่แก”
“เพื่อให้หุ่นในจอทีวีออกมาสวย แกก็ยอม ๆ หน่อยเถอะวะ”
“พูดอย่างกับจะได้เป็นจริง ๆ เลยนะ”
“นั่นสินะ ฮา ๆ ๆ ไปว่ายน้ำกันต่อเถอะ”
“ไปสิ ว่ายแข่งกันนะ ไปกลับ”
“ได้เลย ใครแพ้เลี้ยงไอติมนะ”
“ตามนั้น เสียดายเนอะที่คนอื่นไม่มาด้วย ไม่งั้นเราสองคนคงไม่มีใครเสียเงินหรอก”
“คงจะเป็นไอ้พริมหรือไอ้อ้นนี่แหละ”
“ฉันว่าไอ้อ้นแน่ เพราะหลัง ๆ มานี้มันมัวแต่ติดแฟน ไม่ค่อยมาว่ายกับเราสักเท่าไหร่ ลงว่ายอีกทีตะคริวกินขาแน่ ฮา ๆ ๆ”
สองสาวคุยกันสนุกสนานระหว่างบริหารร่างกายข้างสระว่ายน้ำ เพื่อให้ร่างกายพร้อมลงแข่งชิงไอติม
...................
หลายวันผ่านไป
“เหม่ยลี่”
“จ๋าเตีย”
“..หนูกำลังคบกับใครอยู่หรือเปล่า”
ฮึก! ปากที่กำลังเคี้ยวข้าวเกือบสำลัก เมื่อได้ยินคำถามที่ลอยเข้าหูมาดื้อ ๆ รีบดื่มน้ำกลืนข้าวลงท้อง
“เป็นไรเตีย อยู่ ๆ ก็ถามขึ้นมาแบบนี้หนูตกใจนะ” โวยวายหลังจากดื่มน้ำเสร็จ
“เตียถามจริงจังนะเหม่ยลี่ ตอบเตียมาตามตรง”
เห็นบิดาหรือหมอตี๋ของชาวบ้านมีสีหน้าจริงจัง ลูกสาวที่เหมือนม้าดีดกะโหลกอย่างเธอก็ไม่กล้าพยศ ได้แต่คิดว่าบิดาอาจจะนึกถึงพี่สาวฝาแฝดของตน
รีบส่ายหน้าปฏิเสธ “ยังไม่มีหรอกเตีย”
“แน่นะ ไม่ได้โกหกเตียให้สบายใจใช่ไหม”
“ไม่มีจริง ๆ เตีย วัน ๆ ก็มีแต่เรียนพิเศษเพื่อเตรียมตัวไปเรียนต่อที่จีน เรียนวนตามที่เตียอยากให้เรียนตั้งแต่เช้ายันเย็น เวลาว่างไปเฮฮากับเพื่อนยังแทบไม่มี แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปมีแฟนล่ะเตีย” ตอบแล้วนิ่งเงียบไปชั่วอึดใจ “ว่าแต่เตียเถอะ ทำไมถึงถามหนูแบบนี้ล่ะ หนูทำตัวแปลก ๆ ไปเหรอ”
ผู้เป็นบิดาวางตะเกียบที่กำลังจะคีบกับข้าว มองเด็กสาวที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่แบเบาะ และมอบความรักให้เสมือนเป็นลูกสาวแท้ ๆ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นเจือปนความกังวล.. เขาตั้งใจแล้วว่าจะพูดความจริงกับเธอทุกเรื่อง ยกเว้นเพียงเรื่องเดียว คือเรื่องที่เธอไม่ใช่ลูกของเขา แต่จะเริ่มต้นอย่างไรดีให้เธอเชื่อ ไม่คิดว่าเขากำลังเล่านิทานให้ฟัง
“เป็นอะไรเตีย” ด้วยความผูกพันที่มีให้กับบิดามากกว่ามารดา ทำให้หญิงสาววัยสิบเก้าปีเห็นถึงความผิดปกติของท่านได้ทันที “มีปัญหาอะไรหนักใจหรือเปล่า ถ้ามีก็บอกหนูมาเถอะ อย่าเก็บเอาไว้คนเดียวเลยนะเตีย”
“เตียอยากบอก เตียคิดมานานมากกับเรื่องนี้ แต่ไม่กล้าบอกหนูสักที เตียกลัวมาก กลัวจะทำให้ลูกต้องผิดหวังและเสียใจ”
“กลัวอะไรเตีย มีอะไรก็บอกมาเถอะ หนูรับได้ทุกเรื่อง บอกมาเถอะเตีย” คำพูดและสีหน้าของบิดาทำให้หญิงสาวใจคอไม่ดี ถามออกไปด้วยน้ำเสียงสั่นไหว หายใจไม่ทั่วท้องไปด้วย
ปิ๊น ๆเหม่ยลี่หันไปมองรถยนต์ยี่ห้อหรู ที่ขับตามหลังรถของบิดาด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ เพราะถูกบีบแตรใส่ถี่ยิบจนน่าเกลียด“จะบีบทำมะเหงกอะไรนะ ก็เห็นอยู่ว่าฝนตกถนนลื่น จะรีบไปไหนกันนักหนา”ปิ๊น ๆ ๆ ปิ๊น ๆ ๆ“เฮ้ย!” เริ่มโมโหมากขึ้นเมื่อถูกบีบแตรใส่ซ้ำ ๆ อีกหลายทีอย่างไม่มีสำนึก “ไม่เห็นเหรอว่าไฟแดง” บ่นอยู่ในรถ แต่ท่าทางนั้นหันไปมองรถคันหลังอย่างเอาเรื่อง นึกอยากจะลงไปชี้นิ้วกลางใส่แล้วต่อว่าเรื่องมารยาท“มันเป็นนิสัยพื้นฐานของคนยุคนี้ไปแล้วลูก ไม่มีอะไรหรอก ขอแค่ได้บีบแตรใส่รถคันหน้าก็พอใจแล้ว” หยวนหลินบอกกับลูกสาวด้วยน้ำเสียงที่ใจเย็น“เหนียง! แต่เขาลงมาจากรถด้วยนะ” หญิงสาวที่มองข้างหลังไม่วางตาร้องลั่น และยังเห็นว่าฝ่ายนั้นถือไม้เบสบอลติดมือมา ด้วยความเป็นห่วงคนในรถเธอตัดสินใจเปิดประตู“อย่าลงไปนะ!” หยวนตงไวกว่า รีบกดล็อกประตูก่อนที่ลูกสาวจะเปิดประตูลงไป“แต่มันกำลังจะทุบกระจกรถเรานะเตีย ให้หนูออกไปสู้กับมันตัวต่อตัวเถอะ หนูชนะแน่”“ไม่!”“เดี๋ยวก็ไฟเขียวแล้ว ไม่ต้องลงไปหรอก” พูดด้วยน้ำเสียงร้อนรน มองบุรุษรูปร่างสูงใหญ่ใส่แว่นตาอำพรางใบหน้า ที่เดินใกล้จะถึงตัวรถของเขาอยู่รอมร่อ“เตียระ
ชานเมืองมณฑลหูเป่ย ประเทศจีน“เหนียง”“หือ”“หนูถามเหนียงจริง ๆ เถอะนะ เหนียงไม่หวงเตียบ้างเหรอ เตียออกจะหล่อและหนุ่มกว่าอายุจริงขนาดนั้น ทำไมเหนียงถึงกล้าให้เตียไปอยู่เมืองไทยคนเดียว” หญิงสาววัยสิบเก้าที่กำลังอุ้มหลานชายวัยเกือบ ๆ สองขวบ ถามมารดาที่กำลังทำอาหารอยู่หน้าเตาไฟฟ้า“อยู่คนเดียวที่ไหน เหนียงก็ส่งหนูไปอยู่เป็นเพื่อนด้วยแล้วไง”“มันไม่เหมือนกันนะ หนูเป็นลูกแต่เหนียงเป็นเมีย ผัวเมียก็ต้องอยู่ด้วยกันสิ นี่อะไร แยกกันอยู่คนละขั้วโลก ปี ๆ หนึ่งเจอกันแค่ไม่กี่ครั้ง ถ้าเป็นหนูนะ หนูไม่ยอมหรอก จะเกาะแข้งเกาะขา ขี่คอตามติดเหมือนผีสิงวิญญาณหลอนเลย แล้วถ้ามีสาวมาเหล่ใส่นะ จะเจาะตาให้ทะลุเลย” นิ้วเรียวสองนิ้วทำเป็นตะขอประกอบคำพูดที่จริงจัง แต่สุดท้ายก็หัวเราะเสียงดังด้วยความขบขันสีหน้าของมารดา“ต่อให้มีหญิงงามจนมัจฉาจมวารี ปักษีตกนภามายั่วเตีย เหนียงก็ไม่กลัวหรอก เพราะเหนียงเชื่อความรู้สึกของเหนียงพอ ๆ กับเชื่อใจเตียหนูนั่นแหละ”“หนูไม่เข้าใจว่าเกี่ยวกับความรู้สึกตรงไหน ในเมื่ออยู่กันคนละที่ก็ต้องมีช่องโหว่อยู่แล้ว”“ลูกมีเพื่อนสนิทบ้างไหม”“มีสิเหนียง”“แล้วลูกรู้นิสัยของเพื่อนดีแค่ไห
“ขอบใจมากนะเหม่ยลี่ แค่นี้เตียก็สบายใจแล้ว วันนี้ดึกมากแล้ว หนูรีบไปนอนเถอะ พรุ่งนี้ต้องไปแข่งต่อยมวยอีกไม่ใช่เหรอ”“จ้ะ งั้นหนูไปนอนก่อนนะเตีย” หญิงสาวลุกไปกอดบิดาแล้วหอมแก้มท่านหนึ่งที “หนูรักเตียนะ”“เตียก็รักลูกเหมือนกัน ฝันดีนะ” หยวนตงมองลูกสาวกำมะลอที่รักเสมือนแก้วตาดวงใจ.. ยิ้มกว้างขึ้นเมื่อเธอโบกมือลาก่อนจะปิดประตูห้อง…………….กลางดึกบริเวณหุบเขาติดแม่น้ำหยางจื่อ ประเทศจีน“คนของเรารายงานมาเท่านี้” เสียงทุ้มกังวานกล่าวปิดท้ายคำรายงานอย่างนอบน้อม “และนี่คือรูปของนางขอรับ”บุรุษผมยาวมัดไว้อย่างเรียบร้อย สวมชุดฉีผาวตัวยาวสีดำสนิท ปกปิดเนื้อหนังมิดชิด ใส่แว่นกันแดดสีดำเข้มแม้ในยามวิกาล ยื่นมือที่สวมถุงมือสีเดียวกับชุดรับรูปภาพมาดู..แค่ใบแรกก็ดูอยู่เนิ่นนานไม่ยอมพูดใด ๆ แล้วเก็บภาพทั้งหมดใส่ลงไปในกระเป๋าเสื้อ“คอยติดตามพวกเขาเอาไว้ เมื่อวันนั้นมาถึงต้องขัดขวางให้ถึงที่สุด อย่าให้พวกเขาทำสำเร็จเด็ดขาด”“ขอรับนายท่าน”“ไปได้แล้ว อุ๊ก!”“นายท่าน!” ผู้ติดตามรีบถลาเข้าไปหมายประคองคนที่กุมมือแน่นตรงหน้าอก แม้ไม่ได้เห็นแววตา แต่การกัดริมฝีปากนั่นก็บอกได้ดีว่าเจ็บปวดเพียงใด แต่ต้องหยุดชะงั
“เตียไม่ได้พูดเพื่อให้หนูกลัว แต่พูดเพื่ออยากให้หนูเตรียมใจเอาไว้เท่านั้น เตียหวังดีกับหนู อยากให้หนูยอมรับให้ได้นะเหม่ยลี่ หนูจะคิดว่าเตียเห็นแก่ตัวก็ได้ เตียยอม”มือเล็ก ๆ รีบตะครุบมือของบิดา ส่ายศีรษะหน้าตาจริงจังขณะมองท่านด้วยแววตาแน่วแน่“เตียไม่ผิด และหนูก็ไม่ได้โกรธเตียด้วย หนูยอมรับได้” เพื่อพ่อกับแม่ที่เธอรักยิ่งกว่าชีวิต เธอยอมทำได้ทุกอย่าง ต่อให้ต้องข้ามมิติไปอยู่ยุคมนุษย์หินเธอก็จะไป แต่ไปถึงแล้วจะหาวิธีพังงานแต่ง ทำให้ว่าที่เจ้าบ่าวต้องเป็นฝ่ายโบกมือลาให้ได้“นี่ลูกไม่ได้คิดอะไรพิเรนทร์ ๆ อยู่ใช่ไหม” เห็นสายตาครุ่นคิดของลูกสาวก็เดาอย่างรู้ทัน“ไม่ได้คิดอะไรเลยนะเตีย” รีบปฏิเสธสีหน้าสงสัยของบิดาน้ำเสียงขึงขังบิดาลังเลกับความจริงจังที่มากเกินไปของลูกสาว ผิดวิสัยคนที่ชอบทำตัวสบาย ๆ ของเธอมาก ถึงแม้จะเป็นคนง่าย ๆ เข้าหาคนอื่นเก่ง แต่เธอก็ไม่ชอบทำอะไรฝืนใจตัวเองมาแต่ไหนแต่ไร ดังนั้นเรื่องที่เธอยอมรับง่าย ๆ แบบนี้ก็ผิดไปจากที่คาดการณ์เอาไว้“เตียไม่รู้หรอกนะว่าหนูกำลังคิดตุกติกอะไร แต่ในเมื่อหนูยอมรับง่าย ๆ แบบนี้เตียก็จะยอมเชื่อใจ ไม่ว่าหนูจะคิดอะไรเอาไว้ เตียก็หวังว่าสุดท้าย
‘เตียเป็นคนของแดนสวรรค์ เป็นเทพรักษาชื่อหยวนตง และเป็นคนสนิทของมหาเทพ.. เมื่อพันกว่าปีก่อนท่านมหาเทพรักกับธิดาราชาปีศาจ พวกท่านทั้งสองรักกันมากและมีลูกด้วยกัน แต่ก็ไม่สามารถใช้ชีวิตเคียงคู่ผัวเมียกันได้.. ลูกที่เกิดมาก็ถูกสองดินแดนแย่งชิงกัน จึงผนึกพลังร่วมกันสร้างดินแดนมายาให้เป็นดินแดนสำหรับลูกหลานที่เกิดจากคนสองดินแดนนี้ได้อาศัยอยู่’คำบอกเล่าที่สุดแสนจะแฟนตาซีของบิดา ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวสมองของหญิงสาวที่นอนพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงขนาดห้าฟุต สวดมนต์ก็แล้ว นับแกะก็แล้ว ฟังดนตรีเพื่อการผ่อนคลายก็แล้ว แต่ก็ยังไม่รู้สึกง่วง ทั้งที่เวลาล่วงมาถึงตีสอง‘เพื่อความสบายใจของอาเตียกับอาเหนียง และบรรพบุรุษของเรา.. ลูกจำเป็นต้องแต่งงานกับบุรุษท่านหนึ่ง... คำพูดของเตียอาจจะทำให้หนูช็อก แต่ยังมีเรื่องที่ชวนช็อกมากกว่านี้รอหนูอยู่ วันนี้เตียขอบอกกับหนูแค่นี้ก่อน เมื่อหนูพร้อมมากกว่านี้ค่อยมาถามเตียใหม่ แล้วเตียจะเล่าให้หนูฟังทั้งหมด.. เหม่ยลี่’‘จ้ะเตีย’‘เตียจะบอกความจริงกับหนูทุกอย่าง แม้จะทำผิดต่อหนู แต่ก็หวังว่าหนูจะไม่โกรธไม่เกลียดเตียนะ’ ‘หนูไม่คิดแบบนั้นหรอกเตีย หนูรู้ว่าเตียเป็นคนมีเหตุผล
“ลี่กลับก่อนนะทุกคน” สาวหมวยดวงตากลมโต ที่มีความงามโดดเด่นรับกับรูปร่างสมส่วนโบกมือลาเพื่อน ๆ“เดี๋ยวก่อนลี่”หญิงสาวที่เดินเกือบจะถึงรถมอเตอร์ไซค์ของตัวเองหยุดและหันไปมองคนทัก“มีอะไรเหรอพี่ขาว” ถามนักมวยดาวรุ่งที่ไม่ได้ขาวสมชื่อแต่ใจดีน่าคบหาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม“ทำไมรีบกลับล่ะ พี่ตั้งใจจะพาไปเลี้ยงสุกี้เป็นการตอบแทนที่ช่วยเป็นคู่ซ้อมให้ซักหน่อย”“พี่ขาวไม่ต้องเลี้ยงลี่หรอก เก็บเงินไว้เถอะ พี่ขาวเคยบอกว่าอยากซื้อรถเก๋งเท่ ๆ สักคันไม่ใช่เหรอ”“โธ่ลี่ สุกี้มื้อละแค่ไม่กี่บาท พี่เลี้ยงลี่ได้อยู่แล้ว ส่วนเงินเก็บซื้อรถพี่ก็เก็บอยู่เหมือนเดิมนั่นแหละ ให้พี่เลี้ยงหน่อยเถอะนะ พี่อยากใช้เงินเพื่อลี่บ้าง”คำพูดกับสายตามีนัยยะแอบแฝงของเขานั้น ไม่ได้ทำให้หญิงสาวใจเต้นหรือขัดเขินแต่ประการใด แต่กลับรู้สึกลำบากใจมากขึ้นทุกครั้ง ต่อไปนี้เธอคงต้องเว้นระยะห่างกับเขาให้มากอีกสักหน่อยแล้ว เขาจะได้เลิกสนใจเธอสักที“เอาไว้วันอื่นนะพี่ วันนี้ลี่มีนัดว่ายน้ำกับเพื่อน ๆ อีก ต้องรีบไปแล้ว” พูดจบก็โบกมือลาพร้อมรอยยิ้มกว้างแล้วเดินไปขึ้นรถ สตาร์ทจากไปนักมวยดาวรุ่งได้แต่มองตามหญิงสาวที่ตัวเองมีโอกาสได้รู้จักเมื







