แชร์

บทที่ 1222

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
เหลียนเจินได้ยินคำพูดของปันอวิ๋นก็พยักหน้า หนีบท้องม้า ควบม้าขึ้นหน้าไปกำชับ

ขบวนรถม้าไม่นานก็หยุดลง องครักษ์พาม้าไปกินหญ้าดื่มน้ำข้างๆ

จั๋วหวายลงมาจากในรถม้า ปันอวิ๋นฉากร่าง นั่งลงที่ข้างประตูรถม้า เอียงตาถามจั๋วหวาย "พี่สาวเจ้ายังหลับอยู่หรือ?"

"อืม ระหว่างทางตื่นมาครู่หนึ่ง ดื่มน้ำไปก็หลับต่อ" จั๋วหวายพยักหน้าให้

เด็กคนนี้แม้จะเป็นห่วงพี่สาวมาก แต่กลับมั่นใจอย่างมากต่อวิชาแพทย์ของพี่สาว ดังนั้นจึงไม่กังวลมาก แค่รู้สึกว่าพี่สาวคงง่วงไปเท่านั้น

ปันอวิ๋นเองก็ไม่มีเจตนาจะทำให้เขาต้องกังวล จะได้ไม่ต้องมานั่งปลอบเด็ก

"อืม เจ้าก็ไปพักเสียหน่อยเถอะ เดินเล่นยืดเส้นสายหน่อย เหล่าจวงเหมือนจะเตรียมของกินไว้แล้ว" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้น

จั๋วหวายพอได้ยินคำนี้ ตาก็เป็นประกายขึ้นมา จากนั้นจึงเดินออกไป

แต่ปันอวิ๋นกลับฉากตัว มุดเข้าไปในตัวรถ

อากาศในตัวรถม้า เหมือนจะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ติดตัวจั๋วซือหรานอยู่เป็นประจำ

ในตัวรถปูเบาะเอาไว้หนา ดูเหมือนจะนุ่มสบายมาก

ร่างของหญิงสาวนอนอยู่บนนั้น ขดตัวเล็กน้อย ท่าทางดูสบายมาก บนตัวยังมีผ้าห่มผืนเล็กห่มอยู่

ผมยาวสยายออกอยู่บนเบาะหมอน นุ่มสลวยราวกับเป็นหญ้า
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1223

    ปันอวิ๋นเอ่ยต่อว่า "เตรียมเข้าหุบเขาแล้ว หลังจากเข้าหุบเขาพักอีกไม่ได้แล้ว ตอนนี้เป็นการพักครั้งสุดท้าย""จั๋วซือหรานพยักหน้า ตลอดทางนี้มีปันอวิ๋นคอยจัดการสั่งการ ราบรื่นดีมาก ไม่มีผิดพลาดเลยแม้แต่น้อย สมกับเป็นเจ้าหุบเขาหมื่นพิษ"ตอนที่นางคอยดูแลจัดการ เขาก็ดูเกียจคร้านเหมือนกองขี้เลนหลังจากนางไม่ดูแลแล้ว เขาก็เหมือนว่าเส้นเอ็นที่ถูกดีดไปก่อนหน้านั้นเด้งกลับที่ฉับพลัน จัดการสิ่งต่างๆ ได้ดีอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่มีปัญหาเลยแม้แต่น้อยปันอวิ๋นชี้ไปอีกด้าน "เหล่าจวงกำลังทำของกินอยู่ ครอบครัวนี้เจ้าพามาได้เหมาะเหม็งเลย พ่อครัวกับลูกมืออีกสองคน ขันแข็งดีมาก"จั๋วซือหรานพอได้ยินก็ยิ้มตาโค้ง"เจ้าเองก็มากินเสียหน่อยเถอะ เจ้าไม่ได้กินอะไรมาตลอดทางแล้ว ไม่หิวรึ?" ปันอวิ๋นทำจมูกฝุดฝิด "น่าจะคงเป็นเนื้อย่างอีก ระหว่างทางก่อนหน้านี้ พวกเหลียนเจินล่ากวางมาสองตัว ก่อนหน้านี้กินไปแล้วตัวนึง ยังเหลืออีกตัวนึง""เจ้าทำไมไม่ออกไปล่าล่ะ?" จั๋วซือหรานถามขึ้นมาคำหนึ่งปันอวิ๋นจุ๊ปากขึ้นมา เบ้มุมปาก "ถ้าข้าไปล่ามันยังจะกินได้อีกรึ"เขาเป็นเจ้าหุบเขาหมื่นพิษ พอลงมือถ้าไม่ใช่พิษก็คือกู่ แล้วเหยื่อที่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1224

    ปันอวิ๋นเนื่องจากยังไม่วางใจ จึงยังอยู่ในรถม้าของจั๋วซือหรานแต่ว่า เขาก็ยังมองออก ว่าสภาพของจั๋วซือหรานเหมือนจะพอไหวอยู่สีหน้าแจ่มใส ไม่มีอาการง่วงซึมแล้วนี่ทำให้เขาวางใจขึ้นมาไม่น้อย และตอนที่วางใจลงมาปันอวิ๋นจู่ๆ ก็เหมือนมีปฏิกิริยาอะไรขึ้นมา เขาเบิกตาโพลงขึ้นกะทันหันดวงตาเรียวยาวของเขา พอเบิกตาโพลงขึ้นกะทันหัน การกระทำก็จะดูโดดเด่นอย่างเห็นได้ชัดดังนั้นจั๋วซือหรานพอเห็นสีหน้าเขาเปลี่ยนไป จึงถามขึ้นว่า "มีอะไรหรือ?"ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว "วันนี้วันอะไรแล้ว?"จั๋วซือหรานครุ่นคิด ช่วงนี้เดี๋ยวก็เมืองหยาง เมืองอวิ๋น เดี๋ยวก็สำนักเมฆาวารี สับสนมึนงงไปหมดดังนั้นพอครุ่นคิดไปครู่หนึ่งจึงตอบว่า "สิบห้า""พรวด แย่แล้ว" ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นเสียงต่ำ แม้จะฟังออกว่าในน้ำเสียงมีความยุ่งยากขึ้นแล้ว แต่ก็ไม่ได้มีท่าทีตื่นตระหนกอะไรมากมาย"อื๋อ? มีอะไรยุ่งยากหรือ?" จั๋วซือหรานถามปันอวิ๋นตอบ "ระหว่างทางเข้าหุบเขาน่าจะยุ่งยากหน่อย ปกติยังพอว่า แต่ถ้าวันที่สิบห้าล่ะก็..."จั๋วซือหรานพอได้ยินก็ขมวดคิ้วเล็กๆ "คงไม่ได้มีแมลงกู่หรือสัตว์ประหลาดอะไรออกมาระหว่างทางหรอกกระมัง?"ปันอวิ๋นอืมขึ้นมาเส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1225

    จั๋วซือหรานเหลือบตามองปันอวิ๋นปันอวิ๋นถูกสายตานี้ของนางเสียดแทงเข้ามา "สายตาของเจ้านี่หมายความว่ายังไง"จั๋วซือหรานไม่อธิบายความหมายสายตาของตนเองกับเขาส่งสายตาประมาณว่า 'จะมีเจ้าไว้ทำไม' มาให้ แล้วให้เขาไปตีความเองจั๋วซือหรานครุ่นคิด ปรึกษาแผนรับมือเสียงต่ำกับเขา "แล้วถ้าลดเสียงผ่านไปล่ะ? ถ้ามันชอบกินแต่แมลงกู่ล่ะก็..."จั๋วซือหรานคิดๆ ถามขึ้นมาอีกว่า "เจ้าสัตว์ประหลาดนี่ ตัวใหญ่ไหม?"สายตาปันอวิ๋นเหลือบมองนางอย่างพูดไม่ออก "น่าจะ...พอๆ กับแมงมุมตัวนั้นของเจ้า น่าจะเล็กกว่าหน่อย"จั๋วซือหราน "..."นางเงียบลงทันที เพราะถ้าจากที่ปันอวิ๋นบอก การจะลดเสียงต่ำน่าจะยากเสียแล้วเพราะสัตว์ประหลาดที่ตัวใหญ่ขนาดนั้น ถ้าแค่ไม่ใช่พวกกินพืช...ปกติก็ไม่รังเกียจที่จะกินคนสักคนสองคนเป็นอาหารว่างถึงอย่างไร...นี่ก็เป็นแหล่งโปรตีนชั้นดีนี่นะตอนที่ในใจจั๋วซือหรานมีความคิดนี้ ในสมองก็บอกกับตนเองว่า...แหล่งโปรตีนชั้นดีบ้าบออะไรกันตอนที่จั๋วซือหรานมองไปทางปันอวิ๋น ความนัยในสายตาก็ยิ่งเผยออกมาอย่างชัดเจนมากขึ้นปันอวิ๋นถอนหายใจ "เอาล่ะๆๆ ข้ารู้ว่าข้าไร้ประโยชน์"จั๋วซือหรานมุมปากยกขึ้นบางๆ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1226

    "ยิ่งไปกว่านั้น ข้ายังเป็นนักควบคุมสัตว์ด้วย" จั๋วซือหรานเอ่ยต่อปันอวิ๋นเหมือนตอนนี้ดูจะผ่อนคลายลงมาได้บ้างแล้ว เขาพยักหน้า "ได้ สรุปว่าข้าจะพาคนกลับไปในหุบเขาก่อน จากนั้นค่อยมารับเจ้าแล้วกัน"จั๋วซือหรานไม่ได้ปฏิเสธเรื่องนี้ อันที่จริงนางเดิมทีก็กังวลความปลอดภัยคนของตนเองเหล่านี้อยู่พอหารือถึงจุดนี้ ขบวนก็ยังคงสงบราบรื่นดีทำให้คนรู้สึก...เข้าใจผิดว่าสามารถเข้าไปในหุบเขาอย่างสงบราบรื่นได้เลยทีเดียวสาเหตุที่พูดว่าเข้าใจผิด ก็เพราะเรื่องไม่มีทางง่ายดายขนาดนั้นเพียงไม่นาน ด้านหน้าก็มีเสียงวุ่นวายขึ้นมาเสียงดังพลักดังขึ้นมาก่อน! คลายกับเสียงอะไรพุ่งชนจากนั้นก็เป็นเสียงม้ากรีดร้องอย่างตระหนกจั๋วซือหรานกับปันอวิ๋นสบตากันผาดหนึ่ง เข้าใจถึงสาเหตุขึ้นมาทันทีจั๋วซือหรานเอ่ยเสียงขรึม "ทำตามแผนที่คุยไว้"ปันอวิ๋นแม้จะยังขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธความหมายของนาง เพียงเอ่ยเสียงขรึมกลับมาว่า "เจ้าเองก็อย่าบาดเจ็บ อย่าตายเสียล่ะ ไม่อย่างนั้น...""รู้แล้ว" จั๋วซือหรานตัดบทเขาจากนั้นเท้าก็ถีบประตูรถม้าน่าจะเพราะจั๋วซือหรานบอกกับเหลียนเจินไว้ก่อนแล้ว ดังนั้นขบวนแม้จะลนลานไปชั่วขณะ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1227

    เป็นสัตว์ประหลาดที่จั๋วซือหรานไม่เคยเห็นมาก่อนไม่เพียงแต่ไม่เคยเห็ กระทั่งไม่ได้เคยยินมาก่อนด้วยซ้ำและมิน่าที่ปันอวิ๋นบอกว่าพบได้น้อย ก็น่าจะพบได้น้อยมากจริงๆควรจะพรรณนารูปร่างของเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้อย่งไรดี จั๋วซือหรานครุ่นคิดครู่หนึ่งถ้าหากดูจากรูปร่างภายนอกแล้วล่ะก็ มันเหมือนกับ...ช้างกับตัวนิ่มรวมร่างกันมีจมูกยาวเฟื้อย แต่คล่องแคล่วมาก น่าจะมีไว้เพื่อคอยพลิกหารังแมลงโดยเฉพาะ ไว้คอยล้วนจับแมลงออกมากินแต่ก็มีเขี้ยวยาวกับฟันแหลมคมด้วย บ่งบอกถึงพลังโจมตีของมันได้อย่างชัดเจนและเกราะกระดูกที่เรียงกันเป็นระเบียบอย่างละเอียดนั่น กลับดูคล้ายคลึงกับตัวนิ่มที่จั๋วซือหรานรู้จักมาในชาติที่แล้ว บ่งบอกถึงพลังป้องกันที่ไม่ธรรมดาของมันจั๋วซือหรานยืนนิ้งอยู่ตรงนี้ ยังไม่ได้โจมตีอะไรออกไป นางหวังให้มันกินม้าตัวนี้ให้หมดอย่างเงียบๆ ไปทางที่ดีอย่าได้สังเกตเห็นขบวนที่เดินจากไปแล้วถ้าหากเป็นเช่นนี้ จั๋วซือหรานก็อาจจะไม่ต้องทำอะไรเลย รอให้อันตรายหายไป นางก็ค่อยออกไปแบบเงียบๆ ติตดามขบวนไปก็พอแต่เห็นได้ชัด ว่าสัตว์ประหลาดตัวนี้ไม่ได้ง่ายดายอย่างที่นางจินตนาการไว้จั๋วซือหรานพบว่า มั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1228

    ในลำคอของสัตว์ประหลาดตัวนิ่มเปล่งเสียงขู่ต่ำเตือนออกมาดวงตาใหญ่เหมือนกระดิ่งทองเหลืองคู่หนึ่ง ยิ่งแดงขึ้นเพราะความโกรธจัดเห็นได้ชัดว่า การเจรจาล้มเหลวเสียแล้วแมงมุมน้อยสบถเสียงเล็กออกมาจากในมิติของจั๋วซือหราน "นายท่าน ท่านจะไปเจรจากับมันไม่ได้หรอก..."จั๋วซือหรานหัวเราะเบาๆ บอกับพวกแมลงทีสั่นระริกในมิติว่า "ก็ไม่ได้คิดจะเจรจากับมันจริงๆ หรอก มีประโยชน์อะไรกัน ตอนนี้พวกเจ้าเงียบกันเพราะหวาดกลัวหมดแล้ว ถ้าข้าเก็บมันเข้ามาจริงๆ ชีวิตพวกเจ้าจะเป็นอย่างไรต่อไปล่ะ?"ในมิตินางเลี้ยงแมลงอยู่หลายชนิด ถ้าจับไอ้ตัวกินแมลงใส่เข้าไป บ้านได้แตกกันพอดี?ดังนั้นตั้งแต่แรก การตัดสินใจของจั๋วซือหรานก็คือ ถ้าปลอบได้ก็จะปลอบ แต่ถ้าปลอบไม่ได้ก็ต้องสู้เท่านั้นสัตว์ประหลาดตัวนิ่มพุ่งเข้ามาฉับพลัน!เนื่องจากจั๋วซือหรานรู้จากปันอวิ๋นถึงความตึงมือของเจ้านี่ ดังนั้นจึงไม่กล้าดูถูกมันแต่ที่นางคิดไม่ถึงก็คือ เจ้านี่ไม่ใช่ตัวตึงมือธรรมดาสิ่งที่ทำให้เจ้าหุบเขาหมื่นพิษรู้สึกยุ่งยากได้ จะต้องไม่ใช่ความยุ่งยากธรรมดาแน่นอนจั๋วซือหรานเดิมทีคิดว่า เป็นพลังป้องกันของมันที่โดดเด่น พลังโจมตีก็ไม่เลว ซ้ำยังไ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1229

    ปัง...! เสียงสนั่นเสียงหนึ่งดังลั่นหุบเขา!หลังจากจั๋วซือหรานยิงปืน นิ้วก็ดึงออกมาจากไกปืนอย่างรวดเร็ว ปืนยาวที่หนักอึ้งพาดขึ้นบ่า เปิดใช้วิชาร่างที่ระดับสูงสุด!จริงด้วย ต่อให้พลังป้องกันจะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่ดวงตาก็ยังเป็นจุดอ่อนทว่าสัตว์ประหลาดตัวนิ่มกระทั่งจุดอ่อนก็ยังแข็งแกร่งกว่าเปลือกตาของมันก็เหมือนจะมีพลังป้องกันที่ไม่เลวเลย ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่จั๋วซือหรานปะทะกับมันครั้งแรกเมื่อครู่มันก็ไม่คิดจะดูถูกตัวตนที่ดูเหมือนเล็กๆ อ่อนแอนี่อีกอย่างสิ้นเชิง การโจมตีนั้นแม้จะสะท้อนพลังของนางออกไปได้มาก แต่ก็ญังคงมีแรงปะทะอยู่ไม่น้อยทำเอามันต้องยอมรับเจ้าสิ่งเล็กๆ อ่อนแอตรงหน้านี้ขึ้นมา ว่าไม่ได้อ่อนแอเลย กระทั่งอาจจะเป็นความยุ่งยากตำมือที่สุดเท่าที่มันเคยพบมาเลยก็ได้ดังนั้นมันจึงหลับตาลงเป็นสิ่งแรก แม้จะเป็นเช่นนี้ แต่ตาข้างหนึ่งของมันก็ถูกปืนยิงจนเลือดสดไหลทะลักในปากส่งเสียงคำรามโกรธขึ้งอย่างเจ็บปวด"ฮูม...!"เท้าของมันกระทืบลงพื้นอย่างหนักจั๋วซือหรานมองมัน รู้สึกทอดถอนใจกับพลังป้องกันของมันพอควร แม้กระสุนจะยิงเข้าไปในตาแล้ว แต่ก็ยังไม่ทะลุกะโหลกของมันแค่ทำให้ดวงต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1230

    ตอนนี้เอง 'ใบเลื่อย' นั้นก็มาอยู่ตรงหน้าแล้วตอนมันจับได้ถึงพลังอันตรายของนางคิดจะเบี่ยงหลบแต่ก็ไม่ทันแล้วนี่เป็นสาเหตุที่จั๋วซือหรานจงใจรอให้มันใกล้มาถึงก่อนแล้วค่อยปล่อยพลังออกเพื่อเลี่ยงไม่ให้มันได้ทันทำอะไรตอนที่จับได้ถึงความผิดปกติเอาตามตรง เจ้าสิ่งที่เหมือนกับใบเลื่อยนี้ ถ้าพอหมุนขึ้นมา แรงเฉื่อยจะสูงมาก หากคิดจะหยุดก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้วสองมือจั๋วซือหรานกุมดาบยาวไว้มั่น ถือว่าให้เกียรติอย่างมาก ถึงอย่างไรปกตินางจะถือดาบด้วยมือเดียว ดูท่าทางแบบขอไปทีสุดๆถ้าหากบอกว่าการโจมตีแรกไม่สามารถสร้างอาการบาดเจ็บที่ชัดเจน การดจมตีที่สองก็ทำร้ายตาไปข้างหนึ่งแล้วล่ะก็การโจมตีตอนนี้ ประสิทธิภาพคือไม่ธรรมดาแน่นอนการป้องกันเหมือนสวมเกราะบนตัวของสัตว์ประหลาดตัวนิ่มนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลย แต่ทว่าตอนนี้ ตอนที่เผชิญหน้ากับการโจมตีนี้ของจั๋วซือหราน กลับอ่อนนุ่มราวกับเต้าหู้อย่างไรอย่างนั้นปาดเฉือนไปทันที!จนเห็นเลือดเนื้อภายใน"ฮูม...!" มันร้องขึ้นมาอย่างเจ็บปวด ไม่มีความคิดมองสิ่งอ่อนแอตรงหน้านี้เป็นอาหารว่างอีกแล้วถ้าบอกว่าก่อนหน้านี้เป็นแค่ความโกรธเคือง ตอนนี้ก็คือทั้งกลัวทั้

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1279

    พอได้ยินคำนี้ของจั๋วหวาย สีหน้าจั๋วซือหรานก็ชะงักไปพอนึกถึงจั๋วเฮ่ออิงที่สีหน้าเปลี่ยนแล้วรีบร้อนออกไปวันนั้นนางรู้สึกว่าการคาดเดาของเสี่ยวหวาย...ดูสมเหตุสมผลดียังไม่ต้องพูดถึงว่าจั๋วเฮ่ออิงไปหาเซี่ยอวิ๋นซี แล้วจะมีผลลัพธ์อย่างไรจั๋วซือหรานแม้จะไม่ใช่เจ้าของร่างเดิม แต่ก็มีความรู้สึกรักอย่างจริงใจต่อเซี่ยอวิ๋นซีด้วยความเข้าใจต่อตัวเซี่ยอวิ๋นซีของนาง จั๋วซือหรานรู้สึกว่า เซี่ยอวิ๋นซีเป็นคนที่อ่อนนอกแข็งในการที่นางสามารถเลี้ยงลูกสองคนจนโตได้เพียงลำพังก็มองออกได้ไม่ยากคนแบบนี้ ในสถานการณ์ปกติขีดจำกัดจะชัดเจนมากนางจะอ่อนโยนกับคนของตนเอง แต่มีนิสัยที่แข็งกร้าวในสายตาไม่อาจทนเห็นสิ่งไม่ดีได้ ยอมหักแต่ไม่ยอมงอตอนที่นางรักจั๋วเฮ่ออิงก็คือรักจริงๆ ถ้าหากไม่มีลูกน้อยสองคนคอยรั้งนางไว้ นางคงฆ่าตัวตายตามจั๋วเฮ่ออิงไปตั้งแต่ตอนรู้ว่าเขาตายแล้วแต่พอมีตัวตนอย่างสุ่ยจิ้งหลาน เซี่ยอวิ๋นซีก็ไม่แน่ว่าจะอดทนต่อจั๋วเฮ่ออิงได้อีกตอนที่ไม่รัก ก็อาจจะไม่รักได้จริงๆแต่แล้วทำไมล่ะ แค่จั๋วเฮ่ออิงไปบอกเรื่องของนาง ด้วยนิสัยของเซี่ยอวิ๋นซี ต่อให้ฟ้าถล่มก็คงจะรีบมาหาอยู่ดีจั๋วซือหรานถอนห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1278

    ตอนนี้ จั๋วซือหรานเห็นหน้าตนเองในน้ำได้เห็นสภาพของตนเองชัดๆ ดีขึ้นมากแล้วจริงๆแต่นางยังรู้สึกได้อย่างชัดเจน ว่าสภาพของตนเองก็กำลังแย่ลงอย่างรวดเร็วดังนั้น ตนเองตอนนี้...อยู่ห่างจากชายคนนั้นไม่ได้จริงๆถ้าแค่ห่างจากชายคนนั้น ตนเองก็อาจจะทนต่อไปไม่ไหว แล้วกลับไปอยู่ในสภาพก่อนหน้านี้อีก นั่นมันอันตรายเอามากๆส่วนตนเองถ้าหากยังตามชายคนนี้อยู่ตลอดล่ะก็...จั๋วซือหรานขมวดคิ้ว ในใจก็อดคิดไม่ได้ ตอนนี้ตนเองอย่างน้อยยังพอทนไหว ไม่ต้องตัวติดกับเขาตลอดเวลาก็ได้แต่...นี่มันเพิ่งจะเริ่มต้นนะจั๋วซือหรานเป็นคนที่เตรียมพร้อมล่วงหน้าอยู่เสมอ นางยกมือขึ้นลูบท้องน้อยเบาๆในใจยังคิดขึ้นอย่างกังวล ถ้าหากอายุครรภ์มากขึ้น สถานการณ์แบบนี้ก็น่าจะยิ่งรุนแรงขึ้นด้วยถึงตอนนั้นหากตนเองต้องอยู่กับเขาตลอดเวลาถึงจะรักษาสภาพให้คงที่ได้ล่ะ?ถ้าตนเองเป็นอย่างที่เขาบอกล่ะ ที่ว่าต้องการแสงแดดแล้วในเวลากลางวันแบบนั้น...คนนึงต้องการแสงแดด แต่อีกคนกลับถูกแสงแดดทำร้ายสถานการณ์แบบนี้ มันเป็นสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกจริงๆนางผ่อนคลายลงหน่อย แต่เขากลับทรมานขึ้นมาถ้าพอนางทรมาน เขาถึงจะผ่อนคลายลงมาได

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1277

    ขณะที่ตระหนักถึงจุดนี้ จั๋วซือหรานก็ตระหนักได้ถึงอีกจุดหนึ่งถ้าบอกว่า ตนเองหลังจากนี้อยู่ห่างเขาไม่ได้ แต่หลังจากนี้ยังต้องการแสงแดดล่ะก็เช่นนั้นก็เท่ากับว่า...นางมองชายหนุ่มที่โผล่หัวออกมาจากผ้าห่ม เห็นอักขระคำสาปประหลาดบนหน้าตาคนสมองทื่อนี้ ปรากฏขึ้นมาต่อเนื่อง หายไป แล้วก็โผล่ออกมารักษาแผลไฟไหม้...จั๋วซือหรานจึงเดินเข้าไปสองก้าวอย่างอดไม่อยู่ พอมาถึงตรงหน้าเขา ก็ยกมือขึ้นมาเบาๆเขาไม่ขยับ จ้องมองนางนิ่งจั๋วซือหรานแตะลงไปบนหน้าเขาเบาๆ ราวกับว่าแค่สัมผัสเพียงเล็กน้อยเท่านั้นนางขมวดคิ้วแน่นเขามองนางเงียบๆจั๋วซือหรานนิ่งงันไปครู่หนึ่ง จึงเอ่ยเสียงต่ำขึ้นว่า "พลังวิญญาณของข้า ช่วยอะไรท่านไม่ได้แล้วหรือ"น่าจะเพราะตนเองตั้งท้องจนงงๆ ไปแล้วจริงๆ หรืออาจเป็นเพราะไม่พอใจเจ้าคนสมองมีปัญหาตรงหน้านี้ ดังนั้นจึงไม่ได้สนใจอะไรมากกระทั่งถึงตอนนี้ จั๋วซือหรานจึงเพิ่งรู้สึกตัวพลังของตนเองก่อนหน้านี้ ทั้งๆ ที่สามารถบรรเทาอาการทำร้ายตนเองของเฟิงเหยียนได้แท้ๆ แล้วยังทำให้เขาต้านทานแสงแดดได้ระดับหนึ่งอีกด้วยแต่ตอนนี้ทำไมเหมือน...มันไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ?ทว่าเฟิงเหยียน ดูเหมือนจะ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1276

    ขณะที่จั๋วซือหรานขมวดคิ้วคิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ทำไมถึงมุดเข้ามาด้วยกัน...กับเขาในผ้าห่มที่มืดสนิทนี้ ก็ได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มๆ ดังขึ้นเสียงหัวเราะทุ้มต่ำ ในผ้าห่มมืดๆ ภายใต้ระยะใกล้ชิดที่แทบจะเบียดกันของคนทั้งสองนี้ จึงยิ่งชัดเจนเป็นพิเศษ...กระทั่งความหยาบกร้านแหบพร่าเล็กๆ ในน้ำเสียง ก็ยังชัดเจน ชัดเจนเอามากๆ!ยิ่งไปกว่านั้น เพราะความใกล้ชิดมากๆ ยังมีกระแสลมแผ่วๆ ที่เหมือนจะพัดผ่านข้างหูนางไปเหมือนกับแม้กระทั่งตอนที่เขาหัวเราะเสียงทุ้ม การสั่นสะเทือนของทรวงอก ตนเองก็ยังสัมผัสได้อย่างชัดเจนด้วย!จั๋วซือหรานกัดริมฝีปากเบาๆจึงได้ยินเสียงของตาคนสมองทื่อ ยังคงเป็นเส้นเสียงหยาบๆ ที่ชวนหลงใหลนั่นอยู่บอกกับนางว่า "นี่เจ้ากำลัง...เชื้อเชิญข้าหรือ?"จั๋วซือหรานเพิ่งตื่นขึ้นจากความฝันที่อยู่กับคนรัก ถือว่าถูกกวนให้ตื่นก็ได้ มีอารมณ์ขุ่นเคืองอยู่บ้างก็เรื่องปกติดังนั้นนางจึงไม่มีเวลามาปรับอารมณ์กับตาคนสมองทื่อนี่จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นว่า "ข้าควรจะมองท่านถูกเผาตายทั้งเป็นไปซะ"ตาสมองทื่อนี่ก็ไม่รู้ทำไมผ่านไปคืนนึงนิสัยก็เปลี่ยนไป จู่ๆ อารมณ์ก็ดีขึ้นมาเสียอย่างนั้นบางทีคงเพร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1275

    จั๋วซือหรานได้ยินอารมณ์เจ็บปวดจากในน้ำเสียงเขา และได้ยินถึงอารมณ์เสียใจด้วยอันที่จริงสำหรับสำหรับอาการข้าหึงตัวข้าเองที่แปลกใหม่นี้ จั๋วซือหรานก็รู้สึกจนใจอยู่หน่อยๆ แล้วยังดูน่าขำอีกด้วยผลลัพธ์คือพอแหงนตามอง สีหน้ารอยยิ้มบนหน้าจั๋วซือหรานเหล่านั้น ก็แข็งทื่อไปทันทีอารมณ์ที่เรียกว่าความกังวล ก่อตัวขึ้นมาในดวงตามิน่าในน้ำเสียงเขาถึงมีความเจ็บปวดอยู่ตอนนี้ อักขระคำสาปปรากฏขึ้นบนตัวเขาแล้ว แสดงรูปลักษณ์ที่ประหลาดออกมา"นี่คือ..." จั๋วซือหรานยกมือมากำข้อมือเขาแต่นี่ไม่ใช่ความจริง เป็นแค่เขตแดนจิตใต้สำนึกบางอย่าง เป็นแค่ในความฝันเท่านั้น แน่นอนว่าจับชีพจรเขาไม่ได้"ไม่เป็นไร" บนสีหน้าชายหนุ่มแม้จะเต็มไปด้วยอักขระคำสาปประหลาด สายตาที่ก้มลงมามองนางกลับดูอบอุ่น "ไม่เป็นไร"เหมือนกลัวว่านางจะกังวล เขาจึงบอกว่าไม่เป็นไรขึ้นมาอีกครั้งจั๋วซือหรานตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง ขมวดคิ้วขึ้นมานิ้วโป้งของชายหนุ่มกดลงเบาๆ ที่หว่างคิ้วนาง นวดๆ เหมือนติดจะนวดคลายสีหน้าอารมณ์ที่ยุ่งเหยิงเหล่านั้นออก"พักผ่อนให้ดี กินข้าวให้ดีด้วย" เขาเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานเบ้ปากเบาๆ เหลือบมองเขา "ถ้าหากเจ้าส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1274

    จั๋วซือหรานไม่ส่งเสียง ครู่เดียว จึงถอนใจเบาๆ เอ่ยขึ้นว่า "อันที่จริง ข้าเองก็ไม่ได้ยืนหยัดขนาดนั้น แค่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาจนตรอกจริงๆ ข้าก็ยังไม่อยากละทิ้งทั้งที่ยังไม่ได้ลอง"เฟิงเหยียนกอดนาง ในสีหน้ามีความเจ็บปวดเสียงยิ่งแหบพร่า เอ่ยขึ้นว่า "ข้าไม่อยากให้เจ้าต้องมาเหยียบซ้ำรอยมารดาของข้า และข้าก็ไม่อยากให้ลูกของเราเติบโตมาเป็นเหมือนข้าด้วย หากเรื่องนี้ ไม่มีวิธีอื่นแก้ไขได้นอกจากปล่อยให้มีฝันร้ายแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ...ข้าก็หวังให้ฝันร้ายนี้หยุดลงที่ตัวข้าพอ"เสียงของชายหนุ่มแหบพร่ามาก ในน้ำเสียง...ก็มีความสิ้นหวังที่ปิดไว้ไม่มิดอยู่ ทิ่มแทงเข้ามาที่ใจของจั๋วซือหรานต้องเป็นแบบไหนกันนะ...ถึงบีบคั้นให้คนดีๆ ที่หยิ่งทะนงและยอดเยี่ยมคนหนึ่งตกอยู่ในสภาพนี้...ราวกับสัตว์ที่ถูกกักขังไว้จั๋วซือหรานมองเขา ครู่ต่อมา ก็ถอนหายใจเบาๆเอ่ยขึ้นว่า "จริงๆ แล้ว...เดิมทีข้าเองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ การวางแผนและความคิดของข้าจึงไม่ได้เล่าใด้คนอื่นฟัง"เฟิงเหยียนไม่พูดอะไร แค่แหงนตามองนางเงียบๆจั๋วซือหรานยิ้มๆ "ข้ารู้สึกจริงๆ ว่าไม่แน่ข้าอาจมีวิธี แม้ตอนนี้ข้ายังพูดถึงเหตุผลออกมาให้ชัดเจนไม่ได้ แต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status