จื่อลู่?หลิงอวี๋ชะงักไปครู่หนึ่ง พลางนึกถึงข้อมูลเกี่ยวกับพิษชนิดนี้ในสมองอย่างรวดเร็ว“น้องหญิง พิษชนิดนี้เป็นพิษจากทะเลทราย เรียกว่า จื่อลู่เฟิงต่าน ยามที่มันกำเริบจะรู้สึกหนาวเสียดไปตามข้อต่อและไขกระดูก อาการจะกำเริบทุกยามจื่อและยามอู่ ส่วนมากผู้ถูกพิษจะสิ้นใจตายด้วยอาการกำเริบครั้งที่สามหรือสี่”หวงฝู่หลินร้องเรียกอย่างร้อนรน “หมิงจูมีอาการกำเริบมาสองครั้งแล้ว เจ้ามีวิธีช่วยนางหรือไม่?”“ขอข้าคิดก่อน!”หลิงอวี๋ได้ยินแล้วใจก็สั่นสะท้าน เด็กน้อยอาจตายได้ด้วยอาการกำเริบครั้งที่สามหรือสี่ เหลือเวลาอีกเพียงมิกี่ชั่วยามก็จะถึงยามจื่อแล้ว หากมิรีบคิดหาวิธีเสียตอนนี้ หมิงจูอาจจะตายเมื่อพิษครั้งต่อไปกำเริบอีกหมิงจูยังเยาว์นัก นางจะทนเห็นอีกฝ่ายตายต่อหน้าต่อตาเช่นนี้ได้อย่างไร!หลิงอวี๋เห็นองครักษ์ของหลงเพ่ยเพ่ยกำลังเจาะรอยแยก ตนก็ถอยไปอยู่ข้างหนึ่ง ขบคิดจนปวดสมองเพื่อหาวิธีถอนพิษแต่นางก็เช่นเดียวกับหวงฝู่หลิน มิเคยได้ยินชื่อพิษชนิดนี้มาก่อน แล้วจะหาทางถอนพิษให้หมิงจูได้อย่างไร?“พี่ใหญ่ บาดแผลของท่านเป็นอย่างไรบ้าง? ข้ามีโอสถสมานแผลชั้นเลิศอยู่ ท่านกินก่อนเถิด!”ทางด้านนั้น เ
คนที่ต้องช่วยอยู่ใกล้แค่เอื้อม หลิงอวี๋จะยอมแพ้เช่นนี้ได้อย่างไร!หลิงอวี๋รีบใช้สมองคิดหาวิธีการอย่างรวดเร็วส่วนเก๋อเฟิ่งฉิงขยับเข้าไปใกล้ปากถ้ำ กล่าวเสียงสะอื้นว่า "พี่ใหญ่ ครั้นอยู่บนภูเขาหิมะท่านเสี่ยงอันตรายช่วยข้า บัดนี้ข้าจะทิ้งท่านแล้วหนีไปคงมิได้หรอก!""ท่านอดทนอีกหน่อย พวกเราต้องหาทางช่วยพวกท่านออกมาได้แน่!"เก๋อเฟิ่งฉิงพูดพลางหยิบกระบี่ออกมาแล้วขุดถ้ำอย่างบ้าคลั่งเผยอวี้ก็เร่งความเร็วรีบขุดตามหลิงอวี๋เห็นหินด้านบนร่วงหล่นลงมามิหยุด พลันใจไหววูบ ร้องถามว่า "พวกท่านนำระเบิดสายฟ้ามาด้วยหรือไม่?""นำมา! แต่เจ้าวังหวงฝู่บอกว่าห้ามใช้ระเบิดสายฟ้าเพื่อระเบิดปากถ้ำ มิฉะนั้นตำหนักใต้ดินจะถล่มลงมาฝังพวกเราไว้ข้างใต้!"เผยอวี้กล่าวขณะขุดไปพลาง"นั่นมิแน่ พวกท่านระเบิดจากข้างใน อาจทำให้ตำหนักใต้ดินถล่มได้ก็จริง แต่หากระเบิดจากตรงนี้จะแตกต่างออกไป!"หลิงอวี๋อธิบาย "เห็นปากถ้ำที่พวกท่านขุดออกมาหรือไม่? แรงรับน้ำหนักทั้งสองข้างเท่ากัน พิสูจน์ว่าการค้ำยันนั้นเพียงพอ!""ส่งระเบิดสายฟ้ามาให้ข้าลูกหนึ่ง ข้าจะระเบิดจากฝั่งนี้ ขอเพียงระเบิดหินก้อนที่ขวางปากถ้ำนี้ให้พวกท่านออกมาได้ก็
"ระเบิดเปิดทางแล้ว!"หลิงอวี๋และเผยอวี้ที่กำลังสำรวจสถานการณ์ด้านในร้องขึ้นพร้อมกัน"รีบออกมาเร็ว!"หลิงอวี๋รีบร้องบอก "เจ้าวัง ข้าน่าจะมีวิธีช่วยหมิงจูได้ พวกเราออกจากที่นี่กันก่อน กลับถึงเมืองหลวงแดนเทพแล้วข้าจะรีบปรุงยาแก้พิษให้นางทันที!"หวงฝู่หลินหลับตาลง การตัดสินใจของเขามิผิดจริง ๆ หลิงอวี๋คือดาวแห่งความหวังของหมิงจู!บางที หลิงอวี๋อาจจะสามารถรักษาโรคเลือดไหลมิหยุดของหมิงจูให้หายขาดได้ ภายภาคหน้าธิดาหัวแก้วหัวแหวนของตนจะสามารถเติบโตอย่างแข็งแรงสมบูรณ์เหมือนเด็กธรรมดาทั่วไปได้น้องสาวบุญธรรมผู้นี้ เขายอมรับนางแล้วต่อให้มอบทรัพย์สินเงินทองทั้งหมดในวังเทพให้นาง เขาก็จะมิรู้สึกเสียดายแม้แต่น้อย"สหายหวงฝู่ เจ้าออกไปก่อน!"เซียวหลินเทียนหลีกทางให้ หวงฝู่หลินจะได้อุ้มหมิงจูออกไปก่อนหวงฝู่หลินก็มิเกรงใจ ยิ่งชักช้าไปอีกครู่พวกเขาก็ยิ่งตกอยู่ในอันตรายมากขึ้นหวงฝู่หลินถอดเสื้อคลุมตัวนอกของตนห่มให้หมิงจูแล้วส่งเด็กน้อยออกจากปากถ้ำให้ถึงมือหลิงอวี๋ก่อนหลิงอวี๋รีบรับตัวนางออกมาเมื่อเห็นหวงฝู่หมิงจูที่นอนแน่นิ่งไร้ชีวิตชีวาอยู่ในอ้อมแขนของตน หลิงอวี๋ก็รู้สึกปวดใจขึ้นมาวูบหนึ
ทุกคนขึ้นม้าจากไป ยังวิ่งไปได้มิไกลนัก มหาปราชญ์ก็นำมือสังหารของสำนักซิงหลัวตามมาถึง“พวกท่านวิ่งต่อไป คนของพวกเรารอสมทบอยู่ข้างหน้า!”ถึงคราวหลงเพ่ยเพ่ยแสดงฝีมือแล้ว นางสั่งการให้มู่หยางนำองครักษ์เงาสร้างสิ่งกีดขวางสกัดคนของมหาปราชญ์เอาไว้หวงฝู่หลินให้เซียวหลินเทียนและหลิงอวี๋ไปก่อน ตนกับปี้ซงจะร่วมมือกับคนของมู่หยางสกัดมหาปราชญ์เซียวหลินเทียนให้เผยอวี้และคนอื่น ๆ มอบระเบิดสายฟ้าที่เหลือทั้งหมดให้หวงฝู่หลิน อานุภาพการระเบิดของระเบิดสายฟ้าก็สามารถสกัดกั้นผู้ไล่ตามได้ชั่วคราวเช่นกันเก๋อเฟิ่งฉิงก็ให้คนที่ตนนำมาร่วมมือกับคนของมู่หยางเช่นกัน นางยังปลอบใจว่า “พี่ใหญ่ มิต้องกังวล พวกเราหนีออกไปได้แน่นอน!”“คนที่ข้านำมาก็เป็นยอดฝีมืออันดับต้น ๆ ทั้งสิ้น”เถาจื่อเห็นเก๋อเฟิ่งฉิงแสดงออกอยู่ตลอดเวลา ส่วนหลิงอวี๋กลับมิใส่ใจเรื่องเหล่านี้ ทำความดีไปตั้งมากมายแต่มิเคยขอความชอบเถาจื่ออดมิได้ที่จะกล่าวว่า “พี่ใหญ่ คนของเราก็รอสมทบอยู่ใกล้ ๆ เช่นกัน ศิษย์พี่หญิงจัดการทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว จะต้องคุ้มครองพวกท่านให้หนีออกไปได้อย่างปลอดภัยแน่นอนเจ้าค่ะ!”ใจของเซียวหลินเทียนพลันไหววูบ ความส
ตามคำสั่งของหลิงอวี๋ เสือปีกกาฬก็โฉบลงมาจากกลางอากาศราวสายฟ้าพุ่งเข้าใส่มหาปราชญ์ที่นำหน้ามามหาปราชญ์เห็นเสือปีกกาฬมาอย่างดุดันน่าเกรงขาม ทำได้เพียงยกมือขึ้นซัดฝ่ามือออกไปต้านรับ แล้วกลิ้งตกจากหลังม้าไปด้านข้างเกือบจะพร้อมกันนั้น กรงเล็บของเสือปีกกาฬก็ตะครุบลงบนหลังม้า จับอานม้าแล้วยกม้าทั้งตัวขึ้นมามันกระพือปีกครั้งหนึ่ง เสือปีกกาฬบินสูงขึ้นไป แล้วโยนม้าร่วงลงมาอย่างแรง“ฮี้...”ม้าของมหาปราชญ์ตะกุยกีบทั้งสี่กลางอากาศอย่างหวาดกลัวเหล่ามือสังหารด้านล่างเห็นม้ากำลังจะร่วงลงมากระแทกใส่พวกตนก็พาหลบหลีกกันวุ่นวายมีมือสังหารสองคนที่หลบมิทันถูกม้าที่ร่วงลงมาเตะเข้าที่ใบหน้าจนร้องเสียงหลงแล้วร่วงตกจากหลังม้าทันที“เฮยอี้ ระวัง!”หลิงอวี๋เห็นมหาปราชญ์พลิกตัวลุกขึ้นนั่ง ซัดอาวุธลับกำมือหนึ่งเข้าใส่เสือปีกกาฬเสือปีกกาฬกระพือปีกทั้งสองข้างอย่างแรง ลมแรงที่เกิดจากการกระพือปีกปัดอาวุธลับเหล่านั้นให้ร่วงหล่นลงไปจนหมดสิ้นเซียวหลินเทียนได้ยินเสียงคำรามของเสือปีกกาฬก็หยุดชะงัก หันหน้ากลับไปมองเสือปีกกาฬดูเหมือนจะโกรธแค้นที่ตนถูกอาวุธลับของมหาปราชญ์ทำร้าย พลันโฉบเข้าใส่มหาปราชญ์อีกคร
ภายใต้แสงสว่างของคบเพลิงโดยรอบ ตาข่ายยักษ์ผืนหนึ่งร่วงหล่นจากฟ้าพร้อมสะท้อนแสงโลหะอันเย็นเยียบออกมา…ตาข่ายยักษ์ครอบลงมายังเสือปีกกาฬหลิงอวี๋เห็นดังนั้นก็ใจหายวาบ นางพุ่งเข้าไปพร้อมกระบี่ในมือโดยมิลังเลก่อนหน้านี้นางเห็นสถานการณ์การต่อสู้ตึงเครียด จึงได้ส่งหวงฝู่หมิงจูให้เถาจื่อแบกไว้ก่อนแล้วบัดนี้หลิงอวี๋พุ่งเข้ามาใช้กระบี่ตวัดเกี่ยวตาข่ายนั้น พยายามจะฉีกเปิดช่องว่างให้เสือปีกกาฬหนีออกมาได้แต่ตาข่ายเหล็กของเจ้าสำนักซิงหลัวหนักเกินไป หลิงอวี๋ใช้สุดแรงกำลังก็ยังมิอาจดึงตาข่ายเหล็กให้เปิดออกได้หวงฝู่หลินก็รู้ว่าหากเสือปีกกาฬถูกตาข่ายคลุมไว้ ย่อมไม่มีทางหนีออกมาได้แน่นอน จึงล้มเลิกการโจมตีมหาปราชญ์ จึงหันมาอีกด้านหนึ่งแล้วใช้กระบี่ของตนตวัดเกี่ยวตาข่ายเหล็กเช่นกันหวงฝู่หลินและหลิงอวี๋ร่วมแรงกันอย่างหนักจนเปิดช่องแคบได้เสือปีกกาฬแสนรู้ ตาข้างเดียวกวาดมองแล้วก็พุ่งออกไปทางช่องนั้นทันทีเจ้าสำนักซิงหลัวเห็นดังนั้นก็ดึงตาข่ายสุดแรง แต่ก็ยังช้าไปก้าวหนึ่ง เสือปีกกาฬขยับตัวกระแทกพื้นกระโจนออกไปทางช่องแคบนั้นด้วยความเร็วราวสายฟ้าแม้ว่าความเร็วของมันจะสูงมาก แต่ตาข่ายเหล็กที่รัด
“พี่ใหญ่!”เก๋อเฟิ่งฉิงเห็นท่ามิดี จึงพุ่งเข้ามาผลักเซียวหลินเทียนออกไปพร้อมใช้ร่างของตนเองรับฝ่ามือนี้แทนเซียวหลินเทียน...พลังฝ่ามือของเจ้าสำนักซิงหลัวกระแทกเข้าใส่ร่างของเก๋อเฟิ่งฉิง ร่างของนางราวกับปุยหลิวลอยออกไปเซียวหลินเทียนอยู่ในสภาพหมดแรงแล้ว การโจมตีเมื่อครู่ได้ใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดของเขาไปจนหมดสิ้นเขามองตาค้างเห็นเก๋อเฟิ่งฉิงปลิวออกไป แต่กลับไม่มีแรงแม้แต่จะเข้าไปกอดรับนางไว้ความรู้สึกที่เก๋อเฟิ่งฉิงมีต่อตนนั้นเซียวหลินเทียนจะมิเข้าใจได้อย่างไรเช่นเดียวกันกับหลิงอวี๋ในอดีต นางเองพยายามอย่างสุดกำลังที่จะทำดีต่อเขาบัดนี้นางถึงขั้นสละชีวิตเพื่อช่วยตน หากในใจเขาไม่มีหลิงอวี๋อยู่ เมื่อเผชิญหน้ากับความรักมั่นเช่นนี้ เซียวหลินเทียนจะมิซาบซึ้งใจได้อย่างไร!“หากข้ายังมีชีวิตรอดต่อไปได้ สิ่งที่ติดค้างเจ้า ข้าจะชดเชยให้เจ้าแน่!”เซียวหลินเทียนเจ็บปวดรุนแรงที่หน้าอก ภาพเบื้องหน้ามืดลงและล้มตึงไปทันทีคนรอบข้างล้วนกำลังวุ่นอยู่กับการรับมือมหาปราชญ์และเจ้าสำนักซิงหลัว ไม่มีใครสามารถปลีกตัวไปดูอาการของเซียวหลินเทียนได้มู่ตงหัวหน้าองครักษ์ของหลงเพ่ยเพ่ยเห็นเก๋อเฟิ่งฉิงปลิวถอ
หลงเพ่ยเพ่ยกวาดตามอง เห็นเจ้าสำนักซิงหลัวถอยห่างออกไปสิบกว่าเมตรแล้ว ส่วนมือสังหารเหล่านั้นถูกเสือปีกกาฬกัดทึ้งจนมิกล้าเข้าใกล้“พวกเราถอย!”หลงเพ่ยเพ่ยสั่งการองครักษ์เงาให้ดึงจ้าวซวนกับลู่หนานกลับมา และให้พลธนูคุ้มกันด้านหลังคนของเก๋อเฟิ่งฉิงได้หามเก๋อเฟิ่งฉิงรวมถึงเซียวหลินเทียนที่หมดสติไปด้านหลังแล้วหลิงเฟิงและหานอวี้ได้นำพลธนูมาถึงแล้ว ทั้งสองรีบสั่งการให้องครักษ์จัดวางแนวป้องกันของพลธนูหลิงเฟิงพุ่งเข้ามาสมทบกับหลิงอวี๋ ลู่หนานและคนอื่น ๆ พร้อมกับองครักษ์หลายนายเกือบจะพร้อมกันนั้น เย่หรงและหลงจิ้งก็มาถึงเช่นกัน ทุกคนช่วยกันคนละไม้คนละมือหามเซียวหลินเทียน เก๋อเฟิ่งฉิงที่สลบอยู่และคนอื่น ๆ ขึ้นรถม้า“พวกท่านไปก่อน พวกเราจะคุ้มกันด้านหลังให้!”หลงจิ้งประเมินสถานการณ์แล้วออกคำสั่งทันทีไหนเลยมหาปราชญ์จะยอมแพ้ง่าย ๆ เช่นนี้ เขารีบรวบรวมมือสังหารที่เหลืออยู่แล้วก็กระหนาบโจมตีเข้ามาทว่าพลธนูเหล่านี้ใช่พวกกระจอกเสียที่ไหน เมื่อมิสามารถโจมตีระยะประชิดได้ ก็แสดงอานุภาพของการโจมตีระยะไกลออกมา กอปรกับลูกศรของพลธนูหลิงเฟิงล้วนฉาบไว้ด้วยยาสลบชนิดรุนแรง ขอเพียงถูกยิงเข้า มือสังหารท
“หึหึ!”ชายาเจ้าแห่งทะเลหัวเราะออกมา “หลิงอวี๋ เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? หยกหล้าสุขาวดีหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าแล้ว ค้นตัวเจ้าจะหาเจอได้อย่างไร?”“หลิงอวี๋ หยกหล้าสุขาวดีมิใช่ของของเจ้าตั้งแต่แรก มารดาเจ้าเป็นนางโจร ขโมยมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของจวนเจ้าแห่งทะเลไป การให้เจ้าคืนมาก็แค่เป็นการคืนของสู่เจ้าของเดิม!”“ข้าสืบรู้มาหมดแล้ว เจ้าและเซียวหลินเทียนสามีของเจ้าต่างก็อยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ เจ้ายังมีบุตรชายอีกคนที่ฉินตะวันตก!”“หลิงอวี๋ ที่เจ้าปฏิเสธมิยอมรับฐานะของตนเองมาตลอด คงเป็นเพราะล่วงรู้ถึงวิธีที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาแล้วสินะ”“เจ้าคิดว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี ดังนั้นเจ้าจึงคิดว่า ขอเพียงมิยอมรับก็เป็นไปมิได้ที่พวกเราจะมัดตัวเจ้าไปสลายเลือดละลายกระดูกที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำหยกหล้าสุขาวดีออกมา!”ชายาเจ้าแห่งทะเลพูดถึงตรงนี้ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าเชื่อหรือไม่ ข้ามิจำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน ก็สามารถมัดตัวเจ้าไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!”“ที่ข้าให้คนนำตัวเจ้ามาที่จวนเจ้าแห่งทะเล ก็เพื่อจะให้โอกาสเจ้า!”หลิงอวี๋หรือจะยอมรับฐานะของตนเพียงเพราะชายาเจ้าแห่งทะเลพูดเช่นนี้ได้อย่าง
“เข้าไป อย่าให้พ่อบ้านผู้นี้ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง!”รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อบ้านเว่ยหายไปสิ้น กล่าวอย่างมิอดทน “เมื่อให้โอกาสดี ๆ มิชอบ ก็ต้องเจอดีเสียบ้าง!”เถาจื่อกำแขนหลิงอวี๋ไว้แน่น และถามผ่านสายตา“ตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”หลิงอวี๋ก็คาดมิถึงว่าจวนเจ้าแห่งทะเลจะเปลี่ยนท่าทีเร็วถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่า เมื่อเข้ามาในจวนเจ้าแห่งทะเลแล้วจะสามารถยื้อเวลาสักพักได้ชายาเจ้าแห่งทะเลมิปรากฏตัว แต่กลับให้พ่อบ้านเว่ยพาตนมาที่นี่เช่นนี้เลย?นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?คิดจะขังนางไว้ หรือว่ามีแผนอื่นกระไร?หลิงอวี๋มองไปยังท่าทีมีเจตนาร้ายของพวกพลธนูและชายร่างใหญ่หลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหล่านั้น นางและเถาจื่อไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไปได้เลย“เข้าไปก่อนเถอะ!”หลิงอวี๋นำหน้าเดินเข้าไป เถาจื่อตามติดอยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าประตูเรือน เมื่อเห็นสภาพข้างในก็รู้สึกว่ามิดีแน่ เพิ่งจะคิดถอยหลังเถาจื่อกลับถูกคนผลักจากด้านหลังอย่างแรง ชนเข้ากับร่างหลิงอวี๋จนดันหลิงอวี๋เข้าไปข้างในทั้งสองคนล้มลงไปกองรวมกัน ยังมิทันได้ลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงดังโครมสนั่นกล
หลงเพ่ยเพ่ยห้อยอยู่บนชะง่อนผานั้น นางเองก็ทนต่อไปมิไหวแล้ว ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของทุกคน นางจึงปีนป่ายเชือกขึ้นไปนางนึกถึงจุดประสงค์ที่ตนมาที่นี่ หากเย่หรงตายไปแล้วจริง ๆ เขาย่อมหวังให้นางช่วยหลิงอวี๋ออกมาได้อย่างแน่นอนนางมิอาจทำให้เย่หรงตายตามิหลับได้!เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยปีนขึ้นมาได้ก็มิสนใจตรวจสอบบาดแผลของตน นางคุกเข่าลงต่อหน้าฮองเฮาทันทีนางกล่าวเสียงเครือ “เสด็จย่า เรื่องที่ทรงรับปากหม่อมฉันเมื่อครู่ สามารถประทานพระราชโองการให้หม่อมฉันตอนนี้ได้หรือไม่เพคะ?”“เมื่อครู่เย่หรงช่วยชีวิตหม่อมฉันและหยวนซานไว้ เพียงเห็นแก่บุญคุณทั้งสองครั้งนี้ เสด็จย่าทรงควรจะช่วยให้เขาสมหวังนะเพคะ!”ฮองเฮานึกถึงเรื่องที่เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยอ้อนวอนตนเมื่อครู่ เย่หรงเป็นถึงเพียงนี้แล้ว นางจะยังทำให้คนที่เขาชอบพอลำบากใจได้อีกหรือ?ฮองเฮาถอดปิ่นปักผมอันหนึ่งของตนออกมาโดยมิทันคิด แล้วยื่นให้กับหลงเพ่ยเพ่ย“ถือปิ่นปักผมนี้ไปพาตัวสิงอวี๋ออกมาเถอะ!”หลงเพ่ยเพ่ยรับปิ่นปักผมหงส์คู่ปักทองคำของฮองเฮามาทั้งน้ำตา นี่คือปิ่นปักผมที่ฮองเฮาเท่านั้นจึงจะสวมใส่ได้ เห็นปิ่นดังเห็นองค์ เทียบเท่ากับพระราชโองการของฮองเฮ
“ท่านหญิง...”“เพ่ยเพ่ย...”ฮองเฮาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยตกลงไปก็ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ ผานกกระเรียนแห่งนี้เป็นปรปักษ์กับราชวงศ์หรืออย่างไร?เหตุใดถึงได้ตกลงไปทีละคนเช่นนี้?“เร็วเข้า ช่วยคน!”ฮองเฮาตะโกนลั่น นางกำนัลที่มีไหวพริบรีบไปตามองครักษ์มาช่วยทางด้านเย่หรงทรงตัวได้มั่นคงบนชะง่อนผาแล้ว เขาเพิ่งจะถอนหายใจโล่งอกก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านบนเมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นหลงเพ่ยเพ่ยกำลังร่วงหล่นลงมาหัวใจของเย่หรงหดเกร็งวูบ มิทันได้คิด คว้าเถาวัลย์ข้าง ๆ แล้วโหนตัวไปหาหลงเพ่ยเพ่ยหลงเพ่ยเพ่ยตกใจจนหลับตาลงแล้ว เตรียมพร้อมยอมรับความตายแต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนตนชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง จากนั้นร่างก็ถูกกอดไว้“ไปทางนั้น เร็วเข้า คว้าชะง่อนผานั่นไว้!”เย่หรงพลิกตัวกลางอากาศ เหวี่ยงหลงเพ่ยเพ่ยไปทางนั้น หลงเพ่ยเพ่ยพุ่งเข้าใส่ผนังผา แต่ใช้แรงมากเกินไปจนใบหน้าชนกับผนังผาจนถลอก นางเจ็บเสียจนหน้ามืดตาลายแต่นางมิสนใจความเจ็บปวดแทบขาดใจ เช่นเดียวกันกับเย่หรง เขาพยายามสุดชีวิตที่จะคว้าเถาวัลย์เหล่านั้นไว้โชคดีที่เถาวัลย์ฝั่งนี้ยังพันเกี่ยวกับกิ่งไม้มากมาย เถาวัลย์ที่พันกิ่งไม้ไว้นั้
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี