ครั้นหลิงอวี๋เห็นลู่หนานก็ผงะไปเช่นกัน ก่อนจะพยักหน้าทักทายเล็กน้อยเมื่อเร็ว ๆ นี้เกิ่งเสี่ยวหาวเพิ่งซื้อหอริมธารา เขาชวนหลิงอวี๋มาลิ้มลองฝีมือพ่อครัวแห่งหอริมธารา และขอคำแนะนำการปรับปรุงจากหลิงอวี๋ด้วยหลิงอวี๋รู้สึกว่าทิวทัศน์ที่หอริมธาราไม่เลวเลย เพียงแต่การตกแต่งของภัตตาคารดูเก่ามาก เนื่องกาลเวลาอันยาวนานนางเดินเตร่ตามเกิ่งเสี่ยวหาว แล้วให้คำแนะนำเกิ่งเสี่ยวหาวไปด้วยทางด้านลู่หนานเริ่มกระสับกระส่าย เนื่องหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนยังมิได้หย่ากันหากท่านอ๋องของตนอยู่กับสตรีที่ยังไม่ออกเรือน อย่างนั้นถูกหลิงอวี๋พบเข้าก็ไม่เป็นอะไรทว่าถ้าถูกหลิงอวี๋พบว่าท่านอ๋องอยู่กับจ้าวเจินเจินที่เป็นสตรีออกเรือนแล้ว จ้าวเจินเจินกับท่านอ๋องต้องไม่มีหน้าไปเจอคนแน่!ลู่หนานหมายแอบเข้าไปส่งข่าว แต่ก็กลัวจะยิ่งดึงดูดสายตาคน จึงรออยู่ข้างนอกอย่างใจจดจ่อภายในห้องส่วนตัวเซียวหลินเทียนกำลังพันแผลให้จ้าวเจินเจินอยู่ เขากลัวทำจ้าวเจินเจินเจ็บจึงระวังอย่างยิ่งขณะที่จ้าวเจินเจินกำลังมองดวงหน้างดงามของเซียวหลินเทียนอย่างใกล้ชิด จู่ ๆ หัวใจนางพลันเต้นระรัวอย่างไรเสียเซียวหลินเทียนก็คือคนที่นางเคย
“ท่านพี่สี่!”เมื่อเซียวหลินเทียนเห็นจ้าวเจินเจินพุ่งมา สีหน้าพลันมืดลงทันใดเขาเซียวหลินเทียนเป็นคนจิตใจเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ เขาจะฝ่าฝืนหลักการของตนงเพื่อความสุขชั่วครั้งชั่วคราวได้เยี่ยงไร!ครั้งนี้เขาออกแรงผลักจ้าวเจินเจินออกอ้อมแขนตัวเองอย่างไม่เกรงใจตำหนิเสียงเฉียบขาด “พอ จ้าวเจินเจิน เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้ากำลังทำกระไร?”จ้าวเจินเจินไม่คิดว่าเซียวหลินเทียนจะผลักตัวเองออกไปแรงขนาดนี้เมื่อร่างล้มลงไปข้างหลัง นางไม่ทันระวังตัวแขนเสื้อก็ปัดจานที่ริมโต๊ะตกลงพื้นเพล้ง…จานตกแตกกระจายบนพื้นจ้าวเจินเจินล้มลงกับพื้นอย่างแรงเช่นกันมืออีกข้างที่สภาพดีถูกเศษเล็ก ๆ บนพื้นปาดเป็นแผลก่อนจะเลือดไหลออกมา!ความเจ็บปวดปลุกสติจ้าวเจินเจินในพริบตา!นางมองใบหน้ามืดครึ้มของเซียวหลินเทียนอย่างงงงัน ความอัปยศและความหยิ่งในศักดิ์ศรีทำให้จ้าวเจินเจินอายแทบแทรกพสุธาหนีไปเดี๋ยวนั้นนางลุกขึ้นพรวด ก่อนจะพุ่งไปหน้าประตูอย่างบ้าบิ่นและเปิดประตูเร็วรี่ทว่าทันทีที่เปิดประตูออก จ้าวเจินเจินก็มองอย่างตกตะลึง…หลิงอวี๋กับนางรับใช้ของนาง และยังมีบุรุษแปลกหน้าคนหนึ่งยืนอยู่หน้าประตูกำลังมองตนด้วยอารม
จ้าวเจินเจินอดกลัวจนใจเต้นรัวมิได้ ขณะนั่งอยู่บนรถม้ากลับตำหนักแม้ว่าสุดท้ายตนจะย้อนใส่ร้ายเซียวหลินเทียน แต่ว่าหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนจะเอาเรื่องนี้ออกไปพูดหรือไม่?“ทำเช่นไรดี?”เป็นครั้งแรกที่จ้าวเจินเจินสูญเสียความสุขุม หากเรื่องที่ตนยั่วยวนเซียวหลินเทียนแพร่งพราย เช่นนั้นนางจะทำตัวอย่างไรเล่า!หากองค์ชายคังรู้ว่าตนยั่วยวนเซียวหลินเทียนต้องมิปล่อยตนไปแน่ ๆ!จ้าวเจินเจินกลัวตัวสั่นทั้งร่าง เวลานี้ถึงได้ตระหนักว่าตนบุ่มบ่ามเกินไปจนทำผิดใหญ่หลวงเสียแล้ว!องค์ชายคังมิยอมให้นางเอาความอัปยศมาพัวพันถึงเขาจนถูกคนวิจารณ์แน่!ไป๋ผิงสงบลงแล้ว นางดูความเครียดและความกังวลของจ้าวเจินเจินออก จึงเอ่ยปลอบเสียงแผ่ว“พระชายา ท่านมิต้องกังวลไปเจ้าค่ะ!”“พวกเขาไม่พูดหรอก… เรื่องเช่นนี้หากรั่วไปจะเสียหน้าท่านอ๋องอี้เจ้าค่ะ!”“ยิ่งกว่านั้น ท่านอ๋องอี้ยังมีความรู้สึกต่อพระชายาด้วย พระองค์มิยอมให้มีคนมาทำลายชื่อเสียงของท่านแน่เจ้าค่ะ!”จ้าวเจินเจินชะงักไปพักหนึ่ง เป็นเช่นนี้เองหรือ?ไป๋ผิงพูดพลางยิ้มอ่อน ๆ ว่า “พอท่านอ๋องอี้ได้ยินบ่าวบอกว่าท่านได้รับบาดเจ็บก็รุดมาพบท่านทันที นี่ยังพิสูจน์มิไ
หลิงอวี๋จิตใจว้าวุ่นเมื่อพบฉากนี้เข้านางลงมาข้างล่างตามเกิ่งเสี่ยวหาวพลางนั่งที่โต๊ะกับข้าว จากนั้นนางก็รู้สึกไม่อยากอาหารอันงามประดับที่พ่อครัวเตรียมไว้ครั้นเกิ่งเสี่ยวหาวเห็นหลิงอวี๋อารมณ์ไม่ดี ก็พลันยิ้มตาหยีล้วงเอาตั๋วเงินปึกหนึ่งยัดให้นาง“ท่านพี่ ดูสิ นี่ปันผลกำไรให้ท่าน ท่านกลายเป็นคุณหนูเศรษฐีแล้วหนา…”“ท่านอ๋องอี้อะไรนั่นท่านอย่าไปสนใจเลย อย่างไรไม่ช้าก็เร็วพวกท่านก็ต้องหย่ากัน! แต่หากท่านพี่มีเงินก็จักเหยียบย่ำเขาได้อย่างไรเล่า!”หลิงอวี๋ถือโอกาสพลิกดู นี่มันตั๋วเงินสองแสนกว่า!หัวใจนางสั่นไหว พลันกล่าวยิ้ม ๆ “โอ้ ดูไม่ออกเลยหนาว่าบุรุษน้อยเช่นเจ้าจักทำธุรกิจเก่งเพียงนี้ ได้กำไรมากปานนี้มานานเท่าใดแล้ว!”เกิ่งเสี่ยวหาวกล่าวอย่างภูมิใจ “ท่านหาได้ดูไม่เล่าว่าน้องชายท่านคือใคร ด้วยเคล็ดลับตำรับโอสถและคำชี้แนะของท่าน! หากยังทำกำไรมิได้ นั่นก็แปลว่าเอ้อระเหยไปวัน ๆ แล้ว!”เพราะเงินทำให้ความอารมณ์เสียของหลิงอวี๋หายวับไปในทันที ก่อนนางจะนึกถึงคำพูดของแม่นมลี่‘คุณหนู ท่านหาเงินมากสักหน่อย รอภายหาคหน้าพวกเราไปจากเมืองหลวง แล้วหาที่ที่ไม่มีผู้ใดรู้จักท่าน! บ่าวจักหาบุรุษดี
หลายวันผ่านไปอย่างราบเรียบก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนยังกังวลว่าหลิงอวี๋กับคนของนางจะออกไปทำลายชื่อเสียงของจ้าวเจินเจินอยู่เลยเขายังเจาะจงให้จ้าวซวนจับตาดูความเคลื่อนไหวของทุกคนในเรือนบุหงาไว้ด้วยแต่ผ่านมาหลายวันแล้ว ภายนอกก็ยังคงเงียบสงบ ไม่มีข่าวลือใดแพร่ออกไป เซียวหลินเทียนถึงได้สบายใจไม่ว่าหลิงอวี๋จะฟังคำเตือนของเขาหรือไม่ หรือว่ามีมโนธรรมว่าจะไม่พูดออกไป เซียวหลินเทียนก็ยอมรับในสิ่งนี้วันนี้เซียวหลินเทียนเพิ่งจะอาบน้ำสมุนไพรเสร็จ ครั้นแต่งตัวออกมา ลู่หนานก็เอาจดหมายฉบับหนึ่งมาให้เขาพอเซียวหลินเทียนเห็นลายมือที่คุ้นเคยนั้น ก็ใจสั่น รีบเปิดมันออกมาจดหมายนี้เขียนโดยจ้าวเจินเจิน เซียวหลินเทียนกังวลว่าจะมีข่าวลือแพร่ออกไปส่งผลกระทบต่อนางหรือไม่แต่พอเปิดจดหมายอ่าน เซียวหลินเทียนก็โล่งใจจ้าวเจินเจินแสดงความขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นวันนั้น บอกว่าตนเวียนหัวกะทันหัน ถึงได้ทำสิ่งที่น่าละอายเช่นนั้นลงไปวันนี้นางตั้งใจเตรียมสุราอาหารไว้ที่ศาลารงรอง อยากจะขอโทษสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้น“ท่านพี่สี่ ท่านต้องมานะ! นี่นับว่าเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจักได้พบกันตามลำพัง…”“จากนี้ไ
“ท่านพี่สี่ หม่อมฉันดื่มแล้ว ท่านพี่มิดื่มหรือ?”จ้าวเจินเจินมองเซียวหลินเทียนอย่างใจเย็นเซียวหลินเทียนหยิบจอกสุราขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ พลางเอ่ยอย่างขมขื่น “เช่นนั้น… ข้าก็ขอให้เจ้ามีความสุข!”เขายกดื่มหมดในอึกเดียว“ท่านพี่สี่… มา กินข้าวกันเถิด...”จ้าวเจินเจินกำลังจะนั่งลง จู่ ๆ ก็นึกอะไรขึ้นมาได้พลางเอ่ย“ท่านพี่รอข้าสักครู่นะ หม่อมฉันลืมเอาสุราที่จะให้ท่านพี่เข้ามา หม่อมฉันออกไปเอาก่อน!”ยังไม่ทันที่เซียวหลินเทียนจะพูดอะไร จ้าวเจินเจินก็วิ่งออกไปแล้วเซียวหลินเทียนมองอาหารที่เต็มโต๊ะล้วนเป็นของโปรดของเขาทั้งหมด!ผ่านไปหลายปีแล้ว จ้าวเจินเจินก็ยังคงจำความชอบของเขาได้อยู่!เซียวหลินเทียนจ้องมองไปเรื่อย ๆ แล้วภาพตรงหน้าก็พร่ามัวไปเล็กน้อยทันใดนั้น ความรู้สึกแสบร้อนก็พุ่งขึ้นมาจากช่องท้องส่วนล่าง ความแปลกประหลาดเช่นนั้นทำให้เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติในทันทีแต่เซียวหลินเทียนก็ยังไม่อยากจะเชื่อ จ้าวเจินเจินจะลอบวางแผนจัดการตนได้ลงหรือ?เหตุใดนางถึงทำเช่นนี้?หรือว่านางยังมิยอมแพ้ อยากทำเช่นนั้นกับตน?ความรู้สึกแสบร้อนบนร่างกายของเซียวหลินเทียนรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จากนั้น
องค์ชายคังถอนหายใจโล่งอกทันทีแต่ไม่นานสีหน้าของเขาก็มืดมนไปอีกครั้งเขาเพิ่งคิดที่จะแต่งงานให้กวนอิ่งมาเป็นพระชายารองของเขา แต่กวนอิ่งมาทำเรื่องบัดสีอยู่กับเซียวหลินเทียน!หรือว่าเซียวหลินเทียนเองก็กำลังสอดแนมทรัพย์สินของกวนอิ่ง อยากจะแต่งงานให้กวนอิ่งมาเป็นพระชายารองเช่นกัน?“เสด็จพี่สอง...”เซียวหลินเทียนเห็นชัดแล้วว่าคนที่มาคือองค์ชายคัง พอเห็นเขาจ้องมองตนอย่างโกรธเกรี้ยวด้วยสีหน้าไม่ดี ก็เอ่ย“นี่มันเป็นความเข้าใจผิด… ข้าถูกคนวางแผนร้าย!”กวนอิ่งกระอักเลือดออกมาแล้วก็ได้สติขึ้นมากพอเงยหน้าขึ้นเห็นองค์ชายคังมา กวนอิ่งก็ตกใจจนเหงื่อท่วมตัวนางวิเคราะห์อย่างรวดเร็ว เรื่องวันนี้จ้าวเจินเจินวางแผนจัดการตน เพื่อมิให้ตนเองได้เป็นพระชายารององค์ชายคัง!นางอยากจะเล่นตามน้ำแล้วแต่งงานกับเซียวหลินเทียนรักเก่าของนางแต่ก่อนหน้านี้นางทำให้เซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋ขุ่นเคืองไปหนักมาก หากนางตกไปอยู่ในเงื้อมมือของเซียวหลินเทียนกับภริยาของเขา นางจะต้องตายทั้งเป็นอย่างแน่นอน!สู้ถือโอกาสนี้ใช้ความโลภต่อทรัพย์สินในมือตนของเสี่ยวหลินอี้มากำจัดเซียวหลินเทียนดีกว่า!กวนอิ่งมิรอให้เซียวหลินเ
ขณะที่จ้าวเจินเจินกำลังกังวลว่าองค์ชายคังจะสงสัยตนเองจริง ๆ ก็ได้ยินเซียวหลินเทียนตะโกนอย่างเย็นชา “พอแล้ว!”“เสด็จพี่สอง กวนอิ่งเป็นสุนัขบ้า จะจับใครก็ไล่กัดคนนั้น!”“คำพูดของคนเช่นนี้จะเห็นเป็นจริงมิได้หรอก หากเสด็จพี่อยากรู้ความจริงก็ไปแจ้งทางการเถิด!”เซียวหลินเทียนกล้าเดิมพันว่าองค์ชายคังไม่มีทางไปแจ้งทางการหรอกสิ่งที่กวนอิ่งทำกับกวนผิงก่อนหน้านี้ทำให้ไทเฮากับองค์จักรพรรดิมิพอพระทัยแล้ว!หากองค์ชายคังยังอยากแต่งงานกับกวนอิ่ง ก็จะมิกล้าทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่หรอก!พอจ้าวเจินเจินได้ยินเซียวหลินเทียนหยุดกวนอิ่งไว้มิให้มาแว้งกัดตนก็ลอบถอนหายใจโล่งอกเซียวหลินเทียนยังคงมีความรู้สึกต่อตนอยู่จริง ๆ แม้ว่าตนจะวางแผนจัดการเขา แต่เขาก็มิได้พูดเรื่องของนางออกไปเพื่อชื่อเสียงของนาง!จ้าวเจินเจินมองไปทางองค์ชายคังอย่างเงียบ ๆ ภาวนาขออย่าให้องค์ชายคังเชื่อคำพูดของกวนอิ่ง แล้วรีบปล่อยเซียวหลินเทียนไปเสีย!มิฉะนั้นหากไปแจ้งทางการจริง ๆ แม้ว่าเซียวหลินเทียนจะอยากปกป้องตน แต่สิ่งที่นางทำก็ไม่มีทางจะตรวจไม่พบ!บัดนี้จ้าวเจินเจินไม่มีกะจิตกะใจที่จะวางแผนจัดการเซียวหลินเทียนกับกวนอิ่งแ
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี
ชีวิตนี้หาสหายรู้ใจได้ยากนัก!หลงเพ่ยเพ่ยยิ้ม นางก็รู้สึกว่าตนกับเย่หรงพูดคุยสื่อสารกันง่ายเช่นกันเย่หรงฉลาด ที่สำคัญที่สุดคือมิใช่บุรุษประเภทหัวโบราณคร่ำครึ มิเหมือนพวกพี่สามที่เอะอะก็วางตนเป็นผู้ใหญ่สั่งสอนนางเฮ้อ หากสามีในอนาคตของนางสามารถพูดคุยกันได้เหมือนเย่หรง เช่นนั้นสามีภรรยาจะมิรักใคร่กลมเกลียวกันมากหรอกหรือ?หลงเพ่ยเพ่ยคิดแล้วพลันหน้าแดงเรื่อ นี่นางกำลังคิดฟุ้งซ่านอะไรอยู่!“พวกเรามาคิดกันก่อนดีกว่าว่าอีกประเดี๋ยวหากพบเสด็จย่าแล้วจะทำอย่างไรดี!”หลงเพ่ยเพ่ยมิกล้าคิดฟุ้งซ่านต่อไป รีบเปลี่ยนเรื่องคุย“ท่านกังวลว่าท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นจะก่อกวนหรือ?”เย่หรงก็ดึงความคิดกลับมา พวกเขาใกล้จะถึงภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้ว ต้องคิดหาข้ออ้างให้ดี“อืม ท่านหญิงชิงเฉิงมิใช่คนประเภทที่จะเจรจาด้วยง่าย ๆ ท่านหญิงอวิ๋นยังพอคุยง่ายอยู่บ้าง แต่ในเมื่อพวกนางรับคำสั่งจากชายาเจ้าแห่งทะเลมาเพื่อถ่วงเวลาเสด็จย่า ย่อมมิยอมให้ข้าบรรลุเป้าหมายแน่!”หลงเพ่ยเพ่ยเผยสีหน้าอมทุกข์เย่หรงพลันนึกถึงข่าวลือเกี่ยวกับท่านหญิงอวิ๋นขึ้นมา แม้ท่านหญิงอวิ๋นจะเป็นธิดาแท้ ๆ ของชายาเจ้าแห่งทะเล แต่ช่วงห
“โอ้ ใต้หล้านั้นแตกต่างจากใต้หล้าของพวกเราหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยถูกเย่หรงกระตุ้นความอยากรู้ จึงจ้องมองพลางถาม“อืม บ้านเรือนที่นั่นสูงเท่าภูเขา สูงที่สุดอาจถึงร้อยชั้นได้ ทั้งยังมีรถมากมายที่มิต้องใช้ม้าลาก วิ่งได้เร็วมาก!”เย่หรงเล่าให้หลงเพ่ยเพ่ยฟังไปเรื่อย ๆเมื่อพูดถึงเครื่องบินก็ทำให้หลงเพ่ยเพ่ยเบิกตากว้าง นางมองเย่หรงอย่างงง ๆ “เจ้าโกหกกระมัง จะมีเครื่องมือที่สามารถบรรทุกคนขึ้นไปบนฟ้าได้อย่างไร!”“มีจริง ๆ ข้ามิได้โกหกท่าน พี่หญิงหลิงหลิงจำได้มากกว่าข้าเสียอีก รอมีโอกาสให้นางเล่าให้ท่านฟัง ท่านก็จะเชื่อว่าข้ามิได้โกหกท่าน!”เย่หรงเริ่มตื่นเต้น “ท่านหญิง ท่านปู่มิได้บอกหรือว่าคันฉ่องคุนหลุนของตงกู่อวี้สามารถพลิกฟ้าคว่ำปฐพีได้?”“หากพวกเราได้คันฉ่องคุนหลุนมา มิต้องรอเวียนว่ายตายเกิด ข้าจะพาท่านไปดูใต้หล้านั้น! ท่านจะต้องชอบใต้หล้านั้นอย่างแน่นอน!”เย่หรงพูดจนหลงเพ่ยเพ่ยใจเต้นระรัว นางกล่าวออกไปโดยมิต้องคิด “ได้ เช่นนั้นรอพวกเราช่วยแดนเทพผ่านพ้นภัยพิบัติครั้งนี้ไปได้ พวกเราหาคันฉ่องคุนหลุนเจอแล้วก็ไปด้วยกัน ไปดูใต้หล้าที่เจ้าพูดถึงกัน!”“ตกลงตามนี้!”เย่หรงยกมือขึ้น หลงเพ่ยเพ่
คนหนึ่งคือคนที่ตนรัก อีกคนคือสหายที่ดีที่สุดของตน!แต่พวกเขากลับร่วมมือกันหลอกลวงตน!หยางหงหนิงหันหลังเดินออกไปด้วยใบหน้าบึ้งตึง นางจะมิปล่อยชายชั่วหญิงโฉดคู่นี้ไปแน่!สิ่งที่นางมิได้มาครอบครอง ยอมทำลายทิ้งเสียดีกว่ายอมให้คนอื่นได้ไป!หยางหงหนิงกลับไปที่รถม้าของตน เค้นเสียงลอดไรฟันออกมาคำหนึ่ง “ไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์!”ด้านหน้า เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยต่างก็ร้อนใจดั่งไฟเผา ฮองเฮาเสด็จไปสองชั่วยามแล้ว พวกเขาจะตามทันพระนางหรือ?อีกทั้งต่อให้ตามทัน มีท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นอยู่ พวกนางต้องช่วยชายาเจ้าแห่งทะเลขัดขวางมิให้ฮองเฮาเรียกตัวหลิงอวี๋เข้าเฝ้าแน่“ท่านหญิง พวกเราจะไปทันหรือไม่? ชายาเจ้าแห่งทะเลจะลงมือกับพี่หญิงหลิงหลิงแล้วหรือไม่?”เย่หรงถามอย่างร้อนรนหลงเพ่ยเพ่ยก็ร้อนใจเช่นกัน หลิงอวี๋ยังรอให้นางช่วยชีวิตอยู่ แต่นางก็มิรู้ว่าจะสามารถทูลขอพระราชโองการจากฮองเฮาได้สำเร็จหรือไม่“พวกเราพยายามเต็มที่เถอะ! ขอเพียงตามเสด็จย่าทัน ต่อให้ข้าต้องคุกเข่าอ้อนวอนก็ต้องให้นางพาพี่หญิงหลิงหลิงออกมาให้ได้!”หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวปลอบใจเย่หรงเห็นหลงเพ่ยเพ่ยวิ่งวุ่นไปทั่วกับตนก็นับว่าพยายามเ
รองแม่ทัพจางยังคงกล่าวพลางยิ้มแย้ม “ท่านหญิงฉางเล่อมามิถูกจังหวะ วันนี้ฮองเฮาพร้อมด้วยท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นพาคุณชายน้อยทั้งหลายเสด็จไปชมดอกไม้ที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์พ่ะย่ะค่ะ!”ว่ากระไรนะ?หลงเพ่ยเพ่ยนิ่งอึ้งไป ท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นล้วนเป็นธิดาของเจ้าแห่งทะเล และเป็นลูกพี่ลูกน้องของหลงเพ่ยเพ่ยด้วยเหตุใดพวกนางถึงมิไปชมดอกไม้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้เล่า แต่กลับเลือกไปชมดอกไม้ในตอนที่ตนต้องการความช่วยเหลือจากเสด็จย่าพอดีนี่น่ะหรือ?“ไปนานเท่าใดแล้ว?”หลงเพ่ยเพ่ยสงสัยว่านี่เป็นการจัดฉากโดยเจตนาของชายาเจ้าแห่งทะเล“สองชั่วยามแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้น่าจะอยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้วขอรับ!”รองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้มหลงเพ่ยเพ่ยอยากจะชกหน้ายิ้ม ๆ ของรองแม่ทัพจางเสียสักหมัด เหตุใดนางมองรอยยิ้มของรองแม่ทัพจางแล้วเหมือนกำลังสมน้ำหน้าตนอยู่เลยเล่า“เจ้ามิได้หลอกข้าใช่หรือไม่?”หลงเพ่ยเพ่ยถามเสียงเย็นรองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้ม “ท่านหญิงฉางเล่อพูดเล่นแล้ว ไหนเลยข้าน้อยจะกล้าหลอกท่านหญิง! หากมิเชื่อท่านลองถามใครดูก็ได้ว่าที่ข้าน้อยพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่!”“หากท่านหญิงมีธุระด่วนจร