ตอนที่ 10
“เอาน่า เพื่อแม่ อย่าทำให้แม่ขายหน้าเชียวนะ อุตส่าห์คุยอวดไว้ซะเยอะ” คนเป็นแม่หันมาส่งยิ้มให้บุตรสาว แล้วหมุนตัวเดินออกไปตามลูกสาวคนรอง และจัดการสั่งให้เด็กๆ ในร้านเลิกงานกันได้ แต่ยังไม่ทันพ้นห้องครัว
“เดี๋ยวสิแม่ แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ ห้ามไปเชิญชวนสองพ่อลูกนั่นมาที่ร้านอีกเป็นอันขาด” พัทตรากำชับเสียงแข็ง เพราะแค่นี้เธอก็อับอายเกินทนแล้ว ขืนให้มาบ่อยๆ เธอต้องละลายไปกับซิกแพ็กของเขาเป็นแน่ ที่ปากบอกว่าขยะแขยง แต่หัวใจมันกับสั่นหวิวพิกลเวลาได้มองหรือสัมผัส แค่คิดหน้านวลก็ร้อนผ่าวขึ้นมาเฉยๆ
“เออน่า...แกนี่ก็ ถ้าเขาไม่ชอบลูกสาวของแม่ แล้วแม่จะมีปัญญาไปบังคับอะไรเขาให้มาชอบแกสองคนกันล่ะ ไม่ต้องมาพูดมาก รีบๆ ลงมือทำกันซะ” คนเป็นแม่ตัดบท พลางยกมือไล่เป็นนัยๆ แต่แววตาและสีหน้ากลับ ยิ้มกริ่ม เพราะงานนี้ไม่พลาดแน่ ก็ให้มันรู้ไปว่าแขกฝรั่งสองคนนั้นจะไม่ชอบลูกสาวของนาง
“แม่นะแม่ ทำไมต้องเชิญคนบ้าพวกนั้นด้วยนะ นี่ไม่ต้องทำกับข้าวหม้อเท่าบ้านเลยหรือไง ตัวโตๆ กันทั้งนั้น เฮ้อ! เบื่อๆๆ” คล้อยหลังมารดาพัทตราก็ได้แต่ยืนกระทืบเท้าเบาๆ อย่างแค้นใจ ที่ตัวเองโดนลวนลามยังไม่พอ ยังต้องมาทำอาหารเลี้ยงอีก ก่อนคว้ามีดอันใหญ่ขึ้นมาสับๆ ไปบนเขียงอย่างเจ็บใจ
“พี่แพท บ่นอะไรคะ” พาธินีย์เดินเข้ามาหลังจากถูกมารดาไล่ให้มาช่วยกันเตรียมอาหารเย็น หยุดยืนข้างๆ พี่สาวซึ่งกำลังทำหน้านิ่วคิ้วชนกันเป็น คันศร
“ก็อยากฆ่าคนน่ะสิ เพราะแม่คนเดียวเลย ทำไมต้องไปเชิญอีตาฝรั่งนั่นด้วยนะ”
“พี่แพททำไมทำหน้าราวกับว่าแค้นกันมาเป็นชาติเลยล่ะ หรือว่าคุณเอริค ทำให้พี่แพทโกรธ แล้วเขาทำอะไรพี่แพทเหรอคะ” คนเป็นน้องเอ่ยถาม พร้อมกับเรียกชื่อแขกพิเศษซะสนิทสนม
“ยัยพีช ทำไมไปเรียกเขาซะยังกับเป็นเพื่อนซี้กันมาสักสิบชาติ ทำไม แค่ได้คุยกับเขานิดหน่อยถึงกับหลงเลยหรือไง” คนกำลังโกรธก็ฟาดหัวฟาดหางใส่น้องสาว ที่ใครๆ ต่างก็เห็นดีเห็นงามให้สองพ่อลูกนั่นอยู่ทานข้าวเย็น
“ไม่ใช่สักหน่อยพี่แพท คุณแดเนียลกับคุณเอริคคุยสนุกดีออก ตอนแรกพีชก็กลัวๆ อยู่เหมือนกัน แต่ดูๆ ไป คุณแดเนียลใจดีมากๆ เลยนะพี่แพท ให้ทิปพีชตั้งเยอะแน่ะ” พาธินีย์รีบบอกถึงเงินแบงค์สีเทาปึกใหญ่ที่คุณแดเนียล วางไว้ให้ แม้ไม่อยากรับแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ และเดือนนี้เด็กๆ ในร้านคงได้เงินค่าเหนื่อยกันเพิ่มขึ้นเพราะเงินพิเศษที่ได้จากลูกค้า ทุกคนจะเอาไปรวมกันไว้ และแบ่งจ่ายให้เท่าๆ กัน
‘รับไว้เถอะหนูพีช นี่มันเงินส่วนที่หนูควรได้นะ ... รู้ไหมผมรู้สบายขึ้นเยอะเลย คงต้องมาใช้บริการที่ร้านเพลินรักบ่อยๆ แล้วล่ะ’ แค่นึกถึงคำพูดของหนุ่มใหญ่ เจ้าของแก้มเนียนก็หน้าแดงระเรื่อ ทำให้พัทตราต้องเหลือบมองอย่างจับสังเกต
“ยัยพีช แกเป็นอะไรหรือเปล่า อย่าบอกนะว่าหลงเสน่ห์คนแก่ ยังไม่เลิกสเปกรุ่นพ่ออีกหรือไงยัยน้องบ้า” เมื่อยิ่งจ้องหน้าของน้องสาวสุดที่รักก็ยิ่งแดงระเรื่อ แถมยังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่เลิก
“บ้าน่า...พี่แพท ใครเขาจะมาสนใจพีชกันล่ะ แล้วอีกอย่างคนป่วยอย่างพีชเนี่ยเหรอคะ จะมีสิทธิ์ไปชอบคนรวยล้นฟ้าขนาดนั้น พีชว่าเขาคงไม่มาแลเราหรอก” น้องสาวให้เหตุผล ทั้งที่หน้ายังแดงไม่เลิก
“คิดได้แบบนั้นก็ดี จะได้ไม่ต้องมานั่งร้องไห้ขี้มูกโป่งเพราะคนแก่” คนเป็นพี่ได้ทีก็แหย่น้องสาวพร้อมกับโยกศีรษะของพาธินีย์เบาๆ ก่อนช่วยกันทำอาหารเลี้ยงต้อนรับลูกค้าคนสำคัญของมารดา ที่ได้ยินเสียงหัวเราะต่อกระซิกดังมาแว่วๆ
หลังรับประทานอาหารเย็นฝีมือสาวไทยเสร็จเรียบร้อย สองพ่อลูกยังคงนั่งพูดคุยกับเจ้าของร้านต่อ หากมีแต่คนเป็นแม่และพาธินีย์เท่านั้นที่พูดคุย ส่วนพัทตราได้แต่ถามคำตอบคำ แถมเธอยังรู้สึกรำคาญเสียงหัวเราะต่อกระซิกราวกับสนิทสนมกันมาเป็นแรมปีของมารดากับอีตาฝรั่งจอมลามก แล้วยังน้องสาวสุดที่รักของเธออีกคน ปกติขี้อาย พูดก็น้อย ทว่าว่าวันนี้กลับพูดได้มากขึ้นแถมเวลาพูดคุยกับคุณแดเนียลก็ทำท่าเอียงอายอยู่ตลอดเวลา
‘ยัยพีช นี่อย่าบอกนะว่าแกหลงเสน่ห์คุณแดเนียลเข้าให้แล้วนะ’ พัทตราแอบคิดอยู่เพียงลำพัง พลางชำเลืองมองอาการน้องสาว และมันก็เข้าเค้าซะด้วย ก่อนเบนสายตาหันไปมองคนบ้ากามที่มักส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้เธอเป็นระยะ ทำให้พัทตราเกิดอาการหมั่นไส้พ่อลูกชายจอมลามกของคุณแดเนียล จึงขอตัวเลี่ยงออกไปสูดอากาศภายนอก
ทว่าสายตาคู่คมกลับจ้องมองอย่างมีแผน จนเจ้าของร้านคนสวยพ้นสายตาไป แถมยังแอบหัวเราะอยู่ในใจ เหตุก็เพราะอารมณ์ที่ยังค้างคา ทำให้เขาต้องหาทางสานต่อให้จบภายในวันนี้ และโอกาสก็มาถึงแล้ว ริมฝีปากได้รูปยกขึ้นน้อยๆ อย่างคนเจ้าเล่ห์
“พ่อครับ ผมขอตัวสักครู่นะครับ พอดีอยากออกไปสูดอากาศหลังฝนตกดูบ้าง” แอนโทนี่กล่าวขออนุญาตเสียงทุ้ม แล้วหันไปส่งยิ้มให้พิไลลักษณ์ที่แนะนำสถานที่ให้พ่อหนุ่มรูปหล่อซะเสร็จสรรพ แถมยังเป็นที่ประจำของบุตรสาวคนโตซะด้วย
“ที่ด้านหลังของร้าน มีซุ้มดอกไม้สวยๆ หลังฝนตกแบบนี้ ดิฉันว่าคงสวยน่าดู เชิญคุณเอริคเดินชมได้ตามสบายเลยนะคะ แถมยังเป็นมุมโปรดของยัยแพทด้วยค่ะ”
“ขอบคุณครับ คุณพิไล”
“อุ๊ย! คุณเอริคไม่ต้องเรียกดิฉันแบบนั้นหรอกค่ะ” พิไลลักษณ์จีบปากจีบคอพูดจนพาธินีย์ต้องแอบสะกิดแขนปรามมารดา ก่อนเจอสายตาขุ่นของคนเป็นแม่หันมาตวัดใส่ พาธินีย์จำต้องหยุดการกระทำโดยปริยาย
ตอนอวสาน “น้องทาม ฟังแม่นะครับ” เมื่อได้ยินเสียงมารดา ลูกชายตัวน้อยก็หันมองมารดาด้วยความสงสัย ก่อนพยักหน้ารับฟังแต่โดยดี“ลุงคนนั้น เขาเป็นพ่อของน้องทามครับ น้องทามจำได้ไหม ที่แม่แพทเอารูปของคุณพ่อวางไว้ข้างเตียงของน้องทาม” หลังจากได้ฟังสิ่งที่มารดาบอก เด็กชายวัยสี่ขวบเศษค่อยๆ หันไปมองคุณลุงที่ตอนนี้กำลังส่งยิ้มมาให้ “จำได้ครับ จริงๆ เหรอครับแม่แพท” เพียงเท่านั้นเสียงของน้องทามเอ่ยออกมาด้วยความดีใจ กระโดดกอดแม่แพทจนแทบจะล้มไปด้วยกัน “จริงครับ แต่ตอนนี้ แม่ว่าน้องทามขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าดีกว่านะครับ เปียกฝนแบบนี้เดี๋ยวจะไม่สบาย ส่วนเ
ก่อนอวสานน้องทามกระโดดเหยงๆ บนเตียงนุ่ม ออกอาการดีใจเมื่อได้เห็นคุณลุงคนที่พ่อหนุ่มน้อยเฝ้าคิดถึง ก่อนที่ดวงตากลมใสของพ่อหนุ่มน้อยจะสะดุดเข้ากับกรอบรูปที่ตั้งอยู่บนโต๊ะข้างเตียง ซึ่งแม่แพทคนสวยนำมาวางไว้นับตั้งแต่ตนอายุได้สามขวบ พลันให้หันไปจ้องมองภาพถ่ายนั้นพร้อมกับการชะเง้อมองคนที่อยู่ข้างล่าง“เหมือนกันเลย” เสียงร้องด้วยความดีใจของพ่อหนุ่มน้อยลั่นคับห้อง ก่อนหันกลับมากระโดดโลดเต้นอยู่บนเตียงเช่นเดิมทันทีที่ได้เห็นหน้าพ่อหนุ่มน้อยซึ่งยิ่งโตก็ยิ่งมีใบหน้าละม้ายคล้ายคลึงกับคนที่เป็นต้นแบบของเด็กหนุ่ม ก็ชะงักมือแล้วส่งยิ้มให้อย่างอบอุ่น แถมท้ายด้วยการยักคิ้วให้ลูกรัก ซึ่งน้องทามก็เฉลียวฉลาดยักคิ้วกลับไป แล้วรีบวิ่งลงมาจากชั้นบน ก่อนเลียบๆ เคียงๆ มองหามารดา พอมารดาเผลอ สองเท้าเล็กๆ ทำท่าย่องเบา แล้วไปคว้าเอาร่มกันฝน พอได้ก็รีบวิ่งไปหน้าร้านทันที “คุณลุงครับ ทามเอาร่มมาให้ครับ” มือน้อยยื่นร่มในมือให้ พร้อมด้วยรอยยิ้มกว้าง เมื่อยิ่ง
ตอนที่ 108สามปีผ่านไป...หลังจากเจมส์จากไปในวันนั้นจวบจนมาถึงวันนี้วันที่เด็กชายเอเรส อายุย่างเข้าสู่วัยห้าขวบ ซึ่งกำลังแผลงฤทธิ์นิสัยเอาแต่ใจที่ได้เชื้อจากพ่อมาแบบเต็มๆ ทพัทตราวิ่งวุ่นกับการตามหาลูกชายตัวน้อยที่มักเล่นซน แล้วชอบหาที่หลบซ่อนทำให้ผู้เป็นแม่ต้องเหนื่อยแทบทุกวัน ส่วนลูกชายตัวดีก็แอบหนีไปเล่นที่ซุ้มดอกไม้มุมโปรดของมารดา ก่อนปาก้อนหินลงไปในน้ำเล่นอย่างเพลิดเพลิน โดยมีเจ้าเฉาก๊วยและเจ้าไอติม บรรดาลูกหลานของเจ้าหวานเย็นอดีตลูกสุนัขพันธุ์บลูด๊อกตัวโปรดของมารดา คอยเฝ้าคลอเคลียอยู่ไม่ห่าง ฝ่ามือน้อยของเด็กชายเอเรสลูบที่ศีรษะของเจ้าลูกหมาแสนน่ารัก ด้วยความรักและเด็กน้อยก็มีเจ้าสองตัวเป็นเพื่อนเล่นอยู่ตลอด ในเวลาที่มารดายุ่งอยู่กับงานในร้านจ๋อม! เสียงปาก้อนหินลงในแม่น้ำซึ่งมีแนวกั้นตลอดแนวเพื่อความปลอดภัยยังคงดังไม่หยุด ก่อนที่เด็กชายเอเรส อันน์เบริกส์ จะหยุดปาเมื่อเมื่อยแขน ดวงตากลมใสไร้เดียงสาเริ่มเห
ตอนที่ 107ในค่ำคืนที่ว้าเหว่ยามบนท้องกำลังโปรยปรายหยาดฝน ภายในห้องนอนพัทตราวางภาพถ่ายของน้องสาวลงอย่างช้าๆ เมื่อได้อ่านข้อความข้างหลังภาพจบลง ความรู้สึกที่ปักใจเชื่อมาตลอดว่าคุณแดเนียลทำร้ายน้องสาวของเธอเริ่มกระจ่างแจ้ง ความโกรธค่อย ๆจางหายไป เมื่อได้รับรู้ความจริงที่ชายหนุ่มพร่ำบอกเธอในวันที่เธอรู้ว่าน้องสาวได้จากโลกนี้ไป ในตอนนั้นพัทตรายอมรับกับตัวเองว่าจะไม่มีวันให้อภัยเขาเด็ดขาด เพราะพ่อของเขาเป็นคนทำให้พีชต้องตาย เธอเชื่ออย่างนั้น! แต่ในตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเธอเองที่ผิด ผิดที่ไม่เชื่อในตัวเขาและยังเอาความโกรธมาตัดสินเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด‘คุณเอริค ฉันขอโทษ ฉันคงเป็นผู้หญิงที่งี่เง่าที่สุดเลยใช่ไหม’ แววตาเศร้าหมองก้มมองลูกน้อย สายใยรักที่เขาได้ฝากไว้ให้เธอและยังเป็นแรงใจให้เธอต่อสู้กับความว้าเหว่ในวันที่ไม่มีพ่อของเขาเคียงข้าง“แม่ขอโทษนะครับน้องทาม” เสียงเศร้าของผู้เป็นแม่พึมพำเบาๆ ก่อนจัดการห่มผ้าให้ลูกน้อยที่อากาศภา
ตอนที่ 106หนึ่งปีผ่านไป...ภายในร้านสปาเพลินรัก เจ้าของร่างบอบบางวุ่นวายอยู่กับการสวมเสื้อผ้าให้ลูกน้อยที่กำลังซุกซน โดยการดิ้นหนีไม่ยอมให้มารดาสวมเสื้อผ้าให้ พัทตราส่งสายตาดุไปยังลูกน้อย ก่อนยกมือปาดเม็ดเหงื่อที่ผุดเต็มหน้าผาก เมื่อตั้งแต่ตื่นเช้ามาเธอก็วิ่งวุ่นกับการเปิดร้าน เมื่อพนักงานในร้านลาหยุดกะทันหันถึงสองคนแล้ว ไหนพอลูกชายตัวแสบตื่นนอนมาก็ร้องกระจองอแง ครั้นพอได้เห็นหน้ามารดาเท่านั้นเจ้าลูกชายตัวแสบก็เงียบกริบ ทั้งยังส่งยิ้มแป้นหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจ พานทำให้ผู้เป็นมารดานึกถึงคนเป็นพ่อที่นิสัยเอาแต่ใจคงได้กันมาแบบเต็มๆ“น้องทาม นอนนิ่งๆ นะครับ เดี๋ยวแม่แพทจะใส่เสื้อให้นะครับ ดูสิเนี่ย เสื้อน่ารักไหม ลายการ์ตูนด้วย เห็นไหมครับ น่ารักไหมครับ” เมื่อส่งตาดุๆ ไปปรามเจ้าลูกชายตัวแสบก็หาได้รู้เรื่องไม่ คนเป็นแม่ก็พยายามหว่านล้อมหลอกล่อด้วยเสื้อลายการ์ตูนโดเรมอน เพียงเท่านั้นเจ้าของดวงตากลมโตใสวัยขวบเศษนอนนิ่งจ้องเขม็ง เรียวปากจิ้มลิ้มแย้มยิ้ม ก
ตอนที่ 105ร่างสูงใหญ่ยืนนิ่งใกล้เนินหญ้าเขียวขจี ดวงตาคู่คมภายใต้แว่นกันแดดสีดำสนิทเฝ้ามองหลุมฝังศพของบิดา ซึ่งอยู่เคียงคู่หลุมศพของพาธินีย์“คุณพ่อ คุณพีช ผมมาเยี่ยมแล้วนะครับ สบายดีใช่ไหมครับ” เจ้าของแววตาคู่คมกล่าวเพียงเบาๆ ก่อนย่อตัวลงนำช่อดอกไม้ช่อใหญ่วางไว้หน้าหลุมศพของคนทั้งสอง“คุณพีช ผมเอาดอกลิลลี่ช่อโตที่คุณชอบมาให้แล้วนะครับ บ้างทีช่อนี้อาจจะอยู่นานหน่อยนะครับ อีกนานกว่าผมจะได้มาเยี่ยมและเปลี่ยนดอกไม้ให้คุณ” สิ้นเสียงทุ้มที่พึมพำเช่นนี้ทุกครั้งนับแต่กลับมาพักพิงอยู่ที่เมืองไทย เจ้าของเรือนร่างสูงใหญ่หันไปมองเสียงรถที่แล่นเข้ามาใกล้และจอดนิ่งสนิท เรียวปากได้รูปยกยิ้มน้อยๆ ก่อนเดินเข้าไปจับมือกับเจมส์รซึ่งได้นัดพบกันหลังจากที่แอนโทนี่ได้ให้เจมส์ติดต่อกว้านซื้อที่ดินและเกาะส่วนตัวเพื่อสร้างอนาคตใหม่ และในวันนี้ยังทำให้เขาได้รับทราบข่าวดีว่าตอนนี้ลูกน้อยที่เฝ้ารอได้ลืมตาดูโลกแล้ว และยิ่งดีใจเป็นที่สุดเมื่อดวงใจคนแรกเป็นลูกชาย“ลูกชาย! แพทมีลูกช