Share

บทที่ 2

Author: ฉินอันอัน
หลี่ซิ่วเหนียงนำผู้คนกลุ่มหนึ่งรีบรุดฝ่าแสงจันทร์กลับไป

ที่นางหามา ล้วนขึ้นชื่อว่าเป็นผู้หญิงขี้นินทาประจำหมู่บ้าน สามารถพูดจาบิดเบือนความจริงได้

เมื่อคนเหล่านี้เห็นสวี่อินอินและติงเฉิงหย่งนอนอยู่บนเตียงเดียวกัน คงจะถ่มน้ำลายรุมด่าทอสวี่อินอินจนไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดแน่!

ฮึ คุณหนูสูงศักดิ์ที่ยังไม่ทันกลับบ้านก็เสียความบริสุทธิ์ไปเสียแล้ว ยังจะเรียกว่าคุณหนูสูงศักดิ์ได้อีกหรือ?

นางเคยเป็นแม่นมอยู่ในจวนโหว ย่อมรู้ดีว่าพวกชนชั้นสูงเหล่านั้นทั้งเรื่องมากและจู้จี้จุกจิก มีหรือที่จะอยากได้หญิงสำส่อนที่เคยนอนกับคนอื่นแล้ว?

เมื่อถึงตอนนั้น หญิงสำส่อนที่เสียตัวก่อนแต่งงาน กับคุณหนูผู้สูงศักดิ์ที่มีความรู้ความสามารถ ต่อให้จวนหย่งผิงโหวหลับตาเลือก ก็คงเลือกได้ไม่ยาก

คิดจะกลับไปขวางทางลูกสาวของนาง ฝันไปเถอะ!

คิดได้ดังนั้น หลี่ซิ่วเหนียงก็แทบทนรอไม่ไหวแล้ว อยากจะรีบกลับถึงบ้านเสียเดี๋ยวนี้เลย

ใครจะไปรู้ว่า ห่างจากประตูบ้านประมาณหนึ่งร้อยเมตร หัวหน้าหมู่บ้านกลับพาคนกลุ่มใหญ่ถือคบเพลิงมาล้อมพวกนางเอาไว้

หลี่ซิ่วเหนียงชะงักไปครู่หนึ่ง “หัวหน้าหมู่บ้าน? ท่านทำแบบนี้หมายความว่าอย่างไร?”

หัวหน้าหมู่บ้านแค่นเสียงเย็น “ข้าควรจะเป็นคนถามเจ้ามากกว่า ว่าเจ้ากำลังจะไปไหน?”

สายตาของหลี่ซิ่วเหนียงสั่นไหว “ครอบครัวเคราะห์ร้าย เกิดเรื่องน่าอับอายขึ้นในบ้าน...”

นางกำลังคิดว่าหัวหน้าหมู่บ้านช่างมาได้จังหวะ กำลังจะทำให้เป็นเรื่องใหญ่โตอยู่พอดี ให้คนทั้งหมู่บ้านรู้ว่าคุณหนูใหญ่ลูกสาวแท้ ๆ ของจวนโหวแอบไปนอนกับผู้ชาย

ใครจะไปรู้ว่าหัวหน้าหมู่บ้านกลับไม่สนใจใยดี จากนั้นก็ออกคำสั่ง “มัดนางเอาไว้!”

หลี่ซิ่วเหนียงเริ่มตื่นตกใจ “หัวหน้าหมู่บ้าน ท่านให้คนมัดข้าโดยไม่มีเหตุผลแบบนี้ได้อย่างไร? ข้าทำผิดอะไร!”

หัวหน้าหมู่บ้านโมโหยิ่งกว่านางเสียอีก “เจ้ายังกล้าถามอีกหรือ?!”

จากนั้นก็กล่าวขึ้นทันที “ลากนางไปดูเรื่องดีที่นางก่อไว้!”

ทุกคนลากหลี่ซิ่วเหนียงเข้าไปในเรือน แล้วลากนางต่อไปยังเรือนฝั่งตะวันตก

หลี่ซิ่วเหนียงยังไม่ทันได้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ประตูห้องก็ถูกถีบเปิดออกดังโครม

อาศัยแสงจันทร์ ทุกคนเห็นชัดเจนว่ามีศพสองศพนอนอยู่บนพื้น ศพหนึ่งอ้วนท้วน เนื้อตัวเละเทะ แม้แต่ศีรษะก็มองไม่เห็น

ส่วนอีกศพ แม้ว่าร่างกายจะยังคงสภาพสมบูรณ์ แต่เลือดก็ไหลนองเต็มพื้นไปหมด

กลิ่นคาวเลือดรุนแรงลอยมาตามสายลมเข้าไปในจมูก หลี่ซิ่วเหนียงตกใจจนพูดไม่ออก

หัวหน้าหมู่บ้านชี้ไปที่ศพทั้งสอง มองหลี่ซิ่วเหนียงด้วยสีหน้าไม่พอใจ “เรื่องนี้ เจ้าจะอธิบายว่าอย่างไร! หา?!”

หลี่ซิ่วเหนียงตกตะลึงจนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว นางคิดไม่ถึงเลยว่า แค่ออกไปข้างนอกแป๊บเดียว คนขายเนื้อสวี่และติงเฉิงหย่งจะมาตายคู่กันอยู่ในเรือนฝั่งตะวันตกได้

จากนั้น หัวใจของนางพลันหนักอึ้ง ชายสารเลวผู้นี้คิดเรื่องสกปรกกับสวี่อินอินมานานแล้ว เป็นเพราะนางขัดขวางไว้ตลอด เขาจึงไม่กล้าบุ่มบ่าม

เขาต้องฉวยโอกาสตอนที่นางออกไปตามคนแน่ ๆ ผู้ชายสารเลวนี่อยากมาลวนลามสวี่อินอิน จึงเกิดเรื่องทะเลาะวิวาทกับติงเฉิงหย่ง!

เมื่อคิดได้ดังนั้น นางก็โกรธแค้นขึ้นมาทันที ตะโกนด่าทอโดยไม่คิดเลยสักนิด “สวี่อินอิน นางสารเลว นางแพศยา! ต้องเป็นเจ้าแน่ ๆ ต้องเป็นเจ้าที่ไปยั่วยวนติงเฉิงหย่ง แล้วฆ่าพ่อของเจ้า!”

ต่อหน้าทุกคน สวี่อินอินร้องไห้โฮออกมาทันที “ท่านแม่ ท่านแม่อย่าตีข้า ข้าไม่เห็นอะไรเลย ข้าไม่เห็นอะไรทั้งนั้น!”

หลี่ซิ่วเหนียงโมโหจนเสียสติ ยื่นมือจะตบหน้านางสักสองสามที

หัวหน้าหมู่บ้านกลับคว้าตัวนางไว้ มองสวี่อินอินแวบหนึ่ง แล้วเอ่ยถาม “แม่หนู ไม่ต้องกลัว บอกสิ่งที่เจ้ารู้มาให้หมด!”

จวนหย่งผิงโหวส่งคนมาแจ้งเรื่องนี้ไว้ก่อนแล้ว ในฐานะหัวหน้าหมู่บ้าน เขาย่อมรู้ฐานะที่แท้จริงของสวี่อินอิน

ดังนั้นเมื่อครู่ที่สวี่อินอินไปเชิญเขา เขาจึงตอบตกลงตามสวี่อินอินมาด้วย คนในหมู่บ้านต่างก็ต้องพึ่งพาจวนโหวในการดำรงชีวิต อินอินเป็นถึงคุณหนูของจวนโหว แน่นอนว่าจะล่วงเกินไม่ได้

สวี่อินอินกลัวจนถอยหลังไปสองสามก้าว น้ำเสียงก็สั่นเครือ “คือ คือท่านพ่อมาเห็นท่านแม่กับ...”

นางชี้ไปที่ติงเฉิงหย่งที่นอนอยู่บนพื้น “มาเห็นท่านแม่กับเขาอยู่ด้วยกัน เลยพุ่งเข้าไปทะเลาะกับเขา”

ขณะที่พูด สวี่อินอินก็ยิ่งร้องไห้หนักขึ้น “ท่านพ่อให้ข้าไปตามหัวหน้าหมู่บ้านมา ต้องการจะฟ้องว่าพวกเขาสองคนแอบเป็นชู้กัน!”

ทุกคนต่างฮือฮา

สายตาที่มองหลี่ซิ่วเหนียงก็เปลี่ยนไป

โดยเฉพาะผู้หญิงขี้นินทาพวกนั้นที่หลี่ซิ่วเหนียงไปตามมา ต่างยิ่งกลอกตาด้วยความรังเกียจ

ชิ ที่แท้ไปตามพวกนางมากลางดึก ก็เพื่อให้มาใส่ร้ายป้ายสีคนอื่นนี่เอง!

คนในหมู่บ้านใครบ้างที่ไม่รู้ว่าสวี่อินอินเป็นคนขยันขันแข็ง ตรงข้ามกับหลี่ซิ่วเหนียง ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนใจร้ายและเข้ากับคนอื่นได้ยาก เป็นตัวปัญหาประจำหมู่บ้าน

เรื่องที่นางไปคบชู้กับติงเฉิงหย่ง ก็ไม่น่าแปลกใจเลยสักนิด

หัวหน้าหมู่บ้านหรี่ตามองหลี่ซิ่วเหนียง “เจ้ายังมีอะไรจะพูดอีกหรือไม่?!”

หลี่ซิ่วเหนียงจะพูดอะไรได้อีก? นางเริ่มด่าทอด้วยความโมโห “นางเด็กสารเลวปากเสีย! เจ้ากล้าใส่ร้ายข้า!”

“หว่างขาของข้ายังสะอาดกว่าหน้าของเจ้าอีก!” นางยังคงพยายามดิ้นให้หลุดจากพันธนาการ เพื่อจะพุ่งเข้าไปหาสวี่อินอินด้วยท่าทางเดือดดาลสุดขีด

สวี่อินอินตกใจจนกรีดร้องออกมาทันที นั่งยอง ๆ ลงกับพื้นแล้วร้องไห้ออกมา

“ท่านแม่ ข้าไม่กล้าแล้ว ข้าไม่กล้าแล้วจริง ๆ ข้าไม่เห็นอะไรเลย ข้าไม่เห็นอะไรเลยจริง ๆ !”

ดูจากที่เด็กคนนี้ถูกขู่จนกลายเป็นแบบนี้ ก็คงจะพอรู้ว่าปกติแล้วหลี่ซิ่วเหนียงโหดร้ายมากเพียงใด

ขณะที่หัวหน้าหมู่บ้านกำลังว่ากล่าวหลี่ซิ่วเหนียงอยู่นั้น จู่ ๆ สายตาอันเฉียบคมของเขาก็เหลือบไปเห็นบางอย่างที่โผล่ออกมาจากอกของติงเฉิงหย่ง

เขาเกิดความคิดบางอย่าง ก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว คว้าสิ่งของที่อยู่ในอ้อมอกของติงเฉิงหย่งออกมา สีหน้าก็เปลี่ยนไป “นี่มันอะไรกัน?”

เขาสะบัดมันสองสามที เสื้อชั้นในตัวเล็กสีม่วงอมฟ้าปักลายดอกหอมหมื่นลี้ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน

ทุกคนต่างส่งเสียงเอ๊ะ จากนั้นหันไปมองหลี่ซิ่วเหนียง

เพราะตอนนี้หลี่ซิ่วเหนียงสวมเสื้อคลุมสีเดียวกัน ดูเหมือนว่าจะเป็นชุดเดียวกับเสื้อชั้นในตัวเล็กที่อยู่ในมือหัวหน้าหมู่บ้าน

เสื้อผ้าที่ใส่ติดตัวปรากฏอยู่ในอ้อมอกของติงเฉิงหย่ง ถ้าไม่ใช่การคบชู้แล้วจะเป็นอะไรได้อีก?

ตรงกับที่สวี่อินอินพูดไว้ก่อนหน้านี้ไม่มีผิดเพี้ยน

หลี่ซิ่วเหนียงก็ตกตะลึงเช่นกัน แต่แล้วก็นึกขึ้นได้

เสื้อตัวนี้ของนางมันขาดเป็นรู จึงโยนให้สวี่อินอิน ต้องการให้นางปักดอกหอมหมื่นลี้ปิดรูไว้

เวลานี้กลับมาอยู่บนตัวของติงเฉิงหย่ง!

เป็นสวี่อินอิน!

นางเด็กสารเลวนี่ใส่ร้ายนาง! นางพุ่งเข้าใส่สวี่อินอินด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว “ข้าจะฆ่าเจ้า นางเด็กสารเลวจิตใจต่ำทราม!”

“จับนางไว้!” หัวหน้าหมู่บ้านตะโกนเสียงดัง

ทันใดนั้นก็มีคนเข้ามาคว้าตัวหลี่ซิ่วเหนียงเอาไว้

มองดูหลี่ซิ่วเหนียงที่คลุ้มคลั่งราวกับคนเสียสติ หัวหน้าหมู่บ้านแค่นเสียงเย็นอย่างไม่สบอารมณ์ “มีสามีแล้วไปคบชู้กับคนอื่น ยังจะใส่ร้ายป้ายสีเด็กอีก ดูท่าทางเจ้าคงจะเสียสติไปแล้วจริง ๆ !”

ขณะที่พูด เขาก็หันไปถามผู้ดูแลคนอื่น ๆ ในหมู่บ้าน “ท่านอาท่านลุงทุกท่าน ตามกฎของหมู่บ้านเรา ถ้าแอบคบชู้ต้องจัดการอย่างไร?”

พวกผู้เฒ่าแต่ละคนโกรธราวกับตัวเองถูกสวมเขา ต่างกัดฟันพูดว่า “ถ่วงน้ำ! สองชีวิตแล้ว นางยังจะใส่ร้ายคุณหนูใหญ่แห่งจวนโหวอีก ผู้หญิงใจคอโหดเหี้ยมเช่นนี้ ต้องจับถ่วงน้ำ!”

ราชวงศ์ต้าโจวลงโทษผู้ที่ทำความผิดฐานคบชู้อย่างรุนแรง

หากสตรีใดคบชู้ สามีโกรธแค้นจนฆ่าภรรยาและชู้ตาย ก็จะถูกตัดสินว่าไม่มีความผิด

ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องอื้อฉาวแบบนี้ ส่วนใหญ่ในตระกูลจะจัดการกันเอง ไม่ได้แจ้งความกับทางการ และทางการก็จะไม่ติดตามเอาความด้วย

หัวหน้าหมู่บ้านมีอำนาจเต็มที่ในการจัดการกับหลี่ซิ่วเหนียง

เรื่องนี้มันชั่วร้ายเกินไปแล้วจริง ๆ หัวหน้าหมู่บ้านลูบเครา จากนั้นจึงตัดสินใจอย่างแน่วแน่ “เอาเถอะ เช่นนั้นก็ตามที่ท่านอาท่านลุงว่า จับถ่วงน้ำ! ไปเตรียมการ!”

ปกติแล้วเรื่องอื้อฉาวแบบนี้ ยิ่งจัดการได้เร็วเท่าไรก็ยิ่งดี

สวี่อินอินดูเหมือนจะตกใจจนหน้าซีดเผือด จนกระทั่งหัวหน้าหมู่บ้านสั่งให้คนเอาหลี่ซิ่วเหนียงไปขังไว้ในกรงแล้ว นางจึงวิ่งเหยาะ ๆ ไปหาหัวหน้าหมู่บ้าน

เอ่ยขึ้นด้วยความรีบร้อน “หัวหน้าหมู่บ้าน ข้า ข้าอยากเจอท่านแม่!”

ทุกคนต่างมองไปยังสวี่อินอินด้วยสายตาที่ซับซ้อน

หัวหน้าหมู่บ้านก็เอ่ยขึ้น “คุณหนูใหญ่ ท่านใจอ่อนเกินไปแล้ว นางแอบคบชู้จนทำให้คนสองคนต้องตาย แล้วยังจะมาใส่ร้ายท่านอีก ท่านรู้ตัวหรือไม่?”

“วันนี้ถ้าท่านไม่ฟังคำพูดของพ่อท่าน แล้วรีบมาหาข้า นางคงพาคนไปใส่ร้ายว่าท่านฆ่าคนตายก่อนแล้ว”

สวี่อินอินพยักหน้า “ข้ารู้ แต่ถึงอย่างไรนางก็เลี้ยงดูข้ามาจนโต หัวหน้าหมู่บ้าน ขอร้องล่ะ ให้ข้าพูดกับนางสักสองสามประโยคเถิด!”

หัวหน้าหมู่บ้านถอนหายใจ “เอาเถอะ ไปเถอะ”

หลี่ซิ่วเหนียงถูกขังอยู่ในกรงแล้ว เวลานี้กรงอยู่ห่างจากผิวน้ำแค่ไม่กี่เมตร

เมื่อเห็นสวี่อินอินเดินเข้ามา นางก็เบิกตากว้างแทบจะถลน “นางสารเลว! พ่อเจ้าตายอย่างไรกันแน่?!”

สวี่อินอินย่อตัวลงสบตากับนาง จากนั้นหันหลังให้คนอื่นแล้วยิ้มออกมา “แน่นอนว่าเป็นข้าที่ฆ่าเอง”

หลี่ซิ่วเหนียงรู้สึกขนลุกไปทั่วตัวเมื่อเห็นสายตาของสวี่อินอิน

เห็นได้ชัดว่าใบหน้าก็ยังคงเป็นใบหน้าของสวี่อินอิน แต่สายตาของสวี่อินอินในตอนนี้ กลับเหมือนงูพิษ เย็นชา เฉยเมย และแฝงไปด้วยความอาฆาต

นางยังไม่ทันได้ตอบโต้ สวี่อินอินก็ขยับเข้ามาใกล้อีกหน่อย “แล้วก็ติงเฉิงหย่ง ข้าก็เป็นคนฆ่าเขาเช่นกัน”

น้ำเสียงของนางเบาอย่างยิ่ง เบาจนมีเพียงแค่พวกนางสองคนเท่านั้นที่ได้ยิน

มองดูสีหน้าของหลี่ซิ่วเหนียงที่ค่อย ๆ ซีดเผือด สวี่อินอินก็ยิ้มออกมา “จะทำอย่างไรดีเล่า? ตอนนี้แผนการร้ายของพวกเจ้าต้องล้มเหลวแล้ว ข้าจะได้กลับไปยังจวนหย่งผิงโหวอย่างปลอดภัย”

หลี่ซิ่วเหนียงราวกับเห็นผี หวาดกลัวจนล้มหงายหลังลงไปในกรง “เจ้า...เจ้าเป็นใคร?”
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Jocky Tagool
ล้างแค้นสะใจดี ไม่เวิ่นเว้อ ว่าแต่จะไปบอกมันทำไมว่าตัวเองเป็นคนฆ่า ปล่อยให้มันถูกทรมานตายชดใช้กรรมไปเฉยๆ ก็พอแล้ว
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 805

    ชีหยวนรับรู้ได้นางขมวดคิ้ว ถอนมือกลับมา กล่าวเสียงทุ้มต่ำว่า “ก็แค่เรื่องเล็กน้อย มิใช่เรื่องใหญ่อันใด อีกไม่กี่วันก็คงหายเอง”แท้จริงนางคิดเช่นนี้เอง ไม่ว่าบาดแผลจะหนักหนาเพียงใด นางกลับเห็นว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ อีกไม่กี่วันก็คงหายไล่เฉิงหลงพลันโกรธขึ้นมาเล็กน้อยทว่าเขาย่อมรู้ดีว่าโทสะนี้หาใช่มีเหตุผลอันใดไม่คุณหนูใหญ่ชีเป็นอะไรกับเขากัน?หากจะนับให้ชัด ก็เพียงสหายร่วมงาน เป็นผู้มีพระคุณแต่ทว่า หัวใจเขากลับมิยอมเชื่อฟังคำสั่งตนเองตั้งแต่เมื่อใดกัน ที่เขาเริ่มมีใจต่อคุณหนูใหญ่ชี?ไล่เฉิงหลงครุ่นคิดเนิ่นนาน แต่ก็หานึกไม่ออกว่าคือเวลาใดแน่ชัดทว่า มีอยู่ค่ำคืนหนึ่งที่เขาจำได้อย่างชัดแจ้งคืนที่ชีหยวนออกไปสังหารองค์หญิงเป่าหรงทั้ง ๆ ที่เขาสะสางเรื่องของชินอ๋องหวยเหลียงเสร็จสิ้นแล้ว แต่ก็ยังเจตนาอ้อมไปยังหน้าผา ทอดมองผนังภูเขาสูงชัน และไม้เลื้อยกับต้นเถาวัลย์เหล่านั้น แล้วก็ยืนเหม่อลอยอยู่เนิ่นนานชั่วขณะนั้น ทั้งที่เขามองไม่เห็นแม้เพียงเงาร่างของชีหยวน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชีหยวนปีนขึ้นไปแล้วหรือไม่แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด เขารู้สึกว่าเพียงยืนรออยู่เบื้องล่าง คอยรออยู่ชั่วขณะ ก

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 804

    สวี่เฟิ่งเชี่ยวอยู่ด้านล่างโกรธจนกระทืบเท้า จะไล่ตามไปโดยสัญชาตญาณทว่าพอเพิ่งจะลงมาถึงข้างล่าง ชีหยวนก็หันกายกลับพลันพุ่งตัวโถมลงมาอย่างแรง กดทับสวี่เฟิ่งเชี่ยวล้มกระแทกลงกับพื้น ตัวนางกดร่างของสวี่เฟิ่งเชี่ยวไว้แน่นหนาสวี่เฟิ่งเชี่ยวถึงกับตะลึงงันไป เผลอหลุดคำด่าออกมา “เจ้าคนชั่ว! เจ้าคนหลอกลวง! เจ้านี่เหมือนที่ท่านอ๋องกล่าวไว้ไม่มีผิด ปากไม่เคยพูดความจริงเลยสักคำ!”ครั้งนี้ชีหยวนไม่ตอบโต้สักคำ ไม่พูดพร่ำทำเพลงฟาดฝ่ามือลงไปฉาดใหญ่ทันที จนหูของสวี่เฟิ่งเชี่ยวอื้ออึงขึ้นมาในบัดดลโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย ชีหยวนฟาดฝ่ามือที่สองลงไปอีกจากนั้น ไม่รอให้สวี่เฟิ่งเชี่ยวได้ตั้งตัวเปล่งเสียงด่าออกมา ก็ตามติดด้วยฉาดที่สาม และต่อด้วยฉาดที่สี่……ตบไม่หยุดจนสองแก้มของสวี่เฟิ่งเชี่ยวบวมพองประหนึ่งหัวหมู พูดเป็นประโยคเต็ม ๆ สักคำก็มิอาจเปล่งออกมาได้ชีหยวนจึงเอ่ยเสียงเย็น “ข้าชิงชังผู้อื่นมาตบหน้าข้าเป็นที่สุด”ครั้งหนึ่งในอดีต ตอนที่นางอยู่ในค่ายฝึกหน่วยกล้าตาย รุ่นพี่ที่สอนนางในตอนนั้น มักจะชอบตบหน้าผู้อื่นทำท่าท่าไม่คล่องแคล่ว ปฏิบัติภารกิจพลาด ก็ต้องถูกตบหน้าตอนนั้นนางไม่เคยแม้แต่จะคิด

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 803

    แส้ของสวี่เฟิ่งเชี่ยวนั้นเต็มไปด้วยหนามแหลม ครั้นเมื่อชีหยวนเอื้อมมือคว้าจับ ก็พลันรู้สึกถึงความเจ็บปวดรุนแรงพุ่งแล่นเข้ามาโดยปกติแล้ว นางเป็นผู้ที่มีอดทนต่อความเจ็บปวดได้เป็นพิเศษ ทว่าครั้งนี้ แม้แต่ตัวนางเองยังเกือบกลั้นไม่อยู่เฉียดจะอุทานร้องออกมาทว่านางก็ยังกัดฟันข่มทนไว้ได้ ผลักสวี่เฟิ่งเชี่ยวกระแทกเข้ากับผนังเขาอย่างแรงชีฉางถิงก็พลันคลานออกไปได้สำเร็จในที่สุดชีหยวนจึงค่อยๆ ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกแต่ยังไม่ทันจะได้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่ สวี่เฟิ่งเชี่ยวก็หัวเราะเย็นอย่างเหี้ยมเกรียมใส่ชีหยวน “คำร่ำลือในยุทธภพ ต่างพูดกันว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลชี เป็นผู้ไร้ซึ่งความรู้สึก ไม่ว่าต่อผู้ใดก็เย็นชาเฉยเมยไปเสียหมด บัดนี้ดูไปแล้ว คำร่ำลือนั้นก็ไม่เป็นเช่นนั้นเสียทั้งหมดนะ?”นางพลิกมือกลับบิดข้อศอกของชีหยวน พลันออกแรง ผลักกลับอย่างฉับพลัน พลันทำให้ชีหยวนถูกกดเข้ากับผนังหน้าผาแทน จ้องมองเลือดในฝ่ามือของชีหยวนแล้วหรี่ตาลง “จุ๊ ๆ ๆ เพียงเพื่อน้องชาย เจ้ากลับยอมสละได้ถึงเพียงนี้ เหตุใดท่านอ๋องถึงเอ่ยว่าเจ้านั้นไร้หัวใจไร้ธรรมเล่า?”“ท่านอ๋อง?”ชีหยวนแค่นหัวเราะออกมา “ใช่แล้วสิ เหตุใดท่านอ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 802

    ความสามารถทั้งปวงของสวี่เฟิ่งเชี่ยวนั้น ล้วนเรียนติดมาจากสวี่ไห่และตงอิ๋งเรียกได้ว่า นางเติบโตขึ้นท่ามกลางกองซากศพตั้งแต่เยาว์วัยด้วยเหตุนี้ นางจึงมิได้ให้เกียรติแก่ชีวิตใด ๆ เลย มองข้ามไปอย่างสิ้นเชิงช่างเป็นผู้ฆ่าคนโดยไม่กะพริบตาจริงๆชีหยวนเคยปะทะกับนางมาแล้วครั้งหนึ่ง ตอนนั้นองค์หญิงเป่าหรงถูกกักขังแล้ว สวี่เฟิ่งเชี่ยวกับองค์หญิงเป่าหรงสนิทชิดใกล้ นางจึงมาหาเรื่องชีหยวนเพื่อองค์หญิงเป่าหรงนางกดบ่าของชีหยวน แล้วผลักนางลงมาจากหอคอยสูงเจ็ดชั้นโชคดีที่ชีหยวนตอบสนองรวดเร็ว ยึดกิ่งไม้ของต้นไม้โบราณที่ข้าง ๆ ได้ทัน จึงพอชะลอแรงตกลงมาได้ ไม่เช่นนั้นชีวิตคงสิ้นไปแล้วหากว่ากันตามจริง ความสามารถของสวี่เฟิ่งเชี่ยวหาได้ด้อยกว่านางไม่เลยแต่ชีหยวนกลับมิได้กังวล เพียงเอ่ยอุทานเอะใจ “เหตุใดฮองเฮาแห่งท้องทะเลเช่นเจ้า ถึงได้มาที่เมืองหลวงได้ แล้วยังปลอมปนเข้ามาเป็นสตรีในตระกูลเฝิง กลายเป็นคุณหนูเฝิงไปเสียได้?”สายตาที่สวี่เฟิ่งเชี่ยวมองชีหยวนนั้น ตั้งแต่วินาทีแรกก็ผิดแปลกไปแล้วสตรีผู้นี้กลับรู้จักตนและดูเหมือนจะรู้เรื่องราวเกี่ยวกับตนอย่างถ่องแท้นางวางมือไว้ตรงเอวราวไม่ใส่ใจ พลา

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 801

    ชีฉางถิงถึงกับตะลึงงันเขามั่นใจคิดไปเองว่า วันนี้เพียงแค่เชื่อฟังคำสั่งของผู้ใหญ่ออกมาดูตัว ออกมาพบหญิงสาวที่อาจเป็นภรรยาในอนาคตของตนแต่ไม่คาดคิดเลยว่า สิ่งที่ต้อนรับเขา กลับไม่ใช่ท่าทีความอ่อนโยนหรือความเอียงอายของหญิงสาว หากแต่เป็นคมดาบอันวาววับเย็นเยียบเขาอย่างไรเสียก็เป็นคนเกิดในตระกูลแม่ทัพ ขณะที่ตนเองแม้ตั้งใจเล่าเรียนเพื่อเตรียมสอบบัณฑิต แต่ทักษะการฝึกกายให้แข็งแรงก็ยังได้ฝึกมาอยู่บ้าง ทันใดนั้นจึงง้างขาเตะออกไปเต็มแรงช่องทางแคบเพียงเส้นเดียวนี้ เกินกว่าจะเคลื่อนไหวได้ถนัดจริง ๆชีฉางถิงถอยร่นไม่หยุด เท้ายกเตะถีบต่อเนื่องไม่ขาด เฝิงไฉ่อินตัวปลอมกลับไม่อาจลงมือได้ในทันใด จึงโกรธเกรี้ยวตวาดว่า “เจ้าหาเรื่องตายงั้นหรือ!”เอ่ยพลางควักเอาลูกดอกจากเอว กระโจนขว้างไปยังชีฉางถิงอย่างแรงที่ตรงนั้นคับแคบยิ่งนัก ชีฉางถิงไม่มีทางหลบพ้น ลูกดอกปักเข้าที่บ่าของเขาเต็ม ๆ เจ็บจนร้องลั่นออกมาเสียงหนึ่ง ล้มตัวลงนั่งกองกับพื้น“เตะสิ ทำไมไม่เตะต่อเล่า?” ‘เฝิงไฉ่อิน’ สีหน้าเย็นเยียบ เอียงศีรษะย่อตัวลง คว้าจับปกเสื้อชีฉางถิง แล้วชกหมัดหนึ่งเข้าที่จมูกของชีฉางถิงชีฉางถิงเลือดกำเดาทะลักออ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 800

    จะมีหนทางใดในการล้างแค้นตระกูลชีเล่า ทำให้การแต่งงานครั้งนี้ล้มไม่เป็นท่าหรือ?ชีหยวนคือนักฆ่า ดังนั้นนางจึงพิจารณาปัญหาจากมุมของนักฆ่า แล้วก็พลันเผยรอยยิ้มเย็นเยียบ เร่งฝีเท้าไปยังหลังเขาเฝิงอวี้จางก็กำลังนั่งดื่มชาอยู่กับนายท่านรองชีเขาเอ่ยยิ้ม ๆ ว่า “ใครจะคิดเล่า ว่าตระกูลเราจะได้มาดองกันเช่นนี้? นี่ช่างเป็นวาสนาแท้ ๆ!”แต่นายท่านรองชีกลับรู้สึกแปลก ๆ อยู่ลึก ๆ เพราะยังมิได้ตกลงกันแท้จริง จะกล้าพูดว่าเป็นดองแล้วได้อย่างไร?เขาส่ายหน้าเล็กน้อย เอ่ยอย่างระมัดระวังว่า “สุดท้ายก็ยังต้องดูว่าเด็ก ๆ จะชอบพอกันหรือไม่ เพราะการแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ของชีวิต หาใช่เรื่องจะสะเพร่าได้”เวลานี้คนตระกูลชีกล่าวว่าอย่างไรก็ย่อมเป็นไปตามนั้นเฝิงอวี้จางย่อมไม่โต้เถียง เพียงยิ้มรับคำ แต่ในใจกลับวางใจลงไปมากต่างกับไฉ่เวย ไฉ่อินผู้นี้เป็นเด็กสาวที่ไม่เหมือนใครจริง ๆนางชอบอ่านตำรา และยังชอบทำความดีช่วยเหลือผู้คนตั้งแต่เล็ก ๆ เห็นน้องชายหรือน้องสาวถูกรังแก ก็มักออกหน้าปกป้องพวกเขาเสมอเด็กสาวเช่นนี้ เขามั่นใจว่าชีฉางถิงต้องชอบเป็นแน่ขณะนั้นเอง ชีฉางถิงกลับยืนเก้ ๆ กัง ๆ ไม่รู้จะวางมือไว้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status