ท่านจินต้าเข้ามาคุยธุระกับเซียวหลินเทียนพอดี ครั้นได้ยินเรื่องนี้ก็รีบเข้ามาเอ่ยเลย “เรื่องนี้กระหม่อมลืมรายงานท่านอ๋องไปเลยพ่ะย่ะค่ะ!” “ท่านอ๋อง คนของกระหม่อมได้พบกับจางซื่อนางผดุงครรภ์ที่ทำคลอดให้พระชายาในตอนนั้นแล้ว หลังจากที่ได้บีบบังคับนาง จางซื่อก็ยอมรับว่าครั้งที่แล้วนางรับเงินจากชิวเหวินซวงจึงจงใจป้ายสีพระชายาพ่ะย่ะค่ะ!”“นางบอกว่า เด็กที่พระชายาคลอดมานั้นมีอายุครรภ์มิครบจริง ๆ แม่นมลี่เองก็มิได้ติดสินบนนาง!”เซียวหลินเทียนได้ยินดังนั้นก็มองจ้าวซวนอย่างดุร้ายครั้งที่แล้วเขาก็ให้จ้าวซวนไปตรวจสอบเรื่องนี้ ผลคือคำตอบที่จ้าวซวนให้ตนคือไม่!จ้าวซวนถูกเซียวหลินเทียนมองมาก็รู้สึกผิดเล็กน้อยพลางเอ่ยออกไป “ท่านอ๋อง ขอประทานอภัยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมสะเพร่าเอง!”ท่านจินต้าคิดแค่อยากจะรีบคลายความเข้าใจผิดให้ท่านอ๋องกับหลิงอวี๋ ต่อไปอย่าได้หมางเมินกันเพราะเรื่องนี้อีกเลย เขาจึงเอ่ยต่อ“ยังมีแม่นมจูที่รับผิดชอบเลี้ยงดูพระชายามาด้วยพ่ะย่ะค่ะ เรื่องจดหมายรักที่อธิบายมิได้นั้นล้วนเป็นชิวเหวินซวงที่เอาไปให้นาง แม่นมจูบอกว่า เมื่อก่อนมิเคยเห็นพระชายาเขียนจดหมายรักให้ผู้ใดเลย!”“ส่วนพวกเรื่
เซียวหลินเทียนรู้สึกว่า มีกองทัพหลวงที่กำจัดสายลับไปแล้วกับค่ายกองทหารเสือที่ได้สร้างขึ้นใหม่คอยเฝ้าวังหลวงไว้แล้ว น่าจะมิเกิดเรื่องใหญ่อะไรส่วนอวี๋เฮ่า ภายนอกเขาเป็นองครักษ์กองทัพหลวงในวัง แต่แท้จริงแล้วเขาก็เป็นสมาชิกของค่ายกองทหารเสือเช่นกัน เซียวหลินเทียนตรวจสอบอยู่หลายครั้งจนมั่นใจว่าเขาไม่มีจุดน่าสงสัยจึงได้วางใจใช้งานเขาอวี๋เฮ่ามาถึงที่นี่กลางดึกเช่นนี้ แม้ว่าจะมิใช่เรื่องใหญ่ ก็แต่ต้องเป็นเรื่องที่มิสามารถให้ใครรู้ได้!“ข้าจะไปเรียกหลิงอวี๋ เจ้าไปเตรียมกลุ่มไว้ แล้วเตรียมพร้อมรอคำสั่ง!”เซียวหลินเทียนจะเข้าวังโดยมิเตรียมการอะไรเลยมิได้จากประสบการณ์เรื่องเหตุที่เกิดขึ้นในวัง อันตรายใด ๆ ก็สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น ดังนั้นเซียวหลินเทียนต้องเตรียมตัวให้พร้อม“อาอวี๋ เกิดเรื่องแล้ว!”เซียวหลินเทียนรวบรวมความกล้าเคาะประตูเรือนบุหงาไฟในเรือนบุหงายังคงสว่างอยู่ หลิงอวี๋ต้องยังมิได้พักผ่อนแน่นอนหลังจากนั้นมินานสุ่ยหลิงก็เปิดประตูแล้วขมวดคิ้วพลางเอ่ย “คุณหนูของเราเพิ่งจะนอนไปเพคะ หากมิใช่เรื่องเร่งด่วนค่อยว่ากันวันพรุ่งเถิดเพคะ!”“ปลุกนางตื่นเถิด มีเรื่องด่วนในวังให้เรารี
“ไทเฮา!”หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนเรียกเป็นเสียงเดียวกันหลิงอวี๋ใจเต้นรัว นางเห็นถังถีเตี่ยนทิ้งมือทั้งสองแล้วยืนตรงอยู่ข้างไทเฮาพร้อมกับสีหน้าที่ดูเศร้าหรือว่าองค์จักรพรรดิจะสวรรคตแล้ว?“อาอวี๋… เทียนเอ๋อร์ พวกเจ้ามาแล้ว!”ไทเฮาได้ยินเสียงของทั้งสองคนก็หันมามองความเลื่อนลอยบนใบหน้าของไทเฮาหายไปอย่างรวดเร็ว ตามมาด้วยความมุ่งมั่นและความเด็ดขาด“ถังถีเตี่ยน เจ้าออกไปพักก่อนเถิด!”หลังจากคำพูดของไทเฮา ถังถีเตี่ยนกับบรรดาคนสนิทก็เดินออกไปอย่างรู้หน้าที่“ไทเฮา เสด็จพ่อ… อาอวี๋ เจ้ายืนตะลึงอะไรเล่า ไปตรวจเสด็จพ่อสิ!”เซียวหลินเทียนเห็นสีหน้าของไทเฮาก็ตื่นตระหนกทันทีหลิงอวี๋ก็ตกใจเช่นกัน นางรีบก้าวไปข้างหน้า แต่ก็ถูกไทเฮาห้ามเอาไว้“เสด็จพ่อของเจ้าสิ้นลมไปเมื่อสิบห้านาทีที่แล้ว!”ไทเฮาเอ่ยอย่างสงบ “ถังถีเตี่ยนได้ตรวจเขาและยืนยันแล้ว!”“หากเจ้าอยากจะตรวจ อีกประเดี๋ยวค่อยตรวจเถิด! เรื่องด่วนที่สุดในตอนนี้คือพวกเราจะจัดการกับเรื่องหลังจากนี้อย่างไร!”อะไรนะ? จักรพรรดิอู่อันสวรรคตแล้วจริงหรือ?หลิงอวี๋ก้าวสะดุดล้มและทรุดลงไปนั่งกับพื้นนี่เป็นครั้งแรกที่นางสิ้นสติเช่นนี้!ไ
คำพูดนี้ของเซียวหลินเทียนเป็นการรับหน้าที่สำคัญที่ไทเฮาได้มอบหมายให้แล้ว และเป็นการรับในความสัมพันธ์แห่งพันธมิตรที่แน่นแฟ้นจนมิอาจทำลายได้ที่เขากับไทเฮาได้สร้างขึ้นแล้วไทเฮายิ้มอย่างปลื้มใจแล้วพยักหน้า จากนั้นก็ดึงให้เซียวหลินเทียนเดินไปด้านข้างในหัวของหลิงอวี๋เป็นความสับสนวุ่นวายไปหมด นางลุกขึ้นแล้วรีบไปตรวจดูจักรพรรดิอู่อันจู่ ๆ จักรพรรดิอู่อันก็สวรรคต นี่จะต้องมีคำอธิบายที่เหมาะสมสิมิเช่นนั้นไทเฮากับเซียวหลินเทียนจะถูกคนครหาเอาได้!นางตรวจไปก็จัดการความคิดของตนไปด้วยก่อนหน้านี้ บรรดาองค์ชายพยายามฟาดฟันกันอย่างเอาเป็นเอาตายเพื่อแย่งชิงตำแหน่งองค์รัชทายาท ทว่าเพียงชั่วพริบตา จักรพรรดิอู่อันก็มาสวรรคตไปเช่นนี้แล้วเซียวหลินเทียนจากที่อยู่ในฐานะอ๋องกลับได้กระโดดขึ้นมาอยู่ในตำแหน่งจักรพรรดิเลย แล้วองค์ชายคังกับองค์ชายเย่จะยอมหรือ?ยังมีขุนนางน้อยใหญ่อีก!ดูจากจ้าวฮุยที่เป็นผู้นำพรรคพวกองค์ชายคังจะยอมสยบต่อเซียวหลินเทียนหรือ?หลิงอวี๋มิได้นึกถึงการเปลี่ยนตัวตนของตนเลยแม้แต่น้อย!เซียวหลินเทียนเป็นจักรพรรดิแล้ว นางเป็นพระชายาเพียงผู้เดียวของเซียวหลินเทียน เช่นนั้นก็ต้องเป็น
จะว่าคำพูดเหล่านี้ของเซียวหลินเทียนทำให้หลิงอวี๋ประทับใจก็มิแน่ชัดนัก ความจริงใจในสายตาของเขาต่างหากที่ทำให้หลิงอวี๋ประทับใจหลิงอวี๋เพียงแค่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงเอ่ยออกไป “ทรงงานก่อนเถิดเพคะ! เรื่องของเราไว้ค่อยคุยทีหลังได้!”เซียวหลินเทียนยังทำใจคลายอ้อมกอดออกจากหลิงอวี๋มิได้ เขากลัวว่าทันทีที่ตนคลายออกแล้วต่อไปจะไม่มีโอกาสได้โอบกอดหลิงอวี๋แล้ว“อาอวี๋ ข้ารู้ว่าเจ้ามิชอบฟังคำพูดยิ่งใหญ่ เจ้าดูการกระทำของข้าแล้วกัน!”“ต่อไปข้าจะเป็นสามีที่ดี จะเป็นพ่อที่มีความสามารถ”เซียวหลินเทียนยิ่งพูดก็ยิ่งแน่วแน่หลิงอวี๋เอ่ยอย่างกรุ่นโกรธ “เซียวหลินเทียน ก่อนหน้านี้เราก็มิได้คาดคิดว่าเสด็จพ่อจะเสด็จสวรรคตคืนนี้ เรื่องราวหลังจากนี้ไม่มีผู้ใดบอกได้แน่ชัดหรอกเพคะ!”“เรื่องนี้… เอาไว้ค่อยคุยทีหลังเถิด!”หลังจากพูดจบ หลิงอวี๋ก็ใจแข็งผลักเซียวหลินเทียนออก จากนั้นนางก็ตรงดิ่งไปหาไทเฮาเพื่อช่วยไทเฮาเตรียมการเรื่องงานพระราชพิธีพระบรมศพการเปลี่ยนสถานะนั้นหมายถึง การที่สภาพแวดล้อมก็มีการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย จิตใจของคนก็จะยิ่งเปลี่ยนแปลง!หลิงอวี๋เป็นคนที่เคยอ่านประวัติศาสตร์ประมาณห้าพันปีมาแ
“ไทเฮา… นี่มิใช่เรื่องจริงใช่หรือไม่เพคะ?”พระชายาเส้าน้ำตานองหน้า ร้องห่มร้องไห้เดินไปทางเตียงมังกร นางอยากจะแน่ใจว่าองค์จักรพรรดิเสด็จสวรรคตแล้วจริง ๆ“ข้าเองก็คาดมิถึง ก่อนหน้านี้เขาบอกว่าเจ็บหน้าอก ขันทีเซี่ยก็ไปรายงานข้าแล้ว ทั้งยังบอกกับถังถีเตี่ยนด้วย...”“ไหนเลยจะคาดคิดว่าอาการป่วยจะมากะทันหันเช่นนี้...”“ข้ายอมตายเองเสียดีกว่าให้เกิดอะไรขึ้นกับองค์จักรพรรดิ!”ไทเฮาเช็ดน้ำตา จากนั้นก็ร้องไห้ออกมา“ลูกสะใภ้ ตัวข้าขอแสดงความเสียใจด้วย… ไม่มีองค์จักรพรรดิแล้ว ต้องให้เจ้าดูแลจัดการพระราชพิธีพระบรมศพ เจ้าจะเจ็บป่วยมิได้เด็ดขาด!”ท่านอ๋องเฉิงลูบไหล่ของไทเฮาเบา ๆ และปลอบโยนพระชายาเส้าคุกเข่าอยู่หน้าเตียงมังกรพลางเช็ดน้ำตา แล้วก็ได้เห็นชัดเจนว่า องค์จักรพรรดิอู่อันเสด็จสวรรคตแล้วจริง ๆนางมองท่าทีสงบนิ่งของจักรพรรดิอู่อันอย่างเหม่อลอย มิอาจเชื่อได้จริง ๆ ว่าคนที่แข็งแกร่งจะด่วนจากไปโดยมิแม้แต่จะได้บอกลากันเช่นนี้!เมื่อนึกถึงช่วงเวลาที่ได้ใช้กับเขา พระชายาเส้าก็มิอาจพูดได้แน่ชัดว่าตนมีความรู้สึกต่อเขาเช่นไร เมื่อก่อนมีความชื่นชมและความเคารพ...แต่ความรักใคร่เหล่านี้เมื่อม
ไทเฮาเอ่ยเสียงแข็ง “องค์จักรพรรดิเสวยพระกระยาหารเย็นด้วยกันกับข้า! และข้าก็เป็นคนส่งน้ำแกงให้พระองค์เอง!”“หลังจากกลับมาข้าเห็นว่าช่วงนี้พระองค์ทรงเหนื่อยมากจึงให้แม่นมเว่ยส่งนำแกงโสมไปให้!”“นอกจากสิ่งที่ข้าส่งไปให้แล้วพระองค์ก็มิได้เสวยสิ่งใดเลย! เช่นนั้นแล้วจะมีผู้ใดที่สามารถวางยาพิษพระองค์ได้อีกนอกจากข้าเล่า?”จ้าวฮุยคุกเข่าลงกับพื้นเสียงดังพลางเอ่ย “ไทเฮา กระหม่อมไหนเลยจะกล้าสงสัยไทเฮาพ่ะย่ะค่ะ!”“กระหม่อมรู้สึกว่า องค์จักรพรรดิทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงมาโดยตลอด จู่ ๆ จะมาเสด็จจากไปกะทันหันเช่นนี้ได้อย่างไร นอกเสียจากว่าจะมีคนวางยาพิษพระองค์พ่ะย่ะค่ะ!”ไทเฮายืนขึ้นอย่างกรุ่นโกรธพลางจ้องมองจ้าวฮุย“องค์จักรพรรดิทรงมีพระพลานามัยรึ? ขันทีเซี่ย เจ้ามาบอกจ้าวฮุยทีว่าช่วงนี้พระวรกายขององค์จักรพรรดิเป็นเช่นไร”ขันทีเซี่ยจึงก้าวออกมา จากนั้นก็คุกเข่าลงพลางเอ่ยเสียงสะอื้น “นับตั้งแต่ที่องค์ชายเว่ยก่อกบฏ องค์จักรพรรดิก็ได้รับบาดเจ็บเสียเลือดไปมาก แม้ว่าพระชายาอ๋องอี้จะจัดตำรับพระโอสถบำรุงให้มากมาย แต่องค์จักรพรรดิก็มักจะมิอาจข่มพระเนตรบรรทมในยามค่ำคืนได้เลย!”“บางครั้ง… บางครั้งในหนึ่
หลิงอวี๋ก้มหน้าลงเงียบ ๆ มีหลี่ว์เซียงคอยจับตาดูอัครเสนาบดีจ้าวอยู่ จ้าวฮุยคงมิสามารถเอาหลักฐานที่ไร้เหตุผลมาจัดการตนได้หรอก! ไทเฮาใช้การถอยเพื่อก้าวไปข้างหน้ามาปกป้องตน“ไทเฮา ไปหารือกันที่โถงด้านข้างเถิด! อย่าได้รบกวนความสงบขององค์จักรพรรดิเลยพ่ะย่ะค่ะ!”อัครเสนาบดีจ้าวมิสามารถตรวจสอบอะไรได้ในทันที จึงทำได้เพียงก้าวไปประคองไทเฮา และไปที่โถงด้านข้างพร้อมกับท่านอ๋องเฉิงหลี่ว์เซียงเดินตามออกไปเงียบ ๆ เมื่อเห็นว่าขุนนางว่าการล้วนมาถึงกันแล้วก็เรียกทุกคนไปที่โถงด้านข้างแคว้นมิอาจขาดผู้ตัดสินใจไปได้สักวัน! ตอนนี้ข่าวการเสด็จสวรรคตของจักรพรรดิอู่อันต้องแพร่ออกไปทั่วแล้วแน่นอน จะต้องทำการยืนยันตัวเลือกจักรพรรดิองค์ใหม่ก่อนฟ้าสางองค์ชายคังกับจ้าวเจินเจินเปลี่ยนเป็นชุดขาวแล้วรีบมา องค์ชายคังเห็นพวกของหลี่ว์เซียงตรงไปทางโถงด้านข้างก็เดินตามเข้าไปโดยที่มิแม้แต่จะสนใจดูหน้าจักรพรรดิอู่อันเป็นครั้งสุดท้ายด้วยซ้ำเขาต้องควบคุมชะตากรรมของตนเป็นอย่างแรก!เขาต่อสู้มายาวนานถึงเพียงนี้ นี่คือครั้งแรกที่ได้เข้าใกล้ตำแหน่งมังกรมากที่สุด เขาไม่มีทางให้เซียวหลินเทียนแย่งไปได้ง่าย ๆ อย่างแน่นอน
“หึหึ!”ชายาเจ้าแห่งทะเลหัวเราะออกมา “หลิงอวี๋ เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? หยกหล้าสุขาวดีหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าแล้ว ค้นตัวเจ้าจะหาเจอได้อย่างไร?”“หลิงอวี๋ หยกหล้าสุขาวดีมิใช่ของของเจ้าตั้งแต่แรก มารดาเจ้าเป็นนางโจร ขโมยมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของจวนเจ้าแห่งทะเลไป การให้เจ้าคืนมาก็แค่เป็นการคืนของสู่เจ้าของเดิม!”“ข้าสืบรู้มาหมดแล้ว เจ้าและเซียวหลินเทียนสามีของเจ้าต่างก็อยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ เจ้ายังมีบุตรชายอีกคนที่ฉินตะวันตก!”“หลิงอวี๋ ที่เจ้าปฏิเสธมิยอมรับฐานะของตนเองมาตลอด คงเป็นเพราะล่วงรู้ถึงวิธีที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาแล้วสินะ”“เจ้าคิดว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี ดังนั้นเจ้าจึงคิดว่า ขอเพียงมิยอมรับก็เป็นไปมิได้ที่พวกเราจะมัดตัวเจ้าไปสลายเลือดละลายกระดูกที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำหยกหล้าสุขาวดีออกมา!”ชายาเจ้าแห่งทะเลพูดถึงตรงนี้ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าเชื่อหรือไม่ ข้ามิจำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน ก็สามารถมัดตัวเจ้าไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!”“ที่ข้าให้คนนำตัวเจ้ามาที่จวนเจ้าแห่งทะเล ก็เพื่อจะให้โอกาสเจ้า!”หลิงอวี๋หรือจะยอมรับฐานะของตนเพียงเพราะชายาเจ้าแห่งทะเลพูดเช่นนี้ได้อย่าง
“เข้าไป อย่าให้พ่อบ้านผู้นี้ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง!”รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อบ้านเว่ยหายไปสิ้น กล่าวอย่างมิอดทน “เมื่อให้โอกาสดี ๆ มิชอบ ก็ต้องเจอดีเสียบ้าง!”เถาจื่อกำแขนหลิงอวี๋ไว้แน่น และถามผ่านสายตา“ตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”หลิงอวี๋ก็คาดมิถึงว่าจวนเจ้าแห่งทะเลจะเปลี่ยนท่าทีเร็วถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่า เมื่อเข้ามาในจวนเจ้าแห่งทะเลแล้วจะสามารถยื้อเวลาสักพักได้ชายาเจ้าแห่งทะเลมิปรากฏตัว แต่กลับให้พ่อบ้านเว่ยพาตนมาที่นี่เช่นนี้เลย?นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?คิดจะขังนางไว้ หรือว่ามีแผนอื่นกระไร?หลิงอวี๋มองไปยังท่าทีมีเจตนาร้ายของพวกพลธนูและชายร่างใหญ่หลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหล่านั้น นางและเถาจื่อไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไปได้เลย“เข้าไปก่อนเถอะ!”หลิงอวี๋นำหน้าเดินเข้าไป เถาจื่อตามติดอยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าประตูเรือน เมื่อเห็นสภาพข้างในก็รู้สึกว่ามิดีแน่ เพิ่งจะคิดถอยหลังเถาจื่อกลับถูกคนผลักจากด้านหลังอย่างแรง ชนเข้ากับร่างหลิงอวี๋จนดันหลิงอวี๋เข้าไปข้างในทั้งสองคนล้มลงไปกองรวมกัน ยังมิทันได้ลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงดังโครมสนั่นกล
หลงเพ่ยเพ่ยห้อยอยู่บนชะง่อนผานั้น นางเองก็ทนต่อไปมิไหวแล้ว ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของทุกคน นางจึงปีนป่ายเชือกขึ้นไปนางนึกถึงจุดประสงค์ที่ตนมาที่นี่ หากเย่หรงตายไปแล้วจริง ๆ เขาย่อมหวังให้นางช่วยหลิงอวี๋ออกมาได้อย่างแน่นอนนางมิอาจทำให้เย่หรงตายตามิหลับได้!เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยปีนขึ้นมาได้ก็มิสนใจตรวจสอบบาดแผลของตน นางคุกเข่าลงต่อหน้าฮองเฮาทันทีนางกล่าวเสียงเครือ “เสด็จย่า เรื่องที่ทรงรับปากหม่อมฉันเมื่อครู่ สามารถประทานพระราชโองการให้หม่อมฉันตอนนี้ได้หรือไม่เพคะ?”“เมื่อครู่เย่หรงช่วยชีวิตหม่อมฉันและหยวนซานไว้ เพียงเห็นแก่บุญคุณทั้งสองครั้งนี้ เสด็จย่าทรงควรจะช่วยให้เขาสมหวังนะเพคะ!”ฮองเฮานึกถึงเรื่องที่เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยอ้อนวอนตนเมื่อครู่ เย่หรงเป็นถึงเพียงนี้แล้ว นางจะยังทำให้คนที่เขาชอบพอลำบากใจได้อีกหรือ?ฮองเฮาถอดปิ่นปักผมอันหนึ่งของตนออกมาโดยมิทันคิด แล้วยื่นให้กับหลงเพ่ยเพ่ย“ถือปิ่นปักผมนี้ไปพาตัวสิงอวี๋ออกมาเถอะ!”หลงเพ่ยเพ่ยรับปิ่นปักผมหงส์คู่ปักทองคำของฮองเฮามาทั้งน้ำตา นี่คือปิ่นปักผมที่ฮองเฮาเท่านั้นจึงจะสวมใส่ได้ เห็นปิ่นดังเห็นองค์ เทียบเท่ากับพระราชโองการของฮองเฮ
“ท่านหญิง...”“เพ่ยเพ่ย...”ฮองเฮาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยตกลงไปก็ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ ผานกกระเรียนแห่งนี้เป็นปรปักษ์กับราชวงศ์หรืออย่างไร?เหตุใดถึงได้ตกลงไปทีละคนเช่นนี้?“เร็วเข้า ช่วยคน!”ฮองเฮาตะโกนลั่น นางกำนัลที่มีไหวพริบรีบไปตามองครักษ์มาช่วยทางด้านเย่หรงทรงตัวได้มั่นคงบนชะง่อนผาแล้ว เขาเพิ่งจะถอนหายใจโล่งอกก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านบนเมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นหลงเพ่ยเพ่ยกำลังร่วงหล่นลงมาหัวใจของเย่หรงหดเกร็งวูบ มิทันได้คิด คว้าเถาวัลย์ข้าง ๆ แล้วโหนตัวไปหาหลงเพ่ยเพ่ยหลงเพ่ยเพ่ยตกใจจนหลับตาลงแล้ว เตรียมพร้อมยอมรับความตายแต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนตนชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง จากนั้นร่างก็ถูกกอดไว้“ไปทางนั้น เร็วเข้า คว้าชะง่อนผานั่นไว้!”เย่หรงพลิกตัวกลางอากาศ เหวี่ยงหลงเพ่ยเพ่ยไปทางนั้น หลงเพ่ยเพ่ยพุ่งเข้าใส่ผนังผา แต่ใช้แรงมากเกินไปจนใบหน้าชนกับผนังผาจนถลอก นางเจ็บเสียจนหน้ามืดตาลายแต่นางมิสนใจความเจ็บปวดแทบขาดใจ เช่นเดียวกันกับเย่หรง เขาพยายามสุดชีวิตที่จะคว้าเถาวัลย์เหล่านั้นไว้โชคดีที่เถาวัลย์ฝั่งนี้ยังพันเกี่ยวกับกิ่งไม้มากมาย เถาวัลย์ที่พันกิ่งไม้ไว้นั้
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี