Share

บทที่ 1333

Author: หูเทียนเสี่ยว
จั๋วซือหรานเดิมทีรู้สึกว่าเกราะกระดูกทั้งตัวของอสูรกลืนแมลงนั่นค่อนข้างพิเศษ

เพียงแต่ว่า ถึงยังไงนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของร่างกายมัน

นางก็ไม่อาจเรียกร้องอะไรได้มาก

ใครจะคิดว่าเจ้านี่จะอาสาบอกนางเองว่าเกราะกระดูกบนตัวมันมีวงจรผลัดของมันอยู่

ความหมายประมาณว่าคล้ายๆ กับการลอกคราวของพวกสัตว์แมลงประมาณนั้น

พูดให้ง่ายกว่าก็คือ ถ้าไม่ใช้ก็เสียเปล่า

แล้วจั๋วซือหรานจะเกรงใจมันหรือ?

นางรวบแขนเสื้อขึ้น ใช้มีดเข้าไปขูดออกมาสองชิ้น คิดจะนำมาลองดูก่อน

ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากได้วัตถุดิบนี้มา ความคิดแรกสุดที่โผล่ขึ้นมาในสมองจั๋วซือหรานก็คือ รู้สึกว่าคุณสมบัติวัตถุนี้ ถ้านำมาทำเป็นร่มล่ะก็...

น่าจะใช้การได้ดีอยู่ น่าจะเหมาะกับเฟิงเหยียนมาก

ดังนั้น นางจึงถือโอกาสไปเรียกชิ่งหมิงมาเป็นผู้ช่วย ถึงยังไงในด้านการหลอมวัตถุ ชิงหมิงก็เป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากจริงๆ

ตอนที่เห็นวัตถุดิบนี้ ชิ่งหมิงก็รู้สึกว่าไม่ค่อยง่ายนัก

แต่ก็คิดไม่ถึงว่า สองคนรวมพลังกันหลอมสกัดตั้งนานสองนาน กลับไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดเลย

ทำเอาจั๋วซือหรานรู้สึกท้อแท้ขึ้นมา

และหลังจากนั้น เฟิงเหยียนก็เข้ามาแล้ว

และตอนนี้

เฟิงเหยียนก็จ้องวั
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1335

    จั๋วซือหราน ชั่วขณะหนึ่งยังไม่รู้ว่าจะกล่อมเฟิงเหยียนยังไงยิ่งไปกว่านั้น นี่ก็เป็นเพียงแนวคิดเบื้องต้นของนางเท่านั้นด้วยดังนั้นจึงยังไม่รีบในตอนนี้ จั๋วซือหรานจึงไม่พูดอะไรอีกแค่บอกว่า "เอาล่ะ เราค่อยๆ คิดเรื่องนี้ใหม่แล้วกัน"พอได้ยินคำนี้ของนาง เฟิงเหยียนก็กลัวว่านางจะเปลี่ยนใจ รีบเก็บเพลิงตะวันหงส์แดงสีส้มแดงจากในเตาหลอมกลับมาพอเปลวเพลิงนั่นถูกดึงออกไป จวงชิ่งหมิงก็มีความรู้สึกเหมือนถอนหายใจโล่งเขาแอบเช็ดเหงื่อที่หน้าผากกับปลายจมูกพอคิดถึงคำพูดที่พวกเขาพูดก่อนหน้านี้ มิน่าสภาผู้อาวุโสถึงเอาตนเองจัดไว้ที่กรมสืบสวนพิเศษของต้าชาง ด้านบนมีเฟิงเหยียนเป็นซือเจิ้งคอยกดอยู่น่าจะมีความหมายทำนองต้องการควบคุมสะกดเขาเอาไว้อยู่นั่นล่ะถึงอย่างไร เพลิงตะวันหงส์แดงก็ไม่ใช่เล่นๆ เลยทีเดียวแม้จั๋วซือหรานจะอ่อนข้อให้ แต่สีหน้าเฟิงเหยียนดูแล้วก็ยังเคร่งขรึมอยู่จั๋วซือหรานพอกำลังคิดจะถาม ก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของเขาดังมา "เจ้า...โกรธหรือเปล่า?"จั๋วซือหรานพอได้ยินก็งงงัน หัวเราะขึ้นทันที "ไม่ขนาดนั้นหรอก ท่านเองก็ไม่ใช่เพิ่งจะรู้จักข้านี่ ข้าเป็นคนโกรธใครง่ายเสียที่ไหนกัน"เฟิงเหยีย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1334

    ที่มากกว่าคือการครุ่นคิดหลังจากครุ่นคิดไปพักหนึ่ง ดวงตาของนางไม่เพียงแต่ไม่หม่นลงด้วยเหตุนี้ แต่กลับเป็นประกายขึ้นมา!นางดวงตาสวยงาม ปกติก็งามจนผิดปกติอยู่แล้วสภาพที่เปล่งประกายตอนนี้ ดึงดูดเสียเหลือเกินชิ่งหมิงกับเฟิงเหยียนล้วนสังเกตเห็นแล้ว ทยอยกันมองไปทางนางชิ่งหมิงถามขึ้นเสียงต่ำ "ซือหราน ทำไมหรือ?"จั๋วซือหรานยิ้มตอบว่า "อย่าท้อแท้นะ"เฟิงเหยียนรู้ว่านางมองโลกในแง่ดี และรู้ว่านางอาจจะอยากให้เขารู้สึกสิ้นหวังดังนั้นจึงบีบนิ้วมือนางเบาๆ เอ่ยขึ้นว่า "ไม่เป็นไร มีหมวกผ้าคลุมกับอักขระคำสาปอยู่ ปัญหาไม่ใหญ่ ไม่ต้องกังวลข้า"จั๋วซือหรานเองก็บีบปลายนิ้วมือเขาเบาๆ แต่กลับบอกมาว่า "ท่านคิดดูสิ ถ้าเจ้าสิ่งนี้ถูกเพลิงตะวันหงส์แดงของท่านหลอมเอาง่ายๆ มันก็พิสูจน์ได้ว่าพอทำมันเป็นร่มก็คงจะไม่ค่อยมีประสิทธิภาพเท่าไรนัก ไม่ใช่หรือ?"พอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน เฟิงเหยียนกับชิ่งหมิงก็นิ่งงันไปเพราะคำนี้...มันก็มีเหตุผลจริงๆแต่แม้เหตุผลเช่นนั้น ทว่าสถานการณ์ตรงหน้าก็ยังเป็นทางตันอยู่ดีตาของจั๋วซือหรานยังคงเปล่งประกาย พอเห็นสายตาเช่นนี้ของนาง ก็ยิ่งทำให้คนรู้สึกว่า นางนั้นทำได้ทุ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1333

    จั๋วซือหรานเดิมทีรู้สึกว่าเกราะกระดูกทั้งตัวของอสูรกลืนแมลงนั่นค่อนข้างพิเศษเพียงแต่ว่า ถึงยังไงนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของร่างกายมันนางก็ไม่อาจเรียกร้องอะไรได้มากใครจะคิดว่าเจ้านี่จะอาสาบอกนางเองว่าเกราะกระดูกบนตัวมันมีวงจรผลัดของมันอยู่ความหมายประมาณว่าคล้ายๆ กับการลอกคราวของพวกสัตว์แมลงประมาณนั้นพูดให้ง่ายกว่าก็คือ ถ้าไม่ใช้ก็เสียเปล่าแล้วจั๋วซือหรานจะเกรงใจมันหรือ?นางรวบแขนเสื้อขึ้น ใช้มีดเข้าไปขูดออกมาสองชิ้น คิดจะนำมาลองดูก่อนยิ่งไปกว่านั้น หลังจากได้วัตถุดิบนี้มา ความคิดแรกสุดที่โผล่ขึ้นมาในสมองจั๋วซือหรานก็คือ รู้สึกว่าคุณสมบัติวัตถุนี้ ถ้านำมาทำเป็นร่มล่ะก็...น่าจะใช้การได้ดีอยู่ น่าจะเหมาะกับเฟิงเหยียนมากดังนั้น นางจึงถือโอกาสไปเรียกชิ่งหมิงมาเป็นผู้ช่วย ถึงยังไงในด้านการหลอมวัตถุ ชิงหมิงก็เป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากจริงๆตอนที่เห็นวัตถุดิบนี้ ชิ่งหมิงก็รู้สึกว่าไม่ค่อยง่ายนักแต่ก็คิดไม่ถึงว่า สองคนรวมพลังกันหลอมสกัดตั้งนานสองนาน กลับไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดเลยทำเอาจั๋วซือหรานรู้สึกท้อแท้ขึ้นมาและหลังจากนั้น เฟิงเหยียนก็เข้ามาแล้วและตอนนี้เฟิงเหยียนก็จ้องวั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1332

    และตอนนี้ ไฟในเตา สีสันกลับเป็นหลากสีเป็นสีที่สวยมาก แต่กลับแฝงไว้ด้วยกลิ่นอายอันตราย...เฟิงเหยียนขมวดคิ้วขึ้นมาจั๋วซือหรานบอกว่า "โอ้ นี่คือไฟห้าสีของข้า"คิ้วที่ขมวดของเฟิงเหยียนยังไม่คลายออก มองดูนาง "เจ้า..."เขาไม่รู้จริงๆ ว่าควรจะพูดอะไรถึงจะดี จะตำหนิ...ก็ทำใจไม่ลงจะไม่ตำหนิ ก็รู้สึกว่าสถานการณ์แบบนี้มันอันตราย"การผสมไฟวิเศษเป็นเรื่องที่อันตรายมาก ไฟวิเศษสองสีก็อันตรายมากแล้ว แต่นี่ห้าสี?!"จั๋วซือหรานฟังออกถึงความตึงเครียดในน้ำเสียงชายหนุ่มนางยิ้มตาโค้ง "ในใจข้ารู้ขีดจำกัดตัวเองอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นนี่ก็ไม่ใช่ของข้าโดยตรง ดังนั้นอันตรายจึงลดลงไปพอควร"เฟิงเหยียนฟังความหมายในคำพูดนางออก นางเองก็รู้ว่าตอนนั้นไฟวิเศษล้วนมาจากบนตัวของแมลงกู่ก้อนเนื้อพวกนั้นแต่ก็ยังรู้สึกว่า..."เหลวไหล"พูดถึงตรงนี้ แต่ในคำพูดกลับไม่มีท่าทีเชิงตำหนิอะไรหลังจากความประหลาดใจต่อไฟห้าสีของนางผ่านไป เฟิงเหยียนจึงสังเกตเห็นของในเตาหลอม ว่าไม่ใช่ยาเม็ดอะไรแต่เป็นของที่ดูแล้ว.... ชั่วขณะหนึ่ง เหมือนยังไม่รู้ว่าเป็นวัตถุดิบอะไรเฟิงเหยียนมองอยู่พักหนึ่ง ก็อดขมวดคิ้วถามขึ้นไม่ได้ "นี่ม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1331

    เอ่อ...จั๋วซือหรานคิดในใจ ซือคงเซี่ยนก็ยังน่าเชื่อถืออยู่นะแต่คำนี้ก็แค่คิดไว้ในใน บนปากกลับรู้สึกว่า...ถ้าพูดอกไปน่าจะไม่ค่อยเหมาะนางรู้สึคว่าถ้าพูดออกไป บนหน้าชายคนนี้น่าจะไม่ได้มีสีหน้าแบบนี้แล้วถึงอย่างไร นี่ก็เป็นคนที่สามารถหึงได้กระทั่งตัวเขาเองเลยนะจั๋วซือหรานก่อนหน้านี้อันที่จริงไม่ค่อยสนใจว่าเขาคิดยังไง จะหึงหรือไม่หึงสมองก็พังไปแล้ว หมั้นกับหญิงสาวคนอื่นไปแล้ว มีอะไรให้สนใจกันแต่ตอนนี้...ก็เหมือนจะแตกต่างออกไปแล้วนี่ก็สารภาพความในใจกับนางมาแล้วนะดังนั้นจั๋วซือหรานพอคำพูดขึ้นมาถึงมุมปากก็รู้สึกพูดออกมาลำบากนานงหันไปมองท่านแม่กับเสี่ยวหวาย พู่ระย้าประดับมุกบนปิ่นปักผม แกว่งไปมา"แล้ว...จะไปที่หลวนหนานกับข้าหรือ?" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "แต่ว่า สิ่งแวดล้อมมันสู้เมืองหลวงไม่ได้นะ จะทำท่านแม่ลำบากเอา"พอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน ตาของเซี่ยอวิ๋นซีก็เปล่งประกายขึ้นมาทั้งใบหน้าเหมือนเปล่งแระกาย"มีอะไรลำบากกัน!" เซี่ยอวิ๋นซีเอ่ยขึ้นตาเป็นประกาย "วันคืนที่ยากลำบากกว่านี้ก็ผ่านมาแล้ว"ตอนนั้นที่เป็นแม่ม่าย ทุกวันเหมือนตายทั้งเป็น แต่ก็กลับล้มไม่ได้ นางก็ผ่านมาแล้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1330

    เพียงแค่เพราะ นางเป็นห่วงสภาพตอนนี้ของลูกสาวลูกสาวคนโตของนางคนนี้เป็นเด็กดี แต่โลกใบนี้ คนดีดี ก็มักจะเป็นคนที่ต้องทนทุกข์กับความอยุติธรรมในโลกนี้อย่างสาหัสและเพราะลูกสาวคนโตเป็นเด็กดี ดังนั้นนางที่เป็นแม่ ก็ไม่รุ้ว่าลูกคนนี้แบกรับและอดทนอะไรมาเพียงลำพังแค่ไหนดังนั้นถึงได้ไม่รู้อะไรเลย กระทั่งเรื่องที่ลูกสาวตั้งท้องแล้วถูกกลั่นแกล้งจนแทบเอาชีวิตไม่รอดแล้วยังมารับรู้ผ่านสามีที่หายตัวไปนานหลายปีแล้วอีกถ้าหากไม่มีเขามาแจ้งข่าวเซี่ยอวิ๋นซีมั่นใจ ด้วยนิสัยของจั๋วซือหรานที่ชอบเก็ฐเรื่องไม่ให้คนอื่นเป็นห่วงนางที่เป็นแม่ คงไม่มีทางได้รู้เรื่องนี้!ดังนั้นเซี่ยอวิ๋นซีจึงไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ นางเลิกคิ้วเบาๆ ส่ายหัว "ไม่ หรานหราน แม่จะไปกับเจ้า"จั๋วซือหรานรู้สึกจนใจ นางเองก็มองออก ว่าเรื่องครั้งนี้ทำท่านแม่หวาดกลัวไปแล้วแต่ชั่วขณะหนึ่ง ก็ยังไม่รู้จริงๆ ว่าจะกล่อมอย่างไรผ่านไปพักหนึ่ง ถึงพูดออกมาว่า"ท่านแม่ หลวนหนานแม้จะเป็นพื้นที่ศักดินาของข้า แต่นี่ก็เป็นการเดินทางไปครั้งแรกของข้า ยังไม่รู้ว่าในนั้นมีอะไรอยู่บ้าง ทั้งหมดยังไม่แน่นอน จะอย่างไรข้าก็ยังเป็นห่วงความปลอดภัยข

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status