แมวตัวผู้ หลบอยู่ในบ้านลูกกวาด
เยว่จือกำลังดูแลสองแฝดในครัวที่กำลังมีความสุขมากกับอาหารง่าย ๆ ที่ม่านอวี้อันทำให้ พอเด็กสาวเห็นม่านอวี้อันถือของกินเข้ามา เธอจึงกุลีกุจอไปช่วยถือ ขณะนั้นเด็กชายทั้งสองต่างมองตาโต พวกเขาคิดว่าวันนี้คงเป็นปีใหม่หรือวันเด็ก แม่ถึงได้รับของแจกเข้าบ้านเยอะแยะไปหมด
“มัมมี้ ให้น้องช่วยไหม” เซียงเจียวยิ้ม ดวงตากลมโตของเขาเป็นประกาย
“ไม่เป็นไรเจียวเกอ กินข้าวให้เรียบร้อย เวลาเคี้ยวอาหารต้องไม่พูดนะจ๊ะ เดี๋ยวติดคอ”
เซียงเจียวพยักหน้ารับคำม่านอวี้อัน ส่วนผิงกั่วหันมามองเธอ สายตาเขาดูมีพิรุธอยู่สักหน่อย
“เอ ผิงเกอ ไม่ชอบไข่ข้นกับมันฝรั่งบดเหรอลูก กินหมี่ผัดกับไก่ย่างไหม ป้าลี่เอามาฝาก”
เธอบอกลูกคนโตแล้ววางจานอาหารที่ลี่ฮุ่ยเอามาให้ลงบนโต๊ะ เด็กชายไม่ตอบแต่หันไปมองไก่ย่าง พอเห็นน้องชายหยิบขาไก่ขึ้นกัด เขาจึงเลือกชิ้นที่ชอบแล้วนั่งกินเงียบ ๆ ผิงกั่วของเธอช่างเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย
“มาดามเรียกอาหารเข้าบ้านได้จริงด้วย นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะ” เยว่จือถาม เด็กสาวตื่นเต้นไม่แพ้ฝาแฝด
ม่านอวี้อันไม่ใช่เทพเซียนหรือนางฟ้านางสวรรค์ เธอมาที่นี่โดยไม่มีลิ้นชักมหัศจรรย์ สัตว์เทพช่วยเนรมิตอาหาร หรือห้องเก็บอุปกรณ์ต่างภพที่สามารถหยิบฉวยเครื่องปรุงต่าง ๆ ได้ดั่งใจนึกอย่างหนังสือที่เคยอ่านเมื่อตัวละครเอกย้อนเวลามาในโลกอื่น เธอก็แค่คนธรรมดา ที่จะไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองอดอยากและหิวจนเป็นลมตาย ซึ่งตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือเรื่องปากท้อง เธอย่อมหาทางเอาตัวรอดให้ได้ เมื่อไม่มีเงิน จึงต้องใช้สมองกับความรู้ที่มีในตัวอย่างเต็มที่
“ฉันก็ใช้ฝีมือและการเล่นงิ้วเล็ก ๆ น้อย ๆ บางทีเราก็ควรจะหัดร้องรำให้เกินจริงสักหน่อย จำไว้นะเยว่จือ โลกไม่โหดร้ายเกินไป ขอเพียงเธอลุกขึ้นสู้ด้วยสมองและสองมือ ถ้าล้มก็ลุกขึ้นใหม่ ถ้าล้มอีก ถึงเสียน้ำตาหรือเจ็บหนักก็ต้องลุกให้ได้ด้วยสองขาตัวเอง!”
เยว่จือฟังคุณผู้หญิงของตนอย่างตั้งใจ นับแต่อีกฝ่ายฟื้นขึ้นจากการนอนซมเพราะพิษไข้ ทุกอย่างล้วนเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี
“แต่ยังไงมาดามอย่าลืมว่าอีกสามวันเฮียถังจะมากินข้าวเย็นที่ร้านพร้อมพี่อิง น้องสาวเขา”
“ได้สิ ฉันจะเตรียมพรมแดงไว้ต้อนรับเลย หมอนั่นกล้ามาทำให้เธอเจ็บตัว แถมยังคิดจะมาเอาเปรียบกันอีก ยังไงงานนี้ คงได้เลือด! เอ๊ย ได้อิ่มจนพุงกาง และเขาจะต้องเสียน้ำตาให้เธอได้เห็น!”
เด็กสาวได้ยินน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ ประกอบกับสีหน้าสีตาของม่านอวี้อันที่ชวนให้ฮึกเหิม เธอเลยยิ้มออก
“เค้กกล้วยหอมนั่น มาดามคิดว่าพวกเขาจะชอบไหมคะ” เด็กสาวหมายถึงกลุ่มแม่บ้านที่นั่งคุยกันจ้อกแจ้กบริเวณร้านอาหารหน้าบ้าน
“ฉันมั่นใจในฝีมือของตัวเอง แต่อาจไม่เต็มสิบ เพราะของไม่ครบ อีกอย่างต้องบอกว่าฉันพึ่งฟื้นไข้ ลิ้นเลยรับรสชาติแปลก ๆ อยู่สักหน่อย”
“เอ๋ ถ้าอย่างนั้น ป้าลี่จะโม่โวยวายหรือมาดาม”
“อย่าใส่ใจ อีกฝ่ายลิ้นจระเข้ กินอะไรก็คงถูกปากแหละ แต่ว่า... ถ้าเธอรู้ว่าไม่ใช่สูตรตัวเอง คงหาเรื่องจับผิดฉันจนได้”
“แย่จริง บอกตามตรง หนูกลัวแทนมาดามยังไงไม่รู้ โดยเฉพาะเมียเถ้าแก่โจว ผู้หญิงคนนั้นชอบยุ่งเรื่องคนอื่น ป้าลี่ว่าร้ายแล้ว ยายแม่มด โรส ยิ่งไว้ใจไม่ได้เลย”
ม่านอวี้อันพยักหน้าตามสิ่งที่เยว่จือเอ่ย และดีใจอยู่ลึก ๆ ที่อย่างน้อยเด็กสาวก็รู้จักคิดว่าควรระวังตัวจากโรส เมียเถ้าแก่โจว
“เอ่อ มาดามคะ” เยว่จือดึงแขนม่านอวี้อัน พาเธอออกห่างจากฝาแฝดที่กำลังสนุกสนานกับการกินไก่ย่างกับผัดเส้นหมี่ใส่ไข่ของลี่ฮุ่ย
“ตอนที่พาน้องผิงเข้ามาในครัว หนูเห็นมือข้างหนึ่งของผิงเกอกำห่อขนมไว้แน่น!”
“ขนม แล้วทำไมเหรอ”
“คือ... มาดามไม่ได้ซื้อของเข้าบ้านเป็นเดือนเพราะต้องประหยัดเงิน อีกอย่างขนมแบบนั้น หนูเห็นติดป้ายโฆษณาที่ร้านพี่ข่ายว่ามันทำขึ้นเป็นพิเศษต้อนรับการแข็งขันกีฬา ราคาเกือบสองดอลลาร์เลยนะคะ”
เยว่จือกล่าวถึงขนมโกโก้แท่ง ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนการแข่งขันกีฬาระดับโลกครั้งนี้ ทั้งยังออกผลิตภัณฑ์มาอย่างหลากหลาย รวมถึงขนมที่เด็กแฝดเพิ่งได้ลิ้มรสด้วย
“หมายความว่า ผิงเกอขโมยเงินในบ้านไปซื้อใช่ไหม” ม่านอวี้อันถาม ถึงแม้ราคาสองดอลลาร์ในยุคของเธอ คงจะซื้อไข่เบอร์ศูนย์ได้แค่ฟองเดียวเท่านั้น ทว่าหากเป็นยุค 80s ราคาดังกล่าวนั้นเท่ากับโจ๊กห้าสหายขึ้นเหลาสักชามหรือข้าวผัดไข่รวมมิตรทะเล
“ไม่ใช่ นายน้อยผิงไม่มีนิสัยแบบนั้น และถึงจะมี เขาคงไม่รู้จะหาเงินจากในบ้านได้ยังไงค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้น ตอนที่ฉันนอนซมเพราะพิษไข้ พวกเขาออกไปโมยของบ้านอื่นใช่ไหม” น้ำเสียงม่านอวี้อันสูงผิดปกติ เธอไม่คิดว่าความจนและความหิวจะสามารถบีบบังคับให้เด็กน้อยทั้งสองริเป็นโจรตั้งแต่อายุเพียงเท่านี้
เยว่จือส่ายหน้าและถอนหายใจราวกับมีเรื่องเครียดหนัก
“เอาละ เธออยากจะบอกอะไรกันแน่”
เยว่จือสูดลมหายใจลึก เธอขนลุกซู่ขึ้นมาโดยพลัน ใจคอไม่สู้ดี ภาพดวงตาคม ๆ คู่นั้นที่มองมาในยามที่เธอเผชิญหน้ากับแก๊งมังกรซิ่งลอยเข้ามาในหัว
“เอ่อ ‘เขา’ คงแอบย่องมาหานายน้อยทั้งสองคนแน่นอนค่ะ”
“เยว่จือ เธอกำลังจะทำให้ฉันกรี๊ดลั่นครัวรู้ไหม เลิกอมพะนำ และพูดให้รู้เรื่องเสียทีว่า ‘เขา’ ที่พูดถึงเนี่ยเป็นใครหา!”
ม่านอวี้อันเกือบหมดความอดทน จึงเอ่ยเสียงดังอยู่สักหน่อย
“เขา... ก็คือกู๋กุ่ยไงคะ คงแอบเอาขนมมาให้นายน้อยทั้งสองคนตอนที่หนูไม่อยู่บ้าน ดีไม่ดีแมวตัวโตนิสัยเสียนั่นอาจกำลังหลบอยู่ในบ้านหลังนี้แน่ ๆ”
ได้ฟังคำนั้น ม่านอวี้อันจึงช็อก แล้วความรู้สึกในห้องนั่งเล่นเมื่อครู่ก็ย้อนคืนกลับมา ยามนั้นเธอสัมผัสได้ว่ามีเงาคนอยู่ในห้องดังกล่าว!
จากนั้นม่านอวี้อันก็รีบตัดเค้กกล้วยหอมให้เป็นชิ้นด้วยมือที่สั่นอยู่สักหน่อย ตัดเสร็จจึงห่อด้วยกระดาษแก้ว บอกให้เยว่จือนำไปแจกสมาคมแม่บ้านข้างนอกคนละเท่า ๆ กัน และกำชับว่าให้นำไปแช่ตู้เย็นสักสองสามชั่วโมง หรือให้ดีที่สุด พรุ่งนี้เช้าค่อยกินกับกาแฟหรือนมอุ่น ๆ จะได้รับรสชาติที่เยี่ยมยอดแบบต้นตำรับ เสร็จแล้วเธอจึงกลับเข้าไปในห้องนั่งเล่น ในมือถือไม้นวดแป้งอันใหญ่ไปด้วย หญิงสาวได้กลิ่นกายผู้ชาย กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของสบู่ และน้ำยาโกนหนวดที่ผสมกลิ่นเฉพาะตัว ความรู้สึกแรกคือขนลุกซู่ เหตุใดเธอจึงคุ้นเคยกับสัมผัสลึกซึ้งนี้เหลือเกิน ราวกับเป็นกลิ่นกายของผู้ชายที่อยู่เคียงข้างม่านอวี้อันมาโดยตลอด!
“นั่นใคร หลบอยู่หลังตู้ใช่ไหม ออกมานะ ไม่อย่างนั้นฉันจะตัดฟาดให้สลบ จากนั้นก็ตัดหนอนน้อยให้ขาด แล้วโยนให้เป็ดกิน!”
ม่านอวี้อันตวาดเสียงดัง และมันทำให้เธอขจัดความตื่นเต้นลงไปได้เปราะหนึ่ง จากนั้นจึงสืบเท้าไปยังเบื้องหน้า ยามนี้เธอรู้เพียงแต่ว่าเธอต้องเป็นเสาหลักให้ครอบครัวเล็ก ๆ ซึ่งหากไม่ลุกขึ้นสู้หรือมัวแต่ขี้ขลาด เธอก็คงต้องอยู่ในโลกใบนี้อย่างหวาดระแวงไปตลอด และกู๋กุ่ยของลูกชายเธอ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นคนดี หรือผีร้ายจอมรังควาน ม่านอวี้อันต้องคุยกันให้รู้เรื่อง
แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อเดินตรวจทั่วห้องหนังสือแล้ว ม่านอวี้อันกลับไม่พบใครสักคน และแม้ว่าผลออกมาเช่นนั้น แต่เธอกลับไม่สบายใจเอาเสียเลย
สองวันต่อมาอันที่จริงม่านอวี้อันนอนหลับไม่สนิทในตอนกลางคืน ทั้งที่ห้องนอนนี้โล่ง สะอาด อากาศถ่ายเทสะดวก ส่วนลูกชายทั้งสองคนก็นอนที่ห้องของพวกเขา เยว่จืออยู่ห้องส่วนตัวติดครัว และถึงแม้เธอจะได้นอนห้องใหญ่ที่อยู่ปีกทางซ้ายของบ้านซึ่งมีห้องน้ำในตัว แต่สาเหตุของการนอนไม่หลับ นั่นเป็นเพราะกังวลใจ ยิ่งถามถึงเรื่อง ‘กู๋กุ่ย’ กับเยว่จือ ม่านอวี้อันก็พลอยใจคอไม่อยู่กับเนื้อตัว อีกทั้งท่าทางแปลก ๆ ของผิงกั่วก็ยิ่งทำให้เธอมั่นใจในคำพูดของเยว่จือ มีผู้ชายซ่อนตัวอยู่ในบ้านหลังนี้ ผู้ชายที่ลูก ๆ ของเธอเรียกเขาว่า ‘กู๋กุ่ย’ หรือ ‘ลุงผี’ เขาเป็นแมวที่ไม่ได้คิดมาขโมยกินข้าวของในบ้าน แต่มีแผนร้ายอื่นแอบแฝง และม่านอวี้อันต้องสืบค้นต้นสายปลายเหตุให้ได้ “เธอพูดเหมือนลุงผีนั่นคุ้นเคยบ้านหลังนี้ดี” เยว่จือมองม่านอวี้อันอย่างไม่เชื่อหูตนเองว่าคุณผู้หญิงจะถามเช่นนี้ “มาดามลืมทุกอย่างจริง ๆ เหรอคะ ทั้งที่เป็นคนป้อนยา ลากเขาเข้าบ้าน แถมเอ่อ... อาบน้ำ โกนหนวดเครา และตัดผมให้เขาด้วย” “อย่าซี้ซั้วพูด ฉะ ฉันจะไปทำเรื่องพรรค์นั้นได้ยังไง” “แหม มาดามทำไปแล้ว แถมยังเป็นคนซ่อนกู
“เอ๋ นะ นายคือลุงผี!?” ในที่สุดม่านอวี้อันก็หลุดชื่อคนตัวโตออกไป ซึ่งผู้ชายคนนี้ส่งกระแสคุกคามกลับมาถึงเธอ เขาไม่ได้ดูสุภาพอย่างอีธาน แฟนหนุ่มผู้แสนดีที่ต้องคอยรองรับอารมณ์ร้าย ๆ ของหญิงสาวอยู่หลายปี และนั่นคงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องน่ากลัวจนพรากลมหายใจของ ลิซ่า จาง ให้หลุดลอยกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนเข้ามาอยู่ในร่างนี้ ม่านอวี้อันสูดลมหายใจลึก เธอย่อมรู้ดีว่าโลกใบนี้ไม่มีอีธาน คนแสนดีสองหน้า ผู้ชายที่กล้าหักหลังเธออย่างเจ็บแสบ! ส่วนผู้ชายที่ยืนมาดเท่อยู่ตรงหน้านั้นเป็นคนที่ไม่ควรอยู่ใกล้หรือไว้ใจ กระแสคุกคามอันรุนแรงที่แผ่ออกมาจากเรือนร่างสูงใหญ่ทำให้ม่านอวี้อันคล้ายถูกหมัดใหญ่ ๆ น็อกกลางอากาศ “อาอัน เธอสวยขึ้นจนผิดหูผิดตารู้ไหม” ชายหนุ่มพูดตามความจริง ความเจ้าเนื้อของเธอหายไป ยามนี้เขาแปลกใจกับท่าทางที่ดูไม่ปกติสักเท่าไรของม่านอวี้อัน ประหนึ่งเธอกระโดดออกมาจากตัวละครร้าย ๆ ในทีวีที่ชอบส่งเสียงสูง ๆ วางสีหน้าหงิกงอบ่อยครั้ง ทว่าดูมีสีสันชวนให้ค้นหา ทั้งเธอยังดูมีชีวิตชีวาคล้ายสมองกำลังคิดสิ่งต่าง ๆ ไม่หยุด มันจึงทำให้เขารู้ว่าเธอเองก็อยากมีชีวิ
คุกกี้ไอศกรีม ม่านอวี้อันให้การต้อนรับกลุ่มแม่บ้านของลี่ฮุ่ยตั้งแต่เช้าจนถึงช่วงเที่ยง จากนั้นจึงให้ทุกคนพักกลับไปกินข้าวที่บ้านและดูแลสิ่งต่าง ๆ ตามหน้าที่ของพวกหล่อน และเป็นเช่นนี้มาเกือบสองวันแล้ว นับแต่ทุกคนอดทนแช่เค้กกล้วยหอมของเธอในตู้เย็นเพื่อกินในเช้าวันรุ่งขึ้น ผลที่ได้รับก็นับว่าเป็นไปตามที่ม่านอวี้อันวางแผน ซึ่งมันเหนือความคาดหมายมิน้อย เพราะเธอให้เยว่จือนำขนมอีกอย่างไปให้สมาคมแม่บ้านไพ่นกกระจอกกินด้วย มันคือ ‘ไอศกรีมคุกกี้’ เป็นของแปลกใหม่ ทั้งยังมีส่วนผสมง่าย ๆ จากแป้งเค้ก น้ำตาลไอซิ่ง เนย ผงต่าง ๆ แล้วก็ช็อกโกแลตสับหยาบ ๆ ซึ่งสูตรนี้เธอไม่ได้ใส่ไข่ไก่ลงไป แต่ถึงจะมีส่วนผสมแบบพื้นฐาน รสชาติก็กำลังดี ไม่หวานจัด ทั้งเข้มข้น กินเล่นได้ หรือจะกินรองท้องในมื้อเช้ายิ่งเหมาะ แถมหน้าตาเหมือนไอศกรีมก้อนที่ตักขายใส่ในขนมปังที่กำลังได้รับความนิยมช่วงนี้ เมื่อเอ่ยถึงขนมคุกกี้ไอศกรีมดังกล่าวแล้วก็ต้องยกความดีให้กับแจ็คสัน เพราะในถุงกระดาษใบใหญ่นั้น เขาใส่ผงกาแฟบด ผงโกโก้ ช็อกโกแลตแท่ง ทั้งยังมีบรั่นดีที่เหมาะสำหรับทำอาหาร รวมถึงแยมสตรอว์เบอร์รี พลอยให้เธอแปลกใ
เตรียมอาหารเลี้ยงวันเกิด ม่านอวี้อันปล่อยให้ลี่ฮุ่ยและสมาคมแม่บ้านทั้งหมดทำอาหารของพวกหล่อนไป ส่วนหญิงสาวเตรียมอุปกรณ์พร้อมเช็กเตาอบเพื่อดูอุณหภูมิให้คงที่ สิ่งที่เธอจะลงมือต่อจากนี้คือบราวนี่และไอศกรีมรสกะทิ กลุ่มแม่บ้านดูจะสนใจอยู่หรอก แต่พวกเธอคิดว่ามันไม่ได้ทำยากเย็นอะไร เนื่องจากถนนเนี่ยอินมีรถเข็นขายไอศกรีมอยู่สองเจ้า และโรงทำไอศกรีมก็อยู่ในซอยนี้ รสชาติพื้น ๆ หอม หวาน มัน ไม่มีสิ่งใดพิเศษ แต่สิ่งที่ไม่ว่าจะเป็นโรสหรือลี่ฮุ่ยคอยชะเง้อคอยืดคอยาวมองหญิงสาวคือ การทำบราวนี่ แต่รอดูอยู่นาน ม่านอวี้อันก็ไม่ลงมือเสียที! ลี่ฮุ่ยจึงได้แต่ทำท่าทีฮึดฮัด ส่วนโรสพ่นลมหายใจร้อน ๆ อยู่หลายหนและเริ่มคิดว่านังจิ้งจอกม่านอวี้อันกำลังวางแผนร้ายหลอกใช้พวกตนอยู่หรือไม่ เพราะเค้กกล้วยหอมก็ยังแกะสูตรอีกฝ่ายไม่สำเร็จ แถมตอนนี้ยังต้องมาแข่งกันทำอาหารเลี้ยงงานวันเกิดให้เจ้าอิง น้องสาวไห่ถังอีก ในเวลานั้นเซียงเจียวกับผิงกั่วเรียนเขียนตัวอักษรมาเกือบชั่วโมงแล้ว พวกเขาเลยได้รับอนุญาตให้เข้ามาดูในครัว แต่ทำได้เพียงแค่ดูเท่านั้น เพราะม่านอวี้อันยังไม่อยากให้เด็ก ๆ ช่วยงานในวันนี้ เนื่อ
“ป้าลี่... มั่นใจอย่างไรว่านังจิ้งจอกอวี้อันไม่ได้วางแผนหลอกใช้เรา” ลี่ฮุ่ยหรือจะยอมให้เด็กรุ่นลูกมาถอนหงอกตัวเอง ไม่มีทางเสียละ การที่หล่อนคบค้ากับโรสเพราะเถ้าแก่โจวเป็นคนกว้างขวาง ส่วนเด็กน้อยคนนี้ หล่อนแค่ใส่หน้ากากพูดจาดีด้วย อย่างน้อยที่สุดโรสก็ไม่คิดอยากได้ผลประโยชน์ใด ๆ จากหล่อน ให้ดีหน่อยก็แค่แข่งขันอวดร่ำอวดรวยและความสามารถของตนเท่านั้น “โถ หลอกใช้อะไรกัน แบบนี้เขาเรียกยื่นหมูยื่นแมว ป้าก็เห็นว่าคุณนายอันเปิดบ้านให้เราดูเธอทำขนม แล้วนั่น ไอ้บราวนี่ก็น่าสนใจ ป้าเคยกินนะ ถึงจะนานแล้ว เป็นขนมพวกคนหัวทอง ตาสีอ่อน มันไม่ใช่เค้กนุ่มฟู เรียกว่าคุกกี้บาร์คงได้ เนื้อแน่นหนึบ มีความฉ่ำ รสก็เข้มข้น และบราวนี่ยังติดหนึ่งในสิบขนมฮิตตลอดกาลอยู่เสมอ ว่าแต่น้องโรสเถอะ เรียนโรงเรียนนานาชาติแท้ ๆ ทำไมยังเรียกชื่อขนมผิดอีก!” ตอนนั้นเองที่โรสอยากจะกรี๊ด เธอเสียหน้า แต่ยังอดทนไว้ได้ ก่อนจะชะเง้อคอมองอาหารที่ลี่ฮุ่ยเตรียมนำขึ้นโต๊ะเย็นนี้ “ฉันไม่ชอบกินของหวานและพวกอาหารขยะ ทำไมฉันต้องเหลือบแลบราวนี่ด้วย ส่วนป้าล่ะ... เย็นนี้จะทำอาหารพื้น ๆ อะไรมาให้ขายหน้าคนอื่น!”
ยกที่หนึ่ง แก๊งมังกรซิ่งดูแลเมืองเก่ามาหลายปี ก่อนหน้านั้นมีเหตุนองเลือดอยู่บ่อย ๆ กระทั่งผลักดันกลุ่มชาวต่างชาติย้ายไปฝั่งเมืองใหม่ได้สำเร็จจึงสงบขึ้น กระนั้นก็มีกลุ่มอิทธิพลมากมายที่พยายามเข้ามายึดถนนเนี่ยอิน หากสุดท้ายไห่ถังรวบรวมพรรคพวกได้เยอะที่สุดจึงได้ดูแลที่นี่ โดยมีเจ้าพ่อเหวินเฉียงเป็นประมุขของแก๊งมังกรซิ่ง ซึ่งฝ่ายนั้นสืบทอดอำนาจมาจากบิดาเขาอีกที เมื่อไห่ถังมาถึงหน้าร้านอาหารของม่านอวี้อัน เขาก็ต้องงงเป็นไก่ตาแตก เกิดอะไรขึ้นกับร้านเก่าแก่แห่งนี้ เมื่อก่อนเจ้าของคือชายชาวต่างชาติ อีกฝ่ายขายให้กับม่านอวี้อันในราคาแสนถูกเพื่อตอบแทนความดีของเธอที่ดูแลภรรยาเขาก่อนสิ้นใจ ยามนี้กลับมีธงเล็ก ๆ และภาพนักกีฬาที่ส่งไปแข่งขันชิงเหรียญต่าง ๆ ในกีฬาระดับชาติติดหน้าร้าน ม่านอวี้อัน วางแผนสิ่งใดอยู่ โดยเฉพาะการเขียนป้ายเชียร์ ‘ไทสัน’ นักมวยที่ต้องบอกว่า เวลานี้ไร้ชื่อเสียง “นังคุณนายคงเพี้ยนจนหาเรื่องเล่นตลกสินะ” ไห่ถังว่า ก่อนกวาดตามองพื้นที่ของร้าน เขาพอใจมาก มีลานกว้างด้านหน้า และยังมีทางเข้าหลายทาง อีกทั้งตั้งอยู่ตรงกลางถนนเนี่ยอิน รถผ่านไปมาอยู่ตลอด
ม่านอวี้อันยืนอยู่เบื้องหน้าทุกคน เธองามสง่าราวกับนางพญาที่พร้อมออกรบ เป็นกุนซือหญิงผู้คอยออกคำสั่งให้แม่ทัพ จัดการฆ่าศึกอย่างโหดเหี้ยม “ร้านเล็ก ๆ ของเรายินดีรับใช้ พี่ถัง และอาอิง รวมถึงเป็นเกียรติยิ่งนัก ที่พี่น้องในแก๊งมังกรซิ่งมาเยี่ยมเยียน” น้ำเสียงเจ้าของร้านกังวาน ไม่แข็งกร้าว หากแต่น่าฟัง กระนั้นก็เปี่ยมด้วยความถือตัวและจองหองอยู่ในที เมื่อก่อนม่านอวี้อันไม่เคยเป็นเช่นนี้ นั่นคือสิ่งที่ทำให้ทุกคนเกิดข้อสงสัยในใจ “คุณนายอัน พูดเสียอย่างนี้ลูกน้องอั๊วตกใจหมด พวกเราล้วนเป็นคนกันเองแท้ ๆ” ม่านอวี้อันยิ้มหวานหยด แต่ไม่ใช่รอยยิ้มยั่วยวน และไม่รู้เหตุใดทุกคนที่อยู่ที่นั่งโต๊ะซึ่งต่อยาวกันไปนั้นถึงเสียวสันหลังวาบ ๆ ร้านอาหารนี้กลายเป็นบ้านผีสิงตั้งแต่เมื่อไร “ขวัญอ่อนกันจริงเชียว เป็นหนุ่มฉกรรจ์แท้ ๆ ระหว่างที่กินอาหารไป วันนี้เป็นโอกาสดี ด้วยมีการถ่ายทอดชกมวยสากล ฉันกำลังเชียร์อยู่หลายคน อย่างไรขอเปิดทีวีเครื่องเล็ก ๆ ไปด้วยนะพี่ถัง หวังว่าจะไม่สร้างความรำคาญ...” “แล้วแต่คุณนายเถอะ...” ไห่ถังตัดความเรื่องมากของหญิงสาวทิ้ง และอย
บทนำ ณ เมืองติดชายทะเล ถนนเนี่ยอิน พื้นที่ควบคุมของแก๊งมังกรซิ่ง เยว่จือตัวสั่นไปหมด เด็กสาวไม่รู้จะทำอย่างไร การถูกตบหน้าอย่างรุนแรงถึงสองครั้งติดต่อกัน ด้วยฝ่ามือหยาบกร้านของอาซู คนในแก๊งมังกรซิ่ง ทำให้น้ำตาคลอหน่วย แม้ในยามนี้เธอจะพยายามอดกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้ ถึงอย่างนั้นน้ำตาก็ยังคงไหลอาบใบหน้าเรียวเล็กที่ซีดราวกับซากศพ ในใจของเธอภาวนาขอให้เรื่องเฮงซวยทั้งหมดนี้เป็นเพียงภาพความฝัน มิหนำซ้ำเด็กสาวยังห่วงอีกสามชีวิต เมื่อคืนคุณผู้หญิงเพ้อหนักก่อนที่ตัวจะสั่นเทาและสลบไปนาน ตอนนี้เธอคงกำลังรอการกลับไปของเยว่จือ รวมถึงสองฝาแฝดวัยสี่ขวบกว่าที่เมื่อเช้าได้กินเพียงขนมปังบาแก็ตที่ทั้งแข็งและแห้งโรยน้ำตาล ซึ่งเด็กสาววางได้แผนไว้ว่า หากเกิดเรื่องร้ายแรงใดขึ้น เธอจะพาพวกเด็ก ๆ หนีไปให้ไกล! เสียงเนื้อกระทบเนื้อยังดังก้องในหู เธอกลัว ตื่นตระหนก และขวัญเสีย ทว่าสิ่งที่ทำได้คือจำต้องกลั้นเสียงสะอื้นและน้ำตาเอาไว้ ถึงจะยากลำบากเหลือเกิน แต่ที่ต้องทำเช่นนั้นก็เพราะเธอไม่ต้องการให้คนพวกนี้เห็นความอ่อนแอของตน อย่างไรก็ตาม นับว่าแก๊งมังกรซิ่งยังมีเมตตาอยู่บ้าง
ม่านอวี้อันยืนอยู่เบื้องหน้าทุกคน เธองามสง่าราวกับนางพญาที่พร้อมออกรบ เป็นกุนซือหญิงผู้คอยออกคำสั่งให้แม่ทัพ จัดการฆ่าศึกอย่างโหดเหี้ยม “ร้านเล็ก ๆ ของเรายินดีรับใช้ พี่ถัง และอาอิง รวมถึงเป็นเกียรติยิ่งนัก ที่พี่น้องในแก๊งมังกรซิ่งมาเยี่ยมเยียน” น้ำเสียงเจ้าของร้านกังวาน ไม่แข็งกร้าว หากแต่น่าฟัง กระนั้นก็เปี่ยมด้วยความถือตัวและจองหองอยู่ในที เมื่อก่อนม่านอวี้อันไม่เคยเป็นเช่นนี้ นั่นคือสิ่งที่ทำให้ทุกคนเกิดข้อสงสัยในใจ “คุณนายอัน พูดเสียอย่างนี้ลูกน้องอั๊วตกใจหมด พวกเราล้วนเป็นคนกันเองแท้ ๆ” ม่านอวี้อันยิ้มหวานหยด แต่ไม่ใช่รอยยิ้มยั่วยวน และไม่รู้เหตุใดทุกคนที่อยู่ที่นั่งโต๊ะซึ่งต่อยาวกันไปนั้นถึงเสียวสันหลังวาบ ๆ ร้านอาหารนี้กลายเป็นบ้านผีสิงตั้งแต่เมื่อไร “ขวัญอ่อนกันจริงเชียว เป็นหนุ่มฉกรรจ์แท้ ๆ ระหว่างที่กินอาหารไป วันนี้เป็นโอกาสดี ด้วยมีการถ่ายทอดชกมวยสากล ฉันกำลังเชียร์อยู่หลายคน อย่างไรขอเปิดทีวีเครื่องเล็ก ๆ ไปด้วยนะพี่ถัง หวังว่าจะไม่สร้างความรำคาญ...” “แล้วแต่คุณนายเถอะ...” ไห่ถังตัดความเรื่องมากของหญิงสาวทิ้ง และอย
ยกที่หนึ่ง แก๊งมังกรซิ่งดูแลเมืองเก่ามาหลายปี ก่อนหน้านั้นมีเหตุนองเลือดอยู่บ่อย ๆ กระทั่งผลักดันกลุ่มชาวต่างชาติย้ายไปฝั่งเมืองใหม่ได้สำเร็จจึงสงบขึ้น กระนั้นก็มีกลุ่มอิทธิพลมากมายที่พยายามเข้ามายึดถนนเนี่ยอิน หากสุดท้ายไห่ถังรวบรวมพรรคพวกได้เยอะที่สุดจึงได้ดูแลที่นี่ โดยมีเจ้าพ่อเหวินเฉียงเป็นประมุขของแก๊งมังกรซิ่ง ซึ่งฝ่ายนั้นสืบทอดอำนาจมาจากบิดาเขาอีกที เมื่อไห่ถังมาถึงหน้าร้านอาหารของม่านอวี้อัน เขาก็ต้องงงเป็นไก่ตาแตก เกิดอะไรขึ้นกับร้านเก่าแก่แห่งนี้ เมื่อก่อนเจ้าของคือชายชาวต่างชาติ อีกฝ่ายขายให้กับม่านอวี้อันในราคาแสนถูกเพื่อตอบแทนความดีของเธอที่ดูแลภรรยาเขาก่อนสิ้นใจ ยามนี้กลับมีธงเล็ก ๆ และภาพนักกีฬาที่ส่งไปแข่งขันชิงเหรียญต่าง ๆ ในกีฬาระดับชาติติดหน้าร้าน ม่านอวี้อัน วางแผนสิ่งใดอยู่ โดยเฉพาะการเขียนป้ายเชียร์ ‘ไทสัน’ นักมวยที่ต้องบอกว่า เวลานี้ไร้ชื่อเสียง “นังคุณนายคงเพี้ยนจนหาเรื่องเล่นตลกสินะ” ไห่ถังว่า ก่อนกวาดตามองพื้นที่ของร้าน เขาพอใจมาก มีลานกว้างด้านหน้า และยังมีทางเข้าหลายทาง อีกทั้งตั้งอยู่ตรงกลางถนนเนี่ยอิน รถผ่านไปมาอยู่ตลอด
“ป้าลี่... มั่นใจอย่างไรว่านังจิ้งจอกอวี้อันไม่ได้วางแผนหลอกใช้เรา” ลี่ฮุ่ยหรือจะยอมให้เด็กรุ่นลูกมาถอนหงอกตัวเอง ไม่มีทางเสียละ การที่หล่อนคบค้ากับโรสเพราะเถ้าแก่โจวเป็นคนกว้างขวาง ส่วนเด็กน้อยคนนี้ หล่อนแค่ใส่หน้ากากพูดจาดีด้วย อย่างน้อยที่สุดโรสก็ไม่คิดอยากได้ผลประโยชน์ใด ๆ จากหล่อน ให้ดีหน่อยก็แค่แข่งขันอวดร่ำอวดรวยและความสามารถของตนเท่านั้น “โถ หลอกใช้อะไรกัน แบบนี้เขาเรียกยื่นหมูยื่นแมว ป้าก็เห็นว่าคุณนายอันเปิดบ้านให้เราดูเธอทำขนม แล้วนั่น ไอ้บราวนี่ก็น่าสนใจ ป้าเคยกินนะ ถึงจะนานแล้ว เป็นขนมพวกคนหัวทอง ตาสีอ่อน มันไม่ใช่เค้กนุ่มฟู เรียกว่าคุกกี้บาร์คงได้ เนื้อแน่นหนึบ มีความฉ่ำ รสก็เข้มข้น และบราวนี่ยังติดหนึ่งในสิบขนมฮิตตลอดกาลอยู่เสมอ ว่าแต่น้องโรสเถอะ เรียนโรงเรียนนานาชาติแท้ ๆ ทำไมยังเรียกชื่อขนมผิดอีก!” ตอนนั้นเองที่โรสอยากจะกรี๊ด เธอเสียหน้า แต่ยังอดทนไว้ได้ ก่อนจะชะเง้อคอมองอาหารที่ลี่ฮุ่ยเตรียมนำขึ้นโต๊ะเย็นนี้ “ฉันไม่ชอบกินของหวานและพวกอาหารขยะ ทำไมฉันต้องเหลือบแลบราวนี่ด้วย ส่วนป้าล่ะ... เย็นนี้จะทำอาหารพื้น ๆ อะไรมาให้ขายหน้าคนอื่น!”
เตรียมอาหารเลี้ยงวันเกิด ม่านอวี้อันปล่อยให้ลี่ฮุ่ยและสมาคมแม่บ้านทั้งหมดทำอาหารของพวกหล่อนไป ส่วนหญิงสาวเตรียมอุปกรณ์พร้อมเช็กเตาอบเพื่อดูอุณหภูมิให้คงที่ สิ่งที่เธอจะลงมือต่อจากนี้คือบราวนี่และไอศกรีมรสกะทิ กลุ่มแม่บ้านดูจะสนใจอยู่หรอก แต่พวกเธอคิดว่ามันไม่ได้ทำยากเย็นอะไร เนื่องจากถนนเนี่ยอินมีรถเข็นขายไอศกรีมอยู่สองเจ้า และโรงทำไอศกรีมก็อยู่ในซอยนี้ รสชาติพื้น ๆ หอม หวาน มัน ไม่มีสิ่งใดพิเศษ แต่สิ่งที่ไม่ว่าจะเป็นโรสหรือลี่ฮุ่ยคอยชะเง้อคอยืดคอยาวมองหญิงสาวคือ การทำบราวนี่ แต่รอดูอยู่นาน ม่านอวี้อันก็ไม่ลงมือเสียที! ลี่ฮุ่ยจึงได้แต่ทำท่าทีฮึดฮัด ส่วนโรสพ่นลมหายใจร้อน ๆ อยู่หลายหนและเริ่มคิดว่านังจิ้งจอกม่านอวี้อันกำลังวางแผนร้ายหลอกใช้พวกตนอยู่หรือไม่ เพราะเค้กกล้วยหอมก็ยังแกะสูตรอีกฝ่ายไม่สำเร็จ แถมตอนนี้ยังต้องมาแข่งกันทำอาหารเลี้ยงงานวันเกิดให้เจ้าอิง น้องสาวไห่ถังอีก ในเวลานั้นเซียงเจียวกับผิงกั่วเรียนเขียนตัวอักษรมาเกือบชั่วโมงแล้ว พวกเขาเลยได้รับอนุญาตให้เข้ามาดูในครัว แต่ทำได้เพียงแค่ดูเท่านั้น เพราะม่านอวี้อันยังไม่อยากให้เด็ก ๆ ช่วยงานในวันนี้ เนื่อ
คุกกี้ไอศกรีม ม่านอวี้อันให้การต้อนรับกลุ่มแม่บ้านของลี่ฮุ่ยตั้งแต่เช้าจนถึงช่วงเที่ยง จากนั้นจึงให้ทุกคนพักกลับไปกินข้าวที่บ้านและดูแลสิ่งต่าง ๆ ตามหน้าที่ของพวกหล่อน และเป็นเช่นนี้มาเกือบสองวันแล้ว นับแต่ทุกคนอดทนแช่เค้กกล้วยหอมของเธอในตู้เย็นเพื่อกินในเช้าวันรุ่งขึ้น ผลที่ได้รับก็นับว่าเป็นไปตามที่ม่านอวี้อันวางแผน ซึ่งมันเหนือความคาดหมายมิน้อย เพราะเธอให้เยว่จือนำขนมอีกอย่างไปให้สมาคมแม่บ้านไพ่นกกระจอกกินด้วย มันคือ ‘ไอศกรีมคุกกี้’ เป็นของแปลกใหม่ ทั้งยังมีส่วนผสมง่าย ๆ จากแป้งเค้ก น้ำตาลไอซิ่ง เนย ผงต่าง ๆ แล้วก็ช็อกโกแลตสับหยาบ ๆ ซึ่งสูตรนี้เธอไม่ได้ใส่ไข่ไก่ลงไป แต่ถึงจะมีส่วนผสมแบบพื้นฐาน รสชาติก็กำลังดี ไม่หวานจัด ทั้งเข้มข้น กินเล่นได้ หรือจะกินรองท้องในมื้อเช้ายิ่งเหมาะ แถมหน้าตาเหมือนไอศกรีมก้อนที่ตักขายใส่ในขนมปังที่กำลังได้รับความนิยมช่วงนี้ เมื่อเอ่ยถึงขนมคุกกี้ไอศกรีมดังกล่าวแล้วก็ต้องยกความดีให้กับแจ็คสัน เพราะในถุงกระดาษใบใหญ่นั้น เขาใส่ผงกาแฟบด ผงโกโก้ ช็อกโกแลตแท่ง ทั้งยังมีบรั่นดีที่เหมาะสำหรับทำอาหาร รวมถึงแยมสตรอว์เบอร์รี พลอยให้เธอแปลกใ
“เอ๋ นะ นายคือลุงผี!?” ในที่สุดม่านอวี้อันก็หลุดชื่อคนตัวโตออกไป ซึ่งผู้ชายคนนี้ส่งกระแสคุกคามกลับมาถึงเธอ เขาไม่ได้ดูสุภาพอย่างอีธาน แฟนหนุ่มผู้แสนดีที่ต้องคอยรองรับอารมณ์ร้าย ๆ ของหญิงสาวอยู่หลายปี และนั่นคงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเรื่องน่ากลัวจนพรากลมหายใจของ ลิซ่า จาง ให้หลุดลอยกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อนเข้ามาอยู่ในร่างนี้ ม่านอวี้อันสูดลมหายใจลึก เธอย่อมรู้ดีว่าโลกใบนี้ไม่มีอีธาน คนแสนดีสองหน้า ผู้ชายที่กล้าหักหลังเธออย่างเจ็บแสบ! ส่วนผู้ชายที่ยืนมาดเท่อยู่ตรงหน้านั้นเป็นคนที่ไม่ควรอยู่ใกล้หรือไว้ใจ กระแสคุกคามอันรุนแรงที่แผ่ออกมาจากเรือนร่างสูงใหญ่ทำให้ม่านอวี้อันคล้ายถูกหมัดใหญ่ ๆ น็อกกลางอากาศ “อาอัน เธอสวยขึ้นจนผิดหูผิดตารู้ไหม” ชายหนุ่มพูดตามความจริง ความเจ้าเนื้อของเธอหายไป ยามนี้เขาแปลกใจกับท่าทางที่ดูไม่ปกติสักเท่าไรของม่านอวี้อัน ประหนึ่งเธอกระโดดออกมาจากตัวละครร้าย ๆ ในทีวีที่ชอบส่งเสียงสูง ๆ วางสีหน้าหงิกงอบ่อยครั้ง ทว่าดูมีสีสันชวนให้ค้นหา ทั้งเธอยังดูมีชีวิตชีวาคล้ายสมองกำลังคิดสิ่งต่าง ๆ ไม่หยุด มันจึงทำให้เขารู้ว่าเธอเองก็อยากมีชีวิ
สองวันต่อมาอันที่จริงม่านอวี้อันนอนหลับไม่สนิทในตอนกลางคืน ทั้งที่ห้องนอนนี้โล่ง สะอาด อากาศถ่ายเทสะดวก ส่วนลูกชายทั้งสองคนก็นอนที่ห้องของพวกเขา เยว่จืออยู่ห้องส่วนตัวติดครัว และถึงแม้เธอจะได้นอนห้องใหญ่ที่อยู่ปีกทางซ้ายของบ้านซึ่งมีห้องน้ำในตัว แต่สาเหตุของการนอนไม่หลับ นั่นเป็นเพราะกังวลใจ ยิ่งถามถึงเรื่อง ‘กู๋กุ่ย’ กับเยว่จือ ม่านอวี้อันก็พลอยใจคอไม่อยู่กับเนื้อตัว อีกทั้งท่าทางแปลก ๆ ของผิงกั่วก็ยิ่งทำให้เธอมั่นใจในคำพูดของเยว่จือ มีผู้ชายซ่อนตัวอยู่ในบ้านหลังนี้ ผู้ชายที่ลูก ๆ ของเธอเรียกเขาว่า ‘กู๋กุ่ย’ หรือ ‘ลุงผี’ เขาเป็นแมวที่ไม่ได้คิดมาขโมยกินข้าวของในบ้าน แต่มีแผนร้ายอื่นแอบแฝง และม่านอวี้อันต้องสืบค้นต้นสายปลายเหตุให้ได้ “เธอพูดเหมือนลุงผีนั่นคุ้นเคยบ้านหลังนี้ดี” เยว่จือมองม่านอวี้อันอย่างไม่เชื่อหูตนเองว่าคุณผู้หญิงจะถามเช่นนี้ “มาดามลืมทุกอย่างจริง ๆ เหรอคะ ทั้งที่เป็นคนป้อนยา ลากเขาเข้าบ้าน แถมเอ่อ... อาบน้ำ โกนหนวดเครา และตัดผมให้เขาด้วย” “อย่าซี้ซั้วพูด ฉะ ฉันจะไปทำเรื่องพรรค์นั้นได้ยังไง” “แหม มาดามทำไปแล้ว แถมยังเป็นคนซ่อนกู
แมวตัวผู้ หลบอยู่ในบ้านลูกกวาด เยว่จือกำลังดูแลสองแฝดในครัวที่กำลังมีความสุขมากกับอาหารง่าย ๆ ที่ม่านอวี้อันทำให้ พอเด็กสาวเห็นม่านอวี้อันถือของกินเข้ามา เธอจึงกุลีกุจอไปช่วยถือ ขณะนั้นเด็กชายทั้งสองต่างมองตาโต พวกเขาคิดว่าวันนี้คงเป็นปีใหม่หรือวันเด็ก แม่ถึงได้รับของแจกเข้าบ้านเยอะแยะไปหมด “มัมมี้ ให้น้องช่วยไหม” เซียงเจียวยิ้ม ดวงตากลมโตของเขาเป็นประกาย “ไม่เป็นไรเจียวเกอ กินข้าวให้เรียบร้อย เวลาเคี้ยวอาหารต้องไม่พูดนะจ๊ะ เดี๋ยวติดคอ” เซียงเจียวพยักหน้ารับคำม่านอวี้อัน ส่วนผิงกั่วหันมามองเธอ สายตาเขาดูมีพิรุธอยู่สักหน่อย “เอ ผิงเกอ ไม่ชอบไข่ข้นกับมันฝรั่งบดเหรอลูก กินหมี่ผัดกับไก่ย่างไหม ป้าลี่เอามาฝาก” เธอบอกลูกคนโตแล้ววางจานอาหารที่ลี่ฮุ่ยเอามาให้ลงบนโต๊ะ เด็กชายไม่ตอบแต่หันไปมองไก่ย่าง พอเห็นน้องชายหยิบขาไก่ขึ้นกัด เขาจึงเลือกชิ้นที่ชอบแล้วนั่งกินเงียบ ๆ ผิงกั่วของเธอช่างเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย “มาดามเรียกอาหารเข้าบ้านได้จริงด้วย นี่มันเกิดอะไรขึ้นคะ” เยว่จือถาม เด็กสาวตื่นเต้นไม่แพ้ฝาแฝด ม่านอวี้อันไม่ใช่เทพเซียนหรือน
จับผิดนางจิ้งจอก เมื่อขนมหมดลง พร้อมความหอมหวานที่ติดอยู่ในปาก เซียงเจียวก็ทั้งเลียมือและดูดนิ้ว จากนั้นประตูห้องนั่งเล่นก็มีเสียงหมุนลูกบิด! ผิงกั่วใจหล่นหายเขายืนนิ่งค้างราวกับสมองหยุดสั่งงานไปเสียดื้อ ๆ “อ๊ะ... เฮียผิง!” เสียงเล็กแหลมของน้องชายแผดดังเรียกสติ จากนั้นผิงกั่วจึงไม่รอช้า เขารู้ว่าแม่ไม่อยากให้ลุงผีมาที่บ้านอีก ผู้ชายตัวโตคนนี้เคยทำให้แม่ยุ่งยากใจทั้งยังเสียน้ำตาหลายหน แล้ววันนี้เขาได้ทำเรื่องน่าละอาย เผลอกินของจากอีกฝ่าย ไม่ได้การละ เขาจะทำให้แม่เสียใจไม่ได้ แม่คือโลกทั้งใบของผิงกั่ว เขาจะไม่ทำให้แม่เสียใจ! ร่างของคนเจ้าเนื้อพุ่งไปยังประตูเพื่อขวางไม่ให้คนเปิดเข้ามาได้ “ไม่!” เด็กชายร้องอยู่สองสามหน และนั่นทำให้คนที่อยู่ด้านนอกแปลกใจ “เด็ก ๆ เกิดอะไรขึ้น!” ม่านอวี้อันใจเสียและร้อนรน เธอพยายามหมุนลูกบิด แต่เหมือนจะมีปัญหา “ผิงเกอ เจียวเกอ!” หญิงสาวเรียกลูกชายและปล้ำลูกบิดประตูเฮงซวยอยู่เกือบอึดใจใหญ่ ๆ กระทั่งมันเปิดออกได้ ซึ่งเป็นวินาทีเดียวกันกับที่ผิงกั่วโผเข้าไปกอดม่านอวี้อัน ส่วนน้องชายก็แสร้งร