LOGINแมวตัวผู้ หลบอยู่ในบ้านลูกกวาด
เยว่จือกำลังดูแลสองแฝดในครัวที่กำลังมีความสุขมากกับอาหารง่าย ๆ ที่ม่านอวี้อันทำให้ พอเด็กสาวเห็นม่านอวี้อันถือของกินเข้ามา เธอจึงกุลีกุจอไปช่วยถือ ขณะนั้นเด็กชายทั้งสองต่างมองตาโต พวกเขาคิดว่าวันนี้คงเป็นปีใหม่หรือวันเด็ก แม่ถึงได้รับของแจกเข้าบ้านเยอะแยะไปหมด
“มัมมี้ ให้น้องช่วยไหม” เซียงเจียวยิ้ม ดวงตากลมโตของเขาเป็นประกาย
“ไม่เป็นไรเจียวเกอ กินข้าวให้เรียบร้อย เวลาเคี้ยวอาหารต้องไม่พูดนะจ๊ะ เดี๋ยวติดคอ”
เซียงเจียวพยักหน้ารับคำม่านอวี้อัน ส่วนผิงกั่วหันมามองเธอ สายตาเขาดูมีพิรุธอยู่สักหน่อย
“เอ ผิงเกอ ไม่ชอบไข่ข้นกับมันฝรั่งบดเหรอลูก กินหมี่ผัดกับไก่ย่างไหม ป้าลี่เอามาฝาก”
เธอบอกลูกคนโตแล้ววางจานอาหารที่ลี่ฮุ่ยเอามาให้ลงบนโต๊ะ เด็กชายไม่ตอบแต่หันไปมองไก่ย่าง พอเห็นน้องชายหยิบขาไก่ขึ้นกัด เขาจึงเลือกชิ้นที่ชอบแล้วนั่งกินเงียบ ๆ ผิงกั่วของเธอช่างเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย
“มาดามเรียกอาหารเข้าบ้านได้จริงด้วย นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะ” เยว่จือถาม เด็กสาวตื่นเต้นไม่แพ้ฝาแฝด
ม่านอวี้อันไม่ใช่เทพเซียนหรือนางฟ้านางสวรรค์ เธอมาที่นี่โดยไม่มีลิ้นชักมหัศจรรย์ สัตว์เทพช่วยเนรมิตอาหาร หรือห้องเก็บอุปกรณ์ต่างภพที่สามารถหยิบฉวยเครื่องปรุงต่าง ๆ ได้ดั่งใจนึกอย่างหนังสือที่เคยอ่านเมื่อตัวละครเอกย้อนเวลามาในโลกอื่น เธอก็แค่คนธรรมดา ที่จะไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองอดอยากและหิวจนเป็นลมตาย ซึ่งตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือเรื่องปากท้อง เธอย่อมหาทางเอาตัวรอดให้ได้ เมื่อไม่มีเงิน จึงต้องใช้สมองกับความรู้ที่มีในตัวอย่างเต็มที่
“ฉันก็ใช้ฝีมือและการเล่นงิ้วเล็ก ๆ น้อย ๆ บางทีเราก็ควรจะหัดร้องรำให้เกินจริงสักหน่อย จำไว้นะเยว่จือ โลกไม่โหดร้ายเกินไป ขอเพียงเธอลุกขึ้นสู้ด้วยสมองและสองมือ ถ้าล้มก็ลุกขึ้นใหม่ ถ้าล้มอีก ถึงเสียน้ำตาหรือเจ็บหนักก็ต้องลุกให้ได้ด้วยสองขาตัวเอง!”
เยว่จือฟังคุณผู้หญิงของตนอย่างตั้งใจ นับแต่อีกฝ่ายฟื้นขึ้นจากการนอนซมเพราะพิษไข้ ทุกอย่างล้วนเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี
“แต่ยังไงมาดามอย่าลืมว่าอีกสามวันเฮียถังจะมากินข้าวเย็นที่ร้านพร้อมพี่อิง น้องสาวเขา”
“ได้สิ ฉันจะเตรียมพรมแดงไว้ต้อนรับเลย หมอนั่นกล้ามาทำให้เธอเจ็บตัว แถมยังคิดจะมาเอาเปรียบกันอีก ยังไงงานนี้ คงได้เลือด! เอ๊ย ได้อิ่มจนพุงกาง และเขาจะต้องเสียน้ำตาให้เธอได้เห็น!”
เด็กสาวได้ยินน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ ประกอบกับสีหน้าสีตาของม่านอวี้อันที่ชวนให้ฮึกเหิม เธอเลยยิ้มออก
“เค้กกล้วยหอมนั่น มาดามคิดว่าพวกเขาจะชอบไหมคะ” เด็กสาวหมายถึงกลุ่มแม่บ้านที่นั่งคุยกันจ้อกแจ้กบริเวณร้านอาหารหน้าบ้าน
“ฉันมั่นใจในฝีมือของตัวเอง แต่อาจไม่เต็มสิบ เพราะของไม่ครบ อีกอย่างต้องบอกว่าฉันพึ่งฟื้นไข้ ลิ้นเลยรับรสชาติแปลก ๆ อยู่สักหน่อย”
“เอ๋ ถ้าอย่างนั้น ป้าลี่จะโม่โวยวายหรือมาดาม”
“อย่าใส่ใจ อีกฝ่ายลิ้นจระเข้ กินอะไรก็คงถูกปากแหละ แต่ว่า... ถ้าเธอรู้ว่าไม่ใช่สูตรตัวเอง คงหาเรื่องจับผิดฉันจนได้”
“แย่จริง บอกตามตรง หนูกลัวแทนมาดามยังไงไม่รู้ โดยเฉพาะเมียเถ้าแก่โจว ผู้หญิงคนนั้นชอบยุ่งเรื่องคนอื่น ป้าลี่ว่าร้ายแล้ว ยายแม่มด โรส ยิ่งไว้ใจไม่ได้เลย”
ม่านอวี้อันพยักหน้าตามสิ่งที่เยว่จือเอ่ย และดีใจอยู่ลึก ๆ ที่อย่างน้อยเด็กสาวก็รู้จักคิดว่าควรระวังตัวจากโรส เมียเถ้าแก่โจว
“เอ่อ มาดามคะ” เยว่จือดึงแขนม่านอวี้อัน พาเธอออกห่างจากฝาแฝดที่กำลังสนุกสนานกับการกินไก่ย่างกับผัดเส้นหมี่ใส่ไข่ของลี่ฮุ่ย
“ตอนที่พาน้องผิงเข้ามาในครัว หนูเห็นมือข้างหนึ่งของผิงเกอกำห่อขนมไว้แน่น!”
“ขนม แล้วทำไมเหรอ”
“คือ... มาดามไม่ได้ซื้อของเข้าบ้านเป็นเดือนเพราะต้องประหยัดเงิน อีกอย่างขนมแบบนั้น หนูเห็นติดป้ายโฆษณาที่ร้านพี่ข่ายว่ามันทำขึ้นเป็นพิเศษต้อนรับการแข็งขันกีฬา ราคาเกือบสองดอลลาร์เลยนะคะ”
เยว่จือกล่าวถึงขนมโกโก้แท่ง ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนการแข่งขันกีฬาระดับโลกครั้งนี้ ทั้งยังออกผลิตภัณฑ์มาอย่างหลากหลาย รวมถึงขนมที่เด็กแฝดเพิ่งได้ลิ้มรสด้วย
“หมายความว่า ผิงเกอขโมยเงินในบ้านไปซื้อใช่ไหม” ม่านอวี้อันถาม ถึงแม้ราคาสองดอลลาร์ในยุคของเธอ คงจะซื้อไข่เบอร์ศูนย์ได้แค่ฟองเดียวเท่านั้น ทว่าหากเป็นยุค 80s ราคาดังกล่าวนั้นเท่ากับโจ๊กห้าสหายขึ้นเหลาสักชามหรือข้าวผัดไข่รวมมิตรทะเล
“ไม่ใช่ นายน้อยผิงไม่มีนิสัยแบบนั้น และถึงจะมี เขาคงไม่รู้จะหาเงินจากในบ้านได้ยังไงค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้น ตอนที่ฉันนอนซมเพราะพิษไข้ พวกเขาออกไปโมยของบ้านอื่นใช่ไหม” น้ำเสียงม่านอวี้อันสูงผิดปกติ เธอไม่คิดว่าความจนและความหิวจะสามารถบีบบังคับให้เด็กน้อยทั้งสองริเป็นโจรตั้งแต่อายุเพียงเท่านี้
เยว่จือส่ายหน้าและถอนหายใจราวกับมีเรื่องเครียดหนัก
“เอาละ เธออยากจะบอกอะไรกันแน่”
เยว่จือสูดลมหายใจลึก เธอขนลุกซู่ขึ้นมาโดยพลัน ใจคอไม่สู้ดี ภาพดวงตาคม ๆ คู่นั้นที่มองมาในยามที่เธอเผชิญหน้ากับแก๊งมังกรซิ่งลอยเข้ามาในหัว
“เอ่อ ‘เขา’ คงแอบย่องมาหานายน้อยทั้งสองคนแน่นอนค่ะ”
“เยว่จือ เธอกำลังจะทำให้ฉันกรี๊ดลั่นครัวรู้ไหม เลิกอมพะนำ และพูดให้รู้เรื่องเสียทีว่า ‘เขา’ ที่พูดถึงเนี่ยเป็นใครหา!”
ม่านอวี้อันเกือบหมดความอดทน จึงเอ่ยเสียงดังอยู่สักหน่อย
“เขา... ก็คือกู๋กุ่ยไงคะ คงแอบเอาขนมมาให้นายน้อยทั้งสองคนตอนที่หนูไม่อยู่บ้าน ดีไม่ดีแมวตัวโตนิสัยเสียนั่นอาจกำลังหลบอยู่ในบ้านหลังนี้แน่ ๆ”
ได้ฟังคำนั้น ม่านอวี้อันจึงช็อก แล้วความรู้สึกในห้องนั่งเล่นเมื่อครู่ก็ย้อนคืนกลับมา ยามนั้นเธอสัมผัสได้ว่ามีเงาคนอยู่ในห้องดังกล่าว!
จากนั้นม่านอวี้อันก็รีบตัดเค้กกล้วยหอมให้เป็นชิ้นด้วยมือที่สั่นอยู่สักหน่อย ตัดเสร็จจึงห่อด้วยกระดาษแก้ว บอกให้เยว่จือนำไปแจกสมาคมแม่บ้านข้างนอกคนละเท่า ๆ กัน และกำชับว่าให้นำไปแช่ตู้เย็นสักสองสามชั่วโมง หรือให้ดีที่สุด พรุ่งนี้เช้าค่อยกินกับกาแฟหรือนมอุ่น ๆ จะได้รับรสชาติที่เยี่ยมยอดแบบต้นตำรับ เสร็จแล้วเธอจึงกลับเข้าไปในห้องนั่งเล่น ในมือถือไม้นวดแป้งอันใหญ่ไปด้วย หญิงสาวได้กลิ่นกายผู้ชาย กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของสบู่ และน้ำยาโกนหนวดที่ผสมกลิ่นเฉพาะตัว ความรู้สึกแรกคือขนลุกซู่ เหตุใดเธอจึงคุ้นเคยกับสัมผัสลึกซึ้งนี้เหลือเกิน ราวกับเป็นกลิ่นกายของผู้ชายที่อยู่เคียงข้างม่านอวี้อันมาโดยตลอด!
“นั่นใคร หลบอยู่หลังตู้ใช่ไหม ออกมานะ ไม่อย่างนั้นฉันจะตัดฟาดให้สลบ จากนั้นก็ตัดหนอนน้อยให้ขาด แล้วโยนให้เป็ดกิน!”
ม่านอวี้อันตวาดเสียงดัง และมันทำให้เธอขจัดความตื่นเต้นลงไปได้เปราะหนึ่ง จากนั้นจึงสืบเท้าไปยังเบื้องหน้า ยามนี้เธอรู้เพียงแต่ว่าเธอต้องเป็นเสาหลักให้ครอบครัวเล็ก ๆ ซึ่งหากไม่ลุกขึ้นสู้หรือมัวแต่ขี้ขลาด เธอก็คงต้องอยู่ในโลกใบนี้อย่างหวาดระแวงไปตลอด และกู๋กุ่ยของลูกชายเธอ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นคนดี หรือผีร้ายจอมรังควาน ม่านอวี้อันต้องคุยกันให้รู้เรื่อง
แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อเดินตรวจทั่วห้องหนังสือแล้ว ม่านอวี้อันกลับไม่พบใครสักคน และแม้ว่าผลออกมาเช่นนั้น แต่เธอกลับไม่สบายใจเอาเสียเลย
และก่อนที่ชายหนุ่นจะสลบ ทั้งพยาบาล คุณหมอ และม่านอวี้อันได้ยินเขาบอกว่า “อาหมวย พี่สัญญา เมื่ออาหมวยแข็งแรงแล้ว พี่จะรีบไปทำหมัน!” คำพูดเขาทำให้ม่านอวี้อัน รับรู้ได้ว่าสามีสุดหล่อของเธอ มอบความรักให้มากแค่ไหน และเวลาผ่านไปเพียงครึ่งชั่วโมง ม่านอวี้อันก็คลอดเด็กหญิงแสนน่ารัก กระทั่งคุณหมอแจ้งข่าวด้านนอกให้ทุกคนที่รอฟังอยู่ พวกเขาก็ดีใจ โดยเฉพาะสองฝาแฝด กระนั้นเด็กๆ ก็ยังไม่เข้าใจว่า น้องผู้หญิงนั้นแตกต่างจากน้องผู้ชายอย่างไร “น้องผู้หญิง มีช้างน้อยเหมือนเถียนเถียนไหมคะ” เซียงเจียวถาม เยว่จือ ลูกของโรสคลอดออกมาเป็นเด็กชาย และเขาได้เห็นเถียนเถียนตัวอ้วน เวลาฉี่นั้นทำให้เขาต้องหัวเราะ ด้วยช้างน้อยของน้อง ปล่อยน้ำออกมาราวกับน้ำพุ มันพุ่งสูงเลยทีเดียว เยว่จือไม่ได้ตอบ เธอเอาแต่ขำหนัก ลี่ฮุ่ยจึงบอกว่า “ไม่เหมือนกันจ๊ะ น้องที่คลอดเป็นเด็กผู้หญิง ต่อไปเจียวเกอ กับผิงเกอต้องดูแลน้องให้ดีช่วยแม่กับพ่อรู้ไหม” “น้องจะมีผมยาวๆ ใช่ไหม และถักเปียหรือเปล่า” ผิงกั่วถาม “ใช่แล้ว น้องผมยาว ใส่ชุดสวย” ลี่ฮุ่ยตอบ “แสดงว่า ต้องใ
บทส่งท้าย ม่านอวี้อันได้ทำในสิ่งที่เธอปรารถนาสำเร็จไปขั้นหนึ่งแล้ว คือเมนูอาหารกลางวันให้เด็กๆ ไม่ใช่แค่โรงเรียนเครือสมาคมห้าสหาย แต่หมายถึงเด็กๆ ทั้งประเทศ นอกจากนั้นเมนูต่างๆ ที่เธอเคยทำขายยังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยที่เธอไม่ได้หวงสูตรสักนิด แจกจ่ายออกไปให้ผู้คน ใครมีความสามารถอย่างไรก็ปรับเปลี่ยนตามนั้น และที่สำคัญ เค้กไข่ของม่านอวี้อัน หลังจากได้ติดดาวหนึ่งดวงก็กลายเป็นเค้กที่มีขายอยู่ทุกมุมถนน นอกจากนั้นยังมีการส่งออกไปต่างประเทศ เป็นของขึ้นชื่อของประเทศไคหมิง ยามนี้สิ่งที่เธอเชื่อมั่นว่าจะไม่เกิดเรื่องเศร้า หรือเหตุการณ์ที่ส่งผลให้อนาคตของลูกชายฝาแฝดทั้งสองคนต้องตัดพี่ตัดน้องกันก็คือ เธอต้องอยู่ที่โลกนี้ต่อไป ทำหน้าที่ม่านอวี้อันอย่างสมบูรณ์ที่สุด ส่วน ลิซ่า จาง ก็ให้เป็นเพียงเรื่องในภาพความทรงจำที่เคยเกิดขึ้น และเธอจะระลึกถึงสิ่งต่างๆ ที่เคยได้กระทำมา รวมถึงหลายชีวิตที่มุ่งร้ายหาผลประโยชน์ต่อเธอ ดังนั้นเมื่อไม่มี ลิซ่า จาง... เธอคงไม่ต้องรับรู้ถึงความเจ็บปวดเหล่านั้น และไม่ต้องคิดหาวิธีแก้แค้นผู้อื่น และในวันนี้ เธออยู่ที่นี่ อยู่กับครอบครัว
“อาถัง...คุมตัวแม็กกี้เอาไว้ และมีตำรวจอยู่ด้วย” “เอ๋ มันยังไงกันคะ” “แม็กกี้ ทำงานช่วยเหวินเฉียงหลายอย่างตั้งแต่ต้นปี รวมถึงมีชื่อของเธอเกี่ยวข้องธุรกิจฟอกเงิน ส่วน ม่านหงกับถานเซียะ คงต้องไปเที่ยวห้องขังตอนแก่หลายปี” ม่านอวี้อันรู้ว่าครอบครัวฝ่ายนั้นร้ายกาจกับเจ้าของร่างนี้ อันที่จริงเธออยากให้พวกเขาไปใช้กรรมในคุก ทว่าเมื่อได้มาอยู่ในโลกคู่ขนาน และเรียนรู้จักหลายสิ่งอย่างแท้จริง เธอกลับอยากให้อภัยทุกคน เพราะสุดท้ายแล้ว สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือการมีลมหายใจโดยปราศจากคนรัก และครอบครัว “ฉันสงสารพวกเขานะคะ ต่อจากนี้คงยากจะได้อยู่กันพร้อมหน้า อีกอย่างดูเหมือนทุกคนไม่เคยมีความสุขอย่างแท้จริง” “ป้ากับลุงของอาหมวย รวมถึงแม็กกี้ ต่างอยากร่ำรวย และอยู่เหนือคนอื่น สุดท้ายเลยอาศัยทางลัด และมีชีวิตที่เหลือน่าเศร้าแบบนี้” แจ็คสันตอบม่านอวี้อัน ก่อนมองไปยังเคนนี่ และคุณนายหัว “แล้วเหล่ากงล่ะคะ ครอบครัวสำคัญมากแค่ไหน” ชายหนุ่มมีสีหน้าขรึมเข้ม เขาโกรธคนเหล่านั้นหรือไม่ ทั้งการที่คุณนายหัว ให้เขาแต่งงานในครั้งนั้น
มากกว่ารางวัล เมนูจากทั้งสามทีมขึ้นโต๊ะกรรมการเรียบร้อยแล้ว และไม่ได้สร้างความประหลาดใจแก่ผู้ชมอย่างที่ใครหลายคนคาดไว้ แต่สำหรับผู้เป็นกรรมการต่างคิดอีกแบบ พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าจะได้พบจานอาหารแสนพิสดาร ดังนั้นแต่ละทีมจึงมีเมนูเรียบง่ายคือ สีแดงเป็นไข่ดองซีอิ๋ว ทีมสีเหลืองคือออมเล็ต ส่วนม่านอวี้อันทำเป็นของหวานเพียงทีมเดียวนั่นคือ เค้กไข่นุ่มฟู ผลจากรอบแรกคะแนนค่อยข้างจะก่ำกึ่งกัน อาหารของม่านอวี้อันอยู่ในลำดับที่สอง ฝ่ายเหยียนเหยานั้นเด็กๆ ชอบมาก เนื่องจากมีทั้งไก่ต้มที่นุ่ม กับไก่ทอดกรอบยิ่งกินยิ่งเพลิน อีกอย่างเมื่อพวกเขาเลือกทำข้าวมันไก่ ข้าวที่หุงเมล็ดสวย มีน้ำมันไก่ซึมอยู่ข้างใน ยิ่งกินยิ่งหยุดไม่ได้ เรื่องนี้ม่านอวี้อันรู้ผลลัพธ์แต่แรก กระนั้นคะแนนจากแฮมเบอร์เกอร์ กับส้มตำทอดของเธอก็ไม่ได้ด้อยกว่าอีกฝ่าย เรียกได้ว่าเฉือนกันไปเพียงสามแต้มเท่านั้น คือจากคะแนนเต็มสองร้อยคะแนน ทีมสีเหลืองได้ไป 39 คะแนน ทีมเหยียนเหยา 82 คะแนน ส่วนเธอได้ 79 คะแนน มาร์คเดินมาทักทายทุกทีมอย่างเป็นกันเอง พร้อมให้คำชมไม่ขาดปาก ฝ่ายหมิงซือชอบอาหารของเหยียนเหยา เอ่ยว่าไก่ต้ม ก
“แม็กกี้ ผมให้โอกาสคุณทำความดี ถ้าสารภาพเรื่องทั้งหมด ผมจะคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แล้วกันคุณเป็นพยาน อย่าลืมว่า...หลายสิ่งที่คุณทำไว้ก่อนหน้านี้ เป็นความผิดที่สามารถตามสืบค้นได้” “อย่ามากล่าวหาฉันมั่วๆ ฮึ คุณจะทำอะไรฉันได้ห๊า!” แม็กกี้โวยใส่แจ็คสัน และเขาใจยังเย็น ทว่าคนที่ก้าวมาสมทบคือไห่ถัง ฝ่ายนั้นไม่ใช่ผู้ชายที่จะอดทนกับความร้ายกาจของแม็กกี้ได้ “อย่าให้อั๊วต้องตบคนหน้าสวยๆ จนปากฉีก รีบคลายความลับออกมาแม็กกี้!” เมื่อได้ยินคำขู่ และความเลือดร้อนของไห่ถัง แม็กกี้จึงครั่นคร้ามใจ เธอพยายามสู้อีกฝ่ายด้วยสายตา และยืนกระต่ายขาเดียวว่าไม่รู้ ไม่เห็นสิ่งใด ทว่าไห่ถังแสยะยิ้มอวดฟันสีทอง พร้อมสั่งให้ลูกน้องเขาส่งกล่องไม้ใบหนึ่งให้เธอ “เห็นว่าคุณอยากได้ ของขวัญใช่ไหม!” “อะไร !?” แม็กกี้ว่าถามเสียงห้วน สีหน้าสีตาเธอ หวาดระแวงไห่ถัง กระทั่งเขากล่องไม้ยื่นให้แม็กกี้รับไว้ ซึ่งเธอไม่กล้าเปิดออกดูด้วยซ้ำ “มีคนฝากมาให้คุณ” “ใคร?” “พวกลูกหมาที่คุณสั่งให้มันทำชั่วกับหลานรักของอั๊วไง” เอ่ยจบ ไห
ปะ ป๊า เก่งที่สุด ผลคะแนนอาหารสำหรับคุณหนูยังไม่ได้ประกาศ นั่นเป็นเพราะกรรมการหลักมีข้อสงสัยเรื่องการปรุงและส่วนประกอบในอาหาร จึงขอพิจารณาอย่างละเอียดอีกครั้ง ดังนั้นรายการถัดไปจึงแจ้งว่า จะแข่งจานสุดท้ายอีกแค่จานเดียว! เสียงฮือฮาดังขึ้น เพราะมีการปรับเปลี่ยนเช่นนี้ ฝ่ายเหยียนเหยาซึ่งมั่นใจว่าตนมีคะแนนนำทั้งสองทีมอยู่ ไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอะไร หากทีมชาวต่างชาติกลับโวยลั่นสนานแข่ง บอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่เป็นตามข้อตกลง เมื่อมีการประท้วง จึงมีการพักเวลาแข่งขันชั่วคราว เป็นตอนนั้นที่ม่านอวี้อัน รีบก้าวมาหาโรสกับเถ้าแก่โจว “เล่าทุกอย่างให้ฉันฟังได้ไหมคุณโรส” “มาดาม ทุกคนทำเต็มที่แล้ว ไม่มีใครโทษมาดามเลย ส่วนเรื่องที่เหลือ ให้เป็นหน้าที่ของคุณแจ็ค และเฮียถังเถอะนะ...” “หมายความว่ายังไง มีเรื่องอื่นนอกจากแม่ถูกยิงใช่ไหม” ม่านอวี้อันไม่อยากคาดคั้นโรส อีกฝ่ายกำลังท้องไส้ ไม่ควรรับแรงกดดันหรือเรื่องเครียด ซึ่งตัวเธอก็เหมือนกัน โรสมองเถ้าแก่โจว เธอลำบากใจที่จะเอ่ยสิ่งต่อจากนั้น ทว่าชายวัยกลางคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ เขากล่าว







