/ รักโบราณ / ยอดบุปผาโฉมสะคราญ / บทที่ 1-1สิงศพคืนชีพ

공유

บทที่ 1-1สิงศพคืนชีพ

last update 최신 업데이트: 2025-04-05 20:35:24

ยามนี้สงครามระหว่างแคว้นฟงหลิงและแคว้นต้าฉีมาถึงบทสรุปแล้ว ท้ายที่สุดฮ่องเต้แคว้นต้าฉีเจรจาของสงบศึกชั่วคราว เนื่องจากสูญเสียกำลังทหารไปร่วมหลายหมื่นนายแล้ว หากว่ายังคงดึงดันที่จะต่อสู้อีก ย่อมไม่ส่งผลดีต่อแคว้นต้าฉีเป็นแน่

ผู้นำศึกในครั้งนี้คือแม่ทัพใหญ่จางและรองแม่ทัพเซียวจิ้ง หลานชายของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน ซึ่งมีฝีมือเก่งกาจเป็นอย่างยิ่ง

"ซื่อจื่อ ยามนี้แคว้นต้าฉียอมสงบศึกแล้ว ข้าจะส่งคนไปรายงานเรื่องนี้กับฝ่าบาทโดยด่วน"

“เป็นเพราะครั้งนี้ มีท่านแม่ทัพใหญ่ร่วมออกศึก เราจึงสามารถมีชัยอีกครั้ง" เซียวซื่อจื่อตอบรับคำอย่างอารมณ์ดี

แม่ทัพใหญ่จางที่ได้ยินเช่นนั้นก็แย้มยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้นมา

"จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร ท่านเองมีฝีมือยอดเยี่ยม แคว้นฟงหลิงมีท่านอยู่ วันใดข้าตายไปย่อมหมดห่วงแล้ว"

"อย่าได้เอ่ยวาจาเช่นนี้ ท่านแม่ทัพจะต้องมีอายุยืนยาว"

สองคนพูดคุยสนทนากันอย่างสนุกสนาน ก่อนจะอนุญาตให้เหล่าทหารดื่มสุราเฉลิมฉลองให้กับชัยชนะในครั้งนี้ แม้จะยังไม่สามารถยึดแคว้นต้าฉีมาได้ แต่ฮ่องเต้แค้นต้าฉีย่อมไม่อาจจะก่อคลื่นลมได้ในเวลาอันรวดเร็วเช่นนี้เป็นแน่

เซียวจิ้งมองดูเหล่าทหารที่ร่วมดื่มสุราและเฉลิมฉลองกันอย่างมีความสุขก็อดยิ้มออกมิได้ ทุกคนตรากตรำกรำศึกมาหลายเดือน อีกทั้งยังต้องสูญเสียสหายรักในสนามรบที่ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กันมาหลายต่อหลายคน แม้ทุกคนจะดูมีความสุขที่ได้รับการเฉลิมฉลองชัยชนะ แต่ก็มีทหารบางคนยังไม่ลืมที่จะเทสุราลงพื้นและเรียกเหล่าทหารผู้วายชนม์มาร่วมดื่มสุราด้วยกัน

เซียวจิ้งถอนหายใจยาวๆ ออกมาก่อนจะมองไปรอบๆ บริเวณ

เขาคือเซียวจิ้ง ซื่อจื่อแห่งตำหนักชินอ๋อง ปีนี้อายุยี่สิบสองปี บิดาของเขาเป็นน้องชายของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน มารดาเป็นบุตรสาวของแม่ทัพรักษาชายแดน ในยามนั้นเสด็จพ่อรักและดูแลเสด็จแม่เป็นอย่างดี

จนกระทั่งในปีที่เขามีอายุสิบขวบ เสด็จพ่อได้แต่งสตรีนางหนึ่งและรับนางเข้ามาเป็นพระชายารอง นางเข้าตำหนักมาพร้อมกับบุตรชายอายุ6-7ปี เสด็จแม่ตื่นตระหนกทั้งสะเทือนใจไม่น้อย ไม่คาดคิดว่าสามีที่ตนรักและเทิดทูนมานานจะทรยศหักหลัง ลอบมีภรรยาอีกคนจนมีลูกชายด้วยกัน ทั้งที่บอกว่ารักนางเพียงคนเดียวแต่ลับหลังกลับซ่อนสตรีอีกคนเอาไว้

ไม่นานต่อมา เสด็จแม่ของเขาก็เกิดล้มป่วยสิ้นใจจากโลกนี้ไป เขาจำได้ว่าตั้งแต่เสด็จพ่อแต่งสตรีนางนั้นเข้ามา ก็ดุด่าทุบตีทำร้ายเสด็จแม่ ยิ่งท่านตาเสียชีวิต เสด็จแม่ไร้ที่พักพิง เสด็จพ่อก็ทำราวกับเสด็จแม่ไม่ใช่คน ยกย่องภรรยารองข่มเหงภรรยาเอก

เมื่อเสด็จแม่สิ้นชีพแล้ว เสด็จพ่อก็แต่งตั้งสตรีนางนั้นขึ้นเป็นพระชายาเอกชินอ๋องคนใหม่ มีศักดิ์เป็นแม่เลี้ยงของเขา

เซียวจิ้งเพิ่งเข้าใจเมื่อเติบโตขึ้นมา แท้ที่จริงเสด็จพ่อและสตรีนางนั้นก็ลักลอบมีสัมพันธ์กันมานานมากแล้ว จนกระทั่งนางตั้งครรภ์และคลอดบุตร อดทนเลี้ยงบุตรนอกสมรสอยู่นอกตำหนักอ๋องมานานถึงเกือบสิบปีจนได้เข้ามาในตำหนักอ๋อง สตรีผู้นี้ช่างมีความอดทนมากเสียจริงๆ

เมื่อนางเข้ามาพร้อมบุตรชาย ตัวเขาเองก็ราวกับเป็นส่วนเกิน บางคราเสด็จพ่อไม่อยู่สตรีนางนั้นก็ลอบกลั่นแกล้งเขาสารพัด

จวบจนเขาอายุสิบห้าปีจึงแอบหนีออกจากตำหนักอ๋องไปเข้าร่วมกองทัพ เสด็จพ่อมาตามเขากลับไป แต่เสด็จลุงฮ่องเต้กลับห้ามปรามและบอกว่ายินดีสนับสนุนเขาให้เข้ามาอยู่ในกองทัพภายใต้การดูแลของแม่ทัพใหญ่จาง เสด็จพ่อจึงหมดคำพูดและไม่สนใจเขาอีก

เซียวจิ้งไม่เคยใช้อำนาจถือดีว่าตนเป็นเชื้อพระวงศ์ ได้มาซึ่งตำแหน่งในทางมิชอบ ในทางกลับกันเขาอดทนทุกอย่างฝึกอย่างหนักจนกระทั่งได้เป็นรองแม่ทัพผู้มากความสามารถ

เขากับบิดาแทบจะไม่สนิทสนมกันเลย เซียวจิ้งมักมีท่าทีเฉยชาต่อผู้เป็นบิดา ทว่ากลับสนิทสนมกับเสด็จลุงผู้เป็นฮ่องเต้เสียมากกว่า

เซียวจิ้งใช้ชีวิตอยู่ในสมภูมิรบมาตั้งแต่เยาว์วัย กลิ่นอายโลหิตและไอสังหารล้วนแผ่กำจายออกมาจึงดูน่าเกรงขาม

เขาเองมีคู่หมั้นแล้ว นามว่าจางเหมี่ยวลี่ ซึ่งเป็นบุตรีแม่ทัพใหญ่จาง แม่ทัพใหญ่จางเป็นสหายรักกับเสด็จลุงของเขา อีกทั้งยังสอนวรยุทธ์เขามาหลายปี และตัวเขาเองก็เคารพแม่ทัพใหญ่จางเฉกเช่นอาจารย์ท่านหนึ่ง

เสด็จลุงฮ่องเต้ได้มอบสมรสพระราชทานให้เขาและจางเหมี่ยวลี่ เซียวจิ้งเองไม่รู้ว่าควรทำเช่นไร แม่ทัพใหญ่จางนับว่ามีบุญคุณที่ดูแลสั่งสอนเขา ส่วนเสด็จลุงนั้นก็ดีต่อเขามาก คอยปกป้องดูแลเขาในหลายๆ เรื่อง เซียวจิ้งจึงมิอาจจะปฏิเสธได้

จางเหมี่ยวลี่นั้นนับว่าเป็นสาวงามแห่งแคว้นฟงหลิง ความงามของนางนับเป็นหนึ่งไม่มีสอง แต่นางกลับมีนิสัยอำมหิต จิตใจบิดเบี้ยว หลงใหลในมนต์ดำ มีครั้งหนึ่งเซียวจิ้งสืบรู้ว่า นางถึงกับเอารกเด็กมาต้มเป็นน้ำแกงดื่มให้ตนเองงดงามเหนือผู้อื่น อีกทั้งในเรือนของนางล้วนมีแต่กลิ่นไออัปมงคล ยันต์สาปแช่งและขอพรล้วนแปะอยู่เต็มห้องนอนของนางเต็มไปหมด

แน่นอนว่าเซียวจิ้งเคยแอบไปดูนาง การจะแต่งงานกับหญิงสาวสักคน ย่อมต้องรู้จักนิสัยใจคอของนางมิใช่หรือ

ไม่รู้ว่าเสด็จลุงฮ่องเต้คิดอันใด ต้องการให้เขาแต่งกับนาง สตรีเช่นนี้หากรับเข้ามาเป็นภรรยาแต่งเข้าบ้าน ชีวิตจะต้องหาความสงบสุขไม่ได้เป็นแน่

เซียวจิ้งถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะแหงนหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า ครุ่นคิดหวนรำลึกถึงสหายผู้หนึ่งที่ไม่ได้พบเจอกันมาชั่วระยะหนึ่งแล้ว

นางเป็นสตรีที่องอาจกล้าหาญ มักแต่งกายเยี่ยงบุรุษอยู่ในสนามรบ ครั้งแรกที่พบกัน ย้อนไปเมื่อสองปีก่อน ตอนนั้นเขาได้รับบาดเจ็บเพราะถูกลอบสังหาร จึงหลบหนีพลัดหลงข้ามเขตแดนเข้าเขตแคว้นซ่ง เดิมทีเขาพอจะคาดเดาได้ว่านักฆ่าจงใจให้เป็นเช่นนี้ ต้องการให้เขาหนีตายไปในแคว้นศัตรู เพื่อจะได้ถูกศัตรูสังหารจะได้กลบเกลื่อนตัวผู้บงการนั่นก็คือมารดาเลี้ยงที่จ้างวานนักฆ่ามาปลิดชีพเขา

ยามนั้นนางเดินทางมาล่าสัตว์ จึงช่วยเขาเอาไว้ พวกเขาในขณะนั้น ไม่รู้ว่าต่างฝ่ายต่างมีสถานะที่ไม่อาจจะเกี่ยวพันกันได้ คนทั้งสองนัดพบเจอกันบ่อยครั้งในฐานะสหายที่ป่าแห่งนั้น

จนกระทั่งเกิดความสนิทสนม เซียวจิ้งคิดว่านางเป็นบุตรชายของชาวบ้านแถบชายแดน เพราะยามที่พบเจอกันนางมักแต่งกายเป็นบุรุษ แต่แท้จริงแล้วนางเป็นสตรี นางบอกว่าที่พักของนางอยู่ในป่า บิดามารดาตายจากไปจึงใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพัง

โชคดีมีวรยุทธ์จึงปลอมเป็นชายเอาตัวรอดอาศัยในป่าแห่งนี้ คนทั้งสองนัดพบกันนานวันเข้าเซียวจิ้งก็หลงรักนาง แต่เขาเองดูออกว่าในใจของนาง เหมือนจะไม่ได้คิดเช่นเดียวกับเขา แต่เขาก็มิเคยกล่าวโทษนางเพราะตัวเขาก็มีพันธะสมรสพระราชทานเช่นเดียวกัน

ถึงแม้เซียวจิ้งมีใจให้นางและหากได้แต่งงานกับนางจริงๆ นางย่อมต้องเป็นภรรยารอง จางเหมี่ยวลี่ใจดำอำมหิตเยี่ยงนั้น ย่อมไม่มีทางยอมให้นางอยู่อย่างสงบสุข เขายอมไม่ได้ที่จะต้องเห็นคนที่ตนรักต้องได้รับความไม่เป็นธรรม เมื่อคิดได้เช่นนี้ เซียวจิ้งจึงเลือกที่จะไม่บอกความรู้สึกของตนกับนางไป

แต่โชคชะตากลับเล่นตลก แท้จริงแล้วนางเป็นบุตรสาวแม่ทัพใหญ่ของแคว้นซ่ง แคว้นศัตรูของเขา อีกทั้งยังเป็นคนรักของฉู๋อี้เฉิน องค์ชายรองซึ่งยามนี้ก็คือฮ่องเต้แคว้นซ่งองค์ใหม่

มีครั้งหนึ่งสองแคว้นทำสงครามใหญ่ เขาและนางจำต้องประมือกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในสงครามครั้งนั้นนางยิงธนูมุ่งตรงมาที่เขา ไม่รู้เพราะเหตุใดเขาจึงไม่ยอมหลบ นางขมวดคิ้วก่อนจะเขวี้ยงมีดสั้นเข้าใส่ลูกธนู จนมันเปลี่ยนทิศทางไม่พุ่งเข้าหาจุดตายของเขา แต่กลับพุ่งเข้าใส่หัวไหล่ซ้ายแทน

เซียวจิ้งได้รับบาดเจ็บจนต้องถอยทัพ นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาพ่ายแพ้

เป็นความพ่ายแพ้ที่เขาไม่เคยคิดจะโกรธเคืองเลยเสียด้วยซ้ำ

เซียวจิ้งส่งเสียงหัวเราะเบาๆ คล้ายเยาะหยันตนเอง เขาส่งคนตามดูความเป็นไปของนางจนพบความผิดปกติของฉู่อี้เฉิน เขาถึงกับนัดนางออกมาพบและเตือนนางว่าให้นางระวังตัว เขาโง่เขลาหรือไรกันที่ทำเช่นนั้น นั่นมิเท่ากับเปิดทางให้ศัตรูล่วงรู้จุดอ่อนหรอกหรือ

คนเราต่อให้เก่งกาจเพียงใด แต่หากเป็นเรื่องของความรัก ย่อมพ่ายแพ้อย่างราบคาบ

ผู้ใดจะรู้ว่ารองแม่ทัพผู้เก่งกาจแคว้นฟงหลินจะหลงรักสตรีผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นศัตรูของตน

น่าตลกสิ้นดี!

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

관련 챕터

  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   บทที่ 1-2 สิงศพคืนชีพ

    "ซื่อจื่อ ไม่ดื่มหน่อยหรือ"เสียงของแม่ทัพใหญ่จางทำให้เซียวจิ้งหลุดพ้นจากภวังค์ ก่อนจะหันมายิ้มน้อยๆ"ไม่ล่ะ ข้าต้องเฝ้าดูสถานการณ์ อีกอย่างข้าไม่ค่อยอยากดื่มเท่าไหร่"แม่ทัพใหญ่จางพยักหน้า พลางกล่าวขึ้นมา"ซื่อจื่อ หากท่านกลับไปเมืองหลวงครั้งนี้ คงต้องแต่งงานกับเหมี่ยวเอ๋อร์ ข้ารู้ว่าท่านไม่เต็มใจ แต่สมรสพระราชทานย่อมมิอาจยกเลิกได้ หากท่านไม่รักนาง ก็ช่วยดีต่อนางได้หรือไม่ ข้ามีบุตรสาวเพียงคนเดียวเท่านั้น"เซียวจิ้งมองแม่ทัพใหญ่จางก่อนจะนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง และตอบรับคำ"ข้ารับปาก ข้าจะพยายาม"แม่ทัพใหญ่จางที่ได้ยินก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย"เวลานี้เฉวียนเอ๋อร์ได้รับบาดเจ็บเพิ่งจะฟื้นตัว กลับไปเมืองหลวงข้าจะหาหมอเก่งๆ มารักษาเขา""ข้าจะให้เสด็จลุงส่งหมอหลวงไปรักษาเขา อย่างไรเขาก็เป็นสหายของข้า""ขอบคุณซื่อจื่อยิ่งนัก"เซียวจิ้งพยักหน้าและขอตัวจากมา จางเฉวียนเป็นบุตรชายคนโตของแม่ทัพใหญ่จาง อีกทั้งยังเป็นสหายร่วมเรียนกับเขาตั้งแต่วัยเยาว์จึงสนิทสนมกันเป็นอย่างยิ่งชะตาสวรรค์กำหนดมาเช่นนี้แล้ว เขาเองก็ไม่อยากฝืนลิขิตสวรรค์เขาและสหายแดนไกลผู้นั้นคงมีวาสนาเพียงได้พบแต่ไม่ได้ครองคู่กันสวรรค์ช่า

    최신 업데이트 : 2025-04-05
  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   บทที่ 2-1 ร่างใหม่

    เซียวจิ้งที่ได้เห็นเหตุการณ์ตรงหน้าก็พลันนิ่วหน้า เขามองจางเหมี่ยวลี่ที่ยามนี้มองมาที่ตนด้วยแววตามีทั้งความตกตะลึงและคาดไม่ถึง อีกทั้งยังแฝงเอาไว้ด้วยความดีใจอีกหลายส่วนเขาไม่เคยชอบจางเหมี่ยวลี่ เพราะนางไม่ใช่คนนิสัยดีเท่าใดนักเขาจำได้ว่า ก่อนที่เขาจะเดินทางมาชายแดน เมื่อสองปีก่อน เสด็จลุงพระราชทานสมรสให้เขาและนาง หากชนะสงครามกลับเมืองหลวงเมื่อใด ก็ให้แต่งงานกันทันที ยามนั้นจางเหมี่ยวลี่พยายามจัดฉากเพื่อพบหน้าเขา นางนำขนมและอาหารที่ทำเองกับมือมาให้เขากิน มีครั้งหนึ่งเขาเห็นว่านางพนมมือขึ้นไหว้ไปที่อาหารและพึมพำบางอย่าง ก่อนจะเป่าลงไปในอาหารที่นำมาให้เขา เซียวจิ้งถอนหายใจออกมา และไม่แตะต้องของที่นางทำให้แม้แต่คำเดียวจางเหมี่ยวลี่หลงใหลวิชาบัดซบพวกนี้จนเสียสติไปแล้วหรืออย่างไรและมีอีกเหตุการณ์หนึ่ง เขาไปดื่มชาที่โรงน้ำชา และมีสตรีนางหนึ่งลอบส่งสายตาให้เขา เดิมทีเขาก็ไม่ได้ใส่ใจเท่าใดนัก แต่ไม่รู้ว่าจางเหมี่ยวลี่มาแอบตามเขามาตั้งแต่เมื่อใด เมื่อนางเห็นว่าสตรีผู้นั้นยั่วยวนเขา นางก็ตรงเข้ามาตบตีสตรีผู้นั้นอีกทั้งยังพังโรงน้ำชาจนย่อยยับ และเอ่ยทิ้งท้ายว่า"บุรุษของข้าใครกล้าแตะตายสถานเ

    최신 업데이트 : 2025-04-05
  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   บทที่ 2-2 ร่างใหม่

    เจี่ยงหร่านที่ได้ยินดังนั้นก็ลุกพรวดพราดขึ้นมา ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่หน้ากระจกทองเหลืองบานใหญ่ ภาพของหญิงสาวนางหนึ่งพลันปรากฏสู่สายตาของนางอย่างชัดเจนสตรีนางนี้มีใบหน้างดงามล่มเมือง งามเสียจนร่างเดิมนางเทียบไม่ติด ผิวพรรณขาวนวลเนียนราวหิมะ แต่งกายด้วยผ้าแพรพรรณเนื้อดี ดูสูงส่งเป็นอย่างมากแตกต่างจากนางโดยสิ้นเชิงนี่มันเรื่องอะไรกัน!เจี่ยงหร่านใจเต้นถี่ระรัว ภาพก่อนตายปรากฏขึ้นมารวมไปถึงภาพที่นางปลิดชีพตนเอง เรื่องราวทั้งหมดไหลวนกลับมา ก่อนที่นางจะเบิกตากว้างด้วยความคาดไม่ถึงสวรรค์! ข้ามาเกิดใหม่ในร่างของบุตรสาวแม่ทัพใหญ่แคว้นฟงหลิงเช่นนั้นหรือ เดิมทีนางตายไปแล้ว นางจึงเข้ามาอยู่ในร่างของสตรีนางนี้เมื่อคิดได้เช่นนั้น นางก็ทรุดกายลงบนเตียง ก่อนจะหลับตาลงช้าๆ ในใจมีทั้งความดีใจและเสียใจนางดีใจที่สวรรค์มีเมตตาให้นางได้กลับมามีชีวิตอีกครั้งแต่สิ่งที่่เสียใจก็คือ นางกลับต้องมาอยู่ในร่างของสตรีอื่น ซ้ำยังเป็นสตรีในแคว้นศัตรู ต้องอยู่ภายใต้เงาของคนอื่นไปจนวันตายนี่คือบทลงโทษจากสวรรค์ที่นางอกตัญญูต่อบิดามารดาใช่หรือไม่แม่ทัพใหญ่จางและจางฮูหยินที่เห็นว่าอยู่ๆ บุตรสาวก็เงียบงันไปทั้งยังร้อง

    최신 업데이트 : 2025-04-05
  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   บทที่ 3 ความบาดหมางระหว่างพ่อลูก

    นับจากวันนั้น เจี่ยงหร่านก็กลายเป็นจางเหมี่ยวลี่ไปโดยปริยาย แรกเริ่มนางไม่ค่อยคุ้นชินเท่าใดนัก คาดว่าคงจะต้องใช้เวลาอีกสักระยะกว่าทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทางด้านเซียวจิ้งนั้น หลังจากที่กลับมาถึงเมืองหลวงแล้ว เขาก็เดินทางเข้าวังหลวงเพื่อเข้าเฝ้าฮ่องเต้เสด็จลุงของตน ฮ่องเต้เซียวหลางดีใจเป็นอย่างมากที่หลานชายกลับมาอย่างปลอดภัยฮ่องเต้มีบุตรชายที่เกิดจากฮองเฮาหนึ่งคนและบุตรีหนึ่งคน องค์หญิงใหญ่เซียวหลิงคือบุตรสาวคนโตปีนี้อายุยี่สิบปีแล้ว เพราะเขาสุขภาพไม่สู้ดีทำให้มีบุตรยาก เมื่อสิบปีก่อนฮองเฮาเพิ่งจะมีพระประสูติกาลองค์รัชทายาท นามว่าเซียวหลง เวลานี้มีอายุได้สิบปีแล้ว หลังจากนั้นเขาก็ไม่สามารถมีทายาทได้อีก ในวังหลวงมิได้รับนางสนมเพิ่มเลยแม้แต่คนเดียวมีเสียงเล่าลือหนาหูว่าเขารักใคร่เซียวจิ้งราวกับบุตรแท้ๆของตน นั่นอาจทำให้เซียวจิ้งมีใจคิดก่อกบฏแต่เขากลับไม่คิดเช่นนั้น เขารู้นิสัยของเซียวจิ้งเป็นอย่างดี หลานชายผู้นี้หากไม่มีเรื่องสำคัญ ย่อมไม่คิดจะกลับเมืองหลวงอยู่แล้วเพราะอย่างนี้ข่าวลือภายนอกจึงมิอาจส่งผลใดๆ ต่อฮ่องเต้และฮองเฮาได้เลยแม้แต่น้อย"ถวายพระพรเสด็จลุงพ่ะย่ะค่ะ"เซียวจิ้งทำควา

    최신 업데이트 : 2025-04-21
  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   บทที่ 4 ภาพวาดของจางเหมี่ยวลี่

    เหลาสุราแห่งนี้เป็นเหลาสุราที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวงแคว้นฟงหลิง เป็นกิจการเดียวที่ตระกูลท่านตามี นับตั้งแต่ท่านตาท่านยายและท่านแม่ตายจากไป กิจการนี้เคยตกไปอยู่ในมือของหลี่ฟางมารดาเลี้ยงของเขา นางอ้างว่าเขาอายุยังน้อยยังไม่รู้เรื่องยื่นมือมาจัดการบัญชี เมื่อเขาเติบโตขึ้นต้องใช้ความพยายามอยู่ไม่น้อย เพื่อให้กิจการนี้กลับมาอยู่ในมือของตนอีกครั้งแม้หลี่ฟางจะเคยดูแลกิจการอยู่ช่วงหนึ่ง แต่กลับไม่อาจทำให้มีกำไรงอกงามขึ้นมาได้ เพราะสูตรลับทั้งหมดท่านแม่ให้เขาเก็บซ่อนเอาไว้อย่างดี เมื่อเขากลับมาดูแลอีกครั้ง จึงมอบสูตรลับให้คนที่ไว้ใจได้ ก่อนที่เหลาสุราจะกลับมาทำเงินเป็นกอบเป็นกำอีกครั้ง นับแต่นั้นทุกครั้งยามที่กลับมาเมืองหลวง เขามักจะมาอยู่ที่นี่ไม่ยอมกลับตำหนักชินอ๋องอีกเลยเมื่อเดินเข้ามาด้านในแล้ว ชายหนุ่มก็ขึ้นไปที่ชั้นบนสุดของเหลาสุรา ที่นี่คือที่พักของเขา ทุกอย่างถูกจัดแต่งอย่างหรูหรา มิได้ด้อยไปกว่าตอนที่เขาพำพักในตำหนักชินอ๋องเลย ท่านลุงหม่าบ่าวรับใช้คนสนิทของท่านแม่ที่เหลืออยู่เพียงคนเดียว ก็ติดตามเขามาอยู่ที่นี่ด้วย เมื่อเห็นว่าเขากลับมาแล้ว ท่านลุงหม่าก็ดีอกดีใจอย่างเห็นได้ชัด"ซื่อ

    최신 업데이트 : 2025-04-21
  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   บทที่ 5 น้ำแกงที่คุณหนูชอบ

    เจี่ยงหร่านทนอ่านต่อไปไม่ไหวแล้ว เจ้าของร่างเดิมใจกล้าเหลือเกิน นางทำสิ่งที่สตรีทั่วไปไม่ทำกันได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ ช่างเป็นสตรีที่น่ากลัวเสียจริงเชียวนางจัดการปิดหีบใบนั้นและเลื่อนเก็บเอาไว้ที่ใต้เตียงเช่นเดิม ในขณะเดียวกันก็มีเสียงของเยว่ซินที่แจ้งนางว่าอาหารมาแล้วเจี่ยงหร่านเองก็หิวจนตาลาย เมื่อเดินมาถึงนางก็ยิ้มจนนัยน์ตาโค้ง อาหารเช่นนี้สิจึงจะเหมาะสมกับนางเมื่อคิดได้ดังนั้น นางจึงจับตะเกียบคีบอาหารกินอย่างเอร็ดอร่อย อีกทั้งยังแบ่งส่วนที่เหลือให้สาวใช้นำไปกินอีกด้วย มื้อนี้นับว่าเป็นมื้อที่อิ่มที่สุดแล้ว ตั้งแต่ถูกขังอยู่ที่คุกหลวง ฟ่านเหยาไม่เคยให้นางกินดีอยู่ดี ให้อาหารนางเพียงวันละมื้อ ล้วนเป็นโจ๊กที่ใสราวกับน้ำข้าว เจี่ยงหร่านยกมือลูบท้องตนเอง ก่อนจะเรอออกมาอย่างสบายอารมณ์ เยว่ซินมองท่าทีของผู้เป็นนายด้วยความตะลึงงัน แต่ก่อนคุณหนูมักจะรักษากิริยามารยาท งดงามไร้จุดบกพร่อง แต่วันนี้นางกลับยกขาขึ้นพาดโต๊ะ อีกทั้งเรอออกมาอีกด้วยเป็นเพราะคุณไสยสะท้อนเข้าตัวเป็นแน่แท้ คุณหนูของนางจึงเสียสติถึงเพียงนี้ น่าสงสารเหลือเกินเมื่อเจ้านายกินอาหารอิ่มแล้ว เยว่ซินก็ตรงไปที่โต๊ะ ก่อนจะย

    최신 업데이트 : 2025-04-21
  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   บทที่ 6 เหลาสุราจิ๋นฮวา

    เมื่อเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นบุรุษเรียบร้อย เจี่ยงหร่านก็เดินลงมาจากรถม้าพร้อมกับเยว่ซิน ในมือของนางมีพัดอันหนึ่ง หญิงสาวสะบัดพัดกางออก พร้อมกับโบกพัดไปมา ท่าทางราวกับคุณชายเสเพลที่กำลังมาหาความสำราญยังเหลาสุราอย่างไรอย่างนั้นเมื่อเดินเข้ามาในเหลาสุราจิ๋นฮวาก็มีคนมาต้องรับนาง เป็นเด็กหนุ่มท่าทางนอบน้อมผู้หนึ่งเดินเข้ามาต้อนรับ เด็กหนุ่มจ้องมองเจี่ยงหร่านพลางค้อมคำนับ"ข้าน้อยไม่เคยเห็นหน้าคุณชายมาก่อนเลย ท่านคงเพิ่งย้ายมาอยู่ที่เมืองหลวงใช่หรือไม่"เจี่ยงหร่านพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะสอบถาม"เหลาสุราของเจ้ามีสุราชั้นดีอันใดบ้างเอามาให้ข้าลองดื่มหน่อย ขอสุราที่แรงที่สุด"ชายหนุ่มจ้องมองเจี่ยงหร่านอย่างอึ้งงัน สุราที่แรงที่สุดเช่นนั้นหรือเดิมทีเหลาสุราจิ๋นฮวามีสุราที่แรงที่สุดอยู่แล้ว เป็นสูตรลับเฉพาะที่ซื่อจื่อทำขึ้นมา โดยมีข้อแม้ว่าหากผู้ใดดื่มแล้วไม่เมาจะได้ตั๋วเงินหนึ่งพันตำลึงเป็นรางวัล เขาใคร่ครวญในใจก็คาดเดาได้ว่าชายหนุ่มผู้นี้คงจะมาท้าประลองหวังเงินกระมัง เมื่อคิดได้เช่นนั้นเขาจึงยิ้มแย้มพลางตอบรับคำ"ขอห้องชั้นบน เอาที่เห็นเมืองหลวงชัดๆ""เชิญทางนี้ขอรับ"หนุ่มน้อยพูดจบก็ผายมื

    최신 업데이트 : 2025-04-21
  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   บทที่ 7 พบกันอีกครา

    เจี่ยงหร่านเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าคนเดินมานางจึงหมุนตัวมามอง ก่อนจะพบว่าเป็นเซียวจิ้งนั้นเองความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมนั้น หลงใหลคลั่งใคล้เซียวจิ้งเป็นอย่างมาก มักจะหาหนทางเข้าใกล้จนแทบจะสิงร่างเขาอยู่แล้ว และไม่ยินยอมให้สตรีใดมาเข้าใกล้เขาอีกด้วย ถึงขนาดเผาโรงน้ำชาก็เคยทำมาแล้วนางไม่รู้ว่าจะเอ่ยทักทายเขาเช่นไรดี จะให้นางเข้าไปออดอ้อนเขาเหมือนเจ้าของร่างเดิมเคยทำ นางก็ทำไม่เป็น เมื่อคิดได้เช่นนั้นางจึงเดินเข้าไปหาเขา ก่อนจะยิื่นมือไปตบไหล่ของเขาอย่างสนิทสนมและเอ่ยทักทาย"ว่าอย่างไรสหาย...เอ่อ ท่านพี่จิ้ง"เซียวจิ้งปรายตามองมือของจางเหมี่ยวลี่ที่จับอยู่บนไหล่เขาปราดหนึ่ง ก่อนจะเบี่ยงกายหลบ อีกทั้งยังยกมือขึ้นปัดไหล่ที่ถูกนางจับราวกับรังเกียจเป็นอย่างยิ่งเจี่ยงหร่านที่เห็นเช่นนั้นก็แอบนึกนินทาในใจให้ตายเถอะ รังเกียจถึงเพียงนี้เชียวหรือ สหายเซียว ไม่เคยเห็นท่านในด้านนี้มาก่อนเลยเซียวจิ้งจ้องมองจางเหมี่ยวลี่ด้วยแววตาที่เรียบเฉย ก่อนจะถามขึ้น"เจ้าทำอันใด"เจี่ยงหร่านในร่างจางเหมี่ยวลี่ได้ยินดังนั้นก็ยิ้มเล็กน้อยก่อนจะตอบ"ท่านพี่จิ้ง ข้าก็มาดื่มสุราอย่างไรเล่า ข้าดื่มหมดกาแล้วยังไม่เ

    최신 업데이트 : 2025-04-21

최신 챕터

  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   ตอนพิเศษ

    หนึ่งปีหลังแต่งงานหลังจากแต่งงานกันหนึ่งปี เซียวจิ้งและเจี่ยงหร่านมีชีวิตหลังแต่งงานที่มีความสุขเป็นอย่างมาก ในทุกๆ วันเขาและนางมักจะมีรอยยิ้มที่แสนอบอุ่นให้แก่กันมีครั้งหนึ่งเซียวจิ้งเปิดไปเจอกล่องที่จางเหมี่ยวลี่เจ้าของร่างเดิมเก็บยันต์และสมุดบันทึกเอาไว้ เจี่ยงหร่านที่มาเห็นก็ถึงกับร้องว่าแย่แล้ว เดิมทีนางคิดจะทิ้งไป แต่ผู้ใดจะรู้ว่าเยว่ซินกลับนำกล่องใบนั้นมาพร้อมสินเดิมของนางด้วย นางรีบเอ่ยปรามไม่ให้เขาดูแต่เซียวจิ้งกลับเปิดอ่านและบอกว่าดีจริง จางเหมี่ยวลี่เขียนท่วงท่าอันเผ็ดร้อนทิ้งไว้ให้เขาอ่านเช่นนี้นับว่าดีมากและยังบอกอีกว่าคืนนี้จะนำท่วงท่าเหล่านั้นมาใช้กับนาง!ให้ตายเถอะ! คนผีทะเล!วันนี้เป็นวันที่เซียวจิ้งพาเจี่ยงหร่านกลับมาที่จวนตระกูลจาง ตั้งแต่แต่งงานกันเขาและนางไม่ได้ยึดถือกฎระเบียบตายตัวใดมากนัก อยากจะกลับจวนตระกูลจางเมื่อใดก็กลับมาได้เสมอแม่ทัพใหญ่จางและจางฮูหยินนั้นดีใจยิ่งนักที่บุตรสาวกลับมาเยี่ยมเยือนตน ยามนี้เซียวหลิงตั้งครรภ์ใกล้จะคลอดเต็มทีแล้ว จางเฉวียนก็คอยดูแลนางเป็นอย่างดี จางฮูหยินนั้นแม้จะดีใจที่ลูกสะใภ้กำลังจะมีหลาน แต่นางกลับไม่สบายใจเรื่องที่จางเหมี

  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   ตอนจบ

    เมื่อสงครามสงบลงแล้ว กองทัพทั้งหมดต่างยอมศิโรราบขึ้นตรงต่อแคว้นฟงหลิง แคว้นซ่งและแคว้นต้าฉี ผนวกเข้ารวมดินแดนเป็นหนึ่งเดียวกับแคว้นฟงหลิง ส่วนแคว้นฉู่ก็ยินดีสวามิภักดิ์และเปิดการค้าขายเชื่อมต่อทั้งสี่ชายแดน อีกทั้งยังส่งองค์หญิงมาเป็นสนมของฮ่องเต้เซียวหลางเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีอีกด้วย ผู้คนสามารถเดินทางค้าขายผ่านเมืองต่างๆ ได้โดยไม่ต้องเกรงกลัวสงครามอีกต่อไป แม่ทัพใหญ่จางและจางเฉวียนมุ่งหน้ากลับแคว้นฟงหลิงไปก่อน เพื่อกราบทูลเรื่องน่ายินดีนี้ให้ฝ่าบาททรงทราบ และบอกเซียวจิ้งและจางเหมี่ยวลี่ว่าหลังจากสถาณการณ์ที่นี่สงบเรียบร้อยแล้วก็ให้รีบตามกลับไปในภายหลังในยามนี้ เจี่ยงหร่านกำลังควบม้าเคียงข้างเซียวจิ้ง โดยมีเจี่ยงเฮ่าควบม้าตามหลังพร้อมกับสวีเฉินที่ติดตามมาด้วย เขาบอกว่าจะพานางมาดูสถานที่แห่งหนึ่ง แรกเริ่มเจี่ยงหร่านยังไม่เข้าใจ จนกระทั่งได้เห็นหลุมศพหลายหลุมตรงหน้า นางก็ถึงกับปล่อยโฮออกมาสวีเฉินเป็นคนฝังศพคนในตระกูลเจี่ยง เขาเขียนชื่อและทำสัญลักษณ์เอาไว้ จึงจำได้ว่าหลุมใดคือหลุมศพของแม่ทัพใหญ่เจี่ยง เขาขออภัยเจี่ยงหร่านที่ศพอื่นเขาไม่ได้ทำสัญลักษณ์เอาไว้ เพราเขาไม่เคยเห็นหน้าคนอื

  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   บทที่ 42 จัดการคน(เคยรัก)ที่แสนชั่วช้า

    กองทัพแคว้นซ่งพ่ายแพ้อย่างราบคาบ บรรดาเหล่าทหารที่ไม่ถูกฆ่าตายล้วนถูกจับเป็นเชลย แม้แต่ฉู่อี้เฉินยามนี้ก็ถูกลากตัวมาขังเอาไว้ในคุกที่เมืองสืออี้ชายแดนแคว้นฟงหลิง เขาตะโกนอย่างบ้าคลั่ง ไม่คาดคิดว่าตนเองจะพ่ายแพ้ได้เช่นนี้เจี่ยงหร่านรีบเข้าไปประคองเซียวจิ้งที่ร่างกายเต็มไปด้วยคราบโลหิตของผู้อื่น เขาหันมายิ้มให้นางอย่างภูมิอกภูมิใจ"ฝีมือยิงธนูของเจ้ายอดเยี่ยมมาก"เจี่ยงหร่านส่งยิ้มให้เซียวจิ้ง นางใช้มือเช็ดเหงื่อบนใบหน้าให้เขาอย่างอ่อนโยน ก่อนหน้านี้นางและเขาวางแผนเอาไว้ว่า เขาจะออกไปรบ ส่วนนางคอยดูสถานการณ์อยู่ด้านบน คอยหาจุดพลิกผันของฉู่อี้เฉินจากนั้นก็จัดการทันที หากผู้นำทัพล้ม แน่นอนว่าทั้งกองทัพย่อมย่อยยับไม่มีชิ้นดีเมื่อกลับเข้ามาในเมืองแล้ว นางก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า และสั่งให้คนจัดการดูแลทหารที่ได้รับบาดเจ็บให้ดี แล้วเดินเข้ามาหาเซียวจิ้งที่นั่งอยู่ในห้องพัก ชายหนุ่มเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว เขาได้รับบาดเจ็บที่แขนเล็กน้อยเท่านั้น"เซียวจิ้ง ท่านไหวหรือไม่"เซียวจิ้งได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะออกมา"ย่อมต้องไหวอยู่แล้ว เราออกไปดูสถานการณ์ข้างนอกกันเถิด""อืม"เจี่ยงหร่านพยักหน้าเดิน

  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   บทที่ 41 กลยุทธ์ลดทอนกำลังทหาร

    นับตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นกับบิดา ฟ่านเหยาไม่เคยนอนหลับสนิทได้เลยสักคืน ทุกครั้งที่นางหลับตาลงมักจะฝันเห็นว่าบิดาร้องขอความช่วยเหลือจากนาง ได้ยินเสียงฟ่านเยียนญาติผู้พี่ กำลังดิ้นรนด้วยความทุกข์ทรมาน พร้อมกับร่ำร้องขอให้นางช่วย นานวันเข้าฟ่านเหยาร่างกายก็ย่ำแย่ลง จากที่เคยงดงามเฉิดฉาย แต่เวลานี้ใบหน้าซูบตอบผอมแห้งราวกับคนป่วยหนักที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือ นางฝันเห็นเจี่ยงหร่าน ฝันว่าสตรีผู้นั้นเดินเข้ามาบีบปลายคางของนางและกระซิบว่า บุตรของนางยามนี้กำลังไปคอยรับใช้บุตรเจี่ยงหร่านในปรโลกแล้ว และยังบอกอีกว่านับแต่นี้นางอย่าได้ฝันว่าจะสามารถตั้งครรภ์ได้อีกชั่วชีวิต!ครั้งแรกฝันเช่นนี้ฟ่านเหยาด่าทอสาปแช่งเจี่ยงหร่านอย่างเกลียดชัง แต่เมื่อนานวันเข้าความกลัวเริ่มกัดกินจิตใจของนาง ฟ่านเหยาหวาดระแวงไม่กล้าอยู่คนเดียวต้องใช้ชีวิตอยู่บนความทุกข์ราวกับคนตายทั้งเป็นระยะหลังมานี้ไม่รู้เพราะเหตุใด นางกับฉู่อี้เฉินจากแต่ก่อนที่เคยรักกันหวานซึ้ง ตอนนี้กลับทะเลาะกันทุกวัน เขาเอาแต่ตะโกนเรียกหาเจี่ยงหร่านนางแพศยานั่น อีกทั้งยังถามนางว่าตระกูลฟ่านคิดไม่ซื่อกับเขาจริงหรือไม่ เขาถามนางซ้ำๆ อยู่เช่นนั้นราวกับค

  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   บทที่ 40 หลุมศพ

    หลังจากที่จัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เซียวจิ้งและเจี่ยงหรานรวมถึงเจี่ยงเฮ่าก็เร่งเดินทางข้ามเขตชายแดนในทันที เจี่ยงเฮ่านั้นก่อนหน้านี้เจี่ยงหร่านไม่อยากให้เขาติดตามมาด้วย เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรายที่คาดไม่ถึง ทว่าเจี่ยงเฮ่ากลับลอบปะปนมากับกองทัพทหาร ด้วยเวลานี้อาการบาดเจ็บที่ขาของเขาเริ่มดีขึ้นบ้างแล้ว แต่เพราะเดินทางมาไกลจึงทำให้อาการกำเริบขึ้น แต่ก็ไม่ได้ร้ายแรงเท่าใดนักเจี่ยงหร่านในเวลานี้กำลังยืนอยู่บนหอสังเกตการณ์ ดวงตาคู่สวยจ้องมองไปยังเบื้องหน้าด้วยแววตาที่ราบเรียบ สายลมพัดเข้ามาปะทะใบหน้าของนางเป็นระยะตอนนี้นางสังหารพวกมันไปสองคนแล้ว หากบอกว่าการที่ฟ่านเยียนตายคือพายุลูกแรกที่สร้างผลกระทบต่อแคว้นซ่ง การตายของราชครูฟ่านก็เปรียบได้กับคลื่นยักษ์ที่สาดซัดเข้าสู่แคว้นซ่ง คนสำคัญที่เป็นคนคอยชี้แนะฉู่อี้เฉินและสนับสนุนเขายามนี้ตายแล้ว ย่อมทำให้เหล่าบรรดาแม่ทัพทหารแคว้นซ่งและขุนนางในราชสำนักหวาดหวั่นพรั่นพรึงไม่น้อยและยังส่งผลทำให้บัลลังก์มังกรของฉู่อี้เฉินสั่นคลอนเป็นอย่างยิ่งในขณะที่นางกำลังคิดไปเรื่อยเปื่อย ฉับพลันก็มีซาลาเปาลูกหนึ่งยื่นมาตรงหน้าของนาง เมื่อนางหันไปมองก็ยิ้มออก

  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   บทที่ 39 ส่งมอบของขวัญ

    ราชครูฟ่านถูกจับตัวเอาไว้ เหล่าผู้ติดตามก็ถูกรวบตัวไว้ทั้งหมดเช่นเดียวกัน พวกเขาบางส่วนที่คิดขัดขืนล้วนถูกทุบตีจนไร้ทางสู้ ราชครูฟ่านเงยหน้ามามองเจี่ยงหร่านในร่างของจางเหมี่ยวลี่ ด่าทอด้วยความโกรธเกรี้ยว"นังแพศยา เป็นเจ้าใช่หรือไม่ที่สังหารหลานชายของข้า วันนี้ข้าจะฆ่าเจ้าเอง"เมื่อถูกจับได้แล้วก็ย่อมไม่จำเป็นต้องรักษาท่าทีอีกต่อไป เขาพ่นคำหยาบสารพัด ด่าทอทุกคนไม่เหลือท่าทีของราชครูผู้สูงส่ง เช่นในกาลก่อนอีกแล้ว เจี่ยงหร่านยิ้มตาหยี กล่าวกับเขาด้วยน้ำเสียงที่เยาะหยัน"ใจเย็นๆ สิราชครูฟ่าน ท่านทำแบบนี้เท่ากับไม่รักษาหน้าตาของตนเลย ท่านเป็นถึงราชครูฟ่านผู้ขาวสะอาดดุจเทพเซียนของแคว้นซ่งเชียวนะ ทำเช่นนี้น่าอับอายจริงเชียว"ราชครูฟ่านเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ชะงักไปครู่หนึ่ง นางรู้ได้อย่างไรว่ายามอยู่ที่แคว้นซ่ง เขาได้รับฉายาว่าบัณฑิตผู้สูงส่งขาวสะอาดดุจเทพเซียนด้วยเหตุนี้ราชครูฟ่านจ้องมองดูหญิงสาวตรงหน้าด้วยแววตาที่วูบไหว ทว่านางกลับยิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยนอ่อนโยนเสียจนน่าขนลุก!คนทั้งหมดถูกจับตัวเอาไว้ ส่วนหลี่ฟางนั้นยามนี้ถูกพาตัวมาไต่สวนในวังหลวง อย่างไรนางก็ได้ชื่อว่าเป็นพระชายาเอกของชินอ

  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   บทที่ 38 หลอกล่อปลามาติดแห

    หลายวันต่อมา ฮ่องเต้เซียวหลางก็มีรับสั่งให้คณะทูตของแคว้นซ่งเข้าเฝ้า จัดงานเลี้ยงฉลองต้อนรับอย่างสมเกียรติ และยังให้ขุนนางชั้นสูงรวมถึงบุตรสาวและฮูหยินเอกเข้าร่วมงานเลี้ยงในครั้งนี้ได้ แน่นอนว่าเจี่ยงหร่านเองก็ต้องร่วมงานเลี้ยงในครั้งนี้ด้วยเช่นเดียวกันเจี่ยงหร่านวันนี้สวมชุดขุนนางหญิง ที่ทางราชสำนักเพิ่งตัดส่งมาให้เข้าร่วมงานตามตำแหน่งทางการทหารของนาง หญิงสาวเดินเข้ามาในงานเลี้ยงด้วยท่าทีองอาจผึ่งผาย เซียวหลิงที่เห็นเช่นนั้นก็รีบเข้ามาทักทายนาง ก่อนจะดึงนางให้ไปลองชิมขนมที่ตนเพิ่งทำขึ้นมาใหม่ เจี่ยงหร่านอยู่สนทนากับเซียวหลิงได้ไม่นาน ก็ต้องกลับมานั่งประจำตำแหน่งที่เดิมของตน ไม่นานนัก ขันทีก็ประกาศว่าฮ่องเต้เซียวหลางเสด็จมาถึงแล้ว ทุกคนจึงรีบลุกขึ้นและอยู่ในความสงบฮ่องเต้เซียวหลางเดินเข้ามาพร้อมกับฮองเฮาของตน ส่วนเซียวจิ้งนั้นยามเดินอยู่ด้านหลังพร้อมกับบิดาและมารดาเลี้ยง ทั้งยังมีเซียวกั๋วมาร่วมงานด้วย อย่างไรเสียก็เป็นถึงเชื้อพระวงศ์ แม้ในยามปกติจะไม่ลงรอยกันมากเพียงใด แต่เมื่อมีคนต่างแคว้นเข้ามา ย่อมต้องแสดงออกว่าพี่น้องรักใคร่กันดีเพื่อไม่ให้ศัตรูมองเห็นจุดอ่อนได้"ทุกคนลุกขึ้นเถ

  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   บทที่ 37 ตลบหลัง

    ด้านเจี่ยงหร่านที่ได้รับทราบว่าผู้นำคณะทูตเดินทางมาสวามิภักดิ์ในครั้งนี้ก็คือราชครูฟ่านบิดาของฟ่านเหยา ถ้วยชาในมือถูกกำเอาไว้แน่น นางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะเดินออกจากเรือนมุ่งหน้าไปที่รถม้า นางบอกเยว่ซินว่าจะไปที่หอสุราจิ๋นฮวา อีกทั้งยังไม่ให้เยว่ซินตามไปด้วยเมื่อมาถึงนางมุ่งขึ้นไปบนชั้นสอง ลุงหม่าเองระยะหลังมานี้ เริ่มจะคุ้นเคยกับเจี่ยงหรานมากขึ้น เมื่อนางมาถึงเขามักจะจัดห้องที่ด่ีที่สุดให้ และสั่งให้คนนำสุราชั้นดีส่งให้นางอย่างรู้งานวันนี้เซียวจิ้งเองก็มิได้มีงานเร่งด่วน เมื่อได้ยินว่าเจี่ยงหร่านต้องการพบเขา และรออยู่ชั้นสองของเหลาสุรา ชายหนุ่มก็รีบตรงมาหานางทันที เมื่อมาถึงก็พบว่า ในห้องมีเจี่ยงเฮ่าอยู่ด้วย เจี่ยงเฮ่ายิ้มให้เซียวจิ้งอย่างนอบน้อม เซียวจิ้งเองก็ยิ้มตอบอย่างมีมารยาท แล้วเดินเข้ามานั่งลงข้างกายของเจี่ยงหร่านและถามขึ้นมา"เจ้ามาหาข้ามีเรื่องใดหรือ ให้คนส่งจดหมายมาก็ได้ ข้าจะรีบไปหาเจ้าเอง"เจี่ยงหร่านเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มออกมาได้ แล้วพูดว่า"เซียวจิ้ง ที่ข้ามาพบท่านครั้งนี้เพราะมีเรื่องที่อยากขอร้องท่านเรื่องหนึ่ง เรื่องนี้ข้าคิดไตร่ตรองมาทั้งคืนแล้ว"เซียวจิ้ง

  • ยอดบุปผาโฉมสะคราญ   บทที่ 36 คณะทูต

    เซียวจิ้งเอื้อมมือมาเช็ดน้ำตาให้เจี่ยงหร่าน อย่างแผ่วเบา เอ่ยกับนางว่า"อาหร่าน เจ้าอย่าให้ความเกลียดชังกัดกินจิตใจเจ้าจนทุกข์ทรมานเลยนะ"เจี่ยงหร่านในร่างของจางเหมี่ยวลี่เงยหน้าขึ้นมามองเซียวจิ้งครู่หนึ่ง ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ เมื่อครู่เพราะนางถูกความโกรธแค้นครอบงำจิตใจมากเกินไป จึงทำให้ควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ได้หญิงสาวพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆ"ทำไมหรือสหายเซียว ท่านกลัวข้าถลำลึกเช่นนั้นหรือ""ข้ากลัวเจ้าไม่มีความสุข ข้าอยากเห็นเจ้ามีสุขไร้ทุกข์กังวล"เจี่ยงหร่านเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็พลันชะงักไปอึดใจ คลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อย ไม่รู้เพราะเหตุใด ยามที่นางกำลังจะถลำลึกจนถูกความแค้นกัดกินครอบงำจิตใจ ทว่าเซียวจิ้งกลับสามารถดึงนางขึ้นมาจากหลุมดำภายในจิตใจได้ทุกครั้งเขาเหมือนแสงสว่างที่ส่องประกายเจิดจ้าและงดงามยิ่งนักเมื่อเห็นว่าเจี่ยงหร่านมีสีหน้าดีขึ้นมากแล้ว เขาจึงพูดขึ้นมาทันที"แม้นางจะตั้งครรภ์ แต่ได้ยินว่าระยะหลังมานี้สุขภาพไม่สู้ดีเท่าใดนัก มักจะอารมณ์เสียจนเจ็บป่วยอยู่บ่อยครั้ง แต่นางมีโทสะเรื่องใดนัั้นคนของข้ายังสืบได้ไม่แน่ชัด"เจี่ยงหร่านเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็เพียงยิ้มน้อยๆ"สหา

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status