LOGINหลังจากแต่งงานกันในช่วงแรกลี่หลินมีความสุขมาก เธอกับพี่เฟยหรงนอนกอดกันอยู่บนเตียงในตอนเช้าหลังจากตื่นนอนมาพร้อม ๆ กัน และเวลาเข้านอนเธอก็ซุกตัวเข้าไปในอ้อมกอดที่แสนจะอบอุ่นของพี่เฟยหรงที่บัดนี้กลายมาเป็นสามีอย่างถูกต้องของเธอแล้ว
หลังพวกเขาแต่งงานได้ไม่กี่วัน ลุงเฉินก็เดินทางออกท่องเที่ยวไปตามที่ต่าง ๆ เพราะต้องการไปเยี่ยมญาติมิตรเก่า ๆ ที่อยู่ต่างเมือง เพราะตอนนี้เขาเกษียณจากงานแล้ว ยังเดินเหินได้คล่องแคล่วจึงได้อยากจะไปเยี่ยมญาติมิตรที่อยู่ตามเมืองต่าง ๆ ทั้งในเมืองจีนและที่เมืองไทยบ้าง พี่เฟยหรงก็ไม่ได้ว่าอะไร ดังนั้นลุงเฉินจึงได้ปิดบ้านของเขาทิ้งเอาไว้ และฝากให้คนข้างบ้านช่วยดูแลเพราะเขาจะเดินทางไปหลายแห่งยังไม่มีกำหนดว่าจะกลับเมื่อใด
พอลุงเฉินจากไปแล้ว เพียงไม่นานพี่เฟยหรงก็จากไปบ้าง เพราะเขาต้องออกเดินทางไปทำงานต่างเมืองตามสาขาของบริษัทรวมถึงต่างประเทศอีกด้วย ทำให้ติดต่อกันได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่เขาก็ส่งเงินมาให้ใช้ทุก ๆ เดือน
ลี่หลินเหงามากหลังจากทั้งสามีและพ่อสามีพากันออกเดินทางไปหมด เธออยู่เพียงลำพังอย่างเงียบเหงา จะมีออกไปนอกบ้านบ้างก็ไปซื้อหาข้าวของ และพูดคุยสนทนากับเพื่อนบ้านใกล้ ๆ บ้าง แต่ที่หมู่บ้านที่เธออยู่นี้เป็นหมู่บ้านเล็ก พวกหนุ่มสาวพากันจากไปทำงานที่ในเมืองกันหมดแล้ว
เหลือเพียงคนสูงอายุอยู่เฝ้าบ้านเพียงเท่านั้น ทำให้ลี่หลินเองไม่ได้สนิทสนมกับพวกเขานัก พูดคุยกันก็แค่เพียงสั้น ๆ ตามมารยาทเมื่อพบหน้ากันเท่านั้น ทำให้ลี่หลินนั้นต้องอยู่ตามลำพังอย่างเงียบเหงาภายในบ้านเป็นส่วนใหญ่
ส่วนสามีที่เพิ่งจะแต่งงานกันก็มีโทรศัทพ์มาบ้างเป็นบางครั้ง แต่ส่วนมากแล้วเขาก็ไม่ค่อยจะมีเวลา ลี่หลินนั้นเป็นเพียงสาวน้อยวัยสิบแปดย่อมรู้สึกหงอยเหงาและว้าเหว่เมื่อตอนนี้เหลืออยู่เพียงคนเดียว
ทุก ๆ วันเธอเฝ้าแต่รอคอยว่าเมื่อไหร่สามีจะกลับมา แต่เขาก็หายไปทีละหลายเดือน จึงจะกลับมาเยี่ยมเธอแล้วอยู่ค้างเพียงสองสามวัน แล้วก็รีบร้อนไปอีก เหมือนกับงานของเขานั้นยุ่งมาก แรกลี่หลินก็อดทน
ต่อมาหลัง ๆ เธอเริ่มรู้สึกว่าตนเองชักจะทนไม่ไหว อยู่ ๆ เขาหายขาดไปเลยไม่แม้แต่จะโทรมา แม้เงินทองเขาจะยังส่งมาบ้าง แต่แค่เงินมันก็ไม่เพียงพอ เพราะเธอต้องการเขา ต้องการความอบอุ่นและความใส่ใจของเขาเพราะมันทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นใจและไม่รู้สึกว่าโดดเดี่ยวจนเกินไปนัก
และฟางเส้นสุดท้ายของลี่หลิน เริ่มต้นจากที่เธอเดินไปที่ร้านขายของชำประจำหมู่บ้าน และก็พบเข้ากับร่างสูงสมาร์ทของสามีที่เธอจำได้ดี เขายืนหันหลังและกำลังพูดคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งด้วยท่าทีสนิทสนมและผู้หญิงคนนี้ใคร ๆ ก็รู้ว่าหล่อนนั้นเป็นผู้หญิงประเภทจับผู้ชายที่หล่อนพอใจเป็นว่าเล่น
และหล่อนชอบคนที่หน้าตาดีมีฐานะ หล่อนเป็นแม่หม้ายไม่มีสามีเป็นตัวตน และชอบหว่านเสน่ห์ผู้ชายอย่างหน้าไม่อายโดยไม่สนใจว่าผู้ชายคนนั้นจะแต่งงานแล้วหรือไม่ จนชาวบ้านนินทากันไปทั่ว แต่หล่อนก็ไม่ได้สนใจ
เมื่อเดินไปพบสามียืนคุยกับแม่หม้ายชื่อเสียงฉาวโฉ่คนนั้นอย่างสนิทสนม แถมยังยืนเสียใกล้กันจนน่าเกลียดและผู้หญิงคนนั้นยังยกมือลูบแก้มเขาอีกด้วย แค่เพียงเท่านี้ลี่หลินก็รู้สึกว่ามันเจ็บจนพูดอะไรไม่ออก เธอหันหลังกลับทันที แล้วเดินดุ่มกลับบ้านโดยที่ไม่คิดจะซื้ออะไรที่ร้านของชำอีกแล้ว
ผ่านไปเกือบชั่วโมง สามีของลี่หลินก็กลับเข้าบ้านมา ลี่หลินนั่งจ้องมองเขาอยู่ที่โซฟาในห้องรับแขกด้านหน้าบ้าน “ ลี่เอ๋อ เป็นอะไรไป แล้วจ้องหน้าพี่ทำไม ไม่ดีใจหรือที่สามีของเธอกลับมาแล้ว ”
เขาเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าลี่หลินเอาแต่จับจ้องมองหน้าเขาแต่ไม่ได้พูดอะไรสักคำ
“ มีความสุขมากไหมคะ อิ่มหนำดีแล้ว ถึงได้กลับมาบ้าน ทำไมไม่หายหัวไปทั้งคืนเลยล่ะค่ะ รีบกลับมาทำไมกัน ”
ลี่หลินเปิดฉากทันที เพราะภาพบาดตาที่เธอเห็นเมื่อครู่ ทำให้เธอนั้นไม่มั่นใจในตัวเขาว่าลับหลังเธอ เขาจะมีผู้หญิงคนอื่นอีกสักกี่คน
ลี่หลินผิดหวังมาก เธอชักจะไม่แน่ใจว่าสามีนั้นเมื่อยามอยู่ห่างกันเขาจะมีผู้หญิงคนอื่นลับหลังเธอหรือไม่ แต่งงานกับเธอแล้วทิ้งเธอให้แห้งเหี่ยวหัวโตอยู่ที่บ้านนอก นาน ๆ ครั้งจะกลับมาให้เห็นหน้า แทบจะไม่ค่อยโทรหา อ้างว่าติดงาน ติดงานหรือติดผู้หญิงอื่นกันแน่
“ ลี่เอ๋อพูดอะไรกัน พี่เพิ่งจะกลับมาเหนื่อย ๆ เธอก็พูดจาหาเรื่องอย่างนี้ เป็นผู้ใหญ่บ้างสิ เธอแต่งงานแล้วนะ มีผัวแล้วก็เลิกทำตัวงอแงเป็นเด็ก ๆ ได้แล้ว ”
เขาตอบโต้เธอด้วยอารมณ์ที่เริ่มจะหงุดหงิด กลับเข้าบ้านมาแทนที่ภรรยาจะเอาอกเอาใจสอบถามความเหน็ดเหนื่อยของเขาบ้าง เพราะเขาเดินทางมาไกลกว่าจะถึงหมู่บ้านนี้ แต่หล่อนกลับชวนหาเรื่องทะเลาะกันตั้งแต่พบหน้า งี่เง่าสิ้นดี
“ ก็แม่หม้ายคนสวยไงคะ กินกันอิ่มหนำแล้ว ถึงได้ยอมกลับเข้าบ้านล่ะสิ มาถึงบ้านแล้ว แต่ไม่ยอมกลับเข้าบ้าน เร่ไปหาผู้หญิง นอนกันไปถึงไหนแล้วคะ หากว่าไม่อยากจะอยู่กับฉันเราก็หย่าขาดกันเถอะ ฉันเองก็ทนคุณไม่ไหวแล้วเหมือนกัน
คุณทำเหมือนฉันเป็นตุ๊กตา แต่งงานด้วยแล้วก็วางทิ้งเอาไว้ที่นี่เพียงคนเดียว แล้วก็หายหัวไป นาน ๆ จะโผล่หน้ามาเสียทีี แถมยังแวะไปหาเศษหาเลยกับผู้หญิงอื่นก่อนจะเข้าบ้านอีก ที่ผ่านมาเวลาคุณไปอยู่ที่อื่นคุณยังกินไม่อิ่มหรือคะ ถึงได้กล้ากลับมาหาเศษหาเลยกับผู้หญิงใกล้บ้านอย่างนี้ "
เฟยหรงตะลึงงัน ลี่หลินบ้าไปแล้วหรือยังไงกัน หาว่าเขามีผู้หญิงอื่น และมีอะไรกับแม่หม้ายที่เข้ามาทักทายเขาเพราะเขาแวะซื้อของนิดหน่อยที่ร้านของชำ
หล่อนเพียงเข้ามาทักทายธรรมดาเท่านั้นไม่ได้สนิทสนมอะไรกัน เพียงแค่เคยรู้จักกันเพราะเคยเป็นคนหมู่บ้านเดียวกันเท่านั้น แล้วนี่ลี่หลินคิดไปถึงไหน ๆ แล้วมาหาเรื่องทะเลาะกับเขาอย่างไม่มีเหตุผลเลยสักนิด ไม่น่าหาเรื่องแต่งงานกับเด็กเลย เด็กยังไม่โตก็อย่างนี้ เอาแต่ใจ ไม่มีเหตุผลเลยสัักนิด เฟยหรงครุ่นคิดด้วยความหงุดหงิด
เขาทั้งเหนื่อยทั้งเพลียเพราะเดินทางหลายทอดมากเพราะเพิ่งจะกลับจากต่างประเทศและตรงดิ่งมาที่นี่เลย เดินทางหลายต่อมาก แต่เมื่อมาถึงบ้านก็พบกับนางยักษ์ตัวเล็ก ๆ ที่มาถึงก็หาเรื่องชวนทะเลาะ
“ อยากจะหย่าหรือก็ได้ ตอนนี้เธอเอาแต่อารมณ์เป็นใหญ่ ไว้ให้เป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้ค่อยมาพูดกัน วันนี้พี่ไม่มีอารมณ์จะพักที่นี่แล้ว เธอมีเบอร์โทรพี่แล้วนี่ รอให้อารมณ์เย็น ๆ กว่านี้ เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นกว่านี้ก็โทรหาพี่ก็แล้วกัน แล้วเราค่อยมาคุยกันด้วยเหตุผลอีกที ”
เฟยหรงหันมาบอกกับลี่หลินที่ตอนนี้หันหน้าไปทางอื่นไม่ยอมมองหน้าเขาเลย
แล้วเขาก็สะพายกระเป๋าเป้ใบใหญ่ขึ้นบ่าตามเดิน แล้วก็เดินดุ่มออกจากบ้านไป ไม่เหลียวกลับมามองลี่หลินที่ตอนนี้ร้องไห้น้ำตาเต็มใบหน้างาม เธอแน่ใจว่าเขาได้ยินเสียงเธอร้องไห้ แต่เขาก็ไม่หวนกลับมา เธอได้ยินเสียงรถสตาร์ทที่หน้าบ้านและก็แล่นจากไปทันที
จากเย็นวันนั้นจนถึงยามค่ำคืน ลี่หลินร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือดร้องไห้จนน้ำตาไม่มีจะไหล ในอกนั้นรวดร้าวไปหมด เธอจำแผ่นหลังแข็งๆ นั่นได้ดี เขาเดินดุ่ม ๆ มุ่งหน้าออกไม่ ไม่แม้แต่จะหันกลับมามองเธอสักนิด
หลังจากวันนั้นลี่หลินเอาแต่นั่งเงียบเหงาซึมเซา แต่น้ำตานั้นไม่มีจะไหลออกมาอีกแล้ว ส่วนเสียงโทรศัพท์ไม่เคยดังขึ้นมาอีกเลย และเมื่อได้อยู่กับตัวเองไปหลายวันผ่านไปจนเวลาผ่านไปเดือนกว่าๆ เธอก็เริ่มคิดตก และตัดสินใจที่จะหย่าขาดกับสามีที่ไม่ได้สนใจใยดีเธอเลยอย่างเขา มีเขาก็เหมือนไม่มี สู้เธอเรียนรู้ที่จะยืนด้วยลำแข้งของตัวเองอย่างที่ผ่านมา และเธอแน่ใจว่าเธอจะต้องทำได้
หลังจากวันนั้นสองเดือนต่อมาเธอก็ขนข้าวของย้ายมาอยู่ที่มาเก๊า หลังจากที่เธอขายบ้านหลังนั้นได้ บ้านที่เคยเป็นของพ่อและแม่ของเธอ แต่ด้วยเหตุที่ว่าเธอไม่มีเงินมากพอที่จะไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่อื่น เธอไม่ต้องการจมอยู่กับอดีตและไม่อยากจะหวนคิดถึงอดีตทั้งพ่อและแม่ รวมถึงคนๆ นั้นที่จากไปแล้ว และไม่อาจจะหวนคืนกลับมาได้อีก
หลังจากนั้นชีวิตของลี่หลินอดีตสาวเสิร์ฟในชุดบันนี่สาวแสนสวยก็กลายเป็นเพียงอดีต เพราะสามีที่เป็นเจ้าของโรงแรมและคาสิโนแห่งนี้ไม่อนุญาตให้หล่อนสวมชุดบันนี่สาวเดินถือถาดร่อนไปมาอวดรูปร่างแบบนั้นอีกแล้ว ที่แล้วมาเขาถือว่าแล้วไป แต่หล่อนจะไม่มีโอกาสได้ทำอย่างนั้นอีกแล้ว เพราะเขากำลังจะหางานให้หล่อนทำ นั่นก็คือเป็นแม่ของลูกเขาหล่อนจะได้วุ่นจนไม่มีเวลามาอ้อนวอนของงานเขาทำอีก ขนาดเขาให้เครดิตการ์ดหล่อนไปรูดเพื่อจะช็อปปิ้งอะไรก็ได้ที่หล่อนอยากได้ เขาให้หล่อนไปเลือกมา หากไม่มีให้สั่งที่ช็อปด้านล่างให้พวกเขาจัดการให้ แล้วเมื่อได้แล้วก็ให้นำมาส่งให้ถึงบนห้อง ร้านสปาในโรงแรมนี้ก็มี เขาให้หล่อนไปใช้เวลาที่นั่นได้ตามใจหล่อน เพราะที่โรงแรมมีสปาเป็นของตัวเอง แต่อันที่จริงก็มีทุก ๆ อย่าง พร้อมสรรพในโรงแรมแห่งนี้ที่แทบจะกลายเป็นศูนย์การค้าขนาดย่อม ไม่ว่าเมียของเขาต้องการสิ่งใด เขาพร้อมจะนำมาประเคนให้กับหล่อนทั้งนั้น หล่อนก็ยังมีเวลาว่างคิดจะหางานทำเพิ่มอีก จนเขาอยากจะตีก้นงอน ๆ ของคนดื้อนั่นสักหลาย ๆ ทีดังนั้นระหว่างรอลูกมาเกิด ลี่หลินจึงได้ลงเรียนคอร์สทำอาหารและขนมต่าง ที่สามีให้เชฟในโรงแรมผลัดกันมา
“ลี่เอ๋อรักพี่เฟยหรงค่ะ ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย” ใบหน้าหล่อคมเชยคางมนของลี่หลินให้สบตากัน “พี่ก็รักเธอ ที่รัก ต่อไปเราจะใช้ชีวิตด้วยกันเหมือนผัวเมียอย่างเมื่อก่อน ไม่ต้องสนใจใคร เธอเป็นเมียพี่ เมียเพียงคนเดียวเท่านั้น อย่าไปฟังใคร นอกจากพี่ที่เป็นสามีของเธอเท่านั้น จำเอาไว้ และครั้งนี้เราจะไม่แยกจากกันอีก”ลี่หลินเงยหน้ามองใบหน้าหล่อของสามีหนุ่ม “ที่รักคะ แล้วเรื่องที่จะหมั้นกับคุณลินดาคนนั้นล่ะ ที่รักจะทำยังไงต่อไปคะ” ใบหน้าหล่อเหลานั้นยังไม่ตอบคำถามใด ๆ แต่กลับจูบแก้มนวลฟอดใหญ่“ที่รัก เราเป็นผัวเมียกันแล้ว พี่จะดูแลเธออย่างดี ส่วนเรื่องของลินดาพี่จะจัดการเอง พี่ไม่ได้รักลินดา เพียงแต่เอ็นดูเห็นหล่อนเป็นเพียงน้องสาว เรารู้จักกันมาหลายปีแล้ว หากพี่รักลินดาพี่ก็คงจะแต่งงานกับเธอไปแล้ว ไม่ปล่อยให้เวลาผ่านมานานถึงขนาดนี้หรอก รู้ไหม……ตั้งแต่เราแยกกันพี่นอนไม่ค่อยหลับเลย ลี่เอ๋อ ต่อไปต้องอยู่กับพี่นะ เราจะเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่ของเราอีกครั้ง ไม่ต้องห่วงเรื่องคุณหยางหรือเรื่องของลินดาทั้งนั้น พี่จะบอกพวกเขาเองว่าพี่มีเมียแล้ว ยังไม่ได้หย่าขาดกัน ตอนนี้กลับมาอยู่ด้วยกันแล้ว และเมียพี่กำลังท้
เมื่อจูบใบหน้าหวานของลี่หลินจนพอใจแล้ว จึงซุกไซร้ซอกคอขาวผ่องอย่างเมามัน ขบเม้มทำรอยเอาไว้เหนือคอเสื้อที่เห็นได้ชัดเจน แล้วไล้เลียร่องอกอวบของหล่อนที่มันมองเห็นรำไร“ลี่เอ๋อ ชุดนี้คอเสื้อมันกว้างไปนะ โชว์ร่องอกทำไม ผัวหวง วันหลังอย่าใส่ชุดนี้อีก นมแทบจะปลิ้นออกมาทั้งเต้าแล้วรู้ไหม "เขาเงยหน้าจ้องมองใบหน้าหวานที่ปรือตาหรี่ลงเพราะถูกเขาจู่โจมจนเคลิบเคลิ้มไปหมด ผู้บริหารหนุ่มก้มลงช้อนร่างอ่อนระทวยของเมียรัก เดินดุ่มเข้าไปในห้องนอนเล็กของหล่อน แล้ววางร่างอวบลงนอนราบบนฟูกนุ่มด้านหลังของทั้งสอง แล้วถอดเสื้อผ้าของตนเองออกจนร่างล่ำสันเปลือยเปล่า แล้วก้าวขึ้นไปบนเตียงหนาแล้วก็ลงมือถอดเสื้อผ้าของลี่หลินออกจนหมดอย่างช่ำชอง ชุดลำลองสีครีมของหล่อนเป็นผ้ายืดเนื้อนุ่มผ้าบางเบาจึงถอดออกได้อย่างง่ายดายนัก เหลือเพียงบราเซียเกาะอกและชั้นในตัวเล็กจิ๋วที่ดูเซ็กซี่เหลือเกิน มันโปร่งบางจนเห็นเนินอวบและแถมยังเป็นจีสตริงอีกด้วย ชุดชั้นในใหม่เซ็กซี่อย่างนี้เลยหรือคงจะเป็นชุดที่เขาสั่งให้มาส่งให้หล่อนบนห้องเมื่อวันก่อน แต่เสียใจ ชุดเซ็กซี่แค่ไหนก็มีแค่ผัวเก่าคนนี้ที่จะได้เห็น ไม่มีทางได้ใส่ไปโชว์ให้ใครเห็นได
" ใครบอกคุณว่าผมจะแต่งงานกับลินดา จริงอยู่ คุณหยางเขาต้องการอย่างนั้น แต่ผมไม่ได้ต้องการด้วย ผมเอ็นดูลินดาเหมือนน้องสาว แต่ไม่ใช่แบบคนรัก แล้วจะแต่งงานกับเขาได้อย่างไร ใครบอกคุณว่าผมจะแต่งงานกับเขา ผมยังไม่ได้หย่าเมีย แล้วจะแต่งงานซ้อนได้อย่างไร”เขาบอกกับลี่หลินอย่างหน้าตายแต่เธอไม่อยากจะเชื่อเขาหรอก เดินควงแขนกันร่อนไปมา ทำท่าเหมือนคู่รักที่สวีทหวานกันขนาดนั้น แล้วจะบอกว่ารักเหมือนน้องสาว ใครเชื่อก็โง่แล้ว“นั่นเป็นเรื่องของคุณ ฉันไม่อยากจะรับรู้ ฉันรู้แค่ว่าฉันกับคุณหย่าขาดกันมาห้าปีแล้ว ตอนนี้ไม่ได้เป็นอะไรกัน และตอนนี้ฉันเป็นโสด ไม่มีสามี เอาละ คุณออกไปจากห้องของฉันได้แล้ว ฉันลาออกจากงานที่โรงแรมของคุณแล้ว ไม่ได้เป็นพนักงานที่นั่นอีก เพราะฉะนั้นอย่ามาออกคำสั่งอะไรกับฉันและก็ออกไปจากห้องของฉันได้แล้ว แต่ฉันไม่ได้เกลียดคุณนะคะ ยังเคารพคุณเหมือนพี่ชายคนหนึ่งเพราะคุณก็เคยดีกับฉัน ฉันขอเพียงให้เราจากกันด้วยดี หากมีโอกาสพบกันวันหน้าเราก็ยังเป็นพี่เป็นน้องกันได้อีก”ลี่หลินบอกกับเขาแล้วก็พยายามแกะมือหนาของเขาออกไปจากเอวของหล่อนเฟยหรงชักจะโมโหขึ้นมาอีกแล้ว เพราะเมียที่ง้ออยากง้อเย็น แถม
เมื่อเดินมาถึงรถของเธอ ก็นำถุงทั้งหมดนั้นเก็บเอาไว้ที่ท้ายรถ และก็ก้าวขึ้นรถแล้วก็ขับออกไปจากลานจอดรถของพนักงานในทันที แม้จะใจหายอยู่บ้างที่ต่อไปนี้คงจะไม่ได้กลับมาทำงานที่นี่อีกแล้ว งานที่เธอทำมาถึงห้าปี แม้จะไม่ใช่งานที่ดีนัก แต่มันก็สร้างรายได้ให้กับเธอเป็นกอบเป็นกำ เพราะแขกที่นี่ส่วนมากกระเป๋าหนักให้ทิปเธออย่างงาม ทำให้เธอมีเงินเก็บออมและมีความหวังถึงอนาคตที่ดีกว่านี้แต่ตอนนี้มันเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว คงจะต้องไปสมัครงานที่คาสิโนอื่นดู ที่เมืองนี้มีคาสิโนหลายแห่งด้วยกัน เธอแน่ใจว่าคงจะต้องมีสักที่รับเธอเข้าทำงาน ลองดูสักตั้ง ลี่หลินพยายามคิดให้กำลังใจตัวเอง ขณะที่ขับรถมุ่งหน้ากลับอพาร์ทเม้นท์ที่เธอไม่ได้กลับไปหลายวันแล้ว เพราะมัวแต่หลงเพ้อฝันไปว่าตัวเองจะได้คืนดีกับอดีตสามีที่บัดนี้กลายเป็นนายใหญ่ของคาสิโนที่เธอทำงานอยู่ แต่แล้วมันก็เป็นเพียงความเพ้อฝันลมๆ แล้งๆ เท่านั้นเมื่อลี่หลินกลับถึงอพาร์ทเม้นท์แล้ว เธอก็ตัดสินใจไปบอกคนดูแลว่าเธอจะคืนห้อง เพราะว่าที่อยู่ของอพาร์ทเม้นท์นี้เป็นที่อยู่เดียวกับที่เธอกรอกไว้ในข้อมูลของพนักงานที่คาสิโน เธอไม่ต้องการให้มีคนค้นหาเธอพบได้ง่าย ๆ ทั้ง ๆ
ขณะที่ลี่หลินตัดสินใจที่จะหมุนตัวเดินออกมาจากหน้าร้านนั้น ก็มีเสียงร้องเรียกเธอดังขึ้น “คุณลี่หลินใช่ไหมคะ ฉันชื่อซูอี้ เป็นเลขาของคุณลินดา ผู้หญิงที่คุณเห็นเดินควงกับคุณเฉินนั่นแหละค่ะ พอมีเวลาสักหน่อยไหมคะ ฉันมีเรื่องที่ต้องบอกกับคุณ” ลี่หลินตัดสินใจพยักหน้ารับแล้วซูอี้ก็เดินนำหน้าลี่หลิน พามุ่งไปที่สวนด้านนอกโรงแรมที่มีเก้าอี้สำหรับให้แขกได้นั่งเล่นภายในสวน ที่ตอนนี้เป็นเวลาเย็นจนเกือบจะค่ำแล้ว ทำให้อากาศด้านนอกนี้เย็นสบาย ซูอี้ทรุดนั่งลงที่เก้าอี้สนามตรงหน้าลี่หลิน ที่ก็ทรุดนั่งลงเช่นเดียวกัน" คุณลินดาเป็นเจ้านายของฉันค่ะ เธอเป็นลูกสาวของคุณหยาง ที่เป็นเจ้าของธุรกิจคาสิโนและโรงแรมหลายแห่ง รวมถึงในเมืองนี้ก็มีด้วยค่ะ คุณเฉินเฟยหรงรู้จักกับคุณหยางเจ้านายใหญ่ของดิฉันเมื่อหลายปีก่อน และคุณเฟยหรงเคยช่วยเจ้านายใหญ่ของดิฉันไว้จากการถูกลอบยิง และตั้งแต่นั้นเขาก็เข้ามาช่วยงานของเจ้านายใหญ่ และทำผลงานได้ดีมาตลอดเป็นที่ไว้วางใจของคุณหยางมาก จึงได้ยกกิจการคาสิโนแห่งหนึ่งที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่เท่านี้นะคะ เจ้าของเดิมนั้นทำไว้เกือบจะขาดทุนทำให้ต้องขายกิจการต่อให้กับคุณหยาง ที่ยกต่อให้กับคุณเฉินบ







