Share

บทที่ 290

Penulis: หูเทียนเสี่ยว
สีหน้าของผู้อาวุโสที่เคยพูดแหน็บแนมกับจั๋วซือหรานในก่อนหน้านี้ดูแข็งทื่อเล็กน้อย เดิมทีเขากำลังรอจั๋วจิ่วดุคนรับใช้ที่เสียมารยาท

ใครจะรู้ว่าจั๋วจิ่วไม่ดุคนรับใช้เลย นางแค่ยกคางขึ้นเล็กน้อยแล้วพูดว่า "ข้านับเรียบร้อยแล้ว จำนวนทั้งหมดมีเท่านี้ ข้ายังได้เตรียมใบรายการวัสดุยาที่ตระกูลจั๋วต้องการให้ปแล้ว ความหมายของตระกูลจั๋วคือส่งมอบยาภายในวันนี้จะดีที่สุด หากไม่สามารถขนส่งทั้งหมดได้ ถยอยส่งก็ได้”

ผู้อาวุโสที่พูดอย่างเหน็บแนมในก่อนหน้านี้พูดอีกครั้งว่า "จะส่งเร็วอย่างนี้ได้อย่างไร เราต้องนับเงินด้วยไม่ใช่หรือ หากเจ้านับผิดล่ะ ทำอย่างไรดี เพราะเจ้ายังกล้าเล่นงานกับตระกูลเจ้าเลย มีอะไรหรือที่เจ้าไม่กล้าทำ”

เหยียนฉีขมวดคิ้วขึ้น " ผู้อาวุโสห้า "

เขาทราบดี ผู้อาวุโสห้ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อาวุโสสี่ และผู้อาวุโสสี่ของตระกูลเหยียนตัดสินใจผิดในระหว่างการแข่งขันกับ จั๋วซือหราน และทำข้อตกลงเขาไม่ควรตกลงเอาไว้ ซึ่งทำให้ตระกูลเหยียนต้องประสบความสูญเสีย

แม้ตอนนี้ผู้อาวุโสห้ายังสำนึกผิดในห้องอยู่เลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอาการของเหยียนชาง...

แต่เหยียนฉีทราบดี จั๋วซือหรานไม่ใช่ผู้ที่ยอมให้คนอื่นมาบ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terbaru

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1377

    ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่พูดอะไรมากแต่ก็รู้สึกอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา อยากจะดูว่านางคิดจะทำอย่างไรดังนั้น ทั้งสี่คนจึงตรงไปทางประตูเมืองช่วงค่ำของเมืองซื่อหนานก็สามารถเข้าเมืองได้ เพียงแต่จะยิ่งเข้มงวดขึ้นมาที่ประตูมีทหารคุ้มกันอยู่ไม่น้อย ทั้งในทั้งนอก รวมกันกว่ายี่สิบคนนี่ยังไม่นับร่วมที่เดินลาดตระเวนอยู่ด้านใน เอาแค่ที่จุดประตูเมืองก็มีอยู่ไม่น้อยแล้วปันอวิ๋นเอียงตามองจั๋วซือหรานผาดหนึ่ง "พอไปถึง ให้บุกเขาไปหรือทำยังไง?"จั๋วซือหรานยิ้มๆ ตอบว่า "ก็ต้องเข้าไปอย่างสง่าผ่าเผยสิ""เจ้านี่ดูไม่รีบร้อนเลยนะ" ปันอวิ๋นเอียงตามองไปทางเฟิงเหยียนเฟิงเหยียนสังเกตเห็นสายตาเขา เอ่ยขึ้นเสียงเรียบว่า "ไม่มีอะไรต้องเร่งรีบนี่""เจ้ารุ้ไหมว่านางคิดจะทำอะไร" ปันอวิ๋นถามเขาพยักหน้า "พอจะเดาได้อยู่"ปันอวิ๋นจุ๊ปาก "ใจตรงกันเสียเหลือเกิน..."เฟิงเหยียนหัวเราะทุ้มต่ำ "นางยังจะมีวิธีอะไรได้อีก เข้าไปตรงๆ เลย เราตามไปก็พอแล้ว"พูดแบบนี้ ปันอวิ๋นเองก็ตระหนักได่ขึ้นมาตอนนี้เอง ประตูเมืองก็อยู่ตรงหน้าแล้วป้ายบนประตูเมือง มีคำว่าซื่อหนานตัวใหญ่อยู่สองตัว...กระทั่งยังใช้อักษรของแคว้นเหย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1376

    "ไม่กินข้าวแค่มื้อเดียวก็หิวจนตายลายนะ" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น ยิ้มๆ มองเย่เจิงเอ่ยอีกว่า "ท่านแม่ทัพก็ดูลังเลเสียจริง ดังนั้น คำตอบของท่านแม่ทัพคือ?"เย่เจิงไม่ได้พูดอะไรออกมาทันที หลังจากสูดลมหายใจลึก ก็เอ่ยเสียงต่ำขึ้นว่า "ข้าเห็นด้วยแล้ว ถ้าหากท่านจัดการเจ้าเมืองซื่อหนานได้จริง ข้าจะนำทหารออกไป"จั๋วซือหรานพอได้ยินก็พยักหน้า "เช่นนั้นก็ดี รอฟังข่าวจากข้าแล้วกัน"เย่เจิงถามขึ้นคำหนึ่ง "ใต้เท้าจะออกเดินทางตอนไหน?"จั๋วซือหรานคิดๆ "ในเมื่อท่านแม่ทัพก็รับปากมาแล้ว คืนนี้จะออกเดินทางเลย""อะไรนะ!" เย่เจิงตาถลึงโต "คืนนี้หรือ? การเคลื่อนไหวใหญ่ขนาดนี้ ใต้เท้าไม่ควรวางแผนเตรียมตัวเสียหน่อยหรือ?""ตามหลักการแล้วก็ควรจะเตรียมตัวเสียหน่อย แต่ข้ามีเหตุผลที่ต้องเร่งรีบ..." จั๋วซือหรานคิดในใจว่าถ้าไม่รีบไปล่ะก็ ถึงตอนนั้นเทพปีศาจจอมกระบี่อันดับหนึ่งแห่งใต้หล้ามาถึง ก็คงจะจัดการลำบากแล้วหลังอาหาร จั๋วซือหรานก็นำคำพูดนี้ไปบอกกับปันอวิ๋นเฟิงเหยียนและชิ่งหมิงเฟิงเหยียนฟังนางหมดชิ่งหมิงเองก็ไม่เคยจะออกความเห็นแต่ว่าปันอวิ๋นมีดวงตาที่มองออกทะลุปรุโปร่ง เขากระแอมหัวเราะขึ้นเบาๆ บอกว่า "น้อ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1375

    ตอนนี้เอง จวงอี๋ไห่สามพ่อลูกก็เตรียมข้าวเย็นเสร็จแล้ว จัดวางไว้สองสามโต๊ะที่โถงใหญ่จั๋วซือหรานกับเฟิงเหยียน ปันอวิ๋น รวมถึงท่านแม่ จั๋วหวาย จวงชิ่งหมิง นั่งอยู่โต๊ะเดียวกันได้ยินเสียงฝีเท้าม้าแว่วเข้ามาแต่ไกล"เหมือนว่าจะมาแล้ว" จั๋วซือหรานดื่มน้ำแกงลงไปคำหนึ่ง จากนั้นก็เอ่ยขึ้นมาเสียงเรียบเฟิงเหยียนนึกขึ้นได้ถึงคำพูดที่นางพูดไว้ที่ห้องก่อนหน้านี้นางบอกว่ารอให้แม่ทัพเย่คิดจนเข้าใจ พวกเขาก็สามารถออกเดินทางได้แล้วเขาถามว่าแล้วเมื่อไรแม่ทัพเย่คนนั้นจะคิดจนเข้าใจ?นางบอกว่า...วันนี้ตอนนี้ เฟิงเหยียนก้ได้ยินเสียงฝีเท้าม้าแว่วเข้ามาแต่ไกลแล้ว พอคิดถึงความเป็นไปได้นั้น ก็พูดไม่ออกขึ้นมาไปชั่วขณะไม่นานนัก เสียงฝีเท้าม้าก็หยุดลงที่ประตูโรงเตี๊ยมผ่านไปครู่หนึ่ง ชายหนุ่มร่างสูงใส่ในชุดเกราะอ่อนคนหนึ่ง ก็ค่อยๆ เดินเข้ามาพลังบนตัวปล่อยจิตสังหารที่เด็ดขาดและเฉียบคมออกมาสายตาเองก็คมกริบทำให้คนอดรู้สึกไม่ได้ว่า คนผู้นี้...จะต้องเคยฆ่าคนมาแล้วแน่นอนหลังจากเย่เจิงเดินเข้ามา สายตาก็กวาดไปรอบๆ จากนั้นก็เล็งไปยังจั๋วซือหรานที่นั่งอยู่ที่โต๊ะส่วนคนอื่น...อย่างเช่นโต๊ะของเหลียนเจิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1374

    จั๋วซือหรานหัวเราะเสียงทุ้มเสียงของชายหนุ่มยิ่งน่าดึงดูดขึ้นท่ามกลางความมืด มีอาการแหบพร่าเล็กน้อย "หัวเราะอะไร?""ไม่มีอะไร" จั๋วซือหรานลูบใบหน้าเขาเบาๆเฟิงเหยียนเหมือนจะรู้สึกได้ว่า บางทีนางคงกำลังหัวเราะเขา...ที่ใจร้อนเสียขนาดนี้เขาไม่ส่งเสียงไปพักหนึ่งจั๋วซือหรานก็มองเขาเอ่ยขึ้นว่า "รู้ไหม พ่อครัวของโรงเตี๊ยม ยังไปทำงานดูแลม้าด้วยนะ...""...นั่นก็ยังดีที่เจ้าพาพ่อครัวมาด้วย" เฟิงเหยียนโอบนางมานั่งลงที่เก้าอี้จากนั้นจึงถามขึ้นว่า "ก่อนหน้านี้ไปจวนแม่ทัพมา เป็นยังไงบ้าง?"จั๋วซือหรานคิดๆ "ก็พอไหวอยู่ แม่ทัพคนนี้กระดูกแข็งน่าดู"เฟิงเหยียนพอได้ยินคำนี้ หลังจากชะงักไปครู่หนึ่งก็พูดแค่ว่า "ถ้างั้นเขาก็ลำบากแล้วสิ""อื๋อ?" จั๋วซือหรานไม่เข้าใจคำนี้ หัวเราะขึ้นมา "ทำไมถึงพูดแบบนี้ล่ะ?"เฟิงเหยียนตอบ "พวกกระดูกแข็งที่ถูกเจ้าจัดการไปแล้วมีน้อยซะที่ไหนกัน"พวกกระดูกไม่แข็งนางยังไปท้าทายอยู่เลยด้วยซ้ำ"ใช่ซะที่ไหนกันเล่า..." จั๋วซือหรานพูดพลางใช้นิ้ววงๆ เบาๆ ที่หน้าอกเขา "ข้าก็แค่อยากบรรลุเป้าหมายของข้าอย่างเป็นเหตุเป็นผลเฉยๆ เอง"ความหมายของคำพูดง่ายมาก ถ้ามีคนที่ไม่ยอมให้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1373

    พอเดินเข้ามาในโรงเตี๊ยม จั๋วซือหรานก็พบว่า ไม่ใช่แค่คนน้อยเท่านั้น โรงเตี๊ยมนี้นอกจากพวกเขาแล้ว ไม่มีแขกคนอื่นอยู่เลยประหยัดเรื่องที่นางคิดจะเช่าเหมาไปเลยเหลียนเจินเดินเข้ามา บอกกับนางว่า "ข้าน้อยเดิมทียังคิดว่า นี่จัดการให้เพราะเห็นแก่หน้าของนายท่านหรือเปล่า"ถ้าหากแม่ทัพเย่เจิง จัดการให้พวกเขาแบบนี้เพราะเห็นแก่หน้านาง มันก็ดูสมเหตุสมผลดีจั๋วซือหรานโบกมือเอ่ยขึ้น "ไม่หรอก ข้าเพิ่งจะไปยั่วโมโหเขามา...เขาไม่ชกข้าก็ถือว่าข่มใจได้มากแล้ว แล้วนี่ยังจะมาจัดแจงที่พักให้ข้าอีก...จะเป็นไปได้ยังไง"เหลียนเจินพอได้ยินคำนี้ของนายท่าน มุมปากก็กระตุก เหมือนอยากจะยิ้มแต่เพราะนิสัยที่ค่อนข้างจริงจัง ดังนั้นจึงไม่ได้ยิ้มออกมา"เช่นนั้นก็คงเพราะคนน้อยจริงๆ" เหลียนเจินเอ่ยขึ้น"คนน้อยมากจริงๆ " ปันอวิ๋นเดินเข้ามาจากประตู "ข้าเพิ่งไปเดินวนข้างนอกมา คนไม่ถือว่าเยอะมาก ยิ่งไปกว่านั้นยังรู้สึกว่า ประชาชนส่วนใหญ่จะเป็นคนพื้นที่ด้วย หรืออาจจะเป็นพวกครอบครัวของเหล่าทหารอะไรเทือกนั้น"จั๋วซือหรานได้ยินคำนี้ ก็พยักหน้าว่าเข้าใจ "การโยกย้ายประชากรไม่เยอะ ดังนั้นโรงเตี๊ยมจึงเงียบเหงาสินะ""ก็ออกจะเงี

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1372

    ชิ่งหมิงเดิมก็คิดจะยืมแรงนาง เพื่อลุกขึ้นยืนแต่หลังจากมือของเขาออกแรงกุมมือจั๋วซือหรานแล้ว ก็ไม่ได้ยืมแรงลุกขึ้น แต่ไม่ขยับเขยื้อนแค่จับมือนางไว้แบบนั้น การเคลื่อนไหวหยุดอยู่เท่านี้นางยืนอยู่ เขานั่งยอง ยื่นมือกุมมือนางไว้...ทั้งที่ไม่ได้อยู่ในรูปร่างเด็กหนุ่มแบบก่อนหน้าแล้วแท้ๆ แต่ที่จั๋วซือหรานมองเขา...ก็ยังรู้สึกเหมือนว่าตนเองเห็นเด็กหนุ่มก่อนหน้าคนนั้นอยู่ท่าทางที่ทำอะไรไม่ค่อยถูกนั่น"เป็นอะไรไป?" จั๋วซือหรานถามชิ่งหมิงกดเสียงต่ำ เอ่ยขึ้นว่า "ข้าจะไปเมืองซื่อหนานกับเจ้า"จั๋วซือหรานหรือไม่พูดอะไร ยังคงก้มลงมองเขาชิ่งหมิงเอ่ยต่อว่า "ที่นั่นเป็นเมืองที่ชั่วร้าย ถึงแม้เจ้าจะแข็งแกร่งมาก เจ้าหุบเขากับใต้เท้าซือเจิ้งเองก็แข็งแกร่งมาก แต่ข้าก็ยังอยากไปกับพวกเจ้า"จั๋วซือหรานไม่พูดอะไร ยังคงมองเขา รอให้เขาพูดสิ่งที่อยากพูดออกมาให้หมด"ข้าไม่อยากเป็นคนที่ช่วยอะไรก้ไม่ได้" ชิ่งหมิงพูดคำนี้ออกมา น้ำเสียงกดลงต่ำมากฟังออกไม่ยาก ว่าอารมณ์เองก็ดิ่งเหมือนกันจั๋วซือหรานฟังออกถึงความดิ่งของเขา และฟังออกถึงความหมายของเขาเรื่องของเวินป๋อยวน ทรมานเขามาโดยตลอด ความรู้สึกโทษตัวเ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status