Share

บทที่ 1008

Author: หว่านชิงอิ๋น
“ม้าหนึ่งหมื่นตัว วัวกับแกะอีกหกพันตัว และให้เมืองผิงหนิงเปิดประตูเมืองให้เรา เพื่อให้เราสามารถเข้าเมืองไปซื้อยาและอาหารได้ทุกเมื่อ”

“นี่คือสิ่งที่พวกเราต้องการจากการเจรจา”

เมื่อได้ฟังดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ตกใจ

หล่างชิ่นผู้นี้ช่างไร้ยางอายเสียจริง

ทั้งที่พวกเขาเป็นฝ่ายเริ่มสงครามก่อน หลังจากที่จับตัวฉินเชียนหลี่ไปแล้ว เบี้ยหวัดทหาร อาวุธและแม้แต่เสบียงในเมืองก็ถูกพวกเขาขโมยไป

ตอนนี้กลับต้องการเสบียงมากมายถึงเพียงนี้ แล้วยังจะให้เมืองผิงหนิงเปิดประตูเมืองให้พวกเขาอีก

เช่นนั้นผู้คนในเมืองผิงหนิงก็จะมิกล้าอาศัยอยู่ที่นั่นอีกต่อไป เพราะอีกมินานก็จะกลายเป็นดินแดนของเผ่านอกด่าน

หากดินแดนของทั้งสองเขตมิชัดเจนก็จะเกิดเรื่องมิดีขึ้นในมิช้า

แต่หัวหน้าเผ่าอื่น ๆ ต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย

“เงื่อนไขนี้ยากก็จริง แต่มิใช่ว่านี่คือจุดประสงค์ในการเจรจาของเราหรือ!”

“เรามิสามารถกลับไปมือเปล่าอย่างน่าอับอายได้”

ราชาเผ่านอกด่านตบไหล่ลั่วชิงยวน “เช่นนั้นเจ้าก็ลองดูเถิดว่าจะต่อรองอะไรได้บ้าง”

ทุกคนคิดว่าตอนนี้ฝ่ายตนได้เปรียบจึงสามารถต่อรองสิ่งเหล่านี้ได้

หล่างชิ่นมองลั่วชิงยวนด้วยสายตาเย้ยหยัน

“เรื่
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1009

    ราชาเผ่านอกด่านกลับเผยรอยยิ้ม ท่าทางเช่นนี้ค่อนข้างเหมือนกับสมัยที่เขายังอยู่ในวัยหนุ่ม“เอาเถอะ กลับไปพักผ่อนที่ค่ายของตนเองเพื่อรอผลการเจรจาในอีกสามวันข้างหน้าก่อนเถอะ”หลังจากที่ราชาเผ่านอกด่านออกคำสั่ง ทุกคนก็แยกย้ายกันไปลั่วชิงยวนเข้าไปในกระโจมของราชาเผ่านอกด่านเพื่อฝังเข็มถอนพิษให้เขาแต่กลับเห็นราชาเผ่านอกด่านยังคงยิ้มอยู่ตลอดเวลา ราวกับว่ามีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้น“ท่านมีความสุขเรื่องอะไรหรือ?”ราชาเผ่านอกด่านมองนางด้วยสายตาอ่อนโยน “ดีใจที่เจ้ากลับมาอยู่เคียงข้างพ่อ”“เจ้ากล้าหาญ มีไหวพริบและสามารถปราบหล่างชิ่นได้ พ่อก็ยิ่งดีใจมาก!”เมื่อลั่วชิงยวนได้ฟังเช่นนั้นก็รู้สึกประหลาดใจ“ปราบหล่างชิ่นได้หรือ? ในบรรดาลูก ๆ ของท่าน ไม่มีผู้ใดที่ปราบหล่างชิ่นได้เลยหรือ?”“หล่างมู่ก็มิได้หรือ?”ราชาเผ่านอกด่านกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “หล่างชิ่นแข็งแกร่งมาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่เด็กนางก็กดขี่หล่างมู่มาโดยตลอด ทำให้หล่างมู่ยอมจำนนต่อนาง ดังนั้นหล่างมู่จึงโหดเหี้ยมต่อคนนอก แต่กลับเชื่อฟังหล่างชิ่นอย่างมาก”“แม้ว่าตอนนี้จะเงียบขรึม แต่ในใจก็ยังมิกล้าต่อต้านหล่างชิ่น”“ส่วนหล่างชิ่นมีนิสั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1010

    ใบหน้าเขาซีดเซียวราวกับพร้อมจะทรุดลงได้ทุกเมื่อลั่วชิงยวนมิเคยเห็นฟู่เฉินหวนป่วยหนักถึงเพียงนี้มาก่อนแต่ถึงอย่างนั้นความสง่างามบนใบหน้าของเขาก็ยังคงมิลดลงลั่วชิงยวนอดมิได้ที่จะเอ่ยปาก “ดูเหมือนว่าบาดแผลของท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการจะมิยังค่อยหายดีนัก”“มิเกี่ยวกับเจ้า” ฟู่เฉินหวนมีสีหน้าเย็นชา น้ำเสียงเฉยเมยแม้จะรู้ว่าเป็นการแสดง แต่ลั่วชิงยวนก็ยังคงรู้สึกเจ็บปวด“ตอนนี้ท่านคงจะขาดแคลนเครื่องยาสมุนไพร พวกข้าสามารถจัดหาให้ได้”“สามารถนำเข้าไปเป็นเงื่อนไขในการเจรจาครั้งนี้ได้”“ท่านคงจะรู้ฝีมือการรักษาของข้าดีอยู่แล้ว ข้ารับรองว่าจะรักษาแผลของท่านให้หายได้”ฟู่เฉินหวนเอ่ยเสียงเย็นชา “พูดมาตามตรงเถอะว่าเจ้าต้องการเงื่อนไขอะไรบ้าง”ลั่วชิงยวนจึงกล่าวเงื่อนไขทั้งหมดออกมาหลังจากฟังจบ ฟู่เฉินหวนก็หัวเราะเยาะ “พวกเจ้าช่างกล้าขอจริง ๆ”ลั่วชิงยวนถามต่อ “แล้วหากข้าแลกด้วยสนหิมะเขาฉีซานเล่า?”ฟู่เฉินหวนได้ยินดังนั้นก็หรี่ตาลงลั่วชิงยวนกำลังบอกเป็นนัยกับเขา“ของสิ่งนี้เมื่อใช้ร่วมกับเครื่องยาสมุนไพรอื่น ๆ ข้ารับรองว่าจะทำให้แผลของท่านหายสนิทได้ และจะมิส่งผลต่อวรยุทธ”ฟู่เฉินหวนข

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1011

    จู่ ๆ ก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นจากด้านนอกราวกับว่ามีอะไรบางอย่างถล่มลงมามินานก็มีเสียงฝีเท้าวิ่งมาอย่างเร่งรีบ“รายงาน! ทหารเผ่านอกด่านยกทัพมาลอบโจมตีพ่ะย่ะค่ะ!”“พวกมันใช้แม่ทัพฉินเป็นโล่มนุษย์ แล้วบุกเข้ามาจากจุดที่กำแพงเมืองทางทิศเหนือพังทลายลงมา บัดนี้บุกเข้ามาในเมืองผิงหนิงแล้วพ่ะย่ะค่ะ!” เมื่อได้ฟังดังนั้น สีหน้าของหลายคนในห้องก็เปลี่ยนไปอย่างมาก“ว่ากระไรนะ? บุกเมืองแล้วหรือ?”“นี่มันเกิดอะไรขึ้น...”หัวหน้าเผ่าทั้งสองยังมิทันได้คิดให้เข้าใจแววตาอันแหลมคมของฟู่เฉินหวนก็จ้องมาที่พวกเขาสามคน“การเจรจาสันติภาพเป็นเรื่องหลอกลวง การโจมตีแบบลอบกัดต่างหากที่เป็นของจริง!”“ทหาร จับตัวพวกมันสามคนไปขังไว้! คุมตัวให้แน่นหนา!”ในวินาทีต่อมา เหล่าทหารก็กรูเข้ามาจับตัวพวกเขาสามคนไปขังไว้ในห้องมืดที่มีการเฝ้าระวังอย่างแน่นหนา“ใครกันที่มิเชื่อฟังคำสั่งแล้วลงมือเองเช่นนี้! การเจรจาสันติภาพจะสำเร็จอยู่แล้ว!” หงเซียวโกรธจัดจนชกกำแพงอย่างแรง“จะเป็นใครไปได้อีกนอกจากหล่างชิ่น!” ถูจินโกรธจนเคราแทบตั้ง“นางต้องการสืบทอดบัลลังก์จึงมิยอมให้หยวนหนิงเจรจาสำเร็จ!”หงเซียวตกใจก่อนจะตำหนิตั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1012

    “เหล่าชนเผ่านอกด่านทั้งหลายจงถอยทัพบัดเดี๋ยวนี้!”เสียงอันหนักแน่นของลั่วชิงยวนดังก้องกังวานแหวนอินทรีในมือของนางส่องประกายวาววับระยับท่ามกลางแสงอาทิตย์เสียงร้องอันแหลมคมดังก้องมาจากท้องฟ้า แล้วนกอินทรีตัวหนึ่งก็โผบินมามันบินมาเกาะที่แขนของลั่วชิงยวนเมื่อทหารเผ่านอกด่านทั้งหลายเห็นดังนั้นต่างก็ตกใจยิ่งนัก“นั่นคือแหวนขององค์ราชา”“นั่นคือคำสั่งของพญาอินทรีศักดิ์สิทธิ์”“ถอยทัพ! ถอยทัพ!”ทุกคนต่างก้มลงคำนับพญาอินทรีศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นก็ถอยทัพไปไม่มีผู้ใดสนใจหล่างชิ่นอีกต่อไปแล้วฟู่เฉินหวนเงยหน้ามองร่างบางของลั่วชิงยวน แสงตะวันสีทองสาดส่องลงบนบ่าของนางภาพอันน่าสะเทือนใจคือภาพกองทัพเถื่อนแสดงความเคารพต่อนางทำให้เขาเกิดความรู้สึกผิดแปลกไปว่านางเป็นเทพจริง ๆเทพผู้มองสรรพสิ่งอย่างหยามหยัน สูงส่งจนผู้ใดมิอาจล่วงเกินได้หล่างชิ่นตกใจกลัวผู้เป็นบิดาได้มอบแหวนอินทรีให้แก่นางตั้งนานแล้ว!มิว่าจะทำอย่างไรก็ไร้ประโยชน์!ไม่มีอะไรต้องแย่งชิงอีกแล้ว!ขณะที่ลั่วชิงยวนหันหลังกลับเพื่อจะจับหล่างชิ่นทันใดนั้นเงาร่างอันว่องไวก็ปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว แล้วคว้าร่างของหล่างชิ่นก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1013

    ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า “หากเจ้าสามารถรักษาฉินเชียนหลี่ได้จริง ๆ ข้าก็จะตกลง”“แต่เงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ในตอนแรกจะมิสามารถใช้ได้อีกต่อไป” “สามารถมอบม้าและวัวให้แก่เจ้าได้ทั้งหมด แต่เมืองผิงหนิงจะมิสามารถเปิดประตูให้แก่เจ้าได้อีกต่อไป”“และเงื่อนไขของข้าจะต้องมีการเพิ่มอีกข้อหนึ่ง”“คือต้องตัดหัวของหล่างชิ่นมาแลก”เมื่อทุกคนได้ฟังดังนั้นก็ตกใจลั่วชิงยวนตอบตกลงในทันที “ได้! พาข้าไปหาฉินเชียนหลี่ก่อน”“นำตัวพวกเขากลับไปขังไว้ก่อน” ฟู่เฉินหวนสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชาจากนั้นก็พาลั่วชิงยวนเดินจากไป……เมื่อเข้ามาในห้องลั่วชิงยวนเห็นกรงเหล็กนั้นมันเป็นกรงเหล็กที่แคบมาก แขนขาของฉินเชียนหลี่ถูกพันธนาการด้วยโซ่ตรวนทั้งสี่ สภาพยับเยินน่าสังเวชเมื่อเห็นภาพนี้ ความเกลียดชังที่ลั่วชิงยวนมีต่อหล่างชิ่นก็เพิ่มขึ้นหลายเท่าลั่วชิงยวนเดินไปจับข้อมือของเขาแต่ฉินเชียนหลี่กลับมิได้สติและคำรามใส่นางยื่นมือออกมาหมายจะตะปบลั่วชิงยวนอย่างแรงในเสี้ยววินาทีนั้น ฟู่เฉินหวนก็จับไหล่ของลั่วชิงยวนแล้วดึงถอยหลังกลับมาหลบหลีกฝ่ามือของฉินเชียนหลี่ได้ทันลั่วชิงยวนฉวยโอกาสนี้คว้าข้อมือข

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1014

    “ถูจิน หงเซียว พวกเจ้าคิดกบฏหรือ? จับตัวลั่วชิงยวนมาให้ข้า!”ลั่วชิงยวนตกใจเป็นไปมิได้ราชาเผ่านอกด่านมิได้ตั้งใจจะสู้รบต่อไป แม้ว่าจะต้องต่อต้านกองทัพที่ล้อมรอบเพื่อปกป้องตนเอง แต่ก็เป็นไปมิได้ที่จะมอบบัลลังก์ให้แก่หล่างชิ่นหล่างมู่วิ่งเข้าไปในเมืองเพื่อช่วยนาง แต่กลับถูกจับตัวไป อาจเป็นฝีมือของหล่างชิ่นก็ได้นางต้องการเป็นรัชทายาทเพียงคนเดียวในยามวิกฤติครั้งนี้สายตาเฉียบคมของถูจินและหงเซียวสบกันแล้วกล่าวอย่างเด็ดเดี่ยวว่า “หล่างชิ่น เจ้าทำอะไรลงไป?”“องค์ราชาได้มอบบัลลังก์ให้แก่หยวนหนิงแล้ว เป็นไปมิได้ที่จะมอบให้แก่เจ้า!”แววตาของหล่างชิ่นฉายแววโหดเหี้ยม“หยวนหนิง หยวนหนิง! พวกเจ้าบ้าไปแล้วรึ? คิดว่าลูกสาวอัครเสนาบดีแคว้นเทียนเชวียเป็นลูกสาวราชาเผ่านอกด่านงั้นรึ?”“นางคือลั่วชิงยวน! เป็นชายาอ๋องผู้สำเร็จราชการ!”“ดี ในเมื่อพวกเจ้ายอมรับลั่วชิงยวนแล้ว ข้าก็จะมิเกรงใจความเป็นพี่น้องอีกต่อไป”“ทหาร! จับตัวไปให้หมด!”ลู่หยิ่งก็เข้าร่วมการต่อสู้ด้วยลั่วชิงยวนถูกปิดล้อมอย่างหนัก นางรับมืออย่างตึงเครียด พยายามฝ่าวงล้อมเข้าไปในกระโจมเพื่อดูว่าราชาเผ่านอกด่านเป็นอย่างไรบ้า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1015

    “แม้เจ้าจะมิใช่ลูกสาวแท้ ๆ ของข้า แต่ตลอดหลายปีมานี้ ข้ามิเคยปล่อยให้เจ้าต้องลำบากเลย”“และยังปฏิบัติต่อเจ้าเหมือนลูกสาวแท้ ๆ เสมอ”แววตาของราชาเผ่านอกด่านมีความเจ็บปวด หล่างชิ่นเพิ่งรู้ในตอนนี้ว่าทุกสิ่งที่นางทำไปล้วนอยู่ภายใต้การควบคุมของเขาดวงตาของหล่างชิ่นเต็มไปด้วยน้ำตาขณะหัวเราะเยาะ “ใช่! ข้าเป็นเพียงตัวแทนที่ท่านรับมาเลี้ยงเพื่อปลอบใจตัวเองเท่านั้น”“ดังนั้นข้าจะยังมีทางรอดอยู่อีกหรือ ข้าทำได้เพียงเท่านี้เพราะท่านเป็นคนบังคับข้าเอง!”นางรู้มาตั้งแต่เด็กว่าพ่อมีลูกสาวที่ล่วงลับไปแล้วในห้องที่พ่อของนางอยู่มีภาพวาดของหยวนหนิงมากมาย รวมถึงมีสิ่งของของหยวนหนิงอยู่ทุกหนทุกแห่งนางอิจฉายิ่งนัก นางคิดว่าตราบใดที่นางพยายามอย่างหนักและแข็งแกร่งพอ พ่อก็จะลืมหยวนหนิงและมีเพียงนางในใจแต่ในวันนี้นางเพิ่งรู้ว่านางมิใช่ลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อดังนั้นความพยายามทั้งหมดของนางจึงสูญเปล่านางไม่มีวันแข่งกับหยวนหนิงที่ตายไปแล้วได้ราชาเผ่านอกด่านถอนหายใจ “ทุกอย่างเป็นทางเลือกของเจ้าเอง ไม่มีใครบังคับเจ้า”“เมื่อเจ้าลอบสังหารเหยี่ยนหลัว ข้ายังให้โอกาสเจ้า”“แต่เจ้ากลับทำให้ข้าผิดหวัง”รา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1016

    “กรี๊ด” เสียงกรีดร้องโหยหวนอันน่าสยดสยองดังก้องกังวานไปทั่ว พร้อมกับเสียงร้อนฉ่าที่น่าสะพรึงกลัว ภาพอันน่าเวทนาปรากฏอยู่เบื้องหน้าลั่วชิงยวนมิได้กะพริบตาแม้แต่น้อย เมื่อวางเหล็กเผาไฟลง ใบหน้าของหล่างชิ่นก็ปรากฏบาดแผลไหม้เป็นรูปอักขระหนึ่งทาส“เจ้าชอบบังคับให้ผู้อื่นเป็นทาสของเจ้านักมิใช่รึ? บัดนี้จงลิ้มลองรสชาติของการเป็นทาสดูบ้างแล้วกัน”“ทุกสิ่งที่เจ้าได้กระทำต่อฉินเชียนหลี่ เจ้าจะได้รับผลตอบแทนเป็นสองเท่า”ดวงตาของหล่างชิ่นแดงก่ำ โซ่ตรวนที่พันธนาการร่างกายไว้สั่นไหว“ลั่วชิงยวน! หากเจ้ามิสังหารข้า สักวันข้าจะต้องสังหารเจ้า!”ลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก “เจ้าจะไม่มีโอกาสนั้น”ลั่วชิงยวนชักดาบออกมา ดาบที่เปล่งประกายราวกับแสงจันทร์ถูกปลดจากฝักจากนั้นค่อย ๆ แทงไปยังข้อมือของหล่างชิ่น คมดาบแทงทะลุข้อมือแล้วเฉือนเส้นเอ็นอย่างแช่มช้า เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดดังก้องไปทั่วคุกแล้วลั่วชิงยวนก็ค่อย ๆ เฉือนเส้นเอ็นที่มือและเท้าของหล่างชิ่นครั้งแล้วครั้งเล่า จากนั้นก็ใช้ฝ่ามือฟาดลงไปที่ไหล่ของหล่างชิ่นอย่างแรง เสียงกระดูกหักดังกังวานอึกเลือดสีแดงฉานพุ่งออกมาจากปากหล่า

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1422

    ร่างที่ไร้ศีรษะร่างหนึ่งถือกระบี่เดินเข้ามาหาลั่วชิงยวน โซ่เหล็กด้านหลังลากคนสามคนไว้แม้จะออกแรงสุดกำลังแล้วก็ยังฉุดรั้งโหยวจิ้งเฉิงไว้มิได้แต่ร่างของโหยวจิ้งเฉิงในตอนนี้ไม่มีศีรษะแล้ว ยากที่จะควบคุมร่างกายได้ลั่วชิงยวนถือกระบี่เงื้อฟันไปยังร่างของฝูเหมิ่ง เช่นเดียวกับตอนที่โหยวจิ้งเฉิงตัดแขนขาของอวี๋ตันเฟิ่งนางกำลังแก้แค้นและระบายความแค้นอย่างบ้าคลั่งตัดแขนของเขาขาดทีละข้างกระบี่ห้วงสวรรค์ร่วงลงสู่พื้นไปพร้อมกับแขนจากนั้นขาทั้งสองข้างของเขาก็ขาดกระเด็นอวี๋ตันเฟิ่งอาละวาดแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งเมื่อมองไปยังซากศพที่กองอยู่บนพื้น ดวงตาของลั่วชิงยวนก็ราวกับถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉานใต้หล้าเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดทั้งสามที่อยู่มิไกลต่างตกตะลึงมิเคยเห็นฉากที่นองเลือดเช่นนี้มาก่อนแต่ถึงแม้ร่างกายจะแหลกละเอียด โหยวจิ้งเฉิงก็ยังมิตายทันใดนั้นมีร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากซากศพ แล้วลอยละลิ่วไปอวี๋ตันเฟิ่งกรีดร้องแหลม “โหยวจิ้งเฉิง เจ้าอย่าหวังว่าจะหนีไปไหนได้อีก! ข้าจะทำให้เจ้ามิได้ผุดได้เกิด!”พลังในร่างของนางพลันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นลมพายุโหมกระหน่ำ ลั่วชิงยวนรู้สึกราว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1421

    ใบหน้านั้นบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นโหยวจิ้งเฉิง“ต่อไปก็ถึงตาพวกเจ้าแล้ว” เขาเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้งเย็นเยือกโฉวสือชีกำกระบี่ในมือแน่น ปกป้องคนใบ้และอวี๋โหรวไว้ส่วนลั่วชิงยวนค่อย ๆ ก้าวเท้าไปข้างหน้าในดวงตาค่อย ๆ ก่อเกิดจิตสังหารนางหลับตาลง แล้วกล่าวว่า “อวี๋ตันเฟิ่ง ไปแก้แค้นของเจ้าเถิด”ลั่วชิงยวนมอบร่างของตนให้อวี๋ตันเฟิ่งโดยสมบูรณ์เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของนางยังคงเป็นใบหน้าเดิม เพียงแต่แววตานั้นกลับดุดันยิ่งนัก ดวงตาสีแดงก่ำเต็มไปด้วยความแค้นเสียงของอวี๋ตันเฟิ่งดังขึ้น “โหยวจิ้งเฉิง ความแค้นระหว่างข้ากับเจ้า วันนี้ถึงคราวสะสางแล้ว”“สิบกว่าปีที่ผ่านมา ข้าคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะฉีกร่างเจ้าเป็นชิ้น ๆ อย่างไรถึงจะสาสมกับความแค้นในใจข้า”“แต่คาดมิถึงว่าเจ้าจะตายไปแล้ว”“แต่ก็มิเป็นไร วันนี้ข้าจะฉีกร่างเจ้าให้เป็นชิ้น ๆ ให้ได้!”เมื่อกล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็กระโจนเข้าไปเสียงอาวุธปะทะกันอย่างรุนแรงดังขึ้นแต่ในเวลานี้เอง โหยวจิ้งเฉิงก็พุ่งไปยังกำแพง คว้ากระบี่ห้วงสวรรค์มาได้ จากนั้นกระโจนออกนอกห้องไปอวี๋ตันเฟิ่งรีบไล่ตามไปสีหน้าคนใบ้เปลี่ยนไป กระบี่ห้วงสวรรค์! หากฝูเหมิ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1420

    ต่งอวิ๋นซิ่วตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบยกมือขึ้นมาป้องกัน แล้วต่อสู้กับฝูเหมิ่งแต่พลังในตอนนี้ของต่งอวิ๋นซิ่วเทียบกับฝูเหมิ่งแล้วยังอ่อนแอกว่ามากนักสุดท้ายก็ถูกฝูเหมิ่งบีบคอไว้แน่นลั่วชิงยวนเห็นชัดเจนว่าในร่างของฝูเหมิ่งตอนนี้คือโหยวจิ้งเฉิง!เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ? เขาจะฆ่าต่งอวิ๋นซิ่วภรรยาของตนหรือ?เมื่อเห็นดังนั้น โหยวเซียงก็ชักกระบี่พุ่งเข้าไปหมายจะช่วยต่งอวิ๋นซิ่ว แต่ฝูเหมิ่งกลับมิหลบเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้กระบี่ในมือนางแทงทะลุร่างจากนั้นฝูเหมิ่งก็ฟาดมือไปทีหนึ่ง โหยวเซียงจึงกระเด็นปลิวไปโหยวเซียงกระอักเลือดออกมาต่งอวิ๋นซิ่วร้อนใจยิ่งนัก “เซียงเอ๋อร์ มิต้องสนใจแม่ รีบหนีไป!”โหยวเซียงจะทนมองดูมารดาของตนถูกฆ่าได้อย่างไร นางพยายามลุกขึ้นมาสู้ต่อแต่ฝูเหมิ่งกลับมองโหยวเซียงอย่างดุดัน แล้วกล่าวขู่ “คนที่ข้าต้องการฆ่ามีเพียงต่งอวิ๋นซิ่วเท่านั้น เจ้าจงหลีกไป”“มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้ามิเห็นแก่ความเป็นพ่อลูก”เมื่อได้ยินดังนั้น โหยวเซียงก็ตกใจจนยืนอึ้งไปกับที่ แล้วกล่าวเสียงสั่นเครือ “พ่อ… พ่อลูกหรือ?”ตอนนี้เสียงของฝูเหมิ่งก็มิใช่เสียงของฝูเหมิ่งอีกต่อไปแล้วเมื่อต่งอวิ๋นซิ่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1419

    ขณะนี้เอง โหยวเซียงก็ฉวยโอกาสหลบหนีจากมือของลั่วชิงยวนไปได้ต่งอวิ๋นซิ่วมองพวกเขาอย่างเย็นชา “ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็เตรียมตัวตายได้เลย!”ทันใดนั้นบนคานเรือนก็ปรากฏชายชุดดำจำนวนมากพร้อมถือหน้าไม้เล็งมาที่พวกเขาลูกดอกอันคมกริบประกายแสงเย็นลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก หัวเราะอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าเจ้าจะเตรียมการมาอย่างดี ตอนนี้พวกข้าคงหนีออกจากห้องนี้ไปมิได้แล้วใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนสังเกตประตูห้อง รวมถึงผนังห้องทุกด้าน แล้วพบว่ามีกลไกบนประตูเหนือศีรษะ ต่งอวิ๋นซิ่วหัวเราะเบา ๆ “แน่นอน นี่คือห้องกลไกที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือพวกเจ้าที่บุกรุกเข้ามาบนเขา”“วันนี้พวกเจ้าอย่าหวังว่าจะได้ออกไปแม้แต่คนเดียว!”ลั่วชิงยวนจับกระบี่ห้วงสวรรค์แน่นแล้วพุ่งไปที่กลไกจุดหนึ่งบนผนังห้อง ฟาดฟันกระบี่ลงไปอย่างแรงต่งอวิ๋นซิ่วรีบดึงโหยวเซียงหลบหลีกไปแต่ใครเล่าจะรู้ว่าลั่วชิงยวนมิได้โจมตีพวกนาง แต่กลับฟันกลไกบนผนังห้องทำให้ประตูห้องลงกลอนอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นเช่นนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็หัวเราะเยาะ “เจ้าช่างรนหาที่ตายยิ่งนัก”ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างมีความหมาย “เช่นนั้นรึ? ยังมิรู้เลยว่าใครกันแน่ที่จะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1418

    ร่างที่เดินออกมาจากฝูงชนนั้นมีท่าทางคุกคามยิ่งนักลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย นั่นคือสตรีที่นางเห็นในความทรงจำของอวี๋ตันเฟิ่งต่งอวิ๋นซิ่ว!โหยวเซียงดิ้นรนพลางเงยหน้ามองต่งอวิ๋นซิ่วด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านแม่… เป็นความผิดของลูกเองที่ปล่อยให้พวกมันขึ้นเขามาได้”หากมิใช่เพราะลั่วชิงยวนรู้ทางลับของวัดร้างแห่งนั้น พวกนางคงไม่มีทางขึ้นเขามาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้!ต่งอวิ๋นซิ่วมองด้วยความเจ็บปวดแล้วตวาดใส่ลั่วชิงยวน “ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าตายเยี่ยงไร้ที่ฝัง!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “เมื่อคืนยังพยายามทำลายวิญญาณที่เหลือของอวี๋ตันเฟิ่งอยู่เลย วันนี้เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าศัตรูของเจ้าคือใคร?”“ใครกันแน่ที่จะตายแบบไร้ที่ฝัง ยังบอกมิได้หรอก”เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็สะดุ้งเฮือก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากท่าทางของนางดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยายามซ่อนไว้ได้ดีนางมองลั่วชิงยวนอย่างใจเย็น แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงเมืองแห่งภูตผี ก็คงต้องการของล้ำค่าของเมืองแห่งภูตผีสินะ”“พวกเจ้าอยากได้อะไร ข้าสามารถให้เจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1417

    นางปฏิเสธอย่างหนักแน่นลั่วชิงยวนกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น “พานางไปด้วย ไปวัดร้าง!”พวกเนางมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ โหยวเซียงดิ้นรนตลอดทาง แต่โฉวสือชีและคนใบ้จ้องมองทุกการกระทำของนางอย่างใกล้ชิด มิเปิดโอกาสให้นางหลบหนีไปได้แม้แต่น้อยเมื่อเดินไปได้ไกลมากพอสมควร เสียงไก่ขันยามรุ่งอรุณก็ดังขึ้นแล้วในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวัดร้างแห่งนั้นในวัดร้างมีพระพุทธรูปที่เป็นซากปรักหักพังล้มลงบนพื้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีใครมานานแล้วเมื่อมองหาอย่างละเอียดก็พบรอยเท้าบนพื้นลั่วชิงยวนมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือสถานที่ที่ถูกต้อง!โหยวเซียงจ้องมองทุกการกระทำของลั่วชิงยวนอย่างกระวนกระวาย เกรงว่าลั่วชิงยวนจะพบกลไกเข้าแต่ลั่วชิงยวนกลับสังเกตปฏิกิริยาของโหยวเซียง ค่อย ๆ เดินไปในแต่ละที่โดยอาศัยการสังเกตปฏิกิริยาโหยวเซียงสุดท้ายลั่วชิงยวนจึงเพ่งเล็งไปที่ผนังด้านหนึ่งแล้วเริ่มค้นหากลไกเสียงเปิดกลไกดังแกร๊กดังขึ้นประตูบานหนึ่งบนพื้นพลันเปิดออกหลังจากที่ลั่วชิงยวนเปิดประตูแล้วก็พบว่าด้านล่างยังมีประตูอีกบานหนึ่ง และบนนั้นก็มีกลไกเช่นกันแต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วเรื่องนี้ง่ายมากเมื่อประต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status