Share

บทที่ 293

Author: หว่านชิงอิ๋น
ระหว่างนั้นนางก็เอ่ยขึ้นมาว่า "ข้าพร้อมแล้ว วันนี้ข้าจักเปิดโปงสวีซงหย่วน ส่วนท่านต้องดึงดูดความสนใจของลั่วอวิ๋นสี่!"

ลั่วชิงยวนพยักหน้า "มิต้องห่วง!"

ซ่งเชียนฉู่หยิบกล่องเปล่าแล้วเดินออกไปหาสวีซงหย่วนทางประตูหลัง

ลั่วชิงยวนเองก็เปิดประตูแล้วเริ่มดำเนินกิจการเช่นกัน

ฟู่เฉินหวนมาอีกแล้วดังที่คาดคิดเอาไว้

ทว่ายามนี้ลั่วชิงยวนปฏิบัติกับเขาราวกับว่าเขาไร้ตัวตนและไม่สนใจเขาอีก

หลังจากนั้นสักพัก ชาวบ้านอีกกลุ่มก็ปรากฏตัวขึ้นบนถนน

ลั่วชิงยวนรีบลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปหาพวกเขา

แน่นอนว่านางย่อมเห็นลั่วอวิ๋นสี่อยู่ไม่ไกลจากเบื้องหลังฝูงชน จากนั้นนางก็เดินตรงเข้าไปหา "มาคุยกันเถอะ"

ลั่วอวิ๋นสี่กอดอกพลางยิ้มอวดดีแล้วเดินเข้ามาหา

"ในที่สุดเจ้าก็ยินดีตกปากรับคำแล้วใช่หรือไม่? คนฉลาดย่อมรู้ว่าเมื่อใดถึงต้องยอมก้มหัว!"

ลั่วชิงยวนเหลือบมองผู้คนที่กำลังมุ่งหน้ามาที่ร้านพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "เจ้าจักหยุดได้แล้วหรือไม่?"

ลั่วอวิ๋นสี่รีบส่งสัญญาณให้คนพวกนั้นหยุดมือ เมื่ออยู่ตรงหน้าลั่วชิงยวน นางก็ยื่นเงินถุงหนึ่งให้แก่พวกเขา "เอาไปแบ่งกันเสีย วันนี้ไม่จำเป็นต้องก่อเรื่อง!"

"ข
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
สุพรรษา ถนอมลาภ
ทำไมโฆษณาเยอะจริงๆพอกดเเล้วก็มาเริ่มต้นไหม
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 294

    "ช่วยด้วย! ช่วยด้วยเจ้าค่ะ!" "อย่าเข้ามานะ!" "ปล่อยข้านะ!" เสียงร้องอุทานของสตรีดังขึ้นมาจากห้องข้าง ๆ นางกำลังวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนกแล้วชนเข้ากับโต๊ะ ลั่วชิงยวนหน้าเปลี่ยนสีแล้วรีบลุกขึ้นวิ่งออกไปนอกห้อง ลั่วอวิ๋นสี่เองก็ตามไปทันที ลั่วชิงยวนถีบประตูห้องข้าง ๆ แล้วรีบวิ่งเข้ามา เมื่อนางเห็นซ่งเชียนฉู่ถูกกดลงกับเตียง ใบหน้าก็พลันเปลี่ยนสีขึ้นมาทันที "เจ้าคนไร้ยางอาย!" ลั่วชิงยวนบริภาษแล้วรีบก้าวเข้ามาผลักสวีซงหย่วนออกไป เมื่อลั่วอวิ๋นสี่เข้ามาในห้อง นางก็เห็นสวีซงหย่วนเข้าพอดี ชวนให้คนเขารู้สึกตื่นตะลึงขึ้นมาทันที "พี่หย่วน?" สวีซงหย่วนเองก็รู้สึกตื่นตะลึงเช่นกัน เขามาเจอลั่วอวิ๋นสี่เอาที่นี่ได้อย่างไรกัน? ลั่วชิงยวนรีบเข้าไปช่วยประคองซ่งเชียนฉู่ให้ลุกขึ้น "แม่นาง เจ้าเป็นอันใดหรือไม่?" ซ่งเชียนฉู่ดวงตาแดงก่ำ จากนั้นนางก็คว้าคอเสื้อที่คลายออกแล้วชี้นิ้วใส่สวีซงหย่วนด้วยความโกรธแค้น "ข้ามองเจ้าผิดไปจริง ๆ! เจ้าคนสารเลว!" สวีซงหย่วนขมวดคิ้วแล้วพูดไม่ออก น่าเสียดายที่เขาแย่งชิงดีงูไม่สำเร็จ ลั่วอวิ๋นสี่จ้องมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ด้วยสายตาว่างเปล่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 295

    ซ่งเชียนฉู่ผงกศีรษะ "แน่นอน ข้ารู้แล้ว มิต้องเป็นห่วง!" พวกนางสองคนกำลังเดินมาตามตรอกเพื่อกลับเรือน แต่ทันใดนั้นกลับมีร่างหนึ่งยืนพิงกำแพงอยู่ข้างหน้าพวกนาง จากนั้นก็มีน้ำเสียงเยียบเย็นดังขึ้นมา "ร่วมมือกันขุดหลุมพรางใส่ลั่วอวิ๋นสี่ ก็คือทางเลือกที่สามที่ท่านเซียนฉู่ว่าเช่นนั้นหรือ?" ฟู่เฉินหวนหรี่ตาเล็กน้อย เขาล่วงรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในโรงเตี๊ยมภายในวันนี้ เขารู้สึกประหลาดใจอยู่บ้างที่ฉู่ลั่วคิดจะแยกพวกเขาสองคนออกจากกัน เพื่อแก้ปัญหาเรื่องที่ถูกขว้างปาเศษผักอยู่ทุกวัน ลั่วชิงยวนกับซ่งเชียนฉู่ต่างรู้สึกตื่นตกใจมากเสียจนต้องหยุดก้าวเดิน ซ่งเชียนฉู่ลอบกระตุกแขนเสื้อของลั่วชิงยวน จากนั้นก็ลดเสียงลงพลางกล่าวว่า "พวกเราควรจะทำอย่างไรดี?" ลั่วชิงยวนตบมือของนางเพื่อบอกว่าไม่เป็นอะไรแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า "กลับไปก่อนเถอะ" เมื่อเห็นท่าทีสนิทสนมของทั้งสองคน ฟู่เฉินหวนก็หรี่ตาพลางคาดเดาความสัมพันธ์ของพวกนาง ซ่งเชียนฉู่จึงรีบจากไป ลั่วชิงยวนค่อย ๆ เดินเข้ามาหาฟู่เฉินหวน "ท่านอ๋องเสด็จมาที่นี่เพื่อขัดขวางกระหม่อมโดยเฉพาะเลยเชียวหรือพ่ะย่ะค่ะ?" ฟู่เฉินหวนกอดอกแล้วจ้องมองนางด้วยควา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 296

    สิ่งที่เขาเห็นคือ รอยแผลเป็นบนใบหน้าของนาง เขาขมวดคิ้วขึ้นมาทันที เช่นนั้นนี่ก็คือสาเหตุที่ทำให้ฉู่ลั่วสวมผ้าคลุมหน้าเช่นนั้นหรือ? ลั่วชิงยวนพลันดึงผ้าคลุมหน้าลงพลางปิดบังใบหน้าแล้วจ้องมองเขาด้วยความโกรธจัด ในยามนี้เอง ก็มีท่านป้าผู้หนึ่งถือตะกร้าเดินผ่านมาพลางเหลือบมองพวกเขาแล้วเอ่ยขึ้นมาด้วยความรังเกียจว่า "เป็นบุรุษตัวโต ๆ สองคนแท้ ๆ พวกเจ้ามียางอายบ้างหรือไม่?" ลั่วชิงยวนซัดฝ่ามือใส่หน้าอกของฟู่เฉินหวน เพื่อบังคับให้ฟู่เฉินหวนปล่อยนางไป ตอนนั้นฟู่เฉินหวนรู้สึกตื่นตกใจและเห็นว่าฉู่ลั่วกำลังจะร่วงลงกับพื้น แต่ทันทีที่ลั่วชิงยวนหล่นสู่พื้น นางก็ใช้มือยันพื้นพลางพลิกตัวแล้วร่อนลงอย่างสง่างาม นางปกปิดรอยแผลเป็นตรงแก้มแล้วจ้องฟู่เฉินหวนตาเขม็ง "ท่านอ๋อง ท่านหมายความว่าอย่างไรกัน! ท่านสงสัยหน้าตาของผู้อื่นจนมิสนใจว่าจะก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้อื่นเลยใช่หรือไม่?" น้ำเสียงตั้งคำถามอันเย็นชาทำให้ฟู่เฉินหวนแววตามืดดำลงบ้าง "ข้า..." เขาเพียงแค่รู้สึกว่าฉู่ลั่วคล้ายกับลั่วชิงยวนเกินไป มิหนำซ้ำจู่ ๆ ก็มีเทพพยากรณ์ปรากฏตัวขึ้นในเมืองหลวง เขาจึงรู้สึกว่าออกจะน่าสงสัยอยู่บ้าง ไม่ค

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 297

    เมื่อแม่สื่อหลิวได้ยินเช่นนี้เข้า นางก็เริ่มเอ่ยวาจาไม่รู้จักจบสิ้นและคำพูดของนางก็ดูเหมือนจะไร้ที่สิ้นสุด หลังจากได้ยินเช่นนี้ ลั่วชิงยวนก็รู้สึกปวดศีรษะจึงตอบไปเพียงว่า "ข้ามีคนในใจอยู่แล้ว" วาจาประโยคนี้ทำเอาแม่สื่อหลิวพูดไม่ออกทันที "ท่านมีคนในใจอยู่แล้วหรือเจ้าคะ? จริงหรือเจ้าคะ? เช่นนั้นท่านอยากให้ข้าช่วยจัดการเรื่องสู่ขอหรือไม่?" แม่สื่อหลิวยังไม่ยอมแพ้ "ไม่ต้องหรอก พวกเรารักใคร่กันก็พอ ไม่จำเป็นต้องเอ่ยถึงเรื่องพิธีการ ปล่อยให้เรื่องทุกอย่างดำเนินไปเองเถอะ" วาจาของลั่วชิงยวนทำเอาแม่สื่อหลิวหมดสนุก นางคิดว่ามีผู้คนตั้งมากมายขนาดนั้นชอบพอเทพพยากรณ์ฉู่ ไม่ว่านางจะแนะนำผู้ใดให้แก่เทพพยากรณ์ฉู่ นางย่อมหาเงินได้มากมาย นางไม่คาดคิดว่าเช้านี้จะเดินทางมาเสียเที่ยว! "อายุยังน้อยเพียงนั้น แต่กลับงมงายในรักเสียแล้ว" แม่สื่อหลิวสะบัดแขนเสื้อแล้วเดินจากไปทันที ระหว่างที่เดินอยู่นั้น แม่สื่อหลิวก็เอาแต่บ่นกับตนเอง เมื่อนางเดินมาถึงปากตรอก หญิงชราที่ถือตะกร้าใส่ไข่ก็ถามแม่สื่อหลิวว่า "ท่านเซียนฉู่อยู่ถนนสายนี้ใช่หรือไม่?" "ใช่ แค่เดินไปเรื่อย ๆ ก็จะเห็นแผงทำนายดวงชะตาตั้งอย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 298

    แต่นางกลัวอะไรอยู่กันแน่? เช้าวันรุ่งขึ้น ลั่วอวิ๋นสี่ก็พาคนมาอีกครั้ง แต่วันนี้เป็นบุรุษวัยฉกรรจ์กลุ่มหนึ่ง ทันทีที่ลั่วอวิ๋นสี่มาถึง นางก็คว่ำโต๊ะที่อยู่ตรงหน้าลั่วชิงยวนโดยไม่พูดพร่ำทำเพลงพลางจ้องมองนางด้วยสายตาอาฆาตแค้น "พวกเจ้ากล้ารวมหัวกันหลอกข้าเช่นนั้นหรือ?" "เจ้าเล่ห์นัก ฉู่ลั่ว!" "วันนี้ข้าจะทำให้เจ้าได้รู้ซึ้งถึงผลที่ตามมาของการหลอกลวงข้า!" ลั่วอวิ๋นสี่โกรธจัดแล้วตะโกนขึ้นมาว่า "ทำลายมันให้หมด! แล้วข้าจะจ่ายค่าตอบแทนอย่างงาม!" ดังนั้นบุรุษทั้งกลุ่มจึงกรูกันเข้ามาในร้านแล้วทำลายข้าวของอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง ลั่วชิงยวนหน้าเปลี่ยนสี จากนั้นนางก็รีบวิ่งเข้าไปในร้านเพื่อขวางคนพวกนั้นมิให้แตะต้องเครื่องยาสมุนไพร ถึงแม้ว่าจะมิได้เก็บสมุนไพรราคาแพงของซ่งเชียนฉู่เอาไว้ที่นี่ทั้งหมด แต่บางส่วนก็ตั้งแสดงตัวอย่างเอาไว้ที่นี่ ของล้ำค่ามากมายเช่นนั้นจะต้องไม่ถูกผู้อื่นทำลายทิ้ง! นางมายืนอยู่หน้าตู้เก็บโอสถและจัดการผู้ใดก็ตามที่ย่างกรายเข้ามา ถึงแม้ว่าหลังจากนางลดน้ำหนักแล้ว วรยุทธของนางจะรุดหน้าขึ้น ทว่าพละกำลังก็ยังไม่แข็งแกร่งเท่าแต่ก่อน การรับมือกับคนมากมายถึงเพียงน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 299

    หลังจากลั่วชิงยวนพูดจบ นางก็หันหลังเดินกลับเข้าไปในร้านแล้วปิดประตูลงกลอน ฟู่เฉินหวนตะลึงงันอยู่ท่ามกลางสายลมหนาว ฉู่ลั่วผู้นี้รนหาที่ตายใช่หรือไม่? กล้าดีอย่างไรถึงทำเช่นนี้กับตน? ! ฟู่เฉินหวนก้มหน้ามองเสื้อผ้าที่เปรอะเปื้อน แววตาก็ยิ่งอึมครึมมากขึ้นเรื่อย ๆ จากนั้นเขาก็เหลือบมองมาที่ร้านด้วยสายตาเย็นชาแล้วข่มกลั้นโทสะพร้อมเดินจากไป ไร้เหตุผล! ไม่เข้าใจเลย! ฟู่เฉินหวนกลับตำหนักไปด้วยท่าทีฉุนขาด ครั้นซูโหยวเดินมาที่เรือนหน้าก็เห็นท่านอ๋องมีสีหน้าหม่นคล้ำ เขาจึงรีบเดินเข้าไปหาพลางกล่าวว่า "ท่านอ๋อง เกิดอะไรขึ้นหรือพ่ะย่ะค่ะ? ไฉนเสื้อผ้าของท่านถึงเลอะเทอะเปรอะเปื้อนเช่นนั้นได้?" ฟู่เฉินหวนไม่ตอบ ในยามนี้เอง ลั่วเยวี่ยอิงก็เดินยิ้มเข้ามาหา "ท่านอ๋อง พักนี้หม่อมฉันไม่เห็นท่านเลยคิดว่าท่านอ๋องมัวแต่ยุ่งกับงานราชการ ดังนั้นข้าจึงทำขนมมาให้ท่านอ๋อง ท่านอ๋องอยากจะมานั่งเล่นที่เรือนของข้าหรือไม่เพคะ?" ฟู่เฉินหวนเพียงแค่เหลือบมองลั่วเยวี่ยอิง ก็เกือบอดใจที่จะตอบตกลงมิได้ แต่เขากลับหยิกฝ่ามืออย่างแรง จากนั้นก็เบือนหน้าหนีแล้วรีบเดินจากไป ลั่วเยวี่ยอิงรู้สึกตื่นตกใจแล้วรีบก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 300

    ข้างนอกมีผู้ชมดูเหตุการณ์กลุ่มหนึ่งกำลังชี้มือชี้ไม้แล้วพูดคุยกันอย่างออกรส สายตาแปลกพิกลเหล่านั้นประดุจดั่งมีดคมกริบ ลั่วชิงยวนมองไปยังทิศทางที่พวกเขาชี้นิ้วไปด้วยความสงสัย จากนั้นก็เห็นธงสองผืนที่กำลังโบกสะบัดท่ามกลางสายลม บนนั้นเขียนเอาไว้ว่า: นักต้มตุ๋นแห่งยุทธภพ หลอกเอาเงินทองและทำลายชีวิตคน ธงผืนใหญ่กำลังโบกสะบัดท่ามกลางสายลมหนาว อักษรทั้งแปดตัวเป็นที่โดดเด่นสะดุดตาเป็นพิเศษ จนสามารถมองเห็นได้ชัดจากถนนสองสามสายที่ห่างไกลออกไป! "พวกเราเคยได้ยินว่าท่านเซียนฉู่ผู้นี้ทำนายดวงชะตาแม่นด้วยหรือ?" "ข้าได้ยินมาว่าเขาจ้างคนมาทำทีเป็นลูกค้า มิฉะนั้นก็คงหามีผู้ใดมาให้เขาทำนายดวงชะตามากมายถึงเพียงนั้นหรอก" "ข้าเคยบอกไปแล้วหนา จะมีเทพพยากรณ์อายุน้อยขนาดนั้นได้อย่างไรกัน? มันเป็นพวกต้มตุ๋นชัด ๆ เลย!" "จริงด้วย! ข้าได้ยินว่ามีคนในครอบครัวของลูกค้าตายด้วยล่ะ มิหนำซ้ำยังแจ้งให้ทางการทราบเรื่องนี้อีกต่างหาก" เมื่อลั่วชิงยวนได้ยินความคิดเห็นเหล่านี้ นางก็ขมวดคิ้วแน่นขึ้นเรื่อย ๆ นางไม่คิดเลยว่าลั่วอวิ๋นสี่จะใช้วิธีน่ารังเกียจเช่นนั้น! เมื่อก่อนนางแค่เรียกได้ว่าหยิ่งยโสโอหัง ถ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 301

    “คนใช้ในจวนระแวงข้ายิ่งเสียกว่าโจร หลาย ๆ ครั้งที่ข้าเกือบได้เห็นฮูหยินลั่ว คนใช้เหล่านั้นกลับลากข้าออกไปเสียก่อน!” “เพียงแต่ จากที่ซุ่มมองมาหลายวัน ข้าค้นพบเรื่องหนึ่ง!” ลั่วชิงยวนถามอย่างสงสัย “เรื่องใดกัน?” ซ่งเชียนฉู่ดื่มชาร้อน เท้าแขนพร้อมยื่นหน้าเข้าใกล้ นางกล่าว “ฮูหลินลั่ว ราวกับกำลังมองหาสามีให้คุณหนูตระกูลลั่ว มีสตรีแต่งกายคล้ายแม่สื่อ ถือภาพวาดเต็มตะกร้าเดินเข้าจวน!” “และข้าได้ยินเต็ม ๆ สองหูว่านั่นคือภาพวาดคุณชายตระกูลสูงส่ง” ซ่งเชียนฉู่ถามด้วยความใคร่รู้ “เพราะฮูหยินเลือกสามีให้กับลั่วอวิ๋นสี่หรือไม่ จึงทำให้นางบังคับให้เจ้าแก้ไขพรหมลิขิตโดยเร่งด่วนเพียงนั้นหนา?” “แต่เพียงคำพูดไม่กี่ประโยคของท่าน จักสามารถทำให้แม่ของลั่วอวิ๋นสี่เปลี่ยนความคิดเช่นนั้นหรือ?” ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วไตร่ตรองพักหนึ่ง ก็จริง ต่อให้นางพูดว่าเหมาะสมกัน ท่านอาลั่วหรงก็ไม่มีทางให้ลั่วอวิ๋นสี่คบกับสวีซงหย่วนอยู่ดี ลั่วอวิ๋นสี่เพียงแค่อยากได้สิ่งนี้ มาเป็นข้ออ้างของตนในการต่อต้านท่านอาลั่วหรงก็เท่านั้น “คงมิได้มาดูตัวให้ลั่วอวิ๋นสี่ ด้วยนิสัยของนาง นางอาจเลือกหนีไปพร้อมสวีซงหย่วนแล้ว”

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1422

    ร่างที่ไร้ศีรษะร่างหนึ่งถือกระบี่เดินเข้ามาหาลั่วชิงยวน โซ่เหล็กด้านหลังลากคนสามคนไว้แม้จะออกแรงสุดกำลังแล้วก็ยังฉุดรั้งโหยวจิ้งเฉิงไว้มิได้แต่ร่างของโหยวจิ้งเฉิงในตอนนี้ไม่มีศีรษะแล้ว ยากที่จะควบคุมร่างกายได้ลั่วชิงยวนถือกระบี่เงื้อฟันไปยังร่างของฝูเหมิ่ง เช่นเดียวกับตอนที่โหยวจิ้งเฉิงตัดแขนขาของอวี๋ตันเฟิ่งนางกำลังแก้แค้นและระบายความแค้นอย่างบ้าคลั่งตัดแขนของเขาขาดทีละข้างกระบี่ห้วงสวรรค์ร่วงลงสู่พื้นไปพร้อมกับแขนจากนั้นขาทั้งสองข้างของเขาก็ขาดกระเด็นอวี๋ตันเฟิ่งอาละวาดแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งเมื่อมองไปยังซากศพที่กองอยู่บนพื้น ดวงตาของลั่วชิงยวนก็ราวกับถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉานใต้หล้าเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดทั้งสามที่อยู่มิไกลต่างตกตะลึงมิเคยเห็นฉากที่นองเลือดเช่นนี้มาก่อนแต่ถึงแม้ร่างกายจะแหลกละเอียด โหยวจิ้งเฉิงก็ยังมิตายทันใดนั้นมีร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากซากศพ แล้วลอยละลิ่วไปอวี๋ตันเฟิ่งกรีดร้องแหลม “โหยวจิ้งเฉิง เจ้าอย่าหวังว่าจะหนีไปไหนได้อีก! ข้าจะทำให้เจ้ามิได้ผุดได้เกิด!”พลังในร่างของนางพลันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นลมพายุโหมกระหน่ำ ลั่วชิงยวนรู้สึกราว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1421

    ใบหน้านั้นบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นโหยวจิ้งเฉิง“ต่อไปก็ถึงตาพวกเจ้าแล้ว” เขาเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้งเย็นเยือกโฉวสือชีกำกระบี่ในมือแน่น ปกป้องคนใบ้และอวี๋โหรวไว้ส่วนลั่วชิงยวนค่อย ๆ ก้าวเท้าไปข้างหน้าในดวงตาค่อย ๆ ก่อเกิดจิตสังหารนางหลับตาลง แล้วกล่าวว่า “อวี๋ตันเฟิ่ง ไปแก้แค้นของเจ้าเถิด”ลั่วชิงยวนมอบร่างของตนให้อวี๋ตันเฟิ่งโดยสมบูรณ์เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของนางยังคงเป็นใบหน้าเดิม เพียงแต่แววตานั้นกลับดุดันยิ่งนัก ดวงตาสีแดงก่ำเต็มไปด้วยความแค้นเสียงของอวี๋ตันเฟิ่งดังขึ้น “โหยวจิ้งเฉิง ความแค้นระหว่างข้ากับเจ้า วันนี้ถึงคราวสะสางแล้ว”“สิบกว่าปีที่ผ่านมา ข้าคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะฉีกร่างเจ้าเป็นชิ้น ๆ อย่างไรถึงจะสาสมกับความแค้นในใจข้า”“แต่คาดมิถึงว่าเจ้าจะตายไปแล้ว”“แต่ก็มิเป็นไร วันนี้ข้าจะฉีกร่างเจ้าให้เป็นชิ้น ๆ ให้ได้!”เมื่อกล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็กระโจนเข้าไปเสียงอาวุธปะทะกันอย่างรุนแรงดังขึ้นแต่ในเวลานี้เอง โหยวจิ้งเฉิงก็พุ่งไปยังกำแพง คว้ากระบี่ห้วงสวรรค์มาได้ จากนั้นกระโจนออกนอกห้องไปอวี๋ตันเฟิ่งรีบไล่ตามไปสีหน้าคนใบ้เปลี่ยนไป กระบี่ห้วงสวรรค์! หากฝูเหมิ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1420

    ต่งอวิ๋นซิ่วตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบยกมือขึ้นมาป้องกัน แล้วต่อสู้กับฝูเหมิ่งแต่พลังในตอนนี้ของต่งอวิ๋นซิ่วเทียบกับฝูเหมิ่งแล้วยังอ่อนแอกว่ามากนักสุดท้ายก็ถูกฝูเหมิ่งบีบคอไว้แน่นลั่วชิงยวนเห็นชัดเจนว่าในร่างของฝูเหมิ่งตอนนี้คือโหยวจิ้งเฉิง!เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ? เขาจะฆ่าต่งอวิ๋นซิ่วภรรยาของตนหรือ?เมื่อเห็นดังนั้น โหยวเซียงก็ชักกระบี่พุ่งเข้าไปหมายจะช่วยต่งอวิ๋นซิ่ว แต่ฝูเหมิ่งกลับมิหลบเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้กระบี่ในมือนางแทงทะลุร่างจากนั้นฝูเหมิ่งก็ฟาดมือไปทีหนึ่ง โหยวเซียงจึงกระเด็นปลิวไปโหยวเซียงกระอักเลือดออกมาต่งอวิ๋นซิ่วร้อนใจยิ่งนัก “เซียงเอ๋อร์ มิต้องสนใจแม่ รีบหนีไป!”โหยวเซียงจะทนมองดูมารดาของตนถูกฆ่าได้อย่างไร นางพยายามลุกขึ้นมาสู้ต่อแต่ฝูเหมิ่งกลับมองโหยวเซียงอย่างดุดัน แล้วกล่าวขู่ “คนที่ข้าต้องการฆ่ามีเพียงต่งอวิ๋นซิ่วเท่านั้น เจ้าจงหลีกไป”“มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้ามิเห็นแก่ความเป็นพ่อลูก”เมื่อได้ยินดังนั้น โหยวเซียงก็ตกใจจนยืนอึ้งไปกับที่ แล้วกล่าวเสียงสั่นเครือ “พ่อ… พ่อลูกหรือ?”ตอนนี้เสียงของฝูเหมิ่งก็มิใช่เสียงของฝูเหมิ่งอีกต่อไปแล้วเมื่อต่งอวิ๋นซิ่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1419

    ขณะนี้เอง โหยวเซียงก็ฉวยโอกาสหลบหนีจากมือของลั่วชิงยวนไปได้ต่งอวิ๋นซิ่วมองพวกเขาอย่างเย็นชา “ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็เตรียมตัวตายได้เลย!”ทันใดนั้นบนคานเรือนก็ปรากฏชายชุดดำจำนวนมากพร้อมถือหน้าไม้เล็งมาที่พวกเขาลูกดอกอันคมกริบประกายแสงเย็นลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก หัวเราะอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าเจ้าจะเตรียมการมาอย่างดี ตอนนี้พวกข้าคงหนีออกจากห้องนี้ไปมิได้แล้วใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนสังเกตประตูห้อง รวมถึงผนังห้องทุกด้าน แล้วพบว่ามีกลไกบนประตูเหนือศีรษะ ต่งอวิ๋นซิ่วหัวเราะเบา ๆ “แน่นอน นี่คือห้องกลไกที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือพวกเจ้าที่บุกรุกเข้ามาบนเขา”“วันนี้พวกเจ้าอย่าหวังว่าจะได้ออกไปแม้แต่คนเดียว!”ลั่วชิงยวนจับกระบี่ห้วงสวรรค์แน่นแล้วพุ่งไปที่กลไกจุดหนึ่งบนผนังห้อง ฟาดฟันกระบี่ลงไปอย่างแรงต่งอวิ๋นซิ่วรีบดึงโหยวเซียงหลบหลีกไปแต่ใครเล่าจะรู้ว่าลั่วชิงยวนมิได้โจมตีพวกนาง แต่กลับฟันกลไกบนผนังห้องทำให้ประตูห้องลงกลอนอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นเช่นนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็หัวเราะเยาะ “เจ้าช่างรนหาที่ตายยิ่งนัก”ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างมีความหมาย “เช่นนั้นรึ? ยังมิรู้เลยว่าใครกันแน่ที่จะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1418

    ร่างที่เดินออกมาจากฝูงชนนั้นมีท่าทางคุกคามยิ่งนักลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย นั่นคือสตรีที่นางเห็นในความทรงจำของอวี๋ตันเฟิ่งต่งอวิ๋นซิ่ว!โหยวเซียงดิ้นรนพลางเงยหน้ามองต่งอวิ๋นซิ่วด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านแม่… เป็นความผิดของลูกเองที่ปล่อยให้พวกมันขึ้นเขามาได้”หากมิใช่เพราะลั่วชิงยวนรู้ทางลับของวัดร้างแห่งนั้น พวกนางคงไม่มีทางขึ้นเขามาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้!ต่งอวิ๋นซิ่วมองด้วยความเจ็บปวดแล้วตวาดใส่ลั่วชิงยวน “ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าตายเยี่ยงไร้ที่ฝัง!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “เมื่อคืนยังพยายามทำลายวิญญาณที่เหลือของอวี๋ตันเฟิ่งอยู่เลย วันนี้เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าศัตรูของเจ้าคือใคร?”“ใครกันแน่ที่จะตายแบบไร้ที่ฝัง ยังบอกมิได้หรอก”เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็สะดุ้งเฮือก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากท่าทางของนางดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยายามซ่อนไว้ได้ดีนางมองลั่วชิงยวนอย่างใจเย็น แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงเมืองแห่งภูตผี ก็คงต้องการของล้ำค่าของเมืองแห่งภูตผีสินะ”“พวกเจ้าอยากได้อะไร ข้าสามารถให้เจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1417

    นางปฏิเสธอย่างหนักแน่นลั่วชิงยวนกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น “พานางไปด้วย ไปวัดร้าง!”พวกเนางมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ โหยวเซียงดิ้นรนตลอดทาง แต่โฉวสือชีและคนใบ้จ้องมองทุกการกระทำของนางอย่างใกล้ชิด มิเปิดโอกาสให้นางหลบหนีไปได้แม้แต่น้อยเมื่อเดินไปได้ไกลมากพอสมควร เสียงไก่ขันยามรุ่งอรุณก็ดังขึ้นแล้วในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวัดร้างแห่งนั้นในวัดร้างมีพระพุทธรูปที่เป็นซากปรักหักพังล้มลงบนพื้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีใครมานานแล้วเมื่อมองหาอย่างละเอียดก็พบรอยเท้าบนพื้นลั่วชิงยวนมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือสถานที่ที่ถูกต้อง!โหยวเซียงจ้องมองทุกการกระทำของลั่วชิงยวนอย่างกระวนกระวาย เกรงว่าลั่วชิงยวนจะพบกลไกเข้าแต่ลั่วชิงยวนกลับสังเกตปฏิกิริยาของโหยวเซียง ค่อย ๆ เดินไปในแต่ละที่โดยอาศัยการสังเกตปฏิกิริยาโหยวเซียงสุดท้ายลั่วชิงยวนจึงเพ่งเล็งไปที่ผนังด้านหนึ่งแล้วเริ่มค้นหากลไกเสียงเปิดกลไกดังแกร๊กดังขึ้นประตูบานหนึ่งบนพื้นพลันเปิดออกหลังจากที่ลั่วชิงยวนเปิดประตูแล้วก็พบว่าด้านล่างยังมีประตูอีกบานหนึ่ง และบนนั้นก็มีกลไกเช่นกันแต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วเรื่องนี้ง่ายมากเมื่อประต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status