ตระกูลหลงได้กระทำสิ่งใดลงไปหรือไม่?ไยจึงได้ยับยั้งสถานการณ์การเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออกของดาวจักรพรรดิไว้ได้!เจ้าสำนักศึกษาจินครุ่นคิดอยู่หลายรอบก็ยังมิสามารถหาคำตอบได้ในหนึ่งปีที่ผ่านมานี้ นอกจากการทำนายตามกำหนดแล้ว เขายังให้ความสนใจเรื่องการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ในราชสำนักด้วย โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวของเหล่าองค์ชายตระกูลหลงแต่องค์ชายเหล่านี้ดูจะไม่มีความเคลื่อนไหวอะไร!ทว่ารูปแบบการทำนายที่ออกมาในช่วงนี้กลับทำให้เจ้าสำนักศึกษาจินมิเข้าใจ ในเมื่อเหล่าองค์ชายตระกูลหลงมิได้เคลื่อนไหวอะไร เช่นนั้นใครกันที่ทำให้เกิดสถานการณ์ดาวจักรพรรดิเคลื่อนตัวไปทางศูนย์กลางอีกครั้ง?หรือว่าจะเป็นจริงดังรูปแบบการทำนายครั้งแรกที่ตนทำนายไว้ว่า ผู้ที่จะช่วยเหลือใต้หล้าคือสตรีผู้หนึ่ง อีกทั้งยังเป็นสตรีจากตระกูลหลงด้วยหรือ?ในช่วงเวลานี้เจ้าสำนักศึกษาจินจึงเปลี่ยนไปศึกษาเกี่ยวกับองค์หญิงและท่านหญิงตระกูลหลงแทน และอันดับแรกสายตาของเขาก็มุ่งความสนใจไปที่หลงเพ่ยเพ่ยลูกสาวคนเล็กของเจ้าแห่งทิศใต้เหล่าองค์หญิงของมหาเทพหลงล้วนแต่งงานกันไปหมดแล้วและใช้ชีวิตกันอย่างสุขสบาย สิ่งที่พวกนางต้องยุ่งอยู่ทุกวันค
“เจ้าวังฉู่ เด็กสิงอวี๋ผู้นั้นน่าจะแย่กว่าไป่หลี่ไห่อีกกระมัง นางยังมิยอมแพ้อีกรึ?”เจ้าวังเจียวเบ้ปากอย่างดูถูก “เช่นนั้นก็มาดูกันว่านางจะทนไปได้นานแค่ไหนกันเชียว!”ตาเฒ่าประหลาดเทียนซูไม่มีความมั่นใจดังเช่นเมื่อครู่แล้ว สิงอวี๋แก้พิษหลายชนิดที่พวกเขาออกแบบไว้ได้อย่างราบรื่น เมื่อเห็นท่าทางสงบของนาง พิษอีกหลายชนิดหลังจากนี้ก็มิน่าจะเป็นปัญหาแต่ไป่หลี่ไห่อยู่ในสภาพนี้ หากเขาผ่านด่านนี้ไปได้ก็นับว่ามิเลวแล้ว ยิ่งมิต้องพูดถึงว่าหลังจากนี้ยังมีพิษร้ายแรงยิ่งกว่ารอเขาอยู่อีก!“ไป๋ลี่ไห่!”ทันทีที่ตาเฒ่าประหลาดเทียนซูเรียกชื่อเขาออกมา ต่งเฉิงก็เอ่ยปากห้าม “เจ้าวังฉู่ อย่าให้คำใบ้ใด ๆ ทั้งสิ้น มิเช่นนั้นจะถือว่าเป็นฝ่าฝืนกฎ และจะปรับแพ้!”ตาเฒ่าประหลาดเทียนซูจ้องมองต่งเฉิง แล้วก็ยังคงตะโกนออกไป “ไป่หลี่ไห่ วิธีการปรุงยาของสิงอวี๋แตกต่างจากพวกเราทุกคน วิธีการแก้พิษก็แตกต่างเช่นกัน หากเจ้าทนมิไหวจริง ๆ ก็ยอมแพ้ไปเสียเถิด!”“ชู่ว… นี่คือการโกงหรือไม่?”พวกของเย่หรงรออยู่ข้างนอกโดยตลอด พวกเขากังวลว่าสิงอวี๋จะแก้พิษมิได้จึงรอช่วยเหลือนาง แต่เมื่อได้ยินตาเฒ่าประหลาดเทียนซูเอ่ยเตือนไป่หลี่
ต่งเฉิงโกรธกับคำพูดบ้าบอของไป่หลี่ไห่อยู่นานจนสีหน้ามืดมนลงแม้ว่าไป่หลี่ไห่ดูเหมือนจะเป็นบ้า แต่ใครจะรู้เล่าว่านี่มิใช่สิ่งที่เขาคิดอยู่ในใจจริง ๆ ดังนั้นเขาจึงพูดความจริงออกมาท่ามกลางความบ้าคลั่งนั้น!เมื่อได้ยินคำพูดของโจวจาง เหล่าบัณฑิตที่รู้สึกมิพอใจไป่หลี่ไห่เหล่านั้นก็ตะโกนกันขึ้นมา“โจวจาง เจ้าสามารถเป็นตัวแทนของอาจารย์เจ้าได้จริงหรือ?”“มิใช่ว่าเมื่อสิงอวี๋แก้พิษให้เขาแล้วเขาจะมาบอกว่าเขามิได้เป็นคนขอยอมแพ้แล้วมาทำให้สิงอวี๋ต้องลำบากอีกหรอกใช่หรือไม่!”“เฮ้อ ปรมาจารย์ไป่หลี่ดูถูกพวกเราว่าเป็นพวกคนไร้ระเบียบ ก็มิรู้ว่าพวกบัณฑิตของหอโอสถไป๋เป่าทุกคนจะเป็นคนที่มีความสามารถสูงกันทั้งหมดหรือไม่!”มีคนหัวเราะแล้วเอ่ยขึ้นมา “พวกเรามิได้โกรธที่ถูกว่าเป็นพวกคนไร้ระเบียบหรอกนะ เพราะในสายตาของปรมาจารย์ไป่หลี่นั้นมิเห็นค่าแม้แต่รองเจ้าสำนักศึกษาต่งและเจ้าสำนักศึกษาจิน เจ้าฟังสิ เมื่อครู่เขาบอกว่าต้องการให้เจ้าสำนักศึกษาจินกับรองเจ้าสำนักศึกษาต่งมาเลียรองเท้าให้เขานั่น!”“ความคิดเช่นนี้ยิ่งใหญ่จนเกินไปท่านมหาเทพหลงยังทรงปฏิบัติต่อเจ้าสำนักศึกษาจินอย่างให้ความเคารพ หรือว่าปรมาจารย์ไป
เมื่อตาเฒ่าประหลาดเทียนซูได้ยินคำพูดไร้ยางอายของไป่หลี่ไห่ เขาก็หน้าแดงขึ้นมาแม้ว่าเขาจะช่วยเหลือไป่หลี่ไห่ แต่ก็ทำเพื่อสนับสนุนหยางหงหนิงศิษย์ของตนเช่นกัน แต่นี่มิได้หมายความว่าตาเฒ่าประหลาดเทียนซูจะไร้ยางอายเช่นเดียวกับไป่หลี่ไห่เขามองใบหน้าซีดเผือดของโจวจางแล้วก็นึกถึงที่ศิษย์ผู้นี้เอาชีวิตของตนเป็นประกันให้กับไป่หลี่ไห่เพื่อรักษาชื่อเสียงของไป่หลี่ไห่ และหยุดมิให้เขาทำผิดพลาดต่อไปอีก!ไหนเลยจะคาดคิดว่าไป่หลี่ไห่จะตบเขาโดยที่มิเอ่ยถามเรื่องราวใด ๆ ทั้งยังใส่ร้ายว่าเขาถูกสิงอวี๋ซื้อตัวไปอีก“พอได้แล้ว!”ตาเฒ่าประหลาดเทียนซูตะคอกออกมาด้วยความโกรธ “ไป่หลี่ไห่ เดิมทีเจ้าก็แพ้ไปแล้ว! โจวจางช่วยขอยาแก้พิษให้เจ้ามิได้ผิดเลยแม้แต่น้อย เมื่อดูจากท่าทีของเจ้าเมื่อครู่แล้ว แม้ว่าเจ้าจะมิได้หมดสติไป เจ้าก็มิสามารถเอาชนะสิงอวี๋ได้!”“ทักษะการปรุงยาพิษของสิงอวี๋เก่งกว่าเจ้าจริง ๆ แม้จะให้เวลาเจ้าสิบปี เจ้าก็มิสามารถเหนือกว่านางได้!”“เจ้ายอมแพ้ไปแต่โดยดีเถิด อย่าให้โจวจางต้องสละชีวิตเพื่อปกป้องเจ้าเลย!”ยังมิทันที่ตาเฒ่าประหลาดเทียนซูจะพูดจบ ไป่หลี่ไห่ก็มองไปทางตาเฒ่าประหลาดเทียนซูอย่าง
ต้องยอมรับว่ากลยุทธ์การถอยเพื่อก้าวไปข้างหน้าของหลงอิงนั้นได้รับการยอมรับจากบัณฑิตจำนวนมากทีเดียวทั้งยังถือเป็นการชะล้างความเสื่อมเสียที่ตนจะต้องแบกรับในภายภาคหน้าทางอ้อมอีกด้วยบัณฑิตบางคนตะโกนขึ้นมา “โจวจาง หลงอิง พวกเจ้ามิต้องตาย! คนที่ควรตายคือไป่หลี่ไห่ต่างหาก!”“พวกเจ้าออกจากสำนักเสียเถิด! ข้าเชื่อว่าจะต้องมีคนสายตาเฉียบแหลมเห็นความสามารถและรับพวกเจ้าเป็นศิษย์อีกอย่างแน่นอน!”“ใช่ ออกจากสำนักเถิด...ไป่หลี่ไห่ในฐานะที่เป็นอาจารย์ยังมิเคารพรองเจ้าสำนักศึกษาต่ง หากออกจากสำนักตอนนี้ก็มิถือว่าเป็นการทรยศสำนักหรอก!”ต่งเฉิงเหลือบมองไป่หลี่ไห่ด้วยสายตาเย็นชา ในใจของเขาค่อนข้างสงสัย ไป่หลี่ไห่ได้รับการแก้พิษไปแล้ว เหตุใดจึงยังดื้อรั้นเช่นนี้เล่า?เป็นเพราะยังมีพิษที่หลงเหลืออยู่มิได้ขจัดไป หรือว่านิสัยของเขาเป็นเช่นนี้กัน?แต่แม้ว่าจะมีพิษที่ยังมิถูกขจัดไป ต่งเฉิงก็จะมิเปิดเผยออกไปต่อหน้าธารกำนัลเช่นกัน ความแค้นที่ไป่หลี่ไห่ดูถูกตนและเจ้าสำนักศึกษาจินเมื่อครู่นี้นั้น เขายังคงจำได้ดี!การถือโอกาสนี้ทำให้ไป่หลี่ไห่ถูกทุกคนทอดทิ้งไปก็มิแน่ว่าจะมิใช่เรื่องดีเช่นกัน“แน่นอนว่ามินับ!
ใบหน้าของไป่หลี่ไห่ยิ่งดูมิเชื่อกว่าเดิมเสียอีก “เจ้าวังฉู่ ท่านคงถูกวิธีการแปลกประหลาดของสิงอวี๋ทำให้สับสนเป็นแน่!”“สิงอวี๋มีกลอุบายมากมายนัก นางจะต้องอาศัยวิธีนี้มาทำให้ท่านกลัวแล้วอาศัยปากของท่านมาข่มขู่พวกเราอย่างแน่นอน!”ทันใดนั้น เสียงของสิงอวี๋ก็ดังมาจากด้านหลัง “เหอะ ๆ เจ้าวังฉู่ คาดมิถึงว่าท่านต่างหากที่เป็นคนที่ฉลาดที่สุดในบรรดาพวกเขา! แค่ดูจากวิธีการของข้า ท่านก็คิดได้มากมายถึงเพียงนี้แล้ว!”“การคาดเดาของท่านถูกต้องแล้ว หากใช้ทักษะของข้าสกัดพิษออกมา มิต้องใช้ถึงครึ่งถ้วยก็สามารถคร่าชีวิตคนได้อย่างรวดเร็วจริง ๆ!”“ข้าบอกท่านได้อย่างภาคภูมิใจเลยว่า ขอเพียงอุปกรณ์ของข้าดีกว่านี้อีกสักหน่อย ข้าจะสามารถกลั่นยาพิษที่สามารถสังหารคนได้ด้วยการใช้เพียงมิกี่หยดเท่านั้น!”หลิงอวี๋มองใบหน้าของไป่หลี่ไห่ด้วยสายตาเย็นชา นางก็แค่ต้องอวดดีเนื่องจากก่อนหน้านี้นางสาบานไว้ว่า หลังจากวันนี้ไป นางต้องการให้คนเหล่านี้กลัวตน และมิกล้าที่จะยั่วยุนางได้ง่าย ๆ อีก...“เจ้าพูดจาไร้สาระ! ข้ามิเชื่อหรอก!”ไป่หลี่ไห่ตะคอกออกมาด้วยความโกรธเมื่อครู่ศิษย์คนหนึ่งมากระซิบเล่าเรื่องที่เกิดอะไรขึ้นก่
แต่ไป่หลี่ไห่มิกล้า แม้ว่าในใจของเขาจะมีเสียงนับหมื่นเรียกร้องให้เขาทำเช่นนั้น แต่เมื่อเขาเห็นสายตาของหลิงอวี๋เขาก็หวาดกลัวขึ้นมาเช่นกันดูภายนอกหลิงอวี๋ยิ้มให้ทุกคน แต่ดวงตาของนางกลับจ้องเขาอย่างเย็นชาสายตานั้นราวกับจะบอกไป่หลี่ไห่ว่า นางมิได้ล้อเล่น นางมียาพิษเช่นนั้นอยู่จริง ๆ!หลิงอวี๋เองก็มีอยู่จริง ๆ แต่สุดท้ายก็บอกกับทุกคนไปว่าล้อเล่นเพื่อที่จะทิ้งทางหนีไว้ให้ตนเองหากเรื่องที่นางมียาพิษเช่นนั้นแพร่ออกไป เช่นนั้นจะเป็นการทำให้คนบางส่วนหวาดกลัว แต่ในขณะเดียวกันก็จะดึงดูดความสนใจของราชสำนักด้วยจักรพรรดิองค์ใดเล่าจะยอมทนให้ราษฎรของตนมียาพิษที่มีพลังทำลายที่รุนแรงเช่นนี้อยู่!โดยเฉพาะที่นางสนิทกับบุคคลมีอำนาจเช่นหลงเพ่ยเพ่ยด้วย!ดังนั้นเพื่อมิให้ตนถูกคนวางแผนร้าย มหาเทพหลงก็จะต้องหาวิธีกำจัดนางไปเช่นกัน!“ปรมาจารย์ไป่หลี่ ทำตามสัญญาของท่านด้วย! ให้เหมียวหยางออกมายอมรับสิ่งที่เขาทำกับข้าไว้เสีย!”หลิงอวี๋เอ่ยออกมาอย่างเย็นชาฮูหยินเหมียวกับเถ้าแก่เหมียวมองไป่หลี่ไห่พ่ายแพ้อย่างตะลึงนี่ก็หมายความว่า พวกเขาจำเป็นต้องยอมรับความผิด มิฉะนั้นพวกเขาก็จะมิได้ยาแก้พิษจากหลิงอวี๋
“พวกเราเคยเจอกันทั้งหมดกี่ครั้ง?”หลิงอวี๋มิสามารถปล่อยไปได้ง่าย ๆ เช่นนี้ จึงเอ่ยถามไปตามตรง “ครั้งแรกเจ้าบังคับให้ข้าเปลี่ยนไปร่วมกับหอโอสถไป๋เป่าใช่หรือไม่?”“ใช่!”เหมียวหยางยังคงปกป้องไป่หลี่ไห่ต่อ “ข้าทำเอง มิได้เกี่ยวอะไรกับอาจารย์ข้า!”การซักถามของหลิงอวี๋แสดงให้ทุกคนเห็นถึงความเคียดแค้นระหว่างนางกับเหมียวหยาง และเหล่าบัณฑิตต่างก็รู้เรื่องนี้ สิงอวี๋มิได้โกหกเป็นเพราะเหมียวหยางดึงตัวสิงอวี๋ไปมิสำเร็จจริง ๆ เขาจึงมีความแค้นต่อสิงอวี๋อยู่ในใจ ดังนั้นหลังจากที่สัญญากับต่งเฉิงแล้วว่าจะมิทำให้สิงอวี๋เดือดร้อน เขาก็ยังไประบายความโกรธโดยการทำลายเรือนของสิงอวี๋อีกคำพูดที่ว่าสิงอวี๋คอยเกาะแกะเหมียวหยางอะไรนั่น ล้วนเป็นสิ่งที่ฮูหยินเหมียวแต่งขึ้นมาใส่ร้ายสิงอวี๋ทั้งสิ้นเมื่อเรื่องราวมาถึงขั้นนี้ความจริงก็ได้เปิดเผยแล้วเหล่าบัณฑิตเข้าใจในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น มิน่า ในตอนแรกสิงอวี๋จึงมิได้อธิบายแล้วบอกว่ารอให้ชนะก่อนแล้วค่อยพูดหากสิงอวี๋อธิบายตั้งแต่แรก หลายคนก็คงจะมิเชื่อทว่ายามนี้เหมียวหยางออกมาพูดเอง คำอธิบายเช่นนี้จึงมีความน่าเชื่อถือสูงต่งเฉิงจึงเอ่ยขึ้นมาโดยมิแสดงสีห
“ข้ามีนามว่าหลานฮุ่ยจวน ข้าเป็นคนให้กำเนิดเจ้ามา เป็นแม่ของเจ้า!”ท่านอาสุ่ยเอ่ยต่อ “อาอวี๋ แม่รอเจ้ามาหลายปีแล้ว ขอเพียงเจ้าเปิดห้องขังนี้ แม่ก็จะอยู่กับเจ้าตลอดไปได้!”หลิงอวี๋เห็นแสงสีรุ้งเหล่านั้นจางลงไป จากนั้นนางก็มาอยู่ในห้องขังที่มืดมิดห้องหนึ่งสตรีที่สวมอาภรณ์เก่า ๆ ผู้หนึ่งกำลังถูกขังอยู่ในกรงเหล็ก บนใบหน้าของนางเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ ดูราวกับว่าถูกทุบตีมาอย่างสาหัสเมื่อนางเห็นหลิงอวี๋ สตรีผู้นั้นก็พุ่งเข้ามาคว้าลูกกรงไว้แล้วเรียกนางด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความคาดหวังใบหน้านั้นมีความอ่อนโยนและค่อนข้างคุ้นเคย หลิงอวี๋จึงเดินเข้าไปหาโดยมิรู้ตัว“ท่านคือท่านแม่ของข้าหรือ?”นางเอ่ยถามขึ้นมาด้วยความสับสน“ข้าคือแม่ของเจ้า… อาอวี๋ เจ้าคือลูกที่ข้าอุ้มท้องมาสิบเดือนและให้กำเนิดเจ้ามา เหตุใดเจ้าจึงจำข้ามิได้เล่า?”“อาอวี๋ แม่ก็มิอยากแยกจากเจ้าเช่นกัน แต่คนเลวพวกนั้นมาพรากเราออกจากกัน พวกเขาขังแม่ไว้ที่นี่ ทุบตีทำร้ายแม่ ทรมานแม่!”สตรีผู้นั้นสะอื้นพลางเอ่ยออกมา “แม่คิดถึงเจ้าตลอดเวลาที่อยู่ในคุก ที่เจ้ามาหาที่นี่มิใช่ว่าเพื่อจะมาช่วยเหลือแม่หรอกหรือ?”“เจ้ารีบไขประตูช่วยแม่ออ
“มิใช่ ข้ามีนามว่าสิงอวี๋ พวกเขาจำคนผิดแล้ว!”แม้ว่าหลิงอวี๋จะชอบเสียงของสตรีผู้นี้ แต่จะฟังแค่ประโยคเดียวของนางแล้วยอมรับตัวตนเลยก็คงมิได้ท่านอาสุ่ยยิ้มออกมาแล้วทำไม้ทำมือไปทางเจ้าแห่งทะเลเจ้าแห่งทะเลยกมือขึ้นมา จากนั้นองครักษ์ผู้หนึ่งก็ก้าวเข้ามาเปิดกลไกของกรงเหล็ก ประตูเหล็กจึงเลื่อนขึ้นไป และท่านอาสุ่ยก็เดินเข้าไปหลิงอวี๋รู้สึกหวั่นใจขึ้นมา นี่เจ้าแห่งทะเลต้องการจะทำกระไร?เขาพาท่านอาสุ่ยที่ดูประหลาดผู้นี้มาก็เพราะคิดจะเกลี้ยกล่อมตนหรือ?“สิงอวี๋ เจ้าแห่งทะเลตรัสว่าท่านเป็นบิดาของเจ้า และระหว่างเจ้ากับเจ้าแห่งทะเลก็มีเรื่องเข้าใจผิดกันบางอย่าง เจ้าแห่งทะเลทรงให้ข้ามาเกลี้ยกล่อมเจ้าว่าอย่าได้ดื้อดึงกับท่านเลย”ท่านอาสุ่ยเอ่ยออกมาอย่างอ่อนโยน “พ่อลูกกันมิโกรธกันข้ามวันข้ามคืน หากมีเรื่องอันใดเข้าใจผิดกัน พูดกันตรง ๆ ก็จบ!”“เจ้าบอกกับอามาว่า เหตุใดเจ้าจึงมิยอมรับบิดาของเจ้า?”หลิงอวี๋เหลือบมองเจ้าแห่งทะเลที่ยืนอยู่ด้านข้างแล้วยิ้มบาง ๆ “มิใช่ว่าข้ามิยอมรับพ่อ แต่พวกเขาจำคนผิดจริง ๆ เจ้าค่ะ!”“ข้ามิใช่หลิงอวี๋ และมิใช่บุตรีของเจ้าแห่งทะเลแน่นอน! ข้าสกุลสิง ท่านพ่อท่านแม่ขอ
หลิงอวี๋มองชายาเจ้าแห่งทะเลที่เดินออกไป แววตาพลันเย็นเยียบลงนางมิคิดว่าชายาเจ้าแห่งทะเลจะมาที่นี่ด้วยตนเองเพียงเพื่อกล่าวถึงเรื่องไร้สาระเหล่านี้ชายาเจ้าแห่งทะเลต้องมีแผนสำรองอื่นอีกแน่นอน“ศิษย์พี่ ชายาเจ้าแห่งทะเลคิดจะทำอะไรกันแน่เจ้าคะ?”เถาจื่อถามอย่างสงสัย “เหตุใดพวกเขามิพาพวกเราไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์?”ก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนยังคิดอยู่ว่า หากมิสามารถพาหลิงอวี๋ออกมาได้ ก็จะไปซุ่มรออยู่ใกล้ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อเตรียมพร้อมชิงตัวคนทว่ายามนี้ชายาเจ้าแห่งทะเลกลับมิเล่นตามตำรา เพียงแค่กักตัวหลิงอวี๋ไว้ในจวนเจ้าแห่งทะเล พวกเขามิกังวลว่าจะเกิดเรื่องมิคาดฝันขึ้นหรือไร?“มีความเป็นไปได้สองอย่าง ประการแรกคือ บางทีวิธีนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาอาจจะมิใช่วิธีสลายเลือดละลายกระดูกตามข่าวลือ แต่อาจจะเป็นวิธีอื่น!”“อย่างไรเสียข่าวลือเหล่านี้ก็แพร่มาหลายร้อยปีแล้ว อาจเป็นไปได้ว่า ตระกูลหลงจงใจปล่อยข่าวออกมาก็เพื่อข่มขวัญผู้ที่ละโมบอยากได้หยกหล้าสุขาวดี!”หลิงอวี๋วิเคราะห์อย่างใจเย็น“ส่วนอีกความเป็นไปได้หนึ่งก็คือ ตัวหยกหล้าสุขาวดีเองยังมีความลับอยู่ เจ้าแห่งทะเลมิรู้ ทว่าเขาคิดว่าข้ารู้ จ
ภารกิจของชายาเจ้าแห่งทะเลคือการงัดปากหลิงอวี๋ให้บอกวิธีเข้าไปในหยกหล้าสุขาวดีภารกิจนี้ยากยิ่ง!ชายาเจ้าแห่งทะเลยังมิอาจพูดตรง ๆ ได้ มิฉะนั้นก็เท่ากับเป็นการชี้ให้หลิงอวี๋ล่วงรู้ถึงความมิรู้ของพวกเขาเกี่ยวกับหยกหล้าสุขาวดีทั้งยังจะกระตุ้นให้หลิงอวี๋ไปค้นพบความลับของหยกหล้าสุขาวดี ถึงกาลนั้นเจ้าแห่งทะเลต้องการครอบครองหล้าสุขาวดีก็คงยากยิ่งกว่าการขึ้นสวรรค์เสียอีกเมื่อครู่ชายาเจ้าแห่งทะเลกำลังครุ่นคิดอย่างหนักว่าจะทำอย่างไรให้หลิงอวี๋ประนีประนอมยอมบอกความลับของหยกหล้าสุขาวดีออกมาอย่างว่าง่าย แต่คิดไปคิดมาก็ยังไม่มีแผนการที่ดีเลยนางทำได้เพียงลองหยั่งเชิงดูก่อน ดูว่าจะสามารถใช้เซียวหลินเทียนและบุตรชายของหลิงอวี๋มาเกลี้ยกล่อมให้นางคายความลับออกมาได้หรือไม่“หลิงอวี๋ เจ้าอย่าเพิ่งรีบปฏิเสธ ฟังเงื่อนไขที่ข้าจะมอบให้เจ้าก่อน!”ชายาเจ้าแห่งทะเลระงับโทสะไว้ และกล่าวอย่างเยือกเย็น “เจ้าคือฮองเฮาแห่งฉินตะวันตก เซียวเยวี่ยบุตรชายเจ้าคือรัชทายาทแห่งฉินตะวันตก แต่ไหนแต่ไรแผ่นดินนั้นของพวกเจ้ากับพวกเราก็มิเคยก้าวก่ายกัน!”“อีกทั้งสามีข้าก็คือบิดาของเจ้า พวกเราก็มิได้อยากจะฆ่าล้างพวกเจ้าหรอก
“หึหึ!”ชายาเจ้าแห่งทะเลหัวเราะออกมา “หลิงอวี๋ เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? หยกหล้าสุขาวดีหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าแล้ว ค้นตัวเจ้าจะหาเจอได้อย่างไร?”“หลิงอวี๋ หยกหล้าสุขาวดีมิใช่ของของเจ้าตั้งแต่แรก มารดาเจ้าเป็นนางโจร ขโมยมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของจวนเจ้าแห่งทะเลไป การให้เจ้าคืนมาก็แค่เป็นการคืนของสู่เจ้าของเดิม!”“ข้าสืบรู้มาหมดแล้ว เจ้าและเซียวหลินเทียนสามีของเจ้าต่างก็อยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ เจ้ายังมีบุตรชายอีกคนที่ฉินตะวันตก!”“หลิงอวี๋ ที่เจ้าปฏิเสธมิยอมรับฐานะของตนเองมาตลอด คงเป็นเพราะล่วงรู้ถึงวิธีที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาแล้วสินะ”“เจ้าคิดว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี ดังนั้นเจ้าจึงคิดว่า ขอเพียงมิยอมรับก็เป็นไปมิได้ที่พวกเราจะมัดตัวเจ้าไปสลายเลือดละลายกระดูกที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำหยกหล้าสุขาวดีออกมา!”ชายาเจ้าแห่งทะเลพูดถึงตรงนี้ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าเชื่อหรือไม่ ข้ามิจำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน ก็สามารถมัดตัวเจ้าไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!”“ที่ข้าให้คนนำตัวเจ้ามาที่จวนเจ้าแห่งทะเล ก็เพื่อจะให้โอกาสเจ้า!”หลิงอวี๋หรือจะยอมรับฐานะของตนเพียงเพราะชายาเจ้าแห่งทะเลพูดเช่นนี้ได้อย่าง
“เข้าไป อย่าให้พ่อบ้านผู้นี้ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง!”รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อบ้านเว่ยหายไปสิ้น กล่าวอย่างมิอดทน “เมื่อให้โอกาสดี ๆ มิชอบ ก็ต้องเจอดีเสียบ้าง!”เถาจื่อกำแขนหลิงอวี๋ไว้แน่น และถามผ่านสายตา“ตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”หลิงอวี๋ก็คาดมิถึงว่าจวนเจ้าแห่งทะเลจะเปลี่ยนท่าทีเร็วถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่า เมื่อเข้ามาในจวนเจ้าแห่งทะเลแล้วจะสามารถยื้อเวลาสักพักได้ชายาเจ้าแห่งทะเลมิปรากฏตัว แต่กลับให้พ่อบ้านเว่ยพาตนมาที่นี่เช่นนี้เลย?นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?คิดจะขังนางไว้ หรือว่ามีแผนอื่นกระไร?หลิงอวี๋มองไปยังท่าทีมีเจตนาร้ายของพวกพลธนูและชายร่างใหญ่หลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหล่านั้น นางและเถาจื่อไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไปได้เลย“เข้าไปก่อนเถอะ!”หลิงอวี๋นำหน้าเดินเข้าไป เถาจื่อตามติดอยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าประตูเรือน เมื่อเห็นสภาพข้างในก็รู้สึกว่ามิดีแน่ เพิ่งจะคิดถอยหลังเถาจื่อกลับถูกคนผลักจากด้านหลังอย่างแรง ชนเข้ากับร่างหลิงอวี๋จนดันหลิงอวี๋เข้าไปข้างในทั้งสองคนล้มลงไปกองรวมกัน ยังมิทันได้ลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงดังโครมสนั่นกล
หลงเพ่ยเพ่ยห้อยอยู่บนชะง่อนผานั้น นางเองก็ทนต่อไปมิไหวแล้ว ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของทุกคน นางจึงปีนป่ายเชือกขึ้นไปนางนึกถึงจุดประสงค์ที่ตนมาที่นี่ หากเย่หรงตายไปแล้วจริง ๆ เขาย่อมหวังให้นางช่วยหลิงอวี๋ออกมาได้อย่างแน่นอนนางมิอาจทำให้เย่หรงตายตามิหลับได้!เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยปีนขึ้นมาได้ก็มิสนใจตรวจสอบบาดแผลของตน นางคุกเข่าลงต่อหน้าฮองเฮาทันทีนางกล่าวเสียงเครือ “เสด็จย่า เรื่องที่ทรงรับปากหม่อมฉันเมื่อครู่ สามารถประทานพระราชโองการให้หม่อมฉันตอนนี้ได้หรือไม่เพคะ?”“เมื่อครู่เย่หรงช่วยชีวิตหม่อมฉันและหยวนซานไว้ เพียงเห็นแก่บุญคุณทั้งสองครั้งนี้ เสด็จย่าทรงควรจะช่วยให้เขาสมหวังนะเพคะ!”ฮองเฮานึกถึงเรื่องที่เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยอ้อนวอนตนเมื่อครู่ เย่หรงเป็นถึงเพียงนี้แล้ว นางจะยังทำให้คนที่เขาชอบพอลำบากใจได้อีกหรือ?ฮองเฮาถอดปิ่นปักผมอันหนึ่งของตนออกมาโดยมิทันคิด แล้วยื่นให้กับหลงเพ่ยเพ่ย“ถือปิ่นปักผมนี้ไปพาตัวสิงอวี๋ออกมาเถอะ!”หลงเพ่ยเพ่ยรับปิ่นปักผมหงส์คู่ปักทองคำของฮองเฮามาทั้งน้ำตา นี่คือปิ่นปักผมที่ฮองเฮาเท่านั้นจึงจะสวมใส่ได้ เห็นปิ่นดังเห็นองค์ เทียบเท่ากับพระราชโองการของฮองเฮ
“ท่านหญิง...”“เพ่ยเพ่ย...”ฮองเฮาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยตกลงไปก็ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ ผานกกระเรียนแห่งนี้เป็นปรปักษ์กับราชวงศ์หรืออย่างไร?เหตุใดถึงได้ตกลงไปทีละคนเช่นนี้?“เร็วเข้า ช่วยคน!”ฮองเฮาตะโกนลั่น นางกำนัลที่มีไหวพริบรีบไปตามองครักษ์มาช่วยทางด้านเย่หรงทรงตัวได้มั่นคงบนชะง่อนผาแล้ว เขาเพิ่งจะถอนหายใจโล่งอกก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านบนเมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นหลงเพ่ยเพ่ยกำลังร่วงหล่นลงมาหัวใจของเย่หรงหดเกร็งวูบ มิทันได้คิด คว้าเถาวัลย์ข้าง ๆ แล้วโหนตัวไปหาหลงเพ่ยเพ่ยหลงเพ่ยเพ่ยตกใจจนหลับตาลงแล้ว เตรียมพร้อมยอมรับความตายแต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนตนชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง จากนั้นร่างก็ถูกกอดไว้“ไปทางนั้น เร็วเข้า คว้าชะง่อนผานั่นไว้!”เย่หรงพลิกตัวกลางอากาศ เหวี่ยงหลงเพ่ยเพ่ยไปทางนั้น หลงเพ่ยเพ่ยพุ่งเข้าใส่ผนังผา แต่ใช้แรงมากเกินไปจนใบหน้าชนกับผนังผาจนถลอก นางเจ็บเสียจนหน้ามืดตาลายแต่นางมิสนใจความเจ็บปวดแทบขาดใจ เช่นเดียวกันกับเย่หรง เขาพยายามสุดชีวิตที่จะคว้าเถาวัลย์เหล่านั้นไว้โชคดีที่เถาวัลย์ฝั่งนี้ยังพันเกี่ยวกับกิ่งไม้มากมาย เถาวัลย์ที่พันกิ่งไม้ไว้นั้
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว