Share

บทที่ 420

Author: หว่านชิงอิ๋น
หน้าคฤหาสน์จุดโคมไว้ ทั้งคฤหาสน์ดูสะอาดและอลังเป็นอย่างมาก

“ไปสิ ท่านเหม่อหาปะไรเล่า?” ซ่งเชียนฉู่มิรับรู้ถึงความผิดปกติ นางดึงลั่วชิงยวนขึ้นหน้า

ลั่วชิงยวนมิได้เอ่ยอันใด นางจะดูว่าในคฤหาสน์นี้มีสิ่งใดกันแน่ ทำให้ขายออกไปได้ด้วยเงินเพียงสองร้อยตำลึง

ทั้งคู่ผลักประตูคฤหาสน์ออก

ในคฤหาสน์สว่างไสว พื้นดินสะอาดสะอ้าน โคมใต้ชายคาเจิดจ้าเป็นพิเศษ

พืชพันธุ์นานาเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา

“ข้าคิดว่าท่านเสียเงินสองร้อยตำลึงซื้อคฤหาสน์เก่ากึ้กกลับมา มิคิดว่าดีเช่นนี้! ไม่เลวเลยหนา!”

“ในเมืองหลวง คฤหาสน์เช่นนี้คงต้องขายราคาเป็นพันตำลึงแน่!”

ซ่งเชียนฉู่พูดไป พร้อมเดินไปทางเรือนใน

“เช่นนั้นคฤหาสน์นี้จึงมีปัญหาไงเล่า เจ้าเดินช้าหน่อย” ลั่งชิงยวนตะโกนตามหลังนาง

จู่ ๆ กลับพบว่าซ่งเชียนฉู่มิตอบนางแล้ว

นางเดินเข้าไปในเรือนราวกับถูกสะกด

ลั่วชิงยวนรีบขึ้นหน้าไปดึงนางไว้ กลับพบว่าซ่งเชียนฉู่จดจ้องภายในเรือนอย่างหลงใหล นัยน์ตาเต็มไปด้วยแสงจากโคมบุปผาที่เจิดจรัส

คนทั้งคนราวกับต้องมนตร์

ลั่วชิงยวนเองก็จดจ้องไปที่กลางคฤหาสน์

ข้างหูค่อย ๆ มีเสียงร้องเพลงส่งมา

กลางเรือนตั้งเวทีทรงกลมไว้ ใต้เวทีมีเก้าอี้
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 421

    เมื่อคนที่อยู่บนเวทีโดนบังคับให้หยุดร่ายระบำ ใบหน้ายิ้มแย้มของพวกเขากลับเย็นชาขึ้นทีละนิด ๆ สายตาไม่เป็นมิตรเผยให้เห็นแววขุ่นเคืองอยู่บ้าง เมื่อลั่วชิงยวนวิ่งมาถึง นางก็อดมิได้ที่จะเหลียวกลับไปมอง แต่บนเวทีกลับว่างเปล่า! ทันใดนั้นนางก็รู้สึกว่ามือที่กอดแขนนางไว้กลับเย็นเฉียบราวกับน้ำแข็ง ชวนให้หนาวเหน็บจนรู้สึกเจ็บปวด นางจึงหันกลับไปทันที ในสายตาของนาง มือที่กอดแขนของนางเอาไว้ช่างซีดขาวไร้สีเลือด อาภรณ์ขาวผืนหนึ่งปลิวสะบัดท่ามกลางสายลมแล้วล่องลอยอยู่ตรงหน้านาง “คุณชาย ท่านจะไปที่ใดหรือเจ้าคะ? ไยจึงไม่ฟังข้าร้องเพลงให้จบเสียก่อนเล่า?” น้ำเสียงอ่อนโยนค่อย ๆ ดังขึ้น ลมหายใจที่พ่นออกมากลับเต็มไปด้วยไอเยียบเย็น เมื่อลั่วชิงยวนเงยหน้าขึ้นก็เห็นสตรีใบหน้าซีดขาวค่อย ๆ คลี่ยิ้มออกมาทีละนิด ๆ ริมฝีปากของนางแดงฉานมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ทั้ง ๆ ที่นางกำลังแย้มยิ้ม กลับมีโลหิตไหลทะลักออกมาจากมุมปากอย่างน่าประหลาด ผิวซีดขาวที่ปะปนไปด้วยโลหิตข้นเหนียวหย่อมหนึ่งก็ร่วงหล่นลงมาด้วย ดวงตาของนางหดเหลือเพียงตาขาวเท่านั้น เมื่อมีลมกระโชกแรงหอบหนึ่ง ก็ราวกับจะแหลกสลายลงได้ทุกเมื่อ ลั่วชิงยวนสีหน้าสงบนิ่งพลา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 422

    ”หลังจากมอบเรือนหลังนั้นให้เถ้าแก่ร้านข้าง ๆ เอาไปขายก็ย้ายออกไปวันนั้นเลย ไม่มีความเคลื่อนไหวหน้าเรือนหลังนั้นเลย ตอนเย็นถึงได้มีคนเข้าไปตรวจสอบดู” “ตอนที่ข้าเข้าไปยามค่ำคืน ทั้งตระกูลก็จมอยู่ใต้ถังน้ำแล้ว” เมื่อลั่วชิงยวนได้ยินเช่นนี้ก็จิตใจสั่นสะท้าน นางจำได้ว่าคราที่ลิ่นฝูเสวี่ยพูดจา ลมหายใจของนางกลับแผ่กลิ่นอายเยียบเย็น ตอนนี้พบศพของทั้งตระกูลอยู่ในน้ำก็บ่งบอกได้ว่าเรื่องราวเกี่ยวโยงสัมพันธ์กัน “ท่านลุง ท่านทราบรายละเอียดหรือไม่?” ลั่วชิงยวนถาม ท่านลุงยกกาน้ำชาขึ้นมารินชาร้อนสองถ้วย จากนั้นก็ค่อย ๆ เอ่ยขึ้นมาว่า “เจ้าของคฤหาสน์หลังนั้นเป็นพ่อค้าวาณิชย์จากนอกเมือง เดิมทีซื้อคฤหาสน์หลังนี้เอาไว้เพื่อสะดวกในการติดต่อค้าขาย ผู้คนบนถนนสายนี้ต่างเรียกเขาว่าคหบดีหลี่” “เมื่อปีนั้น เขาหลงรักคณิกานางหนึ่งในหอนางโลมตั้งแต่แรกพบ ทั้งยังทุ่มเงินมหาศาลเพื่อไถ่ตัวนางออกมา โดยไม่สนใจข่าวลือจากภายนอก จากนั้นก็แต่งนางเข้ามาอย่างยิ่งใหญ่สมฐานะ” “ยามนั้นเจ้าจักได้ยินเสียงภรรยาของเขาร้องรำทำเพลงอยู่ในเรือนอยู่เสมอ” “แต่ผู้ใดจะรู้เล่าว่าคหบดีหลี่จะแต่งภรรยาอยู่ที่บ้านเกิดแล้ว เมื่อภรรยาเ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 423

    “เฮ้อ โชคชะตาช่างเล่นตลกกับผู้คน!” ครั้นหอสมุทรมรกตรุ่งเรืองเฟื่องฟู ลั่วชิงยวนยังไม่ถือกำเนิด ดังนั้นนางย่อมไม่มีความทรงจำเรื่องนั้นอยู่เลย แต่เมื่อได้ยินท่านลุงเล่าเรื่องนั้นและเห็นแววตาเร่าร้อนของเขา ไม่ว่าผู้ใดก็ย่อมนึกออกว่ายามนั้นถนนสายนี้คึกคักและเจริญรุ่งเรืองมากเพียงใด ลั่วชิงยวนกับท่านลุงนั่งอยู่ในลานแล้วพูดคุยกันจวบจนรุ่งอรุณยังไต่ถามเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับหอสมุทรมรกต นางยังได้รู้อีกว่าท่านลุงผู้นี้แซ่ฟ่าน เขาเองก็มาที่เมืองหลวงเพราะหลงใหลในตัวลิ่นฝูเสวี่ย ในที่สุดเขาก็ซื้อร้านที่นี่เพื่อจะได้ใกล้ชิดกับลิ่นฝูเสวี่ยมากขึ้น ทว่าลิ่นฝูเสวี่ยกลับประสบอุบัติเหตุจนสิ้นชีพ ยามนั้นถนนสายนี้คึกคักยิ่งนัก มีรถม้าของขุนนางชั้นสูงวิ่งกันขวักไขว่อยู่ทุกวี่ทุกวัน จากนั้นสตรีทั้งหลายก็จะเข้ามาดีดพิณและร่ายรำกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ดังนั้นยามที่ลิ่นฝูเสวี่ยถูกรับตัวไปจึงหามีผู้ใดคิดว่ามีอะไรแปลก ๆ ไม่ แต่หลังจากคราวนั้นนางก็มิได้กลับมาอีกเลย ท่านลุงฟ่านเป็นคนจิตใจดี หากมีผู้ใดบังเอิญเผลอเข้าไปในเรือนหลังนั้น เขาก็จะช่วยเหลือคนเอาไว้ หลังจากผ่านมานานหลายปีขนาดนั้น เขากลั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 424

    วันนั้นลั่วชิงยวนสั่งให้คนมาทำความสะอาดทั้งภายในและภายนอกเรือน พร้อมแขวนโคมไฟเอาไว้หน้าประตูและลานเรือน เมื่อปราศจากภาพลวงตา เรือนก็แลดูใหญ่โตโอ่อ่าเหมือนกับที่เห็นเมื่อคืนนี้ เนื่องจากมีความเคลื่อนไหวไม่น้อยจึงเป็นที่รู้กันไปทั่วถนนทั้งสาย ช่วงกลางวันในเรือนหามีความเคลื่อนไหวอันใด ลั่วชิงยวนกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ก็หาทราบไม่ว่าคนไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหน ตกกลางคืน ลั่วชิงยวนก็มาที่ประตูเรือนอีกครั้ง แต่คราวนี้นางมิได้พาซ่งเชียนฉู่มาด้วย เพราะเกรงว่าอีกฝ่ายอาจจะหวาดกลัวได้ ลมราตรีหอบหนึ่งพัดพาความเหน็บหนาวมาเล็กน้อย จากนั้นประตูก็เปิดดังเอี๊ยดราวกับต้อนรับนางให้เข้ามา ลั่วชิงยวนก้าวเดินเข้ามาในลานเรือนด้วยฝีเท้ามั่นคง นางได้ยินเสียงของลิ่นฝูเสวี่ยกำลังร้องเพลงจากเรือนชั้นในแล้วค่อย ๆ เดินเข้าไป ยังคงเป็นเวทีทรงกลม ดังเช่นเมื่อคืนนี้ คนที่อยู่บนเวทีกำลังร้องรำทำเพลงราวกับมีผู้ชมอยู่ ลั่วชิงยวนมัวแต่ครุ่นคิด ทว่าชั่วครู่ต่อมา ความเหน็บหนาวก็ไต่ขึ้นมาตามแผ่นหลังของนางแล้วนิ้วมือเย็นเฉียบก็ค่อย ๆ วางลงบนไหล่ของนาง ลมหายใจหอมกรุ่นราวดอกกล้วยไม้เอ่ยกระซิบว่า “คุณชาย มาเต้นรำกันเถอะเ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 425

    เมื่อเห็นว่านางไม่มีเจตนาจะต่อสู้อย่างเห็นได้ชัด งูยักษ์ก็ค่อย ๆ อันตรธานหายไปท่ามกลางความมืด เมื่อพลังกดดันวิญญาณรอบตัวสลายไป ลิ่นฝูเสวี่ยก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกแล้วมองลั่วชิงยวนด้วยสายตาหวาดระแวง อีกฝ่ายไม่คาดคิดเลยว่าแม่นางน้อยจะมีผู้ช่วยเหลือที่แข็งแกร่งเช่นนั้น อีกฝ่ายหาทราบไม่ว่าแม่นางน้อยอย่างนางจะสามารถควบคุมงูยักษ์ตนนั้นได้ ลั่วชิงยวนค่อย ๆ ก้าวเดินเข้ามาหา แต่ลิ่นฝูเสวี่ยกลับถอยหลังไปสองก้าวอย่างระวังระไว ราชันย์อสรพิษทำเอาอีกฝ่ายรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาจริง ๆ เสียแล้ว นับเป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้ ถึงแม้ว่าลิ่นฝูเสวี่ยจะมีชีวิตอยู่มานานหลายปี แต่ก็ไม่อาจเทียบได้กับอายุและตบะของราชันย์อสรพิษ นางไม่ต้องออกแรงก็จัดการกับลิ่นฝูเสวี่ยได้แล้ว “แม่นางหลิน ไม่ต้องกลัว” ลั่วชิงยวนเดินเข้ามาอีกก้าว แต่ลิ่นฝูเสวี่ยกลับเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ข้าจักไปคืนนี้แหละ ข้ามิต้องการเรือนหลังนี้อีกต่อไปแล้ว” ลิ่นฝูเสวี่ยเอ่ยพลางเหลือบมองเรือนหลังใหญ่ สายตาของนางเต็มไปด้วยความไม่ยินยอมพร้อมใจ ลิ่นฝูเสวี่ยคิดว่าลั่วชิงยวนจะขับไล่นางไป เมื่อลั่วชิงยวนได้ยินเช่นนี้เข้าก็ยิ้มขึ้นมา

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 426

    ลั่วชิงยวนกำหมัดแน่น ความทรงจำของนางคงอยู่ตอนอายุสิบสามปีเท่านั้น จากนั้นนางก็นึกอันใดมิออกแล้ว มิหนำซ้ำนางยังจำชื่อมารดาของตนมิได้เสียด้วยซ้ำไป นางถึงขนาดถามท่านป้าลั่วหรงและคนที่น่าจะรู้จักมารดาของตน แต่ก็หามีผู้ใดล่วงรู้ชื่อมารดาของลั่วชิงยวนไม่ เนื่องจากนางเป็นฮูหยินอัครมหาเสนาบดี คนภายนอกจวนจึงเรียกนางว่าฮูหยินลั่ว “ข้าจำชื่อนางมิได้ก็จริง แต่ทุกคนเรียกนางว่าฮูหยินลั่ว นางเป็นฮูหยินของลั่วไห่ผิง” เมื่อลิ่นฝูเสวี่ยได้ยินเช่นนี้ก็หน้าเปลี่ยนสีอยู่บ้าง “ท่านถามถึงนางไปเพื่ออันใดกัน?” ลั่วชิงยวนรู้สึกตกตะลึง “เจ้ารู้จักนางด้วยรึ?!” ลิ่นฝูเสวี่ยเลิกคิ้วแล้วยิ้มพลางกล่าวว่า “ข้ารู้จักนาง” “ไม่เพียงพวกเรารู้จักกัน แต่พวกเรายังค่อนข้างสนิทสนมกันด้วย” ลั่วชิงยวนหัวใจบีบรัด นางกำลังจะได้ทราบเรื่องของมารดาตนเองแล้ว หรือว่ามารดาของลั่วชิงยวนจะเป็นนายหญิงของอีกฝ่าย? “เช่นนั้น…” ลั่วชิงยวนอดรนทนไม่ไหวจนต้องถามออกมา แต่ลิ่นฝูเสวี่ยกลับค่อย ๆ ยิ้มพลางกล่าวว่า “ข้าไม่ทำการค้าที่ขาดทุนหรอกนะ หากท่านปรารถนาสิ่งใดจากข้า ท่านก็ต้องมอบสิ่งที่ข้าปรารถนาเป็นการแลกเปลี่ยน” “มิฉ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 427

    “ตามที่เจ้าว่ามา เจ้าคงสนิทสนมกับท่านแม่ของข้ามาก ไฉนเจ้าถึงมิบอกข้า? นางตายไปแล้ว เจ้ามิอยากรู้หรือว่านางตายเช่นไร?” ลิ่นฝูเสวี่ยเงยหน้าพลางหัวเราะแล้วค่อย ๆ เอ่ยขึ้นมาว่า “ตอนนี้ข้าเองก็เป็นคนตายเหมือนกันนะ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า” “เช่นนั้นมารดาของข้าก็…” ลั่วชิงยวนหัวใจบีบรัด ลิ่นฝูเสวี่ยเดินกรีดกรายด้วยท่าทีไม่รีบร้อน “ผู้ที่มีความยึดติดลึกล้ำจักมีจุดจบดั่งเช่นตัวข้า แต่ความยึดติดของมารดาท่านอาจหาใช่การมีชีวิตอยู่ก็เป็นได้” “หาใช่การมีชีวิตอยู่กระนั้นหรือ?” ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วแล้วรีบถามว่า “นั่นมันเรื่องอันใดกัน? เจ้ารู้ว่ามารดาของข้าตายได้อย่างไรใช่หรือไม่?” แต่ลิ่นฝูเสวี่ยกลับยกยิ้มมุมปากด้วยท่าทีเปี่ยมเสน่ห์ “ข้าบอกไปแล้ว ข้าเป็นคนทำมาค้าขาย หากท่านปรารถนาสิ่งใดจากข้า ท่านก็ต้องมีเงื่อนไขมาแลกเปลี่ยน” ลั่วชิงยวนรู้สึกหน่วงอยู่ในอก นายหญิงตายไปแล้ว มิหนำซ้ำลูกสาวของนายหญิงก็ตายไปด้วย จากนั้นนางก็มาเกิดใหม่ในร่างลูกสาวของนายหญิง เรื่องทั้งหมดนี้ล้วนเป็นโชคชะตากระนั้นหรือ? นายหญิงตายได้อย่างไร? นางจะต้องรู้ให้จงได้! “ก็ได้ ข้าจักให้เจ้ายึดร่างของข้า!” “แต่มาทำความเข้าใ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 428

    ลั่วชิงยวนรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง “ท่านอ๋องมาแต่เช้าถึงเพียงนี้ ใช่เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?” ฟู่เฉินหวนมองเข้าไปข้างในพลางกล่าวว่า “วันนี้ตัวข้ามาหาแม่นางซ่ง” “แม่นางซ่งยังมิตื่น ท่านอ๋องประสงค์สิ่งใดหรือพ่ะย่ะค่ะ?” ลั่วชิงยวนถาม ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วพลางกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ข้าอยากซื้อโอสถ!” “แม่นางซ่งมีเครื่องยาสมุนไพรล้ำค่าอยู่มากหลาย ตัวข้าต้องการโสมร้อยปีมาช่วยชีวิตคนเป็นการด่วน มิทราบว่าแม่นางซ่งมีหรือไม่ ตัวข้ายอมจ่ายสิบเท่าของราคาเดิมเลย!” หากเป็นผู้อื่นที่มาซื้อและได้ยินราคาที่สูงกว่าถึงสิบเท่า ลั่วชิงยวนก็คงจะขายให้ทันทีโดยไม่ลังเลสักนิด แต่จู่ ๆ ฟู่เฉินหวนก็เสนอราคาของโอสถอายุวัฒนะให้ถึงสิบเท่าตัว ย่อมมิใช่เพื่อจุดประสงค์ทั่ว ๆ ไปเป็นแน่ ยามนี้ลั่วไห่ผิงคงจะป่วยหนัก ฟู่เฉินหวนต้องการโอสถไปช่วยชีวิตลั่วไห่ผิงใช่หรือไม่? โอสถที่มอบให้ลั่วไห่ผิงเป็นของขวัญในงานเลี้ยงวันเกิดเมื่อครั้งล่าสุดยังไม่พออีกกระนั้นหรือ? เมื่อซ่งเชียนฉู่ได้ยินเสียงก็เดินออกมา “สิบเท่าของราคาเดิมกระนั้นหรือ? ท่านอ๋องจักเอาไปใช้ทำอันใดเพคะ?” ฟู่เฉินหวนจึงกล่าวว่า “ไม่สะดว

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1422

    ร่างที่ไร้ศีรษะร่างหนึ่งถือกระบี่เดินเข้ามาหาลั่วชิงยวน โซ่เหล็กด้านหลังลากคนสามคนไว้แม้จะออกแรงสุดกำลังแล้วก็ยังฉุดรั้งโหยวจิ้งเฉิงไว้มิได้แต่ร่างของโหยวจิ้งเฉิงในตอนนี้ไม่มีศีรษะแล้ว ยากที่จะควบคุมร่างกายได้ลั่วชิงยวนถือกระบี่เงื้อฟันไปยังร่างของฝูเหมิ่ง เช่นเดียวกับตอนที่โหยวจิ้งเฉิงตัดแขนขาของอวี๋ตันเฟิ่งนางกำลังแก้แค้นและระบายความแค้นอย่างบ้าคลั่งตัดแขนของเขาขาดทีละข้างกระบี่ห้วงสวรรค์ร่วงลงสู่พื้นไปพร้อมกับแขนจากนั้นขาทั้งสองข้างของเขาก็ขาดกระเด็นอวี๋ตันเฟิ่งอาละวาดแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งเมื่อมองไปยังซากศพที่กองอยู่บนพื้น ดวงตาของลั่วชิงยวนก็ราวกับถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉานใต้หล้าเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดทั้งสามที่อยู่มิไกลต่างตกตะลึงมิเคยเห็นฉากที่นองเลือดเช่นนี้มาก่อนแต่ถึงแม้ร่างกายจะแหลกละเอียด โหยวจิ้งเฉิงก็ยังมิตายทันใดนั้นมีร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากซากศพ แล้วลอยละลิ่วไปอวี๋ตันเฟิ่งกรีดร้องแหลม “โหยวจิ้งเฉิง เจ้าอย่าหวังว่าจะหนีไปไหนได้อีก! ข้าจะทำให้เจ้ามิได้ผุดได้เกิด!”พลังในร่างของนางพลันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นลมพายุโหมกระหน่ำ ลั่วชิงยวนรู้สึกราว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1421

    ใบหน้านั้นบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นโหยวจิ้งเฉิง“ต่อไปก็ถึงตาพวกเจ้าแล้ว” เขาเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้งเย็นเยือกโฉวสือชีกำกระบี่ในมือแน่น ปกป้องคนใบ้และอวี๋โหรวไว้ส่วนลั่วชิงยวนค่อย ๆ ก้าวเท้าไปข้างหน้าในดวงตาค่อย ๆ ก่อเกิดจิตสังหารนางหลับตาลง แล้วกล่าวว่า “อวี๋ตันเฟิ่ง ไปแก้แค้นของเจ้าเถิด”ลั่วชิงยวนมอบร่างของตนให้อวี๋ตันเฟิ่งโดยสมบูรณ์เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของนางยังคงเป็นใบหน้าเดิม เพียงแต่แววตานั้นกลับดุดันยิ่งนัก ดวงตาสีแดงก่ำเต็มไปด้วยความแค้นเสียงของอวี๋ตันเฟิ่งดังขึ้น “โหยวจิ้งเฉิง ความแค้นระหว่างข้ากับเจ้า วันนี้ถึงคราวสะสางแล้ว”“สิบกว่าปีที่ผ่านมา ข้าคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะฉีกร่างเจ้าเป็นชิ้น ๆ อย่างไรถึงจะสาสมกับความแค้นในใจข้า”“แต่คาดมิถึงว่าเจ้าจะตายไปแล้ว”“แต่ก็มิเป็นไร วันนี้ข้าจะฉีกร่างเจ้าให้เป็นชิ้น ๆ ให้ได้!”เมื่อกล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็กระโจนเข้าไปเสียงอาวุธปะทะกันอย่างรุนแรงดังขึ้นแต่ในเวลานี้เอง โหยวจิ้งเฉิงก็พุ่งไปยังกำแพง คว้ากระบี่ห้วงสวรรค์มาได้ จากนั้นกระโจนออกนอกห้องไปอวี๋ตันเฟิ่งรีบไล่ตามไปสีหน้าคนใบ้เปลี่ยนไป กระบี่ห้วงสวรรค์! หากฝูเหมิ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1420

    ต่งอวิ๋นซิ่วตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบยกมือขึ้นมาป้องกัน แล้วต่อสู้กับฝูเหมิ่งแต่พลังในตอนนี้ของต่งอวิ๋นซิ่วเทียบกับฝูเหมิ่งแล้วยังอ่อนแอกว่ามากนักสุดท้ายก็ถูกฝูเหมิ่งบีบคอไว้แน่นลั่วชิงยวนเห็นชัดเจนว่าในร่างของฝูเหมิ่งตอนนี้คือโหยวจิ้งเฉิง!เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ? เขาจะฆ่าต่งอวิ๋นซิ่วภรรยาของตนหรือ?เมื่อเห็นดังนั้น โหยวเซียงก็ชักกระบี่พุ่งเข้าไปหมายจะช่วยต่งอวิ๋นซิ่ว แต่ฝูเหมิ่งกลับมิหลบเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้กระบี่ในมือนางแทงทะลุร่างจากนั้นฝูเหมิ่งก็ฟาดมือไปทีหนึ่ง โหยวเซียงจึงกระเด็นปลิวไปโหยวเซียงกระอักเลือดออกมาต่งอวิ๋นซิ่วร้อนใจยิ่งนัก “เซียงเอ๋อร์ มิต้องสนใจแม่ รีบหนีไป!”โหยวเซียงจะทนมองดูมารดาของตนถูกฆ่าได้อย่างไร นางพยายามลุกขึ้นมาสู้ต่อแต่ฝูเหมิ่งกลับมองโหยวเซียงอย่างดุดัน แล้วกล่าวขู่ “คนที่ข้าต้องการฆ่ามีเพียงต่งอวิ๋นซิ่วเท่านั้น เจ้าจงหลีกไป”“มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้ามิเห็นแก่ความเป็นพ่อลูก”เมื่อได้ยินดังนั้น โหยวเซียงก็ตกใจจนยืนอึ้งไปกับที่ แล้วกล่าวเสียงสั่นเครือ “พ่อ… พ่อลูกหรือ?”ตอนนี้เสียงของฝูเหมิ่งก็มิใช่เสียงของฝูเหมิ่งอีกต่อไปแล้วเมื่อต่งอวิ๋นซิ่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1419

    ขณะนี้เอง โหยวเซียงก็ฉวยโอกาสหลบหนีจากมือของลั่วชิงยวนไปได้ต่งอวิ๋นซิ่วมองพวกเขาอย่างเย็นชา “ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็เตรียมตัวตายได้เลย!”ทันใดนั้นบนคานเรือนก็ปรากฏชายชุดดำจำนวนมากพร้อมถือหน้าไม้เล็งมาที่พวกเขาลูกดอกอันคมกริบประกายแสงเย็นลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก หัวเราะอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าเจ้าจะเตรียมการมาอย่างดี ตอนนี้พวกข้าคงหนีออกจากห้องนี้ไปมิได้แล้วใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนสังเกตประตูห้อง รวมถึงผนังห้องทุกด้าน แล้วพบว่ามีกลไกบนประตูเหนือศีรษะ ต่งอวิ๋นซิ่วหัวเราะเบา ๆ “แน่นอน นี่คือห้องกลไกที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือพวกเจ้าที่บุกรุกเข้ามาบนเขา”“วันนี้พวกเจ้าอย่าหวังว่าจะได้ออกไปแม้แต่คนเดียว!”ลั่วชิงยวนจับกระบี่ห้วงสวรรค์แน่นแล้วพุ่งไปที่กลไกจุดหนึ่งบนผนังห้อง ฟาดฟันกระบี่ลงไปอย่างแรงต่งอวิ๋นซิ่วรีบดึงโหยวเซียงหลบหลีกไปแต่ใครเล่าจะรู้ว่าลั่วชิงยวนมิได้โจมตีพวกนาง แต่กลับฟันกลไกบนผนังห้องทำให้ประตูห้องลงกลอนอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นเช่นนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็หัวเราะเยาะ “เจ้าช่างรนหาที่ตายยิ่งนัก”ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างมีความหมาย “เช่นนั้นรึ? ยังมิรู้เลยว่าใครกันแน่ที่จะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1418

    ร่างที่เดินออกมาจากฝูงชนนั้นมีท่าทางคุกคามยิ่งนักลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย นั่นคือสตรีที่นางเห็นในความทรงจำของอวี๋ตันเฟิ่งต่งอวิ๋นซิ่ว!โหยวเซียงดิ้นรนพลางเงยหน้ามองต่งอวิ๋นซิ่วด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านแม่… เป็นความผิดของลูกเองที่ปล่อยให้พวกมันขึ้นเขามาได้”หากมิใช่เพราะลั่วชิงยวนรู้ทางลับของวัดร้างแห่งนั้น พวกนางคงไม่มีทางขึ้นเขามาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้!ต่งอวิ๋นซิ่วมองด้วยความเจ็บปวดแล้วตวาดใส่ลั่วชิงยวน “ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าตายเยี่ยงไร้ที่ฝัง!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “เมื่อคืนยังพยายามทำลายวิญญาณที่เหลือของอวี๋ตันเฟิ่งอยู่เลย วันนี้เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าศัตรูของเจ้าคือใคร?”“ใครกันแน่ที่จะตายแบบไร้ที่ฝัง ยังบอกมิได้หรอก”เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็สะดุ้งเฮือก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากท่าทางของนางดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยายามซ่อนไว้ได้ดีนางมองลั่วชิงยวนอย่างใจเย็น แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงเมืองแห่งภูตผี ก็คงต้องการของล้ำค่าของเมืองแห่งภูตผีสินะ”“พวกเจ้าอยากได้อะไร ข้าสามารถให้เจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1417

    นางปฏิเสธอย่างหนักแน่นลั่วชิงยวนกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น “พานางไปด้วย ไปวัดร้าง!”พวกเนางมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ โหยวเซียงดิ้นรนตลอดทาง แต่โฉวสือชีและคนใบ้จ้องมองทุกการกระทำของนางอย่างใกล้ชิด มิเปิดโอกาสให้นางหลบหนีไปได้แม้แต่น้อยเมื่อเดินไปได้ไกลมากพอสมควร เสียงไก่ขันยามรุ่งอรุณก็ดังขึ้นแล้วในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวัดร้างแห่งนั้นในวัดร้างมีพระพุทธรูปที่เป็นซากปรักหักพังล้มลงบนพื้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีใครมานานแล้วเมื่อมองหาอย่างละเอียดก็พบรอยเท้าบนพื้นลั่วชิงยวนมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือสถานที่ที่ถูกต้อง!โหยวเซียงจ้องมองทุกการกระทำของลั่วชิงยวนอย่างกระวนกระวาย เกรงว่าลั่วชิงยวนจะพบกลไกเข้าแต่ลั่วชิงยวนกลับสังเกตปฏิกิริยาของโหยวเซียง ค่อย ๆ เดินไปในแต่ละที่โดยอาศัยการสังเกตปฏิกิริยาโหยวเซียงสุดท้ายลั่วชิงยวนจึงเพ่งเล็งไปที่ผนังด้านหนึ่งแล้วเริ่มค้นหากลไกเสียงเปิดกลไกดังแกร๊กดังขึ้นประตูบานหนึ่งบนพื้นพลันเปิดออกหลังจากที่ลั่วชิงยวนเปิดประตูแล้วก็พบว่าด้านล่างยังมีประตูอีกบานหนึ่ง และบนนั้นก็มีกลไกเช่นกันแต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วเรื่องนี้ง่ายมากเมื่อประต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status