Share

บทที่ 403

Auteur: หว่านชิงอิ๋น
เมื่อลั่วชิงยวนได้ยินเช่นนี้เข้าก็รู้สึกตกตะลึง

พวกมันคิดจะเอามุกราตรีไปทำอันใดกัน?

แต่เรื่องนี้ก็ทำให้นางยิ่งมั่นใจว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังนี้จะต้องมีความเกี่ยวพันกับแคว้นหลี มิหนำซ้ำพวกมันกำลังตามหาของบางอย่างของแคว้นหลี!

เรื่องนี้ทำให้นางนึกถึงสมบัติประจำแคว้นหลีที่หายสาบสูญไปหลายปี!

เมื่อครั้งยังเยาว์วัย อาจารย์ของนางเคยเล่าให้นางฟังว่า เป็นเรื่องน่าเสียดายที่สมบัติประจำแคว้นหลีที่หายสาบสูญไป ท่านจึงหวังว่าในฐานที่เป็นนักบวชหญิงระดับสูง ในวันข้างหน้านางจะสามารถเอาสมบัติชิ้นนี้กลับคืนมาได้

มีผู้ใดที่กำลังตามหาสมบัติที่หายสาบสูญไปของแคว้นหลีอยู่หรือ?

“อืม บัดนี้สายเกินไปเสียแล้ว ต้องโทษที่ข้ามิหาให้เจอเร็วกว่านี้” ลั่วหรงถอนหายใจแรง ๆ ด้วยความรู้สึกอับจนหนทาง

ถึงแม้ว่าในใจแล้ว นางจะรู้สึกเกลียดชังจนขอสู้ตายกับพวกเขา

แต่นางก็เป็นห่วงบุตรีทั้งสองคนของตน

ขืนนางเป็นอะไรขึ้นมา พวกเขาจะมาล้างแค้นเอากับบุตรีทั้งสองคนของนางใช่หรือไม่?

นางมิกล้าหรอก!

นางมิกล้าทำอันใดทั้งนั้น!

นางได้แต่กล้ำกลืนความคับข้องใจลงไป

ลั่วชิงยวนช่วยประคองลั่วหรงให้ลุกขึ้น จากนั้นก็ช่วยจัดเรี
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application
Chapitre verrouillé

Related chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 404

    “ข้าก็อยู่ที่นี่มิใช่หรือ จะถือว่านางอยู่ลำพังตัวคนเดียวได้อย่างไรกัน?” ฟู่เฉินหวนค่อย ๆ เดินเอามือไพล่หลังเข้ามา สีหน้าท่าทางของเขาทำให้ทั้งลั่วชิงยวนกับลั่วหลางหลางตกตะลึงอยู่บ้าง “ท่านอ๋อง!” ฟ่านซานเหอรีบแสดงคำนับ ลั่วหลางหลางเองก็ผงกศีรษะเล็กน้อย “บังเอิญว่าข้าเห็นรถม้าของตระกูลฟ่านอยู่ข้างนอก ฮูหยินใหญ่ฟ่านคงรออยู่นานแล้ว” ฟู่เฉินหวนเอ่ยเตือน ลั่วหลางหลางกุมมือของลั่วชิงยวนอย่างยากจะตัดใจ “เช่นนั้นข้าไปก่อนนะ” ลั่วชิงยวนพยักหน้า ฟู่เฉินหวนค่อย ๆ เอ่ยขึ้นมาว่า "วันนี้ข้าว่างพอดี เช่นนั้นข้ากับพระชายาจะไปส่งพวกเจ้าก็แล้วกัน" เมื่อลั่วชิงยวนได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกประหลาดใจอย่างถึงที่สุด นี่เป็นครั้งแรกเลยใช่หรือไม่ที่ฟู่เฉินหวนยอมรับว่านางเป็นพระชายาต่อหน้าผู้อื่น? จู่ ๆ ท่าทีก็เปลี่ยนไปกระนั้นหรือ? ไฉนนางจึงรู้สึกไม่คุ้นเคยเอาเสียเลยเล่า? ลั่วชิงยวนขี่ม้าตามฟู่เฉินหวนไปส่งรถม้าตระกูลฟ่านออกนอกเมือง เมื่อเห็นรถม้าจากไปไกลแล้ว ลั่วชิงยวนก็รู้สึกหนักอึ้งและไม่ยินยอมอยู่บ้าง การจากลาครั้งนี้ มิทราบจริง ๆ ว่าจะได้พบกันอีกเมื่อใด ทันใดนั้นเสียงของฟู่เฉินหวนก็

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 405

    แต่หมอกู้กลับมิยอมจากไปพลางกล่าวว่า “พระชายา ท่านอ๋องสั่งให้ข้ามาที่นี่หลัก ๆ ก็เพื่อดูว่าพอจะมีหนทางรักษาใบหน้าของพระชายาหรือไม่” ลั่วชิงยวนจึงปฏิเสธออกไปว่า “ข้าไม่รักษาใบหน้าหรอก รักษาหายแล้วอย่างไรเล่า? ก่อนที่ใบหน้าของข้าเสียโฉม ท่านอ๋องก็รังเกียจข้าอยู่แล้วมิใช่หรือไร?” นับประสาอะไรกับหมอกู้มีเจตนาร้ายด้วยเล่า ต่อให้หมอกู้คิดจะรักษาใบหน้าให้นางจริง ๆ นางก็มิกล้าให้เขาเห็นหรอก นางมิได้เจ็บป่วยหรือบาดเจ็บสักนิด นางจะกล้าให้หมอกู้ดูได้อย่างไรกัน นางหาได้ต้องการให้ผู้ใดล่วงรู้เรื่องที่นางลดน้ำหนักเมื่อไม่นานมานี้ มิฉะนั้นก็คงจะรู้ว่านางคือฉู่ลั่วได้ง่ายดายเกินไป “ขอพระชายาอย่าได้คิดในแง่ร้ายเกินไปนัก พวกเราเพียงแค่รักษาโรคและบาดแผลเท่านั้น!” หมอกู้เอ่ยแนะนำ ลั่วชิงยวนมิได้เอ่ยวาจาใดอีก แต่นางก็มิยอมให้จือเฉาเปิดประตูเช่นกัน หลังจากนั้นสักพัก ซูโหยวก็กลับมาอีกครั้งแล้วอ้างว่าจะเข้าไปในเรือน แต่ประตูก็ไม่เปิดให้เขาเลย ซูโหยวพยายามเกลี้ยกล่อมอยู่ข้างนอกเป็นนาน ทว่าลั่วชิงยวนก็มิเปลี่ยนใจ แต่นางกลับร้องไห้ด้วยความทุกข์ระทมอยู่ในห้อง “พวกเจ้าสองคนเหยียดหยามข้าที่สร้างค

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 406

    ลั่วชิงยวนตะลึงเล็กน้อย รีบสั่งคนเปิดประตูห้องเพื่อยกฟู่อวิ๋นโจวออกมาเมื่อลั่วชิงยวนสัมผัสโดนข้อมือฟู่อวิ่นโจว เพิ่งพบว่าร่างเขาเยือกเย็นดุจน้ำแข็งภายในห้องอบอุ่นมาก นางป้อนแกงโสมให้เขา ร่างของฟู่อวิ๋นโจวจึงอบอุ่นขึ้นมาหน่อยลั่วชิงยวนจับชีพจรให้เขาเพื่อตรวจหาสาเหตุการบาดเจ็บมือของฟู่อวิ๋นโจวถูกห่อไว้ และเห็นได้อย่างชัดเจนว่านิ้วก้อยของเขาหายไปฟู่อวิ๋นโจวตื่นมาอย่างสะลึมสะลือ เขายันร่างลุกขึ้นนั่ง “ชิงยวน ข้าสร้างปัญหาให้เจ้าหรือ”ลั้วชิงยวนยกชาร้อนมาให้เขา “ท่านบาดเจ็บ ควรนอนพักผ่อนบนเตียง เหตุใดต้องมาหาหม่อมฉันด้วย”ฟู่อวิ๋นโจวมองนางอย่างเป็นกังวล ลังเลพักหนึ่งจึงเอ่ยปากอย่างหนักอึ้ง “ชิงยวน เจ้าอุตส่าห์ออกมาได้ ข้ามิอยากต้องเห็นเจ้าจมปลักในบ่อโคลนอีก”ฟู่อวิ๋นโจวพูดไป สายตามองไปทางนอกประตูอย่างลึกซึ้ง พร้อมเอ่ยพรึมพรำ “ข้าเห็นเจ้าเป็นสหายร่วมป่วยมาโดยตลอด เมื่อข้าเศร้าโศกเสียใจ มีเพียงเจ้าที่ปลอบข้า” “นับแต่ข้ากำเนิด ชะตาข้าก็มิใช่ของข้าอีกต่อไป ข้าเป็นเพียงหุ่นเชิด เป็นเพียงเครื่องมือ”“แต่เจ้ามิเหมือนข้า เจ้าอิสระกว่าข้านัก ข้าหวังว่าเจ้าจักปล่อยวางทุกอย่างและเดินออ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 407

    เสียงฝีเท้าอันหนักแน่น เหยียบลงบนใจคนทีละก้าวหวังว่าฟู่อวิ๋นโจวจักคิดได้มิเช่นนั้นร่างกายของเขา คงต้องทลายลงจริง ๆ ร่างกายเขาไม่มีปัญหามากนัก ที่เป็นปัญหาคือจิตใจหลังจากฟู่อวิ๋นโจวจากไป ก็ไม่มีคนมารบกวนลั่วชิงยวนหลายวันฟู่เฉินหวนเองก็มิได้มาอีก ส่วนลั่วชิงยวนก็มิออกจากเรือน รักษาอาการอย่างสบายใจอยู่หลายวันวันเกิดของลั่วไห่ผิงใกล้มาถึงแล้ว ผู้คนมิน้อยในเมืองหลวงเริ่มจัดเตรียมของกำนัลดังนั้นของของลั่วชิงยวนในหอมหาสมบัติก็เริ่มทยอยขายออกไปบ้างแล้วข่าวสารเหล่านี้จือเฉาออกไปสืบมาให้นางทุกอย่างในร้านโอสถก็เป็นไปได้ดี เพียงแต่ซ่งเชียนฉู่ต้องรับมือกับผู้คนที่จะมาดูดวงจำนวนไม่น้อย ซึ่งปวดหัวไปนิดได้ยินว่า ฟู่เฉินหวนไปที่ร้านหลายครั้ง แต่ทุกครั้งเขาได้แต่จากไปเหตุเพราะมิเจอผู้ใดเลย แต่เขามิได้สงสัยสิ่งใดทั้งนั้นอากาศเริ่มอบอุ่นขึ้นลั่วชิงยวนแกะฝ้ายส่วนหนึ่งออกมาจากในเสื้อจือเฉาแต่งตัวให้นางไปด้วย พร้อมถามไถ่อย่างเป็นห่วง “พระชายา แกะฝ้ายตั้งแต่อากาศเช่นนี้ เมื่อถึงคิมหันต์ฤดู(1)จักทำเช่นไรเจ้าคะ?”“ใส่หนาขนาดนั้นมิได้ มิเช่นนั้นคงร้อนจนเป็นโรคแน่”ลั่วชิงยวนถอนหายใจพร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 408

    โสมร้อยปี หากนางทายไม่ผิด เป็นยาในมือของซ่งเชียนฉู่!ก่อนหน้านี้นางบาดเจ็บ ซ่งเชียนฉู่มารักษานางถึงตำหนัก นางนำเครื่องยาสมุนไพรหายากมากหลายมาอย่างใจกว้าง และมอบยาให้กับฟู่เฉินหวนส่วนหนึ่งด้วยในนั้น มีโสมร้อยปีอยู่ด้วย!แต่ฟู่เฉินหวน กลับนำโอสถที่มีค่ามากมายเช่นนี้ มอบให้ลั่วไห่ผิง!ลั่วไห่ผิงมันคู่ควรอย่างไรกัน!ลั่วชิงยวนหันไปมองฟู่เฉินหวนอย่างตกตะลึง ในสายตานางมีแต่การเค้นถามแต่ฟู่เฉินหวนกลับไม่มีการอธิบายใด ๆ พวกเขาต่างรู้ดี การให้ภาพอายุหมื่นปีเพื่อแสดงความกตัญญูนั้น เสแสร้งเพียงไหน!หลังงานเลี้ยงผ่านไป นางหาโอกาสลากฟู่เฉินหวนเข้าไปในสวนดอกไม้ที่ไร้ผู้คน“ท่านอ๋อง ท่านหมายความเยี่ยงไร? ท่านมอบของกำนัลเองมิพอ ท่านเตรียมให้หม่อมฉันด้วยงั้นหรือ? หม่อมฉันต้องขอบคุณความใส่ใจของท่านหรือไม่?”สายตาของฟู่เฉินหวนซับซ้อนขึ้น สองมือไคว้ไว้ด้านหลัง “บ่าวเป็นผู้เตรียม”ลั่วชิงยวนหลุดหัวเราะเบาอย่างไม่น่าเชื่อ “บ่าวเตรียมหรือ? โสมร้อยปีก็บ่าวเตรียมหรือ? หากหม่อมฉันจำมิผิด นั่นเป็นเครื่องยาสมุนไพรที่แม่นางซ่งให้หม่อมฉันไว้รักษาบาดแผล!”สายตาของฟู่เฉินหวนเยือกเย็นลง “นี่เป็นสิ่งที่ข

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 409

    ฟู่เฉินหวนตั้งใจสั่งคนเตรียมของกำนัลให้ลั่วชิงยวนโดยเฉพาะ เพราะเขารู้ว่านางเกลียดลั่วไห่ผิง นางไม่มีทางเลือกของกำนัลแน่เขาให้คนเตรียมเผื่อ เพราะอยากรับมือให้ผ่าน ๆ ไป มิคิดว่านางจะเป็นการตอบสนองเช่นนี้ กลับกลายเป็นเขาที่ตัดสินใจโดยคิดไปเอง!“ลั่วชิงยวน! ข้าเตือนเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย! อย่าได้มีความคิดเหลวไหล! เจ้าอยากตายย่อมได้ แต่อย่ากระทบถึงตำหนักอ๋อง!”โทสะฟู่เฉินหวนปะทุ จึงเอ่ยพูดคำรุนแรงอย่างควบคุมไม่ได้ขณะนี้เอง ร่างตรงทางแยก ในที่สุดก็เดินออกมาจับฟู่เฉินหวนที่กำลังโมโหไว้ และพูดปลอบเสียงเล็ก “ท่านอ๋อง ไม่ทรงกริ้วหนาเพคะ วันนี้มีแขกมากหลายเช่นนี้ หากมีผู้ประสงค์ร้ายได้ยินเข้า เกรงว่าจะซุบซิบนินทาเรื่องของท่านและท่านพี่อีกนะเพคะ”ลั่วเยวี่ยอิงท่าทีเข้าใจหัวอกผู้อื่น ทำลั่วชิงยวนที่อยู่อีกด้านดูไม่มีเหตุผลขึ้นมาฟู่เฉินหวนเห็นลั่วเยวี่ยอิง น้ำเสียงผ่อนลงในทันที “มิเป็นไร”ลั่วเยวี่ยอิงพยักหน้า นางกวาดตาลง เอ่ยพูดอย่างเป็นห่วงด้วยเสียงแผ่วเบา “ช่วงนี้หม่อมฉันมิได้ไปที่ตำหนัก มิรู้ว่าบาดแผลของท่านอ๋องเป็นเยี่ยงไรบ้างเพคะ?”ฟู่เฉินหวนเอ่ยตอบ “มิเป็นไร แค่แผลเล็ก”ลั่วเยวี่ย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 410

    ลั่วชิวยวนเงยหน้า มองเขาด้วยสายตาเยือกเย็นทีหนึ่ง ลุกขึ้นลงจากรถม้าทันทีและเดินเข้าตำหนักโดยมิหันกลับมามองฟู่เฉินหวนตะลึง เขาขมวดคิ้วแน่น ในใจเอ่อล้นไปด้วยโทสะเขาคิดมาทั้งทาง เดิมทีอยากอธิบายกับนางผู้ใดจะรู้ว่านางจะมิใส่ใจสักกระผีก ก้าวขาลงจากรถม้าเดินเข้าตำหนักไปซูโหยวรีบขึ้นหน้า “ท่านอ๋อง เมื่อครู่มีคนส่งข่าวมา งานล่าสัตว์วสันตฤดูใกล้มาถึงแล้วพ่ะย่ะค่ะ จึงอยากเชิญท่านเข้าวังเพื่อปรึกษา”น้ำเสียงฟู่เฉินหวนรำคาญใจ “ไม่ไป”เขาเดินเข้าเรือนในก้าวใหญ่ และเอ่ยเสียงเย็น “ความคิดมิอยู่บนชาติแคว้น คิดแต่เรื่องเล่นทั้งวัน วันหนึ่งต้องเล่นจนตำแหน่งจักรพรรดิหายแน่!”ซูโหยวชะงักเล็กน้อย และมิกล้าเอ่ยตอบท่านอ๋องร่วมงานเลี้ยงที่จวนอัครมหาเสนาบดีแล้ว โมโหสิ่งใดมากัน?ไฉนราวกับทรงเสวยดินปืนมาเลยเล่า?……หลังจบงานเลี้ยงลั่วไห่ผิง แม้ลั่วชิงยวนและฟู่เฉินหวนจะอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน แต่กลับมิได้เจอหน้ากันอีกประตูเรือนของนางมักปิดไว้ ทุกวันนอกจากจือเฉาและแม่นมเติ้งที่เข้าไปส่งข้าวให้นาง ไม่มีผู้ใดอื่นเข้าออกอีกส่วนลั่วชิงยวนนั้นได้กลับไปค้าขายในร้านแต่นานแล้วตอนดึก ๆ นางจึงแอบกลับตำห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 411

    เหนือศีรษะนางกลับเป็นเสียงอุทานเจ็บปวด “เจ้าเหยียบข้าทำไม!”เฉินเสี้ยวหานเจ็บจวนแทบยกเท้าขึ้นมากอดซ่งเชียนฉู่ได้ยินเสียงนี้จึงเงยหน้ามองเขา วินาทีที่เห็นเฉินเสี้ยวหาน หัวใจที่ลนลานของนางจึงเริ่มรู้สึกวางใจขึ้น“ท่านเองหรือ? ท่านมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?” ซ่งเชียนฉู่รู้สึกคล้ายไอมืดมนรอบด้านเริ่มซาลงเล็กน้อยแต่มิรู้ว่าเป็นเพียงความรู้สึกนางหรือไม่“ข้าเห็นเจ้าแต่ไกลแล้ว เรียกเจ้าเจ้าก็มิได้ยิน เห็นเจ้าเดินเข้ามาในตรอก จึงอ้อมมารอเจ้าที่นี่ แต่กลับได้ยินเสียงกรีดร้องของเจ้า ข้าก็คิดว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นเสียอีก”เฉินเสี้ยวหานพูดไปพร้อมเดินไป และเก็บผักผลไม้ที่ร่วงกระจายเต็มพื้นเข้าในตระกร้าทีละอย่างซ่งเชียนฉู่เดินตามหลังเขาอย่างกังวลใจ นางดึงชายเสื้อเขาไว้ “ไม่มีสิ่งใดจริงหรือ?”นางมิกล้าแม้แต่ลืมตามอง“จริง ๆ เจ้าตื่นกลัวเพราะสิ่งใดกัน? เหงื่อเจ้าท่วมหัวแล้วดูสิ!” เฉินเสี้ยวหายพูดไป พร้อมซับเหงื่อบนหน้าผากของนางซ่งเชียนฉู่ตกใจจนลืมตาขึ้น ระยะใกล้เช่นนี้ นางถอยหลังก้าวหนึ่งอย่างลนลาน“เจ้าเจออันตรายใดรึ?” เฉินเสี้ยวหานถามอย่างเป็นห่วง และสำรวจรอบด้าน แต่กลับมิพบความผิดปกติใด

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1422

    ร่างที่ไร้ศีรษะร่างหนึ่งถือกระบี่เดินเข้ามาหาลั่วชิงยวน โซ่เหล็กด้านหลังลากคนสามคนไว้แม้จะออกแรงสุดกำลังแล้วก็ยังฉุดรั้งโหยวจิ้งเฉิงไว้มิได้แต่ร่างของโหยวจิ้งเฉิงในตอนนี้ไม่มีศีรษะแล้ว ยากที่จะควบคุมร่างกายได้ลั่วชิงยวนถือกระบี่เงื้อฟันไปยังร่างของฝูเหมิ่ง เช่นเดียวกับตอนที่โหยวจิ้งเฉิงตัดแขนขาของอวี๋ตันเฟิ่งนางกำลังแก้แค้นและระบายความแค้นอย่างบ้าคลั่งตัดแขนของเขาขาดทีละข้างกระบี่ห้วงสวรรค์ร่วงลงสู่พื้นไปพร้อมกับแขนจากนั้นขาทั้งสองข้างของเขาก็ขาดกระเด็นอวี๋ตันเฟิ่งอาละวาดแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งเมื่อมองไปยังซากศพที่กองอยู่บนพื้น ดวงตาของลั่วชิงยวนก็ราวกับถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉานใต้หล้าเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดทั้งสามที่อยู่มิไกลต่างตกตะลึงมิเคยเห็นฉากที่นองเลือดเช่นนี้มาก่อนแต่ถึงแม้ร่างกายจะแหลกละเอียด โหยวจิ้งเฉิงก็ยังมิตายทันใดนั้นมีร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากซากศพ แล้วลอยละลิ่วไปอวี๋ตันเฟิ่งกรีดร้องแหลม “โหยวจิ้งเฉิง เจ้าอย่าหวังว่าจะหนีไปไหนได้อีก! ข้าจะทำให้เจ้ามิได้ผุดได้เกิด!”พลังในร่างของนางพลันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นลมพายุโหมกระหน่ำ ลั่วชิงยวนรู้สึกราว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1421

    ใบหน้านั้นบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นโหยวจิ้งเฉิง“ต่อไปก็ถึงตาพวกเจ้าแล้ว” เขาเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้งเย็นเยือกโฉวสือชีกำกระบี่ในมือแน่น ปกป้องคนใบ้และอวี๋โหรวไว้ส่วนลั่วชิงยวนค่อย ๆ ก้าวเท้าไปข้างหน้าในดวงตาค่อย ๆ ก่อเกิดจิตสังหารนางหลับตาลง แล้วกล่าวว่า “อวี๋ตันเฟิ่ง ไปแก้แค้นของเจ้าเถิด”ลั่วชิงยวนมอบร่างของตนให้อวี๋ตันเฟิ่งโดยสมบูรณ์เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของนางยังคงเป็นใบหน้าเดิม เพียงแต่แววตานั้นกลับดุดันยิ่งนัก ดวงตาสีแดงก่ำเต็มไปด้วยความแค้นเสียงของอวี๋ตันเฟิ่งดังขึ้น “โหยวจิ้งเฉิง ความแค้นระหว่างข้ากับเจ้า วันนี้ถึงคราวสะสางแล้ว”“สิบกว่าปีที่ผ่านมา ข้าคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะฉีกร่างเจ้าเป็นชิ้น ๆ อย่างไรถึงจะสาสมกับความแค้นในใจข้า”“แต่คาดมิถึงว่าเจ้าจะตายไปแล้ว”“แต่ก็มิเป็นไร วันนี้ข้าจะฉีกร่างเจ้าให้เป็นชิ้น ๆ ให้ได้!”เมื่อกล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็กระโจนเข้าไปเสียงอาวุธปะทะกันอย่างรุนแรงดังขึ้นแต่ในเวลานี้เอง โหยวจิ้งเฉิงก็พุ่งไปยังกำแพง คว้ากระบี่ห้วงสวรรค์มาได้ จากนั้นกระโจนออกนอกห้องไปอวี๋ตันเฟิ่งรีบไล่ตามไปสีหน้าคนใบ้เปลี่ยนไป กระบี่ห้วงสวรรค์! หากฝูเหมิ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1420

    ต่งอวิ๋นซิ่วตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบยกมือขึ้นมาป้องกัน แล้วต่อสู้กับฝูเหมิ่งแต่พลังในตอนนี้ของต่งอวิ๋นซิ่วเทียบกับฝูเหมิ่งแล้วยังอ่อนแอกว่ามากนักสุดท้ายก็ถูกฝูเหมิ่งบีบคอไว้แน่นลั่วชิงยวนเห็นชัดเจนว่าในร่างของฝูเหมิ่งตอนนี้คือโหยวจิ้งเฉิง!เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ? เขาจะฆ่าต่งอวิ๋นซิ่วภรรยาของตนหรือ?เมื่อเห็นดังนั้น โหยวเซียงก็ชักกระบี่พุ่งเข้าไปหมายจะช่วยต่งอวิ๋นซิ่ว แต่ฝูเหมิ่งกลับมิหลบเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้กระบี่ในมือนางแทงทะลุร่างจากนั้นฝูเหมิ่งก็ฟาดมือไปทีหนึ่ง โหยวเซียงจึงกระเด็นปลิวไปโหยวเซียงกระอักเลือดออกมาต่งอวิ๋นซิ่วร้อนใจยิ่งนัก “เซียงเอ๋อร์ มิต้องสนใจแม่ รีบหนีไป!”โหยวเซียงจะทนมองดูมารดาของตนถูกฆ่าได้อย่างไร นางพยายามลุกขึ้นมาสู้ต่อแต่ฝูเหมิ่งกลับมองโหยวเซียงอย่างดุดัน แล้วกล่าวขู่ “คนที่ข้าต้องการฆ่ามีเพียงต่งอวิ๋นซิ่วเท่านั้น เจ้าจงหลีกไป”“มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้ามิเห็นแก่ความเป็นพ่อลูก”เมื่อได้ยินดังนั้น โหยวเซียงก็ตกใจจนยืนอึ้งไปกับที่ แล้วกล่าวเสียงสั่นเครือ “พ่อ… พ่อลูกหรือ?”ตอนนี้เสียงของฝูเหมิ่งก็มิใช่เสียงของฝูเหมิ่งอีกต่อไปแล้วเมื่อต่งอวิ๋นซิ่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1419

    ขณะนี้เอง โหยวเซียงก็ฉวยโอกาสหลบหนีจากมือของลั่วชิงยวนไปได้ต่งอวิ๋นซิ่วมองพวกเขาอย่างเย็นชา “ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็เตรียมตัวตายได้เลย!”ทันใดนั้นบนคานเรือนก็ปรากฏชายชุดดำจำนวนมากพร้อมถือหน้าไม้เล็งมาที่พวกเขาลูกดอกอันคมกริบประกายแสงเย็นลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก หัวเราะอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าเจ้าจะเตรียมการมาอย่างดี ตอนนี้พวกข้าคงหนีออกจากห้องนี้ไปมิได้แล้วใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนสังเกตประตูห้อง รวมถึงผนังห้องทุกด้าน แล้วพบว่ามีกลไกบนประตูเหนือศีรษะ ต่งอวิ๋นซิ่วหัวเราะเบา ๆ “แน่นอน นี่คือห้องกลไกที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือพวกเจ้าที่บุกรุกเข้ามาบนเขา”“วันนี้พวกเจ้าอย่าหวังว่าจะได้ออกไปแม้แต่คนเดียว!”ลั่วชิงยวนจับกระบี่ห้วงสวรรค์แน่นแล้วพุ่งไปที่กลไกจุดหนึ่งบนผนังห้อง ฟาดฟันกระบี่ลงไปอย่างแรงต่งอวิ๋นซิ่วรีบดึงโหยวเซียงหลบหลีกไปแต่ใครเล่าจะรู้ว่าลั่วชิงยวนมิได้โจมตีพวกนาง แต่กลับฟันกลไกบนผนังห้องทำให้ประตูห้องลงกลอนอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นเช่นนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็หัวเราะเยาะ “เจ้าช่างรนหาที่ตายยิ่งนัก”ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างมีความหมาย “เช่นนั้นรึ? ยังมิรู้เลยว่าใครกันแน่ที่จะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1418

    ร่างที่เดินออกมาจากฝูงชนนั้นมีท่าทางคุกคามยิ่งนักลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย นั่นคือสตรีที่นางเห็นในความทรงจำของอวี๋ตันเฟิ่งต่งอวิ๋นซิ่ว!โหยวเซียงดิ้นรนพลางเงยหน้ามองต่งอวิ๋นซิ่วด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านแม่… เป็นความผิดของลูกเองที่ปล่อยให้พวกมันขึ้นเขามาได้”หากมิใช่เพราะลั่วชิงยวนรู้ทางลับของวัดร้างแห่งนั้น พวกนางคงไม่มีทางขึ้นเขามาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้!ต่งอวิ๋นซิ่วมองด้วยความเจ็บปวดแล้วตวาดใส่ลั่วชิงยวน “ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าตายเยี่ยงไร้ที่ฝัง!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “เมื่อคืนยังพยายามทำลายวิญญาณที่เหลือของอวี๋ตันเฟิ่งอยู่เลย วันนี้เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าศัตรูของเจ้าคือใคร?”“ใครกันแน่ที่จะตายแบบไร้ที่ฝัง ยังบอกมิได้หรอก”เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็สะดุ้งเฮือก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากท่าทางของนางดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยายามซ่อนไว้ได้ดีนางมองลั่วชิงยวนอย่างใจเย็น แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงเมืองแห่งภูตผี ก็คงต้องการของล้ำค่าของเมืองแห่งภูตผีสินะ”“พวกเจ้าอยากได้อะไร ข้าสามารถให้เจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1417

    นางปฏิเสธอย่างหนักแน่นลั่วชิงยวนกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น “พานางไปด้วย ไปวัดร้าง!”พวกเนางมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ โหยวเซียงดิ้นรนตลอดทาง แต่โฉวสือชีและคนใบ้จ้องมองทุกการกระทำของนางอย่างใกล้ชิด มิเปิดโอกาสให้นางหลบหนีไปได้แม้แต่น้อยเมื่อเดินไปได้ไกลมากพอสมควร เสียงไก่ขันยามรุ่งอรุณก็ดังขึ้นแล้วในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวัดร้างแห่งนั้นในวัดร้างมีพระพุทธรูปที่เป็นซากปรักหักพังล้มลงบนพื้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีใครมานานแล้วเมื่อมองหาอย่างละเอียดก็พบรอยเท้าบนพื้นลั่วชิงยวนมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือสถานที่ที่ถูกต้อง!โหยวเซียงจ้องมองทุกการกระทำของลั่วชิงยวนอย่างกระวนกระวาย เกรงว่าลั่วชิงยวนจะพบกลไกเข้าแต่ลั่วชิงยวนกลับสังเกตปฏิกิริยาของโหยวเซียง ค่อย ๆ เดินไปในแต่ละที่โดยอาศัยการสังเกตปฏิกิริยาโหยวเซียงสุดท้ายลั่วชิงยวนจึงเพ่งเล็งไปที่ผนังด้านหนึ่งแล้วเริ่มค้นหากลไกเสียงเปิดกลไกดังแกร๊กดังขึ้นประตูบานหนึ่งบนพื้นพลันเปิดออกหลังจากที่ลั่วชิงยวนเปิดประตูแล้วก็พบว่าด้านล่างยังมีประตูอีกบานหนึ่ง และบนนั้นก็มีกลไกเช่นกันแต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วเรื่องนี้ง่ายมากเมื่อประต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status