“พวกของอู่จวิ้นเคยไปที่ใต้หล้าแห่งนี้มาหรือ?”เซียวหลินเทียนอดมิได้ที่จะเอ่ยถามอย่างอยากรู้ “บนใต้หล้านี้ยังมีอีกใต้หล้าหนึ่งอยู่จริง ๆ หรือ?”มู่หรงเหยียนซงจึงพยักหน้าอย่างจริงจัง “อู่จวิ้นกับอาจารย์ของพวกเราล้วนพูดเช่นนี้ ข้าเชื่อพวกเขา!”“อีกอย่าง ข้ายังมีหลักฐานอื่นที่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีใต้หล้าที่เรียกว่าแดนปีศาจอยู่จริง ๆ!”“หลักฐานอันใด?” เซียวหลินเทียนร้อนใจเอ่ยถามออกไป“นี่ไง!”มู่หรงเหยียนซงหยิบแหวนที่ดูโบราณแปลกตาออกมา หากมองอย่างละเอียดจะเห็นลวดลายที่ซับซ้อนคล้ายกับตัวอักษรอยู่บนแหวนนั้น“อ๋องอี้ เจ้าให้กระบี่เรืองรองกับข้า แหวนพระสุเมรุนี้ ข้าของมอบกลับคืนเป็นของกำนัลให้เจ้าแล้วกัน!”เขาส่งแหวนให้เซียวหลินเทียนเซียวหลินเทียนเห็นว่าแหวนมิได้พิเศษอะไรก็ค่อนข้างผิดหวัง นี่นับว่าเป็นหลักฐานอะไรกัน!แม้ว่าแหวงวงนี้จะดูเก่าแก่ แต่ก็จะว่าเป็นเงินก็มิคล้ายเงิน จะว่าเป็นทองก็มิคล้ายทอง จะมีมูลค่าเท่าใดกัน!แต่เขาก็รับมาตามมารยาทมู่หรงเหยียนซงสังเกตสีหน้าท่าทางเห็นว่าเซียวหลินเทียนมิได้มีท่าทีดีใจมากเป็นพิเศษก็รู้เลยว่าเขามิรู้จักสิ่งนี้“อ๋องอี้ เจ้าดูสิ!”มู่หรงเห
หยกหล้าสุขาวดี?หลิงอวี๋นึกถึงมิติของตนทันที หรือว่ามิติลึกลับของตนจะมาจากแดนปีศาจเหมือนกันกับแหวนพระสุเมรุ?ตอนนั้นหลานฮุ่ยจวนสูญเสียพลังวิญญาณไป มิสามารถเข้าไปในมิติได้อีกดังนั้นจึงเป็นตนเอง?“น้องหลิงอวี๋ ในบรรดาของต่างหน้าของท่านแม่เจ้าไม่มีหยกหล้าสุขาวดีหรือ?”มู่หรงเหยียนซงเอ่ยถามอย่างตื่นเต้น “จากที่อู่จวิ้นบอกมา คนในแดนปีศาจไล่ล่าพวกเขาก็เพื่อจะเอาหยกหล้าสุขาวดีกลับคืน ในหยกหล้าสุขาวดีนี้น่าจะเป็นสมบัติที่ใช้ฝึกฝนพลังวิญญาณทั้งหมด!”“หากเจ้าได้หยกหล้าสุขาวดีมา ก็จะฝึกพลังวิญญาณได้เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดแน่นอน แม้ว่าคนจากแดนปีศาจจะพบเข้า เจ้าก็จะสามารถจัดการกับพวกเขาได้!”หลิงอวี๋ระวังตัวขึ้นมาทันทีจากคำบอกเล่าของอู่จวิ้น หลานฮุ่ยจวนเป็นยอดฝีมือพลังวิญญาณ และนางก็ยังถูกคนไล่ล่าอีกด้วย ตนเพิ่งจะเข้าสู่ศาสตร์นี้ แม้แต่เก๋อเทียนซือยังจัดการมิได้เลยแล้วจะเป็นคู่ต่อสู้กับคนเหล่านั้นได้เยี่ยงไรกัน!นางไม่มีทางยอมรับเด็ดขาดว่าตนมีมิติอยู่!ยิ่งไปกว่านั้น หยกหล้าสุขาวดีที่มู่หรงเหยียนซงพูดถึงก็มิแน่ว่าจะหมายถึงมิติของตนเองด้วยนางยังมิรู้อะไรแน่ชัดทั้งนั้นจะไปชักไฟเข้าหาตัวไ
มู่หรงเหยียนซงเห็นใบหน้ากลัดกลุ้มของทั้งสองคนจึงเอ่ย “อย่าได้กังวลไป! น้องหลิงอวี๋ ข้าบอกแล้วว่าหามาพวกเจ้าด้วยสองเรื่อง เรื่องท่านแม่ของเจ้าพูดไปแล้ว เช่นนั้นตอนนี้ก็จะพูดเรื่องที่สองเลยแล้วกัน!”“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับครอบครัวของพระชายาเว่ย! น้องหลิงอวี๋ ก่อนหน้านี้ไทเฮาถูกวางยาพิษมิใช่หรือ? จากทักษะการแพทย์ของเจ้าคงตรวจมิเจอว่าไทเฮาถูกพิษชนิดใดใช่หรือไม่?”หลิงอวี๋ตะลึงแล้วมองไปทางมู่หรงเหยียนซง นางตรวจสอบมิเจอจริง ๆ ว่าไทเฮาถูกพิษชนิดใด รวมถึงพิษที่ก่อนหน้านี้ตนถูกแม่นมของพระชายาเว่ยวางยาด้วยการแก้พิษทั้งสองครั้งนี้ล้วนพึ่งยาแก้พิษที่อยู่ในกล่องเหล็กของหลานฮุ่ยจวนทั้งสิ้น ตอนนี้นางเหลือเพียงแค่เม็ดสุดท้ายแล้ว หากยังตรวจสอบมิพบแล้วได้รับพิษอีกนางก็คงหมดปัญญาแล้ว“องค์ชายจิ้น ท่านทรงทราบหรือว่านั่นคือพิษชนิดใด?”หลิงอวี๋เอ่ยถามอย่างร้อนใจมู่หรงเหยียนซงส่ายหน้าพลางเอ่ย “เรื่องที่ว่ายาพิษมีส่วนประกอบใดบ้างนั้นเป็นความลับของตระกูลเว่ย เมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้แล้วก็ต้องเอ่ยถึงอีกเรื่องหนึ่งด้วย อ๋องอี้ พวกท่านมิเคยสงสัยสาเหตุการสิ้นพระชนม์ของจักรพรรดิสูงสุดเลยหรือ?”เซียวห
เซียวหลินเทียนเห็นจากด้านหลังว่ามู่หรงเหยียนซงถือกระบี่เรืองรองฟันไปที่หน้าอกของมือสังหารอย่างรวดเร็วเลือดสด ๆ สาดกระเซ็นไปทั่ว มือสังหารอีกคนข้างหลังเห็นสถานการณ์แล้วรูม่านตาก็หดเล็กลง จากนั้นก็ส่งเสียงตะคอกออกไปอย่างเศร้าโศกและโกรธแค้นพร้อมถือดาบแทงไปที่มู่หรงเหยียนซงมู่หรงเหยียนซงยังมิทันชักกระบี่กลับ ดาบของอีกฝ่ายก็โจมตีเข้ามาแล้วเมื่อเห็นว่าดาบของฝ่ายตรงข้ามเล็งไปที่หน้าอกของมู่หรงเหยียนซง ในสถานการณ์คับขันนั้น เซียวหลินเทียนก็พุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็วแล้วจ่อดาบไปที่คอของมือสังหารมือสังหารจะป้องกันตัวเองจึงทำได้เพียงชักดาบกลับมาป้องกันไว้ แต่เขาก็ยังมิยอมแพ้ที่จะปล่อยมู่หรงเหยียนซงไปเช่นนี้เขาลังเลอยู่เล็กน้อยแต่ก็พลาดโอกาสที่ดีไปแล้ว หลิงอวี๋เอายาสลบแทงไปที่มือสังหารแล้วส่วนมู่หรงเหยียนซงก็ให้ความร่วมมือไปโดยปริยาย เท้าของเขาลื่นไปกับพื้น แล้วปลายเท้าก็ไปเตะเข้าที่มือสังหารแต่เพราะว่ามือสังหารเป็นยอดฝีมือจึงตัดสินสถานการณ์นี้ได้อย่างรวดเร็วเขารูปร่างค่อนข้างเตี้ย ดาบของเซียวหลินเทียนจึงผ่านหัวเขาไปและเส้นผมก็กระจัดกระจายออกมามือสังหารพุ่งไปข้างหน้าแล้วกระโจนออกจากหน
“หลู่ชิ่ง ช้าก่อน เอาศพของมือสังหารไปส่งให้แม่ทัพเฉินด้วย!”เซียวหลินเทียนมองหลิงอวี๋ หลิงอวี๋ก็เข้าในความหมายของเซียวหลินเทียนทันทีในเมื่อมือสังหารทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน แทนที่จะเสียแรงไปตามจับหญิงสาวที่หนีไป สู้นำศพชายของนางมาใช้ล่อให้นางติดกับดีกว่าแต่หลิงอวี๋กลับมิคิดว่ามือสังหารหญิงจะมาติดกับด้วยตนเองพวกเขารู้เรื่องการเดินทางของตนกับเซียวหลินเทียนเช่นนี้ ก็มิน่าจะมิรู้ว่าโดยนิสัยของเซียวหลินเทียนแล้ว จะไม่มีการทำร้ายศพเป็นอันขาดขอเพียงมือสังหารหญิงรอคอยอย่างอดทน กระทั่งมือสังหารชายถูกนำไปฝังแล้วค่อยขโมยศพไปก็ได้แล้วแม้ว่าหลิงอวี๋จะนึกถึงจุดนี้ แต่ก็มิอยากขัดความกระตือรือร้นของเซียวหลินเทียนจึงมิพูดอะไรออกไปเรื่องที่พบมือสังหาร ทำให้การพูดคุยของพวกเขากับมู่หรงเหยียนซงไปต่อมิได้แล้วหลิงอวี๋ถูกเลือดของมือสังกหารกระเซ็นไปทั่วร่างกาย จึงเอ่ยอย่างรู้สึกขยะแขยง “ท่านพี่มู่หรง วันนี้พอเท่านี้เถิด ท่านกลับไปพักผ่อนก่อน วันพรุ่งข้าจะเชิญพวกท่านมาทานอาหารกันที่ตำหนักอ๋องอี้ แล้วเราค่อยคุยกันต่อเถิด!”“ได้!”มู่หรงเหยียนซงเองก็กลัวว่าจะเจอเรื่องมิคาดคิดขึ้นอีกจึงพยักหน้า“ว
“ใช่แล้ว เป็นเช่นนี้เลย!”หลิงอวี๋ยกมุมปากขึ้นอย่างดูถูก “แม้ว่าฮองเฮาเว่ยจะเข้าตำหนักเย็นไปแล้ว และองค์ชายเว่ยก็ถูกลงโทษให้ไปเฝ้าสุสานจักรพรรดิ แต่ตระกูลเว่ยก็ยังมีคนที่เป็นขุนนางอยู่ในราชสำนักอีกมิน้อย”“ขุนนางผู้มีอำนาจต่อให้ถูกลดทอนอำนาจลงก็ยังคงมิสิ้นอำนาจอยู่ดี นี่คือแผนการที่คิดจะซ้ำเติมตระกูลเว่ยเพคะ!”เซียวหลินเทียนมองออกไปอย่างครุ่นคิดตอนนี้องค์ชายเว่ยกับฮองเฮาเว่ยเสียอำนาจไป ผู้ที่มีความสามารถที่จะมาแย่งชิงตำแหน่งองค์รัชทายาทกับตนได้ มีเพียงแค่องค์ชายคังเท่านั้น และพระชายาเส้าที่อยู่เบื้องหลังองค์ชายคังก็แอบเล็งตำแหน่งฮองเฮาอยู่ด้วยมีเพียงการทุบตระกูลเว่ยจนมิสามารถที่พลิกฟื้นคืนมาได้เท่านั้น พระชายาเส้ากับองค์ชายคังจึงจะมีความเป็นไปได้ที่จะบรรลุความปรารถนาเช่นนั้นนอกจากพระชายาเส้ากับองค์ชายคังแล้ว ใครกันที่จะทำเรื่องที่ฆ่าแกงผู้คนเช่นนี้ได้!“หึ...”เซียวหลินเทียนส่งเสียงอย่างเย็นชา แล้วเอ่ยกับหลิงอวี๋อย่างเจือน้ำเสียงบ่นไปด้วย“ก่อนหน้านี้เรามิควรปล่อยองค์ชายคังไปเลย เจ้าดูพันธมิตรชั่วคราวของเจ้าเถิด นี่ยังมิถึงสองวันก็หันหัวหอกกลับมาหาเจ้าแล้ว!”หลิงอวี๋ยิ้มออ
คำพูดของหลิงอวี๋ทำให้ดวงตาของเซียวหลินเทียนเป็นประกายขึ้นมาทันที เขาได้รู้เรื่องที่หลิงอวี๋สามารถใช้พลังวิญญาณเก็บและเรียกดาบวิเศษออกมาได้หากสิ่งที่หลิงอวี๋พูดเป็นเรื่องจริง เช่นนั้นหากเจอดาบวิเศษที่ตนหยดเลือดสร้างพันธะด้วยได้ เขาก็จะสามารถใช้พลังวิญญาณคุมดาบไปสังหารคนได้เช่นกันมิใช่หรือ?“อาอวี๋ เช่นนั้นข้าจะต้องตั้งใจฝึกฝนพลังวิญญาณ!”เซียวหลินเทียนยิ่งคิดก็ยิ่งตื่นเต้น เขาต้องรีบบำเพ็ญเพียรพัฒนาตนเอง เพื่อหลีกเลี่ยงตอนที่ได้รับดาบวิเศษเช่นนั้นจริง ๆ แล้วตนเองกลับมิสามารถควบคุมมันได้หลิงอวี๋เองก็คล้อยตามไปกับความตื่นเต้นของเซียวหลินเทียนเช่นกัน คำพูดของมู่หรงเหยียนซงเป็นการยืนยันแล้วว่า ใต้หล้าผืนนี้ยังมีอีกใต้หล้าที่เหนือชั้นกว่านี้ไปอีกเก๋อเทียนซือสามารถมาที่ฉินตะวันตกได้ ก็อาจจะมีศัตรูอีกมากที่มาได้เช่นกันหากนางมิอยากถูกคนอื่นทำร้ายแล้วมิสามารถตอบโต้ได้ ก็ทำได้เพียงพัฒนาตนเองเท่านั้น “เซียวหลินเทียน ท่านสอนวรยุทธให้หม่อมฉันเถิดเพคะ! หม่อมฉันเองก็ต้องขยันแล้วเช่นกัน!”ในบรรดาคนที่หลิงอวี๋รู้จักในตอนนี้ก็มีเซียวหลินเทียนที่มีวรยุทธสูงที่สุด นางทำได้เพียงให้เซียวหลินเทีย
นี่มันหยิ่งผยองเกินไปจริง ๆ!เซียวหลินเทียนลุกขึ้นอย่างเดือดดาลแล้วรีบแต่งตัวออกไปที่หลุมศพของหลี่ว์กังพร้อมกับหลิงอวี๋อย่างรวดเร็วระหว่างทางก็ได้พบกับหลี่ว์เซียงกับหลี่ว์จงเจ๋อที่ได้ข่าวแล้วรีบมาเช่นกันหลี่ว์เซียงโกรธจนพูดติด ๆ ขัด ๆ เอ่ยขึ้นมา “รังแกกันมากไปแล้ว… รังแกกันมากเกินไปแล้วจริง ๆ! เซี่ยโฮ่วตานรั่วผู้นี้คิดว่าฉินตะวันตกไม่มีใครเลยจริง ๆ หรือไร?”“นางกล้าเฆี่ยนตีศพ! ข้า… ข้าจะต้องกราบทูลต่อองค์จักรพรรดิให้นางชดใช้!”สายตาของหลี่ว์จงเจ๋อมองหลิงอวี๋อย่างซับซ้อน หลิงอวี๋คาดการณ์ถูกอีกแล้ววันนี้ตอนที่เสร็จสิ้นพิธีศพของหลี่ว์กัง ก่อนที่หลิงอวี๋จะกลับไปก็ได้บอกกับหลี่ว์จงเจ๋อเป็นการส่วนตัว“ฮูหยินสามไปอาศัยอยู่ที่ไร่นาของข้า หากเซี่ยโฮ่วตานรั่วมิสามารถลงมือกับพวกนางได้ มิแน่ว่าอาจจะมาระบายความโกรธที่ศพของหลี่ว์กังก็ได้! เจ้าหาคนสักสองสามคนไปเฝ้าที่หลุมศพหลี่ว์กังไว้ในตอนที่พวกเซี่ยโฮ่วตานรั่วยังมิออกจากฉินตะวันตก ป้องกันไว้ก่อน!”ก่อนหน้านี้หลี่ว์จงเจ๋อยังมิเห็นด้วยเท่าไร คิดว่าคนตายไปแล้วเซี่ยโฮ่วตานรั่วคงมิทำอันใดกับคนตายหรอกทว่าด้วยความเชื่อใจที่มีต่อหลิงอวี๋ หลี่ว
“หึหึ!”ชายาเจ้าแห่งทะเลหัวเราะออกมา “หลิงอวี๋ เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? หยกหล้าสุขาวดีหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าแล้ว ค้นตัวเจ้าจะหาเจอได้อย่างไร?”“หลิงอวี๋ หยกหล้าสุขาวดีมิใช่ของของเจ้าตั้งแต่แรก มารดาเจ้าเป็นนางโจร ขโมยมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของจวนเจ้าแห่งทะเลไป การให้เจ้าคืนมาก็แค่เป็นการคืนของสู่เจ้าของเดิม!”“ข้าสืบรู้มาหมดแล้ว เจ้าและเซียวหลินเทียนสามีของเจ้าต่างก็อยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ เจ้ายังมีบุตรชายอีกคนที่ฉินตะวันตก!”“หลิงอวี๋ ที่เจ้าปฏิเสธมิยอมรับฐานะของตนเองมาตลอด คงเป็นเพราะล่วงรู้ถึงวิธีที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาแล้วสินะ”“เจ้าคิดว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี ดังนั้นเจ้าจึงคิดว่า ขอเพียงมิยอมรับก็เป็นไปมิได้ที่พวกเราจะมัดตัวเจ้าไปสลายเลือดละลายกระดูกที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำหยกหล้าสุขาวดีออกมา!”ชายาเจ้าแห่งทะเลพูดถึงตรงนี้ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าเชื่อหรือไม่ ข้ามิจำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน ก็สามารถมัดตัวเจ้าไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!”“ที่ข้าให้คนนำตัวเจ้ามาที่จวนเจ้าแห่งทะเล ก็เพื่อจะให้โอกาสเจ้า!”หลิงอวี๋หรือจะยอมรับฐานะของตนเพียงเพราะชายาเจ้าแห่งทะเลพูดเช่นนี้ได้อย่าง
“เข้าไป อย่าให้พ่อบ้านผู้นี้ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง!”รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อบ้านเว่ยหายไปสิ้น กล่าวอย่างมิอดทน “เมื่อให้โอกาสดี ๆ มิชอบ ก็ต้องเจอดีเสียบ้าง!”เถาจื่อกำแขนหลิงอวี๋ไว้แน่น และถามผ่านสายตา“ตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”หลิงอวี๋ก็คาดมิถึงว่าจวนเจ้าแห่งทะเลจะเปลี่ยนท่าทีเร็วถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่า เมื่อเข้ามาในจวนเจ้าแห่งทะเลแล้วจะสามารถยื้อเวลาสักพักได้ชายาเจ้าแห่งทะเลมิปรากฏตัว แต่กลับให้พ่อบ้านเว่ยพาตนมาที่นี่เช่นนี้เลย?นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?คิดจะขังนางไว้ หรือว่ามีแผนอื่นกระไร?หลิงอวี๋มองไปยังท่าทีมีเจตนาร้ายของพวกพลธนูและชายร่างใหญ่หลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหล่านั้น นางและเถาจื่อไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไปได้เลย“เข้าไปก่อนเถอะ!”หลิงอวี๋นำหน้าเดินเข้าไป เถาจื่อตามติดอยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าประตูเรือน เมื่อเห็นสภาพข้างในก็รู้สึกว่ามิดีแน่ เพิ่งจะคิดถอยหลังเถาจื่อกลับถูกคนผลักจากด้านหลังอย่างแรง ชนเข้ากับร่างหลิงอวี๋จนดันหลิงอวี๋เข้าไปข้างในทั้งสองคนล้มลงไปกองรวมกัน ยังมิทันได้ลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงดังโครมสนั่นกล
หลงเพ่ยเพ่ยห้อยอยู่บนชะง่อนผานั้น นางเองก็ทนต่อไปมิไหวแล้ว ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของทุกคน นางจึงปีนป่ายเชือกขึ้นไปนางนึกถึงจุดประสงค์ที่ตนมาที่นี่ หากเย่หรงตายไปแล้วจริง ๆ เขาย่อมหวังให้นางช่วยหลิงอวี๋ออกมาได้อย่างแน่นอนนางมิอาจทำให้เย่หรงตายตามิหลับได้!เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยปีนขึ้นมาได้ก็มิสนใจตรวจสอบบาดแผลของตน นางคุกเข่าลงต่อหน้าฮองเฮาทันทีนางกล่าวเสียงเครือ “เสด็จย่า เรื่องที่ทรงรับปากหม่อมฉันเมื่อครู่ สามารถประทานพระราชโองการให้หม่อมฉันตอนนี้ได้หรือไม่เพคะ?”“เมื่อครู่เย่หรงช่วยชีวิตหม่อมฉันและหยวนซานไว้ เพียงเห็นแก่บุญคุณทั้งสองครั้งนี้ เสด็จย่าทรงควรจะช่วยให้เขาสมหวังนะเพคะ!”ฮองเฮานึกถึงเรื่องที่เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยอ้อนวอนตนเมื่อครู่ เย่หรงเป็นถึงเพียงนี้แล้ว นางจะยังทำให้คนที่เขาชอบพอลำบากใจได้อีกหรือ?ฮองเฮาถอดปิ่นปักผมอันหนึ่งของตนออกมาโดยมิทันคิด แล้วยื่นให้กับหลงเพ่ยเพ่ย“ถือปิ่นปักผมนี้ไปพาตัวสิงอวี๋ออกมาเถอะ!”หลงเพ่ยเพ่ยรับปิ่นปักผมหงส์คู่ปักทองคำของฮองเฮามาทั้งน้ำตา นี่คือปิ่นปักผมที่ฮองเฮาเท่านั้นจึงจะสวมใส่ได้ เห็นปิ่นดังเห็นองค์ เทียบเท่ากับพระราชโองการของฮองเฮ
“ท่านหญิง...”“เพ่ยเพ่ย...”ฮองเฮาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยตกลงไปก็ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ ผานกกระเรียนแห่งนี้เป็นปรปักษ์กับราชวงศ์หรืออย่างไร?เหตุใดถึงได้ตกลงไปทีละคนเช่นนี้?“เร็วเข้า ช่วยคน!”ฮองเฮาตะโกนลั่น นางกำนัลที่มีไหวพริบรีบไปตามองครักษ์มาช่วยทางด้านเย่หรงทรงตัวได้มั่นคงบนชะง่อนผาแล้ว เขาเพิ่งจะถอนหายใจโล่งอกก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านบนเมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นหลงเพ่ยเพ่ยกำลังร่วงหล่นลงมาหัวใจของเย่หรงหดเกร็งวูบ มิทันได้คิด คว้าเถาวัลย์ข้าง ๆ แล้วโหนตัวไปหาหลงเพ่ยเพ่ยหลงเพ่ยเพ่ยตกใจจนหลับตาลงแล้ว เตรียมพร้อมยอมรับความตายแต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนตนชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง จากนั้นร่างก็ถูกกอดไว้“ไปทางนั้น เร็วเข้า คว้าชะง่อนผานั่นไว้!”เย่หรงพลิกตัวกลางอากาศ เหวี่ยงหลงเพ่ยเพ่ยไปทางนั้น หลงเพ่ยเพ่ยพุ่งเข้าใส่ผนังผา แต่ใช้แรงมากเกินไปจนใบหน้าชนกับผนังผาจนถลอก นางเจ็บเสียจนหน้ามืดตาลายแต่นางมิสนใจความเจ็บปวดแทบขาดใจ เช่นเดียวกันกับเย่หรง เขาพยายามสุดชีวิตที่จะคว้าเถาวัลย์เหล่านั้นไว้โชคดีที่เถาวัลย์ฝั่งนี้ยังพันเกี่ยวกับกิ่งไม้มากมาย เถาวัลย์ที่พันกิ่งไม้ไว้นั้
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี