เมื่อท่านจินต้าเห็นเขา ก็ก้าวไปแล้วเอ่ย “พระชายากำลังช่วยลู่หนานอยู่พ่ะย่ะค่ะ ลู่หนานถูกแทงหลายแผล… พระชายาทำการผ่าตัดเขามาเกือบสองชั่วยามแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”"พระชายาบอกว่าอาการของลู่หนานมิสู้ดีนัก นางรับประกันมิได้ว่าจะช่วยลู่หนานได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ!”หัวใจของเซียวหลินเทียนจมดิ่งลงทันที ลู่หนานติดตามตนมาหลายปี ในใจของเขา พวกลู่หนานกับจ้าวซวนสนิทสนมกับตนเหมือนเป็นพี่น้อง“แม่ทัพฉินถูกหลิงฮุยตัดแขนไปครึ่งหนึ่งพ่ะย่ะค่ะ!”ท่านจินต้ามิอยากจะปกป้ององค์หญิงหก จึงบอกเรื่องทุกอย่างที่เซียวทงทำกับฉินซานและลู่หนานให้เซียวหลินเทียนฟังเซียวหลินเทียนฟังแล้วจิตใจก็เย็นชาขึ้นมาฉินซานไปช่วยพาตัวเซียวทงออกมาตามคำสั่งของตน เขามิคาดคิดเลยว่าเซียวทงจะกล้าหักหลังฉินซาน!หลังจากฟังเรื่องจากท่านจินต้าแล้ว เซียวหลินเทียนก็โกรธมากจนอยากจะทุบตีเซียวทงให้ตายหากรู้อย่างนี้ ตอนแรกเขาจะไม่เชื่อฟังคำสั่งของเสด็จพ่อเด็ดขาด และจะยืนกรานปฏิเสธมิให้เซียวทงติดตามตนออกมา“นางอยู่ที่ใด?”เซียวหลินเทียนตะคอกอย่างโกรธเกรี้ยว“พักผ่อนอยู่ตรงนั้นพ่ะย่ะค่ะ!”อาการบาดเจ็บของเซียวทงนั้นเล็กน้อยมาก ที่ร้ายแรงที่สุดคือแ
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าการสูญเสียแขนมีความหมายต่อแม่ทัพฉินเยี่ยงไร?”“ชีวิตของเขาถูกเจ้าทำลายไปแล้ว!”เซียวหลินเทียนรู้สึกผิดและเสียใจ อารมณ์ทั้งหมดรวมเข้าด้วยกัน แล้วก็ตะคอกอย่างฉุนเฉียวจนคนทั้งภูเขาด้านหลังได้ยินกันหมด“เหตุใดตระกูลเซียวของข้าถึงเลี้ยงสัตว์ที่เลวร้ายยิ่งกว่าหมูยิ่งกว่าสุนัขเยี่ยงเจ้าเอาไว้!”“เหตุใดเจ้ามิไปตาย! เจ้าต่างหากที่สมควรจะเสียแขน! เจ้าต่างหากคือคนที่สมควรตาย!”“เจ้ายังมีหน้ามาบอกว่าเจ้าได้รับบาดเจ็บ อีกทั้งยังกล้าขอให้ข้าส่งเจ้ากลับไปอีก!”“เจ้าแหกตาสุนัขของเจ้าดูเสียว่าในบรรดาผู้บาดเจ็บที่นี่ มีใครบ้างที่มิได้เจ็บหนักกว่าเจ้า!”เซียวทงโกรธที่ถูกเซียวหลินเทียนดุ คนจำนวนมากมองมาที่นางด้วยสายตาดูถูก นางรู้สึกอับอายมากแต่เมื่อเผชิญหน้ากับความโกรธของเซียวหลินเทียน เซียวทงก็มิกล้าโต้แย้งอะไรออกไปนับว่านางยังฉลาด รู้ว่าตนทำให้เซียวหลินเทียนโกรธมากจริง ๆท่าทีโกรธเกรี้ยวของเซียวหลินเทียนน่ากลัวยิ่งกว่าเสด็จพ่อโกรธหลายสิบเท่าหากนางกล้าโต้เถียงไปอีก เซียวหลินเทียนอาจจะฆ่านางก็ได้!ทหารเหล่านั้นก็มีความโกรธแบบเดียวกับเซียวหลินเทียนในสายตาของพวกเขา แม้ว่าเซี
ดีที่เซียวหลินเทียนมิได้สนใจคำพูดของฉินรั่วซือ แล้วเมินฉินรั่วซือไปเอ่ยฉินซานด้วยเสียงทุ้ม“แม่ทัพฉิน หากเจ้ายินดีรับใช้ข้า ข้าก็ยินดีอย่างที่สุด! เจ้าดูแลอาการบาดเจ็บให้ดีก่อน รอกลับไปข้าจะขอกับเสด็จพ่อให้พวกเจ้ามาอยู่ในกรมโยธาธิการที่ข้ารับผิดชอบในตอนนี้!”“อย่าได้ดูถูกกรมโยธาธิการเชียว หลิงอวี๋บอกว่าหากกรมโยธาธิการทำงานได้ดีจะเป็นประโยชน์ต่อแคว้นและราษฎร กลับไปหากมีเวลาเราค่อยคุยรายละเอียดกัน มีเจ้ามาช่วยงานข้า เราร่วมมือกันจะได้ทำสิ่งดี ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อแคว้นและราษฎรมากขึ้นอย่างแน่นอน!”ฉินซานมองออกว่าเซียวหลินเทียนจริงใจ คำพูดของเขาทำให้รู้สึกสบายใจมากฉินซานเอ่ยทันที “พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง เช่นนั้นตกลงกันตามนี้พ่ะย่ะค่ะ! ท่านอ๋องทรงงานเถิด! กระหม่อมมิรบกวนท่านอ๋องแล้ว!”หลังจากที่เซียวหลินเทียนไปแล้ว อารมณ์หดหู่ของฉินรั่วซือก็ดีขึ้น คำพูดของเซียวหลินเทียนนี้แสดงว่าตระกูลฉินยังมีความหวังแต่นางมิสามารถฝากความหวังทั้งหมดไว้กับคำสัญญาด้วยวาจานี้ได้ นางต้องใช้ประโยชน์จากการสูญเสียแขนของฉินซาน พยายามแต่งงานกับเซียวหลินเทียนและเข้าไปเป็นชายารองหลังจากกลับไปเมืองหลวงหลังจากที่เซ
“ท่านอ๋อง กระหม่อมได้ยินมาว่ากวนซินมิเพียงแต่สูญเสียทรัพย์สินของตระกูลกวนไปเท่านั้น แต่ยังถูกท่านกวนเอ้อร์ไล่ล่าด้วย! คิดมิถึงเลยเขาจะตกต่ำกลายมาเป็นโจรจริง ๆ!”“กระหม่อมเห็นเขาพาคนมาสิบกว่าคน ลูกน้องของเขาสารภาพว่าเดิมทีกวนซินคิดจะแปรพักตร์ไปหาแม่ทัพเซี่ย แต่แม่ทัพเซี่ยรับคำสั่งขององค์ชายเว่ยและต้องการเอาชีวิตเขา เขาจึงไม่มีที่จะไป ถึงได้มาหาเงินจากการปล้น!”เซียวหลินเทียนพูดมิออกเลย ตระกูลกวนในอดีตร่ำรวยระดับแคว้น นายน้อยกวนซินผู้นี้ก็ถือตนอยู่สูงมิเห็นผู้ใดอยู่ในสายตาไหนเลยจะคิดว่ายามนี้จะต้องหาเลี้ยงชีพด้วยการปล้น!“รอให้เรื่องในเว่ยโจวจัดการเรียบร้อย ปี้ไห่เฟิงเจ้าพาคนไปจับกวนซิน!”ตอนแรกเซียวหลินเทียนโกรธหลิงอวี๋ที่มิสามารถช่วยภรรยาของท่านกวนเอ้อร์ได้ทันเวลา นี่เป็นปมในใจของเขามาโดยตลอดหากจับตัวกวนซินแล้วมอบให้ท่านกวนเอ้อร์ได้ ก็จะเป็นการแก้ปมในใจของท่านกวนเอ้อร์ได้!“พ่ะย่ะค่ะ!”ปี้ไห่เฟิงพยักหน้า แล้วสั่งให้คนขนเครื่องยาสมุนไพรไปกับเกิ่งเสี่ยวหาวต่อผ่านไปครึ่งชั่วยาม คนของเผยอวี้ก็มาส่งข่าวว่าเผยอวี้ยึดเว่ยโจวได้สำเร็จแล้วคนในครอบครัวของข้าหลวงหยางทั้งหมดถูกเผยอวี
เซียวหลินเทียนกำลังจัดการจดหมายของข้าหลวงหยาง เตรียมเขียนส่งไปยังเมืองหลวงให้จักรพรรดิอู่อันแจ้งเตือนฉีตะวันออกทันใดนั้น แม่ทัพเว่ยชั่วคราว ข่งฮุยกับเผิงเลี่ยงได้ส่งคนมารายงานว่า พวกเขาได้ยึดกองกำลังที่เหลือของแม่ทัพเซี่ยไว้ได้แล้วเซียวหลินเทียนตอบกลับทันทีให้พวกเขาตั้งฐานที่มั่นแล้วมุ่งหน้าไปพบกันที่เว่ยโจวทางเขากำลังรอให้หลิงอวี๋ผ่าตัดเสร็จแล้วจึงจะเตรียมย้ายไปประจำการที่เว่ยโจวในที่สุดหลิงอวี๋ก็ทำการผ่าตัดกับลู่หนานเสร็จแล้ว นางทิ้งตัวนั่งลงบนพื้นอย่างเหนื่อยล้า อาภรณ์ของนางเปียกโชกไปด้วยเหงื่อหลิงซวนเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผากของนางอย่างปวดใจแล้วยื่นชามน้ำให้นาง“อาจารย์ ทางนี้ข้าดูแลเอง ท่านออกไปหาอะไรกินก่อนเถิดเจ้าค่ะ!”หลิงซวนเอ่ยทั้งน้ำตา “ท่านทำการผ่าตัดมาหลายชั่วยามแล้ว ทั้งยังมีคนไข้รออยู่อีกจำนวนมาก ท่านจะทรุดมิได้นะเจ้าคะ!”“อืม!”หลิงอวี๋ตั้งสมาธิจดจ่อมาตลอด ทั้งยังต้องคุกเข่าทำการผ่าตัดอีก ขาทั้งสองข้างของนางมิรู้สึกอะไรแล้วร่างกายของนางก็อ่อนล้ามาก นางรู้ว่าหลิงซวนหวังดีกับตน จึงพยักหน้า“ข้าจะไปนอนพักสักหน่อย เจ้าคอยดูลู่หนานไว้ หากสถานการณ์เปลี่ยนให้รีบไป
เซียวหลินเทียนเดินออกมาก็เห็นองครักษ์คนหนึ่งกำลังพยุงชายที่ได้รับบาดเจ็บทั่วร่างกายอยู่ด้านนอกรถม้าของหลิงอวี๋“หลิงเสี่ยง?”ท่านจินต้าบอกเซียวหลินเทียนเรื่องที่ฉินซานช่วยเหลือหลิงเสี่ยงมาแล้วเซียวหลินเทียนเห็นชายแปลกหน้าคนนี้มีส่วนสูงพอ ๆ กับตน จึงเดาตัวตนของเขาได้“ท่านอ๋องอี้!”หลิงเสี่ยงพยักหน้าให้เซียวหลินเทียนอยู่ไกล ๆหลิงอวี๋เป็นน้องสาวของตน เขาไม่มีทางลืมได้ว่าเพื่อนร่วมงานของเขาบอกมาว่าท่านอ๋องอี้ไม่เพียงแต่เกลียดหลิงอวี๋เท่านั้น แต่ยังโบยหลิงอวี๋ถึงห้าสิบไม้ด้วยหลิงเสี่ยงมิสามารถเข้าใกล้น้องเขยคนนี้ได้จริง ๆ“บาดเจ็บไม่ร้ายแรงใช่หรือไม่?”เซียวหลินเทียนเอ่ย “ฉินซานบอกข้าแล้ว ข้าได้ส่งคนไปเอาของที่เจ้าซ่อนไว้ออกมาแล้ว!”“มิต้องกังวล ความพากเพียรของเจ้าจะได้รับผลอย่างแน่นอน!"“พ่ะย่ะค่ะ!” หลิงเสี่ยงพยักหน้าอย่างเฉยเมย เขาได้ทำสิ่งที่ตนควรทำแล้ว ที่เหลือก็เป็นเรื่องของท่านอ๋องอี้กับองค์จักรพรรดิแล้ว“ทางด้านแม่ทัพกู่ได้จับกุมคนของรองผู้บัญชาการอู๋ไว้แล้ว แม่ทัพกู่รู้ว่าเจ้าอยู่กับข้าทางนี้ รอไปถึงเว่ยโจว เขาจะมาหาเจ้า!”เซียวหลินเทียนเห็นได้จากท่าทีของหลิงเสี่ยงว
เถาจื่อรีบไปเอายาทันทีทางด้านหลู่ชิ่งไปเรียกหมอเฝิงกับหมอหานมาแล้วเมื่อหมอเฝิงเห็นสภาพของหลิงอวี๋ ในใจก็มีความสุข ในที่สุดตนก็จะทำภารกิจของฮองเฮาเว่ยสำเร็จแล้ว!หลิงอวี๋เริ่มได้รับพิษแล้ว และผลก็เป็นเหมือนกับที่คนของฮองเฮาเว่ยบอกเลยว่ามันไม่ต่างจากการติดโรคระบาดจากสถานการณ์นี้ หลิงอวี๋จะต้องตายภายในสามวันอย่างแน่นอน!หมอเฝิงแสร้งทำเป็นจับชีพจรของหลิงอวี๋แล้วเอ่ย “ท่านอ๋อง คาดว่าพระชายาน่าจะติดโรคระบาดแล้วพ่ะย่ะค่ะ นางพัฒนาวิธีการรักษาโรคระบาดแล้วมิใช่หรือ?”“กระหม่อมเห็นว่าตำรับยาอื่น ๆ สู้ของนางมิได้ ดังนั้นทำตามตำรับยาของนางเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”หมอหานมองใบหน้าของหลิงอวี๋ เห็นว่าตุ่มน้ำพุพองมิต่างจากผู้ป่วยที่ติดโรคระบาด เขาจึงพยักหน้าเห็นด้วย“ตำรับยาของพระชายาอ๋องอี้เมื่อนำไปใช้กับผู้ป่วยของเราแล้ว ผลลัพธ์ก็ดีกว่าตำรับยาที่เราจัดไว้จริง ๆ พ่ะย่ะค่ะ แค่ใช้ตำรับยาของพระชายาอ๋องอี้ตามที่หมอเฝิงบอกก็พอ!”เซียวหลินเทียนเห็นทั้งคู่บอกเช่นนี้ก็รู้สึกโล่งใจโชคดีที่หลิงอวี๋ได้พัฒนาวิธีรักษาโรคโรคระบาดได้แล้ว มิฉะนั้นตอนนี้เขาก็มิรู้จริง ๆ ว่าต้องทำเยี่ยงไร!เถาจื่อเอายามาป้อนให้หลิง
เซียวหลินเทียนพบจุดนี้เมื่อคืนนี้ และนี่คือสิ่งที่ทำให้เขากลัดกลุ้มตระกูลหยางถวายเงินให้กับองค์ชายเว่ย แม้ว่าเรื่องนี้จะมีบัญชีที่สามารถพิสูจน์ได้แต่ในจดหมายระหว่างองค์ชายเว่ยกับตระกูลหยาง กลับไม่มีการเอ่ยถึงการสมรู้ร่วมคิดกับฉีตะวันออกเลยเซียวหลินเทียนมิได้เลวร้ายถึงเพียงนั้นที่จะปลอมแปลงหลักฐานเพื่อโค่นล้มองค์ชายเว่ยแต่หากตระกูลหยาง และพวกแม่ทัพเซี่ยล้มไปหมดแล้ว แต่องค์ชายเว่ยรอดไปโดยมิได้รับผลกระทบใด ๆ เซียวหลินเทียนก็มิยอมให้เป็นเช่นนั้นหรอก!หากไม่มีการหนุนหลังจากองค์ชายเว่ยและให้ความสะดวกสบายให้กับหยางจื้อฟาง หลายปีมานี้ตระกูลหยางจะทำเงินได้มากมายถึงเพียงนี้ได้เยี่ยงไร!“ท่านจินต้า ศึกษาจดหมายกับสมุดบัญชีเหล่านี้อย่างรอบคอบอีกที แม้ว่าเราจะไม่มีหลักฐานที่แสดงว่าองค์ชายเว่ยสมคบคิดกับแคว้นศัตรู แต่เราต้องยืนยันหลักฐานที่เขาปกป้องตระกูลหยาง!”เซียวหลินเทียนหัวเราะเยาะ “คราวที่แล้วเขาให้คนจากหอเหยี่ยวราตรีมาลอบสังหารข้า คราวนี้ก็ส่งนักฆ่ามาใช้กลอุบายแบบเดียวกันอีก! หากข้าปล่อยไปเช่นนี้ เขาก็จะต้องหนักข้อขึ้นอีก!”“แม้ว่าจะปล่อยให้เขาตายมิได้ แต่อย่างน้อยเราก็ต้องให้เขาถูก
“ข้ามีนามว่าหลานฮุ่ยจวน ข้าเป็นคนให้กำเนิดเจ้ามา เป็นแม่ของเจ้า!”ท่านอาสุ่ยเอ่ยต่อ “อาอวี๋ แม่รอเจ้ามาหลายปีแล้ว ขอเพียงเจ้าเปิดห้องขังนี้ แม่ก็จะอยู่กับเจ้าตลอดไปได้!”หลิงอวี๋เห็นแสงสีรุ้งเหล่านั้นจางลงไป จากนั้นนางก็มาอยู่ในห้องขังที่มืดมิดห้องหนึ่งสตรีที่สวมอาภรณ์เก่า ๆ ผู้หนึ่งกำลังถูกขังอยู่ในกรงเหล็ก บนใบหน้าของนางเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ ดูราวกับว่าถูกทุบตีมาอย่างสาหัสเมื่อนางเห็นหลิงอวี๋ สตรีผู้นั้นก็พุ่งเข้ามาคว้าลูกกรงไว้แล้วเรียกนางด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความคาดหวังใบหน้านั้นมีความอ่อนโยนและค่อนข้างคุ้นเคย หลิงอวี๋จึงเดินเข้าไปหาโดยมิรู้ตัว“ท่านคือท่านแม่ของข้าหรือ?”นางเอ่ยถามขึ้นมาด้วยความสับสน“ข้าคือแม่ของเจ้า… อาอวี๋ เจ้าคือลูกที่ข้าอุ้มท้องมาสิบเดือนและให้กำเนิดเจ้ามา เหตุใดเจ้าจึงจำข้ามิได้เล่า?”“อาอวี๋ แม่ก็มิอยากแยกจากเจ้าเช่นกัน แต่คนเลวพวกนั้นมาพรากเราออกจากกัน พวกเขาขังแม่ไว้ที่นี่ ทุบตีทำร้ายแม่ ทรมานแม่!”สตรีผู้นั้นสะอื้นพลางเอ่ยออกมา “แม่คิดถึงเจ้าตลอดเวลาที่อยู่ในคุก ที่เจ้ามาหาที่นี่มิใช่ว่าเพื่อจะมาช่วยเหลือแม่หรอกหรือ?”“เจ้ารีบไขประตูช่วยแม่ออ
“มิใช่ ข้ามีนามว่าสิงอวี๋ พวกเขาจำคนผิดแล้ว!”แม้ว่าหลิงอวี๋จะชอบเสียงของสตรีผู้นี้ แต่จะฟังแค่ประโยคเดียวของนางแล้วยอมรับตัวตนเลยก็คงมิได้ท่านอาสุ่ยยิ้มออกมาแล้วทำไม้ทำมือไปทางเจ้าแห่งทะเลเจ้าแห่งทะเลยกมือขึ้นมา จากนั้นองครักษ์ผู้หนึ่งก็ก้าวเข้ามาเปิดกลไกของกรงเหล็ก ประตูเหล็กจึงเลื่อนขึ้นไป และท่านอาสุ่ยก็เดินเข้าไปหลิงอวี๋รู้สึกหวั่นใจขึ้นมา นี่เจ้าแห่งทะเลต้องการจะทำกระไร?เขาพาท่านอาสุ่ยที่ดูประหลาดผู้นี้มาก็เพราะคิดจะเกลี้ยกล่อมตนหรือ?“สิงอวี๋ เจ้าแห่งทะเลตรัสว่าท่านเป็นบิดาของเจ้า และระหว่างเจ้ากับเจ้าแห่งทะเลก็มีเรื่องเข้าใจผิดกันบางอย่าง เจ้าแห่งทะเลทรงให้ข้ามาเกลี้ยกล่อมเจ้าว่าอย่าได้ดื้อดึงกับท่านเลย”ท่านอาสุ่ยเอ่ยออกมาอย่างอ่อนโยน “พ่อลูกกันมิโกรธกันข้ามวันข้ามคืน หากมีเรื่องอันใดเข้าใจผิดกัน พูดกันตรง ๆ ก็จบ!”“เจ้าบอกกับอามาว่า เหตุใดเจ้าจึงมิยอมรับบิดาของเจ้า?”หลิงอวี๋เหลือบมองเจ้าแห่งทะเลที่ยืนอยู่ด้านข้างแล้วยิ้มบาง ๆ “มิใช่ว่าข้ามิยอมรับพ่อ แต่พวกเขาจำคนผิดจริง ๆ เจ้าค่ะ!”“ข้ามิใช่หลิงอวี๋ และมิใช่บุตรีของเจ้าแห่งทะเลแน่นอน! ข้าสกุลสิง ท่านพ่อท่านแม่ขอ
หลิงอวี๋มองชายาเจ้าแห่งทะเลที่เดินออกไป แววตาพลันเย็นเยียบลงนางมิคิดว่าชายาเจ้าแห่งทะเลจะมาที่นี่ด้วยตนเองเพียงเพื่อกล่าวถึงเรื่องไร้สาระเหล่านี้ชายาเจ้าแห่งทะเลต้องมีแผนสำรองอื่นอีกแน่นอน“ศิษย์พี่ ชายาเจ้าแห่งทะเลคิดจะทำอะไรกันแน่เจ้าคะ?”เถาจื่อถามอย่างสงสัย “เหตุใดพวกเขามิพาพวกเราไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์?”ก่อนหน้านี้เซียวหลินเทียนยังคิดอยู่ว่า หากมิสามารถพาหลิงอวี๋ออกมาได้ ก็จะไปซุ่มรออยู่ใกล้ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อเตรียมพร้อมชิงตัวคนทว่ายามนี้ชายาเจ้าแห่งทะเลกลับมิเล่นตามตำรา เพียงแค่กักตัวหลิงอวี๋ไว้ในจวนเจ้าแห่งทะเล พวกเขามิกังวลว่าจะเกิดเรื่องมิคาดฝันขึ้นหรือไร?“มีความเป็นไปได้สองอย่าง ประการแรกคือ บางทีวิธีนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาอาจจะมิใช่วิธีสลายเลือดละลายกระดูกตามข่าวลือ แต่อาจจะเป็นวิธีอื่น!”“อย่างไรเสียข่าวลือเหล่านี้ก็แพร่มาหลายร้อยปีแล้ว อาจเป็นไปได้ว่า ตระกูลหลงจงใจปล่อยข่าวออกมาก็เพื่อข่มขวัญผู้ที่ละโมบอยากได้หยกหล้าสุขาวดี!”หลิงอวี๋วิเคราะห์อย่างใจเย็น“ส่วนอีกความเป็นไปได้หนึ่งก็คือ ตัวหยกหล้าสุขาวดีเองยังมีความลับอยู่ เจ้าแห่งทะเลมิรู้ ทว่าเขาคิดว่าข้ารู้ จ
ภารกิจของชายาเจ้าแห่งทะเลคือการงัดปากหลิงอวี๋ให้บอกวิธีเข้าไปในหยกหล้าสุขาวดีภารกิจนี้ยากยิ่ง!ชายาเจ้าแห่งทะเลยังมิอาจพูดตรง ๆ ได้ มิฉะนั้นก็เท่ากับเป็นการชี้ให้หลิงอวี๋ล่วงรู้ถึงความมิรู้ของพวกเขาเกี่ยวกับหยกหล้าสุขาวดีทั้งยังจะกระตุ้นให้หลิงอวี๋ไปค้นพบความลับของหยกหล้าสุขาวดี ถึงกาลนั้นเจ้าแห่งทะเลต้องการครอบครองหล้าสุขาวดีก็คงยากยิ่งกว่าการขึ้นสวรรค์เสียอีกเมื่อครู่ชายาเจ้าแห่งทะเลกำลังครุ่นคิดอย่างหนักว่าจะทำอย่างไรให้หลิงอวี๋ประนีประนอมยอมบอกความลับของหยกหล้าสุขาวดีออกมาอย่างว่าง่าย แต่คิดไปคิดมาก็ยังไม่มีแผนการที่ดีเลยนางทำได้เพียงลองหยั่งเชิงดูก่อน ดูว่าจะสามารถใช้เซียวหลินเทียนและบุตรชายของหลิงอวี๋มาเกลี้ยกล่อมให้นางคายความลับออกมาได้หรือไม่“หลิงอวี๋ เจ้าอย่าเพิ่งรีบปฏิเสธ ฟังเงื่อนไขที่ข้าจะมอบให้เจ้าก่อน!”ชายาเจ้าแห่งทะเลระงับโทสะไว้ และกล่าวอย่างเยือกเย็น “เจ้าคือฮองเฮาแห่งฉินตะวันตก เซียวเยวี่ยบุตรชายเจ้าคือรัชทายาทแห่งฉินตะวันตก แต่ไหนแต่ไรแผ่นดินนั้นของพวกเจ้ากับพวกเราก็มิเคยก้าวก่ายกัน!”“อีกทั้งสามีข้าก็คือบิดาของเจ้า พวกเราก็มิได้อยากจะฆ่าล้างพวกเจ้าหรอก
“หึหึ!”ชายาเจ้าแห่งทะเลหัวเราะออกมา “หลิงอวี๋ เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? หยกหล้าสุขาวดีหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าแล้ว ค้นตัวเจ้าจะหาเจอได้อย่างไร?”“หลิงอวี๋ หยกหล้าสุขาวดีมิใช่ของของเจ้าตั้งแต่แรก มารดาเจ้าเป็นนางโจร ขโมยมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของจวนเจ้าแห่งทะเลไป การให้เจ้าคืนมาก็แค่เป็นการคืนของสู่เจ้าของเดิม!”“ข้าสืบรู้มาหมดแล้ว เจ้าและเซียวหลินเทียนสามีของเจ้าต่างก็อยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ เจ้ายังมีบุตรชายอีกคนที่ฉินตะวันตก!”“หลิงอวี๋ ที่เจ้าปฏิเสธมิยอมรับฐานะของตนเองมาตลอด คงเป็นเพราะล่วงรู้ถึงวิธีที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาแล้วสินะ”“เจ้าคิดว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี ดังนั้นเจ้าจึงคิดว่า ขอเพียงมิยอมรับก็เป็นไปมิได้ที่พวกเราจะมัดตัวเจ้าไปสลายเลือดละลายกระดูกที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำหยกหล้าสุขาวดีออกมา!”ชายาเจ้าแห่งทะเลพูดถึงตรงนี้ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าเชื่อหรือไม่ ข้ามิจำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน ก็สามารถมัดตัวเจ้าไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!”“ที่ข้าให้คนนำตัวเจ้ามาที่จวนเจ้าแห่งทะเล ก็เพื่อจะให้โอกาสเจ้า!”หลิงอวี๋หรือจะยอมรับฐานะของตนเพียงเพราะชายาเจ้าแห่งทะเลพูดเช่นนี้ได้อย่าง
“เข้าไป อย่าให้พ่อบ้านผู้นี้ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง!”รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อบ้านเว่ยหายไปสิ้น กล่าวอย่างมิอดทน “เมื่อให้โอกาสดี ๆ มิชอบ ก็ต้องเจอดีเสียบ้าง!”เถาจื่อกำแขนหลิงอวี๋ไว้แน่น และถามผ่านสายตา“ตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”หลิงอวี๋ก็คาดมิถึงว่าจวนเจ้าแห่งทะเลจะเปลี่ยนท่าทีเร็วถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่า เมื่อเข้ามาในจวนเจ้าแห่งทะเลแล้วจะสามารถยื้อเวลาสักพักได้ชายาเจ้าแห่งทะเลมิปรากฏตัว แต่กลับให้พ่อบ้านเว่ยพาตนมาที่นี่เช่นนี้เลย?นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?คิดจะขังนางไว้ หรือว่ามีแผนอื่นกระไร?หลิงอวี๋มองไปยังท่าทีมีเจตนาร้ายของพวกพลธนูและชายร่างใหญ่หลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหล่านั้น นางและเถาจื่อไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไปได้เลย“เข้าไปก่อนเถอะ!”หลิงอวี๋นำหน้าเดินเข้าไป เถาจื่อตามติดอยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าประตูเรือน เมื่อเห็นสภาพข้างในก็รู้สึกว่ามิดีแน่ เพิ่งจะคิดถอยหลังเถาจื่อกลับถูกคนผลักจากด้านหลังอย่างแรง ชนเข้ากับร่างหลิงอวี๋จนดันหลิงอวี๋เข้าไปข้างในทั้งสองคนล้มลงไปกองรวมกัน ยังมิทันได้ลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงดังโครมสนั่นกล
หลงเพ่ยเพ่ยห้อยอยู่บนชะง่อนผานั้น นางเองก็ทนต่อไปมิไหวแล้ว ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของทุกคน นางจึงปีนป่ายเชือกขึ้นไปนางนึกถึงจุดประสงค์ที่ตนมาที่นี่ หากเย่หรงตายไปแล้วจริง ๆ เขาย่อมหวังให้นางช่วยหลิงอวี๋ออกมาได้อย่างแน่นอนนางมิอาจทำให้เย่หรงตายตามิหลับได้!เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยปีนขึ้นมาได้ก็มิสนใจตรวจสอบบาดแผลของตน นางคุกเข่าลงต่อหน้าฮองเฮาทันทีนางกล่าวเสียงเครือ “เสด็จย่า เรื่องที่ทรงรับปากหม่อมฉันเมื่อครู่ สามารถประทานพระราชโองการให้หม่อมฉันตอนนี้ได้หรือไม่เพคะ?”“เมื่อครู่เย่หรงช่วยชีวิตหม่อมฉันและหยวนซานไว้ เพียงเห็นแก่บุญคุณทั้งสองครั้งนี้ เสด็จย่าทรงควรจะช่วยให้เขาสมหวังนะเพคะ!”ฮองเฮานึกถึงเรื่องที่เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยอ้อนวอนตนเมื่อครู่ เย่หรงเป็นถึงเพียงนี้แล้ว นางจะยังทำให้คนที่เขาชอบพอลำบากใจได้อีกหรือ?ฮองเฮาถอดปิ่นปักผมอันหนึ่งของตนออกมาโดยมิทันคิด แล้วยื่นให้กับหลงเพ่ยเพ่ย“ถือปิ่นปักผมนี้ไปพาตัวสิงอวี๋ออกมาเถอะ!”หลงเพ่ยเพ่ยรับปิ่นปักผมหงส์คู่ปักทองคำของฮองเฮามาทั้งน้ำตา นี่คือปิ่นปักผมที่ฮองเฮาเท่านั้นจึงจะสวมใส่ได้ เห็นปิ่นดังเห็นองค์ เทียบเท่ากับพระราชโองการของฮองเฮ
“ท่านหญิง...”“เพ่ยเพ่ย...”ฮองเฮาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยตกลงไปก็ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ ผานกกระเรียนแห่งนี้เป็นปรปักษ์กับราชวงศ์หรืออย่างไร?เหตุใดถึงได้ตกลงไปทีละคนเช่นนี้?“เร็วเข้า ช่วยคน!”ฮองเฮาตะโกนลั่น นางกำนัลที่มีไหวพริบรีบไปตามองครักษ์มาช่วยทางด้านเย่หรงทรงตัวได้มั่นคงบนชะง่อนผาแล้ว เขาเพิ่งจะถอนหายใจโล่งอกก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านบนเมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นหลงเพ่ยเพ่ยกำลังร่วงหล่นลงมาหัวใจของเย่หรงหดเกร็งวูบ มิทันได้คิด คว้าเถาวัลย์ข้าง ๆ แล้วโหนตัวไปหาหลงเพ่ยเพ่ยหลงเพ่ยเพ่ยตกใจจนหลับตาลงแล้ว เตรียมพร้อมยอมรับความตายแต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนตนชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง จากนั้นร่างก็ถูกกอดไว้“ไปทางนั้น เร็วเข้า คว้าชะง่อนผานั่นไว้!”เย่หรงพลิกตัวกลางอากาศ เหวี่ยงหลงเพ่ยเพ่ยไปทางนั้น หลงเพ่ยเพ่ยพุ่งเข้าใส่ผนังผา แต่ใช้แรงมากเกินไปจนใบหน้าชนกับผนังผาจนถลอก นางเจ็บเสียจนหน้ามืดตาลายแต่นางมิสนใจความเจ็บปวดแทบขาดใจ เช่นเดียวกันกับเย่หรง เขาพยายามสุดชีวิตที่จะคว้าเถาวัลย์เหล่านั้นไว้โชคดีที่เถาวัลย์ฝั่งนี้ยังพันเกี่ยวกับกิ่งไม้มากมาย เถาวัลย์ที่พันกิ่งไม้ไว้นั้
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว