“ชาขององค์หญิงหกดีที่สุดจริง ๆ คงน่าเสียดายแย่หากเหล่าองค์ชายมิได้ลิ้มลอง!”จ้าวเจินเจินก็กล่าวยิ้มน้อย ๆ องค์ชายคังตอบอย่างรู้กัน “เช่นนั้นก็ต้องลิ้มลองสักหน่อย! ขอเชิญท่านอ๋องผิงหนาน พระชายาผิงหนานและพวกรัฐทายาทอันมาด้วยกันเถิด! มีสิ่งดี ๆ ก็ต้องแบ่งปันทุกคน!”เซียวทงพลันให้นางกำนัลไปเชิญคน และในไม่ช้า คนกลุ่มใหญ่ก็ติดตามนางกำนัลมาแล้วเดิมทีหลิงหว่านกับอันซินไม่อยากมา นางกำนัลเจาะจงบอกว่าองค์หญิงหกมีเรื่องอยากคุยกับพวกนาง พวกนางจึงจำใจต้องตามมา“ที่เรือนด้านหลังข้าให้คนเตรียมของว่างน้ำชาสุดประณีตไว้แล้ว มันช่างเข้ากับชาดียิ่งนัก ต้องทำให้พวกเจ้าดื่มจนสบายอารมณ์แน่นอน!”เซียวทงตั้งใจให้นางกำนัลเชิญฉินซานมาเช่นกัน นางกล่าวยิ้ม ๆ ต่อฉินซาน“ที่งานชมบุปผาในวันนี้ของตัวข้าจัดขึ้นได้สำเร็จโดยไร้การจลาจล เป็นเพราะความแข็งขันของแม่ทัพฉินมิเสื่อมคลาย!”“แม่ทัพฉิน ประเดี๋ยวข้าขอรินชาให้ท่านเพื่อแสดงความขอบคุณด้วยตัวข้าเอง!”ฉินซานตอบอย่างใจเย็น “นี่คือหน้าที่ของกระหม่อม กระหม่อมมิควรได้รับคำขอบคุณเช่นนี้จากองค์หญิงพ่ะย่ะค่ะ!”กลุ่มคนคุยเฮฮากันพลางเดินเข้าสวนดอกไม้เล็ก ๆ เมื่อมาถึงห
“สวรรค์! พระชายาอ๋องอี้ผู้สง่า คิดมิถึงเลยว่าจะกระทำเรื่องต่ำช้าเช่นนี้ในตอนกลางวันแสก ๆ!”ไม่รู้ว่าเป็นเสียงผู้ใดร้องทักหลิงหว่านที่ตามหลังอย่างใกล้ชิดเมื่อได้ยินก็ตกใจไปทันที!นางหมายฝ่ากลุ่มคมเบียดเข้าไปดู แต่รู้สึกกระวนกระวายใจนักที่กลับถูกคนมากมายขวางข้างหน้าไว้!เมื่อเซียวทงเห็นหลิงอวี๋ผมเผ้าสยายและอยู่ในสภาพกระอักกระอ่วนใจ จึงอดยกยิ้มย่ามใจมิได้หลิงอวี๋ที่ถูกจับได้ว่ากำลังล่วงประเวณี วันนี้เจ้าจะยังเถียงข้าง ๆ คู ๆ ได้อีกหรือ?“หลิงอวี๋… นางหญิงสำส่อน! เจ้ากระทำเช่นนี้ละอายใจต่อเสด็จพี่สี่หรือไม่?”เซียวทงเรียกขึ้นอย่างปวดใจ “ขนาดอยู่ในงานชมบุปผาของข้า เจ้ายังบังอาจทำสิ่งเลวทรามยิ่งกว่าสัตว์ที่นี่! เจ้า… เจ้าทำให้ราชวงศ์ต้องขายหน้าโดยแท้!”“ท่านปู่เฉิง ท่านต้องตัดสินเพื่อเสด็จพี่สี่เพคะ! วันนี้ต้องสังหารนางชั่วหลิงอวี๋ ไม่อาจให้นางมีชีวิตอยู่ทำราชวงศ์ขายหน้าได้เพคะ!”พระสนมหรงก็กระโจมเข้ามาอย่างเดือดดาล “หลิงอวี๋ นางหญิงสำส่อน… เจ้ากล้าดีอย่างไรมาทำเรื่องโสมมเช่นนี้!”“ท่านอ๋องเฉิง นี่มันช่างคาหนังคาเขายิ่งนัก วันนี้ท่านต้องให้ความเป็นธรรมกับเทียนเอ๋อร์นะเพคะ สังหารห
องค์ชายคังยิ้มกล่าวย่ามใจ “น้องสี่ ทุกคนตาสว่างแล้ว! หลิงอวี๋กระทำสิ่งเลวทรามเช่นนี้นั้นมิคู่ควรกับมงกุฎดอกโบตั๋นเสียเลย!”“การเดิมพันในวันนี้เป็นเจ้าแพ้! ม้ากีบขาวของข้ามิขอส่งให้เจ้า… เจ้าอย่าลืมส่งดาบสามมังกรให้ข้าด้วยแล้วกัน!”ขณะที่เซียวทงกับคนอื่น ๆ กำลังพากันวิพากษ์วิจารณ์หลิงอวี๋ ทันใดนั้นก็เกิดเสียงเหยียดหยามแผ่มาข้างหลังของทุกคน“อ้าว… หากเดิมพันก็ต้องยอมรับพ่ายสิ ขนาดเด็กยังรู้ความเลย!”“ทำไม องค์ชายคังแพ้ไม่เป็นรึ เลยหาคนมาใส่ไคล้ตัวข้า?”หลิงอวี๋?เมื่อได้ยินเสียงนี้กะทันหัน คนจำนวนมากพลันตกใจราวเห็นผี!เสียง… เสียงนี้ทำไมถึงดังมาจากข้างหลังพวกเขาเล่า?หลิงอวี๋กำลังฟุบกับพื้นแกล้งหมูตายหน้าด้าน ๆ อยู่มิใช่รึ?เซียวหลินเทียนหันหน้ามาคนแรกและหลังจากพบว่าเป็นหลิงอวี๋ มุมริมฝีปากของเขาจึงเผยรอยยิ้มขึ้นทันทีเป็นไปตามคาด!หลิงอวี๋มิใช่สตรีโง่เขลาอย่างที่เคยเป็นอีกต่อไป!นางในยามนี้ ไม่เพียงฉลาดปราดเปรื่อง แต่ยังงดงามมีสง่า นางจะเล่นชู้ได้อย่างไร!ที่เขานิ่งเงียบ เป็นเพราะอยากให้โอกาสคนพวกนี้แสดงละครเท่านั้น!ก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนก็สงสัยว่าอาจมีเล่ห์อยู่เบื้องห
คราวนี้เซียวทงถูกตีจนมึน หลังจากที่ตั้งสติได้ นางก็จ้องหลิงอวี๋อย่างคับแค้นใจพลางตะโกน“หลิงอวี๋ เจ้าตีข้าด้วยเหตุใด? หากวันนี้เจ้ามิให้ข้าตีคืน ข้าจะฆ่าเจ้า!”หลิงอวี๋หัวเราะเยาะพลางเอ่ย “ท่านยังมีหน้ามาถามหม่อมฉันอีกหรือ? หม่อมฉันเป็นพี่สะใภ้ของท่าน! ท่านเอ่ยวาจาให้ร้ายข้าว่าลักลอบเป็นชู้โดยไม่มีหลักฐาน หม่อมฉันยังตีท่านมิได้อีกหรือ!?”“เซียวทง ท่านบอกหม่อมฉันมาว่าสิ่งใดคือการที่บอกว่า เห็น ๆ อยู่ว่าคนข้างในคือหม่อมฉัน?”“เหตุใดท่านจึงมั่นใจนักว่าคนที่อยู่ข้างในน่าจะเป็นหม่อมฉัน?”“หรือว่า... ที่นางกำนัลเชิญหม่อมฉันมาดื่มชากับท่านนี่เป็นแผนของท่านใช่หรือไม่! ที่เสิ่นจวนทำน้ำชาหกเปียกชุดของหม่อมฉันก็เป็นแผนของท่าน! ที่จัดแจงให้หม่อมฉันไปเปลี่ยนอาภรณ์ที่เรือนด้านหลังก็เป็นแผนของท่าน! ภาพที่คนสองคนข้างในแอบทำอะไรกันนั่นอีก ทั้งหมดนี้มันเป็นแผนของท่านใช่หรือไม่!?”“บอกมา! เรื่องในวันนี้เป็นแผนการที่ท่านจัดวางขึ้นมาเอง หรือว่าสมคบคิดกับคนอื่นแล้วทำด้วยกัน?!”หลิงอวี๋ก้าวไปข้างหน้า ดวงตาเต็มไปด้วยความเยือกเย็นและกลิ่นอายสังหารร้ายแรง ทำให้เซียวทงถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัวนี่เป็นครั้งแร
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ท่านอ๋องเฉิงก็มององค์หญิงหกกับองค์ชายคัง แล้วใบหน้าก็มืดมนลงหากเมื่อครู่เขายังมิเข้าใจ เช่นนั้นบัดนี้ท่านอ๋องเฉิงก็เข้าใจความจริงของเรื่องนี้จากคำพูดของหลิงอวี๋แล้ว!ทุกเรื่องที่องค์หญิงหกทำในวันนี้ล้วนนำความอับอายมาสู่ราชวงศ์ทั้งสิ้น!ก่อนหน้านี้ที่มุ่งเป้าไปที่หลิงอวี๋ในระหว่างการแข่งขันความสามารถ เขายังเห็นว่ามันเป็นแค่ความแค้นกับแผนการของพวกสตรีเท่านั้น!แต่เรื่องของการลอบเป็นชู้มันเป็นอันตรายต่อเกียรติของราชวงศ์ยิ่ง!องค์หญิงผู้สง่างาม! ใช้เรื่องเช่นนี้วางแผนจัดการกับคนอื่นได้เยี่ยงไร!และองค์ชายคังผู้นี้ แม้มิใช่ผู้บงการแต่ก็เป็นผู้สมรู้ร่วมคิด!ดูเหมือนว่าเขาจำเป็นจะต้องกราบทูลเรื่องนี้ต่อจักรพรรดิอู่อันเสียหน่อยแล้ว!ฉินซานมององค์หญิงหกอย่างเย็นชา บอกว่าอยากจะรินชาเพื่อขอบคุณตน ที่แท้ก็เป็นเรื่องโกหกทั้งเพ!จุดประสงค์ขององค์หญิงหกคือการพาพวกเขาไปเห็นกับตาว่าหลิงอวี๋ลอบเป็นชู้ และทำลายชื่อเสียงของหลิงอวี๋กระทั่งจะประหารหลิงอวี๋!องค์ชายคังพูดมิออก แต่เมื่อคิดได้ว่าเซียวหลินเทียนไม่มีหลักฐาน เขาก็สงบลง พลางเอ่ยอย่างเย็นชา“น้องสี่ ไม่มีหลักฐานก็อย
คำพูดประนีประนอมของจ้าวเจินเจินเปลี่ยนท่าทีของทุกคนในทันที มีคนกระซิบกระซาบกัน“ใช่! ที่จริงเรื่องนี้จะมาโทษที่เราเข้าใจผิดก็มิได้ ก่อนหน้านี้พระชายาอ๋องอี้ชื่อเสียงแย่มาก นี่มิใช่เรื่องที่นางได้ที่หนึ่งในวันนี้แล้วจะชะล้างมันออกไปได้!”“ใช่ เรื่องนี้โทษคนอื่นคงมิได้กระมัง? เพราะว่าพวกคุณชายทำให้ทุกคนเข้าใจผิด พอนึกย้อนถึงชื่อเสียงก่อนหน้านี้ของพระชายาอ๋องอี้ดู การที่ทุกคนเข้าใจผิดมันก็เรื่องที่ปกตินัก…”เซียวทงเห็นว่าทิศทางของลมหันมาทางตนอย่างรวดเร็ว ความเย่อหยิ่งก็เพิ่มขึ้นทันที นางมองหลิงอวี๋อย่างดุร้ายพลางเอ่ย“ใช่! พี่สะใภ้สี่ เจ้ามิดูเล่าว่าชื่อเสียงของเจ้าแย่เพียงใด!”“ที่ข้าเข้าใจเจ้าผิดก็เป็นเรื่องปกติมากไม่ใช่หรือไร? เมื่อครู่ข้ามิได้รู้สึกผิดหวังเลย! ข้าแค่รู้สึกแปลกใจเท่านั้น จึงแสดงท่าทีเกินจริงไป!”“แต่เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาตบข้าเล่า!? ข้าโตมาถึงเพียงนี้เสด็จพ่อยังมิเคยตีข้าเลยนะ! เจ้าเป็นแค่พระชายาต่ำต้อย เจ้าเก่งกาจมากกว่าเสด็จพ่อของข้าเช่นนั้นรึ!”แม้ว่าคำพูดขององค์หญิงหกอาจฟังดูฝืน ๆ แต่ก็ไม่สามารถบอกได้ว่ามันไม่แทงใจ!อันซินกับหลิงหว่านมองหน้ากันแล้วต่างก็เห็นควา
เจิงจื่ออวี้กับจูเหวินแอบบ่นอย่างข่มขื่น พวกนางติดตามองค์หญิงหกมาช่วยจับเรื่องชู้ มีหรือจะนึกถึงว่าหลิงอวี๋มิได้อยู่ในนั้น!แต่เมื่อพูดออกไปแล้ว ก็ไม่มีทางที่จะปฏิเสธได้เจิงจื่ออวี้ก้าวไปข้างหน้าพลางเอ่ย “พระชายาอ๋องอี้ พวกเราได้ยินคุณชายผู้นั้นบอกว่าเป็นพระชายาอ๋องอี้ ก็คิดว่าเป็นพระชายา… มิคิดเลยว่าจะเป็นเพียงแค่ความเข้าใจผิด! ข้าขออภัยพระชายา!”จูเหวินเองก็รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อขอโทษ และพูดในสิ่งที่เหมือนกันฉินรั่วซือเห็นว่าสถานการณ์ไม่ดี กลัวว่าหลิงอวี๋จะตำหนิตนไปด้วย จึงถอยกลับไปอยู่ที่มุมหนึ่งอย่างเงียบ ๆก่อนหน้านี้นางเคยเสียเปรียบมาก่อน วันนี้ระมัดระวังมาก จะไม่พูดเหลวไหลอีกแล้ว!หลิงอวี๋หัวเราะเยาะ “เยี่ยมจริง ๆ! พวกท่านเป็นคุณชายคุณหนูแห่งฉินตะวันตก เป็นบุตรขุนนางคนสำคัญของราชสำนัก!”“ได้ยินเขาบอก พวกท่านก็เชื่ออะไรง่าย ๆ หรือ? หากข้าทำเรื่องผิดจริง ๆ ข้าก็ขอรับโทษจากองค์จักรพรรดิกับไทเฮาเอง! เหตุใดถึงจะให้พวกท่านที่ไม่แม้แต่จะมองแต่กลับกล้ามาใส่ร้ายว่าข้านอกใจ!”หลิงอวี๋หันไปหาท่านอ๋องเฉิง พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ท่านอ๋องเฉิงเพคะ หม่อมฉันสงสัยว่าเจิงจื่ออวี้ จ
“ลู่หนาน ตบปากซะ!”“ใส่ร้ายพระชายา ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของราชวงศ์ ทุกคนตบปากยี่สิบครั้ง! คนเลวนั่นกล้าเริ่มที่ใส่ร้ายพระชายา ตบปากสี่สิบครั้ง!”ลู่หนานทนไม่ไหวมานานแล้ว หลังจากได้ยินคำสั่งก็รีบพุ่งตัวไปข้างหน้าอย่างแข็งขันเริ่มแรกเขาจับตัวเจิงจื่ออวี้ พลางตบปากนางด้วยเสียงดังฟังชัดลู่หนานลงมืออย่างรวดเร็วและหนักหน่วง ไม่นานก็เสร็จสิ้นไปเมื่อมาตบปากจูเหวิน ฮูหยินจูถึงได้เรียกสติกลับมาได้ นางคุกเข่าลงกับพื้นเสียงดังลั่นพลางเอ่ยขอร้อง“ท่านอ๋องอี้ ทั้งหมดเป็นเพราะหม่อมฉันสอนบุตรีไม่ดีเอง ขอร้องให้ท่านอ๋องอี้โปรดไว้ชีวิตเหวินเหวินของเราด้วยเถิดเพคะ!”เซียวหลินเทียนหัวเราะเยาะ “ใต้เท้าจูเป็นเจ้ากรมฝ่ายพิธีการ แต่สอนบุตรีตนเองได้ไม่ดี เช่นนั้นก็ให้ข้าช่วยสอนให้เขาเถิด!”“ใต้เท้าจูควรจะขอบคุณข้า เมื่อจูเหวินได้รับการสั่งสอนเช่นนี้ในวันนี้ ในภายภาคหน้านางจะควบคุมปากของตนได้ดี มิสร้างปัญหาใหญ่ให้กับใต้เท้าจูอีกต่อไป!”ทันทีที่ลู่หนานได้ยินสิ่งนี้ก็จับจูเหวินพลางเริ่มตบปากนางหลังจากตบปากไปยี่สิบครั้ง ใบหน้าของจูเหวินกับเจิงจื่ออวี้ก็บวมขึ้นมา พลางทรุดลงกับพื้นพร้อมน้ำตาที่ไหลอา
“หึหึ!”ชายาเจ้าแห่งทะเลหัวเราะออกมา “หลิงอวี๋ เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? หยกหล้าสุขาวดีหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าแล้ว ค้นตัวเจ้าจะหาเจอได้อย่างไร?”“หลิงอวี๋ หยกหล้าสุขาวดีมิใช่ของของเจ้าตั้งแต่แรก มารดาเจ้าเป็นนางโจร ขโมยมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของจวนเจ้าแห่งทะเลไป การให้เจ้าคืนมาก็แค่เป็นการคืนของสู่เจ้าของเดิม!”“ข้าสืบรู้มาหมดแล้ว เจ้าและเซียวหลินเทียนสามีของเจ้าต่างก็อยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ เจ้ายังมีบุตรชายอีกคนที่ฉินตะวันตก!”“หลิงอวี๋ ที่เจ้าปฏิเสธมิยอมรับฐานะของตนเองมาตลอด คงเป็นเพราะล่วงรู้ถึงวิธีที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาแล้วสินะ”“เจ้าคิดว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี ดังนั้นเจ้าจึงคิดว่า ขอเพียงมิยอมรับก็เป็นไปมิได้ที่พวกเราจะมัดตัวเจ้าไปสลายเลือดละลายกระดูกที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำหยกหล้าสุขาวดีออกมา!”ชายาเจ้าแห่งทะเลพูดถึงตรงนี้ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าเชื่อหรือไม่ ข้ามิจำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน ก็สามารถมัดตัวเจ้าไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!”“ที่ข้าให้คนนำตัวเจ้ามาที่จวนเจ้าแห่งทะเล ก็เพื่อจะให้โอกาสเจ้า!”หลิงอวี๋หรือจะยอมรับฐานะของตนเพียงเพราะชายาเจ้าแห่งทะเลพูดเช่นนี้ได้อย่าง
“เข้าไป อย่าให้พ่อบ้านผู้นี้ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง!”รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อบ้านเว่ยหายไปสิ้น กล่าวอย่างมิอดทน “เมื่อให้โอกาสดี ๆ มิชอบ ก็ต้องเจอดีเสียบ้าง!”เถาจื่อกำแขนหลิงอวี๋ไว้แน่น และถามผ่านสายตา“ตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”หลิงอวี๋ก็คาดมิถึงว่าจวนเจ้าแห่งทะเลจะเปลี่ยนท่าทีเร็วถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่า เมื่อเข้ามาในจวนเจ้าแห่งทะเลแล้วจะสามารถยื้อเวลาสักพักได้ชายาเจ้าแห่งทะเลมิปรากฏตัว แต่กลับให้พ่อบ้านเว่ยพาตนมาที่นี่เช่นนี้เลย?นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?คิดจะขังนางไว้ หรือว่ามีแผนอื่นกระไร?หลิงอวี๋มองไปยังท่าทีมีเจตนาร้ายของพวกพลธนูและชายร่างใหญ่หลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหล่านั้น นางและเถาจื่อไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไปได้เลย“เข้าไปก่อนเถอะ!”หลิงอวี๋นำหน้าเดินเข้าไป เถาจื่อตามติดอยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าประตูเรือน เมื่อเห็นสภาพข้างในก็รู้สึกว่ามิดีแน่ เพิ่งจะคิดถอยหลังเถาจื่อกลับถูกคนผลักจากด้านหลังอย่างแรง ชนเข้ากับร่างหลิงอวี๋จนดันหลิงอวี๋เข้าไปข้างในทั้งสองคนล้มลงไปกองรวมกัน ยังมิทันได้ลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงดังโครมสนั่นกล
หลงเพ่ยเพ่ยห้อยอยู่บนชะง่อนผานั้น นางเองก็ทนต่อไปมิไหวแล้ว ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของทุกคน นางจึงปีนป่ายเชือกขึ้นไปนางนึกถึงจุดประสงค์ที่ตนมาที่นี่ หากเย่หรงตายไปแล้วจริง ๆ เขาย่อมหวังให้นางช่วยหลิงอวี๋ออกมาได้อย่างแน่นอนนางมิอาจทำให้เย่หรงตายตามิหลับได้!เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยปีนขึ้นมาได้ก็มิสนใจตรวจสอบบาดแผลของตน นางคุกเข่าลงต่อหน้าฮองเฮาทันทีนางกล่าวเสียงเครือ “เสด็จย่า เรื่องที่ทรงรับปากหม่อมฉันเมื่อครู่ สามารถประทานพระราชโองการให้หม่อมฉันตอนนี้ได้หรือไม่เพคะ?”“เมื่อครู่เย่หรงช่วยชีวิตหม่อมฉันและหยวนซานไว้ เพียงเห็นแก่บุญคุณทั้งสองครั้งนี้ เสด็จย่าทรงควรจะช่วยให้เขาสมหวังนะเพคะ!”ฮองเฮานึกถึงเรื่องที่เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยอ้อนวอนตนเมื่อครู่ เย่หรงเป็นถึงเพียงนี้แล้ว นางจะยังทำให้คนที่เขาชอบพอลำบากใจได้อีกหรือ?ฮองเฮาถอดปิ่นปักผมอันหนึ่งของตนออกมาโดยมิทันคิด แล้วยื่นให้กับหลงเพ่ยเพ่ย“ถือปิ่นปักผมนี้ไปพาตัวสิงอวี๋ออกมาเถอะ!”หลงเพ่ยเพ่ยรับปิ่นปักผมหงส์คู่ปักทองคำของฮองเฮามาทั้งน้ำตา นี่คือปิ่นปักผมที่ฮองเฮาเท่านั้นจึงจะสวมใส่ได้ เห็นปิ่นดังเห็นองค์ เทียบเท่ากับพระราชโองการของฮองเฮ
“ท่านหญิง...”“เพ่ยเพ่ย...”ฮองเฮาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยตกลงไปก็ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ ผานกกระเรียนแห่งนี้เป็นปรปักษ์กับราชวงศ์หรืออย่างไร?เหตุใดถึงได้ตกลงไปทีละคนเช่นนี้?“เร็วเข้า ช่วยคน!”ฮองเฮาตะโกนลั่น นางกำนัลที่มีไหวพริบรีบไปตามองครักษ์มาช่วยทางด้านเย่หรงทรงตัวได้มั่นคงบนชะง่อนผาแล้ว เขาเพิ่งจะถอนหายใจโล่งอกก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านบนเมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นหลงเพ่ยเพ่ยกำลังร่วงหล่นลงมาหัวใจของเย่หรงหดเกร็งวูบ มิทันได้คิด คว้าเถาวัลย์ข้าง ๆ แล้วโหนตัวไปหาหลงเพ่ยเพ่ยหลงเพ่ยเพ่ยตกใจจนหลับตาลงแล้ว เตรียมพร้อมยอมรับความตายแต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนตนชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง จากนั้นร่างก็ถูกกอดไว้“ไปทางนั้น เร็วเข้า คว้าชะง่อนผานั่นไว้!”เย่หรงพลิกตัวกลางอากาศ เหวี่ยงหลงเพ่ยเพ่ยไปทางนั้น หลงเพ่ยเพ่ยพุ่งเข้าใส่ผนังผา แต่ใช้แรงมากเกินไปจนใบหน้าชนกับผนังผาจนถลอก นางเจ็บเสียจนหน้ามืดตาลายแต่นางมิสนใจความเจ็บปวดแทบขาดใจ เช่นเดียวกันกับเย่หรง เขาพยายามสุดชีวิตที่จะคว้าเถาวัลย์เหล่านั้นไว้โชคดีที่เถาวัลย์ฝั่งนี้ยังพันเกี่ยวกับกิ่งไม้มากมาย เถาวัลย์ที่พันกิ่งไม้ไว้นั้
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี