ตอนที่35
ลบเรื่องของพี่ชายออกจากสมอง
วุ้นเย็นได้ยินคำพูดของโสภาแล้ว ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงดีใจจนน้ำตาไหล แต่หลังจากฟื้นตื่นในครั้งนี้ เธอก็ไม่ได้รู้สึกยินดีอีกแล้ว
“ช่างเถอะค่ะ จะให้อภัยหรือไม่หนูก็ไม่ได้สนใจอีกแล้ว ต่อจากนี้ไปหนูจะลบเรื่องของพี่ชายออกจากสมอง ไม่ไปยุ่ง ไม่เข้าใกล้อีกแล้วค่ะ”
ตึก!
พูดจบหัวใจของเธอก็กระตุกขึ้นมา เมื่อสายตาสบเข้ากับดวงตาคมลึกของเมธัชเข้าอย่างจัง
“อ้าวคุณธัช มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ” โสภาที่มองตามสายตาของลูกสาว ก็หน้าเสียไปนิดหนึ่งเมื่อเห็นว่าเมธัชเข้ามาโดยไม่ให้ซุ่มให้เสียง ไม่รู้ว่าได้ยินที่วุ้นเย็นพูดหรือเปล่า หากได้ยินก็กลัวจะโกรธจนไม่มองหน้ากันอีก
“เพิ่งมาถึงครับคุณน้า” เขาตอบโสภาแต่ดวงตายังจับอยู่ที่ใบหน้าเรียวเล็กของวุ้นเย็น พร้อมทั้งค่อย ๆ เดินเข้าไปหา และหยุดยืนอยู่ข้างเตียงคนไข้ ก่อนจะจับมือที่บอบบางของหญิงสาวขึ้นมาแล้วบีบเบา ๆ
“ขอบคุณนะ ที่ตื่นมาให้พี่ได้ขอโทษ” เสียงที่อ่อนโยนของพี่ชายคนเดิมกลับมาอีกครั้ง นานมากแล้วที่เธอไม่ได้ยินมัน ในความรู้สึกลึก ๆ นั้นเธอเฝ้ารอเสียงนี้มาเนิ่นนานแล้ว แต่มาได้ยินในวันนี้ วันที่เธอตัดเขาออกจากหัวใจไปแล้ว จะมีประโยชน์อะไรอีก
เมื่อเห็นวุ้นเย็นยังนั่งนิ่ง สีหน้าก็เย็นชาไร้ความรู้สึก โสภาจึงพูดขึ้นเบา ๆ
“เอ้อ! คุณธัชมาก็ดีเหมือนกัน น้ารบกวนคุณธัชอยู่กับยายวุ้นให้สักครู่ได้ไหมคะ พอดีน้าจะลงไปซื้อของใช้ส่วนตัวนิดหน่อยน่ะค่ะ”
วุ้นเย็นได้ยินดังนั้นก็ดึงมือกลับมา ก่อนจะพูดกับผู้เป็นแม่
“หนูอยู่คนเดียวได้ค่ะคุณแม่”
“ได้สิครับคุณน้า” เมธัช พูดสวนขึ้น
โสภามองทั้งคู่อย่างลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจเดินออกมา ปล่อยให้สองพี่น้องได้ปรับความเข้าใจกัน และหวังว่าจะเข้าใจกันได้เสียที
เมื่อโสภาออกไปแล้ว ทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบงันจนวุ้นเย็นรู้สึกอึดอัด แต่ก็ยังไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองสบตากับอีกฝ่าย
เมธัชกวาดตามองไปทั่วเรือนร่างบอบบางด้วยสายตาที่อ่อนโยน ปนเจ็บปวด เขาเกือบจมอยู่กับความทุกข์ใจไปตลอดชีวิต หากวุ้นเย็นไม่ตื่นขึ้นมาอีกแล้ว
ตั้งแต่เหตุการณ์วันนั้น เขาแทบข่มตาให้หลับลงไม่ได้ ในแต่ละคืน เห็นแต่ภาพร่างที่อ่อนปวกเปียก นอนหายใจรวยรินกับใบหน้าที่ซีดเซียวเหมือนไร้ซึ่งสีเลือดอยู่ในอ้อมแขนของเขา กับภาพที่หมอปั๊มหัวใจและเสียงร้องไห้ปานใจจะขาดของโสภา แม้ตอนนั้นเขากับพ่อ จะปลอบโสภา แต่เขารู้ตัวว่าสติของตัวเองก็แทบหลุดลอยไปเหมือนกัน เพิ่งจะรู้ว่าหญิงสาวตรงหน้ามีอิทธิพลต่อหัวใจของเขามากแค่ไหน และคงจะมีมานานแล้ว เพียงแต่คำว่าพี่ชายกับน้องสาว มันขีดเส้นจำกัดพื้นที่ของความรู้สึก ไม่ให้มีมากและเกินเลยไปกว่านั้น แม้จะเพิ่งรู้ใจตัวเอง ก็ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรได้แล้ว เพราะเขากำลังจะแต่งงานกับดุจดาว ซึ่งเป็นหญิงสาวอีกคนที่เขาไม่สามารถทำร้ายความรู้สึกที่เธอมีให้เขาได้เช่นกันอีก
“พี่ดีใจมาก มากที่สุดในชีวิตเลย ที่มาหาน้องในวันนี้แล้วได้เห็นน้องลุกขึ้นมานั่งได้ พูดได้เหมือนเดิม ไม่เอาแต่นอนนิ่งไม่ไหวติงเหมือนทุกวัน พี่ชายขอโทษนะ ที่...”
“ไม่ต้องพูดถึงเรื่องวันนั้นอีก หนูไม่อยากฟัง”
หญิงสาวพูดสวนขึ้นพร้อมกับเอามือปิดหูไว้แน่น เพราะรู้สึกเจ็บปวดและอับอาย กับสิ่งที่เขาทำกับเธออย่างหยาบคายนั้น
เมธัชเองก็รู้สึกเกลียดตัวเองไม่น้อยที่ไม่ควบคุมอารมณ์ให้ดี แต่เขาทนไม่ได้ที่เห็นสายตาของวุ้นเย็นมองเขาอย่างเกลียดชังและผิดหวังแบบนี้ เขายังอยากเป็นพี่ชายที่แสนดีให้เธอรักเหมือนเดิม ไม่ใช่มองเขาเหมือนเป็นสัตว์ร้ายเช่นนี้
หมับ
อึก!
วุ้นเย็นนิ่งงันเมื่อ เรือนร่างผอมบางของเธอถูกวงแขนอันอบอุ่นของเมธัชโอบกอดเอาไว้แน่น พร้อมกับคำขอโทษซ้ำ ๆ และอ่อนโยน
“พี่ชายผิดไปแล้ว เราดีกันเถอะนะ อย่ามองพี่ด้วยสายตาแบบนี้เลย มันเจ็บเหลือเกินวุ้นเย็น”
“ฮึ! เจ็บเป็นเหมือนกันเหรอ ตอนที่พี่ใช้สายตาแบบเดียวกันมองหนู ทีนี้รู้หรือยัง ว่าหนูจะรู้สึกยังไง”
วุ้นเย็นพูดทั้งน้ำตาที่เริ่มรินไหลออกมา เธออยากจะผลักไสอ้อมแขนนี้ออกไปให้พ้น แต่ก็ไม่มีเรี่ยวแรงมากพอ
“รู้ พี่รู้แล้ว น้องจะด่าจะว่าจะตีพี่ก็ได้ ขอแค่อย่าเฉยชากับพี่เลยได้ไหมครับ” น้ำเสียงที่ทั้งสุภาพและนุ่มนวล อ่อนโยนทำให้วุ้นเย็นเริ่มรู้สึกใจอ่อน แต่ในใจลึก ๆ ก็ไม่ได้โกรธมากมาย แค่น้อยใจ และตกใจแค่นั้น
“ปล่อยหนูก่อน พวกเราโตแล้วไม่ควรมาทำอะไรแบบนี้ อีกอย่างหนูเริ่มเหนื่อยด้วย” เธอบอกเสียงสั่น และก็ได้ผลเมื่อเมธัชปล่อยวงแขนออกทันที ด้วยสีหน้าที่ตื่นตระหนก
“เหนื่อยหรือ มากไหมพี่เรียกหมอให้นะ” เขาพูดพลางจะกดสัญญานขอความช่วยเหลือ
หมับ!
แต่ฝ่ามือบางก็รั้งแขนที่มีกล้ามเป็นมัด ๆ เอาไว้เสียก่อน
“ไม่ต้องหนูแค่ง่วงนอนน่ะ”
ตอนที่35 ลบเรื่องของพี่ชายออกจากสมองวุ้นเย็นได้ยินคำพูดของโสภาแล้ว ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงดีใจจนน้ำตาไหล แต่หลังจากฟื้นตื่นในครั้งนี้ เธอก็ไม่ได้รู้สึกยินดีอีกแล้ว “ช่างเถอะค่ะ จะให้อภัยหรือไม่หนูก็ไม่ได้สนใจอีกแล้ว ต่อจากนี้ไปหนูจะลบเรื่องของพี่ชายออกจากสมอง ไม่ไปยุ่ง ไม่เข้าใกล้อีกแล้วค่ะ”ตึก!พูดจบหัวใจของเธอก็กระตุกขึ้นมา เมื่อสายตาสบเข้ากับดวงตาคมลึกของเมธัชเข้าอย่างจัง “อ้าวคุณธัช มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ” โสภาที่มองตามสายตาของลูกสาว ก็หน้าเสียไปนิดหนึ่งเมื่อเห็นว่าเมธัชเข้ามาโดยไม่ให้ซุ่มให้เสียง ไม่รู้ว่าได้ยินที่วุ้นเย็นพูดหรือเปล่า หากได้ยินก็กลัวจะโกรธจนไม่มองหน้ากันอีก “เพิ่งมาถึงครับคุณน้า” เขาตอบโสภาแต่ดวงตายังจับอยู่ที่ใบหน้าเรียวเล็กของวุ้นเย็น พร้อมทั้งค่อย ๆ เดินเข้าไปหา และหยุดยืนอยู่ข้าง
ตอนที่34แก้เคล็ด “ก็ไม่มีอะไร คุณธัชเขาบอกว่ารู้สึกผิด ที่เป็นต้นเหตุให้หนูต้องเป็นแบบนี้” โสภาบอกเสียงเรียบ แต่วุ้นเย็นใจหายวาบ เพราะวันนั้นเธอไม่ได้บอกใครว่าไปหาเมธัชที่คอนโด “ยะยังไงคะ พี่ชายไม่ได้ทำอะไรให้หนูเสียหน่อย” ถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ พลางหรุบตาลง มองแก้วน้ำสมคั้นที่อยู่ในมือ เพื่อหลบสายตาของผู้เป็นแม่ “นี่แสดงว่าหนูลืมว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนั้นหมดแล้วใช่ไหมเนี่ย แต่ก็ไม่แปลก เพราะคุณหมอก็บอกอยู่ว่า ถ้าหนูตื่นมาอาจจะจำเหตุการณ์ในวันนั้นไม่ได้ชั่วคราวงั้นเดี๋ยวแม่เล่าให้ฟัง แต่ขอเก็บชามโจ๊กไปล้างก่อนนะลูก” พูดจบโสภาก็เก็บชามเข้าไปล้าง ‘จำได้ซิคะแม่ จำได้ทุกการกระทำและคำพูดของพี่ชายเลยล่ะ แต่หนูต้องขอโทษที่บอกแม่ไม่ได้ เพราะหนูอับอายเกินกว่าที่จะพูดถึงมันอีก’ เธอได้แต่ขอโทษแม่อยู่ในใจ และอยากรู้ว่าเมธัชจะบอกทุกคนยังไงที่จู่ ๆ เธอไปเป็นลมอยู่ที่คอนโดของเขาครู่เดียวโสภาก็เดินกลับมานั่งข้างเตียง แล้วเริ่มเล่าเหตุการณ์ในวันนั้น ตามที่เมธัชได้เล่าให้ฟัง
ตอนที่33 พี่ชายเป็นคนทำ “พอ ๆ ไม่ร้องแล้ว ๆ ว่าแต่ว่าหนูหิวไหมลูกแม่มีโจ๊กเห็ดหอม กับน้ำส้มคั้นที่หนูชอบไว้ด้วยนะ” “หิวค่ะ หิวมาก ไม่ได้กินอะไรมาตั้งห้าวันแน่ะ”หญิงสาวอ้อนผู้เป็นแม่ ทั้งที่ความจริงแล้วไม่ได้รู้สึกหิวแม้แต่น้อย แค่อยากทำให้แม่สบายใจ ชดเชยกับที่ได้ทำให้ร้องไห้มาเป็นอาทิตย์แล้ว และต่อจากนี้ไป เธอจะทำทุกอย่างให้แม่มีความสุขมากที่สุด จนกว่าธรรมชาติหรือโรคภัยจะพรากชีวิตของเธอไปจากโลกใบนี้ จะไม่แม้แต่คิดจบชีวิตของตัวเองอีกเลยโสภายิ้มอย่างยินดี พลางยื่นมือไปบีบปลายจมูกเล็ก เบา ๆ ก่อนจะรีบไปที่ตู้เย็น เปิดเอาโจ๊กออกมาอุ่น ครู่เดียวก็ส่งกลิ่นหอมอบอวนไปทั่ว ยั่วน้ำลายเป็นอย่างดีเสร็จแล้วโสภาก็วางบนโต๊ะ ก่อนจะเข็นไปที่เตียง พร้อมกับประคองให้วุ้นเย็นลุกขึ้นนั่งหญิงสาวมึนหัวนิดหน่อย เพราะนอนไปหลายวัน แต่ครู่เดียวอาการมึนหัวก็หาย ตากลมมองไปที่เนื้อโจ๊กสีขาวเนียนล
ตอนที่32 หนูขอโทษค่ะแสงสีขาวโพลนสาดแยงดวงตากลมใสเข้าอย่างจัง เปลือกตาบางจึงปิดลงอีกครั้ง ทั้งยังภาวนาในใจอย่าให้ตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าเธอยังอยู่ในโลกมนุษย์เลย เพราะเธอไม่สามารถรับความอับอาย และความเสียใจผิดหวังได้อีกแล้วแต่ดูเหมือนคำภาวนาจะไม่เป็นผล เมื่อเปิดเปลือกตาขึ้นอีกครั้ง ก็พบฝ้าเพดานสีขาวและแสงจากหลอดไฟนีออน กอปรกับกลิ่นยาอ่อน ๆ ที่ลอยมาแตะจมูก เธอก็ถอนหายใจออกมาด้วยความผิดหวังใช่แล้วเธอยังไม่ตาย ยังต้องตื่นมารับกับความเจ็บปวดที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ถึงจะสิ้นสุดเสียที หรือว่าเธอจำต้องทำในสิ่งที่ไม่เคยคิดจะทำ นั่นคือการกำจัดลมหายใจของตัวเอง แต่จะด้วยวิธีใดนั้น คงต้องไว้ค่อยคิดอีกที แต่จะต้องทำแน่นอน เพราะยังไงก็ต้องตาย จะได้ไม่ต้องไปลำบากเอาหัวใจของใครมาอีกความเย็นจากเครื่องปรับอากาศบวกกับความเงียบสงบ ทำให้เธอนอนลืมตานิ่งอยู่อย่างนั้นเพื่อคิดหาวิธีที่จะจบชีวิตของตัวเอง “วุ้นเย็น ฮือ..เป็นอย่างไรบ้างลูก..ฮือ” เสียงร้องนี้ ทำให้ความคิดของ
ตอนที่31อยากได้พี่เป็นผัววุ้นเย็นขยับได้เพียงก้าวเดียว เอวเล็กคอดกิ่วก็ถูกฝ่ามือหนากระชากร่างของเธอเข้าไปปะทะกับแผ่น อกกว้างอย่างแรงมือหนาอีกข้ากำหลังคอบางเอาไว้ แล้วโน้มใบหน้าอันหล่อเหลาลงมาจนปลายจมูกแทบจะชนกัน ก่อนพูดลอดไรฟันด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำเย็นชาชวนขนลุก “เธอรู้ไหมว่าดุจดาวเป็นคนดีและรักเธอมากแค่ไหน แล้วมันสมควรแล้วหรือที่จะให้คนอย่างเธอ มาพูดถึงแบบนี้ ฮะ”เมธัชตะคอกจนวุ้นเย็นได้กลิ่นมิ้นต์จากปากของเขา เธอตกใจมาก แต่เพราะความริษยาที่เก็บซ่อนไว้ลึก ๆ ภายใน แทรกขึ้นมาเหนือเหตุผลตามความเป็นจริง ทำให้หญิงสาวลืมกลัว ตะโกนกลับไปอย่างโมโหเช่นกัน “ทำไม พี่ดุจดาวสูงส่งมากอย่างนั้นหรือ แตะต้องไม่ได้เลยว่างั้น หรือว่าติดใจเรื่องบนเตียงมากจนถึงกับ อื้อ..”วุ้นเย็นร้องอู้อี้ด้วยความตกใจและเจ็บปวด เมื่อถูกริมฝีปากร้อนของอีกฝ่ายบดขยี้ปากเล็กอิ่มด้วยความรุนแรง จูบแรกของเธอช่างไร้ความอ่อนโยน อ่อนหวา
ตอนที่30 ดูแลกันถึงบนเตียงเมธัชกลับมาถึงคอนโดก็อาบน้ำแล้วสวมเพียงกางเกงบ็อกเซอร์ กับเสื้อกล้ามสีขาว อวดกล้ามแขนที่เรียงเป็นมัดสวยแบบพอดี ไม่เหมือนกับคนที่เพาะกล้ามหรือนักยกน้ำหนักอะไรแบบนั้น แต่มัดกล้ามที่อยู่บนเรือร่างของเมธัชนั้นดูละมุน มีเสน่ห์แบบพอดิบพอดีชายหนุ่มสวมเสื้อผ้าเรียบร้อยก็เดินเข้าไปในครัว จัดการต้มบะหมี่ใส่หมูสับอย่างง่าย ๆ เสร็จแล้วก็กำลังจะกิน แต่ยังไม่ทันได้คีบบะหมี่เข้าปาก เสียงกริ่งก็ดังขึ้นเสียก่อน คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ตาคมก็หรี่ลงด้วยความแปลกใจ แต่เมื่อเสียงกริ่งดังขึ้นซ้ำ ๆ เขาจึงเดินไปดูที่ตาแมวเมื่อเห็นร่างที่อยู่ตรงประตู รูม่านตาของเขาก็หดเล็กลง ก่อนจะหันหลังกลับเข้าไปในครัว พร้อมกับหัวใจที่เต้นแรงชายหนุ่มคีบบะหมี่เข้าปาก ทำเป็นไม่ได้ยินเสียงกริ่งที่ดังมาเป็นระยะ สุดท้ายเขาก็ทนไม่ไหว คว้าแก้วน้ำขึ้นดื่ม แล้วลุกขึ้นเดินเร็ว ๆ ไปกระชากประตูออกด้วยความหงุดหงิด โดยลืมไปว่ากำลังอยู่ที่ชุดที่หมิ่นเหม่แค่ไหน “มาทำไ