ไอโกะนั่งชิดจนติดริมประตู ริมฝีปากอิ่มสีเรื่อปิดสนิท
ถึงแม้ว่า ในใจลึก ๆ แล้วรู้สึกดีใจ ที่ชายหนุ่มยอมตามใจ แต่อีกใจก็ยังคงเก็บ ความไม่พอใจเอาไว้เงียบๆ
ด้วยความเป็นเด็กเอาแต่ใจ การควบคุมอารมณ์คุกรุ่น ที่เพิ่งเกิดขึ้น จึงยังทำได้ไม่ง่ายนัก หากเป็นผู้ใหญ่กว่านี้สักหน่อย คงยกระดับการควบคุมอารมณ์ ของตัวเองได้มากขึ้นตามลำดับ
“ฮิบาริ วนหาโรงแรมให้คุณไอโกะพักก่อน”
ยูตะสั่ง เพราะระยะทางจากโตเกียว มาถึงตัวจังหวัด อิบารากิ ใช้เวลาขับรถยนต์ ไม่เกินหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ซึ่งเวลานี้ยังไม่ถึงเที่ยงคืนด้วยซ้ำ
“ไม่ต้อง!ไม่พัก! ไม่อยากพัก”
“อีกหลายชั่วโมงนะกว่าสวนจะเปิด เธอควรพักเอาแรง สวนดอกไม้ของที่นั่น กว้างมากจนสุดลูกหูลูกตา เธออาจไม่มีแรงเดิน” ชายหนุ่มพยายามอธิบายให้หญิงสาวเข้าใจ
“ไปจอดนอนรอหน้าสวน พอสวนเปิด จะได้ซื้อบัตรให้ฉันเป็นคิวแรก” เธอตอบเขากลับไปเสียงห้วน
ทำตัวไม่น่ารักเอาเสียเลย ชายหนุ่มได้แต่คิดในใจ ขืนพูดออกไป เหมือนเอากองไฟโยนใส่น้ำมัน
ชายหนุ่มส่งสายตา บอกลูกน้องอย่างรู้กัน เมื่อเห็นฮิบาริ เหลือบตาขึ้นมองเขา ทางกระจกมองหลัง
เมื่อถึงหน้าสวน ทั้งสี่คนพากันออกมาจากรถ เพราะรู้สึกเมื่อยล้า โกโร่กับฮิบาริ ขอเดินไปสูบบุหรี่ ห่างจากจุดจอดรถออกไปพอสมควร
หญิงสาวยืนกอดอก พิงด้านข้างของรถ แหงนหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้ากว้าง ที่มีดวงดาว ทอแสงระยิบระยับ แข่งกันอย่างสวยงาม มองเห็นได้ชัด กว่าในโตเกียว ที่มีแต่แสงไฟสว่าง บดบังแสงของดวงดาว ยามค่ำคืน จนมองแทบไม่เห็น
ความงดงามของท้องฟ้า ที่ประดับไปด้วยดาว ทำให้ความขุ่นมัวภายในใจค่อยๆ หายไปจนหมดสิ้น
ยูตะ ยกมือสอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ยืนพิงรถอยู่ด้านข้าง เมื่อเห็นเธออารมณ์ดีแล้ว เขาจึงเอ่ยถามหญิงสาวขึ้นก่อน
“เธอหายโกรธฉันแล้วใช่ไหม”
หญิงสาวเหลือบตามองชายหนุ่ม ผ่านความมืด ก่อนเอ่ยตอบเขากลับไปเสียงเรียบ
“ฉันเป็นคนโกรธง่าย แต่หายยาก”
“แสดงว่า ยังโกรธอยู่”
“จะโกรธมากกว่านี้..ถ้าคุณไม่หยุดพูด..อุ๊ย!ดาวตก!ยูตะ คุณเห็นเหมือนฉันไหม”
หญิงสาวขี้นิ้วขึ้นฟ้า หันมาถามชายหนุ่มอย่างรู้สึกดีใจ เพราะเป็นครั้งแรก ที่ได้เห็นดาวตกชัดขนาดนี้
“ทำไมไม่รีบอธิฐาน”
“ได้เหรอคะ มันตกไปแล้วนะ”
“ก็รอดวงใหม่สิ ตกทั้งคืน มีเสื่อติดมาหลังรถ เอามาปูนั่งรอดู ตรงนี้เลยไหม”
“ขอบคุณค่ะ”
คำพูดที่เอ่ยออกมา และการกระทำที่แสดงออก ของหญิงสาว มันทำให้ชายหนุ่มรับรู้ได้ว่า ความขุ่นข้องหมองใจที่เธอมีต่อเขา ได้หายไป เขามองเสี้ยวหน้าด้านข้าง ของหญิงสาว อย่างรู้สึกบอกไม่ถูก ใจหนึ่งอยากอยู่ใกล้ แต่อีกใจกลับค้านหัวชนฝา
ระหว่างแรงดึงดูด กับแรงผลักดัน เวลานี้ ชายหนุ่มไม่รู้ว่า ควรให้น้ำหนักฝ่ายไหนมากกว่ากัน
“ยู!นั่น ตกอีกแล้ว อธิฐานเร็วเข้า”
หญิงสาวอุทาน ก่อนกุมมือค้ำใต้คาง แล้วรีบหลับตาอธิฐาน ขอพรทันที ดังที่ชายหนุ่มบอกไว้
“อธิฐานว่ายังไง”
ชายหนุ่มถามหลังจากที่เห็นว่าหญิงสาวลืมตาขึ้นมาแล้ว
“ขอให้สงครามยุติ”
เรื่องอะไรล่ะ ที่เธอจะบอกเขาตรง ๆ ว่า เธออธิฐานว่ายังไง เธอบอกเขาไม่ได้ ในเมื่อพรที่เธอขอ มีเขาอยู่ในนั้นด้วย
ยูตะเลิกคิ้ว ทำท่าไม่อยากเชื่อ
“เรากำลังอยู่ในสงครามกันหรือไง”
“สงครามความรัก”
“..............”
ยูตะยังไม่ทันได้เอ่ยอะไร เพราะนึกไม่ทัน ในขณะที่หญิงสาวล้มตัวลงนอนขด ใช้ขาที่กำลังเหยียดยาวอยู่ข้างๆ ของชายหนุ่มหนุนแทนหมอน แล้วหลับตาลง อย่างรู้สึกอุ่นใจ ปล่อยให้เขา นั่งอยู่ท่านั้นยันสว่างคาตา
ลูกน้องทั้งสองคนมองเห็น ถึงกับส่ายหน้า ได้แต่พากันถอนใจ อย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี
เมื่อสวนเริ่มเปิดมีผู้คนทยอย เข้าไปซื้อตั๋ว แบบระบบอัตโนมัติ กันอย่างเนื่องแน่น แน่นอนว่าโกโร่และฮิบาริ ได้ยืนรอคิวเป็นอันดับแรกไอโกะรู้สึกดีใจ ที่จะได้ชมสวนดอกไม้ กว้างใหญ่เป็นครั้งแรก หลังจากที่ได้ดูมาจากโซเชี่ยลต่าง ๆ จนติดตา และเก็บเอาไปฝันฝันว่า ในดงดอกไม้นั้น มีเธอและยูตะ หยอกล้อเล่นกัน ราวกับคู่รักธรรมดาคู่หนึ่ง มีความสุขกับบรรยากาศรอบ ๆ ท่ามกลางดอกไม้หลากสีสายพันธุ์แต่นั่นมันเป็นเพียงแค่ความฝัน ไม่มีวันเป็นจริงได้ เธอรู้ว่า สักวันเขาต้องจากไป เธอจึงพยายามชักชวนให้เขา พาเธอมาเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ ด้วยกัน ให้อยู่ในความทรงจำลึกๆ ในหัวใจ ถึงแม้มันอาจไม่มีความหมาย มากมายสำหรับเขา แต่สำหรับเธอแล้ว คงไม่มีวันลืมเขาได้ ตราบเท่าที่ยังมีลมหายใจอยู่เมื่อทุกคนเดินผ่านประตูทางเข้า ก็พบกับรถรางหลากสี เพื่อให้คนนั่ง เข้าไปชมสวนดอกไม้ ได้ทุกโซน เพราะบางคนอาจเดินไม่ไหวอีกจุดหนึ่งทางสวน มีบริการเช่ารถจักยานให้ปั่น เพื่อกันการเกิดอุบัติเหตุ จึงแยกเส้นทาง ระหว่างจักรยาน กับคนเดินเท้าอย่างชัดเจนไอโกะหันไปจับแขนชายหนุ่ม เขย่าแล้วเงยหน้าถามเขา อย่างประจบ ผิดกับไอโกะเมื่อวานนี้ราวคนละคน“ยู ปั่
เมื่อทุกคนมารวมตัวกันในรถ ฮิบาริจึงเปลี่ยนให้โกโร่เป็นคนขับแทนบ้างขณะโกโร่กำลัง เคลื่อนรถออกจากบริเวณสวนดอกไม้ ก็มีเสียงของไอโกะเอ่ยทักขึ้นมา“ฉันยังไม่อยากกลับนะโกโร่”โกโร่มองสบตาลูกพี่ ผ่านกระจกมองหลัง เหมือนจะรอคำตอบ“อยากไปไหน” ยูตะหันมาถาม“ฉันเมื่อยขา เมื่อยตัวด้วย คุณพาฉันไปพักที่ออนเซ็นหน่อยนะคะ เอาแบบอยู่ในห้องส่วนตัว ด้านนอกเป็นธรรมชาติ มีต้นไม้เยอะๆ แล้วก็เสียงนกร้อง แถว ๆ นี้มีไหม”“โกโร่ ฮิบาริ”“ได้ครับลูกพี่”ง่าย ๆ สั้น ๆ ไม่ต้องส่งลิงก์ทางสายตา เพียงแค่เรียกชื่อ ลูกน้องทั้งสองคนของชายหนุ่ม ก็ลงมือทำงานกันได้ อย่างคล่องแคล่วว่องไวฮิบาริยกโทรศัพท์กดหา สถานที่ออนเซ็น ในแบบที่หญิงสาวต้องการ เมื่อพบแล้ว ก็หันไปบอกสถานที่นั้นกับโกโร่ทันทีทำงานกันเป็นทีม!“ฮิบาริ ถามที่นั่นให้ฉันทีว่า มีจิ้งจกอยู่ไหม ถ้ามีช่วยเอาออกจากห้อง ไปให้หมดนะ ฉันกลัว”ยูตะได้ยินจึงหันไปแอบยิ้ม โดยไม่ให้ไอโกะเห็น แต่กลับไม่พ้นสายตาของโกโร่ ที่เห็นอาการของลูกพี่ ผ่านกระจกมองหลัง“เธออยากได้ธรรมชาติไม่ใช่หรือไง มันคือสัตว์ที่อยู่กับธรรมชาติ บ้านไหนมีจะแสดงถึง ความร่ำรวย ยิ่งมีเยอะก็จะยิ่งมั่งคั่ง”
ชายหนุ่มไม่ได้ตอบคำถามของเธอ เพราะจับใจความไม่ได้ สมองกำลังสั่งให้ความรู้สึก ทั้งหมดของร่างกายเริ่มตื่นตัว จนไร้แรงต้านทานมันได้อีกต่อไปร่างนุ่มนิ่ม ผิวเนียนขาวอมชมพู ที่เขาอยากสัมผัสมานาน อยู่ในอ้อมแขนตรงหน้ามือใหญ่เริ่มปัดป่ายไปทั่วหลังบอบบาง ไล่ลงมาบริเวณเอวเล็กนอกผ้าขนหนู ลูบไล้ไปที่ขาอ่อน ไม่มีอะไรปกปิดไว้เลยเพราะหญิงสาวพันกาย ปิดได้เพียงช่วงบน ช่วงล่างบัดนี้ ชายผ้าขนหนู ได้ถูกรั้งลอยขึ้นมาเพราะอยู่ใต้น้ำ ไอโกะตัวแข็ง เมื่อถูกสัมผัสลูบไล้จากฝ่ามือหนา และเริ่มตัวอ่อนตามมา เมื่อริมฝีปากอุ่นจัด บดจูบเธออย่างเร่าร้อน หิวกระหาย จนทำให้สติของหญิงสาวแตกกระเจิง รู้สึกอ่อนแรงลงทุกขณะ อะไรบางอย่างกำลังก่อตัวขึ้นอย่างรุนแรง ทันทีที่ริมฝีปากได้สัมผัส กับริมฝีปากนุ่มแสนหวาน จูบนั้นทำให้ชายหนุ่ม ลืมทุกสิ่งทุกอย่างจนหมดสิ้น ลืมสิ่งที่ตัวเองตั้งใจไว้แต่แรก หญิงสาวช่างมีแรงดึงดูดมหาศาล ทำให้ชายหนุ่มเสียการควบคุมตัวเอง อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ยิ่งเห็นเธองดงามไปทั้งเนื้อทั้งตัวแบบนี้ ทำให้เขาหมดความยั้งคิด อารมณ์ปรารถนาที่เคยถูกปิดกั้นมาก่อน ต่างประดังเข้ามาอย่างไม่หยุดยั
ไอโกะกลับจากเที่ยวชมสวนดอกไม้ หญิงสาวไม่ได้เห็นหน้า ชายหนุ่มอีกเลยหลังจากนั้น รวมไปถึงลูกน้องทั้งสองคนของเขา ก็หายไปด้วยเช่นกัน เธอรู้สึกแปลกใจ จึงรีบสาวเท้าก้าวเข้าบ้านโดยเร็ว เมื่อเห็นรถของบิดาจอดอยู่ในโรงรถ นั่นแสดงว่าท่านได้กลับมาแล้ว“พ่อคะ ยูตะไปไหน หนูไม่เห็นมาหลายวันแล้ว พ่อใช้ให้เขาไปไหนอีก”“เขาไปแล้ว”“ไปไหนคะ”“พอดีบริษัทที่พ่อให้เขาดูแลอยู่ที่อเมริกา มีปัญหากับหุ้นส่วน และคู่แข่ง ยูตะเลยต้องกลับไปจัดการนะลูก”“ทำไมเขาไม่บอกหนู เขาจะไปนานแค่ไหนคะ เมื่อไหร่จะกลับมา แล้วใครจะสอนหนู”คำถามที่กำลังพรั่งพรูออกมาจากริมฝีปากอิ่มเรื่อ ทำให้ฮินาตะต้องวางปากกา ที่กำลังเซนเอกสารลง แล้วเงยหน้าขึ้นตอบบุตรสาวตามตรง“ยูตะ เป็นคนฝีมือดี ทั้งทางบู้ และมีไหวพริบทางธุรกิจ เขามีธุรกิจเป็นของตัวเอง แต่ยังคงดูแลบริษัทให้พ่ออยู่ เขาไม่ต้องการเข้ากลุ่มยากูซ่า ไม่อยากยุ่งกับธุรกิจสีเทา พ่อเรียกเขากลับมาเพื่อสอนลูก และอยากให้เขาดูแลปกป้องลูก เหมือนที่พ่อของเขา เคยปกป้องพ่อเสมอจนตัวตาย แต่เขาไม่เลือกเรา”ฮินาตะรักพ่อของยูตะ เสมือนน้องชายตัวเอง เขาจึงไม่อยากใช้อำนาจ บังคับชายหนุ่มให้เข้ากลุ่ม ไ
วันนี้คือครั้งแรกที่ฮินาตะจะพาไอโกะ เข้าที่ประชุมใหญ่ ร่วมกับหุ้นส่วนนักธุรกิจที่มาจากประเทศต่างๆ รวมไปถึงหุ้นส่วนที่อยู่ในประเทศญี่ปุ่นไอโกะในชุดสูททันสมัย เดินหลังตรงตามบิดาของเธอไป หญิงสาวเกล้าผมสูง เปิดให้เห็นหน้าผากมน แต่งหน้าเข้มขึ้น ริมฝีปากอิ่มสีแดงสด ดวงตาที่เคยฉายประกายดื้อรั้น มาบัดนี้ ดวงตายาวรี ฉายประกายแววหวานท้าทาย เด็ดเดี่ยวและมั่นใจ ตามอายุที่เพิ่มขึ้น เมื่อก้าวเข้าห้องโถงใหญ่ เพื่อรอเวลาก่อนเข้าห้องประชุม หัวใจของหญิงสาวเต้นแรง เมื่อไม่คิดว่าจะได้เจอ คนที่เธอไม่อยากจะเจอ นับจากวันที่เขาจากไป โดยไม่สนใจความรู้สึก ไม่แคร์ ไม่ให้เธอติดต่อเขาได้ และไม่เคยคิดที่จะติดต่อกลับมา นับเป็นเวลานานเกือบห้าปีสายตาของทั้งคู่ สบประสานกัน...ด้วยความตั้งใจของชายหนุ่ม ดวงตาแววหวานกระพริบถี่ ก่อนเบือนหน้าหนีไปอีกทางสายตาของทุกคู่ ในห้อง ต่างหันมามองหญิงสาว ที่เดินตามหลังฮินาตะ เป็นตาเดียว เคยได้ยินแต่ชื่อหรือรูปที่ถูกถ่ายตามสื่อทั้งหลาย ว่าลูกสาวของฮินาตะ สวยบาดตาบาดใจ บางคน ยังไม่เคยเห็นหญิงสาว ถนัดตาดังเช่นวันนี้ฮิโรชิ มองหญิงสาวเต็มตา ชายหนุ่มเคยถูกเธอปฏิเสธการหมั้น เมื่
เมื่อฮินาตะเห็นลูกสาวเข้ามา จึงเอ่ยทักหญิงสาวไปว่า“เจอยูตะหรือยังลูก เห็นเขาบอกพ่อว่าจะออกไปหา”“หนูไม่รู้จักเขา พ่ออย่าเอ่ยชื่อนี้ ให้หนูได้ยินอีกนะ!”หญิงสาวกล่าวกับบิดาอย่างหัวเสีย เดินไปสงบสติอารมณ์ อีกมุมหนึ่ง เมื่อเห็นชายหนุ่ม เดินเข้ามาหาบิดาของเธอ หญิงสาวจึงเดินปรี่เข้าไปทันที“พ่อคะ หนูไม่เข้าประชุม หนูจะกลับบ้าน”พูดกับบิดา แต่เธอหันไปมองชายหนุ่มตาขุ่นขวาง ก่อนสะบัดหน้า เดินออกจากห้องโถงไปทันที โดยไม่ฟังเสียงทัดทานจากฮินาตะ ที่มองตามหลังไป เพราะเอ่ยเรียกบุตรสาวไว้ไม่ทัน“ผมจะไปตามเธอเองครับ”ยูตะหันมาบอก แล้ววิ่งตามหญิงสาวไปติดๆแต่ไม่ทัน! เมื่อเธอก้าวเข้าลิฟท์ไปเสียแล้ว ชายหนุ่มจึงตัดสินใจวิ่งลงบันไดไม่นานเขาก็มาถึง คว้าแขนหญิงสาวเอาไว้ได้ ถูกอีกฝ่ายวาดมือมาตบ แต่เขาหลบทัน แล้วรวบเธอพาดบ่าโดยไม่สนใจสายตา ของคนที่ผ่านไปผ่านมาแถวนั้นฤทธิ์เยอะเหมือนเดิม!หญิงสาวโมโหจนหน้าดำหน้าแดง แต่แสร้งทำเป็นสงบ พอถูกชายหนุ่มวางลงเท่านั้น เธอก็ปล่อยหมัดใส่เขา แต่ถูกมือใหญ่รวบกำปั้นเล็ก ๆ ไว้ได้ ก่อนจะปล่อยให้เธอชกเขาใหม่ ชกได้เพียงลม หมัดของหญิงสาว ไม่ได้สัมผัสตัวเขาเลยแม้แต่น้อยไอโกะ
คนร้ายประกบรถของหญิงสาว ขนาบทั้งสองข้าง และด้านหลังอีกคัน บังคับให้ไปในทิศทาง ที่ต้องการให้เธอไป ในเมื่อช้าเร็วต้องเผชิญหน้า จะทอดเวลาไปทำไมถ้าต้องการตัวเธอเป็น ๆ ไม่มีทาง! จะเอาตัวเธอไปได้ ต้องปราศจากลมหายใจเท่านั้นหญิงสาวรู้ดีว่า ยากูซ่าพวกนี้โหดร้าย เห็นคนตายเป็นเหมือนขนมหวาน ไม่เคยคิดปราณีใคร เธอไม่ยอมให้พวกมันจับไป ต่อรองกับบิดาโดยเด็ดขาด ถ้าเธอรอดไปไม่ได้ ก็ขอยอมตายอยู่ตรงนี้หญิงสาวหักพวงมาลัย เบียดคันที่อยู่ด้านซ้าย อย่างไม่กลัวตาย จนมันเสียหลักลงข้างทาง...ฝุ่นตลบ...แล้วประคองรถของตัวเองจอดสนิท รีบลงจากรถ แล้วยิงใส่รถอีกสองคัน ที่กำลังจอดตามมา ในระยะใกล้ โดยไม่ให้พวกมันตั้งตัวได้เมื่อถูกหญิงสาวยิงปืนใส่ ในขณะเดียวกัน ยังมีรถรถเก๋งสีดำ ตามมาจ่อท้ายอีกสี่คัน พวกมันจึงรีบออกรถเพื่อหนี เพราะเห็นว่าพวกของเธอมีมากกว่า“โกโร่ ตามไป!ฉันอยากรู้ว่ามันเป็นใคร” หญิงสาวออกคำสั่ง เมื่อเห็นโกโร่โผล่ออกมาจากรถ“ไม่ต้องตาม ถามไอ้คัน ที่อยู่ข้างล่างนั่นก็รู้แล้ว”ยูตะ โผล่จากประตูหลังออกมาตอบเมื่อเห็นหน้าคนพูด หญิงสาวรีบสะบัดตูดหนี...กลับไปขึ้นรถของตัวเองทันที ตั้งใจว่าจะขับหนีเขาต่อไปให้ไ
“ไหนคุณบอก...จะออกไปพักโรงแรม ทำไมฉันยังเห็นคุณอยู่นี่อีก”ไอโกะโวยวายเมื่อเห็นชายหนุ่ม นั่งร่วมวงกินข้าวกับบิดา หนำซ้ำยังส่งสายตาแพรวพราวมาให้ อย่างน่าหมั่นไส้มากกว่าน่าดู“ไม่เอาน่าไอ...ยูเขามาช่วยงานของพ่อ พักที่นี่สะดวกสุดแล้ว นั่นลูกกำลังจะเข้าห้องซ้อมเรอะ ให้ยูตามไปดูหน่อย ว่าฝีมือไปถึงไหน”ชายหนุ่มไม่ตอบอะไร แต่กลายเป็นบิดาเธอออกรับแทน“ไม่ต้องตามมาดู หนูต้องการซ้อมคนเดียว” หญิงสาวบอกปัดไป โดยไม่ต้องใช้มารยาท“บางอย่างซ้อมคนเดียวได้ อย่างยิงปืนกับขว้างมีด แต่บางอย่างต้องฝึกด้วยกัน ช่วงที่ฉันอยู่ที่นี่ ฉันจะสอนเพิ่มเติมให้”“ไม่ต้องสอน ฉันไม่เรียน!”“เธออายล่ะสิ ที่ฝีมือยังไม่เอาไหน ชกได้แต่ลมกับกำแพง”ยูตะกล่าวดูถูก ทำให้หญิงสาวถึงกับของขึ้น ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่เก็บความโมโหไว้ในใจ แล้วจึงไประบายกับลูกปืน“พรุ่งนี้มือของเธอระบมแน่ ชกกำแพงมาขนาดนั้น ยังมาซ้ำยิงปืนขนาดนี้”ไอโกะหยุดยิง หันขวับมามอง คนที่กำลังยืนล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่ด้านหลัง อย่างไม่พอใจ...ทำให้เธอเจ็บทางร่างกายยังไม่พอ ยังตามมาพูดให้เธอเจ็บใจเล่นอีก“มันเรื่องของฉัน คุณไม่ต้องมายุ่ง!”“ถ้าเธอไม่ใช่ลูกสาว ของคนที่บ
ยูตะนอนตะแคงทอดสายตามองร่างบางที่อยู่ในอ้อมแขนด้วยความรัก...เสียงลมหายใจสม่ำเสมอ บ่งบอกว่าเธอกำลังหลับสนิท...ชายหนุ่มกดจมูกลงกับแก้มนุ่มหนักๆ จนทำให้อีกคนตื่น...ปรือตาขึ้นมามองแล้วเห็นว่าเขากำลังจับมือของเธอขึ้นมาแนบข้างแก้มของตัวเอง“นอนไม่หลับเหรอคะ” เสียงหวานอู้อี้ติดจะงัวเงียเอ่ยถามก่อนขยับร่างเข้ามาชิด เอื้อมแขนเล็กกอดเขาไว้ แล้วซุกหน้ากับอกอุ่นเพื่อนอนต่อ“มีหลายเรื่องต้องคิดน่ะ”ประโยคนี้ของเขาทำเอาคนที่ไม่ค่อยคิดอะไรในหัว...รู้สึกหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง...เพราะห่วง...ความรู้สึกของคนที่เธอกำลังกอดอยู่หญิงสาวเปิดเปลือกตา ก่อนเงยหน้าขึ้นมองเขา ขมวดคิ้วเชิงถามแทนเสียง แล้วหยัดตัวลุกขึ้นนั่งพร้อมกันยูตะเลือกที่จะเดินตัวเปล่าไปเปิดตู้ หยิบผ้าขนหนูมาส่งให้เธอ ก่อนพาตัวเองหายเข้าไปในห้องน้ำ โดยไม่ตอบคำถามของอีกฝ่ายไอโกะมองตามร่างสูงที่เดินตัวเปล่าผ่านหน้าไปอย่างงงๆ ทั้ง ๆ ที่มีผ้า แต่เจ้าตัวกลับเอาพาดบ่าซะอย่างงั้น...แล้วนะ ก็ไม่รู้หรือไงว่าเธออาย...ถึงแม้จะเห็นและสัมผัสเขาทั้งตัว แต่มันยังไม่ชินที่จะให้เธอเห็นเขาเดินโทง ๆ ขนาดนี้คำพูดของเขานั่นอีก...มันทำให้เธอหายง่วงไปแล้ว..ตอนนี้
เขากอดเธอไว้กับตัว พากระโดด แล้วเหวี่ยงเธอขึ้นมาบนชั้นลอยพร้อมกับตัวเองอย่างง่ายๆ ราวกับว่าเขากำลังแบกนุ่นอยู่...แบกเธอขึ้นที่สูงขนาดนี้...โดยไม่ต้องใช้เชือกอีกด้วยเหอะ...เขาเท่...มีเสน่ห์....น่าหลงไหล..เกินไปแล้วนะ...กับชุดที่ใส่นี่ก็ด้วยอ่ะ...ชายหนุ่มปล่อยร่างบางลงกับพื้น แล้วหมุนตัวทำท่าจะกระโดดพุ่งตัวลงไปด้านล่างอย่างรวดเร็ว...เหมือนกับตอนที่เอาตัวเธอขึ้นมา....แต่ทว่าเขากลับเสียจังหวะเพราะ...จุ๊บ!แขนเรียวบางที่คล้องคอเอาไว้ไม่ยอมปล่อย แถมยังเขย่งปลายเท้าจุ๊บปากของชายหนุ่มผ่านเนื้อผ้าที่ปิดใบหน้าเขาไว้อีกยูตะส่ายหน้าก่อนดึงผ้าที่ปิดปากลงไว้ใต้คาง แล้วโน้มตัวกดริมฝีปากหนัก ๆ กับเธออย่างเร็วแล้วผละออกเพราะรู้ว่าต้อง..แบบนี้เธอถึงจะยอมปล่อย…หญิงสาววิ่งตามไปดู...จนสุดราวที่กั้นไว้... เธอกวาดตามองคนที่อยู่ด้านล่างซึ่งเวลานี้..ฝ่ายตรงข้ามส่วนใหญ่จะได้รับบาดเจ็บ..โดยมีชายในชุดดำ.ยืนคุมพวกนั้นอยู่ทั่ว...และมีจำนวนมากกว่าหลายเท่าตัวอีกด้วยยูตะยืนเท้าเอวอยู่ด้านหน้า จ่อปลายดาบเข้ากับคอหอยของฟุมิโอะที่มีสภาพร่อแร่เต็มที...แต่ยังปากดีท้าทายเจ้าของปลายดาบอย่างไม่กลัวตายเช่นกัน“ฆ่าฉัน
“พ่อคะ..พ่อไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ”ประโยคแรกที่ได้ยินคือหญิงสาวเอ่ยถามคนเป็นบิดา...ที่ยืนอยู่หลังโต๊ะอีกฝั่ง บนนั้นมีแฟ้มเอกสารที่พอจะเดาได้ว่า อีกฝ่ายกำลังบังคับให้ทำอะไรบนใบหน้าฮินาตะมีสีช้ำ หางตาบวมปูด..หางคิ้วแตกยับ ยังเห็นเลือดเกาะกรังจนมองใบหน้าที่แท้จริงของท่านไม่ออกเลย มันบังคับ และซ้อมพ่อของเธอ …หญิงสาวพยามกลืนน้ำตาของความอ่อนแอเข้าไปข้างใน...สั่งใจตัวเองให้เข้มแข็งเข้าไว้ไอ้สารเลว....รู้แบบนี้เธอฆ่าลูกมันทิ้งแต่ทีแรกไปแล้ว“พ่อไม่เป็นไรลูก”ฮินาตะตอบลูกสาวกลับมาเพราะไม่อยากให้เธอกังวล เขารู้ว่า ยังไงยูตะต้องมาช่วย เขาจึงไม่ยอมเซ็นเอกสารมอบอำนาจ ยอมให้พวกมันซ้อมเพื่อถ่วงเวลาเอาไว้ แต่ไม่คิดว่าลูกสาวของเขาจะถูกจับตัวมาด้วยแบบนี้“หุบปาก!พวกแกหมดเวลาพูดกันแล้ว ถ้าแกไม่ยอมเซ็นเอกสารนะฮินาตะ ลูกสาวแกกลายเป็นศพตรงนี้แน่...ว่าไง...”สองพ่อลูกเงียบเสียงลง มองสบนัยน์ตาด้วยความหมายที่ต่างคนต่างรู้ดีอยู่แล้ว พอดีกับที่ฟุมิโอะรู้สึกแปลกใจเมื่อไม่เห็นลูกชายตัวเองเข้ามาเสียที เขาจึงหันไปเอ่ยถามกับลูกน้องที่ยืนคุมตัวของไอโกะเอาไว้ว่า“แล้วฮิโรชิลูกพี่แกไปไหน ทำไมไม่มาด้วย”ฟุมิโอะเลิกคิ้วส
ดื้อ!แต่ก็ชอบ...ดีกว่าตอบแต่ค่ะๆๆๆ นั่นมันก็จืดชืดไปหน่อย...“เธอใส่ชุดราตรี มันเด่น ไม่คล่องตัว...แล้วฉันเป็นห่วง ไม่อยากพะวงหน้าพะวงหลัง”เขาพยายามอธิบายตามมา แต่คิดเหรอว่าเธอจะยอมฟัง…นอกจากไม่ฟังแล้วยังทำเหมือนไม่ได้ยินอีกนะนั่นน่ะ“คุณพอจะมีชุดดำแบบคุณให้ฉันใส่บ้างไหมล่ะคะ แบบครบชุดทั้งอาวุธด้วย”ยูตะหัวเราะหึในลำคอ...ก็เดาใจเธอไม่เคยผิดเลยสินะ...ว่าเมียดื้อของเขาต้องพูดแบบนี้ ไม่งั้นคงไม่ใช่ไอโกะ“มันต้องปีนป่าย โรยตัวจากเชือกลงมา ต้องทำให้ตัวเบา เธอยังไม่เคยฝึกอะไรแบบนี้ ทำไม่ได้หรอกนะ”“ทำได้ค่ะ...คุณก็ทำตัวเบา แล้วให้ฉันขี่หลังพาปีนขึ้นไป แล้วก็พาไต่ลงมา มันก็เหมือนเป็นการฝึกไปในตัวนะฉันว่า...”แล้วมาบอกเขาว่ามีผัวแล้วไม่ใช่เด็ก...แต่ที่พูดออกมาแต่ละประโยคนั่น มันใช่ผู้ใหญ่แล้วเถอะ“นินจามันต้องใช้ความเบา ความเร็ว..และคล่องตัว....แล้วฉันจะอุ้มเธอกระเตงไปได้ยังไงล่ะ...ไม่อยากให้ลูกศิษย์กับลูกน้องฉันมาหัวเราะเรา แล้วฝ่ายนั้นอีกพวกมันต้องหัวเราะเยาะฉันแน่ แล้วฉันจะคุมคนได้ยังไง…รอฉันอยู่ที่นี่เถอะนะ”“...!!...”“............นะ”“..........ไอ..นะ”เขาอ้อนก่อนทิ้งหัวที่มีผ้าคลุมสีด
ยูตะไม่รอช้า รีบพิมพ์ข้อความลับส่งถึงโกโร่...หลังจากที่ไอโกะได้วางสายไปแล้ว...ที่เลือกส่งข้อความลับนั่นก็เพราะว่า...ถ้าเขาเลือกใช้โทรศัพท์ คนอยู่ใกล้ ๆ อาจได้ยินด้วยนี่สิ...ฝ่ายโกโร่..เมื่อเห็นข้อความที่เด้งขึ้นมาก็รู้แล้วว่า ลูกพี่ของเขามีคำสั่ง...และต้องปฎิบัติตามโดยไม่ให้คุณไอโกะรู้นั่นแหละคำสั่งมีอยู่ว่า ให้ถ่วงเวลาหญิงสาวเอาไว้...ก็แค่นั้น...“ โกโร่ นายรู้จริง ๆ ใช่ไหมว่ามันจับตัวพ่อฉันไปไว้ที่ไหน ” ไอโกะเอ่ยถาม...เพราะรู้สึกคุ้นตากับบริเวณที่ผ่านมารอบ ๆ ตัวรถบอดี้การ์ดที่ขับตามมาทางด้านหลังนั่น ก็รู้สึกแปลกใจ ว่าทำไมคันหน้าของเจ้านาย ถึงได้ขับรถวนไปวนมาแบบนั้น ในเมื่อใกล้จะถึงที่หมายอยู่แล้วนั่นน่ะพวกเขาขับติดตามรถคันหน้าของเจ้านายไปสักพัก...จึงเข้าสู่เส้นทางหลักที่นายใหญ่ของพวกเขาถูกจับตัวไปจริง ๆ เสียทีก่อนถึงที่หมาย ยูตะได้ส่งข้อความไลน์บอกโกโร่ว่า..."อย่าเพิ่งบุกเข้าไปด้านหน้า เพราะเวลานี้พรรคพวกของฟุมิโอะ ได้เตรียมตั้งรับเอาไว้ด้วยเช่นกัน...พาเธอมาหาฉันที่จุดนัดพบตอนนี้เลย"เมื่อถึงจุดรวมพล...โกโร่มองเห็นรถตู้ที่จอดอยู่ในระยะไกลเป็นจำนวนมาก เขารู้ได้ทันทีว่านั่นคือล
ร่างสูงของยูตะลงมาจากเวทีแล้วเดินตรงปรี่เข้ามาหาฮิบาริที่รอเขาอยูด้านล่าง เพื่อรับฟังรายงานจากลูกน้องคนสนิท ขณะเดินตามกันออกมาจากงานพร้อมกับคนของเขาที่หญิงสาวทิ้งไว้ให้ครึ่งหนึ่ง“คนของเรามาถึงแล้วใช่ไหมฮิบาริ” เขาเสหน้าหันมาถาม ขณะรูดเน็คไทล์ลง เมื่อเดินมาถึงลานจอดรถแล้ว“ถึงแล้วครับ กำลังรอคำสั่งของลูกพี่”“ส่งโลเกชั่นให้แล้วบอกให้รีบตามมา...ได้เวลาตัดริบบิ้นเสียที” ชายหนุ่มเอ่ยกับลูกน้องเสียงขรึม “รู้ใช่ไหมว่าพวกที่โจมตีนายใหญ่ของเราคือใคร...” เขาถามต่อ“แก๊งของคุณฟุมิโอะครับ...” ฮิบาริหันมาตอบ...ต่อเมื่อเห็นชายหนุ่มเงียบเสียงของตัวเองลง เพื่อรอฟังรายงานของฮิบาริต่อจากนั้น“โกโร่โทรมาบอกว่า...เมื่อกี้คุณไอกับพวกของเราถูกคุณฮิโรชิเอาลูกน้องมาขวางไว้...ดันโผล่มาตอนที่เธอกำลังรีบ...เลยโมโหซัดมีดเข้าใส่จนตั้งรับไม่ทัน...ปักกลางตูดเข้าไปเต็มๆ”ยูตะหัวเราะพรืด...นึกภาพเวลาเธอโมโห หัวฟัดหัวเหวี่ยงแล้วต้องขำ..น่าฟัดจะตายเหอะ...ขัดขืนนิดๆ พอมีจริตจกร้านหน่อยๆ มันทำให้เขาคึกคักทุกทีด้วยสิ..ยิ่งนึกถึงเสียงครางเรียกชื่อเขาหวานๆนั่น มันทำให้รู้สึก...คึกขึ้นมาอีกแล้วเหอะ...เวลาหน้าสิ่วหน
“รอลูกพี่ก่อนดีกว่านะครับคุณไอ..”เหมือนเคย..โกโร่เอ่ยเตือนเจ้านาย...ขณะที่เขาเดินแกมวิ่งตามเธอออกมา...เมื่อเห็นว่าเธอใจร้อน....รีบออกมาจากงานเพื่อจะตามไปช่วยบิดาโดยไม่ยอมรอลูกพี่ของเขา...เพราะความห่วงใยผู้ให้กำเนิด“เรานำหน้าไปก่อน เดี๋ยวฮิบาริก็คงบอกเอง ลูกพี่นายคงตามเรามาทัน หรือว่า...” เธอหันมาเอ่ยกับโกโร่แล้วเว้นคำพูดไว้ในตอนท้าย ขณะเดินเร็ว ๆ แล้วเปลี่ยนป็นวิ่งเหยาะๆ แทน“ครับ ๆ..เรานำไปก่อนเดี๋ยวนี้เลยครับคุณไอ”โกโร่รีบทำตามคำสั่ง เพราะรู้ว่าประโยคสุดท้ายที่เธอจะเอ่ยตามมานั้น คือคำว่าอะไร...ถ้าไม่บอกว่า...นายจะรอลูกพี่นายอยู่ที่นี่ก็ได้....หรือไม่ก็....นายใช่คนของฉันหรือเปล่า...อย่างน้อยถ้าห้ามไม่ได้ ก็ต้องตามไปคุ้มกัน...หากหญิงสาวเป็นอะไรไปแม้เพียงปลายเล็บ เขาอาจมีรูระบายอากาศทั้งตัว...และผู้เป็นคนติดตั้งให้ ก็คงเป็นเจ้านายอีกคนที่ยังอยู่ในงานนั่นเหอะบอดี้การ์ดที่ตามมาทางด้านหลัง...พากันเร่งฝีเท้าและรอทำตามคำสั่งอย่างต่อเนื่อง...ทุกคนรู้หน้าที่โดยไม่ต้องให้หญิงสาวเอ่ยอะไรมากนักทันทีที่ไอโกะและบอดี้การ์ดส่วนหนึ่ง เดินมาถึงลานจอดรถ...ฮิโรชิและลูกน้องของเขา ก็ปรากฏตัวขึ้นมา ข
เมื่อใกล้ถึงเวลารับรางวัล แต่ฮินาตะยังมาไม่ถึง เขาโทรมาบอกกับลูกสาวว่า ให้เป็นตัวแทนของท่านขึ้นไปรับรางวัลได้เลย เพราะเครื่องบินที่นั่งมานั้นดีเลย์...เนื่องจากสภาพอากาศจึงเลื่อนเวลาลงจอดออกไปนิดหน่อย...“ไอ...”ยูตะเรียกให้ไอโกะหันมา...แล้วโน้มใบหน้าเข้ามากระซิบข้างกกหูของหญิงสาว เอ่ยย้ำกับเธออีกครั้ง ขณะที่ทั้งคู่นั่งรอรับรางวัลอยู่ด้านล่างของเวที รวมกับแขกวีไอพีคนอื่นๆ“เธอต้องขึ้นไปรับรางวัลก่อนฉัน...ระหว่างที่ฉันขึ้นไปรับรางวัล นั่งอยู่ตรงนี้รอฉันลงมา เธอห้ามไปไหนเด็ดขาดเลยนะ...สัญญามาก่อนสิ”ไอโกะได้แต่บึนปาก...เพราะถูกย้ำเป็นครั้งที่ร้อย...ตั้งแต่แต่งตัวให้เธอที่บ้าน จนถึงเวลานี้ก็พูดอยู่แค่สองสามประโยควนลูปอยู่นี่เหอะ...เธอรู้ว่าเขาเป็นห่วงแต่ก็อดเถียงเขากลับไปไม่ได้อีกนั่นแหละ“ฉันมีผัวแล้ว...ไม่ใช่เด็กแล้วนะคะ ดูแลตัวเองได้น่า...อย่าได้ห่วง..”เขายิ้มกว้างกับประโยคแรกที่เธอเอ่ยถึงสถานะของตัวเองออกมา อย่างเต็มปากเต็มคำเป็นครั้งแรก และเขาก็เพิ่งเคยได้ยินในวันนี้น่ารักชิบ!...จนอยากจะชวนออกไปหามุมมืด...ก็หื่นไม่รู้จักเวล่ำเวลาเลยนะมึงเนี่ย... “ผูกเอวฉันติดไว้กับตัวคุณเลยดีไห
เมื่อถึงวันงานสมาคมนักธุกิจภาคพื้นเอเชีย ไอโกะถึงได้รู้ว่าทำไมยูตะถึงต้องการให้เธอใส่ชุดแบบนี้มากระโปรงบานยาวย้วยที่หญิงสาวใส่ มันสามารถปิดบังด้านใน ที่เธอติดปืนพกเล็ก ๆ เอาไว้ได้นี่เอง...ชายหนุ่มกำลังขมักเขม่นกับการแต่งตัวให้หญิงสาว พร้อมกับติดอาวุธให้เธอด้วยตัวเองอย่างตั้งอกตั้งใจ และตั้งสติตัวเองไว้ไม่ให้เขวไปกับของของเธอที่อยู่...ใกล้ตา...ใกล้มือ...และใกล้ปากขนาดนี้..เพราะไม่อยากให้เสียงาน... “ฉันว่าเธออย่าใส่ส้นสูงเลยนะ ใส่ผ้าใบน่าจะดีกว่าคล่องตัวดี”เขาแหงนหน้าขึ้นบอกกับหญิงสาว ขณะกำลังนั่งยองขา ติดปืนบริเวณปลีน่องด้านข้างให้“ก็ได้ค่ะ เพราะถึงใส่รองเท้าสวยแค่ไหนก็ไม่มีใครเห็นอยู่ดี”หญิงสาวเห็นด้วยเพราะไม่ว่าจะทำอะไร ที่ไหน เธอก็ไม่ควรประมาทและไม่อยากให้ชายหนุ่มเป็นห่วงหรืองกังวลใจกับเธอมากนักเขาบอกให้เธอระวังตัว...ไว้ตลอดเวลา อย่างห่างจากเขาไปไหน แม้กระทั่งเวลาเข้าห้องน้ำก็ตามทีบริเวณงานมีทั้งตำรวจ และบอดี้การ์ดของบรรดานักธุรกิจ หรือยากูซ่าทั้งหลาย ที่ได้มาร่วมงานนี้มากมาย แทบไม่รู้ว่าใครเป็นใครแต่ที่เธอจำได้...ก็คือหล่อนคนนั้น อิจิโอะ เธอยืนอยู่ข้างกันกับฮิโรชิ หล่อนโปร