แชร์

บทที่ 281

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
ทุกอย่างรอบ ๆ กลับมาชัดเจนอีกครั้ง ศพในห้องก็หายไป ส่วนนางยังคงยืนอยู่ใต้ชายคา แสงในคฤหาสน์เปลี่ยนไป

ศีรษะข้างเท้านางก็หายไปเช่นกัน

“กรี๊ด! ออกไปนะ! ข้ามิใช่แม่เจ้า! ออกไปเดี๋ยวนี้!”

ภายในห้องมีเสียงร้องตะโกนสุดกำลัง และเต็มไปด้วยความผวาส่งมา

ลั่วชิงยวนวิ่งพุ่งเข้าไปในห้องโดยไม่มีเวลาสนใจอย่างอื่น

เมื่อเปิดประตูออก

ฮูหยินท่านนั้นกำลังวิ่งหนีไปมา และพุ่งชนข้าวของในห้องอย่างลนลาน นางหวาดกลัวจนยากที่จะควบคุมอารมณ์

ลั่วชิงยวนเดินขึ้นหน้าไปกอดนางไว้ทันที แต่กลับถูกขัดขืนอย่างรุนแรง แรงภายใต้ความอยากเอาชีวิตรอดนั้นเยอะจนน่าตกใจ

ลั่วชิงยวนจึงต้องใช้สันมือฟาดลงไป เพื่อให้นางสลบ

หลังนางสลบ ลั่วชิงยวนจึงยกนางไปไว้บนเตียง

พร้อมจับชีพจรให้นาง ชีพจรอ่อนแอ เนื่องจากตกใจเกินเหตุ จนส่งผลกระทบไปถึงเด็กในท้องแล้ว หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเด็กในท้องไม่รอดแน่!

บัดนี้ด้านนอกดังขึ้นเป็นเสียงลมฟู่ ๆ พร้อมกับเสียงเด็กที่แสนยะเยือก “มันต้องตาย! มันต้องตาย!”

ว่าแล้ว เด็กคนนี้แค่อยากให้นางแท้งลูก

วินาทีต่อมา แจกันภายในห้องหล่นลงพื้นอย่างแรง จนส่งเป็นเสียงเคร้ง

ร่างบนเตียงกระตุกเพราะความตกใ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 282

    เป็นแคว้นหลี! หากเป็นแคว้นหลี เช่นนั้นอีกฝ่ายต้องมาถึงที่แคว้นเทียนเชวียนานแล้ว ในแคว้นหลีมีคนแอบร่วมมือกับอิทธิพลแคว้นเทียนเชวียหรือ? คิดถึงตรงนี้ หัวใจของนางสั่นคลอน หากเป็นเช่นนี้ แคว้นหลีก็น่าจะหยั่งรู้อิทธิพลของแคว้นเทียนเชวียนานแล้ว การตายของนาง จะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่? นางกำตุ๊กตาในมือไว้แน่น จากนั้นหันร่างกลับห้อง เพื่อจับชีพจร ฝังเข็มและจ่ายยาให้กับฮูหยิน ต่อด้วยไปปลุกแม่นมที่สลบอยู่บนพื้นด้านนอกให้ตื่น “เกิดอะไรขึ้น?” แม่นมตระหนก สีหน้าลนลานและหวาดกลัว ลั่วชิงยวนส่งตำรับยาให้นาง “ไปซื้อสมุนไพรเถิด ไม่เป็นไรแล้ว” แม่นมตะลึง มองไปรอบ ๆ ด้าน จึงพบว่าทุกอย่างได้สงบลงแล้ว “ไม่เป็นไรแล้วหรือ? ไม่เป็นไรแล้วก็ดี...” “ซื้อสมุนไพร เร็วเข้า!” ลั่วชิงยวนกำชับซ้ำ แม่นมเติ้งได้สติ “เจ้าค่ะ จะไปเดี๋ยวนี้แล” นางรับตำรับยามาจากนั้นจากไปอย่างร้อนรน ลั่วชิงยวนกลับเข้ามาในห้อง ฮูหยินท่านนั้นได้ตื่นขึ้นมาแล้ว เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู ร่างของนางสั่นคลอน และขดตัวอยู่ที่มุมกำแพง ลั่วชิงยวนชะงัก นางพูดเสียงต่ำ “มิต้องกลัว ข้าเอง” ฮูหยินชะงักเล็กน้อย “ท่านเซียน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 283

    ความอึดอัดมากมายที่มิกล้าเอ่ยพูดกับผู้อื่น บัดนี้นางกลับระบายให้ลั่วชิงยวนฟังจนสิ้น ลั่วชิงยวนเฝ้านางทั้งคืน และฟังเฝิงซีระบายมาทั้งคืน ต้องยอมรับเลย หญิงสาวที่เข้าวังหลวงได้ บางครั้งก็น่าสงสารยิ่งนัก พวกนางถูกคุมขังชั่วชีวิต เดิมทีพวกนางต่างเป็นคุณหนูตระกูลสูงส่งที่มีอนาคตสวยงามมากกว่านั้น แต่เพราะเข้าวังทุกอย่างจึงเปลี่ยนไป เมื่อฟ้าเริ่มสว่าง ในที่สุดความกลัวจากความมืดก็ถูกปัดเป่า อารมณ์และอาการของเฝิงซีต่างดีขึ้นจากเดิมเยอะ นางกล่าวขอบคุณ “ขอบคุณท่านที่ฟังข้าระบายมาทั้งคืน” “มิเป็นไร เมื่อเรื่องไม่ดีถูกพูดออกมา อารมณ์จักดีขึ้นยิ่ง และส่งผลดีต่อการฟื้นฟูร่างกาย” เฝิงซีเรียกแม่นมเข้ามา ให้แม่นมจ่ายค่าจ้าง เพียงแต่ครั้งนี้ นางยื่นให้ลั่วชิงยวนหนึ่งหมื่นตำลึงทีเดียว “ท่านฮูหยิน มิจำเป็นต้องมากเช่นนี้” แต่เฝิงซีกลับเผยยิ้ม ”เงินนี้มิใช่ของข้า ข้าใช้ของสามีข้า เขามิขาดเงิน เจ้ารับไว้เถิด” จักรพรรดิย่อมไม่ขาดเงินอยู่แล้ว ลั่วชิงยวนจึงรับตั๋วเงินมาหนึ่งกล่อง เฝิงซีกล่าวต่อ “ข้าจักแนะนำเจ้าให้ฮูหยินที่ข้าสนิทสนม เพื่อเป็นการส่งเสริมการค้าขายของเจ้า” “เช่นนั้นก็ขอ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 284

    ใต้แสงจันทร์ นางสามารถมองเห็นร่างที่พุ่งเข้ามาด้านหน้านางอย่างชัดเจน! “ฟู่เฉินหวน!” นิ้วมือเย็น ๆ เปิดผ้าคลุมหน้าของนางออก ลั่วชิงยวนเงยหน้าและตีลังกาหลบ วินาทีนั้น นิ้วของเขาลูบผ่านใบหน้าของนาง สัมผัสละเอียดอ่อนนั้น ทำปลายนิ้วของฟู่เฉินกวนรู้สึกเร่าร้อนขึ้นมา ลั่วชิงยวนยื่นมือกดผ้าคลุมหน้าเอาไว้ นางลุกขึ้น และจดจ้องไปทางฟู่เฉินหวนด้วยสีหน้าที่สงบและแน่นิ่ง “คุณชายหมายความว่าอย่างไรกัน?” ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว นัยน์ตามีแววฉงนกะพริบผ่าน เขาฝีมือดีเช่นนี้เชียว? “ลูกผู้ชายยังสวมใส่ผ้าปิดหน้าอีก? มีเรื่องน่าอับอายกระไรงั้นรึ?” ฟู่เฉินหวนค่อย ๆ เดินเข้าไปหานาง กดดันจนลั่วชิงยวนต้องถอยหลังไปเรื่อย ๆ “คุณชายเป็นใครกัน? จึงได้ยุ่งเรื่องผู้อื่นนัก ยุ่งกระทั่งการแต่งตัวของข้า” น้ำเสียงของลั่วชิงยวนเยือกเย็น “ไยเจ้าต้องถอยเล่า? กลัวอะไรงั้นหรือ?” สายตาหนาวเหน็บของฟู่เฉินหวนจดจ้องลั่วชิงยวน ในใจลั่วชิงยวนแอบกลัวจริง ๆ นางมิได้ถอยต่อ “ข้าถอยเพราะต้องการหลบทางให้ท่าน” นางเอนกาย ให้ฟู่เฉินหวนผ่าน แต่ฟู่เฉินหวนมิคิดจะจากไป เขาไขว้มือไว้ด้านหลัง มองมาทางนางด้วยสายตาเยือกเย็น “

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 285

    ซ่งเชียนฉู่จึงเสงี่ยมขึ้น แต่ยังอดหัวเราะมิได้ เสียงหัวเราะของนางใสราวกับกระดิ่ง และดังไปทั่วจวนแสนสงบนี้ “ข้าออกจากจวนและได้รับข่าวสารมาไม่น้อย! ร้านของเรายายังมิทันมีชื่อเสียงเลย ความงดงามของท่านกลับโด่งดังขึ้นมาเสียก่อนแล้ว!” ลั่วชิงยวนไม่ค่อยรู้ข่าวสารจริง ๆ จำนวนคนที่มาทำนายกับนางในทุก ๆ วันมีไม่น้อย แม้เป็นเพียงงานเล็ก ๆ แต่เมื่อรวมกัน ทุกวันนางก็หาเงินได้จำนวนไม่น้อยเลย “วันนี้ไปที่จวนเฝิง ฟู่เฉินหวนเหมือนจะสงสัยข้า หากหน้าข้าสะอาดสะอ้าน ไฉนข้าจะปิดหน้ากัน? อย่างน้อยต้องมีเหตุผลให้ข้าปิดหน้าหน่อยสิ!” ลั่วชิงยวนพูดเรื่องสำคัญต่อ “เจ้ามีวิธี ใส่รอยแผลบนใบหน้า โดยที่คนอื่นดูไม่ออกว่าเป็นของปลอมหรือไม่?” นางเองก็มีวิธีของตนเอง แต่คิดถึงตัวตนของซ่งเชียนฉู่ ยาที่ซ่งเชียนฉู่รู้จักย่อมมากกว่านาง บางทีอาจมีวิธีที่ดีกว่านั้น ซ่งเชียนฉู่ เผยยิ้มมั่นใจ พร้อมกล่าว “ข้าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้เลย!” “เมื่อก่อนข้าแอบไปเล่นนอกเขา แล้วกลัวว่าจะถูกท่านพ่อลงโทษ ข้าจึงทำบาดแผลปลอม ท่านพ่อจะได้ไม่ติข้าเพราะความสงสาร” “ข้าใช้วิธีนี้มาเป็นสิบปี และได้ผลทุกครั้ง!” “สมุนไพรที่ใช้ทำบาด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 286

    ลั่วชิงยวนสีหน้าหม่นคล้ำ แน่นอนว่าย่อมไม่อาจหลบเลี่ยงได้แล้ว สวีซงหย่วนรีบคว้าตัวลั่วอวิ๋นสี่เอาไว้พลางกล่าวว่า "อวิ๋นสี่ อย่าทำให้ผู้อื่นต้องลำบากใจเลย บางทีอาจเป็นเพราะพวกเราแตกต่างกันมาก ถึงได้ไร้วาสนาต่อกัน" ลั่วชิงยวนหรี่ตามองสวีซงหย่วน คนผู้นี้แสดงละครเก่งจริง ๆ หลังจากลั่วอวิ๋นสี่ได้ยินเช่นนี้เข้าก็รู้สึกหัวใจสลาย จากนั้นนางก็เอ่ยขึ้นมาว่า "ข้าไม่อนุญาตให้ท่านพูดแบบนั้น ต่อให้ไร้วาสนาก็ช่าง ข้าจักฝืนชะตาครั้งนี้เอง!" หลังจากนางพูดจบก็เท้ามือลงบนโต๊ะก็จ้องมองลั่วชิงยวนด้วยสายตาเย่อหยิ่งจองหองแล้วข่มขู่ว่า "ข้าต้องการให้เจ้าทำนายชะตาสมรสให้ข้า เขียนลงไปซะ! มิฉะนั้นข้าจักพังร้านและแผงทำนายดวงชะตาของเจ้า!" "ตอนนี้เจ้ามีชื่อเสียงนักไม่ใช่หรือ? ถึงตอนนั้นหากข้าบอกว่าเจ้าดูดวงไม่แม่น เจ้าก็จะดำเนินกิจการทำนายดวงชะตาของตนมิได้อีกต่อไป!" มารดาของนางคัดค้านเรื่องที่นางจะอยู่กับสวีซงหย่วนมาโดยตลอด ดังนั้นท่านจึงลงโทษและออกคำสั่งให้กักบริเวณนางอยู่หลายครั้งหลายครา! ไม่นานมานี้ มีเทพพยากรณ์เลื่องชื่อปรากฏตัวขึ้นในเมืองหลวง นางอยากได้คำทำนายเพื่อจะได้พิสูจน์ให้มารดาของตนเห็น

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 287

    เมื่อซ่งเชียนฉู่ได้ยินเช่นนี้เข้า นางก็ครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะพลางยิ้มจาง ๆ "สวีซงหย่วนผู้นั้นมิเคยเห็นข้ามาก่อน เช่นนั้นเจ้าอยากให้ข้าไปทดสอบเขาดูหรือไม่?" ลั่วชิงยวนเลิกคิ้ว "เจ้าคิดจักทำอันใดกัน? กลยุทธ์สาวงาม(1)เช่นนั้นหรือ?" ดวงตาของซ่งเชียนฉู่ฉายแววเจ้าเล่ห์ จากนั้นนางก็เอ่ยขึ้นมาว่า "หากสวีซงหย่วนอยู่ในกลุ่มเดียวกับสวี่ชิงหลิน เช่นนั้นเขาก็น่าจะรู้ชื่อข้า" "หากให้สวีซงหย่วนรู้ว่าดีงูที่พวกเขาต้องการอยู่ในมือข้า เขาจักเข้าหาข้าหรือไม่เล่า?" "ถึงตอนนั้น ท่านก็แค่หาวิธีทำให้ลั่วอวิ๋นสี่บังเอิญมาพบเข้าสิ!" "อย่างไรเสียจุดประสงค์ของพวกเราก็คือการค้า! ต่อให้พวกเราโดนทำลายแผงทำนายดวงชะตาเป็นบางครั้งบางคราว ก็เกินคุ้มแล้ว!" หลังจากลั่วชิงยวนได้ยินเช่นนี้เข้า นางก็ดวงตาเป็นประกาย "ช่างเป็นแผนการอันแยบยล!" ตอนนี้นางผอมลงจนรูปร่างหน้าตาเปลี่ยนไปบ้างแล้ว ถึงแม้ว่านางจะไม่กลัวว่าท่านป้าลั่วหรงจะรู้เรื่องนี้ แต่นางก็ยังไม่สะดวกที่จะไปจวนมหาราชครูในยามนี้ เว้นเสียแต่ว่าท่านป้าลั่วหรงจะเป็นฝ่ายมาหานางด้วยตนเอง หากนางสามารถแก้ไขเรื่องนี้ได้เอง เช่นนั้นนางจะได้ไม่ต้องเป็นกังวลเรื่อง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 288

    แต่ในยามนี้เอง จู่ ๆ ก็มีฝ่ามือแกร่งคว้าข้อมือของลั่วอวิ๋นสี่เอาไว้ พวกนางทั้งสองคนต่างรู้สึกตื่นตะลึง ลั่วชิงยวนเงยหน้าขึ้นไปก็เห็นฟู่เฉินหวน ลั่วอวิ๋นสี่ผงะอึ้งแล้วรีบชักมือกลับแล้วมองฟู่เฉินหวนด้วยสายตาไม่พอใจ "ท่านอ๋องทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไรเพคะ? ท่านคิดจะเข้ามาขวาง แม้แต่เรื่องที่ข้าจะสั่งสอนเจ้านักต้มตุ๋นเชียวหรือเพคะ?" ฟู่เฉินหวนสีหน้าเย็นชา มิหนำซ้ำน้ำเสียงกลับเย็นชายิ่งกว่า จากนั้นเขาก็เอ่ยขึ้นมาว่า "บังเอิญว่าข้ากำลังตามหาตัวท่านเซียนฉู่อยู่พอดี" "คุณหนูลั่ว หากอยากก่อเรื่องเอาไว้ค่อยมาวันหลังเถอะ" ลั่วอวิ๋นสี่รู้สึกโกรธจัด แต่นางไม่กล้าล่วงเกินอ๋องผู้สำเร็จราชการซึ่ง ๆ หน้า นางจึงสะบัดแขนเสื้อแล้วมองลั่วชิงยวนด้วยสายตาเย็นชา "เจ้ารอก่อนเถอะ เรื่องไม่จบเพียงเท่านี้แน่!" หลังจากนั้นนางก็จากไปด้วยความเดือดดาล ฟู่เฉินหวนหันกลับมาหรี่ตามองลั่วชิงยวนด้วยสายตาเปี่ยมความหมาย "ดูเหมือนว่าตอนนี้ท่านเซียนฉู่จะมีชื่อเสียงไม่หยอกเลย ท่านดึงดูดปัญหาเข้ามาเสียแล้ว ต้องการให้ข้าช่วยหรือไม่?" ลั่วชิงยวนหัวเราะพลางกล่าวว่า "ที่แท้นายท่านก็คือท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการนี่เอง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 289

    แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเขาจริง ๆ หรือ? เดิมทีลั่วชิงยวนเคยบอกว่าเขาจะเคราะห์ร้ายเพราะลุ่มหลงอิสรตี ไฉนท่านเซียนฉู่ถึงได้กลับคำเช่นนี้เล่า? ถึงแม้เขาจะสงสัยว่าลั่วชิงยวนหลอกเขามากกว่าหนึ่งครั้ง แต่เขาก็รู้สึกว่าช่วงนี้ตนเองปฏิบัติกับลั่วเยวี่ยอิงต่างออกไป เขาไม่อาจทนเห็นนางได้รับความอยุติธรรมและไม่อาจทนเห็นนางร้องไห้ได้ ต่างไปจากความรู้สึกรำคาญในตอนแรก ยามนี้เขากลับรู้สึกปวดใจ เขาชอบคนแบบนั้นลงไปได้อย่างไรกัน ทั้งยังเป็นสตรีมากเล่ห์อย่างลั่วเยวี่ยอิงด้วย! คราวนี้เขาจะต้องได้ผลลัพธ์จากฉู่ลั่วให้จงได้! ขณะที่ลั่วชิงยวนนั่งทำนายดวงชะตาให้ผู้คนอยู่นอกร้าน นางก็มักจะรู้สึกกระดูกสันหลังเย็นวาบอยู่ตลอดเวลา การที่นางรู้ว่าฟู่เฉินหวนกำลังนั่งมองนางอยู่ข้างใน ชวนให้นางรู้สึกไม่สบายใจยิ่งนัก! แต่ก็ไม่มีทางไล่เขาไปได้เลย ส่วนจือเฉาหลบอยู่ในเรือนเพราะเกรงว่าจะถูกฟู่เฉินหวนพบเข้า …… ณ ถนนสายหลักแห่งหนึ่ง "แม่นางซ่ง!" สวีซงหย่วนรีบเดินฝ่าฝูงชนจนไล่ตามซ่งเชียนฉู่ได้ทันในที่สุด ซ่งเชียนฉู่หันกลับมามองเขาด้วยความสงสัย "ท่านคือ..." สวีซงหย่วนยิ้มพลางยื่นถุงหอมออกมาแล้วกล่าวว่า

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1422

    ร่างที่ไร้ศีรษะร่างหนึ่งถือกระบี่เดินเข้ามาหาลั่วชิงยวน โซ่เหล็กด้านหลังลากคนสามคนไว้แม้จะออกแรงสุดกำลังแล้วก็ยังฉุดรั้งโหยวจิ้งเฉิงไว้มิได้แต่ร่างของโหยวจิ้งเฉิงในตอนนี้ไม่มีศีรษะแล้ว ยากที่จะควบคุมร่างกายได้ลั่วชิงยวนถือกระบี่เงื้อฟันไปยังร่างของฝูเหมิ่ง เช่นเดียวกับตอนที่โหยวจิ้งเฉิงตัดแขนขาของอวี๋ตันเฟิ่งนางกำลังแก้แค้นและระบายความแค้นอย่างบ้าคลั่งตัดแขนของเขาขาดทีละข้างกระบี่ห้วงสวรรค์ร่วงลงสู่พื้นไปพร้อมกับแขนจากนั้นขาทั้งสองข้างของเขาก็ขาดกระเด็นอวี๋ตันเฟิ่งอาละวาดแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งเมื่อมองไปยังซากศพที่กองอยู่บนพื้น ดวงตาของลั่วชิงยวนก็ราวกับถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉานใต้หล้าเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดทั้งสามที่อยู่มิไกลต่างตกตะลึงมิเคยเห็นฉากที่นองเลือดเช่นนี้มาก่อนแต่ถึงแม้ร่างกายจะแหลกละเอียด โหยวจิ้งเฉิงก็ยังมิตายทันใดนั้นมีร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากซากศพ แล้วลอยละลิ่วไปอวี๋ตันเฟิ่งกรีดร้องแหลม “โหยวจิ้งเฉิง เจ้าอย่าหวังว่าจะหนีไปไหนได้อีก! ข้าจะทำให้เจ้ามิได้ผุดได้เกิด!”พลังในร่างของนางพลันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นลมพายุโหมกระหน่ำ ลั่วชิงยวนรู้สึกราว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1421

    ใบหน้านั้นบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นโหยวจิ้งเฉิง“ต่อไปก็ถึงตาพวกเจ้าแล้ว” เขาเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้งเย็นเยือกโฉวสือชีกำกระบี่ในมือแน่น ปกป้องคนใบ้และอวี๋โหรวไว้ส่วนลั่วชิงยวนค่อย ๆ ก้าวเท้าไปข้างหน้าในดวงตาค่อย ๆ ก่อเกิดจิตสังหารนางหลับตาลง แล้วกล่าวว่า “อวี๋ตันเฟิ่ง ไปแก้แค้นของเจ้าเถิด”ลั่วชิงยวนมอบร่างของตนให้อวี๋ตันเฟิ่งโดยสมบูรณ์เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของนางยังคงเป็นใบหน้าเดิม เพียงแต่แววตานั้นกลับดุดันยิ่งนัก ดวงตาสีแดงก่ำเต็มไปด้วยความแค้นเสียงของอวี๋ตันเฟิ่งดังขึ้น “โหยวจิ้งเฉิง ความแค้นระหว่างข้ากับเจ้า วันนี้ถึงคราวสะสางแล้ว”“สิบกว่าปีที่ผ่านมา ข้าคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะฉีกร่างเจ้าเป็นชิ้น ๆ อย่างไรถึงจะสาสมกับความแค้นในใจข้า”“แต่คาดมิถึงว่าเจ้าจะตายไปแล้ว”“แต่ก็มิเป็นไร วันนี้ข้าจะฉีกร่างเจ้าให้เป็นชิ้น ๆ ให้ได้!”เมื่อกล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็กระโจนเข้าไปเสียงอาวุธปะทะกันอย่างรุนแรงดังขึ้นแต่ในเวลานี้เอง โหยวจิ้งเฉิงก็พุ่งไปยังกำแพง คว้ากระบี่ห้วงสวรรค์มาได้ จากนั้นกระโจนออกนอกห้องไปอวี๋ตันเฟิ่งรีบไล่ตามไปสีหน้าคนใบ้เปลี่ยนไป กระบี่ห้วงสวรรค์! หากฝูเหมิ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1420

    ต่งอวิ๋นซิ่วตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบยกมือขึ้นมาป้องกัน แล้วต่อสู้กับฝูเหมิ่งแต่พลังในตอนนี้ของต่งอวิ๋นซิ่วเทียบกับฝูเหมิ่งแล้วยังอ่อนแอกว่ามากนักสุดท้ายก็ถูกฝูเหมิ่งบีบคอไว้แน่นลั่วชิงยวนเห็นชัดเจนว่าในร่างของฝูเหมิ่งตอนนี้คือโหยวจิ้งเฉิง!เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ? เขาจะฆ่าต่งอวิ๋นซิ่วภรรยาของตนหรือ?เมื่อเห็นดังนั้น โหยวเซียงก็ชักกระบี่พุ่งเข้าไปหมายจะช่วยต่งอวิ๋นซิ่ว แต่ฝูเหมิ่งกลับมิหลบเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้กระบี่ในมือนางแทงทะลุร่างจากนั้นฝูเหมิ่งก็ฟาดมือไปทีหนึ่ง โหยวเซียงจึงกระเด็นปลิวไปโหยวเซียงกระอักเลือดออกมาต่งอวิ๋นซิ่วร้อนใจยิ่งนัก “เซียงเอ๋อร์ มิต้องสนใจแม่ รีบหนีไป!”โหยวเซียงจะทนมองดูมารดาของตนถูกฆ่าได้อย่างไร นางพยายามลุกขึ้นมาสู้ต่อแต่ฝูเหมิ่งกลับมองโหยวเซียงอย่างดุดัน แล้วกล่าวขู่ “คนที่ข้าต้องการฆ่ามีเพียงต่งอวิ๋นซิ่วเท่านั้น เจ้าจงหลีกไป”“มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้ามิเห็นแก่ความเป็นพ่อลูก”เมื่อได้ยินดังนั้น โหยวเซียงก็ตกใจจนยืนอึ้งไปกับที่ แล้วกล่าวเสียงสั่นเครือ “พ่อ… พ่อลูกหรือ?”ตอนนี้เสียงของฝูเหมิ่งก็มิใช่เสียงของฝูเหมิ่งอีกต่อไปแล้วเมื่อต่งอวิ๋นซิ่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1419

    ขณะนี้เอง โหยวเซียงก็ฉวยโอกาสหลบหนีจากมือของลั่วชิงยวนไปได้ต่งอวิ๋นซิ่วมองพวกเขาอย่างเย็นชา “ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็เตรียมตัวตายได้เลย!”ทันใดนั้นบนคานเรือนก็ปรากฏชายชุดดำจำนวนมากพร้อมถือหน้าไม้เล็งมาที่พวกเขาลูกดอกอันคมกริบประกายแสงเย็นลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก หัวเราะอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าเจ้าจะเตรียมการมาอย่างดี ตอนนี้พวกข้าคงหนีออกจากห้องนี้ไปมิได้แล้วใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนสังเกตประตูห้อง รวมถึงผนังห้องทุกด้าน แล้วพบว่ามีกลไกบนประตูเหนือศีรษะ ต่งอวิ๋นซิ่วหัวเราะเบา ๆ “แน่นอน นี่คือห้องกลไกที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือพวกเจ้าที่บุกรุกเข้ามาบนเขา”“วันนี้พวกเจ้าอย่าหวังว่าจะได้ออกไปแม้แต่คนเดียว!”ลั่วชิงยวนจับกระบี่ห้วงสวรรค์แน่นแล้วพุ่งไปที่กลไกจุดหนึ่งบนผนังห้อง ฟาดฟันกระบี่ลงไปอย่างแรงต่งอวิ๋นซิ่วรีบดึงโหยวเซียงหลบหลีกไปแต่ใครเล่าจะรู้ว่าลั่วชิงยวนมิได้โจมตีพวกนาง แต่กลับฟันกลไกบนผนังห้องทำให้ประตูห้องลงกลอนอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นเช่นนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็หัวเราะเยาะ “เจ้าช่างรนหาที่ตายยิ่งนัก”ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างมีความหมาย “เช่นนั้นรึ? ยังมิรู้เลยว่าใครกันแน่ที่จะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1418

    ร่างที่เดินออกมาจากฝูงชนนั้นมีท่าทางคุกคามยิ่งนักลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย นั่นคือสตรีที่นางเห็นในความทรงจำของอวี๋ตันเฟิ่งต่งอวิ๋นซิ่ว!โหยวเซียงดิ้นรนพลางเงยหน้ามองต่งอวิ๋นซิ่วด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านแม่… เป็นความผิดของลูกเองที่ปล่อยให้พวกมันขึ้นเขามาได้”หากมิใช่เพราะลั่วชิงยวนรู้ทางลับของวัดร้างแห่งนั้น พวกนางคงไม่มีทางขึ้นเขามาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้!ต่งอวิ๋นซิ่วมองด้วยความเจ็บปวดแล้วตวาดใส่ลั่วชิงยวน “ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าตายเยี่ยงไร้ที่ฝัง!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “เมื่อคืนยังพยายามทำลายวิญญาณที่เหลือของอวี๋ตันเฟิ่งอยู่เลย วันนี้เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าศัตรูของเจ้าคือใคร?”“ใครกันแน่ที่จะตายแบบไร้ที่ฝัง ยังบอกมิได้หรอก”เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็สะดุ้งเฮือก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากท่าทางของนางดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยายามซ่อนไว้ได้ดีนางมองลั่วชิงยวนอย่างใจเย็น แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงเมืองแห่งภูตผี ก็คงต้องการของล้ำค่าของเมืองแห่งภูตผีสินะ”“พวกเจ้าอยากได้อะไร ข้าสามารถให้เจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1417

    นางปฏิเสธอย่างหนักแน่นลั่วชิงยวนกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น “พานางไปด้วย ไปวัดร้าง!”พวกเนางมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ โหยวเซียงดิ้นรนตลอดทาง แต่โฉวสือชีและคนใบ้จ้องมองทุกการกระทำของนางอย่างใกล้ชิด มิเปิดโอกาสให้นางหลบหนีไปได้แม้แต่น้อยเมื่อเดินไปได้ไกลมากพอสมควร เสียงไก่ขันยามรุ่งอรุณก็ดังขึ้นแล้วในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวัดร้างแห่งนั้นในวัดร้างมีพระพุทธรูปที่เป็นซากปรักหักพังล้มลงบนพื้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีใครมานานแล้วเมื่อมองหาอย่างละเอียดก็พบรอยเท้าบนพื้นลั่วชิงยวนมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือสถานที่ที่ถูกต้อง!โหยวเซียงจ้องมองทุกการกระทำของลั่วชิงยวนอย่างกระวนกระวาย เกรงว่าลั่วชิงยวนจะพบกลไกเข้าแต่ลั่วชิงยวนกลับสังเกตปฏิกิริยาของโหยวเซียง ค่อย ๆ เดินไปในแต่ละที่โดยอาศัยการสังเกตปฏิกิริยาโหยวเซียงสุดท้ายลั่วชิงยวนจึงเพ่งเล็งไปที่ผนังด้านหนึ่งแล้วเริ่มค้นหากลไกเสียงเปิดกลไกดังแกร๊กดังขึ้นประตูบานหนึ่งบนพื้นพลันเปิดออกหลังจากที่ลั่วชิงยวนเปิดประตูแล้วก็พบว่าด้านล่างยังมีประตูอีกบานหนึ่ง และบนนั้นก็มีกลไกเช่นกันแต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วเรื่องนี้ง่ายมากเมื่อประต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status