ท่านกวนเอ้อร์เห็นกวนอิ่งพาคนของนางออกไปแล้ว เขาก็ก้าวไปโค้งคำนับอย่างสุดซึ้ง“หลานสาวกระหม่อมผู้นี้ถูกเอาใจจนนิสัยเสีย! แซ่กวนรู้ดีว่าหากช่วยนางปกปิดต่อไป ก็ปกปิดความจริงมิได้!”“แซ่กวนจะไม่เอ่ยอันใดอีกต่อไป ขอแค่ท่านอ๋องอี้และพระชายาอ๋องอี้เห็นแก่แซ่กวน ช่วยรักษาให้นายท่าน! บุญคุณอันยิ่งใหญ่นี้ แซ่กวนจักจดจำมันไว้ในใจพ่ะย่ะค่ะ!”“วันข้างหน้ามีตรงไหนที่แซ่กวนพอมีประโยชน์ แซ่กวนจักบุกน้ำลุยไฟโดยมิลังเลเป็นแน่พ่ะย่ะค่ะ!”เซียวหลินเทียนมองหลิงอวี๋ พลางเอ่ยอย่างใจเย็น “พระชายาบอกจะรักษาก็ว่าตามนั้น!”ท่านกวนเอ้อร์มองไปทางหลิงอวี๋อย่างคาดหวังหลิงอวี๋เห็นทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่แล้ว ท่านกวนเอ้อร์ผู้นี้ในฐานะลูกบุญธรรมของตระกูลกวน ความห่วงใยที่มีต่อนายท่านยังดูเหมือนคนในตระกูลกวนยิ่งกว่ากวนอิ่งอีก!สำหรับความจริงใจนี้ หลิงอวี๋ก็ไม่อยากทำให้ท่านกวนเอ้อร์ผิดหวังเช่นกันหลิงอวี๋เอ่ยยิ้ม ๆ “ท่านกวนเอ้อร์พูดเช่นนี้แล้ว หลิงอวี๋จักมิเข้าใจได้เยี่ยงไรเจ้าคะ! เพราะความกตัญญูของท่านกวนเอ้อร์ โรคนี้จึงต้องรักษาให้หาย!”ท่านกวนเอ้อร์ถอนหายใจโล่งอก แล้วมองหลิงอวี๋อย่างลึกซึ้งพระชายาอ๋องอี้
กระทั่งถึงเรือนหลัก รถม้าก็หยุด ชายหนุ่มคนหนึ่งกับพ่อบ้านเหอเข้ามาต้อนรับพวกเขาชายหนุ่มอายุไม่ถึงยี่สิบปี รูปร่างสูงผอม ผิวขาวเรียบเนียนบนใบหน้าที่ชั่วร้ายและหล่อเหลานั้นยิ้มเจ้าเล่ห์ ทำให้คิ้วหนาของเขาก็มีการขยับไปด้วยเช่นกันท่านกวนเอ้อร์ลงจากรถ พอเห็นชายคนนั้น ก็แนะนำให้หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนรู้จัก“ท่านอ๋องอี้ พระชายาอ๋องอี้ นี่คือหลานชายของกระหม่อม ชื่อกวนซิน!”กวนซินคุณชายใหญ่ตระกูลกวนยิ้ม พลางก้าวไปทักทายพอเป็นพิธี“กวนซินคารวะท่านอ๋องอี้และพระชายาอ๋องอี้!”“ท่านทั้งสองมาตรวจท่านปู่ของกระหม่อมได้ กวนซินรู้สึกซาบซึ้งยิ่ง เชิญด้านในพ่ะย่ะค่ะ!”หลิงอวี๋ไม่คอยชอบใบหน้ายิ้มแต่เปลือกนี้ของกวนซินเท่าใด แต่เมื่อเทียบกับกวนอิ่งแล้ว กวนซินดีกว่ามาก!เธอพยักหน้าเล็กน้อยเป็นมารยาทกลับคืนท่านกวนเอ้อร์ให้ความเคารพเป็นอย่างมาก เขายื่นมือส่งสัญญาณ “ท่านอ๋องอี้ พระชายาอ๋องอี้ เชิญขอรับ!”พวกหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนเดินตามท่านกวนเอ้อร์เข้าไปข้างในเรือนหลักของตระกูลกวนเป็นเรือนใหญ่ที่เชื่อมต่อกัน หลิงอวี๋เห็นว่าประตูทำจากไม้จินสื่อหนาน แล้วขัดเงาแวววาวเรือนทั้งหลังนั้นยิ่งใหญ
หลิงอวี๋มิได้ใส่ใจถ้อยคำแสดงอำนาจที่ฮูหยินใหญ่กวนเอ่ย แล้วตามท่านกวนเอ้อร์เข้าไปในห้องภายในห้องกว้างขวางมาก แต่แสงไฟกลับค่อนข้างมืดหลิงอวี๋ปรับแสง ถึงได้เห็นหญิงชราคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างเตียงฮูหยินใหญ่กวนมีรูปลักษณ์แบบชนชั้นสูง อาภรณ์และเครื่องประดับล้วนเป็นของดี แม้ว่าใบหน้าจะได้รับการดูแลอย่างดี แต่ก็ยังไม่สามารถหลีกหนีจากการผันผ่านของวันเวลาได้ จึงมีริ้วรอยมากมายเปลือกตาของนางตก ทำให้ดูเหมือนตาสามเหลี่ยม ซึ่งยิ่งทำให้ดูมีอายุมากขึ้น!คนที่อยู่ข้างหญิงชราน่าจะเป็นฮูหยินตระกูลกวนฮูหยินกวนเป็นคนรูปร่างสูงใหญ่ รูปร่างหน้าตาค่อนข้างคล้ายกับกวนอิ่งนางก็สวมชุดที่ตัดเย็บอย่างดีเช่นกัน ดูจากฝีมือแล้ว ประณีตยิ่งกว่าเรือนหยกอำไพเสียอีกการตัดชุดต้องใช้เงินหลายพันตำลึงเชียวหนา!“พระชายาอ๋องอี้ นี่ฮูหยินใหญ่กวน! นี่คือฮูหยินกวน!”ท่านกวนเอ้อร์เห็นว่าทั้งฮูหยินใหญ่กวนและฮูหยินกวนต่างมิได้ริเริ่มที่จะทักทายหลิงอวี๋ เห็นได้ชัดว่าต้องการแสดงอำนาจต่อพระชายาอ๋องอี้ จึงทำได้เพียงเป็นฝ่ายเริ่มแนะนำ“ฮูหยินใหญ่กวน… ฮูหยินกวน!”แม้ว่าหลิงอวี๋จะมิชอบท่าทีที่ทั้งสองมีต่อนาง แต่ก็มิควรจะเสียมาร
หลิงอวี๋ตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็พบว่าหญิงชราคนนี้เป็นตัวละครที่ร้ายกาจทีเดียว!คำพูดนี้ของฮูหยินใหญ่กวน ไม่ใช่การหักล้างสิ่งที่ตนเองพูดไปเมื่อครู่หรือ?สำหรับคำพูดจาเสียดสีของฮูหยินใหญ่กวนนั้น หลิงอวี๋ไม่สามารถด่ากลับไปได้ จึงทำได้เพียงแค่เงียบไว้แต่หลิงอวี๋ใช่คนที่จะยอมเงียบอยู่ตลอดที่ไหนกัน?หลิงอวี๋นึกถึงที่กวนอิ่งแสดงอำนาจใส่ตนเองก่อนหน้านี้ แล้วก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะเชิญให้ตนเองมารักษา แต่กลับไม่ให้ความเคารพตนเองเลย พวกคนที่ชอบมองว่าคนอื่นต่ำพวกนี้ หากไม่ให้นางสั่งสอนเสียหน่อย นางคงคิดว่าตนเองเป็นร้องขอจะไปรักษาเองจริง ๆ!หลิงอวี๋นึกแล้วก็ยิ้มจาง ๆ “ฮูหยินใหญ่หูไม่ดีหรือ? ไม่เป็นไร ข้ารู้เทคนิคการฝังเข็มที่ออกแบบมารักษาอาการหูตึงโดยเฉพาะเลย!”“ข้าจะฝังเข็มให้ฮูหยินใหญ่ รับรองว่าฮูหยินใหญ่จะหูดีตาดีขึ้นมาทันที จะสามารถได้ยินเสียงชัดเจนแม้ว่าจะอยู่ห่างออกไปสิบจั้งก็ตาม!”“หลิงซวน เอาเข็มเงินของข้าออกมา เอาขนาดใหญ่เลยนะ!”หลิงซวนเปิดกล่องยาออกอย่างชาญฉลาดทันที แล้วหยิบเข็มเงินออกมาสองเล่ม!เมื่อฮูหยินใหญ่เห็นเข้า ก็แทบจะกลัวจนหมดสติเข็มเงินของหมอคนอื่นยาวแค่นิ้วเท่า
หลิงอวี๋ก้าวไปข้างหน้า เตียงของนายท่านกวนมีขนาดใหญ่มาก กว้างถึงสองเมตรเลยทีเดียวนายท่านกวนนอนหรี่ตาอยู่ ท่าทีกึ่งเป็นกึ่งตายหลิงอวี๋เข้ามาก็รู้สึกก่อนเลย แต่นางไม่รู้สึกว่านายท่านกวนมีตรงไหนที่เจ็บปวดนางมองไปที่รูปร่างหน้าตาของนายท่านกวนก่อนนายท่านกวนรูปร่างสูงมาก แม้ว่าจะนอนอยู่บนเตียง แต่ก็ยังให้รู้สึกกดดันอย่างมากเขาอายุหกสิบกว่า ผมเป็นสีขาวทั้งหมดแล้ว เบ้าตาของเขาโบ๋ลึกเพราะโรคร้าย ผิวหนังของเขาเป็นสีเหลืองและมีเงาดำจาง ๆ อยู่“นายท่าน! ข้าชื่อหลิงอวี๋ ท่านได้ยินข้าพูดหรือไม่?”หลิงอวี๋ถามเสียงอ่อนโยน พลางดึงข้อมือของเขาออกมาตรวจชีพจร“ท่านปู่ของข้าพูดมิได้มาครึ่งเดือนแล้ว!”กวนซินยืนอยู่ข้าง ๆ จ้องมองหลิงอวี๋ พลางตอบแทนนายท่านกวนหลิงอวี๋พยักหน้า จับชีพจรแล้วขมวดคิ้วชีพจรของนายท่านปกติมาก แต่ไม่มีโรคหรือการเจ็บปวด แต่กลับอ่อนแอเช่นนี้ นี่มันไม่ปกติ!ขณะที่หลิงอวี๋กำลังสงสัย ก็รู้สึกว่านายท่านกวน จู่ ๆ ก็บีบมือตนเองแน่นหลิงอวี๋รีบเงยหน้าขึ้น ก็เห็นนายท่านกวนกะพริบตาเร็ว ๆ มาที่ตนเอง จากนั้นก็เป็นท่าทางกึ่งเป็นกึ่งตายอีกจิตใจของหลิงอวี๋วกวน นางแน่ใจว่านายท่านกว
ฮูหยินกวนจำยอมรับความพ่ายแพ้ จ้องมองท่านกวนเอ้อร์ด้วยโทสะนางเอ่ยอย่างมิเต็มใจ "ข้าขออภัย พระชายาอ๋องอี้ เป็นข้าไร้มารยาทแล้ว! ข้าจักทำตามที่ท่านบอก!"หลิงอวี๋ยิ้มเยาะ ดูเหมือนมิพอใจกับคำขอโทษที่เบาบางเช่นนี้ของฮูหยินกวนกวนซินก็ยิ้มอย่างรวดเร็วพลางเอ่ย “พระชายาอ๋องอี้ ท่านอย่าถือสาท่านแม่ของข้าเลย พวกเราออกไปกันเถิด!”เขาดึงฮูหยินกวนบังคับนางออกไปขณะที่ท่านกวนเอ้อร์กำลังจะออกไป หลิงอวี๋ก็รั้งเขาไว้ พลางกระซิบ“ท่านช่วยข้าดูหน่อย… อย่าให้ใครเข้ามาใกล้!”“ข้ารู้สึกว่าอาการป่วยของนายท่าน… มันค่อนข้างแปลก อีกทั้งดูเหมือนนายท่านมีเรื่องจักพูดกับข้าด้วย!”ดวงตาของท่านกวนเอ้อร์จมดิ่งลง หัวใจของเขาสับสนวุ่นวายขึ้นมาทันที หรือว่าความสงสัยของเขาจะเป็นจริง?อาการเจ็บป่วยของนายท่าน ถูกใครแอบวางหมากอะไรหรือไม่?นึกถึงเหตุการณ์ช่วงหลายวันนี้ ท่านกวนเอ้อร์ก็หนักใจ!หรือว่าที่ช่วงนี้กวนซินกับท่านกวนต้าเรียกนักบัญชีจากทั่วแคว้นมาที่เมืองหลวงอย่างโจ่งแจ้งนั้นคือ กำลังตรวจสอบทรัพย์สินของตระกูลกวน!พวกเขามั่นใจว่านายท่านจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน จึงอยากยึดอำนาจทางการเงินทั้งหมดไว้ในมือ...แต่ม
ในเวลานี้ กวนซิน ฮูหยินกวน และฮูหยินใหญ่กวน ยังคงรออยู่ด้านนอกเรือนท่านกวนเอ้อร์ยืนไตร่ตรองอยู่ด้านข้าง เขาวิตกกังวลนายท่านกวนถูกวางยาเมื่อใดกัน?ผู้ใดเป็นคนทำ?กวนซิน? หรือว่าฮูหยินกวน?ท้ายที่สุดพวกเขาก็ทนไม่ไหวแล้ว ไม่สนใจความรักระหว่างสามีภรรยาและความรักระหว่างปู่กับหลาน แล้วคิดจะฆ่านายท่านหรือ?ท่านกวนเอ้อร์ยิ่งคิดยิ่งหวาดกลัว รู้สึกว่าเหตุการณ์วันนี้มันไม่ปกติหากพวกเขาวางยาพิษนายท่าน เหตุใดยังให้ตนเชิญพระชายาอ๋องอี้มา?หรือว่าพวกเขาไม่เพียงต้องการฆ่านายท่านเท่านั้น แต่ยังต้องการหาแพะรับบาปที่วางยาพิษนายท่านด้วย?กวนผิงไม่มีเวลาคิดอีกต่อไป เขามีลางพอจะล่วงรู้เหตุการณ์ เขาไม่สามารถปล่อยให้คนอื่นใช้ประโยชน์จากเขาได้โดยไม่ระวังได้!“กวนซิน ข้าจะไปห้องน้ำเดี๋ยวกลับมา!”หลังจากที่กวนผิงรับคำ เขาก็แสร้งทำเป็นรีบร้อนไปห้องน้ำกวนซินเหลือบมองที่แผ่นหลังของกวนผิงอย่างรังเกียจ จากนั้นจึงมองไปที่ห้องของนายท่านต่อ สีหน้ามืดมนไม่ชัดเจนเมื่อมองย้อนกลับไป เขาเห็นฮูหยินกวนมองเขาอย่างกังวลใจ กวนซินจึงส่งสายตาปลอบโยนให้นางในขณะนั้นเอง กวนอิ่งเดินเข้ามาพร้อมกับพ่อบ้านเหอและผู้คุ้ม
หลิงซวนตกใจจนหน้าซีดไปทันที แล้วก็หยุดขวางหน้าหลิงอวี๋โดยไม่รู้ตัวหลิงอวี๋ไม่คิดว่ากวนอิ่งจะเข้ามาเร็วถึงเพียงนี้ เข็มเงินที่จะแก้พิษนายท่านกวนก็กำลังอยู่ในช่วงเวลาวิกฤติเช่นกันขอเพียงให้เวลานางอีกไม่กี่วินาที นายท่านก็จะฟื้นขึ้นมาแล้ว...หลิงอวี๋เห็นมีดดาบเข้ามาใกล้ หลิงซวนก็เอาตัวมาเสี่ยง นางก็วิตกกังวลและผลักหลิงซวนออกไปหลิงอวี๋ยกมือขึ้น โปรยผงยาหนึ่งกำมือแล้วร่างกายก็หดลงโดยไม่รู้ตัวทันใดนั้นหลิงอวี๋ก็รู้สึกเย็นบนหัว และมีเส้นผมบางส่วนร่วงหล่นลงมาหลิงอวี๋มิรอให้ผู้คุ้มกันเหวี่ยงดาบเป็นครั้งที่สอง นางฉีกผ้าห่มของนายท่านออกแล้วมุดหัวเข้าไปเกือบจะในเวลาเดียวกัน กวนผิงก็ตะโกนขึ้นมา"ปกป้องพระชายา ปกป้องนายท่าน!"ตึง...ตึง...เสียงดังสองครั้ง หน้าต่างก็ถูกเปิดออก ผู้คุ้มกันหลายคนก็รีบเข้ามาจากต่างทิศทางก่อนที่กวนอิ่งจะทันได้โต้ตอบ มีดเล่มใหญ่ก็จ่อที่คอของนางเสียก่อนนางขยับเล็กน้อย เลือดอุ่น ๆ ก็ไหลออกมาจากคอกวนอิ่งกลัวมากจนไม่กล้าขยับตัวอีกต่อไป!“กวนผิง เจ้าจักทำกระไร? เจ้าสมรู้ร่วมคิดกับบุคคลภายนอกสังหารท่านปู่ของข้า… ยามนี้เจ้ายังจักฆ่าพวกเราอีกหรือ?”ฮูหยินกว
“หึหึ!”ชายาเจ้าแห่งทะเลหัวเราะออกมา “หลิงอวี๋ เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? หยกหล้าสุขาวดีหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าแล้ว ค้นตัวเจ้าจะหาเจอได้อย่างไร?”“หลิงอวี๋ หยกหล้าสุขาวดีมิใช่ของของเจ้าตั้งแต่แรก มารดาเจ้าเป็นนางโจร ขโมยมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของจวนเจ้าแห่งทะเลไป การให้เจ้าคืนมาก็แค่เป็นการคืนของสู่เจ้าของเดิม!”“ข้าสืบรู้มาหมดแล้ว เจ้าและเซียวหลินเทียนสามีของเจ้าต่างก็อยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ เจ้ายังมีบุตรชายอีกคนที่ฉินตะวันตก!”“หลิงอวี๋ ที่เจ้าปฏิเสธมิยอมรับฐานะของตนเองมาตลอด คงเป็นเพราะล่วงรู้ถึงวิธีที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาแล้วสินะ”“เจ้าคิดว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี ดังนั้นเจ้าจึงคิดว่า ขอเพียงมิยอมรับก็เป็นไปมิได้ที่พวกเราจะมัดตัวเจ้าไปสลายเลือดละลายกระดูกที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำหยกหล้าสุขาวดีออกมา!”ชายาเจ้าแห่งทะเลพูดถึงตรงนี้ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าเชื่อหรือไม่ ข้ามิจำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน ก็สามารถมัดตัวเจ้าไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!”“ที่ข้าให้คนนำตัวเจ้ามาที่จวนเจ้าแห่งทะเล ก็เพื่อจะให้โอกาสเจ้า!”หลิงอวี๋หรือจะยอมรับฐานะของตนเพียงเพราะชายาเจ้าแห่งทะเลพูดเช่นนี้ได้อย่าง
“เข้าไป อย่าให้พ่อบ้านผู้นี้ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง!”รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อบ้านเว่ยหายไปสิ้น กล่าวอย่างมิอดทน “เมื่อให้โอกาสดี ๆ มิชอบ ก็ต้องเจอดีเสียบ้าง!”เถาจื่อกำแขนหลิงอวี๋ไว้แน่น และถามผ่านสายตา“ตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”หลิงอวี๋ก็คาดมิถึงว่าจวนเจ้าแห่งทะเลจะเปลี่ยนท่าทีเร็วถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่า เมื่อเข้ามาในจวนเจ้าแห่งทะเลแล้วจะสามารถยื้อเวลาสักพักได้ชายาเจ้าแห่งทะเลมิปรากฏตัว แต่กลับให้พ่อบ้านเว่ยพาตนมาที่นี่เช่นนี้เลย?นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?คิดจะขังนางไว้ หรือว่ามีแผนอื่นกระไร?หลิงอวี๋มองไปยังท่าทีมีเจตนาร้ายของพวกพลธนูและชายร่างใหญ่หลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหล่านั้น นางและเถาจื่อไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไปได้เลย“เข้าไปก่อนเถอะ!”หลิงอวี๋นำหน้าเดินเข้าไป เถาจื่อตามติดอยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าประตูเรือน เมื่อเห็นสภาพข้างในก็รู้สึกว่ามิดีแน่ เพิ่งจะคิดถอยหลังเถาจื่อกลับถูกคนผลักจากด้านหลังอย่างแรง ชนเข้ากับร่างหลิงอวี๋จนดันหลิงอวี๋เข้าไปข้างในทั้งสองคนล้มลงไปกองรวมกัน ยังมิทันได้ลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงดังโครมสนั่นกล
หลงเพ่ยเพ่ยห้อยอยู่บนชะง่อนผานั้น นางเองก็ทนต่อไปมิไหวแล้ว ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของทุกคน นางจึงปีนป่ายเชือกขึ้นไปนางนึกถึงจุดประสงค์ที่ตนมาที่นี่ หากเย่หรงตายไปแล้วจริง ๆ เขาย่อมหวังให้นางช่วยหลิงอวี๋ออกมาได้อย่างแน่นอนนางมิอาจทำให้เย่หรงตายตามิหลับได้!เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยปีนขึ้นมาได้ก็มิสนใจตรวจสอบบาดแผลของตน นางคุกเข่าลงต่อหน้าฮองเฮาทันทีนางกล่าวเสียงเครือ “เสด็จย่า เรื่องที่ทรงรับปากหม่อมฉันเมื่อครู่ สามารถประทานพระราชโองการให้หม่อมฉันตอนนี้ได้หรือไม่เพคะ?”“เมื่อครู่เย่หรงช่วยชีวิตหม่อมฉันและหยวนซานไว้ เพียงเห็นแก่บุญคุณทั้งสองครั้งนี้ เสด็จย่าทรงควรจะช่วยให้เขาสมหวังนะเพคะ!”ฮองเฮานึกถึงเรื่องที่เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยอ้อนวอนตนเมื่อครู่ เย่หรงเป็นถึงเพียงนี้แล้ว นางจะยังทำให้คนที่เขาชอบพอลำบากใจได้อีกหรือ?ฮองเฮาถอดปิ่นปักผมอันหนึ่งของตนออกมาโดยมิทันคิด แล้วยื่นให้กับหลงเพ่ยเพ่ย“ถือปิ่นปักผมนี้ไปพาตัวสิงอวี๋ออกมาเถอะ!”หลงเพ่ยเพ่ยรับปิ่นปักผมหงส์คู่ปักทองคำของฮองเฮามาทั้งน้ำตา นี่คือปิ่นปักผมที่ฮองเฮาเท่านั้นจึงจะสวมใส่ได้ เห็นปิ่นดังเห็นองค์ เทียบเท่ากับพระราชโองการของฮองเฮ
“ท่านหญิง...”“เพ่ยเพ่ย...”ฮองเฮาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยตกลงไปก็ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ ผานกกระเรียนแห่งนี้เป็นปรปักษ์กับราชวงศ์หรืออย่างไร?เหตุใดถึงได้ตกลงไปทีละคนเช่นนี้?“เร็วเข้า ช่วยคน!”ฮองเฮาตะโกนลั่น นางกำนัลที่มีไหวพริบรีบไปตามองครักษ์มาช่วยทางด้านเย่หรงทรงตัวได้มั่นคงบนชะง่อนผาแล้ว เขาเพิ่งจะถอนหายใจโล่งอกก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านบนเมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นหลงเพ่ยเพ่ยกำลังร่วงหล่นลงมาหัวใจของเย่หรงหดเกร็งวูบ มิทันได้คิด คว้าเถาวัลย์ข้าง ๆ แล้วโหนตัวไปหาหลงเพ่ยเพ่ยหลงเพ่ยเพ่ยตกใจจนหลับตาลงแล้ว เตรียมพร้อมยอมรับความตายแต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนตนชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง จากนั้นร่างก็ถูกกอดไว้“ไปทางนั้น เร็วเข้า คว้าชะง่อนผานั่นไว้!”เย่หรงพลิกตัวกลางอากาศ เหวี่ยงหลงเพ่ยเพ่ยไปทางนั้น หลงเพ่ยเพ่ยพุ่งเข้าใส่ผนังผา แต่ใช้แรงมากเกินไปจนใบหน้าชนกับผนังผาจนถลอก นางเจ็บเสียจนหน้ามืดตาลายแต่นางมิสนใจความเจ็บปวดแทบขาดใจ เช่นเดียวกันกับเย่หรง เขาพยายามสุดชีวิตที่จะคว้าเถาวัลย์เหล่านั้นไว้โชคดีที่เถาวัลย์ฝั่งนี้ยังพันเกี่ยวกับกิ่งไม้มากมาย เถาวัลย์ที่พันกิ่งไม้ไว้นั้
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี