Share

บทที่ 429

Author: ฉินอันอัน
นอกตำหนักมีเสียงร่ำไห้อันแสนเศร้าของเสี่ยวหลิวกุ้ยเฟย

ในขณะที่ภายในตำหนัก องค์หญิงใหญ่ทั้งขุ่นเคืองและปวดใจ “เสด็จพี่! ความความทุกข์ทรมานของพวกหม่อมฉันเป็นเรื่องโกหกอย่างนั้นหรือ? การที่หม่อมฉันกับราชบุตรเขยถูกพรากจากกันนานหลายสิบปีเป็นเรื่องโกหกอย่างนั้นหรือ? หรือการที่หม่อมฉันเคยคิดว่าลูกของหม่อมฉันตายไปแล้ว ทุกคืนวันส่งท้ายปีเก่า ในขณะที่บ้านเมืองเต็มไปด้วยแสงไฟแห่งการเฉลิมฉลอง หม่อมฉันกลับต้องจมอยู่กับความทุกข์นั้นก็เป็นเรื่องลวงตาด้วยหรือเพคะ?”

แต่ละคำที่นางเอ่ยถาม ทำให้ฮ่องเต้หย่งชางไม่อาจเอื้อนเอ่ยคำตอบใด ๆ ได้

เพลานี้พระองค์รู้สึกเหมือนพระหทัยถูกฉีกออกเป็นสองส่วน ครึ่งหนึ่งห่วงใยพระชายาหลิ่วและน้องหญิงของตน ทรงรู้สึกเจ็บปวดกับชะตากรรมอันโหดร้ายที่พวกนางต้องเผชิญมานานปี และเต็มไปด้วยความโกรธแค้นต่อความโหดเหี้ยมของฉู่กั๋วกงและพรรคพวกของเขา

แต่อีกครึ่งหนึ่ง กลับโบยบินไปหาเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยที่อยู่ด้านนอก

ร่างกายของนางอ่อนแอมาแต่ไหนแต่ไร

เมื่อตอนที่ให้กำเนิดองค์หญิงหมิงเฉิง นางเสียเลือดมากจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด

และหมิงเฉิง นางยังเด็กนัก ต้องมาเผชิญกับเหตุการณ์ร้ายแรงเช่นนี้ นา
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 430

    ขณะที่นางพูด ก็ลุกขึ้นยืนอย่างไม่ยี่หระต่อความตายใด ๆ ทั้งสิ้น แล้วจ้องไปที่เสาตรงระเบียงขันทีเซี่ยและผู่อู๋ย่งซึ่งยืนดูอยู่ใต้ระเบียงมาโดยตลอดพลันหน้าถอดสีพวกเขารู้ดีว่า นี่คือสนมคนโปรดของฮ่องเต้หย่งชาง!และขณะที่เสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยวิ่งพุ่งเข้าหาเสานั้น ดูเหมือนนางจะชนเข้ากับเซียวโม่ที่กำลังก้มหน้าเล่นกับจิ้งหรีดในมือโดยไม่ได้ตั้งใจเสี่ยวโม่รู้สึกเจ็บแปลบที่เอว จึงร้องไห้ออกมาทันที และเผลอผลักเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยออกไปอย่างแรงโดยสัญชาตญาณร่างของเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยล้มลงกระแทกพื้นอย่างแรง หน้าผากของนางกระแทกเข้ากับอิฐ จนเลือดไหลทะลักออกมาพระชายาหลิ่วมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่ง แต่ในใจกลับหัวเราะเย็นชาอีกแล้ว เป็นเช่นนี้อีกแล้วแม่ลูกคู่นี้ใช้วิธีเดิม ๆ ไม่เคยเปลี่ยนแสร้งทำเป็นอ่อนแอ แสร้งทำเป็นน่าสงสาร แสร้งทำเป็นบอบบางและพวกบุรุษก็มักจะหลงกลเสมอ!นางกำลังจะเอ่ยปากพูดอะไรบางอย่าง แต่ทันใดนั้น เงาร่างหนึ่งที่ผอมบางกลับพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วราวกับสายลม เมื่อเห็นเลือดบนหน้าผากของเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟย นางก็คุกเข่าลงกับพื้นทันที แล้วคลานไปข้าง ๆ เสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟย พร

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 431  

    เขาตะโกนเรียกเสียงดังติดต่อกันหลายครั้ง ทว่าองค์หญิงเป่าหรงกลับไม่ไหวตัวแม้แต่น้อย ดูเหมือนว่าจะเป็นลมหมดสติไปแล้ว ก็สั่งผู่อู๋ย่งทันที: “รีบไปเชิญหมอหลวงไปที่ตำหนักข้าง เร็วเข้า!” เดินไปเพียงไม่กี่ก้าวก็เห็นหลิ่วกุ้ยเฟยที่นอนสลบอยู่ที่พื้นเช่นกัน สภาพจิตใจยิ่งย่ำแย่ลงไปอีก วันพรุ่งนี้ก็จะเป็นวันสิ้นปีแล้ว แต่วันนี้เพียงในหนึ่งวันมีคนตายไปแล้วกี่คน?! แม้จะเป็นความผิดของจวนฉู่กั๋วกง แม้ความผิดเมื่อปีก่อนจะเป็นฝีมือของสกุลลู่และฉู่กั๋วกง ทว่าบัดนี้ตัวต้นเหตุที่สมควรตายก็ตายไปหมดแล้ว ยังต้องพัวพันต่อไปอย่างไม่รู้จบสิ้นอีกหรือ? เขาไม่มีเวลาสนใจมองพระชายาหลิ่ว และไม่มีอารมณ์จะไปโทษเซียวโม่ที่สติไม่สมประกอบด้วย ได้แต่สูดหายใจลึก ๆ และรีบอุ้มองค์หญิงเป่าหรงไปที่ตำหนักข้างด้วยความร้อนรน ส่วนเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยก็ให้พวกแม่นมช่วยกันหามเข้าไป บาดแผลบนหน้าผากของเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยสภาพน่าหวาดเสียว อาภรณ์ด้านหลังขององค์หญิงเป่าหรงถูกหมอหลวงตัดออก เผยให้เห็นบาดแผลที่ชวนให้รู้สึกสยดสยองไม่ต่างกัน ฮ่องเต้หย่งชางหลับตาลงด้วยความรู้สึกปวดร้าว องค์หญิงเป่าหรงเติบโตในอ้อมอกของเขามาตลอด 

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 432  

    จากนั้นก็เริ่มห่อเกี๊ยว ชีเจิ้นคิดว่าตนเองเป็นบ้าไปแล้ว วันขึ้นปีใหม่ ยามนี้ไม่รู้เลยว่าในวังหลวงกำลังมีคลื่นลมพายุกระหน่ำเพียงใด แต่ตัวเขาน่ะหรือ? เขากลับมองชีหยวนห่อเกี๊ยวอยู่ตรงนี้! โหวผู้เฒ่าชีกลับยิ้มแย้มแจ่มใส ถึงขั้นแสดงความสนอกสนใจเหมือนฮูหยินผู้เฒ่าชีหัดห่อเกี๊ยวเป็นทรงก้อนเงินตำลึงตามแบบชีหยวนด้วย ขณะที่กำลังห่อเกี๊ยวไปพลาง โหวผู้เฒ่าชีก็ถามขึ้นว่า: “นี่ไม่เยอะเกินไปหน่อยหรือ?” ให้กินทั้งครอบครัวก็กินไม่หมดหรอก! ห้องครัวตอนนี้มีคนกว่าสามสิบชีวิตกำลังช่วยกันห่อเกี๊ยวอยู่! ชีหยวนเลิกคิ้ว ห่อเสร็จหนึ่งชิ้นก็วางบนโต๊ะพลางหัวเราะออกมาเบา ๆ : “ไม่เยอะไปหรอก ต้องแบ่งไปให้องค์หญิงใหญ่สักหน่อยด้วย แล้วยังต้องแบ่งไปให้ทางอ๋องจิ้งอีกสักหน่อยด้วย ปีใหม่นี้จะได้ฉลองกันอย่างเบิกบานมีความสุข” ...... โหวผู้เฒ่าชีชะงักมือที่กำลังห่อเกี๊ยวทันที: “แม่หนูหยวน เจ้าบอกความจริงกับข้าได้หรือไม่ ว่าวันนี้ผลจะออกมาเป็นเช่นไร?” ชีหยวนเหลือบสายตาขึ้นมองโหวผู้เฒ่าชี ก่อนจะเอ่ยอย่างราบเรียบ: “ฉู่กั๋วกงตายแล้ว การประหารเก้าชั่วโคตรก็เป็นไปไม่ได้ ถึงอย่างไรหากมีการประหารเก้าชั่วโคตรขึ้นจ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 433  

    เรื่องราวทั้งหมดสิ้นสุดลง งานฉลองปีใหม่ในปีนี้แปลกประหลาดเป็นพิเศษ ภายในวังไม่ต้องพูดถึงก่อน ศพของขันทีและนางข้าหลวงถูกหามออกไปอย่างเงียบเชียบแล้วไม่น้อย ยิ่งจวนฉู่กั๋วกงยิ่งไม่ต้องพูดถึง แม้แต่วันปีใหม่ก็มิอาจทำให้ชีวิตของพวกเขาดีขึ้นได้เลยสักนิด ไล่เฉิงหลงนำกำลังคน ตรวจค้นจวนฉู่กั๋วกงทั้งสามชั้นในสามชั้นนอกจนทั่วแล้ว พวกบุรุษล้วนถูกจับกุมตัวเข้าคุกหลวงของกรมอาญา ส่วนพวกสตรีแต่ละคนล้วนถูกจับมัดและโยนเข้าสำนักการสังคีต ละแวกเขตพระราชวังหลวงล้วนอยู่ในความไม่สงบ คนที่อาศัยอยู่ในละแวกใกล้เคียง ไม่ว่าขุนนางชั้นผู้ใหญ่หรือขุนนางตระกูลสูงศักดิ์ หรือแม้กระทั่งเชื้อพระวงศ์พระประยูรญาติในราชสำนัก ล้วนแต่ปิดประตูใหญ่ของตนเองอย่างแน่นหนา สั่งห้ามมิให้คนในออกข้างนอกอย่างเด็ดขาด แม้จะเป็นการออกไปจับจ่ายซื้อของ ก็ได้รับอนุญาตให้พวกเขาเข้าออกได้เพียงหนึ่งครั้งต่อวันเท่านั้น บนท้องถนนเต็มไปด้วยคนของหน่วยปราบปรามและกองบัญชาการปัญจทิศรักษานครคอยลาดตระเวนอยู่ตลอดเวลา บรรยากาศอันเยือกเย็นและตึงเครียดเช่นนี้ทำให้ชาวบ้านแต่ละคนต่างไม่กล้าปาไข่ไก่และตะโกนด่าคนโดยไม่กลัวเกรงสิ่งใดเหมือนเมื่อก่อน

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 434  

    จนกระทั่งกลับมาถึงอารามไป๋อวิ๋น หลังจากสั่งให้บ่าวรับใช้ล่าถอยออกไปจนหมด และบอกให้อ๋องโจวไปพักผ่อนแล้ว องค์หญิงใหญ่ถึงจะกำมือพระชายาหลิ่วไว้แน่นพร้อมเอ่ยว่า: “พระเชษฐภคินี จะปล่อยเรื่องไปแบบนี้ไม่ได้เพคะ!” ตำแหน่งฮองเฮาเดิมก็ควรเป็นของพระชายาหลิ่วอยู่ก่อนแล้ว! ตั๊กแตนของเซียวโม่พลันกระโดดออกมาจากกล่อง ทันใดนั้นเขาก็ร้องไห้โวยวายขึ้นมา องค์หญิงใหญ่ผงะไป นางมองพระชายาหลิ่วที่กำลังค้อมตัวลงช่วยเซียวโม่หาตั๊กแตนของเขาอย่างเต็มที่ เสี้ยวขณะนั้นก็รู้สึกจุกแน่นพูดไม่ออก นางคล้ายว่าเข้าใจอะไรบางอย่างแล้ว หลังจากทำให้เซียวโม่สงบลงได้แล้ว พระชายาหลิ่วก็เงยหน้าขึ้นมาพร้อมหัวเราะอย่างขมขื่นให้นาง: “เจ้าดูสิ ข้าจะยังไปแย่งชิงตำแหน่งอะไรได้อีกหรือ?” ตำแหน่งฮองเฮาแต่เดิมควรเป็นของนางก็ไม่ผิด ทว่าบางสิ่งหากพลาดไปแล้วก็คือพลาดไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งฮองเฮา หรือหัวใจของฮ่องเต้หย่งชาง ล้วนไม่มีทางจะรอคอยนางอยู่ที่เดิม พูดไปแล้วก็อาจจะฟังดูไม่ยุติธรรมนัก ทว่าบนโลกนี้เรื่องที่ไม่ยุติธรรมนับกันหมดหรือ? องค์หญิงใหญ่เงียบไปเนิ่นนาน ในหัวของนางเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย บางครั้งสิ่งที

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 435  

    เกี๊ยวของทางเหนือและทางใต้ความจริงแล้วแตกต่างกันมาก อย่างน้อยทางใต้ความจริงแล้วก็มิได้นิยมกินเกี๊ยวที่ทำจากที่ทำจากแป้งสาลี ดังนั้นในตอนแรกพระชายาหลิ่วจึงไม่ได้สนใจเกี๊ยวนี้เท่าใดนัก นางเพียงแค่กล่าวขอบคุณต่อชีหยวนอย่างจริงใจ แม้ว่านางจะเข้าใจมานานแล้ว ว่าเหตุผลที่ชีหยวนพยายามอย่างหนักเพื่อตามนางกลับมา และช่วยนางจัดการกับพวกฉู่กั๋วกง จะเป็นเพราะว่าตัวชีหยวนเองก็อยู่ในสถานการณ์เป็นอริศัตรูกับอ๋องฉีอย่างอยู่ร่วมโลกใบเดียวกันไม่ได้ ทว่าเมื่อมาถึงวัยอย่างนางตอนนี้ ก็มิใช่เวลาจะมัวลังเลกับจุดหมายอีกต่อไปแล้ว นางมองเพียงแค่ผลลัพธ์เท่านั้น และผลลัพธ์ก็คือชีหยวนได้ช่วยเหลือนางไว้อย่างมาก นางสามารถคืนสู่เมืองหลวง และกลับเข้าวังได้อย่างสง่าผ่าเผย จากนั้นยังสามารถกำจัดจวนฉู่กั๋วกงที่เคยกดขี่สูบเลือดสูบเนื้อนางและมารดาให้กลับคืนสู่ขุมนรกที่ควรอยู่อีกครั้ง จุดนี้สำคัญกว่าสิ่งใดทั้งปวงแล้ว กระทั่งเกี๊ยวร้อน ๆ ถูกยกมา มันมิได้มีสีขาวเหมือนอย่างเกี๊ยวทั่วไป แต่กลับเป็นสีเหลืองใสเกือบคล้ายอำพันที่มาพร้อมน้ำแกงร้อน ๆ ในชามใหญ่ พระชายาหลิ่วพลันเหลือบมองชีหยวนปราดหนึ่งด้วยความประหลาดใจ ค

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 436  

    ชีหยวนแอบเดาะลิ้นในใจ นางย่อมรู้ดีอยู่แล้ว คนที่สามารถเอาตัวรอดจากการถูกตามล่าอย่างหนักหน่วงได้และยังสามารถปกป้องบุตรจนรอดชีวิตมาได้ ต้องไม่ใช่คนที่อ่อนแออย่างเด็ดขาด จริงดังคาด อีกฝ่ายเข้าใจกระจ่างชัดอย่างดี องค์หญิงใหญ่กัดริมฝีปากอย่างอดไม่ไหว: “เช่นนั้น พระเชษฐภคินีทรงพระกันแสงกับเสด็จพี่…” ใครเล่าจะไม่รู้จักร้องไห้! มีแต่พวกเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยเท่านั้นหรือที่รู้จักร่ำไห้! ทว่าทันใดนั้นพระชายาหลิ่วกลับส่งเสียงหัวเราะออกมา นางปรายสายตามององค์หญิงใหญ่อย่างราบเรียบ ใบหน้าแม้ประดับด้วยรอยยิ้ม ทว่ารอยยิ้มนั้นส่งไปไม่ถึงแววตาแม้แต่น้อย: “คนอื่นยามร่ำไห้คงเหมือนหญิงงามประคองใจ ยามนี้ข้าไปร่ำไห้บ้างคงเป็นได้แค่คนโง่เขลาที่หลับหูหลับตาเลียนแบบอย่างน่ารังเกียจ ไม่สู้ต่างฝ่ายต่างเก็บศักดิ์ศรีไว้ดีกว่า” องค์หญิงใหญ่คิดจะโต้แย้ง แต่ก็หมดหนทางโต้แย้ง ถ้อยคำที่พระชายาหลิ่วเอ่ยออกมาโหดร้ายมากก็จริง ทว่าความโหดร้ายก็คือความจริงของโลกใบนี้ ใช่แล้ว อีกฝ่ายร่ำไห้ดังบุปผาหลี่ต้องสายพิรุณ แต่กับพระชายาหลิ่วที่ผ่านโลกมาอย่างโชกโชนจะไปเปรียบเทียบกับนางได้อย่างไร? นางวางตะเกียบลงเสียงดัง

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 437  

    นางเล่นมีดในมือไปมา ครั้นได้ยินเสียงเคลื่อนไหวที่แว่วมาจากด้านนอก ก็เก็บมีดกลับเข้าไปในแขนเสื้ออีกครั้งอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพลิกกายลุกขึ้นนั่ง นัยน์ตาคู่นั้นพลันส่องประกายสว่างเจิดจ้าขึ้นมาทันที ยามที่เห็นฮ่องเต้หย่งชางเดินเข้ามา นางสะอื้นออกมาเบา ๆ : “เสด็จพ่อ!” ช่างเป็นเด็กดีเสียจริง ฮ่องเต้หย่งชางใจอ่อนยวบลงโดยพลัน เขาทั้งรักและเอ็นดูธิดาพระองค์นี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นในตอนนี้ธิดาพระองค์นี้ยังได้รับบาดเจ็บสาหัสด้วย เขาถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ก่อนจะถามว่า: “เจ็บหรือไม่?” เงียบไปเนิ่นนาน องค์หญิงเป่าหรงน้ำตารื้นพลางเม้มปากแน่นและส่ายศีรษะน้อย ๆ : “ไม่เจ็บเพคะ เสด็จพ่อ ลูกไม่เจ็บแม้แต่นิดเดียว” แม้ปากบอกว่าไม่เจ็บ ทว่ามือของนางกลับเอื้อมไปกดแผ่นหลังตนเอง เพียงเสี้ยวพริบตาโลหิตสีสดก็ไหลออกมากอีกครั้ง โลหิตหยดลงบนหลังมือของฮ่องเต้หย่งชาง สีหน้าของฮ่องเต้หย่งชางเปลี่ยนไปทันที ก่อนจะเอ่ยปากดุอย่างอดไม่ได้: “ไม่เจ็บอะไร เจ้าดูสิบาดแผลของเจ้ากลายเป็นอะไรไปแล้ว! เซียวโม่เขาสติไม่สมประกอบตั้งแต่ยังเล็ก เจ้าไม่สามารถปฏิบัติต่อเขาเหมือนเป็นคนปกติได้ เหตุใดตอนนั้นเจ้าไม

Latest chapter

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 506

    ก็ต้องมี ‘คืนของขวัญ’ กลับไปบ้างกระมัง?ชีเจิ้นก็พลันเข้าใจ เพียงแค่เป้าหมายไม่ใช่ผู่อู๋ย่ง แต่ก็ยังเป็นการไปสังหารคนอยู่ดีเขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกำชับว่า “เช่นนั้นก็ ระวังตัวด้วยแล้วกันนะ”ชีหยวนก็เดินตรงดิ่งออกจากประตูไปชีเจิ้นจึงหันกลับมามองท่านโหวผู้เฒ่าชีกับฮูหยินผู้เฒ่าชี “ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้านึกขึ้นได้แล้ว วันปีใหม่วันนั้น แม่หนูหยวนบอกว่านอกจากจะแวะไปที่เรือนนอกเมืองแล้ว ยังมีธุระที่ต้องทำ มันเป็นธุระอะไรกันแน่?”ทั้งยังเป็น ‘การคืนของขวัญ’ ให้ผู่อู๋ย่งอีกด้วย?ท่านโหวผู้เฒ่าชีถลึงตาใส่เขาอย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้าถามข้าแล้วข้าจะไปถามใคร โดนขังมาหลายวันแล้วเจ้ายังไม่เหนื่อยหรือไง? ทำตัวดี ๆ รีบไปอาบน้ำแล้วนอนพักเสีย ตอนเย็นค่อยไปกินข้าวที่เรือนใหญ่!”ชีเจิ้นอยากรู้จนใจแทบขาด แต่ก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่าชีหยวนกำลังทำเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับผู่อู๋ย่ง และยังจะบอกว่าเป็น ‘การคืนของขวัญ’ ให้อีกฝ่ายอีกต่างหากแต่แล้วเขาก็นึกขึ้นได้อีกเรื่องหนึ่ง “ท่านพ่อ! ผู้บัญชาการไล่จะไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?!”ไล่เฉิงหลงช่วยพวกเขาไว้มาก ที่ไม่โดนลงโทษก็เพราะอีกฝ่ายช่วยไกล่เกลี่ยแล้วไอ้หมาขันทีอ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 505

    ชีหยวนเลิกคิ้วขึ้นนิด ๆ เห็นทั้งสองคนกลับมาดูครบสามสิบสอง ดูก็รู้ว่าไม่ได้ถูกลงโทษ ก็รู้ทันทีว่าเป็นไล่เฉิงหลงที่ช่วยไว้นางหลุบตาลงแล้วส่ายหน้า “ไม่ใช่เพราะข้าหรอกเจ้าค่ะ เรื่องนี้เดิมทีก็เกิดขึ้นเพราะข้า เป็นข้าที่ก่อเรื่องวุ่นวายขึ้นมา พวกท่านต้องลำบากก็เพราะข้า”ความรู้สึกของท่านโหวผู้เฒ่าชีซับซ้อนอย่างยิ่งชีเจิ้นก็เช่นกันชีหยวนก็ถือว่าเข้าใจฐานะของตนเองดีนัก และไม่ทำตัวเกรงใจเกินจำเป็น พูดสิ่งที่ควรพูด ไม่สนใจด้วยซ้ำว่าจะมีใครตอบรับได้หรือไม่แต่ว่านางพูดตรงได้ ทว่าท่านโหวผู้เฒ่าชีกับชีเจิ้นย่อมไม่อาจตอบกลับตรง ๆ เช่นนั้น ท่านโหวผู้เฒ่าชีจึงกล่าวว่า “พูดอย่างนั้นก็ไม่ได้หรอก ตำแหน่งนี้ของเขา ทำมาก็หลายปี อยู่กึ่งกลาง หากทำงานของฝ่าบาทได้สำเร็จ เช่นนั้นสักวันก็ต้องเกิดเหตุเช่นนี้”ถ้าหากทำไม่สำเร็จ ต้องสืบหากันไปเรื่อย ๆ ไม่จบไม่สิ้น ฮ่องเต้หย่งชางก็ย่อมต้องเริ่มสงสัยในความสามารถของชีเจิ้น และหมดความอดทนต่อเขาฉะนั้นว่ากันตามจริงแล้ว เคราะห์นี้ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่ดี ยังดีที่มีชีหยวนอยู่ จึงสามารถคลี่คลายเรื่องราวได้รวดเร็วขนาดนี้ท่านโหวผู้เฒ่าก็โล่งอก เมื่อเห็นเหล่าลูก

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 504

    ฮ่องเต้หย่งชางกวาดพระเนตรมองโดยรอบ ตวาดเสียงเกรี้ยว “อ่างน้ำมงคลเล่า? ไยถึงได้มาช่วยดับไฟกันช้านัก?!”แล้วก็รีบร้อนหันไปถามไล่เฉิงหลง ซึ่งรับหน้าที่เฝ้าตำหนักเฟิ่งเจ่าในวันนี้ “ร่างของกุ้ยเฟยเล่า?”ไล่เฉิงหลงเหงื่อไหลท่วมทั้งร่าง คุกเข่าลงแล้วคารวะ “กระหม่อมกับนายพันลู่ช่วยกันหามร่างของกุ้ยเฟยออกมาได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่...”พวกเขาก็รู้ดีว่าเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยมีตำแหน่งเช่นไรในพระทัยของฮ่องเต้หย่งชาง ไหนเลยจะกล้าปล่อยให้ร่างของเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยถูกเผาจนมอดไหม้?หากปล่อยให้เป็นเช่นนั้นจริง เกรงว่าพวกตนก็คงต้องลงไปอยู่กับบรรพบุรุษแล้วแต่ถึงจะช่วยออกมาได้ ทว่าร่างของกุ้ยเฟยก็ยังคงดูเวทนานักอย่างน้อยเส้นผมของเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยก็ถูกไฟไหม้ไปแล้วครึ่งหนึ่งใบหน้าก็ถูกควันรมจนดำไปหมดฮ่องเต้หย่งชางปิดดวงเนตรลง เอื้อมพระหัตถ์ไปลูบไล้ใบหน้าของเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟย สั่งการด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ไล่เฉิงหลง ลู่อี้เฟิง ดูแลไม่ดีจนตำหนักเฟิ่งเจ่าเกิดเพลิงไหม้ ให้ไปรับการลงโทษโบยสามสิบไม้ที่กรมวัง!”จากนั้นก็นิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วถามต่อ “เหตุใดอ่างน้ำมงคลถึงกลายเป็นน้ำแข็ง?”ในวังหลวง ตามถนนสาย

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 503

    ฮ่องเต้หย่งชางเหนื่อยล้าอย่างถึงที่สุดหลายวันมานี้ ทุกค่ำคืนเขามักจะฝันถึงเรื่องราวในอดีตตัวเขากับพระชายาหลิ่วสมัยยังอยู่ในดินแดนศักดินาในช่วงนั้น ยามใดที่คลื่นลมในทะเลพัดแรง ไม่รู้ว่าหลังคาบ้านของราษฎรกี่หลังจะปลิวว่อนทุก ๆ ปีล้วนมีคนต้องสังเวยชีวิตเพราะเหตุนี้ไม่น้อยแค่นั้นยังพอทนได้ แต่ภูมิอากาศก็ยังเย็นชื้น ทำให้ข้อกระดูกของเขาเจ็บเรื้อรังพระชายาหลิ่วจึงมักช่วยทำการรมยาเฉพาะจุดให้เขา อยู่เคียงข้างช่วยเหลือราษฎร คิดหาหนทาง ร่วมมือกับขุนนางท้องถิ่น แบ่งเขตพื้นที่ แล้วสอนชาวบ้านสร้างบ้านจากหินที่แข็งแรงมั่นคงในบริเวณที่ปลอดภัยกว่ายังได้ขอร้องอดีตฮ่องเต้ให้ส่งช่างจากกรมโยธามาช่วยสอนการเปิดเตาเผาและเผาอิฐพวกเขาค่อย ๆ แก้ไข นำพาเมืองจางโจวจากดินแดนยากไร้กลายเป็นเมืองมั่งคั่ง แม้แต่เมืองใกล้เคียงอย่างเฉวียนโจวก็ยังได้สร้างท่าเรือบางคราก็ฝันถึงเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยแรกเริ่มเดิมที เขาก็ไม่ได้คิดจะให้เสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยเข้าวังเลยด้วยซ้ำเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยอายุน้อยกว่าเขามากเกินไป ห่างกันถึงสิบสองปีเขามองนางเหมือนน้องสาวคนหนึ่งมาตลอดแต่เมื่อเวลาค่อย ๆ ผ่านไป เสี่ยวหลิ่วกุ้ยเ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 502

    ปิดไม่มิดแล้วเขาไม่มีทางบ้าเลือดถึงขั้นลากผู่อู๋ย่งลงไปด้วยหรอก อย่างน้อยแบบนี้ผู่อู๋ย่งก็ยังอาจเห็นแก่ที่เขาเชื่อฟัง แล้วช่วยดูแลคนในตระกูลของเขาบ้างมิเช่นนั้น เกรงว่าตระกูลสวีคงไม่เหลือแม้แต่คนเดียวเซี่ยกงกงเชิญไล่เฉิงหลงเข้ามา ไล่เฉิงหลงก็นำเอกสารคำรับสารภาพพร้อมลายนิ้วมือของคนเหล่านั้นมาขึ้นถวายฮ่องเต้หย่งชางเพียงแค่เหลือบตามอง ก่อนจะเหวี่ยงเอกสารลงตรงหน้าสวีฮว่าน “เจ้ายังมีอะไรจะพูดอีก? คดีลักลอบค้าของเมื่อปลายปีก่อนก็เริ่มสอบตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว เจ้าคงคิดหาแพะรับบาปไว้ตั้งแต่นั้นกระมัง? ถึงได้ยุยงปลุกปั่นพวกครัวเรือนทหารที่มีเอี่ยว ให้เชื่อว่าตระกูลชีหักหลังพวกเขา ให้พวกเขารับผิดแทน!”สวีฮว่านฟุบหน้าลงกับพื้น สั่นเทาไปทั้งร่าง เอ่ยปากวิงวอนไม่หยุด “ฝ่าบาทโปรดเมตตา ฝ่าบาทโปรดไว้ชีวิตเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”ฮ่องเต้หย่งชางแค่นเสียงเย็น แล้วกวาดดวงเนตรมองเหล่าขุนนางบุ๋นบู๊ “เมื่อครู่พวกเจ้าล้วนโกรธแค้นลุกฮือกันขึ้นมา กล่าวว่านี่คือการสมคบคิดศัตรู ขายชาติ ทรยศหักหลัง เป็นความผิดฐานคิดกบฏ พวกเจ้าพูดถูกแล้ว”สิ้นคำ ก็เรียกผู้บัญชาการศาลต้าหลี่เติ้งเหรินกู้ “คดีนี้ให้ศาลต้าหลี่เป็นผู้สื

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 501

    แน่นอนว่าผู่อู๋ย่งไม่มีพ่อ พ่อของเขาตายไปนานแล้ว มิเช่นนั้นจะเข้ามาเป็นขันทีในวังได้อย่างไรกันเล่า?!แต่ตอนนี้ ความรู้สึกในใจเขามันไม่ต่างอะไรกับพ่อเพิ่งตายไปจริง ๆ เลยบัดซบเอ๊ย!เหลวไหลสิ้นดี!ที่ไหนมีขันที ที่นั่นก็ต้องมีคนของเขาแฝงอยู่รัชทายาทวังบูรพาโง่เง่าอย่างกับหมู ทั้งยังอ่อนแอขี้โรค ร่างกายก็เจ็บออด ๆ แอด ๆ ไปทั้งตัวต่อให้เซียวอวิ๋นถิงฉลาดหลักแหลมแค่ไหน ก็ใช่ว่าจะรอดพ้นสายตาเขาไปได้ทุกอย่าง ไม่ว่าอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นแค่คน ไม่ใช่เทพเซียน!เขาเตรียมตัวไว้แล้วว่าส่งขันทีไปขัดขวางเซียวอวิ๋นถิง แล้วก็ให้องครักษ์เสื้อแพรไปทำเลยหลักฐานทั้ง ๆ ที่เขาวางแผนทุกอย่างเอาไว้อย่างไม่มีที่ติแต่สุดท้ายเซียวอวิ๋นถิงกลับวางแผนเหนือกว่า ส่งของไปถึงฮ่องเต้หย่งชางก่อนเสียได้แล้วจะไม่ให้เขาโมโหได้อย่างไร?!ไอ้บ้าสองตัวนั่น!คนหนึ่งเจ้าเล่ห์ อีกคนเหี้ยมโหด ราวกับสุนัขจิ้งจอกกับอสรพิษรวมหัวกัน ใครหน้าไหนเข้าใกล้ก็ต้องถูกพวกเขากัดเข้าให้สักแผลเขาสูดลมหายใจเข้าลึก แล้วรีบสงบสติอารมณ์ลงอย่างรวดเร็วเขาเบือนหน้าหนีอย่างเย็นชา ไม่มองทางสวีฮว่านอีกเขาไม่เคยกังวลเลยว่าเรื่องนี้จะพัวพัน

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 500  

    ก็ใช่ว่าจะเคราะห์ร้ายเสียทีเดียว ถึงอย่างไรก็ไม่มีคนมาสนใจเขานัก ล้วนแต่ยุ่งกับการจัดการจวนฉู่กั๋วกงกันทั้งนั้น ต่อมาเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยก็ตายไปอีก เรื่องราวเยอะเกินไป ไม่มีใครจะนึกถึงเขาหรอก ทว่าเขาเองก็กลัวมาก! น้องหญิงคนนั้นของเขา มิใช่คนที่จะสะสางหนี้แค้นด้วยคุณธรรมมาตั้งแต่ตอนเยาว์วัยแล้ว หลังจากนี้จะต้องหาโอกาสมาจัดการเขาแน่! พูดให้ถึงที่สุด เรื่องทั้งหมดนี้ต้องโทษสกุลชีอย่างเดียว หากว่าสกุลชีไม่พาตัวพระชายาหลิ่วกลับมา เรื่องราวทั้งหมดนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น ดังนั้นแล้วในตอนนี้อุตส่าห์หาโอกาสได้แล้วทั้งที เข้าย่อมต้องเหยียบย่ำสกุลชีให้เต็มที่แน่นอน ผู่อู๋ย่งยิ่งรู้สึกขบขันเต็มที พอเห็นว่าสวีฮว่านเหลือบสายตามองตนเองด้วยความเคร่งเครียดแล้ว ก็เบนสายตาออกเชิงว่าตักเตือนทันที สวีฮว่านรีบก้มศีรษะลง บัดนี้ลำคอของเขายังเจ็บแปลบ ๆ อยู่เลย ไหนจะตรงช่วงท้องอีก ดูเอาเถิดว่านางเด็กชีหยวนคนนี้ดุร้ายโหดเหี้ยมมากขนาดไหน หัวใจของเขาเต้นระส่ำว้าวุ่นไม่เป็นสุข จนถึงตอนนี้ ทั่วท้องพระโรงทั้งฝ่ายบู๊ฝ่ายบุ๋นล้วนพุ่งเป้าโจมตีจุดอ่อนของสกุลชี ทว่าเซียวอวิ๋นถิงกลับยังคงไม่ปรากฏตัว

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 499  

    สกุลชีถูกโจรบุกปล้นในวันที่สามของปีใหม่ ที่พำนักของคุณหนูใหญ่สกุลชีถูกไฟเผาวอดไปครึ่งหนึ่ง หากมิใช่เพราะคุณหนูใหญ่สกุลชีบังเอิญไปอยู่ที่ห้องของฮูหยินผู้เฒ่า และกำลังคัดเลือกถั่วปากอ้ากับฮูหยินผู้เฒ่าพอดี เกรงว่าคุณหนูใหญ่สกุลชีคงจะไม่รอดแล้ว เรื่องนี้ปิดบังไม่อยู่ ไม่นาน ก็แพร่สะพัดลือเล่ากันไปไกลแล้ว จะไม่ให้แพร่สะพัดไปไกลก็คงไม่ได้ สกุลชีเพิ่งถูกกล่าวหาว่าสมคบกับข้าศึกขายดินแดนให้อริราชศัตรู โหวผู้เฒ่าชีและชีเจิ้นก็ถูกจับเข้าคุกหลวงไปแล้ว เห็นสกุลชีสภาพน่าเวทนาถึงเพียงนี้ แต่ใครจะรู้ว่ายังมีคนจ้องจะซ้ำเติมสกุลชีไม่ปล่อย หวังให้สกุลชีตายราบคาบ เฮอะ ๆ พวกชาวบ้านก็ยังมีแอบวิพากษ์วิจารณ์กันบ้าง “ไม่รู้ว่าใช่ฝีมือของครอบครัวทหารจากจี้โจวหรือไม่?” “จริงด้วย หากว่าเป็นอย่างที่พวกครอบครัวทหารเหล่านั้นว่ากันจริง เงินถูกสกุลชิงเอาไปแล้ว แต่กลับโยนความผิดให้พวกเขารับไว้แบบนั้น พวกเขาจะไปยอมได้อย่างไร?” “หากเป็นข้านะ ข้าก็คงทุ่มสุดตัวเหมือนกัน!” ดูเหมือนว่าคนที่คิดเห็นเช่นเดียวกันนี้จะมิได้มีเพียงแค่พวกชาวบ้าน เทศกาลปีใหม่ปีนี้ถูกลิขิตไว้ไม่ให้เงียบสงบ ในวันที่เจ็ดของปีใหม่ ศ

  • ยอดหญิงในเงามาร   บทที่ 498  

    สวีฮว่านเหงื่อเย็นไหลพลั่ก ตอนที่ได้ยินชีหยวนนับหนึ่ง สอง สาม ท้ายที่สุดเขาก็ทนไม่ไหว ร้องเสียงดังออกไป “ข้าให้เจ้าก็ได้! ข้าให้เจ้าก็ได้! สาส์นลับอยู่ใน…อยู่ในชั้นวางลับหลังโต๊ะหนังสือในห้องหนังสือของข้า!” ชีหยวนเปล่งเสียงอุทานออกมาหนึ่งคำ ก่อนจะเก็บกริชและปิ่นทองคำกลับมา แล้วใช้มือข้างหนึ่งคว้าคอเสื้อด้านหลังของเขาฉุดเขาขึ้นมา และผลักให้เขาเดินไปที่ชั้นหนังสือ พร้อมเอ่ยเสียงเข้มว่า “เปิดมัน” สวีฮว่านลังเลเล็กน้อย ทันใดนั้นชีหยวนก็เตะข้อพับขาของเขาอย่างแรงไปหนึ่งที “เปิดออก!” สวีฮว่านดึงจี้หยกที่ห้อยอยู่ข้างเอวของตนเองออกมาด้วยมือที่สั่นเทา ก่อนจะฝังมันเข้าไปในตำแหน่งที่เป็นช่องเว้าบนชั้นวางหนังสือ และหมุนมันหนึ่งรอบ ทันใดนั้นชั้นหนังสือก็เปิดออกอย่างช้า ๆ ทว่าเสี้ยวพริบตาเดียวนี้ สวีฮว่านรีบสะบัดตัวออกจากชีหยวนหวังว่าจะหลบหนี เขารู้ดี โดยปกติคนเราเมื่อตกอยู่ในเสี้ยวขณะที่ได้รับสิ่งของที่ตนเองต้องการมากเป็นอย่างยิ่ง ก็จะเผลอไผลไปได้ง่ายดายที่สุด เขาเฝ้ารอจังหวะนี้มาโดยตลอด ทว่าน่าเสียดาย เขาเพิ่งจะกลิ้งตัวไปกับพื้น กลับเห็นชีหยวนใช้มือปัดลูกธนูที่พุ่งออกมาจากชั้นวางลับ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status