Share

บทที่ 652

Author: หว่านชิงอิ๋น
ลั่วชิงยวนสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อนางหันกลับมาก็พบว่าเป็นหลิวไท่เฟยที่กำลังยิ้มอยู่

ลั่วชิงยวนพยักหน้าเล็กน้อย

หลิวไท่เฟยชวนนางไปที่พระตำหนัก “เข้าไปคุยกันข้างในเถอะ”

ลั่วชิงยวนมองไปที่สวนหลังพระตำหนักอันเงียบสงบ นางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพยักหน้า “เพคะ”

ขณะที่นางเดินเข้าไปในพระตำหนัก กลิ่นเลือดก็ยิ่งรุนแรงขึ้น

มีรอยเลือดฝังรากลึกอยู่บนพื้นซึ่งเดิมเป็นกองซากปลาที่ถูกผ่าครั้งที่แล้ว ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตอนนั้นทำความสะอาดเลือดไม่ทั่วถึงหรือไม่

ในขณะที่เดินผ่านไปนางก็ยังคงได้กลิ่นคาวเลือด

นางให้ความสนใจกับท่าทางของหลิวไท่เฟยเป็นพิเศษ แต่กลับไม่มีความผิดปกติใด ๆ ขณะที่นางเดินผ่าน นางไม่รู้ว่าถานสี่อธิบายให้อีกฝ่ายฟังเรื่องที่ปลาเหล่านั้นหายไปแล้วเช่นไร

เมื่อเข้ามาในห้อง ความมืดทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เมื่อมองไปรอบ ๆ นางก็พบว่าหน้าต่างทุกบานถูกปิดไว้ทั้งหมด

“หลิวไท่เฟยเพคะ เหตุใดจึงต้องปิดหน้าต่าง?” ลั่วชิงยวนถามด้วยความสับสน

หลิวไท่เฟยยิ้มและพูดว่า “บอกตามตรง ห้องนี้เป็นห้องที่ข้าขังตัวเองไว้ยามที่ข้าเสียสติ”

ขณะที่หลิวไท่เฟยพูด นางก็ดึงกล่องออกมาจากใต้เตียงซึ่งม
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 653

    ปฏิกิริยาของหลิวไท่เฟยทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกแปลกใจ สิ่งที่นางพูดหมายถึงอะไร?คิดว่าด้วยคำพูดเหล่านั้นแล้ว นางจะหันไปช่วยหลิวไท่เฟยจัดการกับฟู่เฉินหวนอย่างนั้นหรือ?“หม่อมฉันเชื่อพระนางเพคะ แต่หม่อมฉันมิอาจตัดสินใจได้ว่าควรช่วยใคร หม่อมฉันเพียงอยากรู้ความจริงเกี่ยวกับกลียุคในวังเท่านั้นเพคะ”หลิวไท่เฟยขมวดคิ้วพร้อมกับท่าทีร้อนรน นางลังเลที่จะพูดอยู่หลายครั้ง แต่ท้ายที่สุด นางก็พึมพำคำพูดอย่างฟังไม่ได้ศัพท์ออกมาเท่านั้นดูจากสภาพจิตใจของนางแล้ว นี่นับว่าไม่ปกติเลยจริง ๆ “หลิวไท่เฟยเพคะ?” นางพยายามตะโกนทันใดนั้นหลิวไท่เฟยก็สะดุ้งและมองดูนางด้วยความตกใจ ดวงตาของนางก็เบิกกว้างด้วยความกลัว“เจ้าโกหกข้า! เจ้าไม่เกี่ยวข้องกับกลียุคในวังสักนิด เหตุใดเจ้าจึงอยากรู้ความจริง? นอกจากช่วยฟู่เฉินหวนรวบรวมข้อมูล เจ้าทำสิ่งอื่นใดอีกรึ?”“เจ้าอยากจะบอกเจ้าเจ็ดว่าข้าเป็นผู้ที่ฆ่าแม่ผู้ให้กำเนิดของเขางั้นรึ? เจ้าอยากจะพรากเขาไปจากข้าใช่หรือไม่?”“อ๋องผู้นี้เลวทรามจริง ๆ!”ขณะที่หลิวไท่เฟยพูด ดวงตาของนางก็แดงต่ำ นางเต็มไปด้วยอารมณ์คลุ้มคลั่งจนน้ำตาไหลอาบหน้า ทว่าสายตานางกลับดูดุร้ายผิดปกติ ไม่เ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 654

    ผมของลั่วชิงยวนตั้งตระหง่านขณะที่นางมองไปที่หลิวไท่เฟยด้วยความตกใจ “ท่านเป็นบ้าไปแล้วหรือ?!”“ใช่ ข้าบ้าไปแล้ว” หลิวไท่เฟยหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดมีดที่เปื้อนเลือด“พวกนางอยู่กับข้ามาหลายปีแล้ว และเป็นคนที่ข้าไว้วางใจมากที่สุด” นางเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้ม“แล้วท่านก็ฆ่าพวกนางเช่นนั้นหรือ?”หลิวไท่เฟยยิ้มอย่างขมขื่นแล้วพูดว่า “แม้พวกนางจะยังไม่ตายในตอนนี้ แต่สุดท้ายอย่างไรเสียพวกนางก็ต้องตายอยู่ดี หากพวกนางรับใช้ข้า ไม่ช้าก็เร็วพวกนางจะต้องตาย แทนที่จะปล่อยให้พวกนางตายด้วยน้ำมือผู้อื่น ไม่สู้ให้ข้าเป็นผู้ลงมือเองจะดีกว่า ถือเสียว่าส่งพวกนางไปพร้อมเจ้าด้วย”ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วแน่นหลิวไท่เฟยเดินเข้ามาหานางช้า ๆ พร้อมกับมองนางด้วยสายตาอันเย็นชา ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคืองว่า “หากมิใช่เพราะเจ้า พวกนางคงมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกสองสามปีหรืออาจจะมากกว่าสิบปี”“เกี่ยวอันใดกับหม่อมฉัน?” ลั่วชิงยวนต้องการถามสิ่งที่มีประโยชน์มากที่สุด“เพราะเจ้าทำให้ใครบางคนขุ่นเคือง พวกเขาต้องการฆ่าเจ้า เช่นนั้นพวกเขาจึงนึกถึงมีดเล่มนี้ในมือข้า” หลิวไท่เฟยพูดพร้อมมองมีดในมือของนางแล้วยิ้มเยาะลั่วชิงยวนตกตะลึง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 655

    เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หลิวไท่เฟยจึงเย้ยหยันกับตัวเองแล้วพูดว่า “พี่สาม? ข้ามิสนพี่สามของเจ้าด้วยซ้ำ หากข้ามิฆ่านาง วันพรุ่งพวกเราทั้งคู่ก็จะต้องตาย!”“จิ่งหลี เจ้ารีบไปจากที่นี่ ข้าเป็นคนฆ่านาง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอันใดกับเจ้า!”เมื่อพูดจบ หลิวไท่เฟยก็ผลักฟู่จิ่งหลีออกจากห้องทันทีแต่ฟู่จิ่งหลีกลับคว้าไหล่ของหลิวไท่เฟยไว้ด้วยสีหน้าจริงจังเป็นพิเศษ "ไท่เฟย อย่าได้ทำผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า!"เมื่อได้ยินเช่นนี้ น้ำตาของหลิวไท่เฟยก็ไหลลงมาจากขอบตาทันที ทันใดนั้นนางก็หัวเราะและเช็ดน้ำตา “ได้ ข้าจะทำตามที่เจ้าพูด”“ข้าจะปล่อยนางไปตอนนี้ ข้าจะรับผลที่ตามมาเพียงผู้เดียว”เมื่อพูดอย่างนั้น หลิวไท่เฟยก็เดินไปที่ผนัง นางเปิดภาพวาดออก ก่อนที่จะกดกลไกให้ทำงาน ทว่า ในขณะนั้น ลั่วชิงยวนได้ยินเสียงเครื่องมือเหล็กกำลังเคลื่อนไหวลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว นางตะโกนขึ้นทันทีว่า “องค์ชายเจ็ด ระวัง! รีบออกไปเร็ว!”ฟู่จิ่งหลีตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แต่เขากลับมีเวลาไม่มากพอกลไกถูกเปิดใช้งาน และกรงเหล็กก็ตกลงมาจากด้านบน ปกคลุมร่างฟู่จิ่งหลีไว้ข้างในกรงเหล็กไม่ใหญ่นัก แต่ก็คุมขังคนได้อย่างแน่นหนา ฟู่จิ่งหลีตก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 656

    ดวงตาของฟู่จิ่งหลีเบิกกว้างอย่างกังวล “ไม่!”ทว่า ทันทีที่มีดหล่นลง ลั่วชิงยวนก็กัดฟันและฉีกโซ่เหล็กออกอย่างรุนแรง โซ่เส้นนี้เชื่อมต่อตู้เสื้อผ้าจึงไม่ยึดแน่นเท่ากับโซ่เหล็กเส้นอื่น ในขณะที่โซ่เหล็กหลุดออก นางก็ยกโซ่เหล็กเส้นนั้นกั้นมีดของหลิวไท่เฟยไว้ทันทีหลิวไท่เฟยรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก นางแทบรอไม่ไหวที่จะฆ่าลั่วชิงยวน นางต้องไม่หนีจากเรื่องนี้!นางต้องต่อสู้เพื่อหาทางออกให้กับองค์ชายเจ็ด!เนื่องจากโซ่เหล็กที่มือขวาของนางเริ่มหลวม ลั่วชิงยวนจึงสามารถขยับร่างกายของนางได้ นางหลบไปด้านข้างเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีของหลิวไท่เฟย จากนั้นนางจึงจับยันต์ด้วยปลายนิ้วของนางแล้วเรียกเจินหลันเบา ๆ ยันต์นั่นพุ่งโจมตีไปที่กลไกบนผนังทันที และร่างของเจินหลันก็รีบมุ่งหน้าไปที่กำแพงเช่นกัน กลไกส่งเสียงดังคลิกและทุกอย่างก็กลับเป็นดังเดิม ฟู่จิ่งหลีถูกปล่อยตัวเช่นกันในขณะที่หลิวไท่เฟยกระโจนเข้าหาลั่วชิงหยวน นางกลับถูกลั่วชิงยวนถีบออกไป นางพยุงฟู่จิ่งหลีขึ้นมาแล้ววิ่งออกไป “เร็วเข้า”หลิวไท่เฟยซึ่งนอนอยู่บนพื้นเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มอย่างเย็นชา “เจ้าออกไปไม่ได้”ลั่วชิงยวนและฟู่จิ่งหลีกำลั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 657

    เจินหลันเปิดประตูห้องครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยเสียงดังปัง ด้วยแรงลมนั้นก็ทำให้คนทั้งสองที่อยู่ข้างนอกเปิดประตูออกได้ในที่สุด ชั่วครู่ต่อมา ลมแรงก็พัดปะทะเข้ากับร่างของลั่วชิงยวนแล้วส่งนางออกไปคิ้วของฟู่เฉินหวนกระตุก เขารีบเข้าไปกอดลั่วชิงยวนทันทีขณะที่ลั่วชิงยวนกระเด็นออกมา นางก็เห็นว่าร่างของเจินหลันถูกเปลวเพลิงเผาไหม้ไปครึ่งหนึ่งนางพูดทั้งน้ำตาด้วยความเกลียดชัง "คนที่บอกข้าว่ามีบางอย่างผิดปกติกับรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมในตอนนั้นคือนางรับใช้ที่อยู่ข้างกายไทเฮา!"“แม้แต่การตายของข้าก็ถูกวางแผนไว้ นางต้องการใช้ข้าเป็นเครื่องมือในการฆ่าคน”“ฮ่าฮ่าฮ่า... ข้าทำสิ่งต่าง ๆ เพื่อศัตรูมาโดยตลอด ข้าถูกหลอกอย่างน่าสมเพช!”ร่างของเจินหลันค่อย ๆ เลือนหายท่ามกลางความเจ็บปวดและความรู้สึกไร้ค่าอย่างไม่มีที่สิ้นสุดในขณะนั้น ไม้ขีดไฟในมือของหลิวไท่เฟยก็ลุกเป็นไฟและทำให้ทั่วทั้งห้องถูกไฟลามอย่างรวดเร็ว เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ ฟู่จิ่งหลีก้าวไปข้างหน้าอย่างกะทันหัน เขาอ้าปากกว้าง แต่กลับไม่อาจส่งเสียงใดได้เลย สายไปแล้ว ฟู่เฉินหวนเรียกคนมาช่วยดับไฟทันทีลั่วชิงยวนยืนข้างเขาอย่างเงียบ ๆ เพื่อคร

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 658

    ทันทีที่พวกเขาสบตากัน ก็เป็นเรื่องยากสำหรับทั้งสองที่จะสงบสติอารมณ์ลงได้ ฟู่เฉินหวนมองไปทางอื่นทันทีพลางพูดอย่างใจเย็น “หลิวไท่เฟยสิ้นพระชนม์แล้ว ไทเฮาจะมิปล่อยเจ้าไป พระนางจะตั้งคำถามกับเจ้าอย่างแน่นอน”“เจ้าเพียงบอกว่าหลิวไท่เฟยเชิญเจ้ามาเป็นแขก เจ้ามิรู้เรื่องอันใด”ลั่วชิงยวนรู้ว่าการตายของหลิวไท่เฟยจะไม่จบลงง่าย ๆ และคำพูดของฟู่เฉินหวนคือสิ่งที่เขาตั้งใจแบกรับเรื่องเหล่านี้ไว้เองหลังจากมองไปรอบ ๆ แล้วเห็นว่าไม่มีผู้ใดสนใจพวกเขา ลั่วชิงยวนจึงลดเสียงลงและพูดว่า “ไทเฮาอยู่เบื้องหลังกลียุคในวัง หลิวไท่เฟยเป็นเพียงเบี้ยในมือของไทเฮา รวมทั้งเจินหลันก็ถูกใช้โดยไทเฮาด้วยเช่นกัน”เมื่อฟู่เฉินหวนได้ยินคำพูดนี้ เขาก็มองดูนางด้วยความตกใจ “มีอะไรผิดปกติหรือ?” ลั่วชิงยวนมองเขาอย่างสงสัยฟู่เฉินหวนมองไปทางอื่นอีกครั้งแล้วพูดว่า “ข้าคิดมิถึงว่าเจ้าจะบอกข้าเรื่องนี้”ลั่วชิงยวนรู้เรื่องกลียุคในวังเมื่อใด เหตุใดนางจึงเอ่ยความลับของกลียุคในวังให้เขาฟัง แน่นอนว่าฟู่เฉินหวนไม่รู้ว่า ลั่วชิงยวนรู้เรื่องกลียุคในวังมาเป็นเวลานานแล้ว และนางยังรู้ด้วยว่าฟู่เฉินหวนกำลังติดตามค้นหาเบาะแสของเหตุก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 659

    คำพูดนี้หมายถึงนางกับฟู่เฉินหวนหรือไม่?ใช่แล้ว ตอนนี้ดูเหมือนว่าพวกเขาจะลงเรือลำเดียวกันแล้ว“เช่นนั้น ยินดีต้อนรับท่านเข้าร่วม” ลั่วชิงยวนยกยิ้มฟู่จิ่งหลีหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดว่า “หลังจากที่ท่านกลับไปแล้ว ท่านต้องบอกข้าทุกอย่าง”“ไม่มีปัญหา”ทั้งสองออกจากวังและกลับไปยังตำหนักอ๋องหลังจากที่ลั่วชิงยวนทายาและพันผ้าพันแผลให้ตัวเองแล้ว นางก็บอกฟู่จิ่งหลีทุกอย่างเกี่ยวกับหลิวไท่เฟยรวมทั้งเบาะแสที่ได้รับจากเจินหลันในความเป็นจริง สามารถอธิบายได้อย่างชัดเจนด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำ แต่ฟู่จิ่งหลีต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม เช่นนั้นลั่วชิงยวนจึงค่อย ๆ อธิบายให้เขาฟัง ทว่า ช่วงเวลาอันเงียบสงบนั้นช่างสั้นนัก มีคนมาถึงตำหนักแล้ว แม่นมเติ้งรีบเข้ามาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงประหม่าว่า “พระชายา นางกำนัลจิ่นชูจากพระตำหนักโช่วสี่มาที่นี่เจ้าค่ะ คราวนี้นางมาพร้อมกับราชองครักษ์!”“นางมาถึงแล้ว” ดวงตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชานางยืนขึ้นและมุ่งหน้าไปที่ลานตำหนักโดยมีจือเฉาคอยประคองอยู่ด้านข้าง จิ่นชูยืนอยู่ที่ประตูทางเข้า ตามมาด้วยกลุ่มราชองครักษ์ซึ่งดูองอาจและไม่เป็นมิตร “พระชายาอ๋องผู

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 660

    ดวงตาของฟู่จิ่งหลีเย็นชาเป็นอย่างมาก น้ำเสียงเย็นชาของเขาแสดงให้เห็นถึงอำนาจ “นี่เป็นท่าทางของเจ้าเมื่อพูดคุยกับองค์ชายงั้นรึ?”“เป็นบ่าวจะอวดเพียงนี้ได้เยี่ยงไร?”“ผู้ใดเป็นคนมอบความกล้าให้กับเจ้า?”ในขณะนี้ ท่าทางอันน่าเกรงขามของฟู่จิ่งหลี คือสิ่งที่ลั่วชิงยวนมองเห็นว่าเขาสมฐานะองค์ชายบางทีอาจเป็นเพราะเขาอยู่ห่างไกลจากราชสำนักและวังหลวงมาเป็นเวลานาน หลายคนจึงลืมไปว่าแท้จริงแล้วเขาก็เป็นถึงองค์ชาย แม้ว่าเขาจะไม่มีตำแหน่งอย่างเป็นทางการที่สูงส่งและไม่น่าเกรงขามเท่าฟู่เฉินหวน ทว่า เขาก็ยังคงเป็นเชื้อพระวงศ์!จิ่นชูเป็นคนสนิทของไทเฮา แม้ว่าองค์จักรพรรดิจะพบนาง เขาก็จะไม่พูดคุยกับนางด้วยท่าทีเช่นนั้นเมื่อฟู่จิ่งหลีพูดจบแล้ว ดาบในมือของเขาก็ชี้ไปที่มือของจิ่นชูซึ่งอยู่ใต้แขนเสื้อก็กำหมัดแน่น“องค์ชายเจ็ด นี่เป็นคำสั่งของไทเฮา! ท่านต้องการต่อต้านไทเฮาหรือเพคะ?!” จิ่นชูระงับความโกรธในใจพร้อมกับพยายามสงบสติอารมณ์ แต่มือของฟู่จิ่งหลีกลับจับดาบไว้แน่น โดยไม่ยอมแพ้หรือกลัวแต่อยากใด ดวงตาของเขายังคงเย็นชาอย่างยิ่ง “ข้าบอกเจ้าแล้ว วันนี้ไม่มีใครสามารถพาลั่วชิงยวนออกไปได้ทั้งนั้น!”

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1422

    ร่างที่ไร้ศีรษะร่างหนึ่งถือกระบี่เดินเข้ามาหาลั่วชิงยวน โซ่เหล็กด้านหลังลากคนสามคนไว้แม้จะออกแรงสุดกำลังแล้วก็ยังฉุดรั้งโหยวจิ้งเฉิงไว้มิได้แต่ร่างของโหยวจิ้งเฉิงในตอนนี้ไม่มีศีรษะแล้ว ยากที่จะควบคุมร่างกายได้ลั่วชิงยวนถือกระบี่เงื้อฟันไปยังร่างของฝูเหมิ่ง เช่นเดียวกับตอนที่โหยวจิ้งเฉิงตัดแขนขาของอวี๋ตันเฟิ่งนางกำลังแก้แค้นและระบายความแค้นอย่างบ้าคลั่งตัดแขนของเขาขาดทีละข้างกระบี่ห้วงสวรรค์ร่วงลงสู่พื้นไปพร้อมกับแขนจากนั้นขาทั้งสองข้างของเขาก็ขาดกระเด็นอวี๋ตันเฟิ่งอาละวาดแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งเมื่อมองไปยังซากศพที่กองอยู่บนพื้น ดวงตาของลั่วชิงยวนก็ราวกับถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉานใต้หล้าเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดทั้งสามที่อยู่มิไกลต่างตกตะลึงมิเคยเห็นฉากที่นองเลือดเช่นนี้มาก่อนแต่ถึงแม้ร่างกายจะแหลกละเอียด โหยวจิ้งเฉิงก็ยังมิตายทันใดนั้นมีร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากซากศพ แล้วลอยละลิ่วไปอวี๋ตันเฟิ่งกรีดร้องแหลม “โหยวจิ้งเฉิง เจ้าอย่าหวังว่าจะหนีไปไหนได้อีก! ข้าจะทำให้เจ้ามิได้ผุดได้เกิด!”พลังในร่างของนางพลันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นลมพายุโหมกระหน่ำ ลั่วชิงยวนรู้สึกราว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1421

    ใบหน้านั้นบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นโหยวจิ้งเฉิง“ต่อไปก็ถึงตาพวกเจ้าแล้ว” เขาเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้งเย็นเยือกโฉวสือชีกำกระบี่ในมือแน่น ปกป้องคนใบ้และอวี๋โหรวไว้ส่วนลั่วชิงยวนค่อย ๆ ก้าวเท้าไปข้างหน้าในดวงตาค่อย ๆ ก่อเกิดจิตสังหารนางหลับตาลง แล้วกล่าวว่า “อวี๋ตันเฟิ่ง ไปแก้แค้นของเจ้าเถิด”ลั่วชิงยวนมอบร่างของตนให้อวี๋ตันเฟิ่งโดยสมบูรณ์เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของนางยังคงเป็นใบหน้าเดิม เพียงแต่แววตานั้นกลับดุดันยิ่งนัก ดวงตาสีแดงก่ำเต็มไปด้วยความแค้นเสียงของอวี๋ตันเฟิ่งดังขึ้น “โหยวจิ้งเฉิง ความแค้นระหว่างข้ากับเจ้า วันนี้ถึงคราวสะสางแล้ว”“สิบกว่าปีที่ผ่านมา ข้าคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะฉีกร่างเจ้าเป็นชิ้น ๆ อย่างไรถึงจะสาสมกับความแค้นในใจข้า”“แต่คาดมิถึงว่าเจ้าจะตายไปแล้ว”“แต่ก็มิเป็นไร วันนี้ข้าจะฉีกร่างเจ้าให้เป็นชิ้น ๆ ให้ได้!”เมื่อกล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็กระโจนเข้าไปเสียงอาวุธปะทะกันอย่างรุนแรงดังขึ้นแต่ในเวลานี้เอง โหยวจิ้งเฉิงก็พุ่งไปยังกำแพง คว้ากระบี่ห้วงสวรรค์มาได้ จากนั้นกระโจนออกนอกห้องไปอวี๋ตันเฟิ่งรีบไล่ตามไปสีหน้าคนใบ้เปลี่ยนไป กระบี่ห้วงสวรรค์! หากฝูเหมิ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1420

    ต่งอวิ๋นซิ่วตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบยกมือขึ้นมาป้องกัน แล้วต่อสู้กับฝูเหมิ่งแต่พลังในตอนนี้ของต่งอวิ๋นซิ่วเทียบกับฝูเหมิ่งแล้วยังอ่อนแอกว่ามากนักสุดท้ายก็ถูกฝูเหมิ่งบีบคอไว้แน่นลั่วชิงยวนเห็นชัดเจนว่าในร่างของฝูเหมิ่งตอนนี้คือโหยวจิ้งเฉิง!เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ? เขาจะฆ่าต่งอวิ๋นซิ่วภรรยาของตนหรือ?เมื่อเห็นดังนั้น โหยวเซียงก็ชักกระบี่พุ่งเข้าไปหมายจะช่วยต่งอวิ๋นซิ่ว แต่ฝูเหมิ่งกลับมิหลบเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้กระบี่ในมือนางแทงทะลุร่างจากนั้นฝูเหมิ่งก็ฟาดมือไปทีหนึ่ง โหยวเซียงจึงกระเด็นปลิวไปโหยวเซียงกระอักเลือดออกมาต่งอวิ๋นซิ่วร้อนใจยิ่งนัก “เซียงเอ๋อร์ มิต้องสนใจแม่ รีบหนีไป!”โหยวเซียงจะทนมองดูมารดาของตนถูกฆ่าได้อย่างไร นางพยายามลุกขึ้นมาสู้ต่อแต่ฝูเหมิ่งกลับมองโหยวเซียงอย่างดุดัน แล้วกล่าวขู่ “คนที่ข้าต้องการฆ่ามีเพียงต่งอวิ๋นซิ่วเท่านั้น เจ้าจงหลีกไป”“มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้ามิเห็นแก่ความเป็นพ่อลูก”เมื่อได้ยินดังนั้น โหยวเซียงก็ตกใจจนยืนอึ้งไปกับที่ แล้วกล่าวเสียงสั่นเครือ “พ่อ… พ่อลูกหรือ?”ตอนนี้เสียงของฝูเหมิ่งก็มิใช่เสียงของฝูเหมิ่งอีกต่อไปแล้วเมื่อต่งอวิ๋นซิ่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1419

    ขณะนี้เอง โหยวเซียงก็ฉวยโอกาสหลบหนีจากมือของลั่วชิงยวนไปได้ต่งอวิ๋นซิ่วมองพวกเขาอย่างเย็นชา “ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็เตรียมตัวตายได้เลย!”ทันใดนั้นบนคานเรือนก็ปรากฏชายชุดดำจำนวนมากพร้อมถือหน้าไม้เล็งมาที่พวกเขาลูกดอกอันคมกริบประกายแสงเย็นลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก หัวเราะอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าเจ้าจะเตรียมการมาอย่างดี ตอนนี้พวกข้าคงหนีออกจากห้องนี้ไปมิได้แล้วใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนสังเกตประตูห้อง รวมถึงผนังห้องทุกด้าน แล้วพบว่ามีกลไกบนประตูเหนือศีรษะ ต่งอวิ๋นซิ่วหัวเราะเบา ๆ “แน่นอน นี่คือห้องกลไกที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือพวกเจ้าที่บุกรุกเข้ามาบนเขา”“วันนี้พวกเจ้าอย่าหวังว่าจะได้ออกไปแม้แต่คนเดียว!”ลั่วชิงยวนจับกระบี่ห้วงสวรรค์แน่นแล้วพุ่งไปที่กลไกจุดหนึ่งบนผนังห้อง ฟาดฟันกระบี่ลงไปอย่างแรงต่งอวิ๋นซิ่วรีบดึงโหยวเซียงหลบหลีกไปแต่ใครเล่าจะรู้ว่าลั่วชิงยวนมิได้โจมตีพวกนาง แต่กลับฟันกลไกบนผนังห้องทำให้ประตูห้องลงกลอนอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นเช่นนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็หัวเราะเยาะ “เจ้าช่างรนหาที่ตายยิ่งนัก”ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างมีความหมาย “เช่นนั้นรึ? ยังมิรู้เลยว่าใครกันแน่ที่จะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1418

    ร่างที่เดินออกมาจากฝูงชนนั้นมีท่าทางคุกคามยิ่งนักลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย นั่นคือสตรีที่นางเห็นในความทรงจำของอวี๋ตันเฟิ่งต่งอวิ๋นซิ่ว!โหยวเซียงดิ้นรนพลางเงยหน้ามองต่งอวิ๋นซิ่วด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านแม่… เป็นความผิดของลูกเองที่ปล่อยให้พวกมันขึ้นเขามาได้”หากมิใช่เพราะลั่วชิงยวนรู้ทางลับของวัดร้างแห่งนั้น พวกนางคงไม่มีทางขึ้นเขามาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้!ต่งอวิ๋นซิ่วมองด้วยความเจ็บปวดแล้วตวาดใส่ลั่วชิงยวน “ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าตายเยี่ยงไร้ที่ฝัง!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “เมื่อคืนยังพยายามทำลายวิญญาณที่เหลือของอวี๋ตันเฟิ่งอยู่เลย วันนี้เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าศัตรูของเจ้าคือใคร?”“ใครกันแน่ที่จะตายแบบไร้ที่ฝัง ยังบอกมิได้หรอก”เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็สะดุ้งเฮือก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากท่าทางของนางดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยายามซ่อนไว้ได้ดีนางมองลั่วชิงยวนอย่างใจเย็น แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงเมืองแห่งภูตผี ก็คงต้องการของล้ำค่าของเมืองแห่งภูตผีสินะ”“พวกเจ้าอยากได้อะไร ข้าสามารถให้เจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1417

    นางปฏิเสธอย่างหนักแน่นลั่วชิงยวนกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น “พานางไปด้วย ไปวัดร้าง!”พวกเนางมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ โหยวเซียงดิ้นรนตลอดทาง แต่โฉวสือชีและคนใบ้จ้องมองทุกการกระทำของนางอย่างใกล้ชิด มิเปิดโอกาสให้นางหลบหนีไปได้แม้แต่น้อยเมื่อเดินไปได้ไกลมากพอสมควร เสียงไก่ขันยามรุ่งอรุณก็ดังขึ้นแล้วในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวัดร้างแห่งนั้นในวัดร้างมีพระพุทธรูปที่เป็นซากปรักหักพังล้มลงบนพื้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีใครมานานแล้วเมื่อมองหาอย่างละเอียดก็พบรอยเท้าบนพื้นลั่วชิงยวนมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือสถานที่ที่ถูกต้อง!โหยวเซียงจ้องมองทุกการกระทำของลั่วชิงยวนอย่างกระวนกระวาย เกรงว่าลั่วชิงยวนจะพบกลไกเข้าแต่ลั่วชิงยวนกลับสังเกตปฏิกิริยาของโหยวเซียง ค่อย ๆ เดินไปในแต่ละที่โดยอาศัยการสังเกตปฏิกิริยาโหยวเซียงสุดท้ายลั่วชิงยวนจึงเพ่งเล็งไปที่ผนังด้านหนึ่งแล้วเริ่มค้นหากลไกเสียงเปิดกลไกดังแกร๊กดังขึ้นประตูบานหนึ่งบนพื้นพลันเปิดออกหลังจากที่ลั่วชิงยวนเปิดประตูแล้วก็พบว่าด้านล่างยังมีประตูอีกบานหนึ่ง และบนนั้นก็มีกลไกเช่นกันแต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วเรื่องนี้ง่ายมากเมื่อประต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status