Share

บทที่ 532

Author: หูเทียนเสี่ยว
เจ้าสำนักหอฟ้าดาวแหงนตาขึ้นฉับพลัน มองตรงไปยังทิศของกรง

และก็เห็นว่าคนในกรงที่ผูกแถบผ้าสีแดงไว้ สองมือจับรั้วกรงเหล็กเอาไว้แน่น ในดวงตามีความตื่นกลัวและตื่นเต้น ความหวาดกลัวน่าจะทำเอาสติไม่อยู่กับเนื้อตัว ส่วนความตื่นเต้นก็น่าจะเป็นความยินดีเหมือนเกิดใหม่หลังเจอภัยพิบัติ

“เจ้าสำนัก! เจ้าสำนัก!” เขาร้องเรียกเป็นชุด “ข้าคิดว่าข้าจะตายไปเสียแล้ว...”

ดวงตาเจี่ยงเทียนซิงจ้องเขาขรึมๆ อยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเอียงตาไปกำชับกับลูกน้อง “ขังต่อไปก่อน หลังจากกรอกยาไปสองสามวันแล้วค่อยปล่อยออกมา”

“ขอรับ” ลูกน้องขานรับคำสั่ง

คนที่เหมือนเกิดใหม่หลังเจอภัยพิบัติในกรง ไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองเพราะตนเองยังต้องถูกยังไว้อีกหลายวันเลยแม้แต่น้อย

เขามีแต่ความรู้สึกโชคดี รีบเอ่ยขึ้นว่า “ขอบคุณเจ้าสำนัก ขอบคุณเจ้าสำนัก!”

เจ้าสำนักหอฟ้าดาวกำชับลูกน้องต่อ “วัตถุดิบยาเหล่านั้นที่เตรียมไว้ก่อนหน้า ทั้งหมดให้ส่งไปยังร้านยาของจั๋วซือหราน ดูด้วยว่านางยังต้องการอะไรอีก จัดเตรียมให้นางเสีย”

“ขอรับ”

หลังจากเจ้าสำนักฟ้าดาวกำชับเสร็จสิ้น ก็ลุกขึ้นเดินไปด้านนอก

มุมปากของเขาเผยรอยยิ้มบาง เดินไปด้วยพลางพูดกับตนเอง “เจี
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 533

    “อือ...” จั๋วซือหรานพ่นลมจมูกเป็นสัญญาณปฏิเสธออกมาเบาๆ พลิกตัวงุดหน้าเข้าไปในต้นกำเนิดความร้อนข้างตัว เหมือนอยากจะเอาหัวทั้งหัวหลบเข้าในหน้าอกเขา ให้ตนเองได้นอนเพิ่มต่ออีกหน่อยอาการขี้เกียจลุกจากที่นอนเฟิงเหยียนเดิมทียังคิดจะเรียกนางอีกครั้ง แต่พอมองสภาพของนาง ดวงตาลึกซึ้งของเขาก็ค่อยๆ หรี่ลง และไม่ส่งเสียงออกมาอีกเพียงแต่ต่อให้เขาไม่เรียก จั๋วซือหรานเองก็ค่อยๆ ตื่นขึ้นมาจากเสียงที่เขาเรียกก่อนหน้าแล้ว ต่อให้ยังดูมึนๆ งงๆ อยู่บ้าง...แต่ว่า เพราะไม่ได้อยู่ในสภาพหลับลึกแบบก่อนหน้า ดังนั้น จั๋วซือหรานจึงได้ยินการเคลื่อนไหวของเฉวียนคุนที่เดินไปเดินมาอยู่ด้านนอกพอได้ยินก็รู้ว่ากำลังกระวนกระวายใจไม่ต้องคิดก็รู้ จะต้องเกิดเรื่องขึ้นแล้ว...ตอนที่หลับลึกก่อนหน้านี้ ไม่รู้สึกถึงก็ช่างมันตอนนี้ในเมื่อสังเกตเห็นแล้ว แน่นอนว่าไม่มีทางนั่งนิ่งไม่สนใจแน่หลังจากจั๋วซือหรานงุดหัวฝังเหมือนนกกระจอกเทศอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็เงยหน้าขึ้นมาอย่างจำใจ มองไปทางเฟิงเหยียน ดวงตามีแววเศร้าสร้อยเฟิงเหยียนเองก็ไม่เคยเห็นสายตานี้จากนางมาก่อนสายตาของเขาหยุดอยู่บนหน้านางครู่หนึ่ง เอ่ยขึ้นเสี

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 534

    เฟิงเหยียนส่ายหัวเขาอยู่ข้างกายนางมาตลอด การเคลื่อนไหวนอกประตู ถ้าหากไม่มีคนมารายงาน เขาเองก็ไม่มีทางรู้เช่นกัน“ใช่เลย มีคนที่ดูดุร้ายมากคนหนึ่งด้วย...” เฉวียนคุนเอ่ยขึ้น “ข้าได้ยินคนนอกประตูเหล่านั้น แล้วก็เด็กฉลาดยังบอกว่า คนๆ นั้นเหมือนเป็นคนของตลาดมืด”แต่ว่าเด็กฉลาดก็ไม่กล้ายืนยัน แต่ไม่ใช่เพราะจำไม่ได้ แต่เป็นเพราะรู้สึกว่าเป็นไปไม่ค่อยได้เด็กฉลาดหลังจากมาทำงานที่จวนของจั๋วซือหรานแล้ว ก็มีชีวิตที่มั่นคงขึ้น สำหรับสถานการณ์ปัจจุบันของตลาดมืด ตนเองก็ไม่ค่อยรู้เหมือนเมื่อก่อนแล้วดังนั้นแค่รู้สึกว่าไม่น่าเป็นไปได้ เพราะคนผู้นั้นเป็นถึงผู้ชนะการทดสอบของตลาดมืดเลยนะ! จะมาปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไรกันพอได้ยินเฉวียนคุนพูดเช่นนี้ จั๋วซือหรานก็เริ่มเดาได้แล้วว่าเป็นใคร“เขามาแล้วหรือ?”“คุณหนูรู้จักใครหรือ?” เฉวียนคุนเอ่ยขึ้นเสียงต่ำ “พวกเขาบอกว่าเป็นผู้ชนะการทดสอบของตลาดมืด...น่าจะไม่ใช่เรื่องจริงหรอกกระมัง?”“อืม” จั๋วซือหรานพยักหน้า “ไปเถอะ ออกไปดูหน่อย”คุนแทบจะตกตะลึงไป ผู้ชนะการทดสอบในตลาดมืดทำไมจึงมาหาพวกเขาที่นี่...ยังไม่ทันที่จั๋วซือหรานจะเดินไปที่ประตูเพื่อดู ก็เห็

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 535

    “ไม่รู้หรอก” จั๋วซือหรานเห็นสีหน้าตกตะลึงบนใบหน้าเฉวียนคุน เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ไม่รู้จริงๆ แค่ก่อนที่ข้าจะทำอะไรก็ติดนิสัยเช่นนี้ ก่อนฝนจะตกก็จัดแจงเตรียมร่มเสีย จะได้ไม่ถูกคนอื่นเขาเล่นงานเอา”สีหน้าบนหน้าเฉวียนคุน ไม่เชื่ออย่างเห็นได้ชัด เขาเดิมทีก็ศรัทธาต่อตัวคุณหนูมากจั๋วซือหรานมองสีหน้าเฉวียนคุน หัวเราะขึ้นมา เอ่ยขึ้นอย่างจำใจ “ข้าแค่ว่าจะมีความเป็นไปได้เช่นนี้ แต่ก็ไม่คิดเลยว่าตระกูลเหยียนจะออกมาแล้ว”จากนั้นเฉวียนคุนจึงเห็นตอนที่คุณหนูของตนเองพูดถึงจุดนี้ ความอบอุ่นที่อยู่ในรอยยิ้มบนใบหน้าก่อนหน้านั้นก็ค่อยๆ จางหายไปนางเอ่ยต่อว่า “สิ่งที่ข้าทำไปก่อนหน้านี้เป็นการเตรียมการล่วงหน้า เดิมทียังคิดว่าใครออกมาก่อนก็จะตีทิ้งเสียก่อน”ใครจะรู้ว่าเป็นตระกูลเหยียนกันเฉวียนคุนพอได้ยินคำพูดนี้ ไม่รู้เพราะอะไร เหมือนว่าจนตอนที่ได้ยินคำพูดของนางที่เต็มไปด้วยความหยิ่งทะนงและมั่นใจ เฉวียนคุนถึงรู้สึกว่า “ใช่สิ มันควรจะเป็นเช่นนี้” ขึ้นมาเพราะรู้ถึงสถานการณ์ด้านนอกในตอนนี้ ดังนั้นจากคำพูดที่อิ๋นไป๋ลูกมือของเจ้าสำนักหอฟ้าดาวนำมา เฉวียนคุนจึงรู้ว่าตอนนี้น่าจะเป็นสถานการณ์แบบไหนดังนั้น

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 536

    เฉวียนคุนรีบเสริมเข้ามา “ท่านเขย...ท่านเขยในอนาคต”เฉวียนคุนพูดแล้วก็คิดจะเปลี่ยนหัวข้อสนทนา เอ่ยขึ้นว่า “คุณหนู ถ้าอย่างนั้นท่านตอนนี้ก็จะไปที่ร้านขายยาศูนย์การแพทย์ไหม?”จั๋วซือหรานขี้เกียจจะตำหนิที่เฉวียนคุนเมื่อครู่หลุดปากออกมา จึงพูดว่า “ข้าไม่ไป ข้ายังมีที่อื่นต้องไปอีก ศูนย์การแพทย์ทางนั้นเจ้าก็ไปเถอะ เรื่องราวเจ้าเองก็รู้แล้ว ตนเองไปจัดการให้ดี อย่าทำให้ข้าผิดหวังล่ะ รอข้าเสร็จเรื่องอื่นก่อนแล้วข้าค่อยไปที่ร้านยาศูนย์การแพทย์”เฉวียนคุนถูกจั๋วซือหรานพูดมาเช่นนี้ จึงตึงเครียดขึ้นมาแล้ว เขาเองก็ไม่รู้เพราะอะไรความตึงเครียดนั้น ไม่ใช่ความหวาดกลัว แต่เป็น...ความอยากริอยากลอง!เหมือนว่า ในที่สุดก็ทำอะไรให้กับคุณหนูได้บ้างแล้ว!“รับทราบ! ข้าจะไปจัดการตอนนี้เลย” เฉวียนคุนขานรับอย่างระมัดระวัง“อืม เจ้าไม่ใช่ว่าไม่ชอบที่ข้าถูกคนสาดน้ำสกปรกใส่หรอกหรือ? เรื่องนี้เจ้าก็ไปจัดการแล้วกัน” คำพูดนี้ของจั๋วซือหราน ทำให้เฉวียนคุนยิ่งระมัดระวังขึ้นไปอีกเขาเข้าใจเป็นอย่างดี ว่านี่คุณหนูให้ความสำคัญกับเขา และเป็นการทดสอบต่อตัวเขาของคุณหนูด้วย เขารีบขานรับ “คุณหนูวางใจได้เลย! ข้าจะต้องทำดี

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 537

    พอได้ยินคำพูดนี้ของเฟิงเหยียน จั๋วซือหรานก็เม้มปากไม่ส่งเสียงนางโกรธจริงๆ นั่นล่ะ ไม่ว่าจะตระกูเหยียนหรือว่าตระกูลจั๋ว นางก็ใช้ประโยชน์มาตลอด ต่อให้ผิวเผินจะดูเป็นการร่วมมือก็ตามแต่ถ้าแค่ใช้ประโยชน์กันและกันเท่านั้น แต่สำหรับตระกูลเฟิง...จั๋วซือหรานนึกถึงตอนที่ตนเอง “แลกเปลี่ยนพลัง” กับเฟิงเหยียน บวกกับความเห็นใจต่อตัวเฟิงเหยียนรวมถึงชะตากรรมวีรบุรุษที่น่าเศร้าของตระกูลเฟิงนางเข้าใจว่าตนเองไม่มีประโยชน์ใดกับตระกูลเฟิง ยิ่งไปกว่านั้นครั้งนี้ ที่นางเข้าช่วยเหลือนตระกูลเฟิงก็เพื่อเฟิงเหยียนจริงๆ ไม่เช่นนั้นนางคงมองตระกูลเฟิ่งล่มสลายไปในคลื่นพายุครั้งนี้แล้วต่อให้ตัดสี่คนนั้นออก บางทีอาจจะไม่ได้สร้างการบาดเจ็บล้มตายมากนัก แต่ก็ทำให้ตระกูลเฟิงวุ่นวายได้แล้วผลลัพธ์คือที่นางคิดถึงเกียรติของเฟิงเหยียนด้วยความหวังดีแต่สิ่งที่ได้รับมากลับเป็นตระกูลเฟิงเอามีดมาแทงหลัง...ต่อให้ในใจจั๋วซือหรานจะคาดคะเนนิสัยชั่วร้ายของพวกตระกูลชั้นสูงเหล่านี้ไว้แล้ว แต่การที่เพิ่งจะยกชามกินข้าว แต่พริบตาต่อมาก็คว่ำชามด่ากราดคนแบบนี้มันก็ช่าง...ไม่ว่าจะตระกูลเหยียนหรือตระกูลจั๋ว เหมือนจะยังไม่ได้เลวร้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 538

    นางกระทั่งเหมือนไม่เห็นพวกเขาด้วยซ้ำ ยังคงเดินต่อไปสีหน้าท่าทางของจั๋วซือหรานที่ดูเรียบเฉย เวลานี้กลายเป็นเหตุผลที่พวกเขาโกรธแค้นขึ้นมาจากนั้น ก็มีเสียงแผละดังขึ้น!กองผักกาดเน่าหนึ่งกอง ถูกเทลงไปตรงหน้าใต้เท้าจั๋วซือหรานเท้าของจั๋วซือหรานหยุดลง มองไปทางคนที่โยนขยะนี้เข้ามาสายตาไม่มีคลื่นอารมณ์ใด นิ่งเงียบไปทั้งผืนคนที่โยนผักกาดเน่ากองนี้มา ถูกสายตาของนางจ้องจนขนลุกขึ้นในใจปากแข็งเอ่ยขึ้นมาว่า “เจ้าทำเรื่องเช่นนี้! แล้วยังกล้าทำตัวไม่เกรงกลัวเช่นนี้อีก! จั๋วซือหรานเจ้ามันหน้าไม่อาย!” “ใช่! หน้าไม่อาย! หน้าไม่อาย!”“คนอย่างเจ้าไม่คู่ควรจะอยู่ในเมืองหลวง!”เรื่องการโห่ประจานก็เป็บแบบนี้ ขอแค่มีคนแรกเอ่ยขึ้นมา คนอื่นๆ ก็จะสอดประสานเข้ามาง่ายเป็นพิเศษยิ่งไปกว่านั้นเพราะมีคนเยอะ ก็มักจะรู้สึกกันว่า ตนเองขอแค่หลบอยู่ในกลุ่มคนก็จะปลอดภัยต่อในใจพวกเขาจะไม่เข้าใจคำพูดที่ว่ากฎหมายไม่ลงโทษคนหมู่มาก แต่กลับเข้าใจแนวคิดนี้อย่างชัดเจนจั๋วซือหรานต่อให้เก่งกาจสักแค่ไหน แต่ก็ไม่อาจเปิดฉากเข่นฆ่าคนมากขนาดนี้ได้กระมัง?หลายครั้ง ที่ความกำเริบเสิบสานของคนหมู่มากใช้ประโยชน์จากขีดจำก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 539

    “ช่างเป็นการเปลี่ยนแปลงที่อัศจรรย์เสียจริง จั๋วจิ่วคนนี้ตอนนั้นไม่ใช่ว่าถอนหมั้นกับซื่อจื่อเฟิงเพราะคนจนๆ คนหนึ่งหรอกหรือ? ไปผิดใจกับตระกูลเขาเข้าเต็มเปาเลยนี่...”“ตอนนี้ซื่อจื่อเฟิง กลับมาผิดใจกับตระกูลเพื่อหญิงสาวที่ชื่อเสียงเน่าเหม็นแล้วยังทอดทิ้งตนเองคนนี้อีก”จั๋วซือหรานเองก็ประสาทสัมผัสไว ได้ยินเสียงเหล่านี้ลอดเข้าหูจนหมดนางเลิกคิ้ว อารมณ์เองก็ดีขึ้นไม่น้อยใช่สิ ถ้าตระกูลเฟิงรู้เข้าไม่โมโหตายเลยหรือ?ถ้าตระกูลเฟิงอกแตกตาย อารมณ์ของจั๋วซือหรานจะดีมากเลยนางยกมุมปากเล็กน้อย หัวเราะออกมาแต่คนรอบๆ ที่เห็น กลับรู้สึกเหมือนถูกดูดวิญญาณไป“ก็จริง ด้วยใบหน้านี้ของนาง ใครก็ถูกล่อลวงจนศิโรราบกันทั้งนั้น...”จั๋วซือหรานกวาดสายตาไปบนหน้าพวกเขา มุมปากยกขึ้น ดวงตากลับเย็นชา “พวกเจ้าน่าจะมองข้าดีเกินไปแล้ว ซ้ำยังคิดว่า...กฏหมายไม่เอาผิดคนหมู่มากสินะ แค่คิดว่าพวกเจ้ามีคนมากหน่อย ข้าไม่มีทางจะรับมือพวกเจ้าทุกคนได้”คำพูดของนางเหมือนจะพูดตรงกับความคิดคนบางส่วน ในกลุ่มคนก็มีคนทีสีหน้าเหยเกไปบ้างแล้ว“ยิ่งไปกว่านั้นคนมากขนาดนี้ พยานก็ยิ่งมากด้วย ข้าไม่มีทางลงมือกับพวกเจ้าได้สินะ”ทุก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 540

    และคนเหล่านี้ ในใจก็หวาดผวา ทั้งยังยืนยันไม่ได้ว่าจั๋วซ์อหรานวางยาพิษอะไรใส่พวกเขา และไม่สนใจด้วยว่าอันตรายหรือไม่อันตราย ถึงอย่างไรวิกฤตก็มาอยู่บนหัวแล้วพวกเขาพุ่งไปทางด้านหลังจั๋วซือหรานหนึ่งก้าวสองก้าวสามก้าว“อ่อก...!”แค่สามก้าว ก็ไม่อาจเดินหน้าต่อได้แล้ว ความเจ็บปวดมหาศาลแล่นเข้าสู่อวัยวะทั้งหมดของพวกเขา ราวกับว่านอกจากความเจ็บปวดแล้ว ก็ไม่รู้สึกถึงอะไรอีกเลยทำได้แค่ถลึงตามองนิ้วของตนเอง ที่ห่างจากชายเสื้อของจั๋วซือหรานเพียงแค่เอื้อมหลังจากนั้น ทั่วทั้งร่างก็เจ็บปวดเหมือนร่างถูกแยกออกจากกันพริบตาที่ถูกความเจ็บปวดรุนแรงนี้เข้ารุกรานพวกเขาก็เหมือนกับ จู่ๆ เพิ่งได้สติกลับมา คิดออกพึงความจริงที่น่ากลัวหนึ่งนั่นก็คือ...พวกเขาเหมือนจะลืมไปแล้ว บางทีอาจจะมองข้ามไป...คุณหนูจั๋วจิ่วคนนี้ ไม่ใช่ว่านางเลื่องชื่อไปทั้งเมืองหลวงด้วยการสังหารคนหรอกหรือส่วนเรื่องการหลอมยา ที่ตบฉาดหน้าเหยียนชางไปอย่างจัง ทำให้เหยียนจางต้องอัปยศอดสู่ต่อหน้าต่อตาคนทุกคนจนป่นปี้...พวกเขาตอนนี้ ตระหนักขึ้นมาได้ทันทีว่าตนเองกำลังเจอกับความเจ็บปวดอะไรอยู่ และพริบตาที่ตระหนักได้ว่า เพราะอะไรกระท

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1277

    ขณะที่ตระหนักถึงจุดนี้ จั๋วซือหรานก็ตระหนักได้ถึงอีกจุดหนึ่งถ้าบอกว่า ตนเองหลังจากนี้อยู่ห่างเขาไม่ได้ แต่หลังจากนี้ยังต้องการแสงแดดล่ะก็เช่นนั้นก็เท่ากับว่า...นางมองชายหนุ่มที่โผล่หัวออกมาจากผ้าห่ม เห็นอักขระคำสาปประหลาดบนหน้าตาคนสมองทื่อนี้ ปรากฏขึ้นมาต่อเนื่อง หายไป แล้วก็โผล่ออกมารักษาแผลไฟไหม้...จั๋วซือหรานจึงเดินเข้าไปสองก้าวอย่างอดไม่อยู่ พอมาถึงตรงหน้าเขา ก็ยกมือขึ้นมาเบาๆเขาไม่ขยับ จ้องมองนางนิ่งจั๋วซือหรานแตะลงไปบนหน้าเขาเบาๆ ราวกับว่าแค่สัมผัสเพียงเล็กน้อยเท่านั้นนางขมวดคิ้วแน่นเขามองนางเงียบๆจั๋วซือหรานนิ่งงันไปครู่หนึ่ง จึงเอ่ยเสียงต่ำขึ้นว่า "พลังวิญญาณของข้า ช่วยอะไรท่านไม่ได้แล้วหรือ"น่าจะเพราะตนเองตั้งท้องจนงงๆ ไปแล้วจริงๆ หรืออาจเป็นเพราะไม่พอใจเจ้าคนสมองมีปัญหาตรงหน้านี้ ดังนั้นจึงไม่ได้สนใจอะไรมากกระทั่งถึงตอนนี้ จั๋วซือหรานจึงเพิ่งรู้สึกตัวพลังของตนเองก่อนหน้านี้ ทั้งๆ ที่สามารถบรรเทาอาการทำร้ายตนเองของเฟิงเหยียนได้แท้ๆ แล้วยังทำให้เขาต้านทานแสงแดดได้ระดับหนึ่งอีกด้วยแต่ตอนนี้ทำไมเหมือน...มันไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ?ทว่าเฟิงเหยียน ดูเหมือนจะ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1276

    ขณะที่จั๋วซือหรานขมวดคิ้วคิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ทำไมถึงมุดเข้ามาด้วยกัน...กับเขาในผ้าห่มที่มืดสนิทนี้ ก็ได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มๆ ดังขึ้นเสียงหัวเราะทุ้มต่ำ ในผ้าห่มมืดๆ ภายใต้ระยะใกล้ชิดที่แทบจะเบียดกันของคนทั้งสองนี้ จึงยิ่งชัดเจนเป็นพิเศษ...กระทั่งความหยาบกร้านแหบพร่าเล็กๆ ในน้ำเสียง ก็ยังชัดเจน ชัดเจนเอามากๆ!ยิ่งไปกว่านั้น เพราะความใกล้ชิดมากๆ ยังมีกระแสลมแผ่วๆ ที่เหมือนจะพัดผ่านข้างหูนางไปเหมือนกับแม้กระทั่งตอนที่เขาหัวเราะเสียงทุ้ม การสั่นสะเทือนของทรวงอก ตนเองก็ยังสัมผัสได้อย่างชัดเจนด้วย!จั๋วซือหรานกัดริมฝีปากเบาๆจึงได้ยินเสียงของตาคนสมองทื่อ ยังคงเป็นเส้นเสียงหยาบๆ ที่ชวนหลงใหลนั่นอยู่บอกกับนางว่า "นี่เจ้ากำลัง...เชื้อเชิญข้าหรือ?"จั๋วซือหรานเพิ่งตื่นขึ้นจากความฝันที่อยู่กับคนรัก ถือว่าถูกกวนให้ตื่นก็ได้ มีอารมณ์ขุ่นเคืองอยู่บ้างก็เรื่องปกติดังนั้นนางจึงไม่มีเวลามาปรับอารมณ์กับตาคนสมองทื่อนี่จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นว่า "ข้าควรจะมองท่านถูกเผาตายทั้งเป็นไปซะ"ตาสมองทื่อนี่ก็ไม่รู้ทำไมผ่านไปคืนนึงนิสัยก็เปลี่ยนไป จู่ๆ อารมณ์ก็ดีขึ้นมาเสียอย่างนั้นบางทีคงเพร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1275

    จั๋วซือหรานได้ยินอารมณ์เจ็บปวดจากในน้ำเสียงเขา และได้ยินถึงอารมณ์เสียใจด้วยอันที่จริงสำหรับสำหรับอาการข้าหึงตัวข้าเองที่แปลกใหม่นี้ จั๋วซือหรานก็รู้สึกจนใจอยู่หน่อยๆ แล้วยังดูน่าขำอีกด้วยผลลัพธ์คือพอแหงนตามอง สีหน้ารอยยิ้มบนหน้าจั๋วซือหรานเหล่านั้น ก็แข็งทื่อไปทันทีอารมณ์ที่เรียกว่าความกังวล ก่อตัวขึ้นมาในดวงตามิน่าในน้ำเสียงเขาถึงมีความเจ็บปวดอยู่ตอนนี้ อักขระคำสาปปรากฏขึ้นบนตัวเขาแล้ว แสดงรูปลักษณ์ที่ประหลาดออกมา"นี่คือ..." จั๋วซือหรานยกมือมากำข้อมือเขาแต่นี่ไม่ใช่ความจริง เป็นแค่เขตแดนจิตใต้สำนึกบางอย่าง เป็นแค่ในความฝันเท่านั้น แน่นอนว่าจับชีพจรเขาไม่ได้"ไม่เป็นไร" บนสีหน้าชายหนุ่มแม้จะเต็มไปด้วยอักขระคำสาปประหลาด สายตาที่ก้มลงมามองนางกลับดูอบอุ่น "ไม่เป็นไร"เหมือนกลัวว่านางจะกังวล เขาจึงบอกว่าไม่เป็นไรขึ้นมาอีกครั้งจั๋วซือหรานตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง ขมวดคิ้วขึ้นมานิ้วโป้งของชายหนุ่มกดลงเบาๆ ที่หว่างคิ้วนาง นวดๆ เหมือนติดจะนวดคลายสีหน้าอารมณ์ที่ยุ่งเหยิงเหล่านั้นออก"พักผ่อนให้ดี กินข้าวให้ดีด้วย" เขาเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานเบ้ปากเบาๆ เหลือบมองเขา "ถ้าหากเจ้าส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1274

    จั๋วซือหรานไม่ส่งเสียง ครู่เดียว จึงถอนใจเบาๆ เอ่ยขึ้นว่า "อันที่จริง ข้าเองก็ไม่ได้ยืนหยัดขนาดนั้น แค่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาจนตรอกจริงๆ ข้าก็ยังไม่อยากละทิ้งทั้งที่ยังไม่ได้ลอง"เฟิงเหยียนกอดนาง ในสีหน้ามีความเจ็บปวดเสียงยิ่งแหบพร่า เอ่ยขึ้นว่า "ข้าไม่อยากให้เจ้าต้องมาเหยียบซ้ำรอยมารดาของข้า และข้าก็ไม่อยากให้ลูกของเราเติบโตมาเป็นเหมือนข้าด้วย หากเรื่องนี้ ไม่มีวิธีอื่นแก้ไขได้นอกจากปล่อยให้มีฝันร้ายแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ...ข้าก็หวังให้ฝันร้ายนี้หยุดลงที่ตัวข้าพอ"เสียงของชายหนุ่มแหบพร่ามาก ในน้ำเสียง...ก็มีความสิ้นหวังที่ปิดไว้ไม่มิดอยู่ ทิ่มแทงเข้ามาที่ใจของจั๋วซือหรานต้องเป็นแบบไหนกันนะ...ถึงบีบคั้นให้คนดีๆ ที่หยิ่งทะนงและยอดเยี่ยมคนหนึ่งตกอยู่ในสภาพนี้...ราวกับสัตว์ที่ถูกกักขังไว้จั๋วซือหรานมองเขา ครู่ต่อมา ก็ถอนหายใจเบาๆเอ่ยขึ้นว่า "จริงๆ แล้ว...เดิมทีข้าเองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ การวางแผนและความคิดของข้าจึงไม่ได้เล่าใด้คนอื่นฟัง"เฟิงเหยียนไม่พูดอะไร แค่แหงนตามองนางเงียบๆจั๋วซือหรานยิ้มๆ "ข้ารู้สึกจริงๆ ว่าไม่แน่ข้าอาจมีวิธี แม้ตอนนี้ข้ายังพูดถึงเหตุผลออกมาให้ชัดเจนไม่ได้ แต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status