Share

บทที่ 907

Author: หว่านชิงอิ๋น
“แค่ก แค่ก แค่ก…” หัวหน้าสำนักหมอหลวงไอหลายครั้งอย่างเจ็บปวด

เขายังคงมองลั่วชิงยวนด้วยความโกรธ เขาหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดด้วยความยากลำบากว่า “ตลอดหลายปีที่ผ่านมาสำนักหมอหลวงรักษาผู้ป่วยนับมิถ้วนทั้งในและนอกวังหลวง เหตุใดท่านจึงกล่าวหาว่าพวกเราไร้ความสามารถไปได้!”

“ข้ามิยอมรับ!”

“ข้ามิเชื่อว่า ท่านจะสามารถรักษาองค์จักรพรรดิสูงสุดให้หายได้หรอก!”

ลั่วชิงยวนยิ้มและเลิกคิ้ว “ถ้าอย่างนั้นเรามาเดิมพันกันดีหรือไม่?”

“หากข้ามิสามารถรักษาองค์จักรพรรดิสูงสุดได้ ข้าจะคุกเข่าสามครั้งและคำนับเก้าครั้งต่อสำนักหมอหลวงเพื่อขอโทษสำนักหมอหลวง! ท่านคิดว่าอย่างไรเล่า!”

ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมาหัวหน้าสำนักหมอหลวงก็มองดูนางด้วยความตกใจ

จากนั้นเขาก็พูดว่า "ดี! มาเดิมพันกัน! หากท่านสามารถรักษาองค์จักรพรรดิสูงสุดได้ ข้าก็ไม่มีหน้าจะมีชีวิตอยู่ในใต้หล้านี้อีกต่อไป!"

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ลั่วชิงยวนก็ตกใจ “ข้ามิชอบเดิมพันด้วยชีวิต เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นดีกว่า”

หัวหน้าสำนักหมอหลวงคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “หากท่านสามารถรักษาองค์จักรพรรดิสูงสุดได้ ข้าจะลาออกจากตำแหน่งและเลิกเป็นหมอ! สมุนไพรที่สั่งสมมาหลาย
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 908

    โอหังจริง ๆ!สตรีผู้นี้อายุยังน้อย แต่คำพูดกลับยโสโอหังเสียเหลือเกิน!ลั่วชิงยวนเก็บเข็มเงิน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูแคลน "โรคของท่านมิใช่ว่ารักษาได้ยาก และท่านก็มิใช่คนแรกที่ข้าได้พบกับอาการเช่นนี้"“แต่ไฉนข้าต้องรักษาท่านด้วย?”“รอจนการเดิมพันจบลง ท่านมอบยาทั้งหมดของท่านแก่ข้าเมื่อไร ข้าถึงจะพิจารณารักษาโรคของท่าน”หัวหน้าสำนักหมอหลวงตกใจเมื่อได้ยินสิ่งนี้ เนื้อตัวก็สั่นด้วยความโกรธ“ท่าน!”ลั่วชิงยวนยกยิ้มเบา ๆ “ท่านต้องดูแลร่างกายให้ดี อย่าอารมณ์เสียให้มากนัก มิเช่นนั้นท่านอาจอยู่มิทันได้เห็นผลการเดิมพัน!”หลังจากที่ลั่วชิงยวนพูดจบ นางก็เปิดประตูแล้วเดินออกไปชายชราผู้นี้แก่หงำเหงือกแล้ว แต่ยังหยิ่งยโสมิน้อยทว่าเหตุใดเขาถึงถูกพิษปีกพญามัจจุราชด้วยเล่า นี่เป็นเพราะตระกูลเหยียนกำลังควบคุมเขาด้วยหรือ?แต่ก็ดูเหมือนจะมิใช่ นั่นเพราะเมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า พิษปีกพญามัจจุราชจะทำให้เขาจะกลายเป็นเหมือนจักรพรรดิสูงสุดซึ่งก็มิต่างอะไรกับความตาย ดังนั้นจึงมิอาจใช้วิธีนี้ควบคุมเขาได้เมื่อออกจากห้อง ก็เห็นหมอหลวงอีกคนหนึ่งรออยู่ข้างนอก ซึ่งเขาคือศิษย์ของหัวหน้าสำนักหมอหลวง“ท่านมิไ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 909

    ลั่วชิงยวนมองไปที่เซิ่งไป่ชวน ยกยิ้มเบา ๆ “ต่อไปข้าจะมาหาเจ้า ให้เจ้าช่วยข้าหาสมุนไพรอีก”“หากแม่นางต้องการสิ่งใดก็เรียกหาข้าได้เสมอขอรับ” เซิ่งไป่ชวนยิ้มอย่างสุภาพจากนั้นลั่วชิงยวนก็ออกจากสำนักหมอหลวงไปเมื่อกลับมาที่ตำหนักของจักรพรรดิสูงสุด นางจึงเริ่มต้มยาและป้อนยาให้จักรพรรดิสูงสุดแม้ว่าจักรพรรดิสูงสุดจะมิสามารถพูดหรือเคลื่อนไหวได้ แต่เขาก็ยังได้สติอยู่ตลอดลั่วชิงยวนคิดว่า การเป็นเช่นนี้ตลอดปีคงเป็นเรื่องที่ยากลำบากจากนั้นเขาก็เริ่มพูดคุยกับเขา“ฝ่าบาท พระองค์น่าจะทรงทราบว่า ผู้ใดเป็นคนที่ทำร้ายพระองค์ใช่หรือไม่เพคะ”“ในเมื่อพระองค์ยังมีสติ ทั้งยังสามารถพยักพระพักตร์ หรือส่ายพระพักตร์เพื่อแสดงความต้องการได้ แล้วเหตุใดมิตรัสความจริงให้คนอื่นรู้หรือเพคะ”จักรพรรดิสูงสุดส่ายหน้า ดวงตาเต็มไปด้วยความสิ้นหวังลั่วชิงยวนคาดเดา “พระองค์ทรงกลัวว่า พวกเขาจะทำร้ายองค์จักรพรรดิ หรือทำร้ายฟู่เฉินหวนหรือเพคะ?”ดวงตาของจักรพรรดิสูงสุดเป็นประกาย จากนั้นจึงพยักหน้าดูเหมือนเขาจะมิได้คาดหวังว่านางจะเดาเหตุผลได้ จึงมองนางอย่างซาบซึ้ง“หากจะทำร้ายแม้กระทั่งลูกชายแท้ ๆ ของตน ก็ดูจะโหดเ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 910

    “เจ้ากำลังพูดว่าร้ายข้ารึ?”ลั่วชิงยวนมิแปลกใจกับการมาถึงของฟู่เฉินหวน นางได้ยินเสียงเขามานานแล้วนางเลิกคิ้ว พูดอย่างมั่นใจ “หม่อมฉันกำลังพูดความจริงเพคะ หม่อมฉันหาได้ว่าร้ายท่านไม่”ฟู่เฉินหวนเดินเข้ามา มองไปที่จักรพรรดิสูงสุดที่ดูเหมือนจะมีจิตใจดีอยู่บนเตียง แล้วถามว่า “เสด็จพ่อ ท่านรู้สึกเช่นไรบ้าง?”จักรพรรดิสูงสุดหันหน้าหนีด้วยความโกรธ มิสนใจเขาแม้แต่น้อยฟู่เฉินหวนทำอะไรมิถูกอยู่หน่อย ๆมองไปที่ลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนเลิกคิ้ว และทำท่าทางว่ามันมิเกี่ยวกับนางฟู่เฉินหวนกล่าวว่า “ข้าได้ส่งคนไปแล้ว”“หากเร็วหน่อย ห้าวันหกวันน่าจะมีข่าวกลับมา”ลั่วชิงยวนพยักหน้า“ข้าจะอยู่กับเสด็จพ่อเอง เจ้าไปพักผ่อนเถอะ”ลั่วชิงยวนรู้สึกกระหายน้ำมาก ดังนั้นนางจึงลุกขึ้นและพูดว่า “องค์จักรพรรดิสูงสุดทรงมีจิตใจแจ่มใส การพูดคุยกับพระองค์จะช่วยให้พระองค์ฟื้นตัวได้"“เข้าใจแล้ว”ฟู่เฉินหวนรับปาก นั่งบนเก้าอี้ข้างเตียง และเริ่มพูดคุยกับพ่อของเขาแต่เขาพบว่า มิว่าเขาจะพูดอะไร พ่อของเขาก็มิตอบสนองสิ่งนี้ทำให้เขาสับสนมาก เหตุใดลั่วชิงยวนจึงเสวนากับพ่อของเขาได้นานขนาดนั้นลั่วชิงยวนเดินออกจากห

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 911

    หลังจากปกครองหกตำหนักมาหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่นางตัดสินผิดพลาด“แต่ครั้งนี้ที่นางรักษาองค์จักรพรรดิสูงสุด ก็อาจเป็นโอกาสสำหรับเราด้วย”“ตราบใดที่องค์จักรพรรดิสูงสุดสิ้นพระชนม์ระหว่างการรักษาของนาง ลั่วชิงยวนจะต้องตายแน่นอน”“ไม่มีใครปกป้องนางได้!”มหาราชาจารย์เหยียนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของเราด้วย”“หากสามารถล้างพิษปีกพญามัจจุราชจากองค์จักรพรรดิสูงสุดได้ขึ้นมา เราทุกคนจะตายกันหมด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ท่านปลอมแปลงพระราชโองการของฝ่าบาทกี่ครั้ง ฝ่าบาทจะต้องสงสัยแน่นอน”พระเนตรของไทเฮาเย็นลงเล็กน้อย แสดงความเด็ดเดี่ยวขึ้นมา “วางใจเถอะ แม้ว่าเขาจะฟื้นตัวขึ้นมาได้จริง ๆ แต่ข้าก็ยังมีวิธีควบคุมเขาได้”“ท้ายที่สุดแล้ว ทุกคนมีสิ่งที่พวกเขาใส่ใจมากที่สุดเสมอ”มีความเย็นเยียบในดวงตาของไทเฮาระคนความโศกเศร้าเล็กน้อย…… ยามรุ่งเช้า ลั่วชิงยวนปรุงยาและส่งไปยังตำหนักของจักรพรรดิองค์สูงสุดฟู่เฉินหวนที่อยู่ด้านข้างอดมิได้ที่จะหาว ใบหน้าของเขาแสดงถึงความเหนื่อยล้า ดูเหมือนว่าจะมิได้นอนทั้งคืนเมื่อลั่วชิงยวนมาถึง เขาก็ไปนอนพักที่เรือนข้างสักหน่อยทุกวันจะมีคนในวัง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 912

    ลั่วเยวี่ยอิง!นางมาได้อย่างไร!“ท่านอ๋อง เหตุใดท่านมิรอหม่อมฉัน” ลั่วเยวี่ยอิงก้าวไปข้างหน้าและคล้องแขนของฟู่เฉินหวนเอาไว้ลั่วชิงยวนตกใจ และมองไปที่ฟู่เฉินหวนด้วยสายตามิเชื่อ “เหตุใดท่านจึงพานางมาที่นี่?”ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วลั่วเยวี่ยอิงรีบตอบทันที “ในฐานะภรรยาของท่านอ๋อง ข้าย่อมมาทำหน้าที่ของลูกสะใภ้ เพื่อดูแลเสด็จพ่อ”ลั่วเยวี่ยอิงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดูอบอุ่นและเป็นมิตรลั่วชิงยวนมองดูฉากนี้ พวกเขาดูเหมือนคู่รักหวานชื่น และนางเป็นคนนอกทว่าในช่วงเวลาสำคัญที่ต้องรักษาจักรพรรดิสูงสุด นางจะปล่อยให้ลั่วเยวี่ยอิงเข้าใกล้ได้อย่างไร“บาดแผลเจ้าหายแล้วรึ? ถึงได้มาที่นี่เพื่อดูแลองค์จักรพรรดิสูงสุด เจ้าแน่ใจหรือว่ามิได้มาสร้างภาระ?”ได้ยินเช่นนี้การแสดงออกของลั่วเยวี่ยอิงเปลี่ยนไปความเจ็บปวดที่ฝ่ามือของนางยังคงทำให้นางมิสามารถขยับมือได้ผ้าพันแผลถูกพันไว้อย่างแน่นหนาหมอหลวงบอกว่า มือของนางอาจมิสามารถใช้กำลังได้อีกต่อไป และมิสามารถถือของหนักได้แล้ว นั่นจะต่างอะไรกับคนพิการ?ทั้งหมดนี้เป็นเพราะลั่วชิงยวน!ดวงตาของลั่วเยวี่ยอิงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง นางเอ่ยอย่างเย็นชา “พี่หญิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 913

    ก่อนไป นางเหลือบมองฟู่เฉินหวนอย่างหมดหนทาง ฟู่เฉินหวนพยายามอดกลั้น เล็บของเขาเกือบจะจิกเข้าไปในฝ่ามือ และมิหันไปมองลั่วเยวี่ยอิงในท้ายที่สุด ลั่วเยวี่ยอิงก็ซักเสื้อผ้า แต่อาการบาดเจ็บที่มือของนางก็แย่ลงเช่นกันนางมิได้พูดอะไรออกมา แต่เมื่อลั่วชิงยวนนำยามา นางก็ต้องการหยิบชามยาจากมือของลั่วชิงยวน“พี่หญิงให้ข้าทำเถิด”นางเอื้อมมือไปหยิบมัน และทันทีที่นางแตะชามก็เจ็บจนต้องสูดหายใจลึก ๆ แล้วกดมือลงไปที่ข้อมือของตัวเองนางตั้งใจเผยให้เห็นแผลที่ฝ่ามืออย่างจงใจมีรอยมีดชัดเจน และบริเวณรอบแผลยังคงบวมและดูสาหัสมากลั่วชิงยวนเหลือบมองนางโดยมิพูดอะไร และเดินตรงไปป้อนยาให้จักรพรรดิสูงสุดใครจะรู้ว่าลั่วเยวี่ยอิงจะมิยอมรามือ “พี่หญิง ให้ข้าป้อนยาให้เสด็จพ่อเถิด”ลั่วชิงยวนวางยาบนเก้าอี้ ยืนขึ้นและลุกจากที่นั่ง แล้วพูดอย่างเย็นชา “หากเจ้ากล้าทำยาหกใส่องค์จักรพรรดิสูงสุด ก็จงไสหัวออกไปเสีย”ลั่วชิงยวนจงใจใช้คำพูดเพื่อยั่วยุอีกฝ่าย อยากให้ลั่วเยวี่ยอิงรีบจากไปเร็ว ๆลั่วเยวี่ยอิงหยิบชามยาขึ้นมา ใช้มือที่บาดเจ็บจับช้อนอย่างระมัดระวัง แล้วป้อนยาให้จักรพรรดิสูงสุดจักรพรรดิสูงสุดหลับตาและปิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 914

    หลังจากพูดอย่างนั้น ลั่วชิงยวนก็เดินออกไปอย่างเย็นชาหัวใจของฟู่เฉินหวนตึงเครียดขึ้นมาทันที“ท่านอ๋อง...” ลั่วเยวี่ยอิงเรียกเบา ๆฟู่เฉินหวนรู้สึกราวกับว่า เชือกที่ตึงอยู่ในหัวของเขากำลังจะขาด “ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปทำแผล”ลั่วชิงยวนต้มยาอีกครั้ง แล้วกลับมาป้อนให้จักรพรรดิสูงสุดกว่าจะรู้ตัว เวลาก็ล่วงเข้าสู่ยามค่ำคืนเสียแล้วคืนนี้แสงจันทร์สว่างเป็นพิเศษ และลั่วชิงยวนก็นั่งลงบนพื้นโดยเอนหลังนั่งพิงเตียงแล้วเริ่มสนทนากับจักรพรรดิสูงสุด“คืนนี้หม่อมฉันจะอยู่กับพระองค์เอง ฟู่เฉินหวนคงไม่มีเวลาหรอกเพคะ”“หม่อมฉันคิดว่า ตอนนี้คงมีคนมากมายจับจ้องพระองค์กับหม่อมฉันอยู่ พระอาการของพระองค์คงมิสามารถหายได้ในระยะเวลาอันสั้น ผู้ที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังผู้นี้ ต้องถูกจับตัวออกมาให้ได้เพคะ”“มิเช่นนั้น ในภายภาคหน้า เขาจะใช้วิธีการที่คล้ายกันนี้ทำร้ายพระองค์อีกครั้งเป็นแน่ และยากจะป้องกัน”“แต่หม่อมฉันมิสามารถจับตาดูพระองค์ได้ตลอดเวลา จริงใช่หรือไม่เพคะ?”จักรพรรดิสูงสุดคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ รู้สึกว่าสมเหตุสมผล จึงพยักหน้ารับ“เช่นนั้น พระองค์ก็ทรงร่วมมือกับหม่อมฉันเถิดเพคะ แล้วลากคนผู้นี

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 915

    จักรพรรดิสูงสุดมองนางอย่างเหยียดหยาม ราวกับกำลังถามว่านางกำลังดูแคลนผู้ใดอยู่ลั่วชิงยวนปล่อยม่านเตียงลง นั่งบนเก้าอี้ หลับตาเอนหลังพิงพนักพิง“วางพระทัยเถิดเพคะ หม่อมฉันจะปกป้องพระองค์เอง”ฟู่เฉินหวนจะมิออกไปโดยไม่มีเหตุผล และลั่วเยวี่ยอิงจะมิปวดท้องโดยไม่มีสาเหตุไทเฮาต้องการล่อให้ฟู่เฉินหวนออกไปเพื่อที่จะได้ลงมือในความเงียบงันก็มีเสียงเปิดประตูดังขึ้นคนรับใช้ในวังซึ่งแต่งกายเป็นขันทีค่อย ๆ เดินเข้ามาเขาเดินอย่างรวดเร็ว ลั่วชิงยวนหลับตาอยู่ แต่ยังรู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่เย็นเยียบและรุนแรงขันทีเดินเข้ามาใกล้เตียงจู่ ๆ ลั่วชิงยวนก็พูดว่า “ถึงเวลาแล้วหรือ?”ขันทีตกใจมาก จึงก้มศีรษะลงแล้วตอบว่า “รายงานพระชายา ถึงเวลาแล้วขอรับ”“เชิญพระชายาหลบออกไปด้วยขอรับ”ทุกวันจะมีคนมาเปลี่ยนกระโถน และช่วยจักรพรรดิสูงสุดเปลี่ยนอาภรณ์แม้แต่กลางคืนก็เช่นกันลั่วชิงยวนลุกขึ้นยืน แต่ค่อย ๆ เดินเข้ามาหาเขา เลิกคิ้วแล้วพูดว่า “เจ้านี่ดูมิค่อยคุ้นหน้าเลยนะ ช่วงนี้ดูเหมือนจะมิเคยมาที่นี่เลย”ขันทีถอยไปสองก้าวแล้วตอบว่า “บ่าวเคยมาที่นี่ครั้งหนึ่งแล้ว เราสับเปลี่ยนกันปฏิบัติหน้าที่ นี่เป็น

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1420

    ต่งอวิ๋นซิ่วตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบยกมือขึ้นมาป้องกัน แล้วต่อสู้กับฝูเหมิ่งแต่พลังในตอนนี้ของต่งอวิ๋นซิ่วเทียบกับฝูเหมิ่งแล้วยังอ่อนแอกว่ามากนักสุดท้ายก็ถูกฝูเหมิ่งบีบคอไว้แน่นลั่วชิงยวนเห็นชัดเจนว่าในร่างของฝูเหมิ่งตอนนี้คือโหยวจิ้งเฉิง!เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ? เขาจะฆ่าต่งอวิ๋นซิ่วภรรยาของตนหรือ?เมื่อเห็นดังนั้น โหยวเซียงก็ชักกระบี่พุ่งเข้าไปหมายจะช่วยต่งอวิ๋นซิ่ว แต่ฝูเหมิ่งกลับมิหลบเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้กระบี่ในมือนางแทงทะลุร่างจากนั้นฝูเหมิ่งก็ฟาดมือไปทีหนึ่ง โหยวเซียงจึงกระเด็นปลิวไปโหยวเซียงกระอักเลือดออกมาต่งอวิ๋นซิ่วร้อนใจยิ่งนัก “เซียงเอ๋อร์ มิต้องสนใจแม่ รีบหนีไป!”โหยวเซียงจะทนมองดูมารดาของตนถูกฆ่าได้อย่างไร นางพยายามลุกขึ้นมาสู้ต่อแต่ฝูเหมิ่งกลับมองโหยวเซียงอย่างดุดัน แล้วกล่าวขู่ “คนที่ข้าต้องการฆ่ามีเพียงต่งอวิ๋นซิ่วเท่านั้น เจ้าจงหลีกไป”“มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้ามิเห็นแก่ความเป็นพ่อลูก”เมื่อได้ยินดังนั้น โหยวเซียงก็ตกใจจนยืนอึ้งไปกับที่ แล้วกล่าวเสียงสั่นเครือ “พ่อ… พ่อลูกหรือ?”ตอนนี้เสียงของฝูเหมิ่งก็มิใช่เสียงของฝูเหมิ่งอีกต่อไปแล้วเมื่อต่งอวิ๋นซิ่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1419

    ขณะนี้เอง โหยวเซียงก็ฉวยโอกาสหลบหนีจากมือของลั่วชิงยวนไปได้ต่งอวิ๋นซิ่วมองพวกเขาอย่างเย็นชา “ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็เตรียมตัวตายได้เลย!”ทันใดนั้นบนคานเรือนก็ปรากฏชายชุดดำจำนวนมากพร้อมถือหน้าไม้เล็งมาที่พวกเขาลูกดอกอันคมกริบประกายแสงเย็นลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก หัวเราะอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าเจ้าจะเตรียมการมาอย่างดี ตอนนี้พวกข้าคงหนีออกจากห้องนี้ไปมิได้แล้วใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนสังเกตประตูห้อง รวมถึงผนังห้องทุกด้าน แล้วพบว่ามีกลไกบนประตูเหนือศีรษะ ต่งอวิ๋นซิ่วหัวเราะเบา ๆ “แน่นอน นี่คือห้องกลไกที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือพวกเจ้าที่บุกรุกเข้ามาบนเขา”“วันนี้พวกเจ้าอย่าหวังว่าจะได้ออกไปแม้แต่คนเดียว!”ลั่วชิงยวนจับกระบี่ห้วงสวรรค์แน่นแล้วพุ่งไปที่กลไกจุดหนึ่งบนผนังห้อง ฟาดฟันกระบี่ลงไปอย่างแรงต่งอวิ๋นซิ่วรีบดึงโหยวเซียงหลบหลีกไปแต่ใครเล่าจะรู้ว่าลั่วชิงยวนมิได้โจมตีพวกนาง แต่กลับฟันกลไกบนผนังห้องทำให้ประตูห้องลงกลอนอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นเช่นนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็หัวเราะเยาะ “เจ้าช่างรนหาที่ตายยิ่งนัก”ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างมีความหมาย “เช่นนั้นรึ? ยังมิรู้เลยว่าใครกันแน่ที่จะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1418

    ร่างที่เดินออกมาจากฝูงชนนั้นมีท่าทางคุกคามยิ่งนักลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย นั่นคือสตรีที่นางเห็นในความทรงจำของอวี๋ตันเฟิ่งต่งอวิ๋นซิ่ว!โหยวเซียงดิ้นรนพลางเงยหน้ามองต่งอวิ๋นซิ่วด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านแม่… เป็นความผิดของลูกเองที่ปล่อยให้พวกมันขึ้นเขามาได้”หากมิใช่เพราะลั่วชิงยวนรู้ทางลับของวัดร้างแห่งนั้น พวกนางคงไม่มีทางขึ้นเขามาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้!ต่งอวิ๋นซิ่วมองด้วยความเจ็บปวดแล้วตวาดใส่ลั่วชิงยวน “ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าตายเยี่ยงไร้ที่ฝัง!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “เมื่อคืนยังพยายามทำลายวิญญาณที่เหลือของอวี๋ตันเฟิ่งอยู่เลย วันนี้เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าศัตรูของเจ้าคือใคร?”“ใครกันแน่ที่จะตายแบบไร้ที่ฝัง ยังบอกมิได้หรอก”เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็สะดุ้งเฮือก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากท่าทางของนางดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยายามซ่อนไว้ได้ดีนางมองลั่วชิงยวนอย่างใจเย็น แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงเมืองแห่งภูตผี ก็คงต้องการของล้ำค่าของเมืองแห่งภูตผีสินะ”“พวกเจ้าอยากได้อะไร ข้าสามารถให้เจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1417

    นางปฏิเสธอย่างหนักแน่นลั่วชิงยวนกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น “พานางไปด้วย ไปวัดร้าง!”พวกเนางมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ โหยวเซียงดิ้นรนตลอดทาง แต่โฉวสือชีและคนใบ้จ้องมองทุกการกระทำของนางอย่างใกล้ชิด มิเปิดโอกาสให้นางหลบหนีไปได้แม้แต่น้อยเมื่อเดินไปได้ไกลมากพอสมควร เสียงไก่ขันยามรุ่งอรุณก็ดังขึ้นแล้วในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวัดร้างแห่งนั้นในวัดร้างมีพระพุทธรูปที่เป็นซากปรักหักพังล้มลงบนพื้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีใครมานานแล้วเมื่อมองหาอย่างละเอียดก็พบรอยเท้าบนพื้นลั่วชิงยวนมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือสถานที่ที่ถูกต้อง!โหยวเซียงจ้องมองทุกการกระทำของลั่วชิงยวนอย่างกระวนกระวาย เกรงว่าลั่วชิงยวนจะพบกลไกเข้าแต่ลั่วชิงยวนกลับสังเกตปฏิกิริยาของโหยวเซียง ค่อย ๆ เดินไปในแต่ละที่โดยอาศัยการสังเกตปฏิกิริยาโหยวเซียงสุดท้ายลั่วชิงยวนจึงเพ่งเล็งไปที่ผนังด้านหนึ่งแล้วเริ่มค้นหากลไกเสียงเปิดกลไกดังแกร๊กดังขึ้นประตูบานหนึ่งบนพื้นพลันเปิดออกหลังจากที่ลั่วชิงยวนเปิดประตูแล้วก็พบว่าด้านล่างยังมีประตูอีกบานหนึ่ง และบนนั้นก็มีกลไกเช่นกันแต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วเรื่องนี้ง่ายมากเมื่อประต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1413

    คนของถูหมิงตายไปหมดแล้ว เหลือเพียงฉีเสวี่ยเวยเท่านั้นในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังถ้ำแห่งที่หกในคืนนั้นผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าผิดหวังเพราะในถ้ำว่างเปล่า“ดูเหมือนว่าพวกเราจะมาช้าไปก้าวหนึ่ง”ถูหมิงขมวดคิ้ว “เหลืออีกหนึ่งชิ้น ทำอย่างไรดี? หรือว่าความพยายามทั้งหมดของเราจะสูญเปล่า?”พวกเขาวุ่นวายมาหลายวัน เดินทางไปเกือบทั่วทั้งภูเขาแล้วหากสมบัติหายไปเช่นนี้ เขาคงต้องฆ่าสตรีผู้นี้เป็นแน่!ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วกล่าวว่า “เหลืออีกหนึ่งชิ้นก็เหลืออีกหนึ่งชิ้น”“หาที่ปลอดภัยก่อน”จากนั้นพวกเขาก็มายังป่าที่ค่อนข้างสะอาด ไม่มีพุ่มไม้หรือวัชพืชหนาแน่นบนพื้นมากนัก ค่อนข้างโปร่งโล่งหีบทั้งห้าใบวางอยู่บนพื้นลั่วชิงยวนกล่าวว่า “เปิดหีบกันเถิด”ทันใดนั้นดวงตาของถูหมิงก็เป็นประกาย “เปิดได้หรือ?”เขาเห็นว่าบนหีบมีแต่อักขระสีเลือดปกคลุมอยู่ จึงยั้งมือไว้หลายครั้งแม้จะอยากเปิดก็ตามเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงรีบเปิดหีบทันทีแต่เมื่อเปิดออกแล้ว ร่างกายของเขาก็แข็งทื่อไปศพ?!ทั้งยังเป็นศพที่ถูกชำแหละอีกด้วย?ฉีเสวี่ยเวยก็ตกใจกลัวลั่วชิงยวนกลับสงบสติอารมณ์ สั่งให้โฉวสือชีและคนใบ้ช่วย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1412

    “ใครกัน?!”ลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วตอบเสียงแผ่ว “ซูเซียง”“แต่ตอนนี้ควรเรียกนางว่าโหยวเซียง”“ภารกิจที่พวกเจ้าได้รับก็เป็นเพียงการละเล่นของนางเท่านั้น”“นางต้องการให้พวกเจ้าฆ่ากันเอง”และภารกิจหนังหน้าของหญิงงามที่ฉีเสวี่ยเวยได้รับ ก็คงเป็นการล่อลวงให้ฉีเสวี่ยเวยมาฆ่านางหากสามารถยืมมือคนอื่นฆ่าคนได้ โหยวเซียงก็มิจำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนเพียงแต่โหยวเซียงคาดมิถึงว่าฉีเสวี่ยเวยจะฆ่านางมิได้ กระทั่งโหยวเซียงเองก็ฆ่านางมิได้“โหยวเซียงหรือ? นางเป็นคนของเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้หรือ?” ฉีเสวี่ยเวยมองนางอย่างมิเชื่อสายตา“มิแปลกใจเลย… นางท้องแก่ถึงเพียงนั้นยังกล้ามาที่นี่ได้”ลั่วชิงยวนเห็นว่าใกล้รุ่งสางแล้ว จึงให้โฉวสือชีแก้เชือกที่มัดฉีเสวี่ยเวยไว้“ข้าจะยังมิฆ่าเจ้าตอนนี้”“มิว่าเรื่องที่เจ้ากล่าวมาจะเป็นจริงหรือไม่ก็มิสำคัญ ข้าก็มิกลัวว่าเจ้าจะไปบอกเรื่องนี้กับถูหมิง”“หากเจ้าไปบอก เรื่องเดียวที่จะเป็นผลเสียต่อพวกข้าก็คือต้องแบกหีบเพิ่มอีกมิกี่ใบ”“เพียงเท่านั้น”มิใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่นางทำเป็นร่วมมือกับถูหมิง ก็เพียงต้องการใช้คนของเขาไปขวางทางศพชายที่ถูกผนึกไว้ในถ้ำ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status