แชร์

บทที่ 1428

ผู้เขียน: กานเฟย
วันรุ่งขึ้น

อันเจ๋อได้นำกำลังพลมุ่งหน้าไปยังเจิ้งโจว

เซียวหลินเทียนก็นำเหล่าขุนนางไปส่งถึงเนินสิบลี้

หิมะยังคงตกอย่างหนัก เมื่อเห็นอันเจ๋อกับเหล่าทหารต้องฝ่าหิมะไป ในใจของเซียวหลินเทียนก็เกิดความรู้สึกมิสบายใจเป็นอย่างยิ่ง

เมื่อกลับไปถึงวังหลวง เซียวหลินเทียนก็เรียกเหล่าขุนนางว่าการมาหารือกันเรื่องภัยพิบัติหิมะที่ตกอย่างหนักนี้ รวมถึงมาตรการป้องกันและบรรเทาภัยพิบัติในแต่ละพื้นที่ด้วย

ใต้เท้าเจี่ยงเจ้ากรมพระคลังเอาแต่พูดอยู่ซ้ำ ๆ ว่าเงินคลังว่างเปล่ามิสามารถนำเงินออกมาบรรเทาภัยพิบัติได้มากกว่านี้แล้ว

เซียวหลินเทียนมองใต้เท้าเจี่ยงพูดบ่นไปอย่างเงียบ ๆ

เซียวหลินเทียนรู้ว่าเงินคลังว่างเปล่า แต่สิ่งที่เขาต้องการมิใช่การที่ขุนนางระดับสูงเหล่านี้มาพร่ำบ่นอยู่ต่อหน้าตนแล้วรอคอยให้เงินหล่นลงมาจากฟากฟ้า

แต่ต้องการให้พวกเขาช่วยกันระดมความคิดหาวิธีมาแบ่งปันความกังวลและช่วยตนแก้ปัญหา

เมื่อเห็นว่าใต้เท้าเจี่ยงทำเพียงแค่บ่นเท่านั้น และขุนนางคนอื่น ๆ ก็เออออเห็นด้วย มิได้มีการเอ่ยข้อเสนอดี ๆ กันออกมา

และพวกของจ้าวฮุยก็กลายเป็นนิ่งดูดาย คำที่พูดออกมาในบางครั้งก็แผ่วเบาจนไม่มีประเด็นใด ๆ

พวก
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2710

    ในขณะที่เสียงของหยวนซือหลิงยังคงดังก้อง ฝ่ามือของหลิงอวี๋ที่วาดเป็นวงแหวนก็เคลื่อนไหวด้วยความเร็วประดุจสายฟ้าฟาด ทะลวงผ่านห่วงแส้ที่ปลายแส้ของหยวนซือหลิงสร้างขึ้นในพริบตายังมิทันที่หยวนซือหลิงจะได้สติกลับคืนมา ฝ่ามือของหลิงอวี๋ก็คว้าจับปลายแส้ไว้ได้แล้ว พร้อมกับออกแรงกระชากอย่างรุนแรงหยวนซือหลิงเพียงรู้สึกราวกับว่ามีกระแสพลังอันเกรี้ยวกราดสายหนึ่งพุ่งผ่านด้ามแส้ที่นางกำอยู่เข้ามาในร่าง ทำให้นางสั่นสะท้านไปทั้งตัว และคลายมือออกจากด้ามแส้ในทันใด“นี่แน่ะ…”หลิงอวี๋สะบัดข้อมือฟาดแส้กลับไปถูกร่างของหยวนซือหลิงเต็ม ๆ จนนางกระเด็นล้มกลิ้งออกไปไกลหลายเมตร“สารเลว กล้าทำร้ายน้องสาวข้างั้นรึ! รับกระบี่ไป!”หยวนป๋อคำรามลั่นด้วยความโกรธเกรี้ยว กวัดแกว่งกระบี่พุ่งเข้าใส่หลิงอวี๋หลิงอวี๋หัวเราะเบา ๆ ในลำคอ พลางสะบัดแส้ของหยวนซือหลิงในมือ เงาแส้พลิ้วไหวเข้าพันรัดกระบี่ของหยวนป๋อไว้ในชั่วพริบตา“คุณชาย มิถามไถ่ผิดถูกขาวดำกลับเข้าข้างน้องสาวของตนเสียแล้ว หากบิดามารดาของพวกเจ้าสอนมาให้เอาแต่ใจ มิแยกแยะผิดถูก รังแกผู้อ่อนแอกว่า เช่นนั้นข้าก็ไม่มีอะไรจะพูด คงต้องตัดสินกันด้วยฝีมือแล้ว!”หลิงอ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2709

    เด็กสาวกำลังประลองฝีมือกับหลิงอวี๋ นางรู้สึกว่าขอเพียงตนออกแรงอีกสักหน่อย หลิงอวี๋ก็จะต้องถูกปลายแส้ของนางสังหารจนสิ้นใจเป็นแน่นางหารู้ไม่ว่าตนได้ทุ่มเทพลังทั้งหมดไปกับการตวัดแส้นั้นแล้วในขณะที่หลิงอวี๋นั้นมือเปล่าไร้อาวุธ ใช้เพียงฝ่ามือข้างเดียวรับการโจมตีอันหนักหน่วงของนางยิ่งไปกว่านั้น หลิงอวี๋มิได้คิดจะสังหารนาง เพียงแต่ใช้พลังเจ็ดส่วนในการรับมือเท่านั้นในตอนนั้นเอง ชาวบ้านและทหารที่กำลังก่อสร้างอยู่โดยรอบต่างพากันเข้ามามุงดูการประลองของคนทั้งสองและที่ไกลออกไป ชายหนุ่มคนหนึ่งพร้อมด้วยผู้คุ้มกันหลายคนก็กำลังเดินเข้ามาเช่นกันเมื่อเห็นภาพนี้จากระยะไกล หัวใจของชายหนุ่มพลันกระตุกวูบ เขารีบพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วชายหนุ่มอายุราวยี่สิบปี มีเค้าหน้าละม้ายคล้ายเด็กสาวอยู่บ้าง รูปโฉมงดงามดุจหยกสลัก ดวงตาสุกใสราวกับดวงดาวคิ้วดกหนา จมูกโด่งเป็นสัน ใบหน้าหล่อเหลาคมคายแฝงแววเย็นชาเขาสวมใส่เสื้อคลุมผ้าต่วนลายดอกเหมยสีคราม ทับด้วยเสื้อกั๊กขนมิงค์ปกคอประดับลายเมฆา เครื่องแต่งกายทั้งร่างบ่งบอกถึงฐานะอันสูงส่งชายหนุ่มกวาดสายตามองการต่อสู้ของเด็กสาวและหลิงอวี๋แวบหนึ่ง ก็ชักกระบี่พรวด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2708

    หลิงอวี๋หลุดหัวเราะออกมา เด็กสาวผู้นี้ช่างมีวาจาโอหังยิ่งนักยังมิรู้ด้วยซ้ำว่านางมีวรยุทธ์ระดับใด กลับกล้าเอ่ยว่าจะสังหารนางได้นางคลายปลายแส้ลงอย่างเย็นชา กล่าวว่า “เช่นนั้นเหตุใดมิแจ้งนามของเจ้ามาเล่า คุณชายเช่นข้าก็มิรังแกคนไร้นาม!”เด็กสาวโกรธจนคิ้วเรียวงามเลิกขึ้น นางแค่นเสียงเย็นชา “เจ้ามิคู่ควรที่จะรู้นามของคุณหนูอย่างข้า!”“หากอยากรู้ ก็รอให้คุณหนูเช่นข้าส่งเจ้าลงไปนรกเสียก่อน แล้วข้าจะบอกเจ้าเอง!”กล่าวจบ เด็กสาวก็ทะยานร่างขึ้น เงาแส้พลิ้วไหวสะบัดไปมา ปราณสังหารสีขาวสายแล้วสายเล่าเคลื่อนไหวร่ายรำไปตามเงาแส้ พุ่งเข้าใส่หลิงอวี๋“น้องเล็ก ถอยไป!”หลิงอี๋ร้องเตือนหลิงหว่านแล้วจึงพุ่งร่างเข้าไปรับมือหลิงหว่านเห็นจิตสังหารอันรุนแรงของเด็กสาวผู้นั้นแล้วจึงรีบถอยห่างออกไปหลายสิบเมตรณ ใจกลางลานต่อสู้ หลิงอวี๋ถูกเงาแส้ของเด็กสาวปกคลุมไว้จนหมดสิ้นแม้หลิงหว่านจะรู้ว่าระดับวรยุทธ์ของหลิงอวี๋นั้นสูงกว่าตน แต่นางก็มิเคยเห็นหลิงอวี๋ต่อสู้กับใครมาก่อนเมื่อเห็นจิตสังหารที่รุนแรงและเกรี้ยวกราดถึงเพียงนี้ หลิงหว่านก็อดเป็นห่วงหลิงอวี๋มิได้นางค่อย ๆ หยิบนกหวีดเหล็กออกมาอย่างเงีย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2707

    หลิงอวี๋และหลิงหว่านเดินทางต่อไป ระหว่างทางจึงได้เห็นว่าน้ำท่วมในหมู่บ้านโดยรอบล้วนถูกระบายลงสู่แม่น้ำหงส์ฟ้าแล้วมิรู้ว่าเป็นเพราะได้รับข่าวสารจากแม่ทัพจี้ หรือเป็นวิธีเอาตัวรอดที่หยางเฉิงคิดขึ้นมาได้เองหลิงอวี๋เห็นว่าหมู่บ้านสองแห่งได้เริ่มบูรณะบ้านเรือนขึ้นใหม่ ทั้งยังมีเหล่าทหารจำนวนมากคอยช่วยเหลือชาวบ้านในการฟื้นฟูอีกด้วย“พี่หญิงหลิงหลิง ข้าดูแล้วว่าข้าหลวงหยางผู้นี้ก็นับเป็นขุนนางที่ดีผู้หนึ่ง หากเป็นเช่นนี้ พวกเราคงจะผ่านปากั๋วโจวไปได้อย่างราบรื่นแล้ว!”หลิงหว่านมองดูภาพเบื้องหน้าแล้วเอ่ยขึ้นมาลอย ๆ“ดูกันไปก่อน ข้าก็หวังว่าพวกเราจะผ่านไปได้อย่างราบรื่นเช่นกัน!”ขณะที่หลิงอวี๋และหลิงหว่านกำลังเดินอยู่นั้น ก็พลันเห็นคนกลุ่มหนึ่งเดินมาข้างหน้า เด็กสาวผู้นำกลุ่มสวมกระโปรงสีแดงอมชมพูยาวคลุมเข่า ทับด้วยเสื้อคลุมตัวสั้นสีแดงกุหลาบบนสาบเสื้อและชายเสื้อคลุมของนางประดับด้วยหินกุหลาบและหินตาเสือเม็ดเล็กกลมมนลูกปัดเล็ก ๆ เหล่านี้ส่องประกายระยิบระยับดุจพู่ดารา แสงสะท้อนงดงามราวกับสีเมฆายามอัสดง เผยให้เห็นกลิ่นอายของความสูงศักดิ์ผิวพรรณของเด็กสาวละเอียดอ่อน ใบหน้างดงามดุจดอกท้อ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2706

    “แล้วหลังจากนั้นเล่า? การกระทำของหยางเฉิงเช่นนี้ พวกลัทธินิกายเหล่านั้นจะยอมแต่โดยดีหรือ?”หลิงหว่านที่นั่งฟังอยู่ข้าง ๆ ได้ยินถึงตรงนี้ก็อดเอ่ยถามขึ้นมามิได้เฉาจือส่ายหน้า “แน่นอนว่าย่อมมิยอมง่าย ๆ เช่นนั้น ศิษย์ในสำนักที่หลบหนีไปได้ ล้วนส่งคนมาลอบสังหารหยางเฉิงตลอดหลายปีที่ผ่านมา”“หยางเฉิงได้รับบาดเจ็บนับครั้งมิถ้วน มิว่าเล็กหรือใหญ่ แต่เขาก็รอดมาได้ทุกครั้ง!”“ส่วนคนที่ลอบสังหารเขา หยางเฉิงก็มิเคยปรานี จับได้เป็นต้องสังหาร แล้วนำศีรษะไปแขวนไว้ที่หน้าศาลาว่าการเพื่อข่มขวัญผู้อื่น!”“ข้าจะบอกอะไรให้นะ หากศีรษะพวกนั้นมิถูกน้ำท่วมพัดไป ป่านนี้ก็คงยังแขวนอยู่ที่หน้าศาลาว่าการ”“นี่ถือเป็นทิวทัศน์อีกอย่างหนึ่งของปากั๋วโจว พวกเหล่าร้ายที่คิดจะก่อการอธรรม เพียงได้เห็นศีรษะที่แขวนเรียงรายอยู่เต็มหน้าศาลาว่าการ ก็ต้องชั่งใจดูแล้วว่าจะกล้าต่อกรกับหยางเฉิงหรือไม่!”หลิงอวี๋ตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะ การที่หยางเฉิงสามารถรอดชีวิตมาได้ครั้งแล้วครั้งเล่านั้น มิใช่เพียงเพราะความสามารถของเขาเอง แต่เบื้องหลังเขาน่าจะมีหมอเทวดาเหมือนอย่างตนเองคอยช่วยเหลืออยู่เป็นแน่!“ปีนี้หยางเฉิงอายุเท่าใดแล้ว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2705

    หลิงอวี๋และเซียวหลินเทียนนำขบวนเดินทางออกจากหมู่บ้านตระกูลเหมิง มุ่งหน้าต่อไปในวันนั้น ขบวนก็ได้เดินทางมาถึงปากั๋วโจวช่วงเวลานี้เฉาจือรับหน้าที่เป็นหน่วยสอดแนมล่วงหน้าให้กับเซียวหลินเทียน และยังมิทันที่จะเข้าเขตปากั๋วโจว เขาก็ได้เริ่มเล่าประวัติความเป็นมาของเมืองแห่งนี้ให้หลิงอวี๋และเซียวหลินเทียนฟังปากั๋วโจวถือเป็นเมืองใหญ่แห่งหนึ่งในแดนเทพ มีประชากรเกือบสามแสนคนด้วยทำเลที่ตั้งอันเป็นศูนย์กลางการคมนาคมที่เชื่อมต่อไปได้ทุกทิศทาง จึงนับเป็นเมืองใหญ่ที่มีความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจอย่างยิ่งเฉาจือกล่าวอย่างฉะฉานว่า “ฝ่าบาท เจ้าเมืองคนก่อนของปากั๋วโจวคือหยางเฉิง เขามิได้เริ่มต้นจากการเป็นขุนนางฝ่ายบุ๋น แต่เดิมเป็นขุนพลฝ่ายบู๊ ได้รับบาดเจ็บที่ขาในสนามรบจึงได้ผันตัวมาเป็นขุนนางฝ่ายบุ๋นพ่ะย่ะค่ะ!”“หยางเฉิงผู้นี้ ทั้งบุ๋นและบู๊ล้วนเป็นเลิศ มีความเที่ยงธรรมซื่อตรง แต่ก็มีวิธีการที่เด็ดขาดเหี้ยมโหดเช่นกัน”“เจ็ดปีก่อนตอนที่เขามารับตำแหน่ง ปากั๋วโจวยังเป็นเพียงเมืองที่ยากจน แต่ด้วยอำนาจเหล็กและการผลักดันนโยบายใหม่ ๆ ของเขา ก็ทำให้ปากั๋วโจวเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นเมืองที

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status