로그인เซียวหลินเทียนคือยอดขุนพลผู้ช่ำชองการศึกจากการนำทัพออกรบเช่นเดียวกัน หยางเฉิงเองก็เป็นแม่ทัพผู้เคยกรำศึกมา วาจาของเซียวหลินเทียนพลันทำให้หยางเฉิงสงบสติอารมณ์ลงได้เพราะห่วงใยจึงได้สับสน!ก่อนหน้านี้หยางเฉิงเคยสนับสนุนหลงซู่ช่วงชิงบัลลังก์ ทั้งยังอบรมสั่งสอนและถ่ายทอดประสบการณ์การนำทัพกรำศึกทั้งหมดของตนให้แก่หลงซู่อย่างมิปิดบังหลงซู่นั้นหลักแหลมและเรียนรู้ได้ว่องไวเขาย่อมล่วงรู้ความคิดของหยางเฉิง ไฉนเลยจะไม่มีวิธีรับมือหยางเฉิงหลงซู่คุ้นเคยกับตำแหน่งที่ตั้งของยอดเขาเกาหลิ่งยิ่งกว่าหยางเฉิง เมื่อได้รับข่าวเขาก็รู้ได้ทันทีว่าความลับของตนแตกแล้วเช่นเดียวกัน เขาย่อมคาดเดาปฏิกิริยาและแผนการรับมือของหยางเฉิงได้เช่นกันการที่ยังมิลงมือโจมตีในทันทีนั้นก็เพื่อคิดจะล่อหยางเฉิงให้ออกมาเพียงแค่ซุ่มโจมตีอยู่กลางทางก็สามารถสังหารหมู่คณะของหยางเฉิงจนสิ้นซากได้อย่างง่ายดายทำเช่นนี้ มิเพียงแต่จะรักษาทรัพย์สินเงินทองที่ยอดเขาเกาหลิ่งไว้ได้ แต่ยังสามารถรักษาความลับของตนต่อไปได้อีกด้วยเมื่อหยางเฉิงคิดตก ก็หัวเราะเย็นเยียบ “หลงซู่คิดจะล่องูออกจากถ้ำ เช่นนั้นข้าก็จะตั้งรับนิ่งรอดูท่าที! เร
เมื่อกระจ่างแจ้งถึงต้นสายปลายเหตุ หยางเฉิงก็ไม่มีแก่ใจที่จะไต่สวนต่อ จึงเอ่ยขึ้นว่า “นายท่านอู่ ท่านยังอยากซักถามสิ่งใดต่อก็เชิญเถิด!”“ข้าจะออกไปดูแนวป้องกันด้านนอกเสียก่อน คาดว่าป่านนี้หลงซู่ก็น่าจะยกทัพมาถึงแล้ว!”เซียวหลินเทียนพยักหน้า หยางเฉิงจึงเดินออกไปก่อนแม่ทัพหยวนมองเซียวหลินเทียนด้วยแววตาคาดหวัง “นายท่านอู่ เรื่องที่ข้ารู้ ข้าล้วนบอกไปหมดสิ้นแล้ว คำมั่นสัญญาของท่าน ยังถือเป็นจริงอยู่หรือไม่?”“ข้าต้องรีบกลับไปพาภรรยาและบุตรหลบหนี หากเจี่ยงชิงล่วงรู้ว่าข้าหักหลังนาง นางย่อมมิละเว้นภรรยาและบุตรของข้าเป็นแน่!”เซียวหลินเทียนกล่าว “เจ้าวางใจเถิด ตัวข้าเคยกล่าวว่าจะปล่อยเจ้าไป ก็ย่อมปล่อยเจ้าไป!”“ยังมีคำถามอีกเล็กน้อย ถามจบแล้วเจ้าก็ไปได้!”“หลายปีมานี้ที่กลุ่มไร้บ้านกลับสังหารผู้คนปล้นชิงทรัพย์สินที่เขตหลิน อ๋องซู่ล่วงรู้เรื่องนี้หรือไม่?”เมื่อเซวียกวงได้ยินดังนั้นก็หันไปมองแม่ทัพหยวนแม่ทัพหยวนกล่าวอย่างกระอักกระอ่วน “ทีแรกมิรู้ มารู้ในภายหลัง ทั้งยังเกือบจะแตกหักกับเจี่ยงชิงเพราะเรื่องนี้!”“ทว่ามิรู้เจี่ยงชิงใช้วิธีใดเกลี้ยกล่อมเขา เขาจึงแสร้งทำเป็นหูหนวกตาบอด มิ
แม่ทัพหยวนกล่าวเสียงขรึม “ข้ามิรู้ว่าเจี่ยงชิงไปรู้จักกับหลงซู่ได้อย่างไร! รู้แต่เพียงว่าหลังจากที่นางขึ้นเป็นหัวหน้ากลุ่มไร้บ้านกลับแล้ว ก็เรียกพวกเราศิษย์พี่ศิษย์น้องไปหารือกันตลอดคืน”“นางบอกว่า หากกลุ่มไร้บ้านกลับต้องการเติบใหญ่ เพียงแค่ก่อเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ย่อมมิอาจทำการใหญ่ได้!”“ขอเพียงพวกเราเชื่อฟังนางและติดตามนางอย่างเต็มที่ นางจะทำให้พวกเราทุกคนได้ดิบได้ดี มีชีวิตที่อยู่เหนือผู้อื่น กระทั่งสามารถเข้าสู่ราชสำนักรับราชการได้!”“ยามนั้นพวกเราล้วนมิเชื่อคำพูดของนาง คนอย่างพวกเราที่เป็นโจรปล้นชิง จะเป็นขุนนางในราชสำนักได้อย่างไรกัน!”“เจี่ยงชิงจึงบอกให้พวกเรารอ ขอเวลาสามเดือน นางยืนยันว่าจะต้องบรรลุเป้าหมายได้อย่างแน่นอน!”เจี่ยงชิงมิได้พูดโอ้อวดจริง ๆ สองเดือนต่อมา นางก็ส่งจดหมายมาให้แม่ทัพหยวนพาศิษย์พี่คนหนึ่งไปเข้าร่วมกับอ๋องซู่อ๋องซู่แต่งตั้งแม่ทัพหยวนเป็นแม่ทัพในทันที ส่วนศิษย์พี่อีกคนก็ถูกบรรจุเข้ากองกำลังอีกสายหนึ่งของอ๋องซู่ และได้รับตำแหน่งรองแม่ทัพหยางเฉิงมีเหงื่อเย็นไหลซึม ที่แท้เจี่ยงชิงก็ใช้วิธีนี้ค่อย ๆ แทรกซึมคนของกลุ่มไร้กลับบ้านเข้าไปในกองกำลังของอ๋องซ
แม่ทัพหยวนกล่าวต่อ “พวกข้าเหล่าพี่น้องย่อมมิยอมรับนาง คิดว่านางนั้นแสนธรรมดา ติดตามนางไปจะมีอนาคตอันใดได้กัน!”“พี่น้องของข้าผู้หนึ่งชักกระบี่ออกมาหมายจะสังหารนาง ผลลัพธ์คือยังมิทันได้ปะมือถึงสองกระบวนท่า ก็ถูกเจี่ยงชิงสังหารเสียแล้ว!”“ยามนั้นพวกเราล้วนตกตะลึง... ก่อนหน้านี้วรยุทธ์และพลังฝึกปรือของเจี่ยงชิงนับว่าอ่อนด้อยที่สุด เหตุใดเพียงมิกี่วันที่หายหน้าไป พลังฝึกปรือถึงได้ยกระดับขึ้นหลายขั้นถึงเพียงนี้!”“เมื่อสู้มิชนะนาง ทั้งยังได้ฟังนางกล่าวถึงแผนการพัฒนากลุ่มไร้บ้านกลับในภายภาคหน้า พวกเราจึงได้ยอมสยบต่อนาง!”หายหน้าไปเพียงมิกี่วัน วรยุทธ์และพลังฝึกปรือก็ก้าวหน้าขึ้นงั้นหรือ?เซียวหลินเทียนและหยางเฉิงสบตากัน ทั้งสองต่างรู้สึกว่าวิชานอกรีตของเจี่ยงชิงผู้นี้นับว่าร้ายกาจยิ่งนัก“แม่ทัพหยวน ต่อมาเจ้าได้ไถ่ถามพี่น้องคนอื่นบ้างหรือไม่ว่า ช่วงที่พวกเจ้ามิอยู่นั้นเกิดเรื่องอันใดขึ้น?”เซียวหลินเทียนยังคงซักไซ้ต่ออย่างมิลดละแม่ทัพหยวนมิทราบว่า เหตุใดเซียวหลินเทียนจึงติดใจในปัญหานี้ แต่เมื่อคิดว่าต่อให้พูดออกไปก็มิได้เสียหายอันใด เขาจึงกล่าวว่า“ข้าถามแล้ว มีพี่น้องผู้หนึ่งแอบบอ
เซวียกวงยังคิดจะลงมือซ้ำเติมแม่ทัพหยวน แต่เซียวหลินเทียนก็ห้ามเขาไว้“แม่ทัพหยวน พวกเราสามารถไว้ชีวิตเจ้าได้ ขอเพียงเจ้าบอกว่าอาจารย์ของเจ้าคือผู้ใด และเจี่ยงชิงนั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร!”แม่ทัพหยวนชำเลืองมองเซียวหลินเทียน ก่อนจะแค่นเสียงเย็นชา “ท่านคิดว่าข้าจะบอกหรือ?”เซียวหลินเทียนกลับมิร้อนรน ยิ้มจาง ๆ พลางกล่าว “เจ้าต้องยอมพูดอยู่แล้ว!”“แม่ทัพหยวน ฐานะของตัวข้านั้นเจ้าย่อมรู้ดี แม้ข้าจะมิสังหารผู้บริสุทธิ์ส่งเดช แต่สองมือของข้าก็เปรอะเปื้อนโลหิตมานับมิถ้วน!”แม่ทัพหยวนพลันชะงักงันไป สองมือของเขาเองก็เปื้อนโลหิตมามากมายมหาศาล ย่อมเข้าใจความนัยคุกคามที่แฝงอยู่ในวาจานี้ของเซียวหลินเทียนภรรยาและบุตรชายของเขามิได้อยู่ที่ยอดเขาเกาหลิ่ง แต่ขอเพียงพวกเซวียกวงคิดจะลงมือ การสังหารพวกเขาก็ง่ายดายประดุจพลิกฝ่ามือตัวเขาตายคนเดียวก็มิเป็นไร แต่บุตรทั้งสองของเขายังเล็กนัก หากต้องมาสังเวยชีวิตเช่นนี้ ตระกูลหยวนของเขามิต้องสิ้นผู้สืบสกุลหรอกหรือ?ชั่วขณะนั้น แม่ทัพหยวนก็บังเกิดความลังเลสับสนขึ้นในใจเซวียกวงได้ยินวาจาของเซียวหลินเทียน ก็แค่นเสียงเย็นชา “แม่ทัพหยวน คิดถึงคนเหล่านั้นที่ตา
เหล่าทหารที่เหลือต่างมองไปยังหยางเฉิง พลางเอ่ยเสียงดังว่า “ใต้เท้าหยาง ตอนนี้พวกเราควรทำเช่นไรดี?”“ต่อไปพวกเราจะฟังคำบัญชาของท่าน ท่านว่าอย่างไร พวกเราก็จะทำตามนั้น!”หยางเฉิงเหลือบมองเซียวหลินเทียน ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ทุกคน ข้าต้องขออภัยพวกเจ้าด้วย ที่ข้ามิทันได้ล่วงรู้โฉมหน้าที่แท้จริงของอ๋องซู่ ทว่ากลับสนับสนุนเขา!”“ข้าในฐานะขุนนางราชสำนัก มิกล้าสู้หน้าพวกเจ้าจริง ๆ!”“นายท่านอู่ผู้นี้ ท่านคือจักรพรรดิเซิ่งอู่แห่งฉินตะวันตก ส่วนพระชายาของท่านก็คือหลิงอวี๋ผู้เป็นหลานสาวแท้ ๆ ของเจ้าแห่งทิศใต้!”“บัดนี้เจ้าแห่งทิศใต้ได้สถาปนาเป็นจักรพรรดิที่เมืองหลวงแดนเทพแล้ว นายท่านอู่ยินดีที่จะช่วยเหลือเจ้าแห่งทิศใต้! ข้าเองก็ขอยกย่องเจ้าแห่งทิศใต้เป็นจักรพรรดิเช่นกัน!”“รอจนจับกุมอ๋องซู่ได้ ข้าจะคุมตัวเขาส่งไปยังเมืองหลวงแดนเทพ มอบให้เจ้าแห่งทิศใต้เป็นผู้ตัดสินโทษ!”ทหารเหล่านี้มิใช่คนธรรมดา อย่างไรก็เคยได้ยินชื่อเสียงของเซียวหลินเทียนและหลิงอวี๋มาบ้าง ชั่วขณะหนึ่ง ในใจของบางคนก็เริ่มเกิดความคลางแคลงใจจักรพรรดิแห่งฉินตะวันตกเสด็จมายังเมืองหลวงแดนเทพเพื่อช่วยเหลือเจ้าแห่งทิ







