ฉินซานแบกขอทานขึ้นลงหลังคา เขากังวลมาก เขามิสามารถอยู่บนหลังคาตลอดเวลาได้!แต่เจ้าหน้าที่ทหารมากมายถึงเพียงนั้น เขาจะพาขอทานผู้นี้ออกไปได้เยี่ยงไร!“พี่ชาย มิต้องสนใจข้าหรอก เจ้าแบกข้าไปเช่นนี้ เราจะหนีมิได้ทั้งคู่!”ขอทานเอ่ย “วางข้าลงแล้วหนีไปเถิด!”“เจ้นามว่าอะไร?” ฉินซานเอ่ยถามขอทานลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ย “หลิงเสี่ยง…”“หลิงเสี่ยง… เป็นเจ้าจริง ๆ ด้วย!”ฉินซานตะโกนอย่างตื่นเต้น “ข้าคือฉินซาน! ท่านอ๋องอี้กับหลิงอวี๋อยู่ที่นี่ พวกเขาอยู่ในเจ่าจวง…”“หลิงอวี๋ได้ยินว่าท่านปู่บอกว่าเจ้าขาดการติดต่อไป จึงขอให้ข้าตามหาเจ้า…”ก่อนที่ฉินซานจะเอ่ยจบ ลูกธนูหลายลูกก็ยิงมาจากด้านล่างหลิงเสี่ยงชะงัก เขามิได้เห็นฉินซานมาหลายปีแล้ว อีกทั้งฉินซานก็ปลอมตัวด้วย เมื่อครู่จำเขามิได้เลย“ฉินซาน วางข้าลง… แล้วหนีไปเถิด!”หลิงเสี่ยงพยายามดิ้นรนและกระซิบข้างหูของฉินซาน “ข้าซ่อนของไว้ที่ศาลหลักเมืองนอกเมืองเว่ยโจว เจ้ารีบเอาไปมอบให้ท่านอ๋องอี้…”“ข้ามิไหวแล้ว หากเจ้ามิทิ้งข้าไว้ เราจะตายกันทั้งคู่! เจ้ารีบไป ข้าจะช่วยเจ้าสกัดพวกที่ตามมาเอง!”หลิงเสี่ยงพูดแล้วกำลังจะกระโดดลงไป แต่ฉินซานคว้
พี่เหลียนบอกลานางรับใช้แล้วเดินไปอีกทางฉินซานแอบดีใจที่ตนเองโชคดี รออยู่ก็มีนางรับใช้ขององค์หญิงหกมาพอดีเขาเดินตามนางรับใช้ไปที่เรือนหนึ่งอย่างเงียบ ๆที่ทางเข้าเรือนมีองครักษ์สองคนเฝ้าอยู่ ฉินซานมิกล้าผลีผลามเข้าไป จึงย่องตามไปด้านหลังเขาเห็นห้องหนึ่งมีแสงไฟสว่างอยู่ จึงย่อตัวไปใต้หน้าต่างแล้วก็ได้ยินเสียงคนคุยกันอยู่ในห้องแว่ว ๆ“มิไหวแล้ว… น่าเบื่อจะตาย สถานที่ห่างไกลแห่งนี้ไม่มีอะไรน่าสนใจเลย ได้แต่เล่นหมากรุกฆ่าเวลาในทุก ๆ วัน มิรู้ว่าต้องอยู่อีกนานแค่ไหนจึงจะได้กลับ!"เซียวทงเอ่ยเสียงเบื่อหน่าย “อู่เวย วันพรุ่งเจ้าไปหาเซียวหลินเทียน ให้เสด็จพี่สั่งฉินซานมาพาข้ากลับเมืองหลวง! ข้าทนอยู่ในสถานที่แย่ ๆ เยี่ยงนี้มิไหวแล้ว!”อู่เวยยิ้มพลางเอ่ย “องค์หญิงหก เส้นทางกลับไกลถึงเพียงนั้น ท่านอ๋องอี้ไม่มีทางให้แม่ทัพฉินไปส่งองค์หญิงกลับหรอกพ่ะย่ะค่ะ! อดทนอีกหน่อยเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”“ทนอะไร? ข้ามิทน… หากรู้ว่าออกมาแล้วมิสนุกเลยสักนิด ข้าก็คงมิมาหรอก!”เซียวทงก่นด่า “ฉินรั่วซือนางสารเลวนั่น กล้าทรยศข้า กลับไปข้ามิปล่อยนางไปแน่!”“นางคิดว่าการที่ฉินซานกับหลิงอวี๋ปกป้องนางแล้วข้าจะทำอะไร
ฉินซานรอให้อู่เวยออกไปอย่างอดทน แต่มิรู้ว่าสองคนนี้ไปเอาเรื่องคุยมาจากไหนเยอะแยะ คุยเรื่อยเปื่อยมิจบเสียทีฉินซานยิ่งฟังก็ยิ่งรำคาญ แล้วก็ยิ่งดูถูกองค์หญิงหกชายหญิงอยู่กันตามลำพัง ทั้งยังเป็นเวลาดึกแล้วด้วย องค์หญิงหกมิรู้จักหลีกเลี่ยงเลยหรือ?นางยังมิได้แต่งงาน แต่กล้าให้บุรุษที่เป็นคนนอกอยู่คุยกับตนที่ห้องจนดึกดื่น ผู้ใดจะกล้าแต่งงานกับสตรีเช่นนี้กัน?หลังจากรอให้อู่เวยออกไปอย่างยาวนาน ฉินซานก็เห็นนางกำนัลสองคนยุ่งอยู่ข้างนอก จึงรีบมุดเข้าไปทางหน้าต่างเซียวทงกำลังจะเปลี่ยนอาภรณ์ จู่ ๆ เห็นคนบุกเข้ามาก็ตกใจแต่ก่อนที่นางจะกรีดร้อง ฉินซานก็เข้าไปปิดปากนางไว้ก่อน“องค์หญิงหก กระหม่อมคือฉินซาน มาที่นี่เพื่อพาองค์หญิงออกไปตามคำสั่งของท่านอ๋องอี้! องค์หญิงอย่าร้อง รีบเก็บของสำคัญแล้วไปกับกระหม่อม!”ฉินซานปล่อยองค์หญิงหกแล้วเร่งให้เซียวทงเก็บข้าวของเซียวทงมองฉินซานอย่างสงสัย ฉินซานมีหนวดเคราบนใบหน้าเช่นนี้ นางจึงเอ่ยถามอย่างมิแน่ใจ “ท่านคือฉินซานจริง ๆ หรือ?"“องค์หญิงฟังเสียงของกระหม่อมมิออกหรือ?”ฉินซานเอ่ยอย่างฉุนเฉียว “อย่ามัวโอ้เอ้เลย รีบเก็บของเร็วเข้า… องค์หญิงหก กระหม่
ยังมิทันที่ฉินซานจะคิดมาตรการตอบโต้ได้ ก็เกิดเสียงฝีเท้าวุ่นวายดังขึ้นด้านนอก แล้วข้าหลวงหยางก็เดินเข้ามาพร้อมกับองครักษ์หลายคนฉินซานเห็นเช่นนี้ ก็มิสามารถพาเซียวทงออกไปได้อย่างปลอดภัยแล้ว จึงต้องหลบไปซ่อนตัวอยู่หลังม่านเตียง รอดูว่าข้าหลวงหยางมาเพื่อสิ่งใดหากข้าหลวงหยางจะจับตัวเซียวทงจริง ๆ เขาก็ทำได้เพียงออกไปฆ่าข้าหลวงหยางแล้วพาเซียวทงออกไป“องค์หญิงหก กระหม่อมมารบกวนตอนดึก เพราะมีเรื่องด่วนจะคุยกับองค์หญิงหกจริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ!”หยางจื้อฟางเข้ามาพร้อมเอ่ยอย่างกังวล“โอ้ ข้าหลวงหยางมีเรื่องด่วนอะไรหรือ?”เซียวทงเหลือบมองม่านเตียงแล้วยิ้มเย็นชาฉินซาน ข้ามิใช่คนที่เจ้าคิดจะทำให้อับอายก็ทำได้ตามต้องการหรอกนะ รอข้าก่อนเถอะ วันนี้ข้าจะแก้แค้นกลับแน่นอน“เป็นเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ… วันนี้กระหม่อมไปที่เจ่าจวง เห็นว่าท่านอ๋องอี้ติดเชื้อโรคระบาด… องค์หญิงหก เรื่องนี้จะมองเป็นเรื่องเล็ก ๆ มิได้พ่ะย่ะค่ะ!”หยางจื้อฟางเอ่ยอย่างกังวล “กระหม่อมเห็นผู้ป่วยติดโรคระบาดมามากแล้ว เพียงมิกี่วันก็ตายไป! หากเกิดเหตุมิคาดคิดกับท่านอ๋องจะทำเยี่ยงไรดีพ่ะย่ะค่ะ?"“ว่ากระไรนะ? พี่สี่ของข้าติดโรคระบาดหร
เสียงตะโกนของเซียวทงทำให้ฉินซานตกตะลึงไม่คิดเลยว่าตนเองเสี่ยงชีวิตมาช่วยเซียวทง แต่เซียวทงกลับเชื่อคำพูดของข้าหลวงหยางแล้วหักหลังตนเช่นนี้!“ใครก็ได้! จับฆาตกรที!”พอหยางจื้อฟางเห็นเซียวทงชี้ไปทางม่านเตียง เขาก็ตะโกน แล้วคว้าตัวองค์หญิงหกพุ่งไปที่ประตูฉินซานกัดฟันวิ่งไปหาองค์หญิงหกแม้ว่าองค์หญิงหกจะหักหลังตนแต่เขาก็ยังต้องทำภารกิจที่ท่านอ๋องอี้มอบหมายให้ตนเองทำให้สำเร็จ!ฉินซานเพิ่งจะคว้าคอเสื้อด้านหลังของเซียวทง เซียวทงก็ผละตัวออกด้วยความตกใจ พลางตะโกน “ใครก็ได้ ฉินซานจะลอบสังหารข้า จับเขาไว้เร็วเข้า!”พวกผู้คุ้มกันที่ข้าหลวงหยางพามาพุ่งเข้าไป ฉินซานรีบชักดาบออกมาต่อสู้กับพวกเขาข้าหลวงหยางใช้โอกาสนี้ลากเซียวทงออกไปข้างนอก แล้วเขาก็ตะโกน “ฉินซานจะลอบสังหารองค์หญิงหก รีบมาเร็วเข้า…”เดิมทีศาลาว่าการก็ได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนาอยู่แล้ว เมื่อได้ยินเสียงร้องเรียกของข้าหลวงหยาง หลิวฮุยก็พาคนพุ่งเข้าไปเจ้าหน้าที่ทหารล้อมรอบเรือนอย่างรวดเร็ว แล้วกลุ่มนักธนูก็เล็งหน้าไม้เหล็กไปที่ฉินซานเมื่อมีคนเข้ามามากถึงเพียงนี้ เซียวทงก็ตะโกนอย่างภาคภูมิใจ "ฉินซาน หากท่านยังมิยอมโดนจับ
ในเวลานี้ ฉินซานได้แต่หลับตาลงด้วยความสิ้นหวังคิดมิถึงเลยว่า บุรุษที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานอย่างตนจะมิได้ตายในสนามรบ แต่กลับมาตายด้วยน้ำมือของสตรีโง่เขลาเยี่ยงเซียวทง!เขามิยอมแพ้หรอก!ฉึก...เสียงดาบแทงทะลุเนื้อหนังดังขึ้นมา แล้วฉินซานก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่ไหล่เมื่อลืมตาขึ้น ก็เห็นดาบแทงเข้าที่สะบักของตนเองเซียวทงจ้องมองฉินซานพร้อมกับตาแดงด้วยความโกรธ นางจะแทงเข้าที่ท้องฉินซานก็ได้แต่ในวินาทีสุดท้าย นางก็ยังทำใจมิได้ จึงยกดาบขึ้นไปแทงที่ไหล่ของฉินซานเพราะฉินซานเป็นชายคนแรกที่ตนตกหลุมรัก!นางนึกถึงครั้งแรกที่พบฉินซาน เขาดูหล่อเหลามาก นางกลัวว่าตนจะแทงฉินซานตาย แล้วต่อไปจะไม่มีวันได้เห็นฉินซานยิ้มให้ตนอีกแล้วเมื่อข้าหลวงหยางเห็นฉากนี้ เขาก็แอบอุทานน่าเสียดายจริงเชียว!เชื่อสตรีมิได้เลยจริง ๆ!ขอเพียงนางเคลื่อนลงไปอีกหน่อย ฉินซานก็จบสิ้นแล้ว!“ฉินซาน ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง ขอเพียงเจ้าอธิบายมาว่าหลิงอวี๋กับหลิงเสี่ยงไปร่วมมือกับแคว้นศัตรูได้เยี่ยงไร ข้าจะขอความเมตตาให้เสด็จพ่อของข้าไว้ชีวิตท่าน!”เซียวทงเอ่ยอย่างเข้มแข็งฉินซานหันไปอีกทาง มิอยากพูดสิ่งใ
หมอเฝิงยังคิดวิธีมิออกอีกด้านหนึ่ง องครักษ์ของฉินซานเร่งรีบพาผู้ป่วยพิเศษเข้ามาในตอนก่อนมืดเมื่อหลิงอวี๋รู้ข่าวก็รีบไปที่ห้องรักษา เมื่อเข้าไปองครักษ์ก็เข้ามาพูดกับนาง“พระชายา นี่คือแม่ทัพหลิง แม่ทัพฉินให้พวกเราส่งเขามาที่นี่ขอรับ! เขาดูอาการมิดีนัก รีบช่วยเขาเถิดขอรับ!”“แม่ทัพหลิง?”ทันทีที่หลิงอวี๋ได้ยินก็รีบพุ่งไปที่ข้างเตียง แล้วก็เห็นผู้บาดเจ็บอยู่บนเตียงนั้นผมเป็นปม บนหัวก็สกปรก และมีบาดแผลนับไม่ถ้วนบนใบหน้า รวมทั้งมีรอยไหม้กับรอยแส้ด้วย ไม่มีผิวหนังส่วนไหนที่ดีเลยนางเห็นมิชัดด้วยซ้ำว่าหน้าตาเดิมของเขาเป็นอย่างไร!"เขาชื่ออะไร?"หลิงอวี๋ถามขณะที่ตรวจผู้บาดเจ็บไปด้วยองครักษ์เอ่ย "ตอนนั้นสถานการณ์เร่งด่วน แม่ทัพฉินมิทันบอกขอรับ… ว่ากันว่าเขาเป็นนักโทษประหาร ตอนเราไปรับมีเจ้าหน้าที่ทหารจำนวนมากกำลังจับกุมเขาอยู่!”“แม่ทัพฉินจึงให้เราพาเขากลับมาเพื่อความปลอดภัยของเขา ส่วนเขาก็ล่อทหารที่ไล่ตามออกไป!”หลิงอวี๋ขมวดคิ้ว เช่นนั้นสถานการณ์ของฉินซานก็อันตรายมากมิใช่หรือ?หลิงอวี๋เห็นว่าผู้ป่วยกำลังจะตายแล้วจึงมิได้สนใจถามองครักษ์ พลางรีบเอ่ย“เจ้าไปหาท่านจินต้าแล้วบอกสถาน
ดังนั้น แม้ว่าหลิงเสี่ยงจะมิได้อยู่ในเมืองหลวง แต่เขาก็รู้เรื่องที่หลิงอวี๋ให้กำเนิดลูกนอกสมรสแล้วถูกท่านอดีตเสนาบดีตัดขาดหลิงเสี่ยงโกรธหลิงอวี๋มาก ถึงกับมีความคิดว่าชีวิตนี้เขามิอยากกลับเมืองหลวงไปเจอน้องสาวผู้นี้อีกแล้ว!แต่ทุกเทศกาลในตอนที่อยู่เงียบ ๆ คนเดียวกลางคืนหลิงเสี่ยงนอนอยู่บนเตียงก็จะคิดถึงน้องสาวฝาแฝดผู้นี้แล้วก็ใจอ่อน!ตอนนั้นตนถูกหวางซือเลี้ยงผิด ๆ แล้วทำเรื่องโง่เขลาเหล่านั้นน้องสาวยังเด็ก ถูกหวางซือเลี้ยงดูผิด ๆ ก็ไปโทษน้องสาวมิได้หรอก!หลิงเสียงเซิงพ่อของเขามิสนใจพวกเขาพี่น้อง ท่านอดีตเสนาบดีก็อายุมากแล้ว หลิงเสี่ยงจะวางใจปล่อยน้องสาวไว้ในเมืองหลวงได้เยี่ยงไร!กระทั่งเรื่องที่ท่านอ๋องอี้เฆี่ยนตีหลิงอวี๋ห้าสิบไม้เพราะนางทำผิดไปถึงถึงหูของหลิงเสี่ยงหลิงเสี่ยงโกรธที่น้องสาวโง่เขลา แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของน้องสาวด้วยเสี่ยวหลิงหลิงเป็นสตรีบอบบาง นางจะทนการถูกเฆี่ยนตีห้าสิบไม้ได้หรือ?หลิงเสี่ยงอยากกลับบ้านมาก อยากจะรีบกลับเมืองหลวงแล้วพาน้องสาวของเขาออกไปด้วยเขายอมมิแต่งงานไปตลอดชีวิตแล้วเลี้ยงดูน้องสาวของเขา!เมื่อถูกข้าหลวงหยางขังไ
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี
ชีวิตนี้หาสหายรู้ใจได้ยากนัก!หลงเพ่ยเพ่ยยิ้ม นางก็รู้สึกว่าตนกับเย่หรงพูดคุยสื่อสารกันง่ายเช่นกันเย่หรงฉลาด ที่สำคัญที่สุดคือมิใช่บุรุษประเภทหัวโบราณคร่ำครึ มิเหมือนพวกพี่สามที่เอะอะก็วางตนเป็นผู้ใหญ่สั่งสอนนางเฮ้อ หากสามีในอนาคตของนางสามารถพูดคุยกันได้เหมือนเย่หรง เช่นนั้นสามีภรรยาจะมิรักใคร่กลมเกลียวกันมากหรอกหรือ?หลงเพ่ยเพ่ยคิดแล้วพลันหน้าแดงเรื่อ นี่นางกำลังคิดฟุ้งซ่านอะไรอยู่!“พวกเรามาคิดกันก่อนดีกว่าว่าอีกประเดี๋ยวหากพบเสด็จย่าแล้วจะทำอย่างไรดี!”หลงเพ่ยเพ่ยมิกล้าคิดฟุ้งซ่านต่อไป รีบเปลี่ยนเรื่องคุย“ท่านกังวลว่าท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นจะก่อกวนหรือ?”เย่หรงก็ดึงความคิดกลับมา พวกเขาใกล้จะถึงภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้ว ต้องคิดหาข้ออ้างให้ดี“อืม ท่านหญิงชิงเฉิงมิใช่คนประเภทที่จะเจรจาด้วยง่าย ๆ ท่านหญิงอวิ๋นยังพอคุยง่ายอยู่บ้าง แต่ในเมื่อพวกนางรับคำสั่งจากชายาเจ้าแห่งทะเลมาเพื่อถ่วงเวลาเสด็จย่า ย่อมมิยอมให้ข้าบรรลุเป้าหมายแน่!”หลงเพ่ยเพ่ยเผยสีหน้าอมทุกข์เย่หรงพลันนึกถึงข่าวลือเกี่ยวกับท่านหญิงอวิ๋นขึ้นมา แม้ท่านหญิงอวิ๋นจะเป็นธิดาแท้ ๆ ของชายาเจ้าแห่งทะเล แต่ช่วงห
“โอ้ ใต้หล้านั้นแตกต่างจากใต้หล้าของพวกเราหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยถูกเย่หรงกระตุ้นความอยากรู้ จึงจ้องมองพลางถาม“อืม บ้านเรือนที่นั่นสูงเท่าภูเขา สูงที่สุดอาจถึงร้อยชั้นได้ ทั้งยังมีรถมากมายที่มิต้องใช้ม้าลาก วิ่งได้เร็วมาก!”เย่หรงเล่าให้หลงเพ่ยเพ่ยฟังไปเรื่อย ๆเมื่อพูดถึงเครื่องบินก็ทำให้หลงเพ่ยเพ่ยเบิกตากว้าง นางมองเย่หรงอย่างงง ๆ “เจ้าโกหกกระมัง จะมีเครื่องมือที่สามารถบรรทุกคนขึ้นไปบนฟ้าได้อย่างไร!”“มีจริง ๆ ข้ามิได้โกหกท่าน พี่หญิงหลิงหลิงจำได้มากกว่าข้าเสียอีก รอมีโอกาสให้นางเล่าให้ท่านฟัง ท่านก็จะเชื่อว่าข้ามิได้โกหกท่าน!”เย่หรงเริ่มตื่นเต้น “ท่านหญิง ท่านปู่มิได้บอกหรือว่าคันฉ่องคุนหลุนของตงกู่อวี้สามารถพลิกฟ้าคว่ำปฐพีได้?”“หากพวกเราได้คันฉ่องคุนหลุนมา มิต้องรอเวียนว่ายตายเกิด ข้าจะพาท่านไปดูใต้หล้านั้น! ท่านจะต้องชอบใต้หล้านั้นอย่างแน่นอน!”เย่หรงพูดจนหลงเพ่ยเพ่ยใจเต้นระรัว นางกล่าวออกไปโดยมิต้องคิด “ได้ เช่นนั้นรอพวกเราช่วยแดนเทพผ่านพ้นภัยพิบัติครั้งนี้ไปได้ พวกเราหาคันฉ่องคุนหลุนเจอแล้วก็ไปด้วยกัน ไปดูใต้หล้าที่เจ้าพูดถึงกัน!”“ตกลงตามนี้!”เย่หรงยกมือขึ้น หลงเพ่ยเพ่
คนหนึ่งคือคนที่ตนรัก อีกคนคือสหายที่ดีที่สุดของตน!แต่พวกเขากลับร่วมมือกันหลอกลวงตน!หยางหงหนิงหันหลังเดินออกไปด้วยใบหน้าบึ้งตึง นางจะมิปล่อยชายชั่วหญิงโฉดคู่นี้ไปแน่!สิ่งที่นางมิได้มาครอบครอง ยอมทำลายทิ้งเสียดีกว่ายอมให้คนอื่นได้ไป!หยางหงหนิงกลับไปที่รถม้าของตน เค้นเสียงลอดไรฟันออกมาคำหนึ่ง “ไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์!”ด้านหน้า เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยต่างก็ร้อนใจดั่งไฟเผา ฮองเฮาเสด็จไปสองชั่วยามแล้ว พวกเขาจะตามทันพระนางหรือ?อีกทั้งต่อให้ตามทัน มีท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นอยู่ พวกนางต้องช่วยชายาเจ้าแห่งทะเลขัดขวางมิให้ฮองเฮาเรียกตัวหลิงอวี๋เข้าเฝ้าแน่“ท่านหญิง พวกเราจะไปทันหรือไม่? ชายาเจ้าแห่งทะเลจะลงมือกับพี่หญิงหลิงหลิงแล้วหรือไม่?”เย่หรงถามอย่างร้อนรนหลงเพ่ยเพ่ยก็ร้อนใจเช่นกัน หลิงอวี๋ยังรอให้นางช่วยชีวิตอยู่ แต่นางก็มิรู้ว่าจะสามารถทูลขอพระราชโองการจากฮองเฮาได้สำเร็จหรือไม่“พวกเราพยายามเต็มที่เถอะ! ขอเพียงตามเสด็จย่าทัน ต่อให้ข้าต้องคุกเข่าอ้อนวอนก็ต้องให้นางพาพี่หญิงหลิงหลิงออกมาให้ได้!”หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวปลอบใจเย่หรงเห็นหลงเพ่ยเพ่ยวิ่งวุ่นไปทั่วกับตนก็นับว่าพยายามเ
รองแม่ทัพจางยังคงกล่าวพลางยิ้มแย้ม “ท่านหญิงฉางเล่อมามิถูกจังหวะ วันนี้ฮองเฮาพร้อมด้วยท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นพาคุณชายน้อยทั้งหลายเสด็จไปชมดอกไม้ที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์พ่ะย่ะค่ะ!”ว่ากระไรนะ?หลงเพ่ยเพ่ยนิ่งอึ้งไป ท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นล้วนเป็นธิดาของเจ้าแห่งทะเล และเป็นลูกพี่ลูกน้องของหลงเพ่ยเพ่ยด้วยเหตุใดพวกนางถึงมิไปชมดอกไม้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้เล่า แต่กลับเลือกไปชมดอกไม้ในตอนที่ตนต้องการความช่วยเหลือจากเสด็จย่าพอดีนี่น่ะหรือ?“ไปนานเท่าใดแล้ว?”หลงเพ่ยเพ่ยสงสัยว่านี่เป็นการจัดฉากโดยเจตนาของชายาเจ้าแห่งทะเล“สองชั่วยามแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้น่าจะอยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้วขอรับ!”รองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้มหลงเพ่ยเพ่ยอยากจะชกหน้ายิ้ม ๆ ของรองแม่ทัพจางเสียสักหมัด เหตุใดนางมองรอยยิ้มของรองแม่ทัพจางแล้วเหมือนกำลังสมน้ำหน้าตนอยู่เลยเล่า“เจ้ามิได้หลอกข้าใช่หรือไม่?”หลงเพ่ยเพ่ยถามเสียงเย็นรองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้ม “ท่านหญิงฉางเล่อพูดเล่นแล้ว ไหนเลยข้าน้อยจะกล้าหลอกท่านหญิง! หากมิเชื่อท่านลองถามใครดูก็ได้ว่าที่ข้าน้อยพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่!”“หากท่านหญิงมีธุระด่วนจร