“เหอะ ๆ!”เกิ่งเสี่ยวหาวรู้สึกว่าน่าขบขันนัก สาเหตุที่ก่อความวุ่นวายก็แค่เพื่อสูตรยารักษาแผล!เถ้าแก่เซียวผู้นี้ช่างบ้าบิ่นยิ่งนัก!เขาร่วมเปิดโรงงานยากับหลิงอวี๋ เทียบยาที่หลิงอวี๋เสนอ กำไรล้วนแบ่งกับตนห้าส่วน!เถ้าแก่เซียวมิออกอะไรเลยยังโลภมากต้องการกำไรแปดส่วน!เขาคิดว่าตนโง่หรือไร?“เถ้าแก่เซียวจอมตลบตะแลงที่ใดกัน พอกันที พวกมันคิดว่าข้าโง่งั้นรึ?”เกิ่งเสี่ยวหาวยังข่มความโกรธที่โดนจ้าวเฉียงฮั๋วหลอกสี่แสน เมื่อได้ยินสิ่งนี้ก็พลันระเบิด“ข้ามิย้าย ดูสิว่าคนหมู่บ้านหลี่ของพวกเจ้าจักกล้าพังโรงงานของข้าหรือไม่!”หลี่ต้าหนิวเอ่ยด้วยจิตใจร้อนรุ่ม “ท่านเกิ่ง แม่นางหลิง ข้าคิดว่าพวกท่านย้ายเถิดขอรับ!”“ข้าได้ยินว่าเถ้าแก่ผู้นั้นพากองทัพหลวงมาด้วย และผู้นำคือแม่ทัพฉินแห่งกองทัพหลวงขอรับ!”แม่ทัพฉิน?คนแซ่ฉินที่เป็นแม่ทัพที่หลิงอวี๋รู้จักก็มีเพียงฉินซาน!ในความประทับใจของหลิงอวี๋ ฉินซานคือคนที่เที่ยงธรรมยิ่ง เขาจะกระทำเรื่องช่วยคนชั่วทำผิดได้เยี่ยงไร?หรือมีเงื่อนงำบางอย่างภายใน?อีกอย่าง นอกจากคนในราชวงศ์ยังจะมีผู้ใดได้อีกที่ให้ฉินซานไปด้วยได้ ทั้งยังแซ่เซียว!เพียงแต่ว่า เถ
เซียวหลินเทียนผงะไปครู่หนึ่ง พลันมองทางจ้าวซวนจ้าวซวนขบคิดแล้วกล่าวว่า “พระชายาอ๋องอี้ บางทีหลี่ต้าหนิวอาจเข้าใจผิด! คนแซ่เซียวมิใช่องค์ชายแน่ อาจเป็นองค์หญิงก็ได้ขอรับ!”“ข้าได้ยินว่าช่วงนี้ฉินซานกับองค์หญิงหกเดินแนบชิดกันนัก… ก่อนหน้านี้ก็เคยถามเรื่องอภิเษกขององค์หญิงหก ไทเฮาก็ทรงเร่งเร้าฮองเฮาให้แสวงเลือกคนที่เหมาะสมกับองค์หญิงหกขอรับ!”“ไทเฮาอาจจะคิดว่าฉินซานก็ไม่เลว จึงให้โอกาสทั้งสองสร้างความสัมพันธ์ขอรับ!”“สองวันก่อน ฉินซานก็ออกไปจุดธูปบูชาเป็นเพื่อนองค์หญิงหกขอรับ…”หลิงอวี๋ตะลึงตาค้างเมื่อได้ยิน และคำอธิบายของจ้าวซวนก็ดูสมเหตุสมผลองค์หญิงหกเซียวทงออกไปจุดธูปบูชา บางทีอาจเป็นหญิงแต่งชาย ฉะนั้นคนในหมู่บ้านหลี่จึงเข้าใจผิดคิดว่าเป็นพวกลักเพศ!“ข้ามิได้เป็นศัตรูคู่แค้นกับองค์หญิงหก เหตุใดพระนางถึงหมายหัวข้าเช่นนี้?”หลิงอวี๋ส่ายศีรษะ “มิใช่บังเอิญแน่นอน! มีที่ไหนพระนางเสด็จออกจากวังครั้งแรกแล้วถูกใจโรงงานยาของข้าพอดิบพอดี! ยังใช้อำนาจระรานจักเอาเทียบยากับโรงงานยาของข้า!”หลิงอวี๋ลืมเรื่องที่เซียวทงบงการนางกำนัลมิให้จัดที่นั่งของตนในงานฉลองพระราชสมภพครั้งก่อนไปนานแล้ว
จักรพรรดิอู่อันกำลังพิจารณาสาส์นกราบทูล ณ ห้องทรงพระอักษร และมีขันทีเซี่ยบดหมึกอยู่ข้าง ๆเวลานี้เองขันทีน้อยเซี่ยก็เข้ามากราบทูล“ฝ่าบาท พระชายาบอกว่านางมาขอรับโทษพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องอี้ก็เสด็จมากับพระชายาด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”“ขอรับโทษ?”จักรพรรดิอู่อันพิจารณาสาส์นเหนื่อยพอดี จึงวางพู่กันลงพลางกล่าวไม่พอใจ“พระชายาอ๋องอี้ก่อเรื่องอันใดอีก? เรื่องวังชั้นในให้ไปขอวิธีแก้ไขจากฮองเฮา เข้าเฝ้าข้าหาปะไร?”ขันทีน้อยเซี่ยส่งยิ้มกล่าว “พระชายาอ๋องอี้อ้างว่าความผิดของนางมิอาจผ่อนปรนได้ มีเพียงฝ่าบาทตัดสินความผิดได้เท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ!”ก่อนหน้านี้ขันทีเซี่ยเห็นหลิงซวนมีชีวิตดีนักที่ตำหนักอ๋องอี้ พลางรู้สึกตื้นตันต่อหลิงอวี๋ภายในใจ จึงพูดโพล่งทันที“ฝ่าบาท ไหน ๆ สามีภรรยาอ๋องอี้ก็ต่างมากันแล้ว พระองค์มิลองพบหน่อยหรือพ่ะย่ะค่ะ?”“หากพระชายาอ๋องอี้ทำผิดร้ายแรงจริง ๆ ฝ่าบาทก็ทรงจัดการได้อย่างยุติธรรมพ่ะย่ะค่ะ!”“หากมิร้ายแรงอันใด… ช่วงนี้พระองค์ทรงงานจนเหนื่อยล้า พระชายาเป็นหมอ ให้นางช่วยลองตรวจพระองค์ก็เป็นการดีพ่ะย่ะค่ะ!”จักรพรรดิอู่อันนึกถึงรำมวยที่ไทเฮาสอนตนซึ่งถูกหลิงอวี๋สอนมาอีกที ตนฝึกตาม
เมื่อจักรพรรดิอู่อันได้ฟังก็พลันขมวดหัวคิ้วแน่นยารักษาแผลของหลิงอวี๋มีประโยชน์มากต่อทหารแนวหน้า แถมดูเหมือนที่นางพูดจะมิได้เงินกำไรเท่าไรจริง ๆ ในการขายยารักษาแผลให้กองทัพ!ด้านกรมกลาโหมต้องเสียค่าใช้จ่ายเลือกซื้อยารักษาแผลทหารในทุกปี แต่ตั้งแต่ที่ใช้ยารักษาแผลของหลิงอวี๋ ค่าใช้จ่ายของกรมกลาโหมประหยัดลงกว่าครึ่ง!หากโรงงานยาของหลิงอวี๋ปิดตัวลง เช่นนั้นค่าใช้จ่ายของกรมกลาโหมจะมิเพิ่มขึ้นหรือไร?“พ่อค้าร่ำรวยผู้นี้มาจากที่ใด ไยใช้อำนาจบาตรใหญ่เยี่ยงนี้!”จักรพรรดิอู่อันโกรธขึ้งทันใด แผ่นดินแห่งฉินตะวันตกคือผืนดินของกษัตริย์ โรงงานยาที่หลิงอวี๋เปิดก็เป็นประโยชน์ต่อแคว้นและราษฎร ผู้ใดไม่มีตาดูแล้วกล้ารังแกคนเช่นนี้!“หลิงอวี๋ ก่อนหน้าข้าก็บอกเจ้าไปแล้ว อย่าออกไปเสนอหน้าทำธุรกิจ!”“เจ้าดูตัวเจ้าเถอะ บัดนี้ก่อเรื่องวุ่นวายเสียแล้ว!”เซียวหลินเทียนกล่าวเคืองขุ่น “เสด็จพ่อ หลิงอวี๋ก่อเรื่องทำให้แม่ทัพเหยียนล่าช้า มิสมควรให้อภัยโดยแท้ เสด็จพ่อโปรดลงโทษตามวินัยทหาร! กระหม่อมมิเข้าข้างนางเด็ดขาดพ่ะย่ะค่ะ!”หลิงอวี๋กล่าวทั้งร่ำไห้ “เสด็จพ่อเพคะ หลิงอวี๋ผิดไปแล้ว! มิกล้าขอให้เสด็จพ่อให้อภ
เพล้ง…เสียงพังข้าวของดังก้องเรือนธาราจิตรขององค์หญิงหกนางกำนัลน้อยหลายคนต่างไม่กล้าเข้าไป หวั่นได้รองรับความโกรธเกรี้ยวขององค์หญิงหกเซียวทง“นางชั่วหลิงอวี๋… นางหญิงชั่ว… คาดไม่ถึงว่าจะกล้าต่อต้านข้า!”“ข้าจักฆ่านางแน่! กรี๊ด กรี๊ด…”ฉินรั่วซือยืนตัวสั่นงันงกอยู่ข้าง ๆ รอเซียวทงระบายความโกรธให้เสร็จ นางจึงเดินอ้อมเศษของแตกบนพื้นอย่างเจี๋ยมเจี้ยมพลางเทน้ำแก้วหนึ่งส่งให้เซียวทง“ผลัวะ…”เซียวทงสะบัดมือด้วยท่าทีสบาย ๆ พลางปัดถ้วยชาของฉินรั่วซือตกพื้นนางมองค้อนใส่ฉินรั่วซืออย่างโหดเหี้ยม ตะคอกว่า“ทั้งหมดเป็นเพราะความคิดโง่เขลาของเจ้า… เจ้าบอกว่าขอแค่ตัวข้าซื้อที่ดินนั่น นางชั่วหลิงอวี๋ผู้นี้จักมาอ้อนวอนข้าแน่นอนมิใช่รึ?”“เจ้ายังพูดอีกว่าแม้หลิงอวี๋มิมอบสูตร แต่ข้าก็บีบให้นางซื้อที่ดินคืนในราคาที่สูงได้!”“เจ้าดูตอนนี้สิ ตัวข้ามิเพียงมิได้กำไรสักเฟินเดียว ยังกลับเสียหกหมื่นไปด้วย!”ฉินรั่วซือกล่าวเจื่อน ๆ “องค์หญิง หม่อมฉันมิทราบว่าหลิงอวี๋เจ้าเล่ห์เพียงนี้เพคะ! มิคาดว่าจักโน้มน้าวองค์จักรพรรดิมอบที่ดินให้นางเพคะ!”“องค์หญิงเพคะ ตั๋วเงินหกหมื่นเอาคืนได้! เราไปหาผู้ใหญ่บ้าน
เมื่อไม่กี่วันก่อน ฉินรั่วซือกับเจิงจื่ออวี้ได้ไปเดินเล่นด้วยกันครั้นเดินผ่านโรงเหยียนหลิง เจิงจื่ออวี้พลันด่าเคียดแค้น‘นางชั่วหลิงอวี๋ เปิดโรงเหยียนหลิงมิพอ! นางยังเปิดโรงงานยาด้วย!’‘หญิงชั่วนี่แย่งการค้าขายของโรงหุยชุน เสียดายที่คู่หมั้นข้าเป็นสามัญชน ไร้อำนาจสิ้นอิทธิพลจัดการกับนาง!’‘หากมีคนยับยั้งหลิงอวี๋ได้ ไปซื้อที่ดินที่นางเปิดโรงงานยา! บังคับให้นางปิดตัว! คงคลายโทสะทีเดียว!’เจิงจื่ออวี้ถอนหายใจยาวเหยียด ‘สูตรยารักษาแผลในมือนาง หากได้มาคงยิ่งค้าขายสร้างเงินกำไรมหาศาลแน่!’‘แต่น่าเสียดาย ข้างหลังนางคือท่านอ๋องอี้ เราก็ได้แค่กล้าคิดมิกล้าทำ!’เมื่อฉินรั่วซือฟังวาจานี้ก็ใจเต้นทันใดข้างหลังหลิงอวี๋มีท่านอ๋องอี้ แต่ข้างหลังตนมีองค์หญิงหก!องค์หญิงหกเป็นที่โปรดปรานมากต่อองค์จักรพรรดิ หากโน้มน้าวองค์หญิงหกไปซื้อที่ดินนั่น แม้ท่านอ๋องอี้รู้แล้วจะเป็นอย่างไร เขาจักแย่งกับองค์หญิงหกได้รึ?ฉินรั่วซือไปเข้าเฝ้าองค์หญิงหกอย่างลิงโลด พลางเล่าความคิดนี้กับองค์หญิงหกอย่างไรเสียฉินรั่วซือก็คิดมิถึงว่ายารักษาแผลของหลิงอวี๋จะขายให้แม่ทัพเหยียนแถมองค์จักรพรรดิยังเชื่อคำพูดของหลิ
ณ ตำหนักองค์ชายคังกวนอิ่งนอนบนเตียงอย่างเกียจคร้าน มีผ้าโปร่งบางคลุมบนร่างหนึ่งชั้น ผ้าบางจนเผยรอยด่างที่ไม่อาจอำพรางได้เมื่อชุ่ยเอ๋อร์นางรับใช้เห็นก็พลันหน้าแดงขวยเขิน เบี่ยงสายตาหนี“ชุ่ยเอ๋อร์… น่าเบื่อนัก องค์ชายกลับมาหรือยัง?”ชุ่ยเอ๋อร์ตอบอย่างระวัง “องค์ชายตรัสว่ามีงานเลี้ยง ไม่กลับมาเสวยพระกระยาหารเจ้าค่ะ!”ตุบ…กวนอิ่งขว้างหมอนที่กำลังกอดทิ้ง ตะโกนเสียงดัง“มีงานเลี้ยงทุกวัน! มิกลับมาอยู่กับข้าเลย! ใช้ชีวิตแบบนี้มิสนุกเลยสักนิด!”“ข้าจักออกไปเที่ยวเล่น!”ชุ่ยเอ๋อร์กล่าวหน้าเจื่อน “คุณหนู มิใช่ว่าท่านกลัวท่านกวนเอ้อร์แก้แค้นหรือเจ้าคะ? ซ่อนอีกหลาย ๆ วันเถิดเจ้าค่ะ!”เมื่อชุ่ยเอ๋อร์เอ่ยเช่นนี้ มันยิ่งจุดชนวนความโกรธของกวนอิ่งมากขึ้น“ซ่อน… ต้องซ่อนนานเท่าใด? บัดนี้ตัวข้าคือสตรีที่องค์ชายคังทรงโปรดที่สุด ข้ายังต้องกลัวเจ้าสุนัขกวนผิงนั่นรึ?”“มา ผลัดผ้าให้ตัวข้าซะ! วันนี้ข้าต้องออกไปให้ได้!”“หากเอาแต่อยู่ในตำหนักอีก ข้าต้องราขึ้นแน่!”เมื่อชุ่ยเอ๋อร์โดนดุก็มิกล้าเตือนอีก พลางหาอาภรณ์มาให้กวนอิ่งกวนอิ่งชายมองอย่างรังเกียจ พลันกล่าว “วันนี้เราจักไปเรือนหยกอำไพ ชุ
ครั้นหลิงอวี๋พาหลิงซวนกับเถาจื่อกลับจากโรงงานยาถึงตำหนักอ๋องอี้ ฟ้าก็มืดเสียแล้วพอถึงปากประตูเรือนบุหงาก็ได้ยินเสียงแม่นมลี่เข้าพอดี“เจ้าเด็กหลิงซินคนนี้ ให้นางไปเรือนหยกอำไพส่งอาภรณ์เพื่อปรับแก้ ไยไปตั้งครึ่งค่อนวันแล้วยังมิกลับมา!”เสียงของสุ่ยหลิงเอ่ย “แม่นม ข้าจักออกไปดูหน่อยว่ามีเรื่องอันใดทำล่าช้าหรือไม่!”“ไปเถอะ! ดูร้านค้าขายของกินข้างทางหน่อยเถอะ เจ้าเด็กคนนี้ได้ไปแอบกินหรือเปล่า!”สุ่ยหลิงเดินออกมาก็บังเอิญเจอหลิงอวี๋เข้าพอดี“หลิงซินยังมิกลับ?” หลิงอวี๋โพล่งถาม“เจ้าค่ะ บ่าวจักออกไปหาดู!”สุ่ยหลิงกล่าวยิ้ม ๆ “ช่วงนี้เจ้าเด็กคนนี้โตขึ้นมาก บางทีอาจเป็นอย่างที่แม่นมพูด คงวิ่งไปซื้อของกินสักที่เจ้าค่ะ!”“เช่นนั้นรีบไปรีบกลับ!”หลิงอวี๋ไม่ได้คิดมากเช่นกันพลางเดินเข้าไป“คุณหนู เหนื่อยหรือไม่เจ้าคะ บ่าวเก็บข้าวไว้ให้แล้ว บ่าวจักไปยก รีบไปล้างหน้าล้างตามากินข้าวเถิดเจ้าค่ะ!”“ขอบใจแม่นม!”หลิงอวี๋กับหลิงซวนพร้อมอีกสามคนล้างหน้าแล้วนั่งลงหน้าโต๊ะอาหารหลิงเยวี่ยโน้มเข้ามาพูดว่า “ท่านแม่ วันพรุ่งข้าไปเล่นจวนเสนาบดีได้หรือไม่ขอรับ น้าหว่านให้คนมาส่งข่าวบอกว่าท่านยายทว
“หึหึ!”ชายาเจ้าแห่งทะเลหัวเราะออกมา “หลิงอวี๋ เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? หยกหล้าสุขาวดีหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าแล้ว ค้นตัวเจ้าจะหาเจอได้อย่างไร?”“หลิงอวี๋ หยกหล้าสุขาวดีมิใช่ของของเจ้าตั้งแต่แรก มารดาเจ้าเป็นนางโจร ขโมยมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของจวนเจ้าแห่งทะเลไป การให้เจ้าคืนมาก็แค่เป็นการคืนของสู่เจ้าของเดิม!”“ข้าสืบรู้มาหมดแล้ว เจ้าและเซียวหลินเทียนสามีของเจ้าต่างก็อยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ เจ้ายังมีบุตรชายอีกคนที่ฉินตะวันตก!”“หลิงอวี๋ ที่เจ้าปฏิเสธมิยอมรับฐานะของตนเองมาตลอด คงเป็นเพราะล่วงรู้ถึงวิธีที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาแล้วสินะ”“เจ้าคิดว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี ดังนั้นเจ้าจึงคิดว่า ขอเพียงมิยอมรับก็เป็นไปมิได้ที่พวกเราจะมัดตัวเจ้าไปสลายเลือดละลายกระดูกที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำหยกหล้าสุขาวดีออกมา!”ชายาเจ้าแห่งทะเลพูดถึงตรงนี้ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าเชื่อหรือไม่ ข้ามิจำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน ก็สามารถมัดตัวเจ้าไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!”“ที่ข้าให้คนนำตัวเจ้ามาที่จวนเจ้าแห่งทะเล ก็เพื่อจะให้โอกาสเจ้า!”หลิงอวี๋หรือจะยอมรับฐานะของตนเพียงเพราะชายาเจ้าแห่งทะเลพูดเช่นนี้ได้อย่าง
“เข้าไป อย่าให้พ่อบ้านผู้นี้ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง!”รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อบ้านเว่ยหายไปสิ้น กล่าวอย่างมิอดทน “เมื่อให้โอกาสดี ๆ มิชอบ ก็ต้องเจอดีเสียบ้าง!”เถาจื่อกำแขนหลิงอวี๋ไว้แน่น และถามผ่านสายตา“ตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”หลิงอวี๋ก็คาดมิถึงว่าจวนเจ้าแห่งทะเลจะเปลี่ยนท่าทีเร็วถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่า เมื่อเข้ามาในจวนเจ้าแห่งทะเลแล้วจะสามารถยื้อเวลาสักพักได้ชายาเจ้าแห่งทะเลมิปรากฏตัว แต่กลับให้พ่อบ้านเว่ยพาตนมาที่นี่เช่นนี้เลย?นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?คิดจะขังนางไว้ หรือว่ามีแผนอื่นกระไร?หลิงอวี๋มองไปยังท่าทีมีเจตนาร้ายของพวกพลธนูและชายร่างใหญ่หลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหล่านั้น นางและเถาจื่อไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไปได้เลย“เข้าไปก่อนเถอะ!”หลิงอวี๋นำหน้าเดินเข้าไป เถาจื่อตามติดอยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าประตูเรือน เมื่อเห็นสภาพข้างในก็รู้สึกว่ามิดีแน่ เพิ่งจะคิดถอยหลังเถาจื่อกลับถูกคนผลักจากด้านหลังอย่างแรง ชนเข้ากับร่างหลิงอวี๋จนดันหลิงอวี๋เข้าไปข้างในทั้งสองคนล้มลงไปกองรวมกัน ยังมิทันได้ลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงดังโครมสนั่นกล
หลงเพ่ยเพ่ยห้อยอยู่บนชะง่อนผานั้น นางเองก็ทนต่อไปมิไหวแล้ว ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของทุกคน นางจึงปีนป่ายเชือกขึ้นไปนางนึกถึงจุดประสงค์ที่ตนมาที่นี่ หากเย่หรงตายไปแล้วจริง ๆ เขาย่อมหวังให้นางช่วยหลิงอวี๋ออกมาได้อย่างแน่นอนนางมิอาจทำให้เย่หรงตายตามิหลับได้!เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยปีนขึ้นมาได้ก็มิสนใจตรวจสอบบาดแผลของตน นางคุกเข่าลงต่อหน้าฮองเฮาทันทีนางกล่าวเสียงเครือ “เสด็จย่า เรื่องที่ทรงรับปากหม่อมฉันเมื่อครู่ สามารถประทานพระราชโองการให้หม่อมฉันตอนนี้ได้หรือไม่เพคะ?”“เมื่อครู่เย่หรงช่วยชีวิตหม่อมฉันและหยวนซานไว้ เพียงเห็นแก่บุญคุณทั้งสองครั้งนี้ เสด็จย่าทรงควรจะช่วยให้เขาสมหวังนะเพคะ!”ฮองเฮานึกถึงเรื่องที่เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยอ้อนวอนตนเมื่อครู่ เย่หรงเป็นถึงเพียงนี้แล้ว นางจะยังทำให้คนที่เขาชอบพอลำบากใจได้อีกหรือ?ฮองเฮาถอดปิ่นปักผมอันหนึ่งของตนออกมาโดยมิทันคิด แล้วยื่นให้กับหลงเพ่ยเพ่ย“ถือปิ่นปักผมนี้ไปพาตัวสิงอวี๋ออกมาเถอะ!”หลงเพ่ยเพ่ยรับปิ่นปักผมหงส์คู่ปักทองคำของฮองเฮามาทั้งน้ำตา นี่คือปิ่นปักผมที่ฮองเฮาเท่านั้นจึงจะสวมใส่ได้ เห็นปิ่นดังเห็นองค์ เทียบเท่ากับพระราชโองการของฮองเฮ
“ท่านหญิง...”“เพ่ยเพ่ย...”ฮองเฮาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยตกลงไปก็ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ ผานกกระเรียนแห่งนี้เป็นปรปักษ์กับราชวงศ์หรืออย่างไร?เหตุใดถึงได้ตกลงไปทีละคนเช่นนี้?“เร็วเข้า ช่วยคน!”ฮองเฮาตะโกนลั่น นางกำนัลที่มีไหวพริบรีบไปตามองครักษ์มาช่วยทางด้านเย่หรงทรงตัวได้มั่นคงบนชะง่อนผาแล้ว เขาเพิ่งจะถอนหายใจโล่งอกก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านบนเมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นหลงเพ่ยเพ่ยกำลังร่วงหล่นลงมาหัวใจของเย่หรงหดเกร็งวูบ มิทันได้คิด คว้าเถาวัลย์ข้าง ๆ แล้วโหนตัวไปหาหลงเพ่ยเพ่ยหลงเพ่ยเพ่ยตกใจจนหลับตาลงแล้ว เตรียมพร้อมยอมรับความตายแต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนตนชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง จากนั้นร่างก็ถูกกอดไว้“ไปทางนั้น เร็วเข้า คว้าชะง่อนผานั่นไว้!”เย่หรงพลิกตัวกลางอากาศ เหวี่ยงหลงเพ่ยเพ่ยไปทางนั้น หลงเพ่ยเพ่ยพุ่งเข้าใส่ผนังผา แต่ใช้แรงมากเกินไปจนใบหน้าชนกับผนังผาจนถลอก นางเจ็บเสียจนหน้ามืดตาลายแต่นางมิสนใจความเจ็บปวดแทบขาดใจ เช่นเดียวกันกับเย่หรง เขาพยายามสุดชีวิตที่จะคว้าเถาวัลย์เหล่านั้นไว้โชคดีที่เถาวัลย์ฝั่งนี้ยังพันเกี่ยวกับกิ่งไม้มากมาย เถาวัลย์ที่พันกิ่งไม้ไว้นั้
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี