แชร์

บทที่ 1437

ผู้เขียน: กานเฟย
“ฮ่า ๆ ๆ!”

เฉาเฉียงได้ยินคำพูดของอันเจ๋อราวกับได้ฟังเรื่องตลก แล้วก็เดินรอบตัวอันเจ๋อไปสองรอบ

ว่ากันตามตรงแล้ว ท่าทางของอันเจ๋อในเวลานี้ คาดว่าหากพระชายาผิงหนานอยู่ต่อหน้าเขาก็คงจะต้องใช้ความพยายามอย่างหนักเช่นกันกว่าจะสามารถจำเขาได้

คุณชายรูปงามในอดีต เวลานี้เสื้อผ้าขาดวิ่น ผมเผ้าก็เต็มไปด้วยดินโคลน

อีกทั้งตอนอยู่ในแม่น้ำยังถูกก้อนหินกระแทกอยู่ตลอด ทำให้ใบหน้าและจมูกของอันเจ๋อบวม ที่กระดูกขากรรไกรของเขามีก้อนขนาดเท่ากำปั้นนูนขึ้นมา ทำเอาตาข้างหนึ่งของเขาหยีกลายเป็นขีด

และอันเจ๋อก็ยังดูซูบผอมด้วย เมื่อดูเช่นนี้ดูเหมือนว่าเฉาเฉียงตีไหล่เขาแค่ครั้งเดียวก็ทำให้เขาทรุดไปได้ครึ่งวันแล้ว

“เจ้าท้าทายข้ารึ?”

เฉาเฉียงเบ้ปากพลางด่า “คนเช่นเจ้า ข้าใช้มือข้างเดียวก็สามารถเอาชนะเจ้าได้แล้ว เจ้าอย่ามาทำให้ข้าเสียเวลาจะดีกว่า ยอมรับความตายแต่โดยดีไปเสียเถอะ!”

“ใครก็ได้! มาลากตัวเขาไปสังหาร!”

“เดี๋ยวก่อน!”

อันเจ๋อรีบเอ่ย “หัวหน้าเฉา เจ้าเองก็ถูกกลั่นแกล้งจึงต้องเข้าคุก เจ้าก็ควรรู้ถึงความสิ้นหวังที่ถูกกล่าวหาอย่างมิยุติธรรมโดยไม่มีหนทางขอความช่วยเหลือสิ!”

“ข้าเองก็มีพ่อมีแม่ ในบ้านมีข้าเป็น
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2708

    หลิงอวี๋หลุดหัวเราะออกมา เด็กสาวผู้นี้ช่างมีวาจาโอหังยิ่งนักยังมิรู้ด้วยซ้ำว่านางมีวรยุทธ์ระดับใด กลับกล้าเอ่ยว่าจะสังหารนางได้นางคลายปลายแส้ลงอย่างเย็นชา กล่าวว่า “เช่นนั้นเหตุใดมิแจ้งนามของเจ้ามาเล่า คุณชายเช่นข้าก็มิรังแกคนไร้นาม!”เด็กสาวโกรธจนคิ้วเรียวงามเลิกขึ้น นางแค่นเสียงเย็นชา “เจ้ามิคู่ควรที่จะรู้นามของคุณหนูอย่างข้า!”“หากอยากรู้ ก็รอให้คุณหนูเช่นข้าส่งเจ้าลงไปนรกเสียก่อน แล้วข้าจะบอกเจ้าเอง!”กล่าวจบ เด็กสาวก็ทะยานร่างขึ้น เงาแส้พลิ้วไหวสะบัดไปมา ปราณสังหารสีขาวสายแล้วสายเล่าเคลื่อนไหวร่ายรำไปตามเงาแส้ พุ่งเข้าใส่หลิงอวี๋“น้องเล็ก ถอยไป!”หลิงอี๋ร้องเตือนหลิงหว่านแล้วจึงพุ่งร่างเข้าไปรับมือหลิงหว่านเห็นจิตสังหารอันรุนแรงของเด็กสาวผู้นั้นแล้วจึงรีบถอยห่างออกไปหลายสิบเมตรณ ใจกลางลานต่อสู้ หลิงอวี๋ถูกเงาแส้ของเด็กสาวปกคลุมไว้จนหมดสิ้นแม้หลิงหว่านจะรู้ว่าระดับวรยุทธ์ของหลิงอวี๋นั้นสูงกว่าตน แต่นางก็มิเคยเห็นหลิงอวี๋ต่อสู้กับใครมาก่อนเมื่อเห็นจิตสังหารที่รุนแรงและเกรี้ยวกราดถึงเพียงนี้ หลิงหว่านก็อดเป็นห่วงหลิงอวี๋มิได้นางค่อย ๆ หยิบนกหวีดเหล็กออกมาอย่างเงีย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2707

    หลิงอวี๋และหลิงหว่านเดินทางต่อไป ระหว่างทางจึงได้เห็นว่าน้ำท่วมในหมู่บ้านโดยรอบล้วนถูกระบายลงสู่แม่น้ำหงส์ฟ้าแล้วมิรู้ว่าเป็นเพราะได้รับข่าวสารจากแม่ทัพจี้ หรือเป็นวิธีเอาตัวรอดที่หยางเฉิงคิดขึ้นมาได้เองหลิงอวี๋เห็นว่าหมู่บ้านสองแห่งได้เริ่มบูรณะบ้านเรือนขึ้นใหม่ ทั้งยังมีเหล่าทหารจำนวนมากคอยช่วยเหลือชาวบ้านในการฟื้นฟูอีกด้วย“พี่หญิงหลิงหลิง ข้าดูแล้วว่าข้าหลวงหยางผู้นี้ก็นับเป็นขุนนางที่ดีผู้หนึ่ง หากเป็นเช่นนี้ พวกเราคงจะผ่านปากั๋วโจวไปได้อย่างราบรื่นแล้ว!”หลิงหว่านมองดูภาพเบื้องหน้าแล้วเอ่ยขึ้นมาลอย ๆ“ดูกันไปก่อน ข้าก็หวังว่าพวกเราจะผ่านไปได้อย่างราบรื่นเช่นกัน!”ขณะที่หลิงอวี๋และหลิงหว่านกำลังเดินอยู่นั้น ก็พลันเห็นคนกลุ่มหนึ่งเดินมาข้างหน้า เด็กสาวผู้นำกลุ่มสวมกระโปรงสีแดงอมชมพูยาวคลุมเข่า ทับด้วยเสื้อคลุมตัวสั้นสีแดงกุหลาบบนสาบเสื้อและชายเสื้อคลุมของนางประดับด้วยหินกุหลาบและหินตาเสือเม็ดเล็กกลมมนลูกปัดเล็ก ๆ เหล่านี้ส่องประกายระยิบระยับดุจพู่ดารา แสงสะท้อนงดงามราวกับสีเมฆายามอัสดง เผยให้เห็นกลิ่นอายของความสูงศักดิ์ผิวพรรณของเด็กสาวละเอียดอ่อน ใบหน้างดงามดุจดอกท้อ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2706

    “แล้วหลังจากนั้นเล่า? การกระทำของหยางเฉิงเช่นนี้ พวกลัทธินิกายเหล่านั้นจะยอมแต่โดยดีหรือ?”หลิงหว่านที่นั่งฟังอยู่ข้าง ๆ ได้ยินถึงตรงนี้ก็อดเอ่ยถามขึ้นมามิได้เฉาจือส่ายหน้า “แน่นอนว่าย่อมมิยอมง่าย ๆ เช่นนั้น ศิษย์ในสำนักที่หลบหนีไปได้ ล้วนส่งคนมาลอบสังหารหยางเฉิงตลอดหลายปีที่ผ่านมา”“หยางเฉิงได้รับบาดเจ็บนับครั้งมิถ้วน มิว่าเล็กหรือใหญ่ แต่เขาก็รอดมาได้ทุกครั้ง!”“ส่วนคนที่ลอบสังหารเขา หยางเฉิงก็มิเคยปรานี จับได้เป็นต้องสังหาร แล้วนำศีรษะไปแขวนไว้ที่หน้าศาลาว่าการเพื่อข่มขวัญผู้อื่น!”“ข้าจะบอกอะไรให้นะ หากศีรษะพวกนั้นมิถูกน้ำท่วมพัดไป ป่านนี้ก็คงยังแขวนอยู่ที่หน้าศาลาว่าการ”“นี่ถือเป็นทิวทัศน์อีกอย่างหนึ่งของปากั๋วโจว พวกเหล่าร้ายที่คิดจะก่อการอธรรม เพียงได้เห็นศีรษะที่แขวนเรียงรายอยู่เต็มหน้าศาลาว่าการ ก็ต้องชั่งใจดูแล้วว่าจะกล้าต่อกรกับหยางเฉิงหรือไม่!”หลิงอวี๋ตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะ การที่หยางเฉิงสามารถรอดชีวิตมาได้ครั้งแล้วครั้งเล่านั้น มิใช่เพียงเพราะความสามารถของเขาเอง แต่เบื้องหลังเขาน่าจะมีหมอเทวดาเหมือนอย่างตนเองคอยช่วยเหลืออยู่เป็นแน่!“ปีนี้หยางเฉิงอายุเท่าใดแล้ว

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2705

    หลิงอวี๋และเซียวหลินเทียนนำขบวนเดินทางออกจากหมู่บ้านตระกูลเหมิง มุ่งหน้าต่อไปในวันนั้น ขบวนก็ได้เดินทางมาถึงปากั๋วโจวช่วงเวลานี้เฉาจือรับหน้าที่เป็นหน่วยสอดแนมล่วงหน้าให้กับเซียวหลินเทียน และยังมิทันที่จะเข้าเขตปากั๋วโจว เขาก็ได้เริ่มเล่าประวัติความเป็นมาของเมืองแห่งนี้ให้หลิงอวี๋และเซียวหลินเทียนฟังปากั๋วโจวถือเป็นเมืองใหญ่แห่งหนึ่งในแดนเทพ มีประชากรเกือบสามแสนคนด้วยทำเลที่ตั้งอันเป็นศูนย์กลางการคมนาคมที่เชื่อมต่อไปได้ทุกทิศทาง จึงนับเป็นเมืองใหญ่ที่มีความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจอย่างยิ่งเฉาจือกล่าวอย่างฉะฉานว่า “ฝ่าบาท เจ้าเมืองคนก่อนของปากั๋วโจวคือหยางเฉิง เขามิได้เริ่มต้นจากการเป็นขุนนางฝ่ายบุ๋น แต่เดิมเป็นขุนพลฝ่ายบู๊ ได้รับบาดเจ็บที่ขาในสนามรบจึงได้ผันตัวมาเป็นขุนนางฝ่ายบุ๋นพ่ะย่ะค่ะ!”“หยางเฉิงผู้นี้ ทั้งบุ๋นและบู๊ล้วนเป็นเลิศ มีความเที่ยงธรรมซื่อตรง แต่ก็มีวิธีการที่เด็ดขาดเหี้ยมโหดเช่นกัน”“เจ็ดปีก่อนตอนที่เขามารับตำแหน่ง ปากั๋วโจวยังเป็นเพียงเมืองที่ยากจน แต่ด้วยอำนาจเหล็กและการผลักดันนโยบายใหม่ ๆ ของเขา ก็ทำให้ปากั๋วโจวเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นเมืองที

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2704

    เมื่อสือเหล่ยเห็นท่าทางกังวลของเผยอวี้ ก็หัวเราะพลางกล่าวว่า “แม่ทัพเผย ท่านมิต้องเป็นห่วง แม่ทัพหลิงมิเป็นอะไร!”“มิเพียงแต่มิเป็นอะไร เขายังได้พบกับวาสนาอันน่าอัศจรรย์ สามารถสยบสัตว์อสูรได้ตัวหนึ่งด้วย!”“ข้าจะบอกให้นะ สัตว์อสูรตัวนี้เป็นลิงตัวหนึ่ง มีพละกำลังมหาศาล...”สือเหล่ยเล่าเจื้อยแจ้วถึงเรื่องราวที่พวกเขาไปพบเจอสัตว์อสูรสองตัวกำลังต่อสู้กัน และท้ายที่สุดหลิงเฟิงก็เป็นฝ่ายเก็บผลประโยชน์ไปอย่างไรให้เผยอวี้ฟังจนหมดสิ้นฉินซานที่ตามมาถึงกับยืนตะลึงเมื่อได้ฟัง ครู่ต่อมาจึงกล่าวขึ้นอย่างอิจฉาว่า “หลิงเฟิงนี่ช่างโชคดีเสียจริง!”“หากรู้แต่แรกว่าเป็นเช่นนี้ ข้าไปตามหาซานเชวี่ยเสียก็ดี บางทีสัตว์วิเศษตัวนั้นอาจจะกลายเป็นของข้า!”ขณะที่ทุกคนกำลังสนทนากันอยู่ ก็พลันเห็นหลิงเฟิงและลิงตัวหนึ่งเดินเรียงแถวกลับมาหลิงเฟิงหัวเราะเหอะ ๆ แล้วเอ่ยขึ้น “เผยอวี้ ฉินซาน ดูเจ้ากร่างของข้าสิ สง่างามองอาจหรือไม่?”“เอ้อ จริงสิ วันนี้ทุกคนจะได้กินของดีกันแล้ว เจ้ากร่างได้นำของกำนัลแรกพบมาให้พวกเจ้ามากมายเลยทีเดียว!”พลางพูด หลิงเฟิงก็เททุกอย่างออกมาจากแหวนพระสุเมรุของเขาจนหมดสิ้น มีทั้งเนื้อเส

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2703

    เถาจื่อยังคงเป็นกังวลกับอาการบาดเจ็บของอู่หราน เมื่อได้ยินดังนั้นจึงกล่าวขึ้นว่า “ถ้าเช่นนั้นพี่ใหญ่หลิง ท่านค่อย ๆ ตามมาแล้วกัน พวกเราขอไปก่อนนะเจ้าคะ!สือเหล่ยแบกอู่หรานขึ้นหลังเรียบร้อยแล้ว ทุกคนคิดว่าเมื่อมีเจ้ากร่างคอยช่วยเหลือหลิงเฟิง เขาย่อมมิน่าจะเกิดเหตุมิคาดฝันอันใดขึ้นได้ จึงรีบเดินทางกลับซานเชวี่ยเดินนำทางอยู่ข้างหน้า สือเหล่ยพลางเดินพลางเอ่ยถามด้วยความสงสัย“ซานเชวี่ย เจ้าหลงทางได้อย่างไร?”“ระหว่างทางเจ้ามิได้ทำเครื่องหมายไว้ตลอดหรือ?”ซานเชวี่ยแสดงสีหน้ากระอักกระอ่วน เอ่ยตอบอย่างเก้อเขินว่า “ตอนแรกก็เป็นเช่นนั้นเจ้าค่ะ แต่ภายหลังเกิดเหตุมิคาดฝันขึ้น ข้าจึงมิทันได้ทิ้งสัญลักษณ์ไว้!”“ข้าจะบอกพวกท่านให้ ในภูเขานี้ยังมีคนป่าผู้หนึ่ง เขาปกคลุมไปด้วยขนสีขาวทั่วทั้งร่าง เคลื่อนไหวรวดเร็วราวกับสายฟ้าแลบ!”“วันนั้นข้าเห็นเขาในป่า ก็รู้สึกประหลาดใจยิ่งนัก!”“มิใช่ว่าฮองเฮาทรงรับสั่งให้แม่ทัพเผยคอยจับตาดูว่าหลงหมิงยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ พอข้าเห็นคนผู้นั้นเข้า ก็เลยคิดว่าอาจจะเป็นหลงหมิง จึงได้แอบติดตามเขาไป!”“เขาวิ่งเร็วมาก ข้ามัวแต่รีบไล่ตามเขา เลยมิทันได้ทิ้งสัญลักษณ์ไ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status