Share

บทที่ 438

Author: หว่านชิงอิ๋น
ลั่วชิงยวนนั่งอยู่บนเตียง อยากนอนก็นอนไม่หลับ นางยิ่งไม่อยากอยู่ที่นี่

จึงเลือกที่จะลุกขึ้นและแอบออกจากตำหนัก

คืนนี้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น คิดว่าคงไม่มีผู้ใดมาหานางแล้ว

เมื่อออกจากตำหนัก นางตรงไปที่ร้านในตรอกฉางเล่อทันที

นางเดินทางด้วยทางลัด

กลางดึกดื่นซ่งเชียนฉู่มาเปิดประตูให้นาง “ดึกเช่นนี้แล้ว ท่านมาได้อย่างไรกัน? มิได้กลับตำหนักแล้วหรือ?”

“ตอบยากแล้ว” ลั่วชิงยวนถอนหายใจ

“เช่นนั้นค่อยพูดพรุ่งนี้เช้า ไปนอนเถิด” ซ่งเชียนฉู่เห็นว่าอารมณ์นางไม่ดีนัก จึงควงแขนนางกลับห้อง

เปลี่ยนชุดเสร็จ ทั้งคู่เตรียมจะดับเทียนเข้านอน

เวลานี้เอง ด้านนอกกลับดังเป็นเสียงเคาะประตู

“ดึกเช่นนี้แล้ว ผู้ใดกัน?” ซ่งเชียนฉู่งุนงง

“ข้าไปดูเอง เจ้านอนเถอะ”

ลั่วชิงยวนขึ้นหน้าไปเปิดประตูด้านนอก และพบกับฟู่เฉินหวนที่กำลังนั่งดื่มเหล้าบนขั้นบันไดหิน

ไฉนจึงเป็นเขาไปได้!

ลั่วชิงยวนรีบปิดประตูทันใด

ผู้ใดจะรู้ฟู่เฉินหวนกลับยันประตูไว้อย่างร้อนรน จนประตูหนีบมือของเขาอย่างแรง

ลั่วชิงยวนตกใจ จึงรีบปล่อยมือ

“ท่านอ๋อง ดึกดื่นเพียงนี้แล้วท่านจักทำสิ่งใดพ่ะย่ะค่ะ?” นางรู้สึกเสียใจที่มาเปิดประตูนี้

มือของฟู่เฉินหว
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 439

    สายตาร้อนรนและเต็มไปด้วยความลนลานนั้น ลั่วชิงยวนมิเคยเห็นมาก่อนนางปัดมือของฟู่เฉินหวนทิ้ง “ท่านอ๋องเพียงแค่ชอบคนหนึ่ง และเกลียดอีกคนหนึ่งก็เท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ”“คนเราต่างมีอารมณ์และปรารถนา เราถูกควบคุมโดยสิ่งเหล่านั้น แต่ท่านอ๋องเพียงยังมิยอมรับตัวท่านที่มิแผกแยกผิดชอบชั่วดี”ฟู่เฉินหวนคิดหนัก และเอ่ยพึมพำ “ข้าชอบนางรึ?”“นางขี้อิจฉา จิตใจร้ายมิเบา มักแสร้งทำท่าอ่อนแอเพื่อเรียกร้องความสงสารจากตัวข้า คนเช่นนี้ คู่ควรให้ตัวข้าชอบจริงหรือ?”ได้ยินประโยคนี้ ลั่วชิงยวนตะลึงเป็นอย่างมากที่แท้เขารู้ทั้งหมด ในใจเขากระจ่างราวกับกระจกใส! แต่เขากลับเข้าข้างลั่วเยวี่ยอิงครั้งแล้วครั้งเล่า!ก่อนหน้านี้นางเคยสงสัยว่าฟู่เฉินหวนถูกควบคุมโดยวิธีบางอย่าง เพียงแต่นางไม่มีโอกาสดูให้เขาบวกกับเรื่องในจวนนอกเมือง ทำให้นางมิอยากเกี่ยวโยงกับฟู่เฉินหวนอีก ย่อมมิอยากดูให้เขาบัดนี้ได้ยินประโยคนี้ ความคิดในใจของนางสั่นคลอนเบา ๆ หากลั่วเยวี่ยอิงใช้วิธีการบางอย่างในการควบคุมฟู่เฉินหวน เช่นนั้นก็หมายความว่าเบื้องหลังลั่วเยวี่ยอิงมีผู้บงการหรือไม่?นางจะใช่พวกเดียวกับผู้เก่งกาจตระกูลเหยียนหรือไม่?และหม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 440

    สายตาของฟู่เฉินหวนยังคงเอ่อไปด้วยหยาดน้ำ ราวกับครั้งแรกที่เจอบนตัวฟู่เฉินหวนมีกลิ่นอายมังกรคุ้มครอง คงมิตายเพราะลั่วเยวี่ยอิงในเร็ว ๆ นี้แต่เมื่อกลิ่นอายนี้หมดไป บางทีอาจเป็นยามสิ้นชีวาของเขานางเงยหน้ามองนภาราตรี หัวใจหนักอึ้งมากเป็นพิเศษเดิมทีนางมิอยากเกี่ยวโยงใด ๆ กับฟู่เฉินหวน แต่ชะตามักชอบเล่นตลก นางและฟู่เฉินหวนคอยพัวพันกันไม่หยุด นางเองก็มิรู้ว่าสวรรค์หมายความว่าอย่างไรกันแน่ฟู่เฉินหวนนั่งอยู่ใต้ชายคา ดื่มเหล้าทั้งคืนบางครั้งเขาพูดเหมือนคนเมา แต่บางครั้งก็ดูจะสติครบครันลั่วชิงยวนไม่พูดต่อ เพียงแค่นั่งอยู่นิ่ง ๆ นางนั่งในเรือนเป็นเพื่อนเขาทั้งคืนวันต่อมา ฟ้ายังมิทันสว่าง ฟู่เฉินหวนก็จากไปลั่วชิงยวนพิงเสาหลับไปทั้งคืนซ่งเชียนฉู่ตื่นมาเจอนาง ลั่วชิงยวนจึงตื่นมาซ่งเชียนฉู่เห็นอาภรณ์ที่คลุมอยู่บนร่างของลั่วชิงยวน อาภรณ์ฟู่เฉินหวน“นี่มัน… ท่านอ๋องเสด็จมาหรือ?”“อาภรณ์ของพระองค์อยู่บนร่างท่าน เช่นนั้นเมื่อคืนพระองค์อยู่อย่างไรกัน? ราตรีหนาวเย็นเช่นนั้น” ซ่งเชียนฉู่ฉงนเป็นอย่างมากลั่วชิงยวนมองเสื้อบนร่างแล้วก็ขมวดคิ้วขึ้นมาเช่นกัน“เห้อ พวกท่านนี่คู่ปรับกันเ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 441

    ด้านข้างมีเสียงของลิ่นฝูเสวี่ยส่งมา “แน่นอนว่าต้องเป็นชื่อของข้าสิ ท่านเซียนน้อย!”ลั่วชิงยวนไตร่ตรองครู่หนึ่งและเอ่ย “ฝูเสวี่ย”ได้ยินดังนี้ แม่เล้าปี้พรึมพรำกับตนเอง “ฝูเสวี่ย ช่างไพเราะเสียจริง!”แม้จะคุ้นหูไปนิด แต่แม่เล้าปี้คิดมิออกในคราแรก“แม่นางฝูเสวี่ยเปลี่ยนอาภรณ์ไปก่อน ข้าจักไปแจ้งด้านนอก ให้เจ้าขึ้นเวทีแสดงหลังครึ่งชั่วยามผ่านไป ดีหรือไม่?”ลั่วชิงยวนพยักหน้า “ได้”“ท่านเซียนน้อย ไฉนท่านตัดแซ่ของข้าทิ้งเล่า!” ลิ่นฝูเสวี่ยมิพอใจแม่เล้าปี้ออกจากห้องไปแล้วลั่วชิงยวนจึงเอ่ยปาก “นามลิ่นฝูเสวี่ยนั้นโอ่อ่าเกินไป ข้ามิอยากให้ถูกผู้อื่นคิดว่าถูกผีเข้าสิง”ลิ่นฝูเสวี่ยได้ยินก็พลันหัวเราะขึ้นอย่างได้ใจ “เช่นนั้นก็ถูก นามของข้านั้นโอ่อ่าจริง ๆ แล”“สมัยนั้น ทั้งเมืองหลวงมีผู้ใดบ้างที่มิรู้นามขานข้า”“เพียงแต่ เรื่องถูกผีเข้าสิง ผ่านไปพักหนึ่งอย่างไรก็ต้องมีคนสงสัยแน่!”“เพราะใต้หล้านี้ นอกจากข้าลิ่นฝูเสวี่ยแล้ว ยังมีผู้ใดที่ร่ายรำได้งามชดช้อยเท่าข้าได้เป็นคนที่สองอีกหรือ?”ลั่วชิงยวนเอ่ยปากอย่างอดไม่ได้ “ถ่อมตัวหน่อยเถอะ”“ชุดนี้! ชุดสีขาวนี้งามนัก!” น้ำเสียงของลิ่นฝูเสวี

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 442

    เล็บของหลีเถาจิกจนไม้ขาด ในใจนางตะลึงยิ่งรำเทพเหมันต์หรือ?นางได้ยินว่า เหมือนจะเป็นการร่ายรำที่ลิ่นฝูเสวี่ยออกแบบเอง…ผู้ที่เติบโตในหอนางโลมต้องใช้ความสามารถในการหากิน พวกนางน่าจะต่างรู้จักรำเทพเหมันต์ของลิ่นฝูเสวี่ยแต่ลิ่นฝูเสวี่ยตายไวเกินไป รำเทพเหมันต์ยังมิทันสืบทอดให้ผู้ใดก็หายไปจากใต้หล้านี้เสียก่อนแล้วกระทั่งอาจารย์ของนาง ยังเรียนรู้ไปเพียงครึ่งหนึ่ง และถูกอาจารย์ของนางมองเป็นสิ่งล้ำค่า จนมิเคยนำมาแสดงต่อหน้าผู้อื่นมาก่อนแต่แม่นางที่ชื่อฝูเสวี่ย กลับบอกว่าที่นางร่ายรำคือรำเทพเหมันต์!เป็นไปได้อย่างไร!ผู้คนด้านล่างซุบซิบกันขึ้นมา“ข้าเคยได้ยินรำเทพเหมันต์มาก่อน รำเอกลักษณ์ของหอสมุทรมรกตในอดีต!”“ได้ยินว่าลิ่นฝูเสวี่ยเป็นผู้ออกแบบท่ารำเอง! นามของแม่นางฝูเสวี่ยเหมือนลิ่นฝูเสวี่ยพอดี หรือว่านางเป็นศิษย์ลิ่นฝูเสวี่ย?”พวกเขาพูดถึงคำว่าลิ่นฝูเสวี่ยอีกครั้งบัดนี้ลิ่นฝูเสวี่ยยิ้มออกมาอย่างพออกพอใจใต้หล้านี้ยังมีคนจดจำนางได้ลั่วชิงยวนเห็นสถานการณ์เช่นนี้จึงรีบจากไป เพราะนางกลัวจะถูกล้อมแต่ทันทีที่นางไป คนด้านล่างก็ต่างตะโกนกันขึ้นมา “อีกเพลงหนึ่ง! อีกเพลงหนึ่ง!”

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 443

    แต่เมื่อตกเย็น แขกในหอกลับหายไปเกินครึ่งผู้ที่จะมาดูการร่ายรำในหอนางโลม ต่างมาเพราะความอยากรู้หากไร้สิ่งใหม่ให้พวกเขาดู ให้พวกเขาตะลึง เมื่อความอยากรู้นี้ผ่านไป พวกเขาก็มิอยู่ต่อแล้ว……ยามเช้าตรู่ ลั่วเยวี่ยอิงตื่นมาพบว่าตนอยู่ในจวนอัครมหาเสนาบดี นางตกตะลึงยิ่ง จึงรีบเก็บของจะกลับตำหนักแต่วันนี้เมื่อมาถึงถนนหน้าตำหนัก ชาวบ้านกลับซุบซิบนินทานาง“ดูสิ นี่มันท่านนั้นในตำหนักอ๋องมิใช่หรือ ยังจะมาอย่างหน้าไม่อายอีก”“ใช่ ๆ เป็นสาวเป็นนาง กลับวิ่งไปบ้านผู้ชายทุกวัน มิรู้จักอับอาย”ป้าสองคนที่เดินผ่านนินทานางคำพูดพวกนางตกสู่หูของลั่วเยวี่ยอิงอย่างชัดเจน หน้าของนางแดงก่ำขึ้นมาทันทีนางรู้สึกอับอายยากจะทน“นางมีหน้ามาได้อย่างไรอีก?”“บุตรีอนุกลับรังแกถึงหัวบุตรีเอก น่าเกลียดเสียจริง”“อุตส่าห์มีรูปโฉมงดงาม แต่กลับไร้ยางอายเสียได้”คำพูดเหล่านี้ที่ตกถึงหูลั่วชิงยวน ราวกับมีดแหลมคมที่ทิ่มแทงลงในร่างของนางทีละเล่ม จนนางเลือดไหลท่วมร่างหน้าไม่อายมิรู้จักอับอายไร้ยางอายศัพท์เหล่านี้ เคยเอาไว้ด่าลั่วชิงยวนมิใช่หรือ?นางฟังมาครั้งแล้วครั้งเล่าแต่เป็นครั้งแรกที่ศัพท์เหล่าน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 444

    วันที่ออกจากหอเจาเซียง ลั่วชิงยวนไปที่คฤหาสน์หลังใหม่ ช่วยลิ่นฝูเสวี่ยจัดห้อง จัดวางของตามความชอบของนางลิ่นฝูเสวี่ยเองก็พูดเรื่องเกี่ยวกับแม่ของนางมากมาย“มารดาของท่าน มิเหมือนคุณหนูทั่วไป นางมิชอบอ่านตำรา มิชอบเขียนตำรา มิชอบศิลปะสี่แขนง ที่นางชอบที่สุดคือการดูข้าร่ายรำ”“ใต้หล้านี้มีผู้คนที่ชอบดูข้าร่ายรำมากมาย ในสถานที่อย่างหอนางโลม มีชายหนุ่มนับไม่ถ้วนอยากไถ่ตัวให้ข้า เพราะรู้สึกว่าข้าต้องร่ายรำในนั้นอย่างไร้ทางเลือก”“มีเพียงมารดาของท่าน นางดูออกว่าข้ารักการร่ายรำ ข้ามิสนว่าที่นั้นคือหอนางโลมหรือไม่ เพียงแค่ให้ข้าได้ร่ายรำอย่างผ่าเผย ข้าก็ยอมอยู่ที่นั่น และมิไปที่ใดทั้งนั้น”“ข้ามองนางเป็นมิตรรู้ใจ”“เพียงแต่ นางเป็นฮูหยินจวนอัครมหาเสนาบดี มิสะดวกที่จะมาเยี่ยมข้าในสถานที่อย่างหอนางโลม ดังนั้นพวกเราจึงได้แต่เจอกันนาน ๆ ครั้งโดยส่วนตัว หรือบางครั้งก็อาจเจอกันในงานเลี้ยง”“นางยอมเข้าร่วมงานเลี้ยงที่นางมิชอบ เพียงเพราะอยากเห็นข้าร่ายรำ”“ข้าเองก็ยอมไปร่ายรำในจวนคนที่ข้าเกลียดเพื่อนาง”เนื้อหาที่ลิ่นฝูเสวี่ยพูดกับนางนั้น มิเป็นประโยชน์ต่อลั่วชิงยวนนักแต่กลับทำนางซาบซึ้งเป็น

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 445

    นี่เป็นห้องสุดท้ายบนทางระเบียง! ผู้ใดจะมาที่นี่กัน!นางสวมชุดอย่างไว ใส่หน้ากากทันใดนั้น ประตูห้องถูกเปิดออกอย่างแรงบุรุษพุงย้วยผู้หนึ่งเดินเข้ามา เมื่อเห็นลั่วชิงยวน ตาของเขาลุกวาวเขาถูมือด้วยท่าทีหิวโซ “แม่นางฝูเสวี่ย รอนานเลยใช่หรือไม่”ลั่วชิงยวนถอยหลังก้าวหนึ่ง “เจ้าคือใครกัน?”“ข้าแซ่หลี่ เป็นบุรุษคนแรกของแม่นางฝูเสวี่ย ข้าจักทำเบา ๆ มิทำแม่นางฝูเสวี่ยต้องเจ็บแน่”บุรุษก้าวเดินเข้ามา และตะครุบใส่ลั่วชิงยวนอย่างแรงสายตาของลั่วชิงยวนเยือกเย็นลง นางเตะขาอย่างแรงจนเขากระเด็นลงกับพื้นบุรุษอุทานจากเจ็บปวดทีหนึ่ง จากนั้นเงยหน้าขึ้น ชี้หน้านางพร้อมกราดด่า “ข้าเสียเงินถึงหมื่นตำลึงเพื่อซื้อเจ้า! คืนนี้เจ้าจักต้องเป็นคนของข้า!”คิ้วของลั่วชิงยวนขมวดแน่นหลีเถาเป็นคนทำแน่ ๆ!“ไสหัวออกไป” ลั่วชิงยวนด่าอย่างเกรี้ยวกราด และผลักประตูออกแต่เมื่อเปิดประตูกลับมีบุรุษกลุ่มใหญ่ดักอยู่ และบังทางเดินไว้อย่างมิดชิดลั่วชิงยวนเห็นหลีเถา นางกำลังยิ้มอย่างได้ใจ“ข้าและหอเจาเซียงมิได้เขียนสัญญาใดไว้ พวกเจ้าไม่มีสิทธิ์ควบคุมอิสระของข้า!” ลั่วชิงยวนเอ่ยพูดเสียงเย็น“ดูท่าแม่นางฝูเสวี่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 446

    ชั้นสองคนพาลกลุ่มหนึ่งล้อมขึ้นมา อยากจะกดลั่วชิงยวนไว้ลั่วชิงยวนมือไวตาไว ฝีมือปราดเปรียว นางหลบการโจมตีของศัตรูได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งโจมตีไปที่จุดอ่อนของอีกฝ่ายอย่างแรงนางสู้จนออกจากประตูไปได้แต่เบื้องหลัง กลับยังมีชายฉกรรย์โผล่ออกมาไม่หยุด คนพาลในหอเจาเซียงต่างเป็นผู้ฝึกฝนวรยุทธ ซึ่งแรงเยอะโขลั่วชิวยวนจึงทำได้เพียงใช้ความปราดเปรียวของตนหลบการโจมตีของอีกฝ่าย มิกล้ารับมือตรง ๆ นางบุกจนถึงด้านนอกลิ่นฝูเสวี่ยส่งกำลังใจให้นางอย่างลุ้นระทึก “เกือบไปแล้วท่านเซียนน้อย!”“ระวังด้านหลัง!”“เร็วเข้า ๆ ใกล้ออกไปได้แล้ว!”สีหน้าของลั่วชิงยวนมืดครึ้ม นางรับมืออย่างระมัดระวัง มุ่งสู้ไปทางด้านนอกคนมากเกินไป นางถูกล้อมไว้สองด้าน ลั่วชิงยวนจึงได้แต่เปลี่ยนเส้นทาง นางบุกเข้ามาในห้องหนึ่ง“กรี๊ด!” ในห้องคือซิ่งอวี่ นางตกใจจนโฉมงามถอดสีลั่วชิงยวนจึงจับข้อมือนางไว้ “แม่นางซิ่งอวี่ หนีไปพร้อมกับข้าเถิด!”ซิ่งอวี่ตะลึง นางลังเลอยู่ครู่หนึ่งแต่นางยังมิทันเอ่ยตอบ คนพาลจากด้านนอกก็บุกเข้ามา ลั่วชิงยวนจึงได้แต่ลากนางหนีไปพร้อมกันนางดันหน้าต่างออก จับไหล่ซิ่งอวี่ไว้พร้อมยันขา ลอยตัวออ

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1422

    ร่างที่ไร้ศีรษะร่างหนึ่งถือกระบี่เดินเข้ามาหาลั่วชิงยวน โซ่เหล็กด้านหลังลากคนสามคนไว้แม้จะออกแรงสุดกำลังแล้วก็ยังฉุดรั้งโหยวจิ้งเฉิงไว้มิได้แต่ร่างของโหยวจิ้งเฉิงในตอนนี้ไม่มีศีรษะแล้ว ยากที่จะควบคุมร่างกายได้ลั่วชิงยวนถือกระบี่เงื้อฟันไปยังร่างของฝูเหมิ่ง เช่นเดียวกับตอนที่โหยวจิ้งเฉิงตัดแขนขาของอวี๋ตันเฟิ่งนางกำลังแก้แค้นและระบายความแค้นอย่างบ้าคลั่งตัดแขนของเขาขาดทีละข้างกระบี่ห้วงสวรรค์ร่วงลงสู่พื้นไปพร้อมกับแขนจากนั้นขาทั้งสองข้างของเขาก็ขาดกระเด็นอวี๋ตันเฟิ่งอาละวาดแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งเมื่อมองไปยังซากศพที่กองอยู่บนพื้น ดวงตาของลั่วชิงยวนก็ราวกับถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉานใต้หล้าเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดทั้งสามที่อยู่มิไกลต่างตกตะลึงมิเคยเห็นฉากที่นองเลือดเช่นนี้มาก่อนแต่ถึงแม้ร่างกายจะแหลกละเอียด โหยวจิ้งเฉิงก็ยังมิตายทันใดนั้นมีร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากซากศพ แล้วลอยละลิ่วไปอวี๋ตันเฟิ่งกรีดร้องแหลม “โหยวจิ้งเฉิง เจ้าอย่าหวังว่าจะหนีไปไหนได้อีก! ข้าจะทำให้เจ้ามิได้ผุดได้เกิด!”พลังในร่างของนางพลันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นลมพายุโหมกระหน่ำ ลั่วชิงยวนรู้สึกราว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1421

    ใบหน้านั้นบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นโหยวจิ้งเฉิง“ต่อไปก็ถึงตาพวกเจ้าแล้ว” เขาเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้งเย็นเยือกโฉวสือชีกำกระบี่ในมือแน่น ปกป้องคนใบ้และอวี๋โหรวไว้ส่วนลั่วชิงยวนค่อย ๆ ก้าวเท้าไปข้างหน้าในดวงตาค่อย ๆ ก่อเกิดจิตสังหารนางหลับตาลง แล้วกล่าวว่า “อวี๋ตันเฟิ่ง ไปแก้แค้นของเจ้าเถิด”ลั่วชิงยวนมอบร่างของตนให้อวี๋ตันเฟิ่งโดยสมบูรณ์เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของนางยังคงเป็นใบหน้าเดิม เพียงแต่แววตานั้นกลับดุดันยิ่งนัก ดวงตาสีแดงก่ำเต็มไปด้วยความแค้นเสียงของอวี๋ตันเฟิ่งดังขึ้น “โหยวจิ้งเฉิง ความแค้นระหว่างข้ากับเจ้า วันนี้ถึงคราวสะสางแล้ว”“สิบกว่าปีที่ผ่านมา ข้าคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะฉีกร่างเจ้าเป็นชิ้น ๆ อย่างไรถึงจะสาสมกับความแค้นในใจข้า”“แต่คาดมิถึงว่าเจ้าจะตายไปแล้ว”“แต่ก็มิเป็นไร วันนี้ข้าจะฉีกร่างเจ้าให้เป็นชิ้น ๆ ให้ได้!”เมื่อกล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็กระโจนเข้าไปเสียงอาวุธปะทะกันอย่างรุนแรงดังขึ้นแต่ในเวลานี้เอง โหยวจิ้งเฉิงก็พุ่งไปยังกำแพง คว้ากระบี่ห้วงสวรรค์มาได้ จากนั้นกระโจนออกนอกห้องไปอวี๋ตันเฟิ่งรีบไล่ตามไปสีหน้าคนใบ้เปลี่ยนไป กระบี่ห้วงสวรรค์! หากฝูเหมิ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1420

    ต่งอวิ๋นซิ่วตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบยกมือขึ้นมาป้องกัน แล้วต่อสู้กับฝูเหมิ่งแต่พลังในตอนนี้ของต่งอวิ๋นซิ่วเทียบกับฝูเหมิ่งแล้วยังอ่อนแอกว่ามากนักสุดท้ายก็ถูกฝูเหมิ่งบีบคอไว้แน่นลั่วชิงยวนเห็นชัดเจนว่าในร่างของฝูเหมิ่งตอนนี้คือโหยวจิ้งเฉิง!เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ? เขาจะฆ่าต่งอวิ๋นซิ่วภรรยาของตนหรือ?เมื่อเห็นดังนั้น โหยวเซียงก็ชักกระบี่พุ่งเข้าไปหมายจะช่วยต่งอวิ๋นซิ่ว แต่ฝูเหมิ่งกลับมิหลบเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้กระบี่ในมือนางแทงทะลุร่างจากนั้นฝูเหมิ่งก็ฟาดมือไปทีหนึ่ง โหยวเซียงจึงกระเด็นปลิวไปโหยวเซียงกระอักเลือดออกมาต่งอวิ๋นซิ่วร้อนใจยิ่งนัก “เซียงเอ๋อร์ มิต้องสนใจแม่ รีบหนีไป!”โหยวเซียงจะทนมองดูมารดาของตนถูกฆ่าได้อย่างไร นางพยายามลุกขึ้นมาสู้ต่อแต่ฝูเหมิ่งกลับมองโหยวเซียงอย่างดุดัน แล้วกล่าวขู่ “คนที่ข้าต้องการฆ่ามีเพียงต่งอวิ๋นซิ่วเท่านั้น เจ้าจงหลีกไป”“มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้ามิเห็นแก่ความเป็นพ่อลูก”เมื่อได้ยินดังนั้น โหยวเซียงก็ตกใจจนยืนอึ้งไปกับที่ แล้วกล่าวเสียงสั่นเครือ “พ่อ… พ่อลูกหรือ?”ตอนนี้เสียงของฝูเหมิ่งก็มิใช่เสียงของฝูเหมิ่งอีกต่อไปแล้วเมื่อต่งอวิ๋นซิ่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1419

    ขณะนี้เอง โหยวเซียงก็ฉวยโอกาสหลบหนีจากมือของลั่วชิงยวนไปได้ต่งอวิ๋นซิ่วมองพวกเขาอย่างเย็นชา “ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็เตรียมตัวตายได้เลย!”ทันใดนั้นบนคานเรือนก็ปรากฏชายชุดดำจำนวนมากพร้อมถือหน้าไม้เล็งมาที่พวกเขาลูกดอกอันคมกริบประกายแสงเย็นลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก หัวเราะอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าเจ้าจะเตรียมการมาอย่างดี ตอนนี้พวกข้าคงหนีออกจากห้องนี้ไปมิได้แล้วใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนสังเกตประตูห้อง รวมถึงผนังห้องทุกด้าน แล้วพบว่ามีกลไกบนประตูเหนือศีรษะ ต่งอวิ๋นซิ่วหัวเราะเบา ๆ “แน่นอน นี่คือห้องกลไกที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือพวกเจ้าที่บุกรุกเข้ามาบนเขา”“วันนี้พวกเจ้าอย่าหวังว่าจะได้ออกไปแม้แต่คนเดียว!”ลั่วชิงยวนจับกระบี่ห้วงสวรรค์แน่นแล้วพุ่งไปที่กลไกจุดหนึ่งบนผนังห้อง ฟาดฟันกระบี่ลงไปอย่างแรงต่งอวิ๋นซิ่วรีบดึงโหยวเซียงหลบหลีกไปแต่ใครเล่าจะรู้ว่าลั่วชิงยวนมิได้โจมตีพวกนาง แต่กลับฟันกลไกบนผนังห้องทำให้ประตูห้องลงกลอนอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นเช่นนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็หัวเราะเยาะ “เจ้าช่างรนหาที่ตายยิ่งนัก”ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างมีความหมาย “เช่นนั้นรึ? ยังมิรู้เลยว่าใครกันแน่ที่จะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1418

    ร่างที่เดินออกมาจากฝูงชนนั้นมีท่าทางคุกคามยิ่งนักลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย นั่นคือสตรีที่นางเห็นในความทรงจำของอวี๋ตันเฟิ่งต่งอวิ๋นซิ่ว!โหยวเซียงดิ้นรนพลางเงยหน้ามองต่งอวิ๋นซิ่วด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านแม่… เป็นความผิดของลูกเองที่ปล่อยให้พวกมันขึ้นเขามาได้”หากมิใช่เพราะลั่วชิงยวนรู้ทางลับของวัดร้างแห่งนั้น พวกนางคงไม่มีทางขึ้นเขามาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้!ต่งอวิ๋นซิ่วมองด้วยความเจ็บปวดแล้วตวาดใส่ลั่วชิงยวน “ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าตายเยี่ยงไร้ที่ฝัง!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “เมื่อคืนยังพยายามทำลายวิญญาณที่เหลือของอวี๋ตันเฟิ่งอยู่เลย วันนี้เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าศัตรูของเจ้าคือใคร?”“ใครกันแน่ที่จะตายแบบไร้ที่ฝัง ยังบอกมิได้หรอก”เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็สะดุ้งเฮือก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากท่าทางของนางดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยายามซ่อนไว้ได้ดีนางมองลั่วชิงยวนอย่างใจเย็น แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงเมืองแห่งภูตผี ก็คงต้องการของล้ำค่าของเมืองแห่งภูตผีสินะ”“พวกเจ้าอยากได้อะไร ข้าสามารถให้เจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1417

    นางปฏิเสธอย่างหนักแน่นลั่วชิงยวนกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น “พานางไปด้วย ไปวัดร้าง!”พวกเนางมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ โหยวเซียงดิ้นรนตลอดทาง แต่โฉวสือชีและคนใบ้จ้องมองทุกการกระทำของนางอย่างใกล้ชิด มิเปิดโอกาสให้นางหลบหนีไปได้แม้แต่น้อยเมื่อเดินไปได้ไกลมากพอสมควร เสียงไก่ขันยามรุ่งอรุณก็ดังขึ้นแล้วในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวัดร้างแห่งนั้นในวัดร้างมีพระพุทธรูปที่เป็นซากปรักหักพังล้มลงบนพื้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีใครมานานแล้วเมื่อมองหาอย่างละเอียดก็พบรอยเท้าบนพื้นลั่วชิงยวนมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือสถานที่ที่ถูกต้อง!โหยวเซียงจ้องมองทุกการกระทำของลั่วชิงยวนอย่างกระวนกระวาย เกรงว่าลั่วชิงยวนจะพบกลไกเข้าแต่ลั่วชิงยวนกลับสังเกตปฏิกิริยาของโหยวเซียง ค่อย ๆ เดินไปในแต่ละที่โดยอาศัยการสังเกตปฏิกิริยาโหยวเซียงสุดท้ายลั่วชิงยวนจึงเพ่งเล็งไปที่ผนังด้านหนึ่งแล้วเริ่มค้นหากลไกเสียงเปิดกลไกดังแกร๊กดังขึ้นประตูบานหนึ่งบนพื้นพลันเปิดออกหลังจากที่ลั่วชิงยวนเปิดประตูแล้วก็พบว่าด้านล่างยังมีประตูอีกบานหนึ่ง และบนนั้นก็มีกลไกเช่นกันแต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วเรื่องนี้ง่ายมากเมื่อประต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status