คนึงหารอมาร่วมชั่วโมง ก็ยังไม่มีวี่แววว่าเจ้าของห้องจะกลับมา
"หรือว่าเขาจะเอาคืนเรา" เพราะเธอเพิ่งจะปฏิเสธเขาไป..แต่กลับคำ "เขาคงไม่เอาคืนเราใช่ไหม" หญิงสาวได้แต่ถามตัวเอง
เวลาผ่านไป.. ตอนนี้ก็ปาเข้าไปสามทุ่มกว่าแล้ว
"คิดว่าฉันจะถอยหรือไง ไม่มีวันซะหรอก" สาวสวยที่อยู่ในชุดเซ็กซี่เดินไปที่เตียงกว้าง พร้อมกับทิ้งกายลงนอน เพราะทำงานมาทั้งวันเธอก็เหนื่อยเป็นเหมือนกันนะ
22 : 50 น. แกร็ก~ เสียงประตูห้องของคอนโดสุดหรู ค่อยๆ ถูกเปิดเข้ามา
สายตาคมจ้องมองหญิงสาวที่นอนหลับอยู่บนเตียงแบบพินิจพิจารณา เพราะหน้าตาของเธอเหมือนใครบางคนมาก มากจนสะกดให้เขาหยุดมองไม่ได้เลย
03 : 45 น.
"ยาย..ยายคะ" มือเรียวไขว่คว้าร่างของยายไว้ ในขณะที่กำลังจางหายไปในความฝัน แต่มือของเธอดันไปคว้าถูกใครบางคนที่นอนอยู่ข้างกาย "ยาย?!" หญิงสาวสะดุ้งตื่นขึ้นมา
มือเรียวควานหาที่เปิดไฟหัวเตียง แต่ไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงไหน จนทำให้คนที่นอนอยู่ข้างกายตื่นขึ้นมาด้วย
"นอนต่ออีกสักนิดสิ"
"คุณ!" ได้ยินเสียงยิ่งทำให้เธอตกใจจนถอยหลังไปแทบจะตกเตียง โชคดีที่เขาคว้าร่างของเธอไว้ได้ทัน "กรี๊ด! ปล่อยนะ!!"
"จะกรี๊ดทำไมแสบแก้วหู"
"คุณกอดฉันทำไมล่ะปล่อยเดี๋ยวนี้นะ" ในขณะที่พูดมือเรียวก็ได้พยายามแกะวงแขนของเขาออกจากรอบเอว
"ตกลงจะเอายังไงกันแน่ ฉันไม่มีเวลามาเล่นกับเธอนะ" เขายื่นมือไปเปิดไฟพร้อมกับขยับขึ้นไปนั่งพิงหัวเตียงไว้ในท่าที่สบาย
พอไฟถูกเปิด คนึงหาก็รีบลุกขึ้น แล้วเช็คร่างกายของตัวเองว่ายังปกติดีอยู่ไหม ..เป็นบ้าอะไรทำไมถึงหลับแบบไม่รู้เรื่อง ถ้าเขาทำอะไรจะรู้ตัวไหมเนี่ย หญิงสาวได้แต่ตำหนิตัวเองอยู่ในใจ
"คุณมาตั้งแต่เมื่อไรทำไมไม่ปลุก" พอเช็คดูแล้วทุกอย่างก็ปกติดี
"ก็เห็นกำลังหลับสบาย..มานั่งนี่ดีกว่า" มือหนาแตะที่นอนข้างตัวเองเบาๆ เพื่อเชิญชวนให้เธอมานั่งใกล้ๆ
"ฉันยืนอยู่ตรงนี้ได้"
"ถ้าไม่ปวดขาก็แล้วแต่นะ..บอกความต้องการของเธอมาว่าอยากจะได้อะไร"
"ฉันมาคิดดูแล้ว สิ่งที่คุณให้ฉันมามันน้อยเกินไป"
"น้อย?" เขาคิดว่าที่เธอปฏิเสธไปครั้งแรกคงเพราะเขาให้น้อยเกินไปอย่างนั้นเหรอ "แล้วเธอต้องการอะไรบ้าง" เพราะเขาก็เสนอให้เธอทุกอย่างแล้ว..บ้าน..รถ..เงินสด นี่ยังน้อยไปอีกเหรอ
"ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าคุณจะให้ฉันจริง" ไปแบบน้ำขุ่นๆ นี่แหละ ไม่รู้จะยกอะไรมาอ้างแล้ว
"ทุกอย่างที่ซื้อมันจะเป็นชื่อเธอทั้งหมด"
พ่อบุญทุ่มว่างั้น ..อันนี้ก็ได้แต่คิดในใจ
เห็นว่าเธอไม่พูดอะไร เขาก็เดินไปหยิบสัญญาฉบับเดิม แล้วส่งมันมาให้เธอ
พอได้อ่านมันก็เริ่มขัดใจอีกครั้ง เขาคงเคยทำแบบนี้กับผู้หญิงมาแล้วสินะ ถึงมีท่าทางปกติได้ขนาดนี้
"คิดว่ามีข้อไหนที่ทำตามไม่ได้บ้าง" เสียงทุ้มเปล่งถามออกมา
ในกระดาษแผ่นนั้นที่เขาร่างไว้ ข้อแรกก็คือห้ามให้ใครรู้ ความสัมพันธ์ของเธอกับเขาจะเป็นความลับ รู้ได้แค่ต้นสนคนสนิทเท่านั้น
ข้อต่อมา ไม่ว่าเขาจะทำอะไรเธอไม่มีสิทธิ์เข้ามาก้าวก่าย
"หือ?" หญิงสาวมาตกใจกับอีกข้อหนึ่งที่ดูเหมือนว่าเขาจะเขียนขึ้นมาใหม่ "ห้ามท้องงั้นเหรอ?" สายตางามตวัดมองไปดูชายที่นั่งทำหน้าตานิ่งมาก ..ใครจะอยากไปท้องกับเขา
"ถ้าเธอรับข้อเสนอพวกนี้ได้ ก็เซ็นมันลงไปได้เลย เรื่องของที่เธออยากจะได้ ฉันเพิ่มให้ได้เสมอเมื่อเธอต้องการ แต่ถ้าเธอผิดข้อตกลงข้อใดข้อหนึ่ง ถือว่าทุกอย่างเป็นโมฆะ.. ยังสงสัยอะไรอีกไหม"
"สงสัยค่ะ"
"ถามมาได้เลย"
"คุณอายุเท่าไร"
"หือ?" คิ้วหนาขมวดเข้าหากันพร้อมกับมองเจ้าของใบหน้างามที่อยู่ตรงหน้า "หน้าตาฉันเหมือนคนแก่ไม่มีเรี่ยวแรงอย่างนั้นเหรอ" เขาข้องใจว่าทำไมเธอถึงถามเรื่องอายุแทนที่จะถามเรื่องที่อยู่ในกระดาษแผ่นนั้นมากกว่า
นี่เขาคิดบ้าอะไร คิดว่าเราจะชอบเรื่องอย่างว่าขนาดนั้นเลยเหรอ "เปล่าค่ะฉันแค่อยากจะรู้ไว้จะได้เรียกคุณถูก"
"คุณก็เรียกผมเหมือนกับพนักงานทั่วไปที่เรียกกันนั่นแหละ ยังมีอะไรที่ข้องใจอีกไหม"
ถ้าจะถามเรื่องแม่ มันจะเป็นการละลาบละล้วงมากเกินไปไหม
พอคิดถึงหน้าผู้หญิงคนนั้นขึ้นมา มือเรียวก็ยื่นไปจับปากกา แล้วเซ็นชื่อลงไป ด้วยดวงตาที่แดงกล่ำ
"ฉันเซ็นแล้ว" หญิงสาวยื่นกระดาษแผ่นนั้นกลับไปให้เจ้าของ "อุ๊ยคุณ!"
แทนที่เขาจะจับเอากระดาษแต่กลับคว้าตัวของเธอเข้ามา
"คุณจะทำอะไรปล่อยเดี๋ยวนี้นะ!"
"ก็ในเมื่อคุณเซ็นยินยอมแล้วทำไมต้องให้ผมปล่อยอีกล่ะ"
"ฉันเซ็นแล้วก็จริงแต่ฉันยังไม่ได้อะไรในข้อตกลงนั้นเลย"
เขาไม่ได้ปล่อยเธอออกจากอ้อมกอด แต่มือหนายื่นไปเปิดลิ้นชักที่อยู่ข้างเตียงนอนเอาอะไรบางอย่างออกมา
"แค่เธอเซ็นชื่อลงไปในเอกสารสิทธิ์ทุกอย่างก็จะเป็นของเธอ"
ดวงตางามกรอกมองไปดูเอกสารที่เขายื่นมา นี่อะไรกัน? เขาเตรียมการไว้แล้วอย่างนั้นเหรอ??
"เซ็นสิ"
"คุณก็ปล่อยฉันก่อนสิ" หัวใจดวงน้อยเต้นรัวขึ้นมา ใครตั้งชื่อพร้อมรบให้เขาเนี่ย ดูเหมือนว่าเขาจะพร้อมตลอดเวลาเลยนะ
"ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าเอกสารพวกนี้มันเป็นของจริง"
"เดี๋ยวสายๆ จะพาไปดูบ้าน ส่วนเรื่องรถ จะให้ไปเลือกเอาว่าชอบรุ่นไหน"
"ได้ถ้างั้นสายๆ เจอกัน" หญิงสาวรีบลุกขึ้นจากเตียง เธอจะเสียท่าให้เขาง่ายๆ แบบนี้ไม่ได้ ..แต่ดูเหมือนว่าความไวของเธอจะยังช้ากว่าเขาอยู่มาก "กรี๊ดด! ปล่อยนะ!"
น้ำตาค่อยๆ คลอออกจากเบ้า เมื่อเห็นหน้าหลานชายคนแรก นางเป็นได้ทั้งย่าและยายของเด็กคนนี้ พ่อของเด็กก็คือลูกชายที่นางเลี้ยงมา และแม่ของเด็กก็คือลูกสาวแท้ๆ ของนางเอก"ยังเจ็บอยู่ไหมลูก""ไม่เจ็บแล้วค่ะ" คนึงหารู้ซึ้งก็วันนี้ ตอนที่อยู่ในห้องคลอด ถึงแม้ว่าจะกุมมือสามีไว้ แต่ขณะที่เจ็บมากๆ ก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงแม่ ถึงแม้แม่จะคลอดแล้วทิ้งเธอไป แต่แม่ก็คงทรมานไม่ต่างกัน ในระหว่างที่อุ้มท้องและเบ่งคลอด"คุณได้ชื่อหลานหรือยังล่ะ" วิวัฒน์ถามภรรยาเก่าที่เอาแต่เช็ดน้ำตา ทั้งสองยังพูดคุยกันตลอดมา แต่จะคุยแค่เรื่องลูกและหลาน เพราะความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาได้ขาดสะบั้นไปแล้ว"จะให้ฉันตั้งชื่อเหรอคะ""ใช่ครับคุณแม่" คนที่ตอบก็คือพร้อมรบ "คนึงบอกว่าจะรอให้แม่เป็นคนตั้งชื่อหลานให้" ในขณะที่พูดมือหนาของสามีก็กุมมือภรรยาไว้ตลอดเวลาคณิตมองดูลูกสาวที่นอนอยู่บนเตียงแล้วส่งยิ้มให้ทั้งน้ำตา"ยายบอกว่า ชื่อคนึงหา เป็นชื่อที่แม่ตั้งไว้ให้ค่ะ" คนึงหาเอ่ยพูดกับแม่เบาๆ ..ถึงแม้ชื่อนี้มันจะดูเศร้า แต่มันก็เป็นสิ่งเดียวที่เธอรู้สึกผูกพันกับแม่มาก หญิงสาวคิดว่าแม่อาจจะตั้งคล้องจองกับชื่อของท่านที่ชื่อคณิตแต่จริงๆ แล้ว
สองวันผ่านไป.. ก่อนที่จะกลับคนึงหาพาแม่มาไหว้ยายกับพ่อ ที่จริงคณิตก็มาไหว้ตั้งแต่วันถัดมาที่มาถึงแล้ว และนางก็มาทุกวัน ถึงแม้จะคิดได้ก็สายไปแล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ คณิตได้แต่สาบานกับตัวเองไว้ว่าจะไม่ทำตัวเหมือนแต่ก่อน โชคดีเท่าไรแล้วที่นางยังมีโอกาสได้กลับตัว ก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายมากไปกว่านี้"คุณพ่อกับคุณยายต้องเข้าใจแน่ค่ะ คุณแม่อย่าคิดมากนะคะ"หึ..คณิตได้แต่ขำในใจ นางอายุขนาดนี้แล้ว ยังต้องให้ลูกเป็นคนคอยสอน เกิดมานางเคยมีดีอะไรบ้าง และนางก็ไม่คิดว่าลูกสาวที่นางทิ้งไป จะเป็นคนดีและกตัญญูได้ถึงเพียงนี้ ..ขอบคุณนะคะแม่ที่เลี้ยงคนึงหามาได้ดีขนาดนี้"ไปกันค่ะแม่" ก่อนที่จะเดินออกมาคนึงหาก็ได้หันไปคุยกับยายและพ่อว่าถ้ามีโอกาสจะพาแม่มาหาพวกท่านอีกพอทุกคนเสร็จธุระก็ออกมาที่รถตู้คันหรู ซึ่งมีต้นสนทำหน้าที่เป็นคนขับ[กรุงเทพฯ] ขับรถอยู่หลายชั่วโมงก็ได้มาถึงที่วิลล่าพอมาถึงก็เห็นลูกหว้าเตรียมของรอรับแม่กับพี่สาวและพี่ชายไว้แล้ว เพราะเธอติดต่อกับคนึงหาตลอดเวลา"คิดถึงคุณแม่จังเลยค่ะ" หญิงสาวเดินเข้าไปโอบกอดแม่ไว้ คนึงหาแอบมองที่น้องกับแม่กอดกัน เพราะลูกหว้าได้รับความอบอุ่นจากแม่แบบนี้เสมอ
ดวงตางามหลบสายตาคมที่มองแบบมีเลศนัย "คุณจะสอนยังไง" ลูกหว้าไม่ใช่คนที่ใฝ่หาเรื่องพวกนี้ ก็เลยไม่รู้ว่าถ้าจะช่วยผู้ชายต้องทำยังไง"ใช้ปาก"ยิ่งได้ยินคำพูดแบบนี้เธอก็ยิ่งอายไปกันใหญ่ ก็รู้แหละว่าการใช้ปากคือเอาไอ้นั่นเข้ามาในปากของตัวเอง เหมือนกับที่เขาใช้ลิ้นให้เธอ "เออ""ถ้าไม่ ก็ไม่เป็นไรนะครับ" โลกันตร์ไม่คิดจะบังคับเธออยู่แล้ว เพราะมันเป็นอะไรที่บางคนอาจจะรับไม่ได้หญิงสาวพยักหน้าเล็กน้อยเพื่อเป็นการตอบว่าจะช่วยเขา ..เห็นเท่านั้นแหละ โลกันตร์รีบคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไปเพื่อทำความสะอาด เพราะทำงานมาทั้งวันชายหนุ่มใช้เวลาอาบน้ำอยู่เพียงไม่นานก็ออกมา ส่วนหญิงสาวที่นั่งอยู่ปลายเตียงถึงกับหน้าแดงก่ำ เมื่อเห็นเจ้ามังกรลำใหญ่มือแกร่งเอื้อมไปจับมือเรียวของเธอให้ขึ้นมาสัมผัสกับท่อนเอ็นอุ่น เขาใช้อุ้งมือของเธอเพื่อรูดมันขึ้นลง เพื่อให้เธอชินมือก่อน"ไม่ต้องอายผมนะ เราแต่งงานกันแล้ว" เห็นเธอหน้าแดงก็อดเอ็นดูไม่ได้ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาแบบนั้น เพราะเขาเริ่มเสียวซ่านเมื่อถูกมือเรียวกำแน่นขึ้นลูกหว้าเผยอปากขึ้นเมื่อเจ้าของท่อนเอ็นขยับมันเข้ามาใกล้แบบไม่ต้องให้บอก"อ๊าา เสียวจัง" เข้าไปได้แ
"แต่ลูกหว้า.." เธอเป็นลูกผู้หญิงที่คิดจะฆ่าท่าน แถมไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของท่านอีก แล้วเธอจะกล้ากลับไปได้ยังไง"ลูกจะทิ้งตาแก่ไว้ที่บ้านแบบนั้นคนเดียวได้ลงคอเหรอ""คะ?" ลูกหว้าไม่สามารถที่จะกลั้นน้ำตาไว้ได้ ทำไมท่านช่างดีกับเธอนัก ทั้งที่รู้ว่าเธอไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่ท่านก็ยังไม่เคยทำร้ายจิตใจของเธอเลยแม้แต่นิด"กลับบ้านเรานะลูก""ค่ะ คุณพ่อ" หญิงสาวโผล่เข้าไปกอดชายสูงวัยที่เลี้ยงเธอมาตั้งแต่คลอด ลูกหว้าไม่อยากรู้เลยด้วยซ้ำว่าใครเป็นพ่อแท้ๆ ของเธอ ขอแค่มีท่านคนเดียวก็พอแล้วเย็นวันเดียวกัน.. ที่คฤหาสน์เสรีวิวัฒน์ชายหนุ่มได้แต่ยืนมองคฤหาสน์หลังใหญ่ ที่ครั้งหนึ่งแม่ของเขาเคยอยู่ที่นี่ แต่ต้องหอบลูกในท้องออกจากบ้านของสามีไป เพราะความไม่รู้จักพอ ของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อ"เข้าบ้านกันค่ะ" มือเรียวเอื้อมไปกุมมือของสามีแล้วพูดกับเขาเบาๆ และมันก็ทำให้โลกันตร์ตื่นจากภวังค์ที่กำลังคิดอยู่คนร่างหนาเดินตามหญิงสาวตัวเล็กๆ ที่จูงแขนของเขาให้เดินเข้ามาในบ้านหลังใหญ่"ยินดีต้อนรับกลับบ้านทั้งสองคนเลยนะลูก" คนหนึ่งลูกชายในไส้ อีกคนลูกสาวที่เลี้ยงมากับมือ ไม่รู้ว่าจะเป็นความโชคดีหรือโชคร้ายกับสิ่งที่พบ
คนึงหาโทรกลับไปหารัตนาเพื่อวานให้ทำความสะอาดบ้านไว้รอ เพราะเธอจะพาแม่กลับไปส่วนพร้อมรบไม่ทิ้งให้พวกเธอกลับไปเพียงลำพังแน่ เขาก็เลยให้โลกันตร์อยู่ดูงานช่วยพ่อไปก่อนส่วนลูกหว้าอยากจะไปกับแม่และพี่สาว แต่ถ้าเธอไป สามีก็จะตามไปด้วย ลูกหว้าก็เลยจำเป็นต้องได้อยู่ที่นี่ไปก่อน แล้วค่อยตามไปอีกทีเมื่องานบริษัทเบาลงแล้วต้นสนทำหน้าที่ขับรถตู้คันที่เคยเป็นของคณิตมาก่อน เพราะถ้าเดินทางด้วยรถส่วนตัวก็จะสะดวกหน่อยขับรถอยู่หลายชั่วโมง ก็กลับมาถึงที่หมู่บ้านในช่วงเย็นหลายคนในหมู่บ้านที่ได้ยินข่าวว่าคณิตจะกลับมาต่างก็มารอรับ และทุกคนก็พูดแบบยินดีที่เห็นคณิตกลับมาบ้านเกิด"แม่นอนห้องนี้ได้ไหมคะ"คณิตมองดูบรรยากาศเก่าๆ บ้านหลังเก่า ห้องเก่าที่นางเคยนอนกับสามีพ่อของคนึงหา นางถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่"ไม่เป็นไรนะคะแม่ คนเราไม่จำเป็นต้องดีเสมอไป แต่ขอให้คิดได้ก็พอแล้ว" คนึงหาไม่รู้จะปลอบใจแม่ยังไง กลัวว่าอาการเดิมของแม่จะกลับมา"นอนได้สิจ๊ะ แต่ก่อนแม่ก็เคยนอนที่นี่แหละ"ในระหว่างที่ทั้งสองคุยกันอยู่ในห้อง ด้านนอกก็กำลังคุยเช่นกัน..."ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะพี่ต้น" จะไม่ให้ทักก็คงไม่ได้ แต่รัตนาก็รู้แล
"คุณแม่คะ" ลูกหว้าหันมองตามสายตาของโลกันตร์ไป ก็เห็นว่าเขากำลังมองแม่ของเธออยู่"ผมไปนะ" คำพูดนี้โลกันตร์พูดกับภรรยาก่อนที่จะหันหลังให้ ทำไมเขาถึงทำไม่ได้ เขาเองไม่ใช่เหรอที่เป็นคนพูดว่ามันคงเป็นเวรกรรมที่พวกท่านทำร่วมกันมา พอคิดได้แค่นั้น ชายหนุ่มร่างสูงก็ค่อยๆ หันกลับมาอีกครั้ง และสายตานั้นก็หันมองเห็นเธอกำลังเช็ดน้ำตาอยู่พอดี"คุณร้องไห้ทำไม"ลูกหว้าไม่ได้ขอร้องให้เขาหยุด เพราะคงไม่กล้าไปขอร้องเขาอภัยให้แม่ของเธอได้ ท่านทำกับครอบครัวของเขาไว้มากมายเหลือเกินชายหนุ่มรีบเดินกลับมาหาภรรยา มือหนาเอื้อมไปโอบเธอเข้ามาแนบอกตัวเองไว้"ไม่ร้องนะครับ"ที่ลูกหว้าร้องไห้เพราะไม่คิดว่าเขาจะหันกลับมา แต่พอเห็นเขาเดินกลับมาปลอบ มันยิ่งทำให้เธอเชื่อว่าผู้ชายคนนี้แคร์เธอมาก"แม่ขอคุยกับคุณโลกันตร์หน่อยได้ไหม""เอาไว้คุยวันหลังแล้วกันครับ" โลกันตร์พูดโดยที่ไม่หันไปมองนางเลยด้วยซ้ำ"แม่จะรอนะ""ไปพักดีกว่า" โลกันตร์มองต่ำลงมาพูดกับคนที่เขากำลังกอดอยู่ โดยที่ไม่สนใจประโยคนั้นของแม่เธอเลย"ไหนคุณบอกว่าจะกลับไปบริษัทไงคะ""ไม่กลับไปแล้ว" เรื่องงานเขาไม่ได้เป็นห่วงเลย สิ่งที่เป็นห่วงก็คือเธอกับลูกลูกหว้