แม่นมลี่อยู่กับหลิงอวี๋ตั้งแต่ในตอนที่ยากลำบากกันมา สิ่งที่พวกหลิงซวนมิกล้าพูด แม่นมลี่กล้าพูดแม่นมลี่เอ่ยอย่างเกลี้ยกล่อม “องค์จักรพรรดิมิใช่อ๋องอี้เช่นเมื่อก่อนแล้ว พระองค์มีสถานะสูงศักดิ์ ท่านกับพระองค์โกรธกันเช่นนี้ คนที่จะเสียเปรียบไปตลอดก็คือท่านเพคะ!”“แม่นม มิต้องพูดแล้ว ข้าเข้าใจทั้งหมด!”หลิงอวี๋พูดตัดบทแม่นมลี่เรียบ ๆสองวันนี้นางพิจารณาอย่างชัดเจนมากแล้ว นางอยากจะใช้เรื่องนี้ลองหยั่งเชิงขีดจำกัดของเซียวหลินเทียนดูว่าเขาจะสามารถทนตนไปได้ถึงขั้นไหน!หากแค่ความโกรธธรรมดา หลิงอวี๋มิถือสาก็ย่อมได้ทว่าหากเรื่องนี้พัฒนาต่อไปแล้วเซียวหลินเทียนมิอาจทนตนได้จริง ๆ เช่นนั้นก็ให้เป็นความรักที่จากกันด้วยดีหากเซียวหลินเทียนติดเชื้อความคลางแคลงใจของจักรพรรดิ อยากจะประหารตน เช่นนั้นนางก็ต้องพิจารณาทางหนีทีไล่ให้พวกนางทุกคนยามจำเป็น หลิงอวี๋ก็จะพาพวกนางไปแนะนำกับมู่หรงชิ่งที่เยวี่ยใต้ หรือไม่ก็หาที่ที่ดีอยู่กันอย่างสันโดษแน่นอนว่าหลิงอวี๋มิหวังให้ไปถึงขั้นนั้น หากเป็นเช่นนั้นความเสียสละของพวกนางคงจะมากเกินไปตอนนี้ก็ดูท่าทีของเซียวหลินเทียนไป!ครานี้หลิงอวี๋ตัดสินใจว่าจะมิป
หลิงอวี๋ตั้งใจสั่งทำโต๊ะมาสามโต๊ะเพื่อกินหม้อไฟ พวกหานเหมยก็จัดโต๊ะไว้ที่โถงด้านข้างกระทั่งหลิงอวี๋เชิญไทฮองไทเฮามาก็เริ่มจุดไฟไทฮองไทเฮาเองก็ได้ยินจากแม่นมเว่ยว่า หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนมิได้ไปมาหาสู่กัน แต่เมื่อเทียบกับแม่นมลี่แล้ว ไทฮองไทเฮาทำเหมือนว่าเรื่องนี้มิได้เกิดขึ้นสามีภรรนาหนุ่มสาวทะเลาะกันเป็นเรื่องปกติมาก หากนางยื่นมือเข้าไปยุ่งอาจจะทำให้เรื่องดี ๆ กลายเป็นเรื่องแย่ก็ได้อีกอย่างไทฮองไทเฮาเข้าใจหลิงอวี๋มาก หลิงอวี๋ใจกว้าง นิสัยก็ดี โดยปกติแล้วปัญหาทั่ว ๆ ไปมิอาจทำให้นางขุ่นเคืองได้ นางไม่มีทางจับจ้องอย่างมิยอมปล่อย“หม้อนี้แปลกใหม่มาก เป็นเพราะความรุ่งโรจน์ของอาอวี๋ในวันนี้ข้าถึงได้เห็น!”ไทฮองไทเฮาเห็นหม้อที่รูปร่างคล้ายผังแปดทิศ จึงมองพิจารณาอย่างสงสัยแล้วยิ้มพลางเอ่ยชื่นชมหลิงอวี๋ยิ้มพลางเอ่ย “วันนี้จู่ ๆ ก็นึกอยากกินหม้อไฟเพคะ ที่ครัวหลวงมิได้เตรียมเนื้อแกะไว้ หากมีเนื้อแกะหั่นชิ้นบาง ๆ หม้อไฟจึงจะเลิศรสเพคะ!”แม้ว่าจะไม่มีเนื้อแกะ หลิงอวี๋ก็เตรียมวัตถุดิบที่แสนอร่อยไว้มากมาย แล้วเชิญไทฮองไทเฮานั่งลง จากนั้นก็ใส่ผักให้ไทฮองไทเฮาก่อนพวกเซียวเยวี่ยมองอยู
เซียวหลินเทียนคิดเช่นนี้ก็ก้าวเท้าเดินเข้าไป“เหตุใดมิดีดแล้ว ทักษะฉินของเจ้ายอดเยี่ยมมาก ตามหลักแล้วมิน่าจะผิดพลาด...”สวีเนี่ยนจือได้ยินเสียงก็แอบดีใจ ในที่สุดนางก็ก้าวไปขั้นหนึ่งแล้ว!องค์จักรพรรดิมิได้เห็นตนแล้วหันหลังหนีไป ทั้งยังก้าวเข้ามาพูดคุย นั่นเป็นการพิสูจน์แล้วว่าองค์จักรพรรดิมิได้รังเกียจตนแต่สวีเนี่ยนจือกลับมิได้งุนงงไปเพราะเหตุนี้ นางจึงแสร้งหันไปอย่างตกใจ เมื่อเห็นเซียวหลินเทียนจึงเรียกออกมาอย่างตกใจ “ฝ่าบาท...”“ฝ่าบาทขอประทานอภัยเพคะ เนี่ยนจือรบกวนฝ่าบาทหรือไม่เพคะ!”สวีเนี่ยนจือรีบลุกขึ้นแล้วคุกเข่าทำความเคารพ“มิต้องพิธีรีตอง ข้ารบกวนเจ้าหรือไม่?”เซียวหลินเทียนประคองนางเล็กน้อย อาศัยโคมมังกรสีเข้มที่แขวนอยู่ในศาลา เซียวหลินเทียนจึงมองเห็นอย่างชัดเจนว่าบนใบหน้างดงามของสตรีเต็มไปด้วยรอยน้ำตาเขาตะลึงไปเล็กน้อย นี่คือสาเหตุที่กุ้ยเหรินสวีดีดฉินผิดอยู่ตลอดสินะ?เมื่อนึกถึงเสียงฉินที่ทั้งน่าสงสารและซาบซึ้ง ทั้งยังมีความมิพอใจ เซียวหลินเทียนขึงเอ่ยถามออกไป “เจ้ากำลังนึกถึงใครหรือ?”“กราบทูลฝ่าบาท เนี่ยนจือพ่อแม่สิ้นแล้วทั้งคู่ เมื่อครู่แค่นึกถึงพวกท่านเพคะ..
เซียวหลินเทียนได้ยินดังนั้นก็ขมวดคิ้ว หลิงอวี๋มิยอมบอกความลับของนางกับตนตอนนี้ สวีเนี่ยนจือก็มิยอมบอกอดีตของนางกับตน?“ฝ่าบาท ทุกคนล้วนมีเรื่องเสียใจของตนเพคะ!”สวีเนี่ยนจือสังเกตสีหน้าท่าทางแล้วเอ่ยทันที “เนี่ยนจือเข้าวังมาหลังจากที่ท่านพ่อท่านแม่จากไปทั้งคู่ ทุกครั้งที่เอ่ยถึงอดีตจึงเจ็บปวดจนมิอยากอยู่แล้วเพคะ!”“เนี่ยนจือแค่มิอยากพูดออกมาแล้วทำให้ฝ่าบาทเศร้าใจไปด้วย! หากฝ่าบาทอยากให้เนี่ยนจือพูด เนี่ยนจือก็จะพูดเพคะ!”“มิต้องแล้ว!”ความโกรธของเซียวหลินเทียนเบาบางลงไปมาก สตรีจำนวนมากเข้าวังมาล้วนถูกขาย หรือไม่ก็ไร้ที่พึ่งเช่นสวีเนี่ยนจือสวีเนี่ยนจือมิอยากเอ่ยถึงอดีตมิใช่ว่าตั้งใจอยากปิดบัง แต่มิอยากเอ่ยเรื่องเสียใจที่บิดามารดาเสียชีวิตทั้งคู่!สิ่งนี้ต่างจากการที่หลิงอวี๋ปิดบังต่อตน!“ดื่มสุรา!”เซียวหลินเทียนรินให้สวีเนี่ยนจืออีกจอกสวีเนี่ยนจือรับมาพลางเอ่ยอย่างอาย ๆ “ฝ่าบาท เนี่ยนจือดื่มมิเก่ง ดื่มจอกนี้แล้วมิสามารถดื่มต่อได้อีก! ฝ่าบาทเพคะ ดื่มมากทำร้ายร่างกาย ท่านเองก็ควรพอแล้วเพคะ!”เซียวหลินเทียนมองสวีเนี่ยนจือใช้แขนเสื้อปิดหน้าแล้วดื่มไปครึ่งหนึ่งจากนั้นก็วางจ
“จะเกิดผลอะไรขึ้น?”เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างมิพอใจ “ข้าเรียกฮองเฮาของตนมาดูแลรินสุรา เป็นเรื่องที่สมควรอยู่แล้ว หรือว่าหลิงอวี๋นางยังกล้ามิเชื่อฟัง?”ท่านจินต้ายิ้มขมขื่น “ฝ่าบาท… ฮองเฮาของท่านผู้นี้… ท่านเรียกกุ้ยเหรินสวีมาดื่มสุราแล้ว ยังจะเรียกฮองเฮามาอีก ท่านคิดจะทำอะไรกัน?”“ให้ฮองเฮาเห็นว่าท่านมิได้ขาดสตรีหรือ? หรือว่าจะให้ฮองเฮารับใช้พวกท่านดื่มสุรา?”ท่านจินต้านึกถึงว่าหากตนมามิทันแล้วพระราชโองการของเซียวหลินเทียนไปถึงพระตำหนักคุนหนิง เช่นนั้นความสัมพันธ์ของเซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋ก็คงไม่มีอีกต่อไป!“ฮองเฮาเป็นสตรีที่หยิ่งในศักดิ์ศรี พระนางจะคิดว่าท่านใช้กุ้ยเหรินสวีมาทำให้พระนางอับอาย! ฝ่าบาท ท่านทรงคิดให้ดี ๆ เถิดพ่ะย่ะค่ะโดยนิสัยของฮองเฮาแล้ว ท่านทำเรื่องเช่นนี้แล้วพระนางจะให้อภัยท่านหรือ?”เซียวหลินเทียนชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยอย่างโกรธเคือง “ข้ามิต้องการให้นางอภัย เป็นนางที่ทำผิดต่อข้า ข้ามิได้ทำเรื่องที่ผิดต่อนาง!”“โธ่ ฝ่าบาท!”ท่านจินต้าปวดหัวแล้ว สามีภรรยาคู่นี้ทะเลาะกันแล้วเหตุใดนิสัยราวกับเด็กกันหมด!“ฝ่าบาท กระหม่อมขอถามท่าน ท่านอยากจะแต่งตั้งฮองเฮาใหม่หรื
“เช่นนั้นยาที่ฮองเฮาสกัดออกมานั้นให้ท่าน?”ท่านจินต้าเอ่ยถามอีกครั้งเซียวหลินเทียนนึกถึงยาห้าเม็ดที่หลิงอวี๋สกัดออกมา นางให้ตนทั้งหมด จากนั้นก็พยักหน้าท่านจินต้าจึงเอ่ยยิ้ม ๆ “ฮองเฮาทรงมีทักษะการแพทย์ยอดเยี่ยม แต่ไหนแต่ไรมาเมื่อท่านหรือพวกเราร้องขอสิ่งใดพระนางก็ให้ตามคำขอเสมอ! ยาที่พระนางสกัดออกมาก็มอบให้ท่านโดยมิปิดบังแม้แต่น้อย!”“ฝ่าบาท กระหม่อมคิดว่า ใต้หล้านี้หากคิดจะหาผู้ใดที่จิตใจตั้งมั่นต่อท่านดังเช่นฮองเฮา ก็หามีไม่แล้วพ่ะย่ะค่ะ!”“แต่เหตุใดท่านยังทรงกังวลที่พระนางปิดบังท่านเล่าพ่ะย่ะค่ะ?”“มิว่าทักษะการแพทย์หรือยาของพระนางจะมาได้อย่างไร ขอเพียงท่านเชื่อว่าพระนางมิได้มีเจตนาร้ายต่อท่านก็พอแล้วมิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ!”เซียวหลินเทียนได้ฟังเช่นนี้ก็ค่อนข้างละอาย “ท่านจินต้า ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยามิควรจะเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันหรือ? ข้ามีเรื่องใดก็ล้วนบอกนางทั้งหมด เหตุใดนางมิสามารถเปิดเผยตรงไปตรงมากับข้าได้!”“เพราะว่าฮองเฮามิได้มีความรู้สึกปลอดภัยกับท่านพ่ะย่ะค่ะ!”ท่านจินต้าเอ่ยอย่างตรงประเด็น “ฝ่าบาท ในตอนแรกท่านเป็นอ๋องอี้ก็สามารถจะทุบตีเข่นฆ่านางได้แล้ว!”“ตอนนี้
เซียวหลินเทียนคุยเรื่องที่แต่ละแคว้นจะมาประชุมกับท่านจินต้าอยู่นาน จนลืมสวีเนี่ยนจือไปเสียสิ้นสวีเนี่ยนจือผู้น่าสงสารยังคงรออยู่ที่ห้องอาหารอย่างขมขื่น นางคิดว่าหากเซียวหลินเทียนกลับมาดื่มอีกสักสองสามจอกก็จะทำสำเร็จแล้วไหนเลยจะคิดว่าเซียวหลินเทียนจะไปแล้วมิกลับมาอีก สุดท้ายลู่หนานเห็นว่าเซียวหลินเทียนลืมเรื่องนี้ไปแล้ว จึงให้องครักษ์มาบอกให้นางกลับไปก่อนอย่างเงียบ ๆสวีเนี่ยนจือโกรธอยู่สักพักหนึ่งก็สงบลง วันนี้มิถือว่านางล้มเหลว นางได้ทิ้งความประทับใจไว้ให้เซียวหลินเทียนแล้วต่อไปค่อยหาโอกาสแล้วกัน!แม้ว่าเซียวหลินเทียนจะอยากปิดบังเรื่องที่ดื่มเหล้ากับสวีเนี่ยนจือ แต่ทางห้องอาหารก็ยังมีคนนำข่าวไปบอกหลิงซวนอยู่ดีคนของห้องอาหารบอกหลิงซวนกระทั่งเรื่องที่เซียวหลินเทียนให้ขันทีน้อยเซี่ยไปเรียกหลิงอวี๋มารินเหล้าหลิงซวนได้ยินเรื่องนี้ก็โกรธมาก คิดว่าเซียวหลินเทียนมิคู่ควรกับการที่หลิงอวี๋ดีต่อเขา นี่ทะเลาะกับเจ้านายตนเพียงมิกี่วันก็ไปหาคนอื่นแล้ว!แม้ว่าจะมิได้ไปจนถึงขั้นสุดท้าย แต่สำหรับหลิงซวน นี่ก็นับว่าเป็นการทรยศหลิงอวี๋แล้วอีกทั้งสิ่งที่เกินไปก็คือเซียวหลินเทียนยังกล้าเรีย
คำพูดนี้ของหลิงอวี๋มีความถากถางอยู่ แต่น้ำเสียงกลับมิได้แสดงออกมาชัดเจนแม้แต่น้อยกล้าให้ขันทีน้อยเซี่ยมาเรียกตนไปรินเหล้า นางมิแสดงออกกับเซียวหลินเทียนก็เกรงใจมากแล้วเพราะตนยังมิได้เตรียมทางหนีทีไล่ไว้อย่างดี หลิงอวี๋จึงมิอยากฉีกหน้าเซียวหลินเทียนตอนนี้เซียวหลินเทียนลืมเรื่องที่เมื่อคืนให้ขันทีน้อยเซี่ยถ่ายทอดพระราชโองการไปแล้ว และแม้ว่าจะจำได้ เขาก็คิดว่าขันทีน้อยเซี่ยมิได้มาถ่ายทอดก็มิได้สร้างความอับอายให้หลิงอวี๋“อาอวี๋ เจ้าอย่าเป็นเช่นนี้เลย ข้า… ข้ามาขอโทษ!”เซียวหลินเทียนเอ่ยพลางยิ้มขมขื่น “ข้าขอโทษ วันนั้นข้ามิควรทะเลาะกับเจ้า เรื่องที่เจ้าปิดบังข้าทั้งหมดนั้นข้ามิโทษเจ้า เป็นข้าเองที่ทำดีมิพอ! ทำให้เจ้ายังมิสามารถเชื่อข้าได้ทั้งหมด!”“ต่อไปข้าจะมิเอ่ยถามเรื่องนี้แล้ว รอให้วันไหนที่เจ้ารู้สึกว่าข้าทำดีมากพอให้เจ้าเชื่อได้แล้ว เจ้าสามารถเลือกได้ว่าจะบอกหรือมิบอกข้า!”หากคำพูดนี้ของเซียวหลินเทียนมาบอกกับหลิงอวี๋ตั้งแต่ก่อนเมื่อวาน หลิงอวี๋อาจจะซาบซึ้งแต่เมื่อเกิดเรื่องที่เซียวหลินเทียนดื่มเหล้ากับสวีเนี่ยนจือแล้วยังคิดจะสั่งให้ตนไปดูพวกเขาอี๋อ๋อกันอีก หลิงอวี๋จึงมิรู้
“หึหึ!”ชายาเจ้าแห่งทะเลหัวเราะออกมา “หลิงอวี๋ เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? หยกหล้าสุขาวดีหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าแล้ว ค้นตัวเจ้าจะหาเจอได้อย่างไร?”“หลิงอวี๋ หยกหล้าสุขาวดีมิใช่ของของเจ้าตั้งแต่แรก มารดาเจ้าเป็นนางโจร ขโมยมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของจวนเจ้าแห่งทะเลไป การให้เจ้าคืนมาก็แค่เป็นการคืนของสู่เจ้าของเดิม!”“ข้าสืบรู้มาหมดแล้ว เจ้าและเซียวหลินเทียนสามีของเจ้าต่างก็อยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ เจ้ายังมีบุตรชายอีกคนที่ฉินตะวันตก!”“หลิงอวี๋ ที่เจ้าปฏิเสธมิยอมรับฐานะของตนเองมาตลอด คงเป็นเพราะล่วงรู้ถึงวิธีที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาแล้วสินะ”“เจ้าคิดว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี ดังนั้นเจ้าจึงคิดว่า ขอเพียงมิยอมรับก็เป็นไปมิได้ที่พวกเราจะมัดตัวเจ้าไปสลายเลือดละลายกระดูกที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำหยกหล้าสุขาวดีออกมา!”ชายาเจ้าแห่งทะเลพูดถึงตรงนี้ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าเชื่อหรือไม่ ข้ามิจำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน ก็สามารถมัดตัวเจ้าไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!”“ที่ข้าให้คนนำตัวเจ้ามาที่จวนเจ้าแห่งทะเล ก็เพื่อจะให้โอกาสเจ้า!”หลิงอวี๋หรือจะยอมรับฐานะของตนเพียงเพราะชายาเจ้าแห่งทะเลพูดเช่นนี้ได้อย่าง
“เข้าไป อย่าให้พ่อบ้านผู้นี้ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง!”รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อบ้านเว่ยหายไปสิ้น กล่าวอย่างมิอดทน “เมื่อให้โอกาสดี ๆ มิชอบ ก็ต้องเจอดีเสียบ้าง!”เถาจื่อกำแขนหลิงอวี๋ไว้แน่น และถามผ่านสายตา“ตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”หลิงอวี๋ก็คาดมิถึงว่าจวนเจ้าแห่งทะเลจะเปลี่ยนท่าทีเร็วถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่า เมื่อเข้ามาในจวนเจ้าแห่งทะเลแล้วจะสามารถยื้อเวลาสักพักได้ชายาเจ้าแห่งทะเลมิปรากฏตัว แต่กลับให้พ่อบ้านเว่ยพาตนมาที่นี่เช่นนี้เลย?นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?คิดจะขังนางไว้ หรือว่ามีแผนอื่นกระไร?หลิงอวี๋มองไปยังท่าทีมีเจตนาร้ายของพวกพลธนูและชายร่างใหญ่หลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหล่านั้น นางและเถาจื่อไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไปได้เลย“เข้าไปก่อนเถอะ!”หลิงอวี๋นำหน้าเดินเข้าไป เถาจื่อตามติดอยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าประตูเรือน เมื่อเห็นสภาพข้างในก็รู้สึกว่ามิดีแน่ เพิ่งจะคิดถอยหลังเถาจื่อกลับถูกคนผลักจากด้านหลังอย่างแรง ชนเข้ากับร่างหลิงอวี๋จนดันหลิงอวี๋เข้าไปข้างในทั้งสองคนล้มลงไปกองรวมกัน ยังมิทันได้ลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงดังโครมสนั่นกล
หลงเพ่ยเพ่ยห้อยอยู่บนชะง่อนผานั้น นางเองก็ทนต่อไปมิไหวแล้ว ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของทุกคน นางจึงปีนป่ายเชือกขึ้นไปนางนึกถึงจุดประสงค์ที่ตนมาที่นี่ หากเย่หรงตายไปแล้วจริง ๆ เขาย่อมหวังให้นางช่วยหลิงอวี๋ออกมาได้อย่างแน่นอนนางมิอาจทำให้เย่หรงตายตามิหลับได้!เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยปีนขึ้นมาได้ก็มิสนใจตรวจสอบบาดแผลของตน นางคุกเข่าลงต่อหน้าฮองเฮาทันทีนางกล่าวเสียงเครือ “เสด็จย่า เรื่องที่ทรงรับปากหม่อมฉันเมื่อครู่ สามารถประทานพระราชโองการให้หม่อมฉันตอนนี้ได้หรือไม่เพคะ?”“เมื่อครู่เย่หรงช่วยชีวิตหม่อมฉันและหยวนซานไว้ เพียงเห็นแก่บุญคุณทั้งสองครั้งนี้ เสด็จย่าทรงควรจะช่วยให้เขาสมหวังนะเพคะ!”ฮองเฮานึกถึงเรื่องที่เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยอ้อนวอนตนเมื่อครู่ เย่หรงเป็นถึงเพียงนี้แล้ว นางจะยังทำให้คนที่เขาชอบพอลำบากใจได้อีกหรือ?ฮองเฮาถอดปิ่นปักผมอันหนึ่งของตนออกมาโดยมิทันคิด แล้วยื่นให้กับหลงเพ่ยเพ่ย“ถือปิ่นปักผมนี้ไปพาตัวสิงอวี๋ออกมาเถอะ!”หลงเพ่ยเพ่ยรับปิ่นปักผมหงส์คู่ปักทองคำของฮองเฮามาทั้งน้ำตา นี่คือปิ่นปักผมที่ฮองเฮาเท่านั้นจึงจะสวมใส่ได้ เห็นปิ่นดังเห็นองค์ เทียบเท่ากับพระราชโองการของฮองเฮ
“ท่านหญิง...”“เพ่ยเพ่ย...”ฮองเฮาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยตกลงไปก็ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ ผานกกระเรียนแห่งนี้เป็นปรปักษ์กับราชวงศ์หรืออย่างไร?เหตุใดถึงได้ตกลงไปทีละคนเช่นนี้?“เร็วเข้า ช่วยคน!”ฮองเฮาตะโกนลั่น นางกำนัลที่มีไหวพริบรีบไปตามองครักษ์มาช่วยทางด้านเย่หรงทรงตัวได้มั่นคงบนชะง่อนผาแล้ว เขาเพิ่งจะถอนหายใจโล่งอกก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านบนเมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นหลงเพ่ยเพ่ยกำลังร่วงหล่นลงมาหัวใจของเย่หรงหดเกร็งวูบ มิทันได้คิด คว้าเถาวัลย์ข้าง ๆ แล้วโหนตัวไปหาหลงเพ่ยเพ่ยหลงเพ่ยเพ่ยตกใจจนหลับตาลงแล้ว เตรียมพร้อมยอมรับความตายแต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนตนชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง จากนั้นร่างก็ถูกกอดไว้“ไปทางนั้น เร็วเข้า คว้าชะง่อนผานั่นไว้!”เย่หรงพลิกตัวกลางอากาศ เหวี่ยงหลงเพ่ยเพ่ยไปทางนั้น หลงเพ่ยเพ่ยพุ่งเข้าใส่ผนังผา แต่ใช้แรงมากเกินไปจนใบหน้าชนกับผนังผาจนถลอก นางเจ็บเสียจนหน้ามืดตาลายแต่นางมิสนใจความเจ็บปวดแทบขาดใจ เช่นเดียวกันกับเย่หรง เขาพยายามสุดชีวิตที่จะคว้าเถาวัลย์เหล่านั้นไว้โชคดีที่เถาวัลย์ฝั่งนี้ยังพันเกี่ยวกับกิ่งไม้มากมาย เถาวัลย์ที่พันกิ่งไม้ไว้นั้
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี