Share

มิลืมเลือนรัก
มิลืมเลือนรัก
Author: ม่านซู

บทนำ

last update Last Updated: 2025-12-02 01:49:53

จวนตระกูลอี้

           ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งเดินย่ำเท้าไปมาที่หน้าห้องเกินกว่าหนึ่งชั่วยามแล้ว ในใจทั้งรู้สึกหวั่นวิตกและตื่นเต้นในคราวเดียวกัน เหตุเพราะฮูหยินของตนกำลังจะคลอดบุตร

          “ยินดีกับนายท่าน ฮูหยินคลอดลูกสาวเจ้าค่ะ” เสียงหมอตำแยเอ่ยบอก ขณะที่อ้อมแขนกำลังโอบอุ้มเด็กทารกใบหน้าจิ้มลิ้มทั้งยังมีผิวขาวราวกับหิมะก็มิปาน อี้เฉียวลู่จ้องมองบุตรสาวตัวเองด้วยรอยยิ้ม แม้จะผิดคาดที่ไม่ได้บุตรชายก็ตามที

          “ฮูหยินของข้าปลอดภัยดีรึไม่”

          “เจ้าค่ะ”

          “เช่นนั้นข้าจะเข้าไปด้านใน” เขาว่าพลางอุ้มเด็กน้อยไว้ในอ้อมอก

          “เข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ ข้างในนั้นมีแต่เลือด” สาวใช้วัยชราเอ่ยขัด

          “ข้าต้องไปเห็นกับตาว่านางสบายดี” ว่าจบก็เดินพรวดพราดเข้าไปข้างในทันที ไม่สนใจเสียงคัดค้านอันใด

          “ท่านพี่” เสียงแหบแห้งเรียกผู้เป็นสามี

          “ฮูหยิน เจ้าดูลูกของเราสิ นางช่างละม้ายคล้ายกับเจ้ายิ่งนัก” เขาบอกพร้อมกับขยับเข้าไปใกล้เพื่อให้นางดูหน้าบุตรสาวได้ถนัด

          “ผิดหวังไหมเจ้าคะที่ข้าไม่ได้ลูกชาย”

           “ถึงครานี้ไม่ได้ลูกชายก็ไม่เป็นไร ได้ลูกสาวก็ดีเช่นกัน” ชายหนุ่มปลอบภรรยา

          “ข้ากลัวว่าท่านแม่จะผิดหวังน่ะสิเจ้าคะ”

          “ไม่หรอก ท่านแม่ต้องเข้าใจอยู่แล้วเจ้าอย่าได้กังวลไป”

          แม้สามีจะเอ่ยปลอบแต่ทว่าฟู่ซิวหาได้คลายความกังวลลงเพราะแต่ไหนแต่ไรมามารดาของสามีหาได้ชอบพอนางในฐานะลูกสะใภ้ ทั้งยังยัดเยียดให้ลูกชายตัวเองแต่งแม่นางจากตระกูลเมิ่งมาเป็นอนุถึงแม้ว่าตอนนี้นางจะยังไม่มีลูกก็ตามที

          ไม่นานนักข่าวที่ฮูหยินของตระกูลคลอดบุตรสาวได้แพร่สะพัดไปทั่วทั้งจวนรวมถึงเรือนอดีตฮูหยินของตระกูลที่บัดนี้กลายเป็นฮูหยินผู้เฒ่าตามวัยที่ร่วงโรย

          “เจ้าว่าอย่างไรนะ นางคลอดลูกสาวงั้นรึ!” หยิงชราถามย้ำด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

          “เจ้าค่ะ”

          “ช่างไร้ประโยชน์ยิ่งนัก! ถ้าหากตอนนั้นข้าขัดขวางไม่ให้นางแต่งเข้าจวนมาอย่างถึงที่สุดแล้วล่ะก็ คงไม่เกิดเรื่องน่าผิดหวังเช่นนี้”

          “นายหญิงโปรดใจเย็น ๆ เรายังมีคุณชายชางสืออยู่นะเจ้าคะ”

          “มีแล้วอย่างไร มารดาของหลานชายข้าคนนี้มีชาติกำเนิดต่ำต้อยไม่พอหนำซ้ำยังเป็นเพียงสาวใช้จะคู่ควรเป็นผู้สืบทอดตระกูลอี้ได้เช่นไร”

          “แม้คุณชายใหญ่จะมีชาติกำเนิดต่ำต้อย แต่ว่าฮูหยินรับเขาเป็นลูกทั้งยังรักและดูแลดั่งลูกแท้ ๆ ก็มิปาน บ่าวว่าไม่มีอันใดน่าเป็นห่วง อีกอย่างยังมีอนุเมิ่งอีกคนนะเจ้าคะ”

          “ดูทีเถิด ข้าเลือกเมิ่งไป่ซูให้เป็นฮูหยินเอกของเขา แต่เขากลับไปเลือกคนจากตระกูลฟู่แทนเสียได้ น่าเจ็บใจนัก สุดท้ายคุณหนูสูงศักดิ์อย่างนางกลายเป็นเพียงอนุภรรยาของผู้อื่น พูดถึงนางทีไรข้ายังนึกเห็นใจทุกที”

          หลายวันมานี้ฟู่ซิวคอยประคบประหงมดูแลบุตรสาวของตนเป็นอย่างดี

          “ฮูหยิน เจ้ามีชื่อยู่ในใจแล้วรึไม่” เขาถามภรรยา แต่เดิมทั้งคู่คิดว่าเด็กในครรภ์เป็นชายถึงได้ไม่เคยคิดชื่อสตรีไว้ในใจ

          “ให้นางชื่อเหม่ยเหรินดีไหมเจ้าคะ”

          “เหม่ยเหริน อี้เหม่ยเหริน เป็นชื่อที่ดี”

          “ท่านพี่ข้าได้ยินว่าท่านแม่ล้มป่วย นางเป็นอันใดมากรึไม่”

          “เท่าที่ข้าไปเยี่ยม ท่านหมอบอกข้าว่าเป็นเพราะอากาศเปลี่ยนเลยทำให้ไม่สบายก็เท่านั้น”

          “ดีแล้วเจ้าค่ะ ที่ท่านแม่ไม่เป็นอะไรมาก”

          นางใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้เพียงเดือนเศษเท่านั้น จู่ ๆ ก็ได้ยินข่าวร้ายฟาดเข้ากลางใจจนทำให้รู้สึกแตกสลาย

          “ท่านแม่ ท่านมาเยี่ยมฮูหยินหรือขอรับ” อี้เฉียวลู่ถามมารดา ยามเห็นร่างสตรีวัยชรากำลังจะเดินเข้าไปในห้องที่ฮูหยินกับลูกน้อยอาศัยอยู่

          “หึ! ข้าน่ะหรือจะมาเยี่ยมเด็กกาลกิณีเช่นนาง”

          “ท่านแม่ ท่านพูดเรื่องอะไรกันข้าฟังไม่เข้าใจ”

          “ข้าให้เหลียนถงเอาวันเดือนปีเกิดลูกสาวเจ้าไปที่วัดก่านเยว่เพื่อตรวจดูดวงชะตาก็พบว่านางกับข้ามีชะตาขัดแย้งกัน ข้าถึงได้ป่วยออด ๆ แอด ๆ ไม่หายเสียที หากให้นางอยู่ที่จวนต่อไปไม่ข้าก็นางต้องมีคนใดคนหนึ่งตาย”

          “เรื่องงมงายทั้งนั้น ท่านหมอบอกแล้วมิใช่หรือขอรับว่าเป็นเพราะท่านอายุมากแล้วจะให้แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อนคงจะเป็นไปไม่ได้”

          “ใช่สิ พอเจ้าแต่งงานมีครอบครัวแล้วแม่คนนี้ก็หมดความหมาย” นางร่ำไห้บอกลูกชายด้วยความน้อยอกน้อยใจ

          “แล้วท่านจะให้ลูกทำเช่นไรเล่า”

          “ให้นางออกไปจากจวนเสีย แล้วห้ามคนในจวนไปพบหน้านางเด็ดขาด”

       

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • มิลืมเลือนรัก   ตอนจบ

    “หากไม่ได้เป็นดังที่ข้าคิด แล้วเหตุใดเจ้าถึงได้เอามือมาลูบปากข้ากัน” เขายกยิ้มไปพลางถามไปพลาง จนคนใต้ร่างเริ่มรู้สึกเขินอายอยู่ไม่น้อย “ข้าแค่อยากรู้ว่าริมฝีปากของบุรุษจะอ่อนนุ่มหรือหยาบกร้านถึงได้เผลอไผลทำเรื่องเช่นนั้นไป” “งั้นหรือ” เขาแสร้งเห็นด้วย จากนั้นค่อย ๆ โน้มใบหน้าลงมาเรื่อย ๆ จนลมหายใจเป่ารดหน้านางเข้า “ท่านจะทำอะไรหรือเจ้าคะ” ว่าพลางดันหน้าอกชายหนุ่มให้ออกห่าง แต่ทว่ากายแกร่งไม่ได้ขยับเขยื้อนแม้แต่นิดเดียว “เจ้าอยากรู้นักไม่ใช่หรือว่าริมฝีปากข้าจะอ่อนนุ่มหรือไม่ แทนที่จะใช้มือ มิสู้ใช้ปากไม่ดีกว่าหรือ” เอ่ยจบก็ทาบทับริมฝีปากลงไปแผ่วเบา ก่อนขบเม้มเข้าที่ริมฝีปากล่างของนางเพื่อหยอกล้อ “อื้อ” ซ่งอันเว่ยพร่ำจูบนางจนพอใจถึงได้ปล่อยริมฝีปากของนางให้เป็นอิสระ ขณะที่มืออีกข้างปลดเปลื้องอาภรณ์จนร่างของหญิงสาวเปลือยเปล่าไร้ซึ่งสิ่งใด ไม่นานนักร่างกายของเขาก็เปลือยเปล่าไม่ต่างจากนาง... อี้ชางสือมองภาพเบื้องหน้าทั้งรอยยิ้ม ยามเห็นภาพคู่สามีภรรยารักใคร่กลมเกลียว “ท่านพี่ ท่านฝึกซ้อมมาหลายชั่วยามแ

  • มิลืมเลือนรัก   ออกเรือน

    ทางด้านของฮูหยินผู้เฒ่าที่อาการป่วยทรุดลงเรื่อย ๆ จนไม่อาจลุกจากเตียงได้แต่นอนเป็นผักเท่านั้น “อาการของท่านแม่ เป็นเช่นไรบ้าง” เขาถามสาวใช้ข้างกายมารดา “อาการของฮูหยินผู้เฒ่าแย่ลงเรื่อย ๆ เลยเจ้าค่ะ” “ไปตามท่านหมอมาเร็วเข้า” “ตามไปก็ไม่มีประโยชน์หรอกเจ้าค่ะ ท่านหมอเพิ่งออกไปเมื่อครู่นี้เอง ทั้งยังบอกว่าอาการของฮูหยินผู้เฒ่าไร้หนทางรักษาแล้ว” อนุเมิ่งบอกสามี “จะ...เจ้า นางคนเนรคุณ” เสียงแหบแห้งหมดเรี่ยวแรงพูดขึ้น “พักผ่อนเถิดเจ้าค่ะ ข้าจะดูแลท่านเอง” นอกจากนางจะไม่โกรธแล้ว นางยังส่งยิ้มให้หญิงชราด้วยซ้ำไป ฝั่งของฟู่ซิวแวะมาเยี่ยมมารดาสามีบ้างบางครั้ง เพราะอนุเมิ่งขอเป็นคนดูแลเอง “ฮูหยิน ตั้งแต่อนุเมิ่งไปดูแลฮูหยินผู้เฒ่าอาการของนางก็แย่ลงเรื่อย ๆ เลยนะเจ้าคะ หรือว่านางจะ...” “เจ้าอย่าได้เสียงดังไป เพราะถ้าหากนางไม่ได้ทำเช่นนั้นจริงคนที่เดือดร้อนคงกลายเป็นพวกเราแทน” นางบอกเสียงเบา ทั้งที่ในใจรู้อยู่แล้วว่าเมิ่งไป่ซูวางยาพิษฮูหยินผู้เฒ่า แต่นางไม่คิดเปิดโปงเรื่องนี้ เพราะเห็นสมควรว่าสตรีว

  • มิลืมเลือนรัก   เห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง

    ชายหนุ่มถอดรองเท้าของนางออกหนึ่งข้าง ซึ่งเป็นข้างที่นางได้รับบาดเจ็บ แล้วฉีกชายเสื้อของตัวเองมาพันข้อเท้านางไว้ ก่อนอุ้มหญิงสาวไว้ในอ้อมกอดด้วยความหวงแหน จากนั้นเดินกลับกระโจมไป แม่ทัพซ่งวางร่างของนางลงบนเก้าอี้ด้วยความทนุถนอม ก่อนออกไปสั่งให้คนสนิทเรียกท่านหมอมาดูอาการ ทว่าไม่ทันจะได้ทำเช่นนั้นเขาถูกมือของหญิงสาวชุดรั้งแขนไว้เสียก่อน “จะไปไหนหรือเจ้าคะ” “ข้าจะให้คนไปตามท่านหมอมารักษาเจ้า” “ข้าไม่ต้องการหมอ” “ถ้าไม่ต้องการหมอ แล้วเจ้าต้องการอะไร” “ข้าต้องการท่าน” นางบอกทั้งใบหน้าแดงซ่านอย่างปิดไม่มิด “…” “ทำไมไม่ตอบข้าล่ะเจ้าคะ” “ปล่อยก่อน” “ท่านอยากรู้ใช่รึไม่ว่าคนที่ข้ารักคือใคร เช่นนั้นข้าจะบอก” “ไม่ต้อง ข้าไม่อยากรู้” เขาปฏิเสธทันควัน เพราะยังไม่พร้อมรับฟัง “ซ่งอันเว่ย ท่านฟังข้าพูดให้ดี ๆ ข้าจะพูดแค่ครั้งเดียว” “ข้าไม่....” “คนที่ข้ารักคือท่าน ไม่ใช่ใครอื่น” นางแทรกขึ้น พร้อมกับลุกขึ้นสวมกอดจากด้านหลัง “ที่เจ้าพูด...จริงหรือ ไม่ใช่เ

  • มิลืมเลือนรัก   เรียกความสนใจ

    “น้องพี่ ใครเป็นคนทำให้เจ้าอารมณ์เสียหรือถึงได้ทำสีหน้าบึ้งตึงเช่นนี้” “เปล่าเจ้าค่ะ ข้าไม่ได้เป็นอะไร” “เจ้าปิดบังพี่ไม่ได้หรอก เมื่อครู่ข้าเห็นรถม้าของตระกูลซ่งมาส่งเจ้า ดูทีว่าต้นเหตุคงเป็นซ่งอันเว่ย พี่จะไปจัดการเขาให้เอง” “พี่ชางสือ ท่านจะทำอะไรเขางั้นหรือ” “ข้าจะเตะเขาสักสิบครั้ง ต่อยสักหมัดสองหมัด ให้คนผู้นั้นรู้เสียบ้างว่าอย่าริอาจมารังแกน้องสาวของข้า” “ท่านพี่ จะทำเช่นนั้นไม่ได้นะเจ้าคะ อีกไม่นานข้ากับท่านแม่ทัพต้องแต่งงานแล้ว หากใบหน้าเขาบอบช้ำ ข้าคงทนเห็นไม่ได้” “เจ้านี่ช่างเป็นห่วงเขาเสียเหลือเกิน ไหนเจ้าบอกพี่ว่าไม่ได้คิดอันใดกับเขาเล่า” “ขะ...ข้าแค่เป็นห่วงเท่านั้น อีกอย่างท่านแม่ทัพไม่ได้รักข้าเช่นกัน” “เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าเขาไม่ได้รักเจ้า” “อะ...เอ่อ” “ข้าจะบอกความจริงให้เจ้าฟัง เจ้าคิดว่าคนเย็นชาอย่างซ่งอันเว่ยจะเสียเวลาไปรับสตรีที่ไม่รู้จักกลับเมืองหลวงด้วยตัวเองงั้นหรือ ทั้งยังคอยคุ้มกันจนถึงจวนอีก” “เรื่องนั้นท่านแม่ทัพบอกข้าว่า เป็นเพราะท่านไหว้ว

  • มิลืมเลือนรัก   ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง

    “สรุปว่าท่านจะให้ข้าอยู่เรือนรับรองหรือ” “ใครบอกเจ้ากัน เรือนใหญ่ออกจะกว้างขวาง อีกอย่างพวกเราเป็นสามีภรรยากันอยู่เรือนหลังเดียวกันก็สะดวกสบายดี หรือเจ้าไม่อยากอยู่ร่วมชายคาเดียวกับข้างั้นหรือ” “มีผู้ใดบ้างที่ทำเช่นนี้ ปกติแม้เป็นคู่สามีภรรยากัน แต่ยังต้องแยกเรือนกันอยู่เลยนะเจ้าคะ” นางถาม เพราะตามปกติแล้วสามีจะอยู่เรือนใหญ่เพียงคนเดียว “ข้าไม่สนใจเรื่องพวกนั้นสักนิด” “แต่ถ้าท่านมีอนุคงไม่สะดวก หากอยู่เรือนหลังเดียวกัน” “ข้าไม่เคยคิดอยากมีอนุ ข้าจะมีเจ้าเป็นฮูหยินเพียงผู้เดียวเท่านั้น” เขาบอกเสียงจริงจัง จนนางเริ่มรู้สึกหวั่นไหว ตั้งแต่รู้จักกันมาเขาเป็นคนชัดเจนตลอดมา ไม่เคยมีสักครั้งที่ทำให้นางต้องหาคำตอบด้วยตัวเอง “เช่นนั้นห้องนอนของข้า” “ที่เรือนนี้ไม่มีห้องนอนของเจ้า มีแต่ห้องนอนของเรา” ท้ายประโยคเขาเอื้อนเอ่ยเบา ๆ ราวกับสายลมอ่อน ๆ พัดผ่านยอดหญ้า ไหนจะท่าทีเก้เก้อดูก็รู้ว่าคนพูดรู้สึกเช่นไร “วันนี้เจ้าพอมีเวลาว่างให้ข้าทั้งวันรึไม่” “ถามทำไมหรือเจ้าคะ” “เย็นนี้ในเมืองจัดง

  • มิลืมเลือนรัก   เห็นกันหมดทุกคน

    หลังจากส่งบุตรสาวอีกคนแต่งออกไปถึงเมืองเป่ยโจว ก็ถึงคราวของอี้เหม่ยเหรินหมั้นหมายกับแม่ทัพหนุ่ม ผู้ซึ่งเป็นที่หมายปองของสตรีทั้งเมืองหลวง นอกจากเขาจะรูปโฉมงดงามราวเทพเซียนแล้ว ยังมากด้วยความสามารถและอนาคตไกล จนพวกขุนนางในราชสำนักต่างยกลูกสาวของตัวเองใส่พานมาถวายอยู่ไม่ขาด ทว่าเขากลับไม่สนใจสักนิด ด้วยเหตุผลเพียงข้อเดียวคือนาง หญิงสาวธรรมดาที่เขาเคยพบเจอเมื่อสี่ปีก่อน นางเป็นบุตรสาวพ่อค้าชื่อดังของเมืองลั่วหยาง เวลาเห็นนางยิ้มทีไรทำให้หัวใจหยาบกระด้างของชายหนุ่มอ่อนระทวยลงราวกับถูกไฟลน ยามนึกถึงคราแรกที่พานพบพลันทำให้ใจสั่นไหวรัวเร็ว “คุณหนู รอบ่าวด้วยเจ้าค่ะ” “เล่อจิน เจ้ารีบตามข้ามาเร็วเข้า” หญิงสาววัยแรกแย้มกึ่งเดินกึ่งวิ่ง ก่อนหันมาบอกสาวใช้คนสนิท “โอ๊ย” สุดท้ายนางสะดุดล้มเข้าจนได้ “แงง” เสียงเด็กชายร้องไห้เสียงดัง เพราะหมั่นโถวที่ตนถืออยู่ตกพื้น “เด็กน้อย ข้าไม่ได้ตั้งใจ” ว่าพลางหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดน้ำตาด้วยความรู้สึกผิดเต็มอก “หมั่นโถวลูกนี้ ข้าลำบากลำบนกว่าจะทำงานหาเงินซื้อได้” เด็กน้อยเอ่ยทั้งน้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status