공유

บทที่ 563

작가: หูเทียนเสี่ยว
อิ๋นไห่ยืนอยู่ข้างๆ รู้สึกเหมือน...จู่ๆ ก็เข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว ว่าทำไมเจ้าสำนักหอฟ้าดาวเจ้านายตนเอง จึงให้ความสำคัญกับจั๋วซือหรานเช่นนี้

กระทั่งตัดสินใจแสดงจุดยืนอย่างเปิดเผย ว่ายืนอยู่ฝั่งจั๋วซือหราน

เพราะหญิงสาวคนนี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ไม่ใช่คนที่ไม่มีความทะเยอทะยานอย่างแน่นอน สักวันหนึ่งจะต้องบินทะยานขึ้นฟ้าแน่ๆ

สำหรับคนประเภทนี้ ถ้าหากสามารถยืนอยู่ฝ่ายเดียวกับนางขณะที่นางยังไม่โจนทะยาน ทำให้นางยอมรับมิตรภาพนี้ จะต้องเป็นการค้าที่ได้กำไรอย่างแน่นอน

นางเป็นคนที่ไม่ยอมเสียเปรียบเลยจริงๆ ล้างแค้นก็ไม่รอให้เปลี่ยนวัน เอาคืนไปวันนั้นตรงนั้นเลย

คนของตระกูลเหยียนมีคนที่ยืนอยู่ข้างประตู ได้ยินสถานการณ์ภายใน ก็หน้าดำคร่ำเครียดไปแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้นแพทย์ของตระกูลเหยียนทางนั้น มีคนที่เข้ามาซื้อยาไปก่อนหน้า หิ้วยาเข้ามาขอเงินคืน

“คืนเงิน! คืนเงินมา!”

“คืนเงิน!”

“ตระกูลเหยียนคืนเงินมา!”

“ศูนย์การแพทย์ที่ไร้จรรยาบรรณ ไม่ควรมาเปิดร้าน!”

“แม่นางจั๋วจิ่วให้พวกเจ้าปิดร้านไปนั้นมีเหตุผลอยู่จริงๆ”

ถ้าบอกว่าคนเหล่านี้ก่อนหน้าสนับสนุนพวกเขาแค่ไหน ตอนนี้ก็ยิ่งรังเกียจพวกเขามากขึ้นเท่านั้น

อิงเซ
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터

관련 챕터

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 564

    เหยียนหยี่หลิงทนไม่ไหวแล้ว เพราะเรื่องวันนี้ เดิมทีเป็นความคิดของนาง เดิมทีคิดว่าเป็นแผนการที่ชนะแน่นอน ตอนนี้เละเทะเป็นแบบนี้ไปแล้ว...ในตระกูลต้องลงดาบกับนางแน่ ไม่แน่ นางอาจจะเป็นเหมือนจั๋วจิ่ว ถูกขับไล่ออกจากตระกูล ถ้าอย่างนั้นนางก็จบเห่น่ะสิ!ดังนั้น เหยียนหยี่หลิงจึงทนไม่ไหว เอ่ยขึ้นมาว่า “ท่านแม่ทัพพูดออกมาเบาบางเหลือเกิน จั๋วจิ่วยังหาเงินจากค่ายทหารของพวกท่านได้เลย แต่พวกเรากลับไม่ได้ประโยชน์แม้แต่น้อย ถือดีอย่างไรกัน?”สีหน้าที่อบอุ่นทรงภูมิมาแต่ไหนแต่ไรของอิงเซ่า เวลานี้ก็เย็นชาลงมาแล้ว สายตาที่ไม่เหลือความอบอุ่นอยู่อีกจดจ้องที่เหยียนหยี่หลิง“แม่นางจั๋วจิ่วเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตข้าไว้ ดังนั้นคุณหนู ตอนที่ท่านพูดถึงแม่นางจั๋วจิ่วโปรดเกรงใจด้วย” อิงเซ่าสายตาเย็นวาบ“ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ใช่ว่านางอยากจะได้เงินจากค่ายทหารเสียที่ไหน แต่พวกเรากลัวว่านางจะขาดทุนจึงคิดจะมอบให้เท่านั้น”เหยียนหยี่หลิงโดนคำนี้ไปจนพูดไม่ออก หน้าซีดเผือด พูดอะไรไม่ได้เลยอิงเซ่าพอพูดคำนี้ อารมณ์ของเหล่าประชาชนก็ยิ่งเดือดดาลขึ้นมาเหยียนหยี่หลิงเองก็คิดไม่ถึงว่าจะพลิกมาเป็นแบบนี้ ถ้าหากนางคิดถึ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 565

    ตระกูลเหยียนไม่ใช่แค่ถอนตำรับยาที่แพงลิบลิ่วก่อนหน้านั้นออกไป แต่ยังเปลี่ยนมาเป็นตำรับยาของจั๋วซือหรานที่ราคาปกติแล้วทิศทางรวบรวมวัตถุดิบในตอนแรกของพวกเขานั้นผิด เช่นนั้นวัตถุดิบยาจะต้องไม่เพียงพอแน่นอนและขอแค่วัตถุดิบยาไม่พอ เพื่อรับประกันหน้าตา เพื่อหม่ให้ตกเป็นเป้าของสังคม ต้องคิดหาวิธีซื้อวัตถุดิบยาแน่นอน!เพราะตระกูลเหยียนของพวกเขาเป็นตระกูลใหญ่ แตกต่างกับแม่นางจั๋วจิ่วที่หัวเดียวกระเทียมลีบ ตระกูลใหญ่ยอมรับเรื่องที่ตนเองตกเป็นเป้าสังคมไม่ได้ เพราะหน้าตาของตระกูลสำคัญยิ่งกว่าชีวิต!แต่วัตถุดิบตำรับยาของแม่นางจั๋วจิ่วเหล่านี้ ส่วนใหญ่ถูกเจ้าสำนักกว้านซื้อผูกขาดไปแล้วก่อนหน้า!ถ้าหากตระกูลเหยียนตอนนี้คิดหาวิธีจะซื้อวัตถุดิบยา ก็จะต้องไปซื้อจากเจ้าสำนักแน่นอน! และราคานั้นก็เกรงว่าจะไม่ใช่ราคาทั่วไปด้วยหัวใจอิ๋นไห่เต้นผางอย่างตื่นเต้น แม่นางจั๋วจิ่วคำนวนเรื่องเหล่านี้เอาไว้แล้ว! ให้ตายเถอะ นางคำนวณไปถึงขั้นไหนกันแน่เนี่ย!อิ๋นไห่อารมณ์ตื่นเต้น ฝีเท้าก็เร่งกลับไปช่วยที่ตลาดมืดส่วนจั๋วซือหรานกลับรักษาประชาชนต่อไปอิงเซ่าอยู่ข้างๆ มองใบหน้างามด้านข้างที่ทั้งสวยงามทั้งเย็นชา

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 566

    จั๋วซือหรานเขียนตำรับยาเสร็จ วางพู่กันลง หยิบตำรับยามาเป่าหมึก ยื่นส่งให้พนักงานข้างๆจากนั้นก็ถูๆ มือ “ไม่เป็นไร ข้ารักษาให้เจ้าเลยก็พอ แค่จะเจ็บนิดๆ เจ้าทนเอาหน่อย”หญิงสาวพอได้ยินคำพูดนี้ ก็พยักหน้าอย่างงงงัน จากนั้นจึงมองหญิงสาวงดงามตรงหน้าที่ทำให้คนต้องมองซ้ำหลายต่อหลายครั้งจนคล้ายกับดูหมิ่นนางคนนี้ดวงตางามสุกใสราวกับจะล่มเมืองคู่นั้น จ้องนางไม่กระพริบมองจนหญิงสาวตึงเครียดขึ้นหน่อยๆ นางพยักหน้า “ข้า...ข้าจะอดทน คุณหนูจิ่วโปรดวางใจ”จั๋วซือหรานเอ่ยเสียงต่ำ “เป็นแม่คนนั้นคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ และเป็นสิ่งที่ไม่ง่ายเลย ลำบากหน่อยนะ”พูดจบ นางก็เริ่มพลังวิญญาณของการแพทย์สายวิเศษเข้ารักษาหญิงตั้งครรภ์คนนี้ความเจ็บปวดที่นำมานั้นจิตนาการได้แทบจะในพริบตานั้น หญิงตั้งครรภ์คนนี้ก็กรีดร้องขึ้นอิงเซ่าที่อยู่ข้างๆ ก็ฟังจนขมวดคิ้ว เขาเองก็เคยเจอความลำบาก ยิ่งไปกว่านั้นเพราะบนตัวเขาคือนางพญากู่ ว่าตามหลักการจึงเจ็บปวดกว่ากู่ธรรมดาอยู่มากแต่เขารู้สึกว่าตนเองถึงอย่างไรก็เป็นชายชาตรี แต่นี่คือหญิงสาวที่ในท้องตั้งครรภ์อยู่...จะต้องเจ็บปวดมากแน่ๆอันที่จริงเดิมทียังมีคนไม่น้อยที่แอบคิด ว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 567

    อิงเซ๋าไม่เข้าในว่าออกจากเมืองแล้วค่อยเปลี่ยนหมายถึงอะไรจนกระทั่งควบม้าออกจากเมืองไปพร้อมกับจั๋วซือหรานค่ายลาดตระเวนอยู่เมืองชั้นนอก แต่ก็ไม่ได้อยู่นอกเมือง ส่วนค่ายป้องกันกลับอยู่นอกเมืองหลวง ตอนนี้พวกเขากำลังตรงไปยังค่ายป้องกัน เพราะสถานการณ์ค่ายป้องกันของฉีฮ่าวทางนั้นหนักหนากว่าทางค่ายลาดตระเวนส่วนค่ายลาดตระเวน เพราะอิงเซ่ากับต่งคังตอนนั้นมีปฏิกิริยารวดเร็ว เตรียมพร้อมปิดกั้นได้ทันท่วงที ดังนั้นสถานการณ์จึงไม่ได้หนักหนานักอิงเซ่าจึงตรงไปยังค่ายป้องกันพร้อมกับจั๋วซือหรานออกจากเมืองไม่นานนัก อิงเซ๋าก็มองเห็นว่าจั๋วซือหรานค่อยควบม้าช้าลง“คุณหนูจิ่ว?” อิงเซ่ายังไม่ค่อยเข้าใจแล้วจึงเห็นจั๋วซือหราน เม้มปากเป่าสัญญาณออกมาเสียงหนึ่งเสียงของสัญญาณก็ราวกับมีพลังทะลุทะลวงอย่างชัดเจน สามารถดังลอดไปได้ไกลแสนไกลอิงเซ่าตอนแรกยังไม่เข้าใจจั๋วซือหราน แต่เขาก็ค่อยๆ ตอบสนองขึ้นอย่างรวดเร็วคุณหนูจิ่วกำลัง...อัญเชิญการควบคุมสัตว์หรือ!ตอนที่อิงเซ่ารู้ถึงจุดนี้ ในสายตาก็มีอารมณ์ตกตะลึงแผ่ซ่านออกมาและเพียงไม่นาน การคาดเดาของเขาก็ได้รับการพิสูจน์จากจุดที่ห่างไกลทิศใดทิศหนึ่ง จู่ๆ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 568

    จากนั้นเขาก็นำสิ่งของที่เหมือนทรงกระบอกนั้น ส่งให้กับชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆ อีกคนรับไป เอียงตาถามขึ้นว่า “เป็นอย่างไร?”“ก่อนหน้านี้เจ้าบอกว่านางมีแค่วิชายุทธ์ วิชาแพทย์ หลอมยากับวิชากู่ แต่ไม่เคยพูดเลยว่านางกระทั่งควบคุมสัตว์ก็ยังทำได้ด้วย” คนผู้นี้เอ่ยขึ้นเสียงต่ำชายหนุ่มที่ข้างเขา กลางหน้าผากมีตราประทับจันทราอยู่เจ้าสำนักหอจันทร์เงิน อินเจ๋ออันนั่นเองอินเจ๋ออันถามขึ้นเสียงเรียบ “ดังนั้น?”“ดังนั้น?” ชายหนุ่มข้างกายอินเจ๋ออันถึงแม้จะปิดบังใบหน้าครึ่งล่างไว้ แต่ก็มองออกได้ไม่ยาก จมูกที่โด่งเป็นสัน คิ้วตาโครงหน้าคม และสีฟ้าอ่อนๆ ที่เหมือนลอดออกมาจากในดวงตานี่เป็นดวงตาที่ศิษย์แห่งห้าตระกูลซางของเมืองหลวงเท่านั้นถึงจะมีและเช่นเดียวกับตระกูลเหยียนที่ถนัดวิชาแพทย์ ตระกูลเฟิงถนัดการรบ ตระกูลฮั่วถนัดข่าวกรอกง ตระกูลจั๋วถนัดการค้าตระกูลซางเองก็มีด้านที่ตนเองแข็งแกร่งที่สุด นั่นก็คือ...การควบคุมสัตว์“ถ้าเป็นคนอื่น ข้ายังสามารถไม่สนใจได้ ควบคุมสัตว์หรือ? ถ้าอย่างนั้นข้าก็อยากจะเจอนางหน่อยแล้ว” ในดวงตาสีน้ำเงินของชายหนุ่ม มีความสนใจอย่างเปี่ยมล้น“ได้ยินว่านางปลุกพลังวิญญาณตระกู

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 569

    ถ้าหากคนที่นำหน้าตอนนี้คืออิงเซ่า บางทีอาจจะคิดได้ลึกซึ้งและกว้างไกลกว่านี้แต่บังเอิญคนที่อยู่ตรงหน้านี้คือฉีฮ่าวฉีฮ่าวไม่ละเอียดรอบคอบเหมือนอิงเซ่า เขาเป็นคนนิสัยตรงไปตรงมา ใช้ชีวิตแบบมีบุญคุณต้องทดแทนมาโดยตลอดพอได้ยินคำพูดนี้ของจั๋วซือหราน ฉีฮ่าวก็พยักหน้าหนักๆ “คุณหนูจิ่ววางใจเถอะ! ฉีฮ่าวคนนี้จะยืนอยู่ข้างกายคุณหนูเอง!”จั๋วซือหราพอได้ยินคำนี้ ก็หรุบตาต่ำลงยิ้มๆ “คำพูดของท่านแม่ทัน ไม่กลัวว่าจั๋วจิ่วคนนี้จะทำให้ท่านแม่ทัพต้องไปทำเรื่องเลวๆ อย่างนั้นหรือ?”จั๋วซือหรานพูดพลาง เงยตามองไปยังชายร่างสูงใหญ่ตรงหน้าคนนี้ “ถึงอย่างไรชื่อเสียงของจั๋วจิ่วในเมืองหลวงก็ย่ำแย่อยู่นา”แม่ทัพฉีฮ่าวหลังจากได้ยินคำพูดนี้ของนาง บนหน้าก็เผยรอยยิ้มจริงใจออกมา น้ำเสียงเองฟังแล้วเด็ดขาด ไม่มีลังเลแม้แต่น้อย“ไม่กลัว” ฉีฮ่าวตอบ “ข้าเชื่อสิ่งที่ตนเองเห็นเท่านั้น ข้าเห็นว่าแม่นางจิ๋วเป็นคนดี เช่นนั้นคนอื่นจะพูดอะไรก็ไม่มีผลทั้งนั้น”“ยิ่งไปกว่านั้นข้าเชื่อว่า แพทย์ที่ทรงคุณธรรมที่ช่วยเหลือวิกฤติของค่ายป้องกันกับค่ายลาดตระเวนไว้เช่นนี้ ต่อให้ไม่มีมนุษย์คนไหนรัก ก็ไม่มีทางเป็นคนชั่วช้าสามานย์แน่นอน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 570

    หลังจากดึงผ้าที่อุดปากทหารที่กำลังคลั่งคนหนึ่งออก มือของข้างหนึ่งก็ถือยาไว้ มืออีกข้างบีบคางของทหาร เตรียมจะกรอกยาพอปากของทหารคลั่งไม่ถูกอุดไว้ ก็จะกัดเข้าไปที่มือของนางอย่างดุร้าย“ระวัง!” แพทย์ทหารรร้องตกตะลึงขึ้นมา ส่วนทหารคนอื่นก็ตกตะลึงด้วยเช่นกันฉีฮ่าวทนไม่ไหวเดินขึ้นมาสองก้าวจากนั้นทุกคนก็เห็นมือของนาง ฉากหลบออกมาด้วยการเคลื่อนไหวเล็กน้อยแม้จะเบี่ยงหลบการกัดของทหารคลั่ง แต่หลังมือก็ยังถากกับฟันของทหารคลั่งคนนั้นไป จนเกิดเป็นรอยที่ไม่ใช่แผลลึกขึ้นหยดเลือดสีแดงไหลซึมออกจากบาดแผลเลือดนี้พอประทับบนผิวขาวนวลของนาง ก็ชัดเจนจนแยงตา และแยงเข้าไปในตาของทุกคนด้วยเช่นกันแต่ว่าพวกเขากลับมองไม่เห็นสีหน้าอะไรจากหน้าของนางเลยอย่าว่าแต่จะขมวดคิ้วเลย กระทั่งหนังตาก็ยังไม่เลิกขึ้นด้วยซ้ำยิ่งไปกว่านั้นแขนที่บาดเจ็บข้างนั้นของนาง การเคลื่อนไหวก็ไม่สับสนเลยแม้แต่น้อย ยังขยับไปตามทิศทางเดิม บีบคางทหารคลั่งเอาไว้ข้างหนึ่งออกแรงให้เขาขยับตัวอีกไม่ได้ จากนั้นก็กรอกยาลงไปทั้งชามจั๋วซือหรานปล่อยมือออกจากทหารคลั่งคนนั้น และทำเช่นเดียวกันต่อไปกับทหารคลั่งคนที่สองจากนั้นจึงเก็บมือกลั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 571

    จั๋วซือหรานที่นั่งอยู่ห่างๆ กำลังเย็บแขนข้างหนึ่งอยู่เงียบๆทหารคลั่งตอนแรกยังแยกเขี้ยวใส่นาง รู้สึกเหมือนอยากจะพุ่งเข้าไปกัดนางให้ตายเสียให้ได้ แต่สีหน้าของนางก็ยังไม่เปลี่ยน ยังคงเย็บต่อไปเงียบๆ ครู่หนึ่งก็เอียงตามองไปยังแพทย์ทหารที่กำลังมองอย่างเคลิบเคลิ้มแล้วเอ่ยขึ้น “ประมาณนี้นั่นล่ะ อีกเดี๋ยวท่านก็ลองหาพวกสัตว์อะไรมาทดลองดู หลักการก็เป็นเช่นนี้ ไม่ได้มีเคล็ดลับอะไร ฝึกมากๆ ก็ชำนาญเอง”แพทย์ทหารพยักหน้าหงึกหงัก ตอนที่มองจั๋วซือหราน ดวงตาก็เปล่งประกาย “ขอบคุณแม่นางจิ่วมาก! เรื่องนี้มีประโยชน์กับพวกเรามาก! ในค่ายทหารเนื่องจากสถานการณ์การฝึกฝนต่างๆ เรื่องการบาดเจ็บภายนอกพบเห็นได้บ่อยมาก...”จั๋วซือหรานทำงานของตนเอง พลางฟังเสียงสนทนาของอิงเซ๋ากับฉีฮ่าวที่อยู่ไม่ไกลออกไปนักด้วยระดับความเฉียบคมของสัมผัสทั้งห้านางตอนนี้ ต่อให้ไม่สามารถฟังออกทุกถ้อยคำอย่างชัดเจน แต่พอฟังประโยคสำคัญบางส่วน จากนั้นก็จะแกะความหมายออกมาได้เองจนในที่สุดที่เสร็จสิ้นสถานการร์ของค่ายป้องกัน ฟ้าก็เริ่มมืดแล้วดวงตะวันลับขอบฟ้า แสงยามเย็นย้อมท้องฟ้าไปทั้งผืน“ทางนี้หลักๆ ก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว เช่นนั้นข้

최신 챕터

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1277

    ขณะที่ตระหนักถึงจุดนี้ จั๋วซือหรานก็ตระหนักได้ถึงอีกจุดหนึ่งถ้าบอกว่า ตนเองหลังจากนี้อยู่ห่างเขาไม่ได้ แต่หลังจากนี้ยังต้องการแสงแดดล่ะก็เช่นนั้นก็เท่ากับว่า...นางมองชายหนุ่มที่โผล่หัวออกมาจากผ้าห่ม เห็นอักขระคำสาปประหลาดบนหน้าตาคนสมองทื่อนี้ ปรากฏขึ้นมาต่อเนื่อง หายไป แล้วก็โผล่ออกมารักษาแผลไฟไหม้...จั๋วซือหรานจึงเดินเข้าไปสองก้าวอย่างอดไม่อยู่ พอมาถึงตรงหน้าเขา ก็ยกมือขึ้นมาเบาๆเขาไม่ขยับ จ้องมองนางนิ่งจั๋วซือหรานแตะลงไปบนหน้าเขาเบาๆ ราวกับว่าแค่สัมผัสเพียงเล็กน้อยเท่านั้นนางขมวดคิ้วแน่นเขามองนางเงียบๆจั๋วซือหรานนิ่งงันไปครู่หนึ่ง จึงเอ่ยเสียงต่ำขึ้นว่า "พลังวิญญาณของข้า ช่วยอะไรท่านไม่ได้แล้วหรือ"น่าจะเพราะตนเองตั้งท้องจนงงๆ ไปแล้วจริงๆ หรืออาจเป็นเพราะไม่พอใจเจ้าคนสมองมีปัญหาตรงหน้านี้ ดังนั้นจึงไม่ได้สนใจอะไรมากกระทั่งถึงตอนนี้ จั๋วซือหรานจึงเพิ่งรู้สึกตัวพลังของตนเองก่อนหน้านี้ ทั้งๆ ที่สามารถบรรเทาอาการทำร้ายตนเองของเฟิงเหยียนได้แท้ๆ แล้วยังทำให้เขาต้านทานแสงแดดได้ระดับหนึ่งอีกด้วยแต่ตอนนี้ทำไมเหมือน...มันไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ?ทว่าเฟิงเหยียน ดูเหมือนจะ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1276

    ขณะที่จั๋วซือหรานขมวดคิ้วคิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ทำไมถึงมุดเข้ามาด้วยกัน...กับเขาในผ้าห่มที่มืดสนิทนี้ ก็ได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มๆ ดังขึ้นเสียงหัวเราะทุ้มต่ำ ในผ้าห่มมืดๆ ภายใต้ระยะใกล้ชิดที่แทบจะเบียดกันของคนทั้งสองนี้ จึงยิ่งชัดเจนเป็นพิเศษ...กระทั่งความหยาบกร้านแหบพร่าเล็กๆ ในน้ำเสียง ก็ยังชัดเจน ชัดเจนเอามากๆ!ยิ่งไปกว่านั้น เพราะความใกล้ชิดมากๆ ยังมีกระแสลมแผ่วๆ ที่เหมือนจะพัดผ่านข้างหูนางไปเหมือนกับแม้กระทั่งตอนที่เขาหัวเราะเสียงทุ้ม การสั่นสะเทือนของทรวงอก ตนเองก็ยังสัมผัสได้อย่างชัดเจนด้วย!จั๋วซือหรานกัดริมฝีปากเบาๆจึงได้ยินเสียงของตาคนสมองทื่อ ยังคงเป็นเส้นเสียงหยาบๆ ที่ชวนหลงใหลนั่นอยู่บอกกับนางว่า "นี่เจ้ากำลัง...เชื้อเชิญข้าหรือ?"จั๋วซือหรานเพิ่งตื่นขึ้นจากความฝันที่อยู่กับคนรัก ถือว่าถูกกวนให้ตื่นก็ได้ มีอารมณ์ขุ่นเคืองอยู่บ้างก็เรื่องปกติดังนั้นนางจึงไม่มีเวลามาปรับอารมณ์กับตาคนสมองทื่อนี่จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นว่า "ข้าควรจะมองท่านถูกเผาตายทั้งเป็นไปซะ"ตาสมองทื่อนี่ก็ไม่รู้ทำไมผ่านไปคืนนึงนิสัยก็เปลี่ยนไป จู่ๆ อารมณ์ก็ดีขึ้นมาเสียอย่างนั้นบางทีคงเพร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1275

    จั๋วซือหรานได้ยินอารมณ์เจ็บปวดจากในน้ำเสียงเขา และได้ยินถึงอารมณ์เสียใจด้วยอันที่จริงสำหรับสำหรับอาการข้าหึงตัวข้าเองที่แปลกใหม่นี้ จั๋วซือหรานก็รู้สึกจนใจอยู่หน่อยๆ แล้วยังดูน่าขำอีกด้วยผลลัพธ์คือพอแหงนตามอง สีหน้ารอยยิ้มบนหน้าจั๋วซือหรานเหล่านั้น ก็แข็งทื่อไปทันทีอารมณ์ที่เรียกว่าความกังวล ก่อตัวขึ้นมาในดวงตามิน่าในน้ำเสียงเขาถึงมีความเจ็บปวดอยู่ตอนนี้ อักขระคำสาปปรากฏขึ้นบนตัวเขาแล้ว แสดงรูปลักษณ์ที่ประหลาดออกมา"นี่คือ..." จั๋วซือหรานยกมือมากำข้อมือเขาแต่นี่ไม่ใช่ความจริง เป็นแค่เขตแดนจิตใต้สำนึกบางอย่าง เป็นแค่ในความฝันเท่านั้น แน่นอนว่าจับชีพจรเขาไม่ได้"ไม่เป็นไร" บนสีหน้าชายหนุ่มแม้จะเต็มไปด้วยอักขระคำสาปประหลาด สายตาที่ก้มลงมามองนางกลับดูอบอุ่น "ไม่เป็นไร"เหมือนกลัวว่านางจะกังวล เขาจึงบอกว่าไม่เป็นไรขึ้นมาอีกครั้งจั๋วซือหรานตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง ขมวดคิ้วขึ้นมานิ้วโป้งของชายหนุ่มกดลงเบาๆ ที่หว่างคิ้วนาง นวดๆ เหมือนติดจะนวดคลายสีหน้าอารมณ์ที่ยุ่งเหยิงเหล่านั้นออก"พักผ่อนให้ดี กินข้าวให้ดีด้วย" เขาเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานเบ้ปากเบาๆ เหลือบมองเขา "ถ้าหากเจ้าส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1274

    จั๋วซือหรานไม่ส่งเสียง ครู่เดียว จึงถอนใจเบาๆ เอ่ยขึ้นว่า "อันที่จริง ข้าเองก็ไม่ได้ยืนหยัดขนาดนั้น แค่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาจนตรอกจริงๆ ข้าก็ยังไม่อยากละทิ้งทั้งที่ยังไม่ได้ลอง"เฟิงเหยียนกอดนาง ในสีหน้ามีความเจ็บปวดเสียงยิ่งแหบพร่า เอ่ยขึ้นว่า "ข้าไม่อยากให้เจ้าต้องมาเหยียบซ้ำรอยมารดาของข้า และข้าก็ไม่อยากให้ลูกของเราเติบโตมาเป็นเหมือนข้าด้วย หากเรื่องนี้ ไม่มีวิธีอื่นแก้ไขได้นอกจากปล่อยให้มีฝันร้ายแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ...ข้าก็หวังให้ฝันร้ายนี้หยุดลงที่ตัวข้าพอ"เสียงของชายหนุ่มแหบพร่ามาก ในน้ำเสียง...ก็มีความสิ้นหวังที่ปิดไว้ไม่มิดอยู่ ทิ่มแทงเข้ามาที่ใจของจั๋วซือหรานต้องเป็นแบบไหนกันนะ...ถึงบีบคั้นให้คนดีๆ ที่หยิ่งทะนงและยอดเยี่ยมคนหนึ่งตกอยู่ในสภาพนี้...ราวกับสัตว์ที่ถูกกักขังไว้จั๋วซือหรานมองเขา ครู่ต่อมา ก็ถอนหายใจเบาๆเอ่ยขึ้นว่า "จริงๆ แล้ว...เดิมทีข้าเองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ การวางแผนและความคิดของข้าจึงไม่ได้เล่าใด้คนอื่นฟัง"เฟิงเหยียนไม่พูดอะไร แค่แหงนตามองนางเงียบๆจั๋วซือหรานยิ้มๆ "ข้ารู้สึกจริงๆ ว่าไม่แน่ข้าอาจมีวิธี แม้ตอนนี้ข้ายังพูดถึงเหตุผลออกมาให้ชัดเจนไม่ได้ แต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status