Share

บทที่ 317

Aвтор: หูเทียนเสี่ยว
"ฝืนตัว"

เสียงทุ้มลึกของชายคนนั้นน่าดึงดูดมากและลอยเข้าหูของนาง

เสียงนั้นมีเสน่ห์และไพเราะมาก

โดยเฉพาะอาจเป็นเพราะสภาพร่างกายของเขา

รถม้าคันนี้ไม่มีหน้าต่าง และผ้าม่านก็หนาอย่างมาก และปังแสงได้อย่างดี

ขณะนี้รถมืดสนิท

ในความมืดมิดเช่นนี้ เสียงอันลึกล้ำของชายผู้นั้นดังก้องอยู่ข้างหูของนาง

จั๋วซือหรานรู้สึกริมฝีปากของนางแห้งเล็กน้อย

"สรุปคือ...ข้าฝืนตัว" จั๋วซือหรานถอนหายใจเบา ๆ เนื่องจากเรื่องของก่อนหน้านี้ อาการของนางไม่ค่อยดีนัก แต่นางก็ยังพูดต่อ "หรือท่านอ๋อง... ฝืนตัว"

เมื่อบุคคลหนึ่งพูดคุยกับบุคคลอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถามคำถาม

คนมักจะมองอีกฝ่ายหรือ หรือต้องเผชิญหน้าอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัวเสมอ แม้ว่าบุคคลนั้นต้องมองไม่เห็นในความมืด แต่คนคนนั้นก็ยังอยากหันไปทางเสียงของอีกฝ่ายด้วย

นี่อาจเป็นสัญชาตญาณบางอย่าง

ดังนั้นเมื่อจั๋วซือหรานถามคำถามนี้ นางก็หันหน้าไปทางด้านหลัง

ในความมืด โดยไม่ได้ตั้งใจ นางรู้สึกริมฝีปากอันแห้งของนางสัมผัสถูกจุดที่นุ่มนวลและเย็นเล็กน้อย

เมื่อมีสิ่งใดสัมผัสบนริมฝีปาก ผู้คนจะเลียริมฝีปากด้วยลิ้นโดยไม่รู้ตัว

จั๋วซือหรานยื่นลิ้นออกและเลียริมฝีปากของเ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Заблокированная глава

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1377

    ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่พูดอะไรมากแต่ก็รู้สึกอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา อยากจะดูว่านางคิดจะทำอย่างไรดังนั้น ทั้งสี่คนจึงตรงไปทางประตูเมืองช่วงค่ำของเมืองซื่อหนานก็สามารถเข้าเมืองได้ เพียงแต่จะยิ่งเข้มงวดขึ้นมาที่ประตูมีทหารคุ้มกันอยู่ไม่น้อย ทั้งในทั้งนอก รวมกันกว่ายี่สิบคนนี่ยังไม่นับร่วมที่เดินลาดตระเวนอยู่ด้านใน เอาแค่ที่จุดประตูเมืองก็มีอยู่ไม่น้อยแล้วปันอวิ๋นเอียงตามองจั๋วซือหรานผาดหนึ่ง "พอไปถึง ให้บุกเขาไปหรือทำยังไง?"จั๋วซือหรานยิ้มๆ ตอบว่า "ก็ต้องเข้าไปอย่างสง่าผ่าเผยสิ""เจ้านี่ดูไม่รีบร้อนเลยนะ" ปันอวิ๋นเอียงตามองไปทางเฟิงเหยียนเฟิงเหยียนสังเกตเห็นสายตาเขา เอ่ยขึ้นเสียงเรียบว่า "ไม่มีอะไรต้องเร่งรีบนี่""เจ้ารุ้ไหมว่านางคิดจะทำอะไร" ปันอวิ๋นถามเขาพยักหน้า "พอจะเดาได้อยู่"ปันอวิ๋นจุ๊ปาก "ใจตรงกันเสียเหลือเกิน..."เฟิงเหยียนหัวเราะทุ้มต่ำ "นางยังจะมีวิธีอะไรได้อีก เข้าไปตรงๆ เลย เราตามไปก็พอแล้ว"พูดแบบนี้ ปันอวิ๋นเองก็ตระหนักได่ขึ้นมาตอนนี้เอง ประตูเมืองก็อยู่ตรงหน้าแล้วป้ายบนประตูเมือง มีคำว่าซื่อหนานตัวใหญ่อยู่สองตัว...กระทั่งยังใช้อักษรของแคว้นเหย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1376

    "ไม่กินข้าวแค่มื้อเดียวก็หิวจนตายลายนะ" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น ยิ้มๆ มองเย่เจิงเอ่ยอีกว่า "ท่านแม่ทัพก็ดูลังเลเสียจริง ดังนั้น คำตอบของท่านแม่ทัพคือ?"เย่เจิงไม่ได้พูดอะไรออกมาทันที หลังจากสูดลมหายใจลึก ก็เอ่ยเสียงต่ำขึ้นว่า "ข้าเห็นด้วยแล้ว ถ้าหากท่านจัดการเจ้าเมืองซื่อหนานได้จริง ข้าจะนำทหารออกไป"จั๋วซือหรานพอได้ยินก็พยักหน้า "เช่นนั้นก็ดี รอฟังข่าวจากข้าแล้วกัน"เย่เจิงถามขึ้นคำหนึ่ง "ใต้เท้าจะออกเดินทางตอนไหน?"จั๋วซือหรานคิดๆ "ในเมื่อท่านแม่ทัพก็รับปากมาแล้ว คืนนี้จะออกเดินทางเลย""อะไรนะ!" เย่เจิงตาถลึงโต "คืนนี้หรือ? การเคลื่อนไหวใหญ่ขนาดนี้ ใต้เท้าไม่ควรวางแผนเตรียมตัวเสียหน่อยหรือ?""ตามหลักการแล้วก็ควรจะเตรียมตัวเสียหน่อย แต่ข้ามีเหตุผลที่ต้องเร่งรีบ..." จั๋วซือหรานคิดในใจว่าถ้าไม่รีบไปล่ะก็ ถึงตอนนั้นเทพปีศาจจอมกระบี่อันดับหนึ่งแห่งใต้หล้ามาถึง ก็คงจะจัดการลำบากแล้วหลังอาหาร จั๋วซือหรานก็นำคำพูดนี้ไปบอกกับปันอวิ๋นเฟิงเหยียนและชิ่งหมิงเฟิงเหยียนฟังนางหมดชิ่งหมิงเองก็ไม่เคยจะออกความเห็นแต่ว่าปันอวิ๋นมีดวงตาที่มองออกทะลุปรุโปร่ง เขากระแอมหัวเราะขึ้นเบาๆ บอกว่า "น้อ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1375

    ตอนนี้เอง จวงอี๋ไห่สามพ่อลูกก็เตรียมข้าวเย็นเสร็จแล้ว จัดวางไว้สองสามโต๊ะที่โถงใหญ่จั๋วซือหรานกับเฟิงเหยียน ปันอวิ๋น รวมถึงท่านแม่ จั๋วหวาย จวงชิ่งหมิง นั่งอยู่โต๊ะเดียวกันได้ยินเสียงฝีเท้าม้าแว่วเข้ามาแต่ไกล"เหมือนว่าจะมาแล้ว" จั๋วซือหรานดื่มน้ำแกงลงไปคำหนึ่ง จากนั้นก็เอ่ยขึ้นมาเสียงเรียบเฟิงเหยียนนึกขึ้นได้ถึงคำพูดที่นางพูดไว้ที่ห้องก่อนหน้านี้นางบอกว่ารอให้แม่ทัพเย่คิดจนเข้าใจ พวกเขาก็สามารถออกเดินทางได้แล้วเขาถามว่าแล้วเมื่อไรแม่ทัพเย่คนนั้นจะคิดจนเข้าใจ?นางบอกว่า...วันนี้ตอนนี้ เฟิงเหยียนก้ได้ยินเสียงฝีเท้าม้าแว่วเข้ามาแต่ไกลแล้ว พอคิดถึงความเป็นไปได้นั้น ก็พูดไม่ออกขึ้นมาไปชั่วขณะไม่นานนัก เสียงฝีเท้าม้าก็หยุดลงที่ประตูโรงเตี๊ยมผ่านไปครู่หนึ่ง ชายหนุ่มร่างสูงใส่ในชุดเกราะอ่อนคนหนึ่ง ก็ค่อยๆ เดินเข้ามาพลังบนตัวปล่อยจิตสังหารที่เด็ดขาดและเฉียบคมออกมาสายตาเองก็คมกริบทำให้คนอดรู้สึกไม่ได้ว่า คนผู้นี้...จะต้องเคยฆ่าคนมาแล้วแน่นอนหลังจากเย่เจิงเดินเข้ามา สายตาก็กวาดไปรอบๆ จากนั้นก็เล็งไปยังจั๋วซือหรานที่นั่งอยู่ที่โต๊ะส่วนคนอื่น...อย่างเช่นโต๊ะของเหลียนเจิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1374

    จั๋วซือหรานหัวเราะเสียงทุ้มเสียงของชายหนุ่มยิ่งน่าดึงดูดขึ้นท่ามกลางความมืด มีอาการแหบพร่าเล็กน้อย "หัวเราะอะไร?""ไม่มีอะไร" จั๋วซือหรานลูบใบหน้าเขาเบาๆเฟิงเหยียนเหมือนจะรู้สึกได้ว่า บางทีนางคงกำลังหัวเราะเขา...ที่ใจร้อนเสียขนาดนี้เขาไม่ส่งเสียงไปพักหนึ่งจั๋วซือหรานก็มองเขาเอ่ยขึ้นว่า "รู้ไหม พ่อครัวของโรงเตี๊ยม ยังไปทำงานดูแลม้าด้วยนะ...""...นั่นก็ยังดีที่เจ้าพาพ่อครัวมาด้วย" เฟิงเหยียนโอบนางมานั่งลงที่เก้าอี้จากนั้นจึงถามขึ้นว่า "ก่อนหน้านี้ไปจวนแม่ทัพมา เป็นยังไงบ้าง?"จั๋วซือหรานคิดๆ "ก็พอไหวอยู่ แม่ทัพคนนี้กระดูกแข็งน่าดู"เฟิงเหยียนพอได้ยินคำนี้ หลังจากชะงักไปครู่หนึ่งก็พูดแค่ว่า "ถ้างั้นเขาก็ลำบากแล้วสิ""อื๋อ?" จั๋วซือหรานไม่เข้าใจคำนี้ หัวเราะขึ้นมา "ทำไมถึงพูดแบบนี้ล่ะ?"เฟิงเหยียนตอบ "พวกกระดูกแข็งที่ถูกเจ้าจัดการไปแล้วมีน้อยซะที่ไหนกัน"พวกกระดูกไม่แข็งนางยังไปท้าทายอยู่เลยด้วยซ้ำ"ใช่ซะที่ไหนกันเล่า..." จั๋วซือหรานพูดพลางใช้นิ้ววงๆ เบาๆ ที่หน้าอกเขา "ข้าก็แค่อยากบรรลุเป้าหมายของข้าอย่างเป็นเหตุเป็นผลเฉยๆ เอง"ความหมายของคำพูดง่ายมาก ถ้ามีคนที่ไม่ยอมให้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1373

    พอเดินเข้ามาในโรงเตี๊ยม จั๋วซือหรานก็พบว่า ไม่ใช่แค่คนน้อยเท่านั้น โรงเตี๊ยมนี้นอกจากพวกเขาแล้ว ไม่มีแขกคนอื่นอยู่เลยประหยัดเรื่องที่นางคิดจะเช่าเหมาไปเลยเหลียนเจินเดินเข้ามา บอกกับนางว่า "ข้าน้อยเดิมทียังคิดว่า นี่จัดการให้เพราะเห็นแก่หน้าของนายท่านหรือเปล่า"ถ้าหากแม่ทัพเย่เจิง จัดการให้พวกเขาแบบนี้เพราะเห็นแก่หน้านาง มันก็ดูสมเหตุสมผลดีจั๋วซือหรานโบกมือเอ่ยขึ้น "ไม่หรอก ข้าเพิ่งจะไปยั่วโมโหเขามา...เขาไม่ชกข้าก็ถือว่าข่มใจได้มากแล้ว แล้วนี่ยังจะมาจัดแจงที่พักให้ข้าอีก...จะเป็นไปได้ยังไง"เหลียนเจินพอได้ยินคำนี้ของนายท่าน มุมปากก็กระตุก เหมือนอยากจะยิ้มแต่เพราะนิสัยที่ค่อนข้างจริงจัง ดังนั้นจึงไม่ได้ยิ้มออกมา"เช่นนั้นก็คงเพราะคนน้อยจริงๆ" เหลียนเจินเอ่ยขึ้น"คนน้อยมากจริงๆ " ปันอวิ๋นเดินเข้ามาจากประตู "ข้าเพิ่งไปเดินวนข้างนอกมา คนไม่ถือว่าเยอะมาก ยิ่งไปกว่านั้นยังรู้สึกว่า ประชาชนส่วนใหญ่จะเป็นคนพื้นที่ด้วย หรืออาจจะเป็นพวกครอบครัวของเหล่าทหารอะไรเทือกนั้น"จั๋วซือหรานได้ยินคำนี้ ก็พยักหน้าว่าเข้าใจ "การโยกย้ายประชากรไม่เยอะ ดังนั้นโรงเตี๊ยมจึงเงียบเหงาสินะ""ก็ออกจะเงี

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1372

    ชิ่งหมิงเดิมก็คิดจะยืมแรงนาง เพื่อลุกขึ้นยืนแต่หลังจากมือของเขาออกแรงกุมมือจั๋วซือหรานแล้ว ก็ไม่ได้ยืมแรงลุกขึ้น แต่ไม่ขยับเขยื้อนแค่จับมือนางไว้แบบนั้น การเคลื่อนไหวหยุดอยู่เท่านี้นางยืนอยู่ เขานั่งยอง ยื่นมือกุมมือนางไว้...ทั้งที่ไม่ได้อยู่ในรูปร่างเด็กหนุ่มแบบก่อนหน้าแล้วแท้ๆ แต่ที่จั๋วซือหรานมองเขา...ก็ยังรู้สึกเหมือนว่าตนเองเห็นเด็กหนุ่มก่อนหน้าคนนั้นอยู่ท่าทางที่ทำอะไรไม่ค่อยถูกนั่น"เป็นอะไรไป?" จั๋วซือหรานถามชิ่งหมิงกดเสียงต่ำ เอ่ยขึ้นว่า "ข้าจะไปเมืองซื่อหนานกับเจ้า"จั๋วซือหรานหรือไม่พูดอะไร ยังคงก้มลงมองเขาชิ่งหมิงเอ่ยต่อว่า "ที่นั่นเป็นเมืองที่ชั่วร้าย ถึงแม้เจ้าจะแข็งแกร่งมาก เจ้าหุบเขากับใต้เท้าซือเจิ้งเองก็แข็งแกร่งมาก แต่ข้าก็ยังอยากไปกับพวกเจ้า"จั๋วซือหรานไม่พูดอะไร ยังคงมองเขา รอให้เขาพูดสิ่งที่อยากพูดออกมาให้หมด"ข้าไม่อยากเป็นคนที่ช่วยอะไรก้ไม่ได้" ชิ่งหมิงพูดคำนี้ออกมา น้ำเสียงกดลงต่ำมากฟังออกไม่ยาก ว่าอารมณ์เองก็ดิ่งเหมือนกันจั๋วซือหรานฟังออกถึงความดิ่งของเขา และฟังออกถึงความหมายของเขาเรื่องของเวินป๋อยวน ทรมานเขามาโดยตลอด ความรู้สึกโทษตัวเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status